Goldenland เผยผลประกอบการปี 2561 โดยในปีที่แล้วมีกำไรสูงถึง 2,101 ล้านบาท ส่งผลให้มติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปีอนุมัติเงินปันผลกว่า 1,069 ล้านบาท ซึ่งเป็นยอดที่สูงที่สุดที่บริษัทเคยจ่ายมา ในขณะที่แผนธุรกิจปี 2562 ตั้งเป้ารายได้ไว้ 19,800 ล้านบาท และมีแผนเปิดโครงการใหม่อีก 28 โครงการมูลค่า 33,000 ล้านบาท
Goldenland เผยผลประกอบการ และยอดปันผลประจำปี 61 พร้อมแถลงกลยุทธ์ปี 62 ตั้งเป้ารายได้ 19,800 ล้าน
· 1 min readผลประกอบการปี 2561
สำหรับผลประกอบการในปี 2561 (ตุลาคม 2560 ถึง กันยายน 2561) Goldenland มีรายได้รวม 15,796 ล้านบาท มีกำไรรวม 2,101 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากรายได้จากการเปิดขายโครงการบ้านเดี่ยว และทาวน์โฮมทั่วกรุงเทพฯ ทั้งโครงการใหม่ที่เริ่มเปิดขาย และเริ่มโอนในปี 2561 รวมถึงโครงการเดิมที่ยังขาย และโอนได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีค่าเช่าอาคารเอฟวายไอ เซ็นเตอร์ ที่มีอัตราการเช่าสูงเต็มพื้นที่
ทั้งนี้ผลมติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2561 ของ Goldenland ได้อนุมัติจ่ายเงินปันผลต่อหุ้น 0.46 บาท คิดเป็นมูลค่า 1,069 ล้านบาท คิดเป็น 51% ของกำไรสุทธิ ซึ่งสูงกว่าการจ่ายเงินปันผลของปี 2560 ที่จ่ายเพียง 0.25 บาท ซึ่งสอดคล้องกับผลการดำเนินงานของโกลเด้นแลนด์ที่เติบโตดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในปี 2561 Goldenland ได้เริ่มใช้งานโกลด์โปร – GoldPro ระบบสารสนเทศที่ใช้ในการจัดการและวางแผนการใช้ทรัพยากรขององค์กร นอกจากนี้ยังประกาศย้ายที่ทำการใหม่ไปยังโครงการสามย่านมิตรทาวน์ เพื่อรองรับการเติบโตของพนักงานในอนาคตด้วย
แผนธุรกิจปี 2562
โกลเด้นแลนด์ ตั้งเป้าหมายรายได้ปีนี้ 19,800 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ และรายได้จากการให้เช่า และบริหารโครงการอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์
- รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ ตั้งเป้าไว้ 18,000 ล้านบาท โดยมีเป้ายอดขายที่ 31,400 ล้านบาท ผ่านโครงการที่เปิดขายรวม 67 โครงการแบ่งออกเป็น โครงการเปิดขายเดิม 39 โครงการ และมีแผนเปิดใหม่ในปี 2562 อีก 28 โครงการมูลค่า 33,000 ล้านบาท
- รายได้จากการให้เช่า และบริหารโครงการอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 1,800 ล้านบาท ซึ่งมาจากการเช่าพื้นที่ของอาคาร FYI Center ที่หัวมุมถนนรัชดา-พระราม 4, อาคารสำนักงาน และโรงแรมมูลค่า 5,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีรายได้ค่าบริหารจัดการอาคารสาทรสแควร์ และอาคารปาร์คเวนเชอร์ ซึ่ง Goldenland เข้าไปเป็นผู้บริหารทรัพย์สินให้กับ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์โกลเด้นเวนเจอร์ (Golden Ventures REIT)
ด้านกลยุทธ์ของ Goldenland ในปี 2562 ได้มีการแบ่งกลยุทธ์เป็น 7 ด้านได้แก่
- เดินหน้า นีโอโฮม (NEO Home) โดยจะเพิ่มโครงการบ้านนีโอโฮมมากขึ้นเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการบ้านในเมืองในระดับราคา 4-6 ล้านบาท
- ขยายตลาดและเพิ่มโครงการ ทาวน์โฮม (Townhome) โดยโกลเด้นแลนด์จะบุกทำเลใหม่ๆที่ยังไม่เคยเปิดโครงการมาก่อน อาทิ กรุงเทพฯ โซนเหนือ (เขตจตุจักร บางซื่อ ลาดพร้าว หลักสี่ ดอนเมือง สายไหม และบางเขน) และ กรุงเทพฯ โซนตะวันออก (เขตบางกะปิ สะพานสูง บึงกุ่ม คันนายาว ลาดกระบัง มีนบุรี หนองจอก คลองสามวา และประเวศ)
- สร้างรายได้บ้านเดี่ยวเพิ่มขึ้น ปัจจุบันตลาดบ้านเดี่ยวยังคงมีความต้องการอยู่ โดยในปี 2562 บริษัทปรับเป้ารับรู้รายได้บ้านเดี่ยวขึ้นเป็น 5,000 ล้านบาท โดยจะขยายตลาดบ้านเดี่ยวระดับราคา 7-10 ล้านบาท ในทำเลเมืองชั้นใน อาทิ รามอินทรา, ศรีนครินทร์, บางแค, เพชรเกษม เป็นต้น
- ขยายตลาดซิตี้โฮม (City Home) Goldenland จะเปิดโครงการบ้านที่เน้นทำเลในเมืองเพิ่ม อาทิ ย่านสาทร, พระราม 3, ลาดพร้าว, แจ้งวัฒนะ เป็นต้น โดยไม่จำกัดว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว, บ้านแฝด หรือทาวน์โฮม ในระดับราคา 10-20 ล้านบาท
- ขยายตลาดต่างจังหวัด หลังจากเปิดโครงการใหม่ไปแล้ว 2 โครงการในปี 2562 นี้ ได้แก่ โกลเด้น ทาวน์ ศรีราชา-อัสสัมชัญ และ โกลเด้น ทาวน์ อยุธยา ทางโกลเด้นแลนด์ยังมีแผนเปิดโครงการใหม่เพิ่มอีก 5 โครงการ ในพื้นที่จังหวัด ชลบุรี ฉะเชิงเทรา และเชียงราย โดยมุ่งพัฒนาในทำเล ECC และ ย่านเมืองอุตสาหกรรมต่างๆ
- เปิดโกลเด้น เอ็มไพร์ เพิ่ม จากความสำเร็จของโครงการโกลเด้น เอ็มไพร์ใน 3 ทำเล คือ ลาดพร้าว บางแค และสาทร ทาง Goldenland ก็เตรียมเปิดโครงการใหม่ในทำเล สาทร, บางแค, ลาดพร้าว, แจ้งวัฒนะ และเชียงราย เพิ่มอีกในปีนี้
- พัฒนาระบบรองรับการเติบโต ในปี 2562 ทางโกลเด้นแลนด์มีแผนจะพัฒนานวัตกรรมสำหรับการอยู่อาศัย พร้อมกับพัฒนาระบบสารสนเทศ และการบริหารจัดการด้านต่างๆ ภายในองค์กรเพื่อรองรับการเติบโตของบริษัท สร้างมาตรฐานในการปฏิบัติงาน และดูแลลูกบ้านได้ทั่วถึงมากขึ้น