สวัสดีค่า วันนี้เราจะพาทุกคนไปดูโครงการบ้านเดี่ยว บ้านแฝดและทาวน์โฮมที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ ตลาดน้ำชื่อดังอย่าง ตลาดน้ำดอนหวายกันค่า แหม่ พอพูดถึงตลาดน้ำดอนหวาย เชื่อว่าทุกคนน่าจะพอๆ เดาแผนที่ได้ละเนอะว่าตั้งอยู่ประมาณไหน งั้นเรามาดูกันเล้ยย

โครงการ THE PLANT ปิ่นเกล้า-สาย 5 และ โครงการ NATURA TREND ปิ่นเกล้า-สาย 5 เป็นโครงการบ้านเดี่ยว บ้านแฝดและทาวน์โฮมจากบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท ทั้งสองโครงการตั้งอยู่บน ซอยวัดไร่ขิง 42 จังหวัดนครปฐม เดินทางสะดวกเข้า-ออกได้ทั้งถนนบรมราชชนนีและถนนพุทธมณฑลสาย 5 และตั้งอยู่ห่างจากตลาดน้ำดอนหวายเพียง 1.8 กิโลเมตรเท่านั้น มีของกินอร่อยๆ ให้เลือกซื้อไม่ซ้ำในแต่ละมื้อทีเดียว

โครงการ เดอะ แพลนท์ ปิ่นเกล้า-สาย5 เป็นโครงการบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด ออกแบบมาในสไตล์ Modern Tropical ให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวเหมือนได้พักในบ้านตากอากาศค่ะ ภายในโครงการมีบ้านให้เลือกถึง 4 แบบ ขนาดตั้งแต่ 132-166 ตารางเมตรกันเลย ราคาเริ่มต้นที่ 3.85 ล้านบาท

ส่วนทางด้านโครงการ เนเชอร่า เทรนด์ ปิ่นเกล้า-สาย 5 เป็นโครงการที่มีแบบบ้านทาวน์โฮม ซึ่งตัวบ้านเป็นแบบบ้านไอเดียใหม่สไตล์ Modern ให้ความคุ้มค่าแก่ผู้อยู่อาศัย  ภายในโครงการมีบ้านให้เลือก 2 แบบ ขนาด 125-140 ตารางเมตร มีราคาเริ่มต้นเพียง 2.89 ล้านบาทค่ะ

THE PLANT  PINKLAO – SAI 5
( เดอะ แพลนท์  ปิ่นเกล้า – สาย 5 )

• เจ้าของโครงการ >>> บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)
• ที่ตั้งโครงการ >>> ซอยวัดไร่ขิง 42 ถนนพุุทธมณฑลสาย 5 ตำบลบางกระทึก อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม 73210
• ขนาดที่ดิน >>> 55-1-14.3 ไร่
• ประเภท >>> ทาวน์โฮม 2 ชั้น
• จำนวนยูนิต >>> 177 หลัง
• พื้นที่ใช้สอย >>>
  • LEVINE        >>  3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ / 132 ตร.ม.
  • ELSE             >>  3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ / 134 ตร.ม.
  • PISSARO     >>  3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ / 145 ตร.ม.
  • DELANCY   >>  3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ / 166 ตร.ม.
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> (ณ วันที่ 6 มีนาคม 2562)
  • LEVINE       >> ราคาเริ่มต้น 3.85 ล้านบาท
  • ELSE           >> ราคาเริ่มต้น 4 ล้านบาท
  • PISSARO    >> ราคาเริ่มต้น 4.27 ล้านบาท
  • DELANCY  >> ราคาเริ่มต้น 6 ล้านบาท
• พิกัด GPS >>> 13.7597802, 100.2893503
• เว็ปไซต์โครงการ >>> THE PLANT ปิ่นเกล้า-สาย 5
• ติดต่อโครงการ >>> 1739

NATURA TREND  PINKLAO – SAI 5
( เนเชอร่า เทรนด์  ปิ่นเกล้า – สาย 5 )

