ออลล์ อินสไปร์ ยื่น Filing ก.ล.ต. ต่อยอดธุรกิจ จ่อเทรด mai เสนอขาย IPO 150 ล้านหุ้น

· ~ 1 min read

นายธนากร ธนวริทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) “All Inspire” เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ทำการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวน (Filing) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขออนุญาตเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไป (IPO) จำนวน 150 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 1.00 บาทต่อหุ้น คิดเป็นร้อยละ 26.79 ของจํานวนหุ้นที่ออกและเรียกชําระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้

นายธนากร ธนวริทธิ์

โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีทุนจดทะเบียนจำนวน 560 ล้านบาท ซึ่งทุนที่ออกจำหน่ายและชำระแล้วมี จำนวน 410 ล้านบาท หรือคิดเป็น 410 ล้านหุ้น และได้ยื่นคำขอให้รับหุ้นสามัญเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) แล้วเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2561 โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

ส่วนผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท ได้แก่ ครอบครัวธนวริทธิ์ ถือหุ้น 409.99 ล้านหุ้น คิดเป็น 100% ซึ่งภายหลังจากเสนอขาย IPO แล้ว คาดว่าสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 73.21% และที่เหลืออีก 26.79% เป็นสัดส่วนการถือหุ้นที่เสนอขายประชาชน ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินรวมของบริษัทหลังหักทุนสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่ได้กำหนดไว้ในข้อบังคับของบริษัทฯ และกฎหมาย

โดยการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ครั้งนี้ บริษัทฯ มีวัตถุประสงค์ในการนำเงินระดมทุนใช้เป็นเงินทุนสำหรับการขยายธุรกิจ โดยเฉพาะการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในหลายพื้นที่ที่มีศักยภาพ

นอกจากนั้นยังใช้ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานในอนาคต เพื่อก้าวสู่การเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ ติดอันดับ 1 ใน 10 ของประเทศ และเป็นบริษัทที่น่าร่วมลงทุน

สำหรับผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 ปี ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯ มีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง โดยปี 2558 มีรายได้รวม จำนวน 109.14 ล้านบาท กำไรสุทธิ 3.55 ล้านบาท ส่วนปี 2559 มีรายได้รวม จำนวน 419.69 ล้านบาท กำไรสุทธิ 11.03 ล้านบาท และปี 2560 มีรายได้รวม 714.50 ล้านบาท กำไรสุทธิ 80.80 ล้านบาท และผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 2561 มีรายได้รวม จำนวน 1,153.89 ล้านบาท กำไรสุทธิ 165.16 ล้านบาท โดยสาเหตุหลักของการเพิ่มขึ้นของรายได้ และกำไรมาจาก 2 ส่วนหลัก คือรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ที่มีการรับรู้เพิ่มขึ้นตามโครงการที่สร้างเสร็จในแต่ละปีอย่างต่อเนื่อง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

ALL COMMENT (0)
icon-yusabuy-titleRELATED ARTICLE
back to top

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้สำหรับการวิเคราะห์

    คุกกี้นี้เป็นการเก็บข้อมูลสาธารณะ สำหรับการวิเคราะห์ และเก็บสถิติการใช้งานภายในเว็บไซต์นี้เท่านั้น ไม่ได้เก็บข้อมูลส่วนตัวที่ไม่เป็นสาธารณะใด ๆ ของผู้ใช้งาน

บันทึก