อยู่สบายพาไปชมรีวิวคอนโดใกล้แม่น้ำเจ้าพระยากับ Chapter One Flow Bangpo (แชปเตอร์ วัน โฟลว์ บางโพ) เป็นคอนโดสูง 41 ชั้น เน้นจุดขายเป็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยา และการเดินทางที่มีทางเลือกหลายรูปแบบทั้งรถไฟฟ้า, เรือ, ทางด่วน  โดยโปรดักส์ของที่นี่จะไม่มีห้องแบบสตูดิโอนะคะ เป็นห้องขนาดกลางถึงใหญ่แบบ 1 – 2 ห้องนอน คือจะพอดีกับการใช้ชีวิตแบบสบายๆ ทั้งสำหรับการอยู่คนเดียว อยู่เป็นคู่ ไปจนถึงอยู่กันแบบครอบครัว

ที่ตั้งโครงการ  Chapter One Flow Bangpo  ในจุดที่มองเห็นโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาได้  ซึ่งที่ดินก็เป็นแปลงติดกับคอนโด Chapter One Shine Bangpo ที่เปิดไปตั้งแต่ปีที่แล้วค่ะ  โครงการ Chapter One Flow บางโพ จะเปิดให้เข้าชมห้องตัวอย่างได้ครั้งแรกช่วงวันที่ 10 ส.ค.นี้ ทางเราได้มีโอกาสขออนุญาตเข้าไปส่องในโครงการมาก่อน  เลยมาเขียนบทความรีวิวให้อ่านกันอย่างละเอียดค่ะ

Additional Info

ลงทะเบียนเพื่อรับส่วนลด 100,000 บาท  >>> คลิก <<<

Chapter One Flow Bangpo
( แชปเตอร์ วัน โฟลว์ บางโพ )

• เจ้าของโครงการ >>> บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)

• ที่ตั้งโครงการ >>> ถนนประชาราษฎร์สาย 1  (ช่วงประชาราษฎร์สาย 1 ซอย 25)
• ขนาดที่ดิน >>> 3 – 1 – 4.9 ไร่
• จำนวนอาคาร >>> 2 อาคาร ประกอบด้วยอาคารพักอาศัยและอาคารจอดรถ
• จำนวนชั้น >>> อาคารพักอาศัยสูง 41 ชั้น และอาคารจอดรถสูง 4 ชั้น
• จำนวนยูนิต >>>  ห้องพัก 385 ยูนิต และร้านค้า 1 ยูนิต
• ประเภทห้อง >>>
  • 1 Bedroom City View ขนาด 31.80 – 32.85 ตารางเมตร
  • 1 Bedroom Exclusive River View ขนาด  43.20 – 43.85 ตารางเมตร
  • 2 Bedroom River View ขนาด  49.65 ตารางเมตร
  • 2 Bedroom Exclusive River View ขนาด  64.75 ตารางเมตร
• ที่จอดรถ >>> 63% (รวมจอดซ้อนคัน)
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันเปิดตัว >>>
  • 1 Bedroom City View ราคา 2.59-4.3 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Exclusive River View ราคา 3.9-5.7 ล้านบาท
  • 2 Bedroom River View ราคา 5-6.6 ล้านบาท
  • 2 Bedroom Exclusive River View ราคา 6.6-8.5 ล้านบาท

• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>>
  • City View ราคาเฉลี่ย 88,000  บาท/ตร.ม. (เฉลี่ยเริ่มต้น 81,000 บาท/ตร.ม.)
  • River View ราคาเฉลี่ย 98,000 บาท/ตร.ม.  (เฉลี่ยเริ่มต้น 90,000 บาท/ตร.ม.)
• พิกัด GPS >>> 13.812643, 100.521494
• เว็บไซต์โครงการ >>> คลิก

• โทร >>> 1739
• Line : @chapteronecondo

Quick Review

คอนโด Chapter One Flow บางโพ เป็นคอนโดใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา อยู่ในทำเลย่านบางโพซึ่งยังคงมีบรรยากาศความเป็นชุมชนของคนท้องที่เดิมอยู่เยอะพอสมควร ค่อนข้างเงียบสงบไม่วุ่นวายเหมาะกับเป็นที่พักอาศัยที่อยู่ในรัศมีการเดินทางไปไหนมาไหนสะดวกทั้งโดยรถยนต์ส่วนตัว รถไฟฟ้า และเรือด่วนเจ้าพระยา โปรดักส์ของโครงการนี้เป็นห้องชุดขนาดตั้งแต่ 31.80 ตร.ม. ขึ้นไปในราคาเริ่มต้น 2.59 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นขนาดห้องที่อยู่ได้จริง  ไม่ได้ถูกวางโปรดักส์แบบบีบพื้นที่ใช้สอยเพื่อทำราคาขายอย่างเดียว  มีทั้งแบบ 1 ห้องนอน  และ 2 ห้องนอนสำหรับครอบครัวขนาดเล็ก  มาดูสรุปภาพรวมในแต่ละด้านของโครงการนี้กันสำหรับคนไม่อยากอ่านยาวๆ มีเวลาน้อย …

• ส่วนกลาง เนื่องจากเป็นคอนโดสูง 41 ชั้นใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา พื้นที่ส่วนกลางที่เอาไปไว้ชั้นบนสุดเพื่อรับกับวิวแม่น้ำแบบไม่มีอะไรมาบังวิวโค้งน้ำเจ้าพระยา ก็คงไม่พลาดที่จะได้ความโดดเด่นตรงนี้ไปค่ะ นอกจากนี้พื้นที่สวนที่อยู่บนชั้นดาดฟ้าอาคารจอดรถก็ดูน่าสนใจดีเพราะออกแบบทางเดินและสนามหญ้าสีเขียวเล่นระดับกับความลาดเอียงของพื้นอาคารผสมผสานไปกับน้ำตกที่ไหลผ่านชั้นหินตั้งแต่ชั้น 3 ของอาคารลงไปยังพื้นชั้นล่างสุดด้วย

• แปลนห้อง จะมีห้องแบบ 1-2 ห้องนอนให้เลือก ขนาด 31.80 – 64.75 ตร.ม. การวางแปลนห้องเน้นให้ส่วนพักผ่อนอยู่ติดระเบียงและผนังกระจก รับแสงและดูวิวกันได้เต็มที่ ความกว้างระเบียงให้มาในขนาดที่สามารถวางชุดโต๊ะเก้าอี้นั่งเล่น หรือจัดสวนเล็กๆ บนระเบียงได้

• ด้านทำเล อยู่ในแหล่งชุมชนย่านบางโพ มีการเดินทางทางเลือกหลายรูปแบบ ใกล้โรงเรียนโยธินบูรณะ และมหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าพระนครเหนือ และยังใกล้แหล่งงานขนาดใหญ่อย่าง กฟผ.บางกรวย  อนาคตก็จะมีรัฐสภาใหม่ และศูนย์การค้า GATEWAY บางซื่อ เป็นแหล่งงานขนาดใหญ่ใกล้บ้านเพิ่มขึ้นมาอีก 2 แห่งที่จะช่วยส่งเสริมให้อสังหาฯ ย่านนี้ราคาสูงขึ้น และมีความต้องการซื้อต่อและเช่าอยู่มากขึ้นได้
• การเข้าถึง จะเหมาะกับคนใช้รถส่วนตัวเป็นลำดับแรกค่ะเพราะใกล้ด่านขึ้นทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอก ถัดมาน่าจะเป็นการโดยสารสาธารณะทางเรือ และรถไฟฟ้า อยู่ในระยะเดินไปได้ประมาณ 600 เมตร คนชอบเดินถือว่าเป็นระยะเดินได้เพลินๆ คนไม่ชอบจะรู้สึกว่าไกลไปหน่อยแล้วก็มองหาวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างให้ไปส่ง สองข้างทางมีความคึกคักของชุมชนเป็นบางช่วง ทำให้กลางคืนจะมืดและดูเปลี่ยวอยู่บ้างสำหรับการเดินค่ะ
• สิ่งอำนวยความสะดวกรอบโครงการ ถือว่าหาของกินได้ง่าย เพราะอยู่ใกล้โรงเรียนโยธินบูรณะ มีร้านสะดวกซื้อ ใกล้ตลาดเขมา ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ในย่านนี้  และคอมมูนิตี้ขนาดย่อมๆ อยู่ในระยะเดินถึงได้ไม่ลำบาก  ถ้าขยับออกมาหน่อยในรัศมีโดยรอบก็จะมีศูนย์การค้า Gateway บางซื่อ ที่กำลังก่อสร้าง, โรงพยาบาลบางโพ, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ, โรงเรียนเซนต์คาเบรียล, โรงเรียนราชินีบน
• วัสดุ ให้มาสมเหตุสมผลกับระดับราคาค่ะ และแถมเฟอร์นิเจอร์ให้แบบ Fully Furnished ด้วย คนชอบแบบจ่ายทีเดียวได้ครบ ก็ตอบโจทย์ลงตัวกันไป คนไม่ชอบสไตล์ที่ทางโครงการจัดให้ก็อาจจะเซ็งนิดหน่อยเพราะแทบไม่เหลือพื้นที่ให้เพิ่มเติมเฟอร์นิเจอร์ในแบบที่ชอบเลย

——–>

เหมาะกับใคร ??

ด้วยทำเลที่ตั้งของโครงการ Chapter One Flow Bangpo เหมาะกับกลุ่มคนที่คุ้นชินกับการใช้ชีวิตย่านนี้ค่ะ ทั้งคนทำงานละแวกนี้ คนที่มีบ้านอยู่ย่านบางโพอยู่แล้วและอยากจะซื้ออสังหาฯ ไว้ลงทุน ไปจนถึงครอบครัวที่มีลูกๆ เรียนอยู่โรงเรียนบนถนนสามเสน ถนนประชาราษฎร์สาย 1 เรื่อยไปจนถึงโรงเรียนและมหาวิทยาลัยโซนสะพานพระราม 7 ค่ะ โครงการนี้เป็นคอนโดราคาไม่แพงมาก ได้ห้องขนาดกลางพร้อมเฟอร์นิเจอร์มาครบถือว่าค่อนข้างคุ้มราคา และยังอยู่ในทำเลที่มีการเดินทางเข้าตัวเมืองได้สะดวก ถ้าคิดจากราคาเริ่มต้น 2.59 ลบ. ต้องมีกำลังผ่อน 14,700 บาท/เดือน ขึ้นไป** หรือมีรายได้ประมาณ 36,750 บาท/เดือน ขึ้นไป** ค่ะ 

**บนสมมุติฐานการกู้ 90% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลากู้ 30 ปี / กำลังผ่อนคิดเป็น 40% ของรายได้

**สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หัวข้อ “เปิดกระเป๋า ดูสตางค์” ด้านล่างนะคะ

——–>

การเดินทาง

การเดินทางไป Chapter One Flow Bangpo ของเราวันนี้เริ่มจากแยกเตาปูน  จะเห็นสถานีรถไฟฟ้าสถานีเตาปูนอยู่บนสามแยกพอดีค่ะ ใช้ถนนประชาราษฎร์สาย 2 ขับตรงไปตามแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน แล้วเลี้ยวขวาที่แยกบางโพ ขับตรงไปอีกประมาณ 600 เมตร ผ่านซอยประชาราษฎร์สาย 1 ซอย 25 ไปหน่อยก็จะถึงที่ตั้งโครงการอยู่ฝั่งซ้ายมือแล้วค่ะ

เริ่มจากสามแยกเตาปูน จะมีสถานีเตาปูนอยู่เหนือแยกพอดี ซึ่งสถานีนี้เป็นสถานี Interchange ระหว่างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินกับสายสีม่วง ไฟเขียวแล้วขับตรงไปเลยค่ะ

ขับบนถนนประชาราษฎร์สาย 2 ตรงไปเรื่อยๆ มุ่งหน้าแยกบางโพ

บนถนนเส้นนี้กำลังจะมีศูนย์การค้า GATEWAY บางซื่อ แหล่งช็อปปิ้งใหม่ของคนย่านนี้ ซึ่งจะเปิดตัวปลายปีนี้ อยู่ตรงข้ามกับโรงพยาบาลบางโพ

ถึงแยกบางโพ จะเห็นสถานีบางโพอยู่ด้านบนกำลังก่อสร้างอยู่ ให้เลี้ยวขวาค่ะ

เลี้ยวขวามาแล้วจะเป็นถนนประชาราษฎร์สาย 1

จากสี่แยกบางโพมาเรื่อยๆ ก็จะถึงที่ตั้งโครงการ Chapter One Flow บางโพ อยู่ทางซ้ายมือ สังเกตร้านไม้ aree สีเหลืองๆ ฝั่งตรงข้ามเอาก็ได้ค่ะ