• เจ้าของโครงการ >>> บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)
• ที่ตั้งโครงการ >>> ซอยวัดไร่ขิง 42 ถนนพุทธมณฑลสาย 5 ตำบลไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม 73210
• ขนาดที่ดิน >>> 55-1-14.3 ไร่
• ประเภท >>> บ้านแฝด 2 ชั้น
• จำนวนยูนิต >>> 200 หลัง
• พื้นที่ใช้สอย >>>
  • Trend MODAR        >>  หน้าบ้านกว้าง 7.5 เมตร / 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ / 125 ตร.ม.
  • Trend VILLAR         >>  หน้าบ้านกว้าง 7.7 เมตร / 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ / 140 ตร.ม.
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> (ณ วันที่ 6 มีนาคม 2562)
  • Trend MODAR       >> ราคาเริ่มต้น 2.88 ล้านบาท
  • Trend VILLAR        >> ราคาเริ่มต้น 3.36 ล้านบาท
• พิกัด GPS >>> 13.7597802, 100.2893503
• เว็ปไซต์โครงการ >>> NATURA TREND ปิ่นเกล้า-สาย 5
• ติดต่อโครงการ >>> 1739

.

โครงการ เดอะ แพลนท์ ปิ่นเกล้า-สาย 5 และ โครงการ เนเชอร่า เทรนด์ ปิ่นเกล้า-สาย 5 ตั้งอยู่บนซอยวัดไร่ขิง 42 ซึ่งทั้งสองโครงการตั้งอยู่ในพื้นที่จัดสรรเดียวกัน มีทางเข้า-ออกที่ใช้ร่วมกัน เป็นโครงการบ้านเดี่ยว บ้านแฝดและทาวน์โฮม สามารถเข้าออกได้หลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็น ถนนบรมราชชนนี ถนนพุทธมณฑลสาย 5 และถนนเพชรเกษมที่เป็นถนนหลักเชื่อมได้ทั้งเข้าและออกเมืองได้อย่างง่ายดาย

(ตัวอักษรในแผนที่เล็กมาก  สามารถคลิกขยายดูได้เลยนะคะ)

เริ่มเดินทาง ดูทำเล

สำหรับการเดินทางมาที่โครงการ THE PLANT ปิ่นเกล้า-สาย 5 และ NATURA TREND ปิ่นเกล้า-สาย 5 นั้นเราจะเริ่มต้นจากถนนบรมราชชนนีขาออก บริเวณด้านหน้าตลาดพุทธมณฑล ขับตรงไปเรื่อยๆ ประมาณ 4.2 กิโลเมตรจะเห็นซอยบางเตย 2 อยู่ซ้ายมือ หน้าซอยจะมีจุดสังเกตเห็นง่ายๆ คือมีป้ายทางเข้าตลาดน้ำวัดดอนหวายค่ะ เลี้ยวซ้ายเข้าไปประมาณมาณ 2 กิโลเมตรจะเห็นทางแยกซ้ายขวา ให้เลี้ยวไปทางซ้ายตรงไป 1.7 กิโลเมตร ด้านซ้ายมือจะเห็นป้ายซอยวัดไร่ขิง 42 ให้เลี้ยวเข้าไป ขับตรงไปต่ออีกประมาณ 700 เมตรจะเจอกับโครงการอยู่ทางด้านซ้ายมือค่ะ

ซุ้มทางเข้าโครงการหน้าตาสวยงามแบบนี้ค่ะ

มาดูตำแหน่งรอบๆ ตัวโครงการก่อนว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนกันบ้าง

โครงการ THE PLANT ปิ่นเกล้า-สาย 5 และ NATURA TREND ปิ่นเกล้า-สาย 5 เป็นโครงการที่สามารถเข้าออกได้หลายเส้นทางจากถนนหลักอย่าง ถนนบรมราชชนนี ถนนพุทธมณฑลสาย 5 และถนนเพชรเกษม ตั้งอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยมหิดล  ในระยะรอบๆ โครงการรัศมีประมาณ 5 กิโลเมตรเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ อย่างครบครันเช่น มหาวิทยาลัยมหิดล, โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์, โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก, โรงพยาบาลวิชัยเวท อินเตอร์ อ้อมน้อย, โรงพยาบาลมหาชัย 2, วัดไร่ขิง, วัดดอนหวาย, โรงเรียนวัดดอนหวาย, ตลาดน้ำวัดดอนหวาย, ตลาดศาลายา, Makro ศาลายา, CentralPlaza ศาลายา, Tesco Lotus ศาลายา, ไทวัสดุ เป็นต้น ตั้งอยู่เรียงรายตามแนวถนนบรมราชชนนีและถนนเพชรเกษมค่ะ

