“แสนสิริ”จับมือญี่ปุ่น“โตคิว กรุ๊ป”รุกอสังหาฯ ไทย เตรียมเปิดโครงการแรก “taka HAUS” ก.ย. นี้ พร้อมแผนระยะยาวปั้นเมือง พัฒนา Community ร่วมกัน

· ~ 1 min read

แสนสิริ จับมือ บริษัท โตคิว คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาและให้บริการระบบรถไฟในโตเกียว การพัฒนาเมืองและอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงกิจการโรงแรม รีสอร์ท และธุรกิจอื่นๆ ผนึกความร่วมมือพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้บริษัทร่วมทุน สิริ ทีเค วัน (Siri TK One Company Limited) พลิกโฉมพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยรับความต้องการกลุ่มลูกค้าไทย – ต่างชาติ เตรียมเปิดตัวโครงการแรก “taka HAUS” (ทากะ เฮาส์) ทำเลสุขุมวิท – เอกมัย มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท ตอบรับไลฟ์สไตล์ที่อยู่อาศัยของทั้งคนไทยและญี่ปุ่นกันยายนนี้ เผยแผนระยะยาว ศึกษาความเป็นไปได้จากความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาทาวน์ในญี่ปุ่นของโตคิวที่สอดคล้องกับโมเดลความสำเร็จของ T77 ของแสนสิริ เล็งปั้นเมือง พัฒนา Community ร่วมกันในอนาคต

“taka HAUS” (ทากะ เฮาส์) แสนสิริ บริษัท โตคิว คอร์ปอเรชั่น จำกัด

นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ (Chief Operating Officer) บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมมือกับ บริษัท โตคิว คอร์ปอเรชั่น จำกัด ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งนับเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาและให้บริการระบบรถไฟในเขตชานเมืองโตเกียว การพัฒนาเมืองและอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงกิจการโรงแรม รีสอร์ท และธุรกิจอื่นๆ และบริษัท สหโตคิว คอร์ปอเรชัน จำกัด ร่วมกันก่อตั้งบริษัท สิริ ทีเค วัน (Siri TK One Company Limited) ในสัดส่วน กลุ่มแสนสิริถือหุ้น 70% กลุ่มโตคิวฯ ถือหุ้นสัดส่วน 29% และบริษัท สหโตคิวฯ ถือหุ้นสัดส่วน 1% เพื่อร่วมกันพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียม

“การเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ ระหว่างแสนสิริ และ โตคิว กรุ๊ป เริ่มต้นจากการที่สองบริษัทมีการดำเนินธุรกิจภายใต้ปรัชญาที่ตรงกัน  คือการนำเสนอผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า ด้วยจุดแข็งในการดำเนินธุรกิจของ แสนสิริ ภายใต้กลยุทธ์Complete Your Living Experience” และโตคิว กรุ๊ป สโลแกน  “Toward a Beautiful Age” ที่ไม่เพียงพัฒนาแค่ที่อยู่อาศัย แต่มุ่งมั่นสร้างไลฟ์สไตล์ที่ดีให้กับลูกค้าควบคู่กัน โดยการศึกษาพฤติกรรมลูกค้าอย่างละเอียดในทุกๆ ด้าน (Customer Insight) ตั้งแต่การคิดผ่านมุมมองของลูกค้า ศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคที่หลากหลายและรวบรวมข้อมูล ว่าลูกค้าแต่ละกลุ่มมีความต้องการในการอยู่อาศัยอย่างไร ทำให้เรามั่นใจว่า ความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นการมอบรูปแบบการใช้ชีวิตเมืองที่เป็นไปได้อย่างไม่สิ้นสุด นับเป็นการสร้างความแปลกใหม่ให้กับวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยบนมาตรฐานที่เหนือระดับ และพลิกโฉมการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในระดับสากล ที่จะตอบรับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยทั้งกลุ่มลูกค้าคนไทยและต่างชาติ โดยโครงการภายใต้การร่วมทุน บริษัทจะพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในชื่อ“taka HAUS” (ทากะ เฮาส์) ในทำเลเอกมัย 12 มูลค่าโครงการประมาณ 2,000 ล้านบาท โดยจะเปิดตัวในช่วงเดือนกันยายนนี้” นายอุทัย กล่าว

“taka HAUS” (ทากะ เฮาส์)
“taka HAUS” (ทากะ เฮาส์)

บริษัทมองถึงความร่วมมือระยะยาวในอนาคตจากการที่ Tokyu เป็นบริษัทชั้นนำของญี่ปุ่น มีฐานกลุ่มธุรกิจที่กว้างขวางที่ไม่เพียงแค่พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ความร่วมมือในครั้งนี้ยังนับเป็นการประสานให้เกิดผลประโยชน์สูงสุดร่วมกัน เป็นการผนวกพลังระหว่างพันธมิตรทางธุรกิจระหว่างประเทศที่จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กันและกันอย่างยั่งยืน อาทิ การที่โตคิว คอร์ปอเรชั่น มีฐานลูกค้าที่จะช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจในการผลักดันแบรนด์ “แสนสิริ” ให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มลูกค้าชาวญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้น รวมถึงความร่วมมือจากการนำโครงการที่อยู่อาศัยของแสนสิริไปโรดโชว์ที่ประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้สิ่งที่สำคัญคือ ภายใต้ปรัชญาการดำเนินธุรกิจที่ตรงกันในด้านการนำเสนอไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่ไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย โดยโตคิว กรุ๊ป มีความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาทาวน์ อาทิ