มาดูตำแหน่งรอบๆ ตัวคอนโดก่อนว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนกันบ้าง

Chapter One Flow Bangpo ตั้งอยู่บนถนนประชาราษฎร์สาย 1 ฝั่งซอยเลขคี่ที่เป็นซอยติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา อยู่ตรงช่วงของโค้งน้ำเจ้าพระยาพอดี เลยถือเป็นจุดเด่นหลักของโครงการนี้เลย และยังอยู่ในจุดที่ใกล้กับด่านขึ้นทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอกอีกด้วย ทำให้คนใช้รถย่านนี้ไปไหนมาไหนสะดวกขึ้นเยอะ ส่วนการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าก็ตั้งอยู่ระหว่างรถไฟฟ้า 3 สาย คือ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงต่อขยายบางซื่อ – ท่าพระ ที่คาดว่าจะเปิดใช้บริการได้ในปี 2562 โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีบางโพ อยู่ที่แยกบางโพ ห่างประมาณ 600 เมตร, สายที่สองคือ รถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน ช่วงบางซื่อ – ตลิ่งชัน คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2563 โดยจะมีสถานีพระราม 6 เป็นสถานีที่ใกล้บ้านที่สุดอยู่แถวๆ ด่านขึ้นทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอกค่ะ (แต่เนื่องจากตำแหน่งสถานียังไม่ชัดเจนเราเลยยังไม่สามารถระบุระยะห่างจากโครงการให้ได้ สถานีนี้มีการเพิ่มเติมขึ้นมาภายหลัง เพราะเป็นย่านที่มีประชากรอยู่กันหนาแน่นจึงได้มีการอนุมัติให้ก่อสร้างสถานีพระราม 6 เพิ่มเติมสำหรับรถไฟฟ้าสายนี้ โดยจะตั้งอยู่ระหว่างสถานีบางซ่อนและบางบำหรุ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนที่อาศัยในพื้นที่โดยรอบ), สำหรับสายที่สามเป็นรถไฟฟ้าสายสีม่วง เตาปูน – บางใหญ่ ที่เปิดให้บริการแล้ว โดยมีสถานีบางซ่อน อยู่ใกล้โครงการที่สุด แต่ห่างจากที่ตั้งโครงการมากกว่าสองสายแรกคือประมาณ 2 กม. กว่าๆ ค่ะ ซึ่งสถานีนี้จะเป็นจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อนด้วย

คอนโดอยู่ใกล้แม่น้ำก็ต้องไม่ลืมพูดถึงการเดินทางทางเรือค่ะ จะมี ท่าเรือวัดสร้อยทอง ที่ไปใช้บริการได้สะดวก การขึ้นเรือด่วนเจ้าพระยาก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนอยากเลี่ยงรถติด หรือไม่ก็เอาไว้นั่งกินลมชมวิวเที่ยวช่วงวันหยุดได้นะคะ

จากภาพใหญ่ของวิวที่ได้ และการเดินทาง มาต่อกันที่สิ่งอำนวยความสะดวกในระยะขับรถเข้าถึงได้ง่าย เริ่มจากถนนประชาราษฎร์สาย 1 วิ่งต่อไปถนนสามเสน กำลังมีการก่อสร้างรัฐสภาใหม่ ตรงแยกเกียกกายมีชื่อว่า สัปปายะสภาสถาน เป็นโครงการก่อสร้างรัฐสภาแห่งที่ 3 ของประเทศไทยแทนที่อาคารเดิมที่อยู่ข้างสวนสัตว์ดุสิต ซึ่งคาดว่าโครงการนี้จะแล้วเสร็จในปี 2563 และมีแผนก่อสร้างสะพานเกียกกาย ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาข้างรัฐสภาใหม่เชื่อมต่อกับถนนจรัญสนิทวงศ์ด้วย แต่ในส่วนนี้ยังคืบหน้าไปถึงแค่รออนุมัติงบประมาณ ซึ่งคงต้องรอกันไปก่อนกว่าจะมีความชัดเจนกว่านี้ (ข้อมูล ณ สิงหาคม 61) การมีสถานที่ราชการขนาดใหญ่ระดับชาติมาอยู่ใกล้ๆ แบบนี้น่าจะส่งผลดีต่อราคาอสังหาฯ ย่านนี้ได้พอสมควรเลยล่ะค่ะ

ทีนี้จากหน้าโครงการไปดูฝั่งที่เชื่อมต่อกับสะพานพระราม 7 บ้าง ก็จะมีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี พระจอมเกล้าพระนครเหนือ เป็นมหาวิทยาลัยที่อยู่ในระยะขับรถไปมาสะดวก เลยไปหน่อยก็จะมีโรงเรียนสตรีนนทบุรี และโรงเรียนวัดเขมาภิรตาราม อีกด้วย

ส่วนบนถนนประชาราษฎร์สาย 2 ที่เกาะแนวเส้นรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน กำลังจะมีศูนย์การค้าขนาดใหญ่ GATEWAY บางซื่อ ที่จะเปิดตัวประมาณปลายปีนี้ อยู่ตรงข้ามกับ โรงพยาบาลบางโพ แถวแยกเตาปูนก็จะมีตลาดเตาปูน ที่ได้มีการปรับปรุงภาพลักษณ์ใหม่ให้สะอาด และดูทันสมัยมากขึ้น ซึ่งยังคงมีอาหารและของสดขายเยอะเหมือนเดิม ใกล้ๆ กันก็จะมี Tesco Lotus สาขาประชาชื่น ไว้แวะซื้อของกินของใช้ได้ ถัดไปอีกหน่อยจะเป็นพื้นที่เมกะโปรเจคของประเทศคือ Hub รถไฟฟ้าสถานีกลางบางซื่อ ซึ่งทำเลในรัศมีใกล้เคียงก็คาดหวังว่าจะได้รับอานิสงค์จากโครงการนี้ ต้องรอติดตามกันต่อไปค่ะว่าโครงการนี้จะเป็นรูปเป็นร่างออกมายังไงและช่วยอัพราคาอสังหาฯ ย่านนี้ขนาดไหน ตอนนี้ยังเร็วไปที่จะฟันธงค่ะ ^^

.

.

มาซูมดูแผนที่ใกล้ๆ เข้ามาอีกหน่อย เพื่อนบ้านรั้วติดกันกับ Chapter One Flow Bangpo คือโครงการ Chapter One Shine Bangpo  คอนโดสูงจากพฤกษาเช่นกันที่เปิดตัวไปเมื่อเมษายนปีที่แล้ว เพื่อนบ้านด้านหน้าจะเป็นกลุ่มตึกแถวสูง 3 – 4 ชั้น (หมายเลข 1) ฝั่งทิศตะวันตกที่หันเข้าแม่น้ำเจ้าพระยาจะติดกับโรงงานไม้และบ้านพักอาศัยในซอยประชาราษฎร์ 1 ซอย 25 (หมายเลข 2) ส่วนด้านข้างทางทิศเหนือ เป็นโครงการคอนโดราชองครักษ์ (หมายเลข 3) ไม่ได้เปิดขายให้กับบุคคลทั่วไป สูงประมาณ 20 กว่าชั้น ถัดไปเป็นโรงเรียนโยธินบูรณะ (หมายเลข 4) ย้ายมาจากที่ดินที่ก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ ข้างๆ โรงเรียนจะมีคอมมูนิตี้มอลล์ขนาดกลาง White Mall  (หมายเลข 5) ด้านในก็จะมีร้านค้าและ Max Valu ด้วย ถัดไปจะเป็นพื้นที่ของ วัดสร้อยทอง (หมายเลข 6) ถ้าจะมาขึ้นเรือด่วนเจ้าพระยาก็มาขึ้นที่ท่าเรือวัดสร้อยทองนี่ล่ะค่ะ เพราะเป็นท่าเรือที่อยู่ใกล้บ้านที่สุด

เพิ่มเติมในเรื่องของการเดินทางอีกหน่อย สำหรับลูกบ้านโครงการ Chapter One Flow Bangpo คนใช้รถยนต์ส่วนตัวสามารถขึ้นใช้ทางพิเศษศรีรัช – วงแหวนรอบนอก ได้ที่ด่านสะพานพระราม 7 ห่างไปประมาณ 800 เมตร (ลูกศรสีเหลือง) ส่วนคนที่ใช้รถไฟฟ้า รอสถานีบางโพเปิดใช้ในปีหน้า จะเดินออกกำลังกายหรือนั่งพี่วินมาระยะทางประมาณ 600 เมตรก็ถึงค่ะ (ลูกศรสีเขียว)

สภาพแวดล้อมรอบคอนโด

ภาพบรรยากาศใกล้ๆ โครงการ แชปเตอร์ วัน โฟลว์ บางโพ บนถนนประชาราษฎร์สาย 1 ค่ะ

ด้านหน้าทางเข้าออกโครงการ แชปเตอร์ วัน โฟลว์ บางโพ ฝั่งตรงข้ามจะเป็นร้านขายวัสดุก่อสร้างและไม้ค่ะ

ด้านข้างทางเข้าจะเป็นตึกแถวที่ชั้นล่างจะขายไม้เช่นกัน

ตึกแถวอีกฝั่งเป็นร้านทำป้ายไวนิล

บ้านพักอาศัยสูง 7 ชั้น ติดกับตึกแถว

คอนโดของราชองครักษ์ที่มองเห็นจากที่ดินโครงการ

คลองวัดเสาหินที่ติดกับที่ดินของ แชปเตอร์ วัน โฟลว์ บางโพ ฝั่งทิศเหนือ

ประชาราษฎร์สาย 1 ซอย 25 อยู่ใกล้กับที่ตั้งโครงการ

บรรยากาศด้านในซอยมีทั้งบ้านพักอาศัยและโรงงานไม้

โรงงานไม้ติดกับที่ดินโครงการทางด้านทิศตะวันตก

ตามแนวถนนประชาราษฎร์สาย 1 จะมีทั้งร้านขายไม้ที่อยู่ในอาคารพาณิชย์ และเป็นอาคารชั้นเดียวแบบในรูป

โรงเรียนโยธินบูรณะอยู่ติดกับคอนโดราชองครักษ์

สะพานลอยและป้ายรถประจำทางหน้าโรงเรียนโยธินบูรณะ

บรรยากาศของถนนประชาราษฎร์สาย 1 ฝั่งที่มองไปทางแยกบางโพ ถนนเส้นนี้กว้าง 6 เลนมีเกาะกลางถนน ที่ตั้งโครงการ แชปเตอร์ วัน โฟลว์ บางโพ จะอยู่มุมทางขวา

บรรยากาศฝั่งมุ่งหน้าไปขึ้นทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอกและสะพานพระราม 7 ถนนจะโค้งบังคับเลี้ยวซ้าย มีที่กลับรถอยู่เลยโค้งไปหน่อย

อาคารพาณิชย์บนถนนประชาราษฎร์สาย 1

ข้ามสะพานลอยไปเจอแฟมิลี่มาร์ท

จากหัวมุมถนนมองไปจะเป็นโซนของตลาดศรีเขมา

โค้งตามถนนมาเรื่อยๆ แล้วตรงไปจะเป็นทางขึ้นทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอก

White Mall ด้านในมีร้านค้า และ แม็กซ์แวลู ทันใจ เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง  แล้วก็มี Golden Place ที่เป็นร้านค้าโครงการหลวงด้วยนะคะ  ส่วนฝั่งติดกับคอมมูนิตี้มอลล์ จะเห็นพระอารามหลวงวัดสร้อยทอง

มาดูบรรยากาศแยกบางโพ และถนนประชาราษฎร์สาย 2 กันต่อค่ะ

หัวมุมแยกบางโพมีโรงรับจำนำ และพี่วินมอไซค์อยู่

สถานีบางโพคืบหน้าไปมาก ทั้งตัวสถานี และบันไดขึ้นลง แต่จะไม่มีบันไดพาดมาลงบนถนนประชาราษฎร์สาย 1 ฝั่งที่มาจากโครงการ Chapter One Flow บางโพ

มีทางเดินเชื่อมมาลงตรงท่าเรือบางโพให้ด้วย

จากท่าเรือบางโพ มองไปแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่ข้ามไปฝั่งธนฯ ถนนจรัญสนิทวงศ์  ตอนนี้ท่าเรือยังไม่ได้เปิดให้บริการนะคะ ต้องรอจนกว่าจะสร้างรถไฟฟ้าเสร็จถึงจะกลับมาเปิดใช้บริการกันอีกที

