MQDC พร้อมเปิดตัว ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน พื้นที่วิจัยเพื่อความสุขและความยั่งยืน แห่งแรกในภูมิภาคอาเซียน

· ~ 1 min read
  • ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (Research & Innovation for Sustainability Center – RISC)  เตรียมเปิดตัวกลางเดือนพฤศจิกายนนี้ ที่ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ เป็นพื้นที่ค้นคว้าวิจัยเพื่อความสุขและความยั่งยืนแห่งแรกในภูมิภาคอาเซียน มีมูลค่าการลงทุนกว่า 200 ล้านบาทโดย MQDC บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับสากล
  • ศูนย์ RISC คิดค้นเทคโนโลยี แนวทางการออกแบบ พร้อมเครื่องมือตรวจวัดต่าง ๆ ขึ้นเพื่อรองรับแนวโน้มการพัฒนาและใช้ชีวิตในอนาคต เน้นการสร้างนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน พร้อมเปิดให้ผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไปเข้าใช้บริการ
  • ศูนย์ RISC นำทีมโดย รศ. ดร. สิงห์ อินทรชูโต อาจารย์นักออกแบบชื่อดังจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผู้บุกเบิกกรีนดีไซน์ด้วยการนำเศษวัสดุมาใช้ในการออกแบบและก่อสร้างงานสถาปัตยกรรม

บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ระดับสากล เตรียมเปิดตัวศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนเต็มรูปแบบแห่งแรกของประเทศไทย บนพื้นที่ราว 1,000 ตรม. มีมูลค่าการลงทุนเริ่มต้นกว่า 200 ล้านบาท โดยเริ่มเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ กลางเดือนพฤศจิกายน 2560 นี้  ตั้งเป้าเพื่อยกระดับวงการอสังหาริมทรัพย์ ให้เน้นการพัฒนาโครงการให้เป็นมิตรต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง และเพื่อคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยอย่างยั่งยืน

ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน - (ภาพที่ 3)

“การเปิดตัวศูนย์ RISC นี้จะเป็นจุดสำคัญของวิวัฒนาการใหม่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ในเมืองไทย เรามีความตั้งใจที่จะทำให้ RISC เป็นศูนย์กลางการคิดค้นนวัตกรรมด้านที่อยู่อาศัย ที่ซึ่งผลงานวิจัยที่ออกมาจะไม่ใช่เพียงเพื่อนำมาใช้เฉพาะกับโครงการต่าง ๆ ของแมกโนเลียเท่านั้น แต่เรายังเปิดกว้างเพื่อให้บุคคลภายนอกได้มีโอกาสนำงานวิจัยของเราไปใช้ในการก่อสร้างอาคารที่พักอาศัย ใช้ในการพัฒนาโครงการหรือเพื่อปรับปรุงที่อยู่อาศัยของตนเอง ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายของเราที่ต้องการยกระดับคุณภาพของวงการอสังหาริมทรัพย์และการออกแบบสถาปัตยกรรมโดยรวมให้ดีขึ้น”  รศ. ดร.สิงห์ กล่าวย้ำอย่างชัดเจนถึงเป้าหมายของการจัดตั้งศูนย์ดังกล่าว

ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน - (ภาพที่ 1)
รศ. ดร.สิงห์

รศ. ดร.สิงห์ อินทรชูโต หัวหน้าคณะที่ปรึกษา ศูนย์ริสค์ หรือที่เรียกว่า RISC กล่าวว่า หลังจากที่บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ MQDC ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และจะพร้อมเปิดพื้นที่วิจัยนี้ให้กับทุกคน ทุกองค์กร ที่สนใจด้านการพัฒนาและก่อสร้างอย่างยั่งยืน

“RISC จะทำการวิจัยภายใต้หลักการ “นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน” เราจะพยายามค้นคว้าวิจัยให้บรรลุเป้าหมายทางความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม และขณะเดียวกันก็ช่วยส่งเสริมชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น รวมทั้งเพื่อการพัฒนาทางด้านสังคมและเศรษฐกิจ”

