Origin Property เดินหน้าร่วมทุนอสังหาฯ ชั้นนำของญี่ปุ่น “โนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์” โดยขายหุ้น 4 บริษัทย่อยให้โนมูระ บริษัทละ 49% เพื่อพัฒนาโครงการคอนโดร่วมกันในหลายทำเล หวังแลกเปลี่ยน Know-How หนุนความแข็งแกร่ง และประกาศปรับแผนและเป้าปี 60 จากเดิมเปิดโครงการใหม่ 9 เป็น 12 โครงการ มูลค่า 1.805 หมื่นล้านบาท เพิ่มเป้ารายได้เป็น 9,000 ล้านบาท
จับมือกับอสังหาฯ ญี่ปุ่น
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI กล่าวว่า บริษัทกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการเดินหน้าร่วมทุนกับบริษัท โนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด บริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของญี่ปุ่น เพื่อร่วมกันพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 29 ก.ค.2560 มีมติอนุมัติให้บริษัทจำหน่ายหุ้นสามัญของบริษัทย่อยในเครือจำนวน 4 บริษัท บริษัทละประมาณ 49% ให้แก่บริษัท โนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด ได้แก่
- บริษัท ออริจิ้น สเฟียร์ จำกัด ให้จำหน่ายหุ้นสามัญจำนวน 49,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 10 บาท ซึ่งเป็นอัตรา 49% ของจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมด หรือคิดเป็นทุนจดทะเบียนจำนวน 0.49 ล้านบาท มีราคาจำหน่ายหุ้นทั้งหมด 32.81 ล้านบาท
- บริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิ้ล จำกัด ให้จำหน่ายหุ้นสามัญจำนวน 49,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 10 บาท ซึ่งเป็นอัตรา 49% ของจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมด หรือคิดเป็นทุนจดทะเบียนจำนวน 0.49 ล้านบาท มีราคาจำหน่ายหุ้นทั้งหมด 44.22 ล้านบาท
- บริษัท ออริจิ้น รามคำแหง จำกัด ให้จำหน่ายหุ้นสามัญหลังเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 476.53 ล้านบาท จำนวน 23.34997 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 10 บาท ซึ่งเป็นอัตรา 49% ของจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมด หรือคิดเป็นทุนจดทะเบียน 233.4997 ล้านบาท มีราคาจำหน่ายหุ้นทั้งหมด 311.39 ล้านบาท และ
- บริษัท ออริจิ้น ไพร์ม 2 จำกัด ให้จำหน่ายหุ้นสามัญหลังเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 589.7 ล้านบาท จำนวน 28.8953 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 10 บาท ซึ่งเป็นอัตรา 49% ของจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมด หรือคิดเป็นทุนจดทะเบียนจำนวน 288.953 ล้านบาท มีราคาจำหน่ายหุ้นทั้งหมด 400.54 ล้านบาท
.
ทั้งนี้ บริษัทเป็นผู้ถือหุ้นเดิมทั้ง 4 บริษัทในสัดส่วน 100% หลังดำเนินการเสร็จสิ้นจะทำให้บริษัทเป็นผู้ถือหุ้นบริษัทละประมาณ 51% และบริษัท โนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด เป็นผู้ถือหุ้นบริษัทละประมาณ 49%
ข้อดีของการร่วมทุนผ่านบริษัทย่อยในเครือจะทำให้ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ และโนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ สามารถร่วมมือกันพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ๆ ได้ในหลากทำเลที่ออริจิ้นมีที่ดินพร้อมพัฒนาอยู่แล้ว ประเดิมด้วย 3 โครงการใหม่ที่จะเปิดในปลายปีนี้ ได้แก่
- KnightsBridge Prime Onnut (ไนท์บริดจ์ ไพร์ม อ่อนนุช)
- KnightsBridge Prime Ratchayothin (ไนท์บริดจ์ ไพร์ม รัชโยธิน)
- KnightsBridge Ramkhamhaeng (ไนท์บริดจ์ รามคำแหง)
โดยการร่วมทุนกันในครั้งนี้ จะช่วยให้ออริจิ้นได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้าน Know-How นวัตกรรม และดีไซน์ในการพัฒนาคอนโดมิเนียมแบบญี่ปุ่น ซึ่งจะแถลงข่าวพร้อมกันอีกทีในภายหลัง
โนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์
สำหรับบริษัท โนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของญี่ปุ่น ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2500 ปัจจุบันมีโครงสร้างธุรกิจหลากหลายคล้ายกับ Origin ได้แก่
- ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย ทั้งคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว เช่น แบรนด์ Proud , แบรนด์ OHANA ซึ่งได้รับความนิยมมากในญี่ปุ่น
.