  • โครงการ Tokyu Tama Denen –Toshi ซึ่งมีพื้นที่กว่า 5,000 เฮกตาร์ ในเขตเขา Tama ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของโตเกียว ซึ่งเชื่อมต่อสี่เมืองใหญ่ ทั้ง Kawasaki, Yokohama, Machida และ Yamato โดยอยู่ห่างจากศูนย์กลางโตเกียว เพียงแค่ 15 – 30 กิโลเมตร ในเมืองมีประชากรประมาณ 600,000 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2012) โดยปัจจุบันนับเป็นโครงการพัฒนาเขตเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นที่ดำเนินการโดยบริษัทเอกชน
  • โครงการพัฒนา “ย่านชิบูย่า” ให้เป็น Entertainment City แลนด์มาร์คแห่งความบันเทิงที่ครบวงจรมากขึ้นในอนาคต

ขณะที่แสนสิริมีประสบการณ์ความสำเร็จจากการพัฒนา “T77” A Good Town for Good Life บนเนื้อที่ 50 ไร่ กลางสุขุมวิท 77 ที่รวมไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยใกล้รถไฟฟ้า ใกล้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ มีคอนโดมิเนียมรวม 6 โครงการจากแสนสิริ, 1 โครงการทาวน์เฮาส์ รวมถึงอพาร์ทเมนท์ระดับพรีเมียมจากมั่นคงเคหะการ, 1 ไลฟ์สไตล์คอมมูนิตี้มอลล์แห่งแรกจากแสนสิริ และยังมีโรงเรียนนานาชาติ อย่าง Bangkok International Preparatory and Secondary School (บางกอกเพรพ) ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของชาวสุขุมวิทสำหรับคนไทยและชาวต่างชาติ รวมทั้งเคยพัฒนาพื้นที่ย่านรามอินทราให้กลายเป็นศูนย์กลางแห่งการอยู่อาศัยมาแล้วจากความสำเร็จของการก่อตั้งโรงเรียนสาธิตพัฒนาให้เป็นโรงเรียนชั้นนำของกรุงเทพฯ และเป็นจุดดึงดูดให้ลูกค้าซื้อโครงการบ้านเดี่ยวของแสนสิริในทำเลรอบข้าง

“อนาคตกรุงเทพฯ อาจจะคล้ายเมืองใหญ่ทั่วโลก คือเป็น Cluster/District หรือเป็นเมืองย่อยในเมืองใหญ่ ดังนั้นการเลือก Cluster ที่ถูกต้องจึงเป็นสิ่งที่สำคัญทั้งในแง่การใช้ชีวิตและการลงทุน สิ่งอำนวยความสะดวกจะไม่รวมศูนย์อยู่แค่กรุงเทพชั้นในเหมือนปัจจุบัน แต่จะกระจายออกไปยังพื้นที่อยู่อาศัยโดยรอบโดยการจับกลุ่มของเมืองย่อยหรือ Cluster จะเป็นไปตามสถานีรถไฟฟ้า แทนที่จะเป็นตามเขตปกครองหรือตามถนนเหมือนในอดีต โดยกรุงเทพฯ ยังอยู่ในช่วงระหว่างการขยายโครงข่ายคมนาคมที่ทำให้เชื่อว่ายังมีความต้องการที่อยู่อาศัยที่อยู่ทั้งตามแนวรถไฟฟ้าและอยู่ในเขตชุมชนต่างๆ อีกมากในอนาคต ซึ่งแสนสิริและโตคิวมองเห็นโอกาสและความเป็นไปได้สำหรับแผนความร่วมมือในอนาคตเพื่อมอบ Community ที่อยู่อาศัย ความบันเทิง โรงเรียนและสิ่งอำนวยความสะดวกครบวงจรเพื่อตอบโจทย์การอยู่อาศัยที่ไม่จำเป็นต้องเกาะกลุ่มความเจริญแค่ในกรุงเทพฯ ชั้นในเพียงอย่างเดียวในอนาคต” นายอุทัย กล่าว