รศ. ดร.สิงห์ กล่าวว่า “บริษัทได้ทุ่มทุนกว่า 200 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงการรองรับกิจกรรมวิจัยและสร้างนวัตกรรมใหม่แบบครบวงจร โดยเฉพาะส่วนของห้องแล็บและศูนย์ทดสอบได้มีการติดตั้งอุปกรณ์ทันสมัยไว้พร้อมรองรับการใช้งานให้ทีมงานนักวิจัยได้สามารถทำการศึกษา ค้นคว้าและทดสอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายในพื้นที่ 1,000 ตรม ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (RISC) ประกอบไปด้วย ห้องทดสอบการใช้งานของงานระบบต่างๆ อาทิ เช่น ห้องทดสอบประสิทธิภาพของงานระบบปรับอุณหภูมิใต้แผ่นปูพื้นหรือ radiant flooring ซึ่งระบบนี้จะทำหน้าที่ช่วยปรับอุณหภูมิภายในห้องให้เหมาะสมและลดการใช้พลังงาน ห้องทดสอบสภาวะอากาศ ห้องทดสอบระบบเซ็นเซอร์เพื่อตรวจจับสารระเหยจากวัสดุตกแต่งในอาคาร”

ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน - (ภาพที่ 7)

ศูนย์ RISC จะเป็นเสมือนห้องค้นคว้าของประชาชนด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยแบบยั่งยืน เป็นที่รวบรวมความรู้เกี่ยวกับวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ โดยศูนย์ RISC ได้รวบรวมวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสำหรับงานก่อสร้าง จำนวนกว่า 300 ชิ้น เพื่อเป็นข้อมูลในการออกแบบและก่อสร้าง พร้อมทั้งเป็นแหล่งรวมงานดีไซน์ใหม่ๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

นอกจากนี้ RISC ยังจัดสรรพื้นที่ทดสอบพืชพรรณต่างๆ ที่สามารถปลูกภายในอาคารที่ช่วยเพิ่มคุณภาพอากาศภายในอาคารได้   พื้นที่ Laboratory ที่มีเครื่องมือทันสมัยสำหรับสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ พร้อมทั้งมีพื้นที่ Simulation Lab ที่เน้นการใช้เทคโนโลยีในการวิเคราะห์และการออกแบบด้านการประหยัดพลังงาน การใช้แสงสว่าง เป็นต้น

ภายในศูนย์ RISC ยังประกอบไปด้วย ห้องทดสอบผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่มีต่อวัสดุก่อสร้างและวัสดุตกแต่งต่างๆ มีห้องทดสอบระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับความร้อนและแสง ตลอดจนแล็ปทดสอบการใช้งานของวัสดุ อุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอีกด้วย

ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน - (ภาพที่ 6)

ผลทดสอบจากแล็บจะช่วยให้ทางบริษัทสามารถเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่สุดและคงทน ปลอดสารพิษที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัยในระยะยาว ตลอดจนยังช่วยลดค่าใช้จ่ายพลังงานให้กับผู้อยู่อาศัยด้วย

ศูนย์ RISC วางเป้าหมายในการสร้างผลงานนวัตกรรมที่ช่วยยกระดับมาตรฐานการสร้างที่อยู่อาศัยในประเทศไทย โดยมุ่งเน้นการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี ไม่ว่าจะเป็นผู้อยู่อาศัยในโครงการ รวมถึงสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ที่อาศัยอยู่ภายในและรายล้อมโครงการ

“การเปิดตัวศูนย์ RISC นี้จะเป็นจุดสำคัญของวิวัฒนาการใหม่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ในเมืองไทย เรามีความตั้งใจที่จะทำให้ RISC เป็นศูนย์กลางการคิดค้นนวัตกรรมด้านที่อยู่อาศัย ที่ซึ่งผลงานวิจัยที่ออกมาจะไม่ใช่เพียงเพื่อนำมาใช้เฉพาะกับโครงการต่าง ๆ ของแมกโนเลียเท่านั้น แต่เรายังเปิดกว้างเพื่อให้บุคคลภายนอกได้มีโอกาสนำงานวิจัยของเราไปใช้ในการก่อสร้างอาคารที่พักอาศัย ใช้ในการพัฒนาโครงการหรือเพื่อปรับปรุงที่อยู่อาศัยของตนเอง ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายของเราที่ต้องการยกระดับคุณภาพของวงการอสังหาริมทรัพย์และการออกแบบสถาปัตยกรรมโดยรวมให้ดีขึ้น”  คุณวิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ MQDC กล่าวย้ำอย่างชัดเจนถึงเป้าหมายของการจัดตั้งศูนย์ดังกล่าว