และในบริเวณใกล้เคียงในอนาคตยังมีรถไฟฟ้าถึง 2 สายให้บริการด้วยคือ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่สถานีสุดท้ายสุดอยู่ที่บริเวณพุทธมณฑลสาย 4 จะเปิดให้บริการได้ภายในปี 2566 และ รถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อนที่ปลายสายสถานีที่ใกล้โครงการมากที่สุดคือ สถานีศาลายา จะเปิดให้บริการได้ในปี 2565 ทั้งสองสายนั้นลูกบ้านสามารถต่อรถสาธารณะมาที่โครงการได้ เป็นตัวเลือกการเดินทางสัญจรที่เพิ่มเข้ามาให้เพื่อนๆ ได้เลือกใช้ค่ะ

.

มาดูแผนที่ซูมเข้ามาใกล้ๆ โครงการกันบ้างค่ะ ใกล้ๆ โครงการเลยมี ตลาดน้ำดอนหวาย ที่เรียกว่าแทบจะอยู่ปากซอยโครงการกันเลยทีเดียว ใกล้กันมีสถานีตำรวจและตึกสำนักงานอบต.บางเตยค่ะ

หรือถ้าออกมาถนนหลักจะเจอกับ โลตัส ศาลายา, โฮมโปร ศาลายา, เซ็นทรัล ศาลายา, ไทวัสดุ ศาลายา, มหาวิทยาลัยมหิดล, โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก และ พุทธมณฑล ซึ่งสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้อยู่ในระยะขับรถได้ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะซื้ออาหารการกิน ข้าวของเครื่องใช้ หรือว่าเจ็บป่วยก็สะดวกแน่นอนค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

เรามาดูรอบๆ โครงการกันดีกว่าค่ะ มีอะไร สภาพเป็นยังไงกันบ้าง

หันหน้าเข้าโครงการขวามือเป็นพื้นที่ของบุคคลอื่น

ส่วนทางด้านซ้ายของโครงการนั้นเป็นทุ่งนาข้าว

ส่วนฝั่งตรงข้ามนั้นเป็นโครงการหมู่บ้านทาวน์โฮมค่ะ

ฝั่งตรงข้ามด้านหน้าโครงการทาวน์โฮมเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ในอนาคตมี 7-11 มาเปิดด้วยน้า

ต่อมาที่ ถนนไร่ขิง (ทางหลวงหมายเลข 3316) กันค่ะ

ออกจากโครงการเลี้ยวขวามาที่ถนนไร่ขิงกันค่ะ  บริเวณปากซอยโครงการเป็นตลาดนัด มีอาหารสดและอาหารปรุงสำเร็จขายเยอะแยะเลย

เลี้ยวขวาเข้าถนนไร่ขิง จะเห็นร้านค้าระดับชุมชนและบ้านเรือนเต็มสองข้างทางถนนเลยค่ะ คึกคักเชียว

ไม่ไกลมี Tesco Lotus Express ร้านสะดวกซื้อ 24 ชั่วโมง

เยื้องๆ กันมี Big C Extra ค่ะ

เลยไปหน่อยเป็น โรงเรียนวัดดอนหวาย เปิดสอนตั้งแต่ชั้น อนุบาล-มัธยมศึกษาตอนต้น

ตลาดน้ำดอนหวาย เป็นตลาดที่เปิดขายทุกวันตั้งแต่เวลา 07.00 – 18.00 น. มีอาหารให้เลือกซื้อทั้งคาว หวาน ส่วนของเด็ดของดังที่นี่จะเป็น เป็ดพะโล้นายหนับ และ ปลาทูต้มเค็ม ค่ะ

วัดดอนหวาย อยู่ติดกับตลาดน้ำเลยนะคะ ใครจะมาตลาดน้ำมาจอดรถที่วัดนี้ได้

ส่วน วัดไร่ขิง ตั้งอยู่ห่างจากปากซอยไร่ขิง 42 ของโครงการมาทางซ้ายมือประมาณ 4.4 กิโลเมตร