บนถนนประชาราษฎร์สาย 2  มีที่ทำการไปรษณีย์บางโพใกล้แยกบางโพ

ฝั่งตรงข้ามกับโรงพยาบาลบางโพ เป็นศูนย์การค้า Gateway บางซื่อ ค่ะ เปิดให้บริการปลายปีนี้

โรงพยาบาลบางโพ

สถานีเตาปูน ตรงแยกเตาปูนที่เป็นสถานี Interchange ระหว่างสายสีม่วงและสายสีน้ำเงิน

เปิดประตูดูโครงการ

ทางเข้าโครงการ Chapter One Flow Bangpo ตอนนี้ยังไม่เสร็จเลยดูค่อนข้างแคบ แถมถูกขนาบด้วยอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น ทำให้มองเห็นทางเข้าโครงการไม่ค่อยเด่นเท่าไหร่ แต่ถ้ามีการเปิดทางเข้าเต็มความกว้างแนวรั้วสีดำ ถนนน่าจะกว้างได้ถึง 4 เลนเลยทีเดียว

ถนนที่พาเข้ามาจากทางถนนประชาราษฎร์สาย 1 เป็นถนนภาระจำยอมใช้ร่วมกัน 2 โครงการ คือ  แชปเตอร์ วัน ชายน์ บางโพ อยู่ทางซ้ายมือ ส่วน แชปเตอร์ วัน โฟลว์ บางโพ จะต้องเลี้ยวขวาค่ะ

สำนักงานขายตั้งอยู่บนพิกัดของอาคารพักอาศัยเลย ออกแบบ Sale Gallery มาในบรรยากาศ Modern Resort ในอาคารคอนกรีตสีเทา ผสมผสานกับกระจกใสให้ดูเรียบเท่เข้ากับคอนเซ็ปต์  สำนักงานขายนี้เป็นอาคารเดิมที่ใช้ตอนเปิด Chapter One Shine บางโพ ค่ะ

ที่จอดรถมีทั้งด้านหน้าและด้านข้างอาคาร

รวมๆ แล้วมีที่จอดรถรองรับลูกค้าและพนักงานได้หลายสิบคันเลยค่ะ

เดินเข้ามาดูข้างในสำนักงานขายกัน เป็นผนังสีเทาฝ้าเพดานสูง ซ่อนไฟแทรกเป็นระยะสลับกับพื้นผิวสัมผัสคล้ายผนังหินผิวหยาบ ทางเดินแคบๆ ยาวๆ เน้นให้ทางเข้าไปสู่พื้นที่สำนักงานขายดูน่าสนใจดี

เปิดประตูเข้ามาก็จะเป็นโถงทางเดิน ซึ่งถ้าตรงไปแล้วเลี้ยวขวาจะเป็นทางออกไปดูห้องตัวอย่าง ส่วนพื้นที่ขายจะอยู่ทางซ้ายมือ

แวะเข้าไปดูบรรยาการพื้นที่ขายกันก่อน

ด้วยความที่พื้นที่กว้าง ฝ้าเพดานสูง มีแสงเข้าจากผนังกระจก 2 ด้าน ทำให้ห้องนี้ดูโล่ง โปร่ง นั่งสบายค่ะ มีชุดโซฟาและอาร์มแชร์อยู่หลายชุดหลายมุมเลย

อีกฝั่งของห้องจะเป็นเคาน์เตอร์ยาวของทีมขาย และมีห้องออฟฟิศอยู่ด้านหลัง

ดูผังโครงการ และเพื่อนบ้านข้างเคียง

ตัวคอนโด แชปเตอร์ วัน โฟลว์ บางโพ ใช้ถนนภาระจำยอมร่วมกันกับโครงการ แชปเตอร์ วัน ชายน์ บางโพ ระยะทางสั้นๆ ไม่กี่เมตร เลี้ยวขวามาจะเป็นพื้นที่ของโครงการมี 2 อาคารคืออาคารจอดรถและอาคารพักอาศัย โดยอาคารพักอาศัยวางตัวเกือบจะขนานไปกับถนนประชาราษฎร์สาย 1 และแนวแม่น้ำเจ้าพระยาทำให้ห้องพักจะได้วิวของฝั่ง city view หรือ river view แบบเต็มๆ คนละฝั่งชัดเจน การวางตัวอาคารที่ถอยร่นจากแม่น้ำเข้ามาแบบนี้ทำให้ตึกทั้ง 2 โครงการไม่มาบล็อควิวกันเอง  ซึ่งจะทำให้ห้องของ Chapter One Flow บางโพ  มีวิว 2 ทิศแบ่งกันชัดเจน  คือวิวแม่น้ำ  และวิวเมือง  แน่นอนว่าวิวแม่น้ำนั้นตั้งราคาเฉลี่ยแพงกว่าอยู่แล้วค่ะ

Chapter One Flow บางโพ จะมีอาคารสูงขนาบรั้วโครงการทางด้านทิศเหนือและใต้เป็นหลัก โดยทางทิศเหนือจะติดกับคลองวัดเสาหิน ข้ามฝั่งคลองไปจะเป็นพื้นที่ของคอนโดราชองครักษ์ เป็นอาคารสููง 20 กว่าชั้น และข้างๆ กันอีก 3 ตึกสูงประมาณ 10 ชั้นเรียงกัน ทำให้ห้องวิวแม่น้ำบางห้องอาจจะได้มุมมองที่แคบลงหน่อย ทิศใต้ก็จะมีอาคารพักอาศัยสูง 33 ชั้นของ Chapter One Shine บางโพ  แต่ว่าวางหลบมุมกัน  ไม่ได้บังกันโดยตรง

ทิศตะวันตกเป็นฝั่งได้วิวแม่น้ำไปเต็มๆ พิกัดของที่ตั้งของตัวตึกจะห่างจากแม่น้ำเจ้าพระยาประมาณ 260 ม. เพื่อนบ้านฝั่งนี้ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านและโรงงานไม้สูงไม่เกิน 3 ชั้น ทำให้วิวฝั่งนี้โล่งดีมากค่ะ ห้องที่ได้วิวเมืองจะอยู่ทางทิศตะวันออก ใกล้ถนนประชาราษฎร์สาย 1 มีระยะห่างจากถนนประมาณ 20 ม.  ด้านนี้ส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์สูงไม่เกิน 4 ชั้นครึ่ง และอาคารสูง 7 ชั้น 1 อาคาร ซึ่งเรื่องวิวก็จะกระทบแค่ห้องพักชั้น 4 – 7 บ้างบางส่วน  ชั้นสูงขึ้นไปก็จะโล่งหมดค่ะ

มุมมองจากด้านหน้าโครงการบนถนนประชาราษฎร์สาย 1 ไปจนถึงถนนประชาราษฎร์สาย 2 จะเห็นมีคอนโด The Tree และ Chapter One ของพฤกษาจับจองพื้นที่โซนนี้หลายโครงการ สำหรับโครงการล่าสุด แชปเตอร์ วัน โฟลว์ บางโพ จะตั้งอยู่ข้างๆ คอนโดแชปเตอร์ วัน ชายน์ บางโพ  (คือ มองจากมุมนี้ไป พี่จะไม่แบ่งให้คนอื่นเค้าเลยใช่มะ 5555)  

จากถนนหน้าโครงการเดินมาดูที่ตั้งอาคารพักอาศัยแล้วแหงนดูเพื่อนบ้านรอบๆ ทิศกัน ทางด้านทิศตะวันออก (ฝั่งถนนประชาราษฎร์สาย 1) จะมีอาคารสูงประมาณ 7 ชั้น บังวิวห้องพักไม่กี่ห้องจากชั้น 4-7 ฝั่งที่ชนกับอาคารนี้พอดี

ห้องที่หันรับวิวแม่น้ำตรงๆ โล่งมากค่ะ ไม่มีตึกสูงบังวิวเลยจะมีห้องมุมซ้ายขวาบางชั้นที่มุมมองแคบลงหน่อยเท่านั้นเอง

ทางทิศใต้จะเป็นอาคารพักอาศัยของ แชปเตอร์วัน ชายน์ บางโพ เป็นอาคารสูง 33 ชั้น

EXTERIOR

ตัวคอนโด Chapter One Flow บางโพ ออกแบบมาในสไตล์ Modern Resort ดูเรียบเท่ ตัวอาคารคุมโทนสีขาว-เทา-ดำ เป็นหลัก สร้างมิติให้รูปด้านอาคารด้วยระเบียงราวเล็กสีดำที่ยืนออกมาจากระนาบอาคารทุกชั้น ทำให้ได้ทั้งมิติความตื้นลึกของรูปด้าน และคนพักอาศัยเองก็จะได้มุมมองจากระเบียงที่กว้างขึ้นด้วย

ถ้ามองมาจากทางด้านทิศใต้ Chapter One Flow บางโพ จะเห็นรูปด้านอาคารออกมาแบบนี้ อาคารพักอาศัยสูง 41 ชั้นอยู่ทางขวามือใกล้กับถนนประชาราษฎร์สาย 1 ส่วนอาคารจอดรถสูง 4 ชั้นอยู่ทางซ้ายมือ ภายในตัวอาคารพักอาศัยจะมีพื้นที่ส่วนกลางอยู่ที่ชั้น 1-3 และ 40-41 (ชั้น 39 เป็นชั้นงานระบบทั้งชั้น) ส่วนห้องพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 4-38

อาคารจอดรถจะสามารถจอดได้ที่ชั้น G, 1, 2 เท่านั้น บนชั้น 3 จะเป็นพื้นที่ของสวนที่เล่นระดับกับความลาดเอียงทั้งชั้น พื้นที่ส่วนที่ชันสุดจะมีอาคารสำหรับทำกิจกรรมให้อีก 2 อาคาร สวนบนชั้น 3 นี้จะมีทางเดินเชื่อมเข้าสู่อาคารพักอาศัยได้อีกด้วย

ดูผังโครงการ  ตำแหน่งการเข้าถึง

การเข้าออกโครงการ Chapter One Flow บางโพ จากถนนประชาราษฎร์สาย 1 ใช้ถนนภาระจำยอมระยะทางสั้นๆ เพื่อเลี้ยวขวาเข้าพื้นที่ของโครงการ  อาคารจอดรถจะต้องขับอ้อมอาคารพักอาศัยเข้ามา ผ่านจุด Access Keycard  (ลูกศรสีน้ำเงิน) ส่วนขับรถออกก็ย้อนทางเดิม (ลูกศรสีส้ม) ไม่ได้วนรอบอาคารนะคะ  ถ้าจะวนมาส่งคนก็สามารถ Drop off ด้านหน้าได้เลย  (เส้นประสีฟ้า)

อาคารจอดรถจะมีบันไดเดินขึ้นลงอยู่ฝั่งใกล้กับตึกพักอาศัยด้านหน้า  ลิฟต์จะอยู่มุมในสุดของตัวอาคารที่จะพาลูกบ้านขึ้นไปยังชั้นพื้นที่สวนส่วนกลางได้ค่ะ

FLOOR PLAN

อาคารจอดรถ 4 ชั้นและอาคารพักอาศัย 41 ชั้นของ Chapter One Flow Bangpo สามารถเดินเชื่อมหากันกับอาคารพักอาศัยได้ที่ชั้นล่างสุด และชั้น 3 ค่ะ  เราจะพาไล่ดูแปลนไปทีละชั้นกันค่ะ

• อาคารพักอาศัย ชั้น G

ชั้นนี้จะเป็นชั้นที่ลด step ลงมาจากชั้น 1 ที่เป็น Lobby  มีพื้นที่สำหรับจอดรถมอเตอร์ไซค์และจักรยานให้ พื้นที่ที่เหลือส่วนใหญ่จะเป็นห้องงานระบบปั๊มน้ำ และห้องขยะค่ะ  ฟังก์ชั่นที่เพิ่มพิเศษเข้ามาจากคอนโดทั่วไป คือ  Rental Storage ที่อยู่ใกล้กับโถลงลิฟต์  ออกแบบมาสำหรับให้ลูกบ้านเช่าพื้นที่เก็บของชิ้นใหญ่ได้จะได้ประหยัดพื้นที่ในห้องพัก

• อาคารพักอาศัย ชั้น 1

ชั้นนี้พื้นที่หลักคือส่วนของล็อบบี้ระดับฝ้าสูง 7.5 เมตร  เป็น Double Space  มองออกไปจะเห็นผนังน้ำตกจากทางฝั่งอาคารจอดรถ  ในโถงล็อบบี้มีฟังก์ชั่น Meeting Room, ห้องน้ำแยกชายหญิง, ห้อง Mailbox,  ส่วนปลายอีกด้านหนึ่งจะเป็นพื้นที่ร้านค้าและห้องนิติบุคคล  ซึ่งบริเวณนี้จะถูกกั้นด้วยทางเดินเชื่อมระหว่างอาคารจอดรถและทางไป drop off ค่ะ