รศ. ดร.สิงห์ กล่าวอีกว่าทางศูนย์ RISC ตั้งเป้าขยายเครือข่ายทีมนักวิจัยระดับชั้นนำกว่า 100 คนในอีก5 ปีข้างหน้า สำหรับตัวศูนย์ฯ เองก็ได้มีการก่อสร้างและตกแต่งด้วยวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทุกชิ้น โดยที่นี่ถือเป็นสำนักงานแห่งแรกในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐานโดย the WELL Building Standard from the International WELL Building Institute (IWBI)  ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับโลกในการรับรองอาคารที่ส่งเสริมสุขภาวะ โดย IWBI พิจารณาให้ใบรับรองการออกแบบและก่อสร้างที่พิถีพิถัน ทั้งทางด้านคุณภาพอากาศ แสงสว่าง น้ำ พื้นที่พักผ่อนและออกกำลังกาย รวมทั้งวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้าง ตัวอย่างเช่น เราได้นำเอาวัสดุที่ทำจากเปลือกไข่อัพไซเคิลมาเป็นวัสดุพื้นผิวโต๊ะและเคาน์เตอร์, วอลเปเปอร์ฟอกอากาศ และสีทาภายในอาคารปลอดสารระเหย รวมถึงวัสดุตกแต่งทุกชนิดปลอดจากสารระเหยฟอร์มัลดีไฮด์ เป็นต้น

ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน - (ภาพที่ 5)

โครงการของ MQDC ถือเป็นผู้บุกเบิกวงการอสังหาฯ เป็นรายแรกที่นำเทคโนโลยีล้ำหน้า เพื่อคุณภาพชีวิตและการพัฒนาโครงการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย อาทิเช่น โครงการ Whizdom รัชดา-ท่าพระ เป็นโครงการอาคารห้องชุดพักอาศัยแห่งแรกที่นำเทคโนโลยี Co2 sensors ผนวกกับ Energy Recovery Ventilation (ERV) ซึ่งเป็นระบบถ่ายเทอากาศภายในอาคาร โดยมีระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับอากาศเป็นตัวช่วยสั่งการให้มีการถ่ายอากาศเสียออกและเติมออกซิเจนเข้าโดยอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยปรับคุณภาพอากาศภายในอาคาร หรือ indoor air quality ให้ดีต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัย

นอกจากนี้โครงการ วิสซ์ดอม 101 (Whizdom 101) ก็จะเป็นโครงการแรกในประเทศไทยที่ถูกออกแบบให้เป็นโครงการเมืองอัจฉริยะแบบบูรณาการหรือ Smart City remote asset management โดยโครงการนี้จะติดตั้งเทคโนโลยีเมืองอัจฉริยะร่วมกับระบบเชื่อมต่อครบวงจร ร่วมกันคิดค้นแอพพลิเคชั่นขึ้นใหม่เพื่อให้สั่งการทำงานได้จากรีโมทคอนโทรล เพื่อตอบโจทย์เรื่องการเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับผู้อยู่อาศัยและสิ่งแวดล้อมในทุกมิติ ได้แก่ การประหยัดพลังงาน ลดปัญหาจราจร ลดมลพิษทั้งภายนอกและภายในโครงการ ตลอดจนช่วยยืดอายุการใช้งานของระบบสาธารณูปโภคและวัสดุต่างๆ ภายในอาคาร MQDC มีความมุ่งมั่นที่จะฉีกกฏการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบเดิมๆ มาเป็นโครงการพัฒนาที่ยั่งยืนด้วยนวัตกรรมหรือ Sustainnovation โดยมุ่งคิดค้นนวัตกรรมใหม่ นำมาผสมผสานเข้ากับเทคโนโลยีปัจจุบัน อาทิ โฮมออโตเมชั่น การใช้พลังงานบริสุทธิ์ การจัดการทางด้านการเงินให้ผู้อยู่อาศัย รวมไปถึงข้อมูลการศึกษาพฤติกรรมมนุษย์ นำมาใช้ร่วมกัน เพื่อให้ทุกโครงการบรรลุเป้าหมายการสร้างชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีและยั่งยืน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

ALL COMMENT (0)
back to top

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้สำหรับการวิเคราะห์

    คุกกี้นี้เป็นการเก็บข้อมูลสาธารณะ สำหรับการวิเคราะห์ และเก็บสถิติการใช้งานภายในเว็บไซต์นี้เท่านั้น ไม่ได้เก็บข้อมูลส่วนตัวที่ไม่เป็นสาธารณะใด ๆ ของผู้ใช้งาน

บันทึก