มาต่อกันที่ ถนนบรมราชชนนี เป็นถนนสายหลักในการสัญจรเข้า-ออกเมือง สามารถมุ่งหน้าออกเมืองไปยังนครปฐม ราชบุรี กาญจนบุรีและเพชรบุรี ได้ค่ะ ส่วนถ้าเข้าเมืองสามารถเข้าไปยังตลิ่งชัน บางแค ราชพฤกษ์ ค่ะ

โดยถนนบรมราชชนนีนี้จะขอเริ่มเส้นทางจากบนถนนบรมฯ ขาออกมุ่งหน้านครปฐมบริเวณตรงข้ามโรงพยาบาลธนบุรี 2 ค่ะ

โรงพยาบาลธนบุรี 2 อยู่ติดริมถนนใหญ่ เป็นโรงพยาบาลเอกชนที่มีเครื่องมือทางการแพทย์ที่ค่อนข้างครบครันและทันสมัยทีเดียว ราคาอยู่ในระดับจับต้องได้นะ

บริเวณหัวโค้งเข้าถนนพุทธมณฑลสาย 4 มีโครงการ The Brio เป็น community mall ขนาดกลาง ภายในมีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ รวมถึงร้านถูกและดีที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงด้วย

แวะเข้ามาในเส้นพุทธมณฑลสาย 4 สักหน่อยจะเป็นที่ตั้งของ พุทธมณฑล ที่เป็นทั้งศูนย์การศึกษาพระธรรมและสวนสาธารณะ ภายในยังเป็นที่ตั้งของพระศรีศากยทศพลญาณองค์ขนาดใหญ่

กลับมาที่เส้นทางหลักกันต่อค่ะ เลยจาก The Brio ไม่ไกลจะเป็น มหาวิทยาลัยมหิดล อยู่ฝั่งขวามือค่ะ

ฝั่งตรงข้ามมหาวิทยาลัยมหิดลเป็น โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก เป็นโรงพยาบาลในสังกัดคณะแพทย์ของมหิดลค่ะ

ห่างจากโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษกไปไม่ไกลจะเจอกับ โลตัส ศาลายา ค่ะ ขนาดค่อนข้างใหญ่ทีเดียว มีที่จอดรถเยอะนะ แต่เสาร์-อาทิตย์อาจจะต้องวงหาที่กันสักนิด

ห่างไปประมาณ 900 เมตรจะเห็น HomePro ศาลายา อยู่ทางด้านขวา เป็นห้างค้าปลีกเครื่องใช้ตกแต่งบ้านโดยเฉพาะ

ไม่ไกลกันเป็นศูนย์การค้าชื่อดังอย่าง CentralPlaza ศาลายา ขนาดใหญ่ภายในมีทั้ง Tops supermarket ร้านค้า ร้านอาหารทั้งแบรนด์ดังและท้องถิ่นอยู่จำนวนมากค่ะ

ติดกันเป็น ไทวัสดุ ศาลายา ห้างค้าปลีกวัสดุ อุปกรณ์ต่อเติม ก่อสร้างบ้าน

โกลบอลเฮ้าส์ ห้างค้าปลีกขายวัสดุก่อสร้างเหมือนกับไทวัสดุค่ะ อยู่เลยไปนิดหน่อยเท่านั้น

เริ่มเปิดประตู  ไปดูในโครงการ

ดูรอบๆ กันมาอิ่มหนำและ เรามาดูโครงการกันบ้างดีกว่าเนอะ

ซุ้มทางเข้าโครงการได้รับการออกแบบมาเป็นสไตล์โมเดิร์น ทรอปิคอล นำความทันสมัยมาเจอกับธรรมชาติจากวัสดุลายไม้ ทำให้โครงการบ้านให้ความอบอุ่น เป็นกันเองเพิ่มขึ้นด้วยนะคะเนี่ย

ซ้ายมือทางเข้าเป็นป้ายโครงการของทั้ง THE PLANT ปิ่นเกล้า-สาย 5 และ เนเชอร่า เทรนด์ ปิ่นเกล้า-สาย 5 ค่ะ ทำออกมาดูดีทีเดียวล้อรับกับตัวซุ้มโครงการ

ทางเข้าและออกโครงการมีการแยกส่วนของลูกบ้านและผู้มาติดต่อออกจากกันเพื่อความสะดวกในการเข้า-ออกของผู้อยู่อาศัยค่ะ โดยทางเข้าออกจะใช้เป็นไม้กั้นกระดก ในส่วนของลูกบ้านสามารถผ่านเข้า-ออกได้จากระบบ card access มีรปภ.ดูแลตลอด 24 ชม.