“taka HAUS” (ทากะ เฮาส์) แสนสิริ บริษัท โตคิว คอร์ปอเรชั่น จำกัด

ด้านนายโทชิยูคิ โฮชิโนะ กรรมการ และเจ้าหน้าที่ผู้จัดการบริหารอาวุโส/ผู้จัดการบริหารทั่วไป สำนักงานใหญ่ธุรกิจต่างประเทศ บริษัท โตคิว คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า โตคิว คอร์ปอเรชั่น  เริ่มดำเนินธุรกิจจากการก่อสร้างทางรถไฟสาย Meguro-kamata (เมกุโระ-คานาตะ) ในปี 2465 ในเดือนมีนาคม 2560  กลุ่มโตคิวมีบริษัทอยู่ภายใต้การดำเนินงานจำนวนทั้งสิ้น 221 บริษัท และบริษัทร่วมทุนอีก 8 แห่ง ภายใต้การดำเนินงานของ โตคิว คอร์เปอเรชั่น มีเครือข่ายธุรกิจครอบคลุมหลายภาคส่วน ตั้งแต่คมนาคม ไปจนถึงอสังหาริมทรัพย์ ค้าปลีกและโรงแรม ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานของ โตคิว คอร์ปอเรชัน เป็นบริษัทแม่ของกลุ่มบริษัทโตคิวที่จะบรรลุถึง 100 ปีเร็วๆนี้ และทางบริษัทให้ความสำคัญเป็นอย่างมากในการเพิ่มพูนคุณภาพชีวิตของชาวเมืองในประเทศญี่ปุ่นผ่านทางการพัฒนาเครือข่ายคมนาคมควบคู่ไปกับอสังหาริมทรัพย์ โดยการลงทุนและพัฒนาประกอบไปด้วย สิ่งอำนวยความสะดวกด้านค้าปลีก โรงเรียนและโรงพยาบาล ซึ่งล้วนนำมาซึ่งความสะดวกและความน่าอยู่ตลอดตามเครือข่ายทางรถไฟของโตคิว และได้นำมาซึ่งชื่อเสียงของเมืองที่บริษัทได้สร้างขึ้นว่า เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุด นอกจากนั้น โตคิว คอร์ปอเรชัน ยังได้นำเสนอโครงการคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ Dresser ตามแนวคิด “ความคิดสร้างสรรค์” “ความน่าอยู่” และ “ความปลอดภัย”

“ในประเทศไทย โตคิว คอร์ปอเรชัน ได้เข้าร่วมทุนกับบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) ตั้งแต่ปี 2524 และได้รังสรรค์ผลงานมากมาย ตั้งแต่ ถนนสายหลักๆ สะพาน อาคารที่ทำงาน โรงเรียน โรงงาน และล่าสุด ได้มีการส่งมอบการก่อสร้างทางรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง ที่แล้วเสร็จ สำหรับธุรกิจค้าปลีก บริษัท ห้างสรรพสินค้า บางกอก-โตคิว จำกัด ได้เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปในกลุ่มลูกค้า ตั้งแต่เริ่มเปิดห้างแรกในปี 2528 และต่อมาได้มีการเปิดสาขาที่ 2 ในย่านศรีนครินทร์ ที่ ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค ในปี 2557 นอกจากนี้ โตคิว คอร์ปอเรชันและสหกรุ๊ปยังได้ร่วมกันก่อตั้ง บริษัทร่วมทุน สห โตคิว คอร์ปอเรชัน ขึ้น และได้เข้าบริหารอาคารอพาร์ตเมนต์พร้อมบริการ “HarmoniQ Residence Sriracha” สำหรับชาวญี่ปุ่นและครอบครัว เมื่อปี 2559 และก็เป็นที่น่าพอใจ ที่โครงการ “HarmoniQ Residence Sriracha” ได้มีลูกค้าเต็มมาโดยตลอดด้วยชื่อเสียงของโครงการที่เป็นที่กล่าวขาน” นายโฮชิโนะกล่าว

นอกเหนือจากนั้นความพยายามในด้านการค้นคว้าและพัฒนาร่วมกันในความสัมพันธ์นี้ Tokyu เองก็พร้อมที่ใช้พลังด้านธุรกิจที่มีอยู่ในการสนับสนุนโครงการให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มลูกค้าชาวญี่ปุ่นโดยผ่านทาง Tokyu Livable ความเชี่ยวชาญในการขาย ให้เช่า และการให้คำปรึกษาทางด้านอสังหาริมทรัพย์ จะช่วยขยายศักยภาพทางธุรกิจของเราในกลุ่มลูกค้าชาวญี่ปุ่น เพื่อผลประโยชน์สูงสุดร่วมกันและเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่ยั่งยืน สำหรับเรา นี่คือความร่วมมือทางธุรกิจระยะยาวที่จะเพิ่มพูนมูลค่าสำหรับทั้งสององค์กรต่อไปอย่างยั่งยืน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

ALL COMMENT (0)
icon-yusabuy-titleRELATED ARTICLE
back to top

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้สำหรับการวิเคราะห์

    คุกกี้นี้เป็นการเก็บข้อมูลสาธารณะ สำหรับการวิเคราะห์ และเก็บสถิติการใช้งานภายในเว็บไซต์นี้เท่านั้น ไม่ได้เก็บข้อมูลส่วนตัวที่ไม่เป็นสาธารณะใด ๆ ของผู้ใช้งาน

บันทึก