บริษัท แกรนด์ คาแนล แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ จีแลนด์ ประกาศผลกำไรสุทธิ ในปี 2560 มีจำนวน 1,069.89 ล้านบาท จากรายได้จำนวน 2,855.36 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าโครงการ The Super Tower ในไตรมาส 2 นี้ และได้เตรียมที่ดินทำเลติดแนวรถไฟฟ้าอีก 3 แปลงใหญ่ เนื้อที่กว่า 100 ไร่
นายสุรกิจ ธารธนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานบัญชีและการเงิน บริษัท แกรนด์คาแนล แลนด์ จำกัด (มหาชน) ชี้แจงผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อยสำหรับปี 2560 ซึ่งมีรายได้จำนวน 2,855.36 ล้านบาท และมีผลกำไรสุทธิจำนวน 1,069.89 ล้านบาท โดยมีอัตราผลกำไรเพิ่มขึ้น 5.17% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน ซึ่งเป็นไปตามกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจที่มุ่งเน้นโครงการเพื่อเช่าเป็นหลัก เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาโครงการเพื่อขายในเขตกรุงเทพฯ มีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นมาก ซึ่งอาจมีแนวโน้มเกินความต้องการของผู้ซื้อ ประกอบกับโครงการเพื่อเช่ามีรายได้สม่ำเสมอ เติบโตอย่างมั่นคง โดยในปี 2560 บริษัทมีรายได้ค่าเช่าและบริการเพิ่มขึ้น 161.68 ล้านบาท นอกจากนี้ที่ดินที่ตั้งโครงการยังเป็นทรัพย์สินของบริษัทฯ ตลอดไป และเมื่อมูลค่าทรัพย์สินที่ให้เช่าเพิ่มสูงขึ้น บริษัทฯจะมีกำไรจากมูลค่ายุติธรรมของทรัพย์สินนั้น โดยในปี 2560 บริษัทฯ มีกำไรจากมูลค่ายุติธรรม 1,115 ล้านบาท
นอกจากนี้ ในโครงการ เดอะแกรนด์พระรามเก้า ยังมีอาคารสำคัญไฮไลท์อีก 1 อาคาร คือ The Super Tower ที่จะเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของกรุงเทพมหานครและอาเซียนด้วยความสูงกว่า 600 เมตร จำนวนมากกว่า 100 ชั้น จะเป็นโครงการเพื่อเช่าที่สำคัญและมีความทันสมัยอีกแห่งของวงการอสังหาริมทรัพย์ของไทย ส่วนความคืบหน้าในการก่อสร้าง บริษัทฯ เริ่มสร้างในส่วนของอาคารจอดรถและพื้นที่ค้าปลีกแล้ว และสำหรับในส่วน Tower ขณะนี้อยู่ระหว่างทดสอบความแข็งแรงของเสาเข็ม คาดว่าจะลงเสาเข็มได้ในไตรมาส 2 ของปีนี้
สำหรับโครงการเพื่อขายของบริษัท 3 โครงการ ล้วนตั้งอยู่ในทำเลที่ดี คือ ติดแนวรถไฟฟ้า โดยที่ดินแปลงดอนเมือง มีเนื้อที่กว่า 100 ไร่ และ แปลงโลคัลโรด เนื้อที่ 35 ไร่ ติดแนวรถไฟฟ้าสายสีแดง ส่วนที่ดินแปลงที่ติดถนนพหลโยธินและวิภาวดีรังสิต เนื้อที่ 49 ไร่ ติดจุดตัดสถานีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสีเขียว โดยในปี 2561 จะมีการปรับผังเมืองใหม่ ทำให้ FAR เพิ่มขึ้น ซึ่งโครงการขายของบริษัทจะได้รับประโยชน์เพิ่มขึ้น