ตัวสแกนการ์ดเข้าออกของลูกบ้านเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัสขนาดใหญ่ สแกนได้ค่อนข้างสะดวกค่ะ

ทางเข้าฝั่งผู้มาติดต่อจะมีไม้กั้นพร้อมกล้อง CCTV ส่องทั้งบริเวณหน้าคนขับและทะเบียนรถ

ผ่านซุ้มประตูเข้ามาเจอกับถนนหลักของโครงการกว้าง 16 เมตร สองข้างทางปลูกต้นไม้ประดับ ให้ความเขียวขจีได้ดีค่ะ

ขวามือหลังซุ้มประตูเป็น Clubhouse ของหมู่บ้าน

ขับเข้ามาสักหน่อยจะเจอกับบ้านตัวอย่างของโครงการ เดอะ แพลนท์ ปิ่นเกล้า-ศาลายา เรียงกันอยู่ 4 หลัง โดยหลักแรกสุดถูกใช้เป็นทั้งบ้านตัวอย่างและ Sales Gallery ด้วยค่ะ

Sales Gallery ใช้บ้านขนาดใหญ่สุดเป็นสำนักงานค่ะ ภายนอกออกแบบมาในสไตล์โมเดิร์น คุมโทนด้วยสีขาว เทาอ่อน เทาเข้ม สลับกันไป

ประตูทางเข้า Sales Gallery เป็นประตูอัตโนมัติค่ะ สะดวกเชียว

เข้ามาภายในจะเจอกับชุดโซฟาส่วนรับรองลูกค้าประมาณ 3-4 ที่นั่ง ตกแต่งด้วยสีขาวครีม ดูสะอาดตา น่านั่ง

ถัดเข้าไปก็เป็นส่วนรับรองลูกค้าอีกเซ็ตหนึ่งค่ะ

ดูผังโครงการ การเข้าถึง

มาดูเพื่อนบ้านรอบๆ โครงการกัน ว่ารอบๆ มีใครอยู่กันบ้าง

ทิศเหนือ บางส่วนติดกับคลองสาธารณะ พื้นที่บุคคลอื่นและชุมชนเก่า

ทิศตะวันออก  ติดกับ ซอยประชาราษฎร์ 1

ทิศใต้  ติดกับ ซอยวัดไร่ขิง 42 ฝั่งตรงข้ามโครงการเป็นโครงการบ้านพฤกษา

ทิศตะวันตก  ติดกับ พื้นที่บุคคลอื่นและทุ่งนา

โครงการมีพื้นที่ 55-1-14.3 ไร่ แบ่งขายออกเป็น 2 โครงการ The Plant ปิ่นเกล้า-สาย 5 จำนวน 177 หลัง และ โครงการ Natura Trend ปิ่นเกล้า-สาย 5 จำนวน 200 หลัง

แปลนพื้นที่โครงการเดอะ แพลนท์ ปิ่นเกล้า-สาย 5 และ เนเชอร่า เทรนด์ ปิ่นเกล้า-สาย 5 เป็นแบบทางเข้า-ออกเดียวเพื่อให้ง่ายต่อการรักษาความปลอดภัย มี Clubhouse ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าโครงการช่วยให้วิวทิวทัศน์ดูสวยงามมากขึ้น ถนนหลักโครงการมีความกว้างถึง 16 เมตร ส่วนถนนภายในโครงการ The Plant ปิ่นเกล้า-สาย 5 จะมีขนาด 9-12 เมตร และ ถนนภายในโครงการเนเชอร่า เทรนด์ ปิ่นเกล้า-สาย 5 มีขนาด 8-10 เมตรขึ้นอยู่กับซอยค่ะ  โครงการได้จัดสวนสาธารณะขนาดกลางๆ ไว้กึ่งกลางแปลนโครงการเลยค่ะ เพื่อเป็นการสะดวกต่อลูกบ้านทั้งสองโครงการในการใช้สอย ถือว่าแฟร์มากทีเดียว