• อาคารพักอาศัย ชั้น 3

ถัดขึ้นมาจากชั้นล็อบบี้จะเป็นชั้น 3 มีห้อง Laundry room และทางเดินเชื่อมไปสวนที่ชั้น 3 ของอาคารจอดรถ (เส้นประสีม่วง)

• ดาดฟ้าอาคารจอดรถ ชั้น 3

ชั้นนี้มีการออกแบบสวนเล่นระดับกับความลาดเอียงเข้าหาตัวอาคารพักอาศัย ได้ความสวยงามของแปลนสวนเมื่อมองมาจากห้องพัก และได้ฟังก์ชั่นสำหรับการเดินออกกำลังกายด้วย ออกแบบให้เชื่อมต่อกับผนังน้ำตกที่จะไหลจากชั้น 3 ลงสู่พื้นชั้นล่าง เพื่อสร้างบรรยากาศให้กับโถงล็อบบี้ที่หันออกมารับวิวกันได้พอดี อีกฝั่งของพื้นที่สวนจะเป็นอาคารกระจก 2 อาคาร อาคารทางด้านทิศใต้จะสูง 1 ชั้น ข้างในเป็นห้อง Study Room ส่วนอาคารทางทิศเหนือจะสูง 2 ชั้น ชั้นล่างเปิดโล่ง มีพื้นที่ให้ทำกิจกรรมส่วนชั้นบนจะเป็นห้อง Party Room ไว้จัดกิจกรรมและนั่งเล่นได้

• อาคารพักอาศัย ชั้น 4-38

ชั้น 4 เริ่มเป็นพื้นที่สำหรับห้องพักอาศัย โดยจะวางผังห้องเหมือนกันตั้งแต่ชั้นนี้ไปจนถึงชั้น 38 เลย แต่เนื่องจากงานโครงสร้างทำให้ห้อง 1 Bedroom Exclusive ของชั้น 4-27 มีช่วงเสาที่ยาวกว่าของชั้น 28-38 มีผลให้ห้อง type นี้ตั้งแต่ชั้น 28 ขึ้นไปจะได้พื้นที่ใช้สอยภายในห้องกว้างขึ้นอีกหน่อยนั่นเองค่ะ

ห้อง 2 Bedroom จะเป็นห้องมุมปีกซ้ายขวาของอาคาร ส่วนทางฝั่งทิศตะวันออกซึ่งเป็นห้องที่ได้วิวเมือง (city view) จะเป็นห้อง 1 Bedroom ทั้งหมด

เส้นประสีแดงคือช่วงระยะเสาที่ยาวต่างกันกับชั้น 4-27

• อาคารพักอาศัย ชั้น 40

ชั้น 39 จะเป็นชั้นงานระบบทั้งชั้น ช่วยลดปัญหาเรื่องน้ำซึมลงไปที่ห้องพักข้างล่างสระว่ายน้ำค่ะ โดยสระว่ายน้ำของที่นี่อยู่บนชั้น 40 ออกแบบเป็น Infinity Edge Pool คอนเซ็ปต์ยอดนิยมสำหรับคอนโดรับวิวโค้งน้ำเจ้าพระยา (ต่างกันตรงที่ใครจะได้วิวที่สวยกว่ากัน) พื้นที่สระแยกเป็น 3 ส่วนคือสระเด็ก สระว่ายออกกำลังกาย และสระสำหรับแช่ตัวชมวิว (Leisure Pool) ออกแบบให้ตัวสระยื่นยาวออกไปอีกนิดเพื่อให้รับวิวได้กว้างขึ้นอีก

• อาคารพักอาศัย ชั้น 41

ชั้นนี้จะเป็นห้องกระจกมีพื้นที่สำหรับ  Fitness และ Sky Lounge ไว้นั่งเล่นพักผ่อนรับวิวเมืองมุมสูง

FACILITIES

จากที่ดูแปลนกันไป มาดูภาพบรรยากาศจำลองของพื้นที่ส่วนกลางโครงการ แชปเตอร์ วัน โฟลว์ บางโพ กันค่ะ ว่าจะให้ความรู้สึกเป็น Modern Resort กันขนาดไหน ซึ่งจะมี facilities อยู่ที่ชั้น G-3 และชั้น 40-41 ดังนี้

ชั้น G-1 ของอาคารพักอาศัย >> จะเป็นพื้นที่ของ Lobby, Mailbox room, Meeting room, Rental storage room, และ Laundry room

ชั้น 3 ของอาคารจอดรถ >> จะเป็นพื้นที่สวนบนดาดฟ้า, Study room, Play yard, และ Party room

ชั้น 40-41 ของอาคารพักอาศัย >> จะเป็นพื้นที่ของ Infinity edge pool, Leisure pool, Kids pool, Sky lounge, Fitness and steam room

สัดส่วนความหนาแน่นสำหรับการใช้ลิฟต์มีให้ 3 ตัว ต่อ 385 ยูนิต คิดเป็น 128 ห้องต่อลิฟต์ 1 ตัว สัดส่วนการใช้ลิฟต์กับคอนโดระดับราคานี้อยู่ในเกณฑ์พอดีๆ ค่ะ ไม่หนาแน่นจนเกินไป สำหรับที่จอดรถให้มา 63% (รวมจอดซ้อนคัน) ค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว

มาดูภาพบรรยากาศจำลองกัน เริ่มที่จุด Drop Off จะมีแนวรั้วกั้นแยกสัดส่วนให้ โถงทางเดินมีหลังคาคลุมให้จนถึงในตัวอาคาร

โถงล็อบบี้เน้นใช้โทนสีขาว-เทา-ดำ วัสดุพื้นผิวมันเงา เน้นความโมเดิร์น ตกแต่งด้วยผนังไม้เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศของทำเลย่านบางโพ ใช้ลวดลายแนวเส้นตรงสลับความถี่ห่างตกแต่งผนังทางเข้าลิฟต์

สวนบนชั้น 3 ของอาคารจอดรถ เล่นระดับกับความลาดเอียงและผสมผสานกับการออกแบบขั้นบันไดมีน้ำตกไหลผ่าน ทำให้การไหลของน้ำดูมีมิติมากขึ้น มีบ่อน้ำล้นที่ขอบอาคารให้น้ำไหลลงไปตามแนวผนังลงสู่พื้นชั้นล่าง ทางเดินซิกแซกในสวนก็ไว้ใช้เดินออกกำลังกายได้ มีซุ้มนั่งเล่นด้านข้างให้เป็นระยะ สุดทางเดินจะมีอาคารสำหรับพื้นที่ Play yard, Party room และ Study room

พื้นที่ Play yard จะมีโต๊ะปิงปอง, Air Hocky ไว้รอบรับกิจกรรมสำหรับทำร่วมกันในครอบครัว

ต่อกันที่สระว่ายน้ำ Infinity edge pool บนชั้น 40 และห้องกระจกด้านบนจะเป็นส่วนของ Sky Lounge ทั้งสองที่เน้นได้วิวโค้งน้ำเจ้าพระยา

มุม Leisure pool มีต้นไม้ขนาบ 2 ข้าง และตัวสระยื่นออกไปรับกับวิวแม่น้ำ มุมนี้จากภาพบรรยากาศจำลอง มโนว่าได้แช่น้ำเกาะขอบสระดูพระอาทิตย์ตกดินก็โรแมนติกดีนะคะ ^^

ปิดท้ายที่ Sky lounge บนชั้น 41 ได้วิวสระว่ายน้ำ และแม่น้ำเจ้าพระยาไปพร้อมๆ กัน

แปลนห้องดีไหม?

แปลนห้องของคอนโด Chapter One Flow Bangpo หลักๆ จะมีแบบ 1-2 ห้องนอน ขนาด 31.80 – 64.75 ตารางเมตร แบ่งเป็น 4 แบบ

• 1 Bedroom City View ขนาด 31.80 – 32.85 ตารางเมตร
• 1 Bedroom Exclusive River View ขนาด  43.20 – 43.85 ตารางเมตร
• 2 Bedroom River View ขนาด  49.65 ตารางเมตร
• 2 Bedroom Exclusive River View ขนาด  64.75 ตารางเมตร

• 1 Bedroom City View ขนาด 31.80 – 32.85 ตารางเมตร

มี 2 แบบย่อยค่ะ คือแบบ A1 และ A2 มีขนาดห้องใกล้เคียงกัน จัดวางแปลนออกมาเหมือนกัน ต่างกันที่ห้อง A2 จะได้ช่องหน้าต่างฝั่งผนังหัวเตียงเพิ่มมา 1 ชุด เนื่องจากเป็นห้องมุมอาคารนั่นเอง

การวางแปลนออกแบบให้ครัวเปิดอยู่ใกล้กับทางเข้าห้อง เชื่อมต่อพื้นที่กับส่วนนั่งเล่นที่จะมีระเบียงในตัว ด้านหลังโซฟาจะมีกระจกบานเลื่อนแบบ 3 ตอน สำหรับไว้กั้นพื้นที่ส่วนของห้องนอน ห้องน้ำของห้อง type นี้เข้าได้จากทางห้องนอนค่ะ  เมื่อเปิดกระจกที่กั้นระหว่างส่วนนั่งเล่น และส่วนห้องนอนแล้วก็จะทำให้ดูกว้าง ไม่มีมุมอับ เน้นให้พื้นที่พักผ่อนเชื่อมต่อถึงกัน มีทางเดินรอบเดินได้สบายๆ  และยังได้พื้นที่ระเบียงที่กว้างพอสำหรับวาง easy chair ไว้นั่งรับลมได้ชุดนึงเลย  ห้อง Type นี้จะไม่มีการแชร์ผนังกับห้องข้างๆ  ทำให้ส่วนตัวมากขึ้นค่ะ

Furniture Package ที่ได้มาพร้อมกับห้อง

1. ชั้นวางทีวี 1 ชุด
2. โซฟาผ้า และโต๊ะกลาง 1 ชุด
3. โต๊ะกินข้าวกลม 1 ตัวและเก้าอี้ 2 ตัว
4. ฐานเตียงและฟูกขนาด 5 ฟุต
5. ตู้ลิ้นชักข้างเตียง 1 ตัว
6. ตู้เสื้อผ้าบานเปิด หน้าบานเป็นกระจกสีดำและเฟรมอะลูมิเนียมสีดำ 1 ชุด
7. เคาน์เตอร์ครัว พร้อมติดตั้งเตาไฟฟ้า 2 หัว, เครื่องดูดควัน และอ่างล้างจาน
8. ตู้รองเท้า

• 1 Bedroom Exclusive River View ขนาด  43.20 – 43.85 ตารางเมตร

จะเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน และมีห้องอเนกประสงค์เพิ่มให้อีก 1 ห้องค่ะ  บางที่ก็เรียกห้องแบบนี้ว่า 1 Bedroom Plus ก็มีนะคะ  ซึ่งสเปซตรงนี้จะกั้นด้วยกระจก Full Height 3 ตอน  จึงน่าจะทำให้แสงธรรมชาติยังสามารถเข้ามาได้อยู่พอสมควรค่ะ

แปลนห้องจะมีรูปร่างค่อนไปทางสี่เหลี่ยมผืนผ้า แบ่งผนังกลางห้อง โดยฝั่งหนึ่งจัดให้เป็นพื้นที่สำหรับโต๊ะทานอาหารอยู่ใกล้กับทางเข้าห้อง ต่อกับพื้นที่นั่งเล่น และในสุดเป็นห้องอเนกประสงค์ ส่วนอีกฝั่งของแปลนจะเป็นห้องครัวแบบปิด ที่น่าสนใจคือสามารถเปิดประตูเข้าห้องน้ำได้จากทั้งในครัวและในห้องนอนด้วยค่ะ

Furniture Package ที่ได้มาพร้อมกับห้อง

1. ชั้นวางทีวี 1 ชุด
2. โซฟาผ้า และโต๊ะกลาง 1 ชุด
3. โต๊ะกินข้าวกลม 1 ตัวและเก้าอี้ 4 ตัว
4. ฐานเตียงและฟูกขนาด 5 ฟุต
5. ตู้ลิ้นชักข้างเตียง 2 ตัว
6. ตู้เสื้อผ้าบานเปิด หน้าบานเป็นกระจกสีดำและเฟรมอะลูมิเนียมสีดำ 1 ชุด
7. เคาน์เตอร์ครัว พร้อมติดตั้งเตาไฟฟ้า 2 หัว, เครื่องดูดควัน และอ่างล้างจาน
8. ตู้รองเท้า