. - ธุรกิจจัดหาสำนักงานให้เช่า เช่น Nihobashi Muromachi Nomura Building, Shinjuku Nomura Building, Lazona Kawasaki Toshiba Building
.
.
.
- ธุรกิจค้าปลีก เช่น GEMS Ichigaya
..
. - ธุรกิจโลจิสติกส์ ซึ่งทาง Origin ก็ให้ความสนใจอยากทำธุรกิจด้าน Logistic เช่นกัน
.
. - ธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ เช่น การขาย การซื้อ การเช่าอสังหาริมทรัพย์
ปรับแผนครึ่งปีหลังและเป้าหมายปี 2560
เนื่องจาก Origin เพิ่งผนึกกำลังกับบริษัท พราวด์ เรสซิเดนซ์ จำกัด และการร่วมทุนกับบริษัท โนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด และสภาพตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลังมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น ทำให้มั่นใจในโอกาสการเติบโต จึงตัดสินใจปรับแผนเปิดตัวโครงการใหม่และเป้าผลประกอบการของปีนี้ โดยปรับแผนเป็น
- เปิดตัวโครงการใหม่จากเดิม 9 โครงการ มูลค่า 1.5 หมื่นล้านบาท –> เพิ่มเป็น 12 โครงการ มูลค่า 1.805 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 11 โครงการ และโครงการบ้านแนวราบโครงการแรกของออริจิ้นอีก 1 โครงการ โดยจะมีการเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังรวม 8 โครงการ
- ปรับเพิ่มเป้ายอดขาย (Presale Target) ขึ้นจากเดิม 1.3 หมื่นล้านบาท –> เพิ่มเป็น 1.4 หมื่นล้านบาท
- เป้ารายได้จากเดิม 6,000 ล้านบาท (Revenue Target) –> เพิ่มเป็น 9,000 ล้านบาท
- ส่วนสถานะแบ็กล็อก ณ ปิดครึ่งปีแรกอยู่ที่ 25,285 ล้านบาท
.
และอัพเดตสถานะโครงการต่างๆ ที่สร้างเสร็จไปแล้ว 21 โครงการ , ก่อสร้างอีก 9 โครงการ และเปิด pre-sale อีก 4 โครงการ รวมมูลค่าของครึ่งปีแรก 9,450 ล้านบาท ถ้ารวมของ Q3 และ 4 จะอยู่ที่ประมาณ 44,708 ล้านบาท
โครงการเปิดใหม่ครี่งปี 2560
โครงการใหม่ของ Origin ในช่วงครึ่งปีหลัง จะลงทุนไปที่คอนโดแบรนด์ Knightsbridge มีมูลค่ามากสุด รองลงมาคือคอนโด Notting Hill, คอนโด Kensington, โครงการบ้านแบรนด์น้องใหม่ Britania Housing และคอนโดราคาประหยัด B-Loft
โครงการเปิดตัวใหม่ใน Q3 และ Q4 รวม 8 โครงการ ทั้งคอนโดและบ้าน โดย Q3 จะเน้นที่โครงการคอนโด KnightsBridge ที่มากับคอนเซ็ปต์ใหม่ “Another Home” ทั้งได้ฝ้าสูง 3 เมตร และเน้นพื้นทีส่วนกลางใหญ่เว่อร์ๆ
- KnightsBridge Prime Onnut (ไนท์บริดจ์ ไพร์ม อ่อนนุช)
.
. - KnightsBridge Prime Ratchayothin (ไนท์บริดจ์ ไพร์ม รัชโยธิน)
.
.
. - KnightsBridge Ramkhamhaeng (ไนท์บริดจ์ รามคำแหง)
.
.
. - KnightsBridge Kaset Society
.
5. Britania Srinakarin เป็นบ้าน Smart Home ที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่ มีงานออกแบบในบ้านที่น่าสนใจไม่น้อย ทั้งมี USB Port มากขึ้น ตอบสนอง Life style ของคนในยุคปัจจุบัน
6. คอนโดแบรนด์ B-Loft อีก 3 โครงการ ยังไม่ได้บอกชื่อโครงการ แต่ตำแหน่งจะอยู่ในแนวรถไฟฟ้า BTS ส่วนต่อขยายไปสมุทรปราการค่ะ