พื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งานเป็นอย่างไร

ทางด้านพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ The Plant ปิ่นเกล้า-สาย 5 และ Natura Trend ปิ่นเกล้า-สาย 5 ตั้งอยู่ด้านหน้าของหมู่บ้าน อาคารมีลักษณะเป็นทรงสี่เหลี่ยม Facade ตกแต่งด้วยลวดลายสวยงามให้ความรู้สึกทันสมัย ชั้น 1 ประกอบด้วยสระว่ายน้ำขนาด 20*7.2 เมตรตั้งอยู่ภายนอกอาคาร และ Lobby Clubhouse  ส่วนบริเวณชั้น 2 จะมีห้องประชุม ห้องออกกำลังกาย และ พื้นที่ outdoor สำหรับนั่งเล่นข้างนอกค่ะ

สระว่ายน้ำขนาด 20*7.2 เมตรลึก 1.2 เมตร พร้อมสระเด็กแบบ Outdoor ค่ะ

เข้ามาภายในอาคารจะเจอกับ Lobby ชั้น 1 มีที่นั่งเล่นตากแอร์เย็นๆ แถมยังมีตู้กดน้ำอัตโนมัติให้บริการด้วย

ขึ้นมาชั้น 2 จะเจอกับห้องออกกำลังกาย มีอุปกรณ์ให้มาครบค่ะ

ออกมาบริเวณระเบียงด้านนอกเป็นที่นั่งเล่นชิลล์ๆ ตากอากาศยามเย็นได้น้าา อย่าออกมากลางวันล่ะ อาจจะเป็นไก่ย่างได้เลยค่าาา

มาดูส่วนของที่จอดรถบริเวณ Clubhouse กันบ้าง บริเวณแรกเป็นที่จอดรถจักรยาน เผื่อเวลาที่ลูกบ้านปั่นจักรยานมาจากบ้านก็มีที่จอดไม่ต้องไปจอดปะปนกับรถใหญ่

ส่วนที่จอดรถยนต์จะอยู่ด้านข้างของอาคาร Clubhouse  สามารถจอดได้ประมาณ 4-5 คันค่ะ แต่ถ้าไม่พอสามารถจอดได้ริมถนนอีกเนื่องจากถนนมีความกว้างถึง 16 เมตร

เปิดแปลนบ้าน

แบบบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดของโครงการ เดอะ แพลนท์ ปิ่นเกล้า-สาย 5 มีให้เลือก 4 แบบ  เป็นแบบ 3 ห้องนอน ห้องน้ำ 2-3 ห้อง และที่จอดรถมีหลังคาคลุมได้ 2 คัน ขนาดพื้นที่ใช้สอย 132-166 ตารางเมตร

• LEVINE       >> 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถในร่ม / 132 ตร.ม.
• ELSE            >> 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถในร่ม / 134 ตร.ม.
• PISSARO    >> 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถในร่ม / 145 ตร.ม.
• DELANCY  >> 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถในร่ม / 166 ตร.ม.

THE PLANT ปิ่นเกล้า-สาย 5
แบบบ้าน LEVINE

แบบบ้าน LEVINE เป็นบ้านแฝดขนาดเล็กที่สุดในโครงการ The Plant ปิ่นเกล้า-สาย 5 มีพื้นที่ใช้สอย 132 ตร.ม. ฟังก์ชั่นในบ้านมี 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถในร่มค่ะ

แบบบ้านทุกหลังในโครงการ เดอะ แพลนท์ ปิ่นเกล้า-สาย 5 ใช้สีค่อนข้างคุมโทน สลับสีขาว เทาอ่อน และเทาเข้มสลับกันเพิ่มมิติให้กับตัวบ้านทุกแบบค่ะ