• 2 Bedroom River View ขนาด  49.65 ตารางเมตร

แบบนี้จะเป็นห้องมุม ลักษณะผังห้องเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า กั้นผนังกลางห้องแบ่งฟังก์ชั่นการใช้งาน โดยจะมีครัวแบบปิดอยู่ติดกับทางเข้าห้อง ต่อด้วยพื้นที่วางโต๊ะทานอาหารและในสุดจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นที่มีระเบียงในตัว ส่วนของห้องนอนจะอยู่อีกฝั่งหนึ่งของแปลนโดยห้องนอนเล็กจะอยู่ตรงข้ามกับห้องครัว ห้องน้ำอยู่ตรงกลาง และห้องนอนใหญ่จะอยู่ในสุด ห้องน้ำมีประตู 2 บาน เข้าได้จากทางห้องนอนใหญ่และจากโถงทางเดิน

Furniture Package ที่ได้มาพร้อมกับห้อง

1. ชั้นวางทีวี 1 ชุด
2. โซฟาผ้า และโต๊ะกลาง 1 ชุด
3. โต๊ะกินข้าวกลม 1 ตัวและเก้าอี้ 4 ตัว
4. ฐานเตียงและฟูกขนาด 5 ฟุต
5. ตู้ลิ้นชักข้างเตียง 2 ตัว
6. ตู้เสื้อผ้าบานเปิด หน้าบานเป็นกระจกสีดำและเฟรมอะลูมิเนียมสีดำ 1 ชุด
7. เคาน์เตอร์ครัว พร้อมติดตั้งเตาไฟฟ้า 2 หัว, เครื่องดูดควัน และอ่างล้างจาน
8. ตู้รองเท้า

• 2 Bedroom Exclusive River View ขนาด  64.75 ตารางเมตร

การวางผังของห้องแบบ 2 Bedroom Exclusive จะคล้ายกับห้อง 2 Bedroom ธรรมดาค่ะ ต่างกันตรงที่จะได้พื้นที่ห้องเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 15 ตร.ม. ทำให้ระยะความกว้างในห้องของแต่ละพื้นที่นั้นมากขึ้น  พื้นที่ใช้งานในแต่ละส่วนกว้างและใช้งานได้สบายขึ้น แบบนี้มีห้องน้ำ 2 ห้อง  โดยห้องนอนใหญ่ก็จะมีห้องน้ำในตัว ไม่ต้องใช้แชร์กับห้องนอนเล็ก ห้องน้ำสำหรับห้องนอนเล็กจะมีประตูเข้าได้ 2 ทางคือจากห้องนอนเล็กและจากโถงทางเดิน

Furniture Package ที่ได้มาพร้อมกับห้อง

1. ชั้นวางทีวี 2 ชุด
2. โซฟาผ้า, เบาะนั่ง และโต๊ะกลาง 1 ชุด
3. โต๊ะกินข้าวสี่เหลี่ยม 1 ตัวและเก้าอี้ 4 ตัว
4. ฐานเตียงและฟูกขนาด 5 ฟุต 2 ชุด
5. ตู้ลิ้นชักข้างเตียง 3 ตัว
6. ตู้เสื้อผ้าบานเปิด หน้าบานเป็นกระจกสีดำและเฟรมอะลูมิเนียมสีดำ 2 ชุด
7. เคาน์เตอร์ครัว พร้อมติดตั้งเตาไฟฟ้า 4 หัว, เครื่องดูดควัน และอ่างล้างจาน
8. ตู้รองเท้า

เปิดห้อง มองสเปซ : Focus on “SPACE” and “DIMENSION”

ห้องตัวอย่างที่มีให้ดูจะมี 3 แบบนะคะ คือ แบบ 1 Bedroom, 1 Bedroom Exclusive และ 2 Bedroom Exclusive ความสูงของฝ้าโดยทั่วไปจะอยู่ที่ 2.7 เมตร ห้องน้ำฝ้าสูง 2.4 เมตร, ห้องครัวแบบเปิดฝ้าสูง 2.5 เมตร และห้องครัวแบบปิดฝ้าสูง 2.4 เมตร วัสดุพื้นฐานของห้องให้มาในเกณฑ์มาตรฐาน พื้นปูด้วยไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ผนังห้องฉาบเรียบทาสีขาว สำหรับครัว ห้องที่เป็นครัวปิดจะปูพื้นแยกวัสดุจากส่วนพักผ่อนให้เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้แผ่นใหญ่สีครีม ส่วนห้องน้ำและระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิค

เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ จะแถมให้แบบ Fully Furnished คือได้ทั้งโซฟา ชุดโต๊ะทานอาหาร เตียงนอนพร้อมฟูก ตู้เสื้อผ้าบิลท์อิน เคาน์เตอร์ในห้องครัว เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน และได้เครื่องปรับอากาศของซัมซุง (Inverter)

CHAPTER ONE FLOW BANGPO

ห้องตัวอย่าง 1 Bedroom ขนาด 31.80 – 32.85 ตร.ม. 

เมื่อเปิดประตูเข้าห้องมาจะเป็นพื้นที่ของครัวแบบเปิด เชื่อมต่อกับพื้นที่ส่วนนั่งเล่น

พื้นที่นั่งเล่นมีระเบียงในตัว ส่วนห้องนอนจะอยู่หลังโซฟากั้นพื้นที่ด้วยประตูกระจกใสบานเลื่อน 3 ตอน ห้องนี้จะได้แสงเข้าพื้นที่พักผ่อนทั้งสองส่วนเต็มที่

เคาน์เตอร์ครัวจะถูกบิลท์อินไว้ที่ผนังข้างประตูทางเข้า มีให้ทั้งตู้บนและตู้ล่าง ฟังก์ชั่นเป็นตู้บานเปิด ลิ้นชัก และช่องโล่งครบถ้วนเลย ได้ชุดครัวออกมาเหมือนห้องตัวอย่างค่ะ ยกเว้นกระจกเงาสีดำตรงผนังหลังเคาน์เตอร์กับไฟใต้ตู้แขวน ซึ่งจะได้เป็นผนังฉาบเรียบทาสีขาวแทน

อ่างล้างจานแบบ 1 หลุมพร้อมก๊อกน้ำแบบก้านโยกของ MEX และเตาไฟฟ้า 2 หัว พร้อมเครื่องดูดควันของ MEX อีกเช่นกัน

ในลิ้นชักใต้เตามีถาดสำหรับเก็บช้อนซ่อมให้ด้วยนะคะ ใส่ใจในรายละเอียดดี

ผนังฝั่งตรงข้ามกับเคาน์เตอร์ครัวจะมีบิลท์อินตู้รองเท้าอยู่ติดกับช่องตู้สำหรับวางตู้เย็น ถือว่าให้ฟังก์ชั่นมาครบถ้วนค่ะ

โต๊ะทานอาหารจะเป็นโต๊ะกลมปิดผิวด้วยลามิเนตลายไม้ ขาโต๊ะเป็นไม้สีเทาเข้ม ส่วนเก้าอี้ไม้จะได้แบบนี้เลย ที่นั่งเป็นเบาะหุ้มด้วยผ้าสีเทา …ลองนั่งดูแล้วค่ะ เบาะนุ่นกำลังดี โดยส่วนตัวชอบเก้าอี้นะคะ และคิดว่ามันดูสวยกว่าโต๊ะ 😛

พื้นที่นั่งเล่นจะติดกับระเบียง เลยได้แสงเข้าเต็มที่ ระยะหน้าโซฟาถึงตู้วางทีวีกว้างเต็มทางเดินไประเบียงเลย เดินสวนกันได้สบายค่ะ อ้อ! ห้องนี้จะได้แอร์ 2 ชุดนะคะ คือติดตั้งสำหรับห้องนั่งเล่น 1 ตัวและในห้องนอนอีก 1 ตัว ของซัมซุง เป็นแอร์ Inverter คือจะมีระบบช่วยประหยัดไฟ ทำความเย็นได้เร็ว และรักษาระดับความเย็นให้สม่ำเสมอ (ไม่เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาวเหมือนแอร์ธรรมดา)

ชุดเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวสำหรับส่วนนั่งเล่นจะได้เหมือนที่โชว์ในห้องตัวอย่างค่ะ คือโซฟาผ้าขาไม้ พร้อมโต๊ะกลาง และตู้วางทีวี

เดินผ่านส่วนนั่งเล่นมาดูระเบียงที่อยู่ติดกันหน่อย ระเบียงถือว่าให้มากว้างขวางเดินไปมาสบายเลยค่ะ ส่วนนี้ด้านบนจะแขวนคอมเพรสเซอร์แอร์ โดยเป่าลมร้อนออกด้านนอก พื้นที่ด้านล่างเตรียมก๊อกน้ำ ปลั๊กไฟ และรูระบายน้ำไว้ให้ สำหรับวางเครื่องซักผ้าค่ะ ซึ่งจะมีเฉพาะห้อง Type นี้ที่เตรียมพื้นที่วางเครื่องซักผ้าไว้ที่ระเบียงห้อง ห้องแบบอื่นๆ จะออกแบบให้วางใต้เคาน์เตอร์ครัวได้เลย

พื้นที่ระเบียงอีกฝั่งออกแบบให้มีขยักราวระเบียงยื่นออกไปอีกประมาณ 20 ซม. ทำให้ได้พื้นที่ระเบียงที่กว้างขึ้น และได้มุมมองในการรับวิวด้านนอกที่กว้างขึ้นอีก วัสดุราวระเบียงเป็นเหล็กกล่องพ่นสีดำ มีขอบพื้นยกสูงทางฝั่งริมระเบียงกันน้ำไหลออกไปโดนห้องด้านล่าง และพื้นระเบียงต่ำกว่าพื้นห้องอยู่ประมาณ 5 ซม. วัสดุปูพื้นเป็นกระเบื้องสีเทาผิวด้าน ขนาด 30 x 30 ซม. ผนังด้านข้างทาด้วยสีเขียวขี้ม้าเฉดอ่อน

มาดูในส่วนของห้องนอนที่อยู่ด้านหลังโซฟาห้องนั่งเล่นกันบ้าง จะเห็นว่าทางเดินไปยังห้องนอนเหลือพื้นที่กว้างเกือบ 2 เมตรกันเลยทีเดียว ซึ่งห้องนี้จะมีแบบห้องมาตรฐานและห้องมุม ห้องมุมจะได้กระจกรับแสงและเปิดระบายอากาศได้เพิ่มให้ที่ผนังหัวเตียงข้างตู้เสื้อผ้าเหมือนในรูปค่ะ ห้องมาตรฐานจะต่างแค่ตรงที่ไม่ได้ช่องแสงส่วนนี้ สำหรับห้องน้ำจะอยู่ทางซ้ายมือข้างตู้เสื้อผ้า

ช่องรับแสงหลักๆ ของห้องจะมาจากทางผนังข้างเตียงนอนค่ะ ทางเดินปลายเตียงเหลือประมาณ 70 ซม.

มุมมองจากห้องนอนไปทางฝั่งห้องนั่งเล่น จะมีประตูกระจกบานเลื่อนสามตอนกั้นพื้นที่ให้ สูงเต็มความสูงฝ้าเลย เฟรมอะลูมิเนียมสีดำค่อนข้างหนักไปหน่อยแต่ได้ความแข็งแรงดีมากค่ะ สำหรับผนังทีวี ห้องจริงที่จะได้จะไม่มีชั้นวางของบิลท์อินแบบในห้องตัวอย่างนะคะ เหลือพื้นที่ผนังทาสีขาวไว้ให้ตกแต่งเพิ่มเองตามสไตล์ความชอบแต่ละคน

รางบานเลื่อนจะเป็นรางติดลอยทั้งบนพื้น ผนัง และบนฝ้า พื้นห้องปูด้วยลามิเนตลายไม้หนา 8 มม.

