ORI เผยผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2561 มีกำไรสุทธิ 488.6 ล้านบาท โตกว่า 184% มั่นใจจบปีรายได้ทะลุเป้าที่ตั้งไว้ 1.5 หมื่นล้าน
· ~ 1 min readนายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์พาร์ค (PARK), ไนท์บริดจ์ (Knightsbridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), เคนซิงตัน (Kensington) และโครงการแนวราบแบรนด์ บริทาเนีย (Britania) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2561 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 2,473.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 182% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2560 (%YoY) สาเหตุหลักมาจากบริษัทรับรู้รายได้จากโครงการคอนโดมิเนียมต่อเนื่องจากปี 2560 จำนวน 18 โครงการ และมีโครงการใหม่ที่เริ่มโอนกรรมสิทธิ์ในเดือนมีนาคม ปี 2561 เพิ่มอีก 1 โครงการ คือ โครงการ KnightsBridge Tiwanon นอกจากนี้บริษัทยังสามารถสร้างยอดขาย Presale ไตรมาสแรกได้ประมาณ 5,090 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นมากกว่า 255% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนถึงความสามารถของบริษัทในการนำเสนอโครงการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า
สำหรับกำไรสุทธิประจำไตรมาส 1/2561 อยู่ที่ 488.6 ล้านบาท เติบโตขึ้น 184% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิที่ระดับร้อยละ 19.8 ซึ่งสูงขึ้นกว่าไตรมาส 1 ปี 2560 ที่ร้อยละ 19.6 อันเนื่องมาจากโครงการใหม่แล้วเสร็จรับรู้รายได้ได้ตามแผน และความสามารถในการทำกำไรขั้นต้น รวมถึงการรับรู้รายได้จากการบริหารโครงการที่ร่วมลงทุนกับบริษัท โนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด จากญี่ปุ่น ทำให้ทั้งรายได้และกำไรของบริษัทในไตรมาสนี้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง ทั้งนี้ ในไตรมาส 1/2561 บริษัทได้เปิดตัวคอนโดมิเนียม 3 โครงการใหม่ ภายใต้แบรนด์ “ไนท์บริดจ์” ได้แก่
- 1.ไนท์บริดจ์ สเปซ รัชโยธิน (Knightsbridge Space Ratchayothin)
- 2.ไนท์บริดจ์ สเปซ พระราม 9 (Knightsbridge Space Rama 9)
- 3.ไนท์บริดจ์ คอลลาจ สุขุมวิท 107 (Knightsbridge Collage Sukhumvit 107)
รวมมูลค่าโครงการกว่า 6,000 ล้านบาท โดยสามารถกวาดยอดขายรวมกว่า 70% หรือคิดเป็นมูลค่ามากกว่า 4,200 ล้านบาท
นายพีระพงศ์ กล่าวอีกว่า ในปี 2561 นี้ บริษัทมีแผนจะเปิดโครงการใหม่รวมมูลค่ากว่า 30,000 ล้านบาท ทำให้ในช่วงอีก 3 ไตรมาสที่เหลือ บริษัทยังมีโครงการที่โดดเด่นรอเปิดตัวอีกมูลค่ากว่า 24,000 ล้านบาท ซึ่งรวมถึงโครงการมิกซ์ยูสภายใต้แบรนด์ Park Origin 3 ทำเล ซึ่งถือเป็นโครงการไฮไลท์ของบริษัทในปีนี้ รวมถึงโครงการแนวราบที่จะเปิดตัวเพิ่มอีก 3-4 โครงการ