ชั้น 1 ทางเข้าบ้านหลักจะอยู่ตรงกับห้องรับแขกพอดี ห้องรับประทานอาหารจะอยู่เชื่อมต่อบริเวณเดียวกันกับห้องรับแขก และห้องครัวที่ให้มาอยู่ด้านหลังห้องรับประทานอาหาร เป็นแพนทรี่เล็กๆ แต่ก็ยังสามารถทำอาหารได้นะคะ ฝั่งซ้ายมือเป็นห้องอเนกประสงค์ที่ทำเป็นห้องนั่งเล่น ห้องนอนชั้นล่างหรือห้องทำงานก็ได้ แล้วแต่เจ้าของบ้านจะใช้ประโยชน์ค่ะ  ส่วนห้องน้ำนั้นจะอยู่ใต้บันได โดยบันไดได้ถูกวางไว้บริเวณด้านหน้าบ้าน

ขึ้นมาที่ชั้น 2 ของบ้าน ห้องนอนใหญ่ถูกจัดให้อยู่ด้านหน้าสุดของบ้าน กินพื้นที่ส่วนด้านหน้าไปทั้งแถบ มีขนาดห้องค่อนข้างกว้างทีเดียว สามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้อย่างไม่อึดอัด ภายในห้องนอนใหญ่มีระเบียงขนาดไม่ใหญ่แต่ขนานความยาวบ้านด้านหน้า มีพื้นที่มากพอสำหรับออกไปยืนรับลมตอนเย็นหรือกลางคืนได้ และมีประตูที่สามารถเข้าห้องน้ำชั้นบนได้ทันที ซึ่งห้องน้ำชั้นบนนี้จะใช้ร่วมกับห้องนอนเล็กอีก 2 ห้องค่ะ  มาดูห้องนอนเล็กกันบ้าง ห้องนอน 2 ที่อยู่ติดกับห้องน้ำมีขนาดใหญ่กว่าอีกห้องหนึ่งอย่างเห็นได้ชัดสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้เลย ส่วนห้องนอน 3 ถูกจัดให้อยู่ทางด้านหลังบ้านเช่นเดียวกัน ซึ่งห้องนอน 3 นี้จะเล็กกว่าห้องนอน 2 ดังนั้นจึงสามารถวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตได้เท่านั้นและยังเหลือพื้นที่ให้กับตู้เสื้อผ้าและโต๊ะทำงานอีกเล็กน้อยค่ะ

มาดูกันที่บ้านจริงกันบ้าง หน้าบ้านเป็นลานจอดรถในร่ม สามารถจอดรถได้ 2 คันแบบพอดีๆ บริเวณลานจอดมีไฟดาวน์ไลท์มาให้ 2 ดวงเวลากลางคืน

บริเวณชั้น 2 facade ด้านหน้าประดับด้วยฉากบังสายตาด้านซ้ายมือของบ้านเพื่อบังคอมเพรสเซอร์แอร์ไม่ให้สายตาคนภายนอกมองเห็นได้ชัดค่ะ และมีระเบียงราวกันตกกระจกยาวขนานแนวหน้ากว้างของบ้าน ทำให้บ้านดูมีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น

เนื่องจากเป็นบ้านแฝด เรามาดูส่วนแฝดกันจะเป็นส่วนห้องอเนกประสงค์ที่อยู่ด้านหลังบ้านยื่นออกมาติดกันตามภาพค่ะ

ผนังด้านข้างบ้านจะเห็นว่ามีการติดหน้าต่างค่อนข้างเยอะ เพื่อทำให้บ้านปลอดโปร่ง ไม่อึดอัดและยังเป็นส่วนที่สามารถระบายอากาศได้ด้วยเมื่อบ้านมีความร้อนสะสมมากจนเกินไปค่ะ

ผนังบ้านฝั่งขวามือก็เช่นกัน

THE PLANT ปิ่นเกล้า-สาย 5
แบบบ้าน ELSE

แบบบ้าน ELSE มีทั้งแบบบ้านแฝดและบ้านเดี่ยวในโครงการ The Plant ปิ่นเกล้า-สาย 5 มีพื้นที่ใช้สอย 134 ตร.ม. ฟังก์ชั่นในบ้านมี 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถในร่มค่ะ

แบบบ้าน ELSE เป็นแบบบ้านที่มีความกว้างของหน้าบ้านมากกว่าบ้านแบบ LEVINE ทั้งๆ ที่มีขนาดพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านเกือบจะเท