มือจับบานกระทุ้ง แข็งแรงและจับถนัดมือดีค่ะ

ห้องน้ำวางผังให้อ่างล้างหน้าอยู่กลางห้องตรงกับทางเข้าพอดี ซ้ายมือจะเป็นโถสุขภัณฑ์ และขวาเป็นพื้นที่ส่วนเปียกสำหรับอาบน้ำ

พื้นที่ส่วนอาบน้ำจะมีขอบพื้นกันน้ำไหลให้สูงประมาณ 5 ซม. โดยห้องจริงที่ได้จะไม่มีติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำให้นะคะ ส่วนนี้คงต้องเพิ่มเติมเองตามชอบว่าชอบเป็นผ้าม่านกั้นหรือเป็นกระจกกั้นแบบนี้

ชุดสุขภัณฑ์ของ COTTO

ชุดอ่างล้างหน้าพร้อมตู้เก็บของบานเปิดใต้อ่าง กระจกเงาจะได้เหมือนในห้องตัวอย่างเลยค่ะ แต่จะไม่มีไฟซ่อนด้านหลังกระจกให้

ชุดฝักบัวแบบกลม มีราวปรับระดับและถาดสบู่มาให้ครบ

จะมีขอบพื้นกันน้ำไหลจากส่วนอาบน้ำให้สูง 5 ซม. และธรณีประตูห้องน้ำก็สูง 5 ซม.เช่นกัน พื้นเป็นกระเบื้องเซรามิคสีครีมแผ่นใหญ่ 60 x 60 ซม. ส่วนไฟในห้องน้ำจะมี 2 ชุดคือดาวน์ไลท์กลมแบบฝังในฝ้ากับไฟพร้อมเครื่องดูดอากาศในตัวทรงกลมแบบในรูปค่ะ คือเปิดไฟใช้ห้องน้ำ ระบบดูดอากาศก็จะเปิดทำงานพร้อมกันอัตโนมัติ

CHAPTER ONE FLOW BANGPO

ห้องตัวอย่าง 1 Bedroom Exclusive ขนาด 43.20 – 43.85 ตร.ม. 

ห้องนี้จะเริ่มวางฟังก์ชั่นให้เป็นพื้นที่สำหรับโต๊ะทานอาหาร ตรงกลางจะเป็นส่วนนั่งเล่น และห้องอเนกประสงค์จะอยู่ในสุด ผนังทางฝั่งขวามือจะกั้นพื้นที่สำหรับห้องครัว ห้องน้ำ และห้องนอนตามลำดับ

จากมุมโต๊ะทานอาหารหันกลับมามองผนังอีกฝั่งใกล้ประตูทางเข้าห้อง จะเป็นตู้รองเท้าบิลท์อิน และทางเข้าห้องครัว ซึ่งครัวของห้องนี้จะเป็นแบบปิด ห้องจริงที่ได้จะมีประตูเจาะช่องกระจกให้

เดินเข้ามาดูห้องครัวก่อนเลยค่ะ เคาน์เตอร์ครัวจะบิลท์อินเต็มผนังหนึ่งด้าน มีตู้เก็บของเป็นช่องเปิดพร้อมทำชั้นปรับระดับให้อีก 6 ชั้นด้วย พื้นที่ที่เหลือจะเว้นไว้ให้สำหรับวางตู้เย็น

ตู้ครัวก็จะมีให้ทั้งช่องตู้บานเปิด ช่องโล่งสำหรับวางไมโครเวฟ และตู้ลิ้นชัก ห้องนี้เคาน์เตอร์ครัวจะเพิ่มช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้าให้ ทำให้ได้ตู้ด้านบนเพิ่มอีก 1 ชุดและท็อปครัวที่กว้างขึ้นอีก 60 ซม.

อ่างล้างจานแบบ 1 หลุม และชุดเตาไฟฟ้า 2 หัวพร้อมเครื่องดูดควันของ MEX

ห้องครัวแบบปิด แยกวัสดุปูพื้นส่วนนี้เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้แผ่นใหญ่ขนาด 60 x 60 ซม. ให้ด้วย มีวัสดุปิดรอยต่อพื้นไม้ลามิเนตกับพื้นกระเบื้องส่วนพื้นที่พักผ่อน และมีขอบพื้นปูน 5 ซม. กั้นระหว่างพื้นห้องน้ำให้

ห้องน้ำสามารถเข้าได้จากทางห้องครัวและห้องนอน มุมมองนี้จะเป็นมุมที่เข้ามาจากทางห้องครัว เจอกับทางเดินกลางห้องก่อน ส่วนอาบน้ำจะอยู่ทางด้านซ้ายมือตรงข้ามกับโถสุขภัณฑ์ ประตูทางเข้าจากทางห้องนอนจะอยู่ตรงข้ามกับอ่างล้างหน้า

มุมมองนี้เป็นการเข้ามาจากทางห้องนอน ซึ่งจะเจอกับอ่างล้างหน้าก่อน

เดินย้อนกลับออกมาจากทางห้องครัว มาดูที่ส่วนนั่งเล่นกันค่ะ ทางเดินหน้าโซฟากว้างดี ห้องอเนกประสงค์จะอยู่ในสุดกั้นออกจากพื้นที่นั่งเล่นด้วยประตูกระจกสูงชนฝ้าบานเลื่อน 3 ตอน วัสดุเป็นเฟรมอะลูมิเนียมสีดำกับกระจกใส จะเปิดเชื่อมห้องอเนกประสงค์กับส่วนนั่งเล่นให้เป็นพื้นที่พักผ่อนคนละมุม หรือจะกั้นเพื่อต้องการความเป็นส่วนตัวก็ได้

ช่องประตูที่ผนังทางขวาถัดจากตู้วางทีวี เป็นประตูเข้าห้องนอนค่ะ

จากหน้าประตูเข้าห้องนอน มองย้อนกลับมาทางฝั่งโซฟาและโต๊ะทานอาหารอีกหน่อย ห้องจริงที่ได้จะเป็นผนังเรียบทาสีขาวไว้ให้นะคะ เราจะตกแต่งตรงนี้เพิ่มบรรยากาศหรือบิลท์อินตู้เก็บของเก๋ๆ ก็ยังมีพื้นที่พอทำได้หลายไอเดียเลย

ตู้วางทีวีและโซฟาจะได้ลักษณะเหมือนของห้อง 1 Bedroom ที่เราเพิ่งดูไป  แต่สีผ้าของโซฟาจะได้เป็นสีเทาอ่อนค่ะ ในห้องตัวอย่างออกแบบให้เข้ากับบรรยากาศโดยรวมเลยหุ้มเป็นผ้าสีเหลือง ส่วนโต๊ะข้างโซฟาจะได้แบบนี้เลย เป็นโต๊ะกระจกสี่เหลี่ยม ขาเหล็กสีดำ สอดขาเข้าใต้โซฟาได้

ห้องนี้จะได้โต๊ะทานอาหารแบบกลมและเก้าอี้อีก 4 ตัวค่ะ

ห้องอเนกประสงค์จะได้ช่องแสงจากทั้งผนังกระจกบานติดตายและมีบานกระทุ้งไว้เปิดระบายอากาศได้อีก 1 บาน ห้องนี้จะได้เป็นห้องเปล่านะคะ ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ใดๆ ให้ สามารถตกแต่งห้องอเนกประสงค์ได้ตามชอบกันเลย ซึ่งถ้าไม่มีตู้บิลท์อินที่ผนังฝั่งขวาแบบห้องตัวอย่างก็จะทำให้ห้องกว้างขึ้นกว่านี้อีก ทางโครงการจะไม่ได้ติดตั้งแอร์ในห้องนี้ให้นะคะ แต่มีการเตรียมระบบท่อแอร์ไว้ให้แล้ว ถ้าจะติดเพิ่มก็ทำได้ หรือถ้าไม่ติดก็ใช้แอร์ตัวเดียวกันกับของห้องนั่งเล่นได้ค่ะ เพราะมีการคำนวณ BTU ให้ครอบคลุมการทำความเย็นทั้งในส่วนของห้องนั่งเล่นรวมไปถึงห้องอเนกประสงค์แล้ว

ความกว้างของห้องเหมาะทำเป็นห้องทำงานหรือทำเป็นห้องนอนเล็กรับแขกได้ น่าจะวางเดย์เบด (Daybed) หรือ โซฟากึ่งเตียงนอนสวยๆ รองรับฟังก์ชั่นการใช้งานและยังรับกับระดับสายตาพอดีในการเปิดประตูเข้าห้องด้วย โซฟาเดย์เบดจะมีขนาดความยาวมากกว่าโซฟาทั่วไปเล็กน้อย สามารถใช้งานได้ทั้งเป็นโซฟาสำหรับนั่งพักผ่อน และยังเป็นเตียงนอนได้ในตัวด้วยค่ะ

รางบานเลื่อนจะติดตั้งบนพื้น ผนัง และฝ้าเลย ไม่ได้มีการฝังราง ส่วนพื้นห้องก็จะปูด้วยลามิเนตลายไม้ 8 มม.

พอออกมาจากห้องอเนกประสงค์ ห้องทางขวามือจะเป็นห้องนอน มีระเบียงในตัว

ด้านข้างเตียงจะมีตู้เสื้อผ้าบิลท์อินติดตั้งไว้ให้ เป็นตู้บานเปิด 3 ตอน หน้าบานใช้กระจกสีดำในกรอบเฟรมอะลูมิเนียมสีดำ ทำให้ดูโมเดิร์นขึ้น

ห้องน้ำอยู่หลังผนังที่ติดตั้งตู้เสื้อผ้า ทางเดินหน้าห้องน้ำกว้างพอสำหรับบิลท์อินตู้เก็บของเพิ่มหรือจะวางโต๊ะแต่งตัวได้นะคะ

ทางเดินรอบเตียงกว้างไม่ต่ำกว่า 40 ซม. ค่ะ เดินสบายๆ ไม่ต้องสไลด์ตัว ^^

ปิดท้ายกันด้วยระเบียง อยู่ติดกับส่วนของห้องนอน กว้างประมาณ 1.2 เมตร วางชุดโต๊ะเก้าอี้นั่งเล่นหรือเก้าอี้ easy chair ไว้นั่งเอนหลังอ่านหนังสือรับลมชิลล์ๆ กันได้เลย หรือจะจัดสวนเก๋ๆ แทนก็ยังไหวนะคะเนี่ย ไม่ได้กว้างมากแต่ก็อยู่ในระยะที่ออกแบบเพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งานได้หลากหลายพอสมควร

อีกด้านของความยาวระเบียงจะเป็นพื้นที่สำหรับแขวนคอมเพรสเซอร์แอร์และด้านล่างใช้สำหรับวางหรือติดตั้งราวตากผ้าได้

ผนังด้านที่หันคอมเพรสเซอร์แอร์เป่าลมร้อนออก จะเป็นขอบปูนครึ่งหนึ่งและเป็นราวเหล็กอีกครึ่งหนึ่ง ช่วยบังความไม่เรียบร้อยของคอมเพรสเซอร์แอร์จากการมองมาจากข้างนอก การระบายความร้อนได้ดี พอผนังโปร่งไม่ทึบตันก็จะไม่ตีลมร้อนกลับเข้ามาในห้องและพื้นที่ระเบียง

CHAPTER ONE FLOW BANGPO

ห้องตัวอย่าง 2 Bedroom Exclusive ขนาด 64.75 ตร.ม. 

ห้องนี้จะเป็นห้องขนาดใหญ่สุดของโครงการนี้ค่ะ เปิดประตูเข้ามาซ้ายมือจะเป็นห้องกระจกของส่วนครัวปิด ตรงไปจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นติดกับระเบียง ส่วนผนังทางขวามือจะเป็นห้องนอนเล็ก, ห้องน้ำ 2 ห้อง, และในสุดจะเป็นห้องนอนใหญ่

หมุนตัวดูผนังข้างทางเข้าหน่อยจะมีตู้รองเท้าบิลท์อินให้แบบในห้องตัวอย่างเลยทั้งตู้บนและตู้ล่าง  และซ่อนไฟในตู้ให้ด้วยนะคะ  เวลามีไฟ Indirect Light แบบนี้ก็ทำให้บรรยากาศห้องดูน่าอยู่ขึ้นเยอะ

ฝั่งตรงข้ามกับตู้รองเท้าเป็นห้องนอนเล็กซึ่งจะมีประตูเข้าห้องน้ำจากในห้องนี้ได้ทางฝั่งซ้ายมือ  โดยห้องน้ำห้องนี้เข้าได้จากทั้งทางห้องนอนเล็ก และโถงทางเดินหน้าห้องนะคะ

ห้องนอนเล็กแต่ก็ได้มาขนาดกำลังดี วางเตียง 5 ฟุตได้สบาย ซึ่งห้องนี้จะได้เตียงพร้อมฟูก โต๊ะหัวเตียง 1 ตัว และตู้เสื้อผ้า 1 หลัง …อ้อ! มีแอร์ติดตั้งให้ด้วยค่ะ ครบถ้วนฟังก์ชั่นพื้นฐาน

ตู้เสื้อผ้าจะถูกบิลท์ให้ที่ผนังข้างเตียงฝั่งตรงข้ามกับช่องหน้าต่าง

ทางเดินรอบเตียงประมาณ 30-40 ซม. ถ้าติดทีวีที่ผนังปลายเตียงอาจจะทำให้เหลือทางเดินแคบไปนิดนะคะเนี่ย

มุมมองนี้จะเป็นตำแหน่งที่เปิดประตูเข้ามาจากทางห้องนอนเล็ก จะเจอกับอ่างล้างหน้าพอดี ถัดไปทางขวาจะเป็นโถสุขภัณฑ์และส่วนอาบน้ำอยู่ในสุด

มุมนี้จะเป็นมุมที่เข้ามาจากทางเดินหน้าห้อง ช่องประตูทางขวามือคือเข้ามาจากห้องนอนเล็ก

ออกมาจากห้องนอนเล็กและห้องน้ำ ดูครัวที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกันต่อค่ะ ห้องนี้จะได้ห้องครัวแบบปิด แต่เก๋ตรงที่เป็นประตูบานเลื่อน 2 บาน 2 ชุดเลื่อนมาชนเข้ามุมกัน เวลาทำครัวก็ปิดประตูกันกลิ่นและเสียงรบกวนพื้นที่พักผ่อน การใช้ประตูแบบนี้ทำให้สเปซของส่วนนี้ดูไม่ทึบตัน ไม่รู้สึกอึดอัดทั้งคนใช้พื้นที่ส่วนพักผ่อนและคนทำครัวค่ะ

ถ้าเปิดประตูออกก็จะได้สเปซลักษณะนี้ เคาน์เตอร์ครัวของห้องนี้บิลท์อินมาแบบเข้ามุม เลยได้ตู้และพื้นที่ท็อปครัวเยอะ มีช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้าและตู้เย็นด้วย ทำให้พื้นฐานงานบ้านถูกจัดเป็นสัดส่วนจบในห้องนี้ทั้งหมด

ด้วยความที่เป็นห้องใหญ่ 2 ห้องนอน ทำให้ได้ชุดครัวที่ใหญ่ขึ้น ได้เตาไฟฟ้า 4 หัว พร้อมเครื่องดูดควัน และมีอ่างล้างจานแบบ 1 หลุม เพิ่มพื้นที่ถาดวางพักจานด้านข้างด้วย ของ MEX

รางบานเลื่อนจะชนเข้ามุมฉากกันแบบนี้ ฝ้าที่ดรอปลงมาคือฝ้าจริงที่จะได้เลยนะคะ เพราะเป็นส่วนที่ต้องซ่อนงานระบบนั่นเอง พื้นห้องครัวแยกวัสดุปูพื้นเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้สีครีมให้ พื้นห้องเป็นลามิเนตลายไม้หนา 8 มม.

ลักษณะการชนกันของเฟรมเข้ามุม บานนึงจะทับสันของอีกบาน ไม่ได้ชนสนิทกันซะทีเดียวนะคะ มือจับก็จะไม่มีระบบล็อค คือปิดเพื่อกันกลิ่นและเสียงบางส่วนเท่านั้น ไม่ถึงขนาดต้องปิดมิดชิด

จากมุมมองภายในห้องครัว มองออกไปทางฝั่งห้องนั่งเล่น จะเห็นประตูเข้าห้องนอนใหญ่อยู่ข้างผนังทีวี

ส่วนพักผ่อนจะเป็นการใช้พื้นที่ร่วมกันของโต๊ะทานอาหารและส่วนนั่งเล่น ห้องจริงที่จะได้จะได้พื้นที่ผนังหลังโซฟาเพิ่มอีกนะคะเพราะห้องตัวอย่างมีการบิลท์อินตู้ เลยใช้พื้นที่บางส่วนไปสำหรับความหนาตู้ ซึ่งจะพอดีกับระดับฝ้าดรอปด้านบนพอดีที่เป็นส่วนซ่อนงานระบบของห้องนี้ สำหรับคนที่อยากให้ห้องกว้างขึ้นก็ไม่ต้องบิลท์อินอะไรเพิ่ม แต่ถ้าไม่อยากให้เห็นฝ้าดรอปก็ทำตู้แบบห้องตัวอย่างได้ค่ะ ได้ที่เก็บของเพิ่มด้วย

โซฟาผ้าได้แบบและความยาวนี้เลยค่ะ ยาวกว่าของห้อง 1 Bedroom และมีโต๊ะกลมให้ด้วยอีก 1 ตัว

เก้าอี้ทานข้าวและโซฟาจะบุด้วยผ้าสีเทา ผ้าหนาและนั่งสบายดีค่ะ

ส่วนนั่งเล่นจะติดกับระเบียง พื้นที่กว้างพอวางโต๊ะไว้จิบชารับลมได้ 1 ชุดเลย แต่เฟอร์นิเจอร์ชุดนี้สำหรับโชว์ในห้องตัวอย่างเท่านั้นนะคะ ห้องจริงจะได้เป็นระเบียงเปล่าๆ จะได้ดีไซน์เป็นสวนหรือพื้นที่นั่งเล่นตามชอบแต่ละคน

ขอบราวระเบียงที่ยื่นออกไปจากขอบผนัง ช่วยทำให้ได้มุมมองวิวที่กว้างขึ้นอีก

กริลเหล็กสำหรับบังสายตาพื้นที่ติดตั้งคอมเพรสเซอร์แอร์จะยาวจากพื้นชนฝ้าค่ะ เนื่องจากห้องนี้มีจำนวนแอร์ติดตั้งหลายตัว คอมเพรสเซอร์แอร์ก็จะมีหลายตัวตามไปด้วย กริลแนวยาวจะช่วยให้ลมร้อนเป่าออกด้านนอกได้เต็มที่ค่ะ

ตรงข้ามกับห้องนั่งเล่นจะเป็นห้องนอนใหญ่ ห้องนี้จะมีห้องน้ำในตัว ไม่ต้องใช้แชร์กับส่วนอื่น

ผนังด้านข้างเตียงเป็นกระจกบานใหญ่เกือบเต็มหน้ากว้างผนัง เลยทำให้แสงเข้าห้องนี้ได้เยอะ และดูวิวได้เต็มที่

ผนังข้างเตียงอีกด้านจะเป็นส่วนของห้องน้ำ ผนังหน้าห้องน้ำจะมีบิลท์อินตู้เสื้อผ้าให้ 1 ชุด ซึ่งจริงๆ แล้วถ้าสาวๆ ของเยอะจะทำตู้เพิ่มเป็นตัว L เข้ามุมหน้าห้องน้ำได้นะคะ หรือจะวางชุดโต๊ะแต่งตัวแทนก็ได้ (กระจกบานสูงที่ติดตั้งหน้าห้องน้ำเป็นของตกแต่งสำหรับห้องตัวอย่างนะคะ ห้องจริงจะไม่ได้แบบนี้)

ประตูห้องน้ำอยู่ตรงกับอ่างล้างหน้าพอดี ถัดไปเป็นโถสุขภัณฑ์และส่วนอาบน้ำจะอยู่ขวาสุดของห้อง และด้วยความที่ห้องนี้เป็นห้องมุมเลยจะมีกระจกบานกระทุ้งไว้เปิดระบายอากาศเหนือโถสุขภัณฑ์ให้ด้วยค่ะ

พื้นที่ส่วนเปียกสำหรับอาบน้ำจะอยู่ในสุด และไม่ได้มีฉากกระจกกั้นส่วนอาบน้ำให้ ต้องติดตั้งเพิ่มเองทุกห้อง

 เปิดกระเป๋า  ดูสตางค์

วันที่เราเข้าไปรีวิวช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 2561 ราคาเริ่มต้นคอนโด Chapter One Flow บางโพ ห้อง 1  Bedroom ราคาเริ่มต้นที่ 2.59 ล้านบาท ส่วนราคาเฉลี่ยสำหรับห้อง City View เริ่มที่ 81,000 บาท/ตร.ม. เฉลี่ยที่ 88,000 บาท/ตร.ม. ค่ะ  ส่วนฝั่งห้อง River View  ราคาเฉลี่ยเริ่มที่ 90,000 บาท/ตร.ม. เฉลี่ยทั้งหมดที่ 98,000 บาท/ตร.ม. ค่ะ ก็จะสูงขึ้นอีกหน่อยตามปกติของคอนโดที่เน้นขายวิวแม่น้ำเจ้าพระยาหล่ะนะ

ราคา ณ วันที่  24 กรกฎาคม 2561

ราคาเริ่มต้น :

• 1 Bedroom City View ขนาด 31.80 – 32.85 ตารางเมตร  >>  ราคาเริ่มต้น 2.59 ล้านบาท
• 1 Bedroom Exclusive River View ขนาด  43.20 – 43.85 ตารางเมตร  >>  ราคาเริ่มต้น 3.9 ล้านบาท
• 2 Bedroom River View ขนาด  ขนาด  49.65 ตารางเมตร  >>  ราคาเริ่มต้น 5.0 ล้านบาท
• 2 Bedroom Exclusive River View ขนาด  64.75 ตารางเมตร  >>  ราคาเริ่มต้น 6.6 ล้านบาท

เงื่อนไขการจอง :

• เงินจอง

N/A

• ผ่อนดาวน์

N/A

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :

ค่าส่วนกลาง 55 บาท/ตร.ม.  (ชำระล่วงหน้า 2 ปี)
ค่ากองทุนเริ่มแรก (Sinking Fund) 500 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)

ประมาณอัตราการผ่อน (คิดจากราคาเริ่มต้นด้านบน) 

(เพื่อให้เห็นกรอบของค่าใช้จ่ายคร่าวๆและนำไปวางแผนประมาณการของแต่ละคน  ถึงไม่ได้ซื้อห้องที่ยกมาเป็นตัวอย่างก็ใช้ตัวเลขได้ ซึ่งผมประมาณการอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าปกติหน่อย  เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรองรับความสามารถในการผ่อน  รวมถึงให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆที่เกิดขึ้น  เช่น  ค่าส่วนกลาง ไปด้วยในตัว) :

บนสมมติฐาน กู้  90% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 30 ปี

• 1 Bedroom  ราคาเริ่ม 2.59 ลบ.  –  ผ่อนประมาณ 14,654 บาท/เดือน
• 1 Bedroom Exclusive  ราคาเริ่ม 3.9 ลบ.  –  ผ่อนประมาณ 22,190 บาท/เดือน
• 2 Bedroom  ราคาเริ่ม 5.0 ลบ.  –  ผ่อนประมาณ 28,450 บาท/เดือน
• 2 Bedroom Exclusive  ราคาเริ่ม 6.6 ลบ.  –  ผ่อนประมาณ 37,550 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  90% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 25 ปี

• 1 Bedroom  ราคาเริ่ม 2.59 ลบ.  –  ผ่อนประมาณ 15,654 บาท/เดือน
• 1 Bedroom Exclusive  ราคาเริ่ม 3.9 ลบ.  –  ผ่อนประมาณ 23,700 บาท/เดือน
• 2 Bedroom  ราคาเริ่ม 5.0 ลบ.  –  ผ่อนประมาณ 30,390 บาท/เดือน
• 2 Bedroom Exclusive  ราคาเริ่ม 6.6 ลบ.  –  ผ่อนประมาณ 40,110 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  90% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 20 ปี

• 1 Bedroom  ราคาเริ่ม 2.59 ลบ.  –  ผ่อนประมาณ  17,825 บาท/เดือน
• 1 Bedroom Exclusive  ราคาเริ่ม 3.9 ลบ.  –  ผ่อนประมาณ 26,170 บาท/เดือน
• 2 Bedroom  ราคาเริ่ม 5.0 ลบ.  –  ผ่อนประมาณ 33,550 บาท/เดือน
• 2 Bedroom Exclusive  ราคาเริ่ม 6.6 ลบ.  –  ผ่อนประมาณ 44,290 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  90% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 15 ปี

• 1 Bedroom  ราคาเริ่ม 2.59 ลบ.  –  ผ่อนประมาณ 20,196 บาท/เดือน
• 1 Bedroom Exclusive  ราคาเริ่ม 3.9 ลบ.  –  ผ่อนประมาณ 30,580 บาท/เดือน
• 2 Bedroom  ราคาเริ่ม 5.0 ลบ.  –  ผ่อนประมาณ 39,200 บาท/เดือน
• 2 Bedroom Exclusive  ราคาเริ่ม 6.6 ลบ.  –  ผ่อนประมาณ 51,750 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  90% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี/ ระยะเวลา 10 ปี

• 1 Bedroom  ราคาเริ่ม 2.59 ลบ.  –  ผ่อนประมาณ 26,325 บาท/เดือน
• 1 Bedroom Exclusive  ราคาเริ่มต้น 3.9 ลบ.  –  ผ่อนประมาณ 39,860 บาท/เดือน
• 2 Bedroom  ราคาเริ่ม 5.0 ลบ.  –  ผ่อนประมาณ 51,100 บาท/เดือน
• 2 Bedroom Exclusive  ราคาเริ่ม 6.6 ลบ.  –  ผ่อนประมาณ 67,450 บาท/เดือน

Overview Summary

ด้านการเดินทาง

ด้านการเดินทางเข้าออกโครงการ Chapter One Flow Bangpo บนถนนประชาราษฎร์สาย 1 สำหรับคนใช้รถยนต์ส่วนตัวถือได้ว่าสะดวกสุดค่ะ เพราะสามารถขึ้นใช้ทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอกที่ด่านสะพานพระราม 7 ที่อยู่ห่างจากหน้าโครงการออกไปประมาณ 600 เมตร ส่วนคนที่ใช้รถไฟฟ้าก็จะมีสถานีเตาปูนเป็นสถานี Interchange ระหว่างสายสีน้ำเงินและสายสีม่วง ตั้งอยู่ที่แยกเตาปูน แต่ไกลเกิน 1 กม. ต้องพึ่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างอีกต่อนึง อันนี้สำหรับการเดินทางไปชมโครงการในปีนี้นะคะ ปีหน้าพอส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ – ท่าพระ เปิดให้ใช้บริการได้แล้วก็จะมีสถานีบางโพอยู่ในระยะที่พอเดินไหว   ซึ่งโครงการรถไฟฟ้าก็จะเสร็จที่ก่อนที่คอนโด Chapter One Flow Bangpo  สร้างเสร็จอยู่แล้ว  สำหรับคนเดินทางด้วยเรือด่วนเจ้าพระยา ก็ลงที่ท่าเรือวัดสร้อยทอง แล้วเดินตามถนนใหญ่มาเรื่อยๆ  ทางเลือกทั้ง 3 ทาง ห่างจากโครงการพอๆ กันเลยค่ะ เลือกใช้ตามถนัดเลย ^^

ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต

ทำเลของ Chapter One Flow Bangpo  นั้นเป็นคอนโดที่เน้นเอาวิวแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นจุดขาย  ในระยะที่พอจะไปขึ้นรถไฟฟ้าได้ไม่ไกลนักค่ะ  ส่วนอีกทางก็จะสามารถใช้ทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอก  เพื่อวิ่งเชื่อมเข้าออกในตัวเมืองได้   ทำเลนี้ก็ถูกพิสูจน์มาแล้วเมื่อปีก่อนจากที่เปิดโครงการ  Chapter One Shine Bangpo  ทำให้เห็นดีมานด์ของคนในท้องที่เดิมที่จะซื้อไว้ลงทุนบ้าง ซื้อไว้ให้ลูกหลานบ้าง คนทำงานโซนนี้ซื้ออยู่เองบ้าง ว่ายังมีอยู่ไม่น้อยเลย คอนโด Chapter One Flow Bangpo  จึงเหมือนมารับไม้ต่อ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการคนกลุ่มนี้

ทำเลนี้ภาพรวมดูเหมือนจะเงียบๆ ยังมีบรรยากาศความเป็นชุมชนและธุรกิจของคนท้องที่เดิมอยู่ค่อนข้างหนาแน่นค่ะ โครงการคอนโดส่วนใหญ่จะไปเกาะตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าซะมากกว่า แต่การที่มีโรงเรียนอยู่ในเส้นทางที่ถนนประชาราษฎร์สาย 1 วิ่งไปมาได้ง่าย คนมีครอบครัวและลูกๆ เรียนละแวกนี้ก็สบายใจเรียนใกล้บ้านกันไป เพราะมีตั้งแต่ระดับประถม มัธยม ไปจนถึงมหาวิทยาลัย …นอกจากนี้ปลายปีนี้จนถึงปีหน้าความเจริญของย่านนี้ดูจะมีความคึกคักขึ้นอีกมากเลยค่ะ เพราะจะมีศูนย์การค้าขนาดใหญ่ GATEWAY บางซื่อ ที่จะเปิดปลายปี 61, รัฐสภาใหม่และรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย  ราคาอสังหาฯ ย่านนี้ก็คงจะได้รับอานิสงค์ตามๆ กันไป

ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ

โครงการ Chapter One Flow Bangpo เป็นคอนโดสูง 41 ชั้น ออกแบบสไตล์ Modern Resort ผสมผสานความเรียบเท่กับการตกแต่งด้วยไม้และความเป็นธรรมชาติให้เข้ากับบรรยากาศของท้องถิ่นย่านบางโพ เช่น ใช้ผนังระแนงไม้ตกแต่งโถงล็อบบี้ผสมผสานไปกับผนังหินสีขาว-ดำ ตัวอาคารคุมโทนสีขาว-เทา-ดำเป็นหลัก

Chapter One Flow Bangpo วางตัวอาคารขนานไปกับแนวถนนเพื่อไม่ให้ระเบียงห้องพักปะทะกับเพื่อนบ้านข้างเคียงทางด้านทิศเหนือและใต้ ทำให้แทบทุกห้องไม่โดนบล็อควิว แต่สิ่งที่ตามมาคือจะมีห้องพักทางทิศตะวันตกได้วิวแม่น้ำไปเต็มๆ ไม่มีตึกสูงบังวิวเลย ส่วนห้องที่หันระเบียงไปทางทิศตะวันออก ก็จะไม่ได้วิวแม่น้ำเลย มองเห็นวิวเมืองล้วนๆ ซึ่งก็อาจจะตอบโจทย์คนไม่แคร์วิวแม่น้ำล่ะค่ะ แต่อยากได้ราคาที่ถูกกว่าในทำเลเดียวกัน …คอนโด Chapter One Flow Bangpo แยกอาคารจอดรถให้ต่างหาก และชั้นจอดอยู่ต่ำกว่าห้องพัก เลยจะได้ความเป็นส่วนตัวไม่ถูกรบกวนจากมลภาวะทางเสียงและทางอากาศจากรถของลูกบ้านที่วิ่งเข้าออก

ห้องพักอาศัยของ Chapter One Flow Bangpo เน้นห้องที่มีขนาดกลางขึ้นไปค่ะ ตั้งแต่ 31.80 – 64.75 ตร.ม. ไซส์นี้ก็อยู่ได้จริง  ไม่ได้บีบพื้นที่ให้ห้องเล็กๆ เพื่อมุ่งจะทำราคาขายอย่างเดียว  โดยห้องแบบ 1 Bedroom ธรรมดาจะได้วิวเมืองทั้งหมด คือหันระเบียงไปทางทิศตะวันออก ส่วนห้องมุมและห้องที่ได้วิวแม่น้ำจะมีแบบ 1 Bedroom Exclusive (มีห้องอเนกประสงค์เพิ่มให้), 2 Bedroom (มี 2 ห้องนอนและ 1 ห้องน้ำใช้แชร์กัน) และ 2 Bedroom Exclusive (มี 2 ห้องนอนและ 2 ห้องน้ำ) การวางแปลนของห้องทุกแบบเน้นให้ความสำคัญกับพื้นที่ส่วนพักผ่อนเป็นหลักค่ะ เพราะวางแปลนให้ครัวอยู่ใกล้ประตูเข้าออก ห้องเล็กสุดได้เป็นครัวเปิด ห้องใหญ่หน่อยจะเป็นครัวปิดเพื่อให้พื้นที่การใช้งานเป็นสัดส่วนไม่รบกวนกัน แล้ววางแปลนให้พื้นที่สำหรับการพักผ่อนอยู่ติดหน้าต่างและระเบียง ทุกห้องจะได้ขนาดระเบียงมาใหญ่ดีค่ะ วางชุดโต๊ะเก้าอี้ซัก 1-2 ที่นั่ง หรือจัดเป็นสวนบนระเบียงเก๋ๆ ได้เลย

วัสดุในห้องจัดว่าให้มาสมเหตุสมผลกับเรทราคาค่ะ พื้นห้องส่วนพักผ่อนปูพื้นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ครัวปิดจะปูพื้นแกรนิตโต้สีครีม ระดับฝ้าส่วนพักผ่อนสูง 2.70 ม. โปร่งดี ถ้าจะรื้อตกแต่งเพิ่มเพื่อทำฝ้าดรอปและซ่อนไฟก็ทำได้นะคะ ประตูกระจกบานเลื่อนกั้นห้องใช้เฟรมอะลูมิเนียมที่ค่อนข้างหนา ตอนลากบานให้ความรู้สึกว่าหนักหน่อยแต่แข็งแรงดีมากค่ะ สำหรับเฟอร์นิเจอร์จัดมาเป็น Fully Furnished ได้ครบทั้งเฟอร์นิเจอร์บิลท์อินและลอยตัวทั้งโซฟา โต๊ะข้างโซฟา ชุดโต๊ะทานอาหาร ตู้เสื้อผ้า ฐานเตียงพร้อมฟูก ตู้รองเท้าและเคาน์เตอร์ครัวติดตั้งอ่างล้างจาน เตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควันมาครบ สำหรับห้องน้ำพื้นที่แต่ละส่วนกว้างกำลังดีไม่อึดอัด แต่ส่วนอาบน้ำจะไม่มีฉากกั้นอาบน้ำให้ค่ะ ต้องต่อเติมเพิ่มกันทีหลังเอง

ส่วนกลางที่เป็นสวนชั้นบนอาคารจอดรถของ Chapter One Flow Bangpo วางคอนเซ็ปต์และออกแบบมาดูน่าสนใจดี มีสวน ทางเดินและน้ำตก ที่เล่นกับความลาดเอียงของพื้น มีรองรับกิจกรรมสำหรับครอบครัวอย่าง Study room, Play yard, และ Party room ทำทางเดินเชื่อมมาที่อาคารพักอาศัยที่ชั้น 3 ให้ด้วย สำหรับพื้นที่ส่วนกลางในตัวอาคารพักอาศัยชั้นล่างจะเป็นโถงต้อนรับฝ้าสูง 7.5 เมตร มีพื้นที่ Meeting room, Rental storage room, และ Laundry room ไฮไลท์ของคอนโดวิวแม่น้ำก็ต้องอยู่ชั้นบนสุดค่ะ เป็นสระว่ายน้ำ Infinity edge pool, มีห้อง Sky lounge และ Fitness ไว้เกาะขอบสระหรือนั่งตากแอร์ในอาคารดูวิวพระอาทิตย์ตกแม่น้ำ เอ้ย…พระอาทิตย์ตกดินกันไปเพลินๆ

ที่จอดรถให้พื้นที่จอดมา 63% เลยทีเดียว จัดว่าเยอะค่ะถ้าเทียบกับคอนโดเรทราคานี้ส่วนใหญ่ ส่วนลิฟต์ก็ให้มา 3 ตัว คิดเป็น 128 ยูนิต ต่อลิฟต์ 1 ตัว อยู่ในเกณฑ์ดี ไม่ได้หนาแน่นจนเกินไปค่ะ

เจาะลึกรีวิวกันไปอย่างละเอียดยิบแล้ว  ก็ขอสรุปจบท้ายคะแนนกันอีกสักรอบนะค้าาาา…  เห็นด้วยหรือไม่ตรงไหน  แชร์ไอเดียกันได้ค่ะ ^___^

Additional Info

ลงทะเบียนเพื่อรับส่วนลด 100,000 บาท  >>> คลิก <<<

Score Summary

สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยค่ะ  (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนคอนโดมิเนียมที่นี่)

และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่  https://www.facebook.com/Yusabuy

ทุกท่านสามารถสนับสนุนให้อยู่สบายสามารถทำรีวิวออกมาได้เรื่อยๆค่ะ  เพียงแค่เวลาไปดูโครงการบ้านและคอนโดที่ต่างๆ  เพียงช่วยระบุในแบบสอบถามของโครงการว่า ”อยู่สบาย.com” เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ท่านติดตามอ่านอยู่  เวลาทางทีมงานขออนุญาตโครงการต่างๆเข้าไปทำรีวิวจะได้ทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นค่ะ  (^_____^)

ถ้าหากว่ารีวิวของเรามีประโยชน์  ช่วยกด Like ด้านล่างสำหรับกำลังใจในการทำรีวิวของทีมงานด้วยนะคะ

ถ้าข้อมูลเป็นประโยชน์ ช่วยกด Like กด Share ให้ทีมงานด้วยนะคะ  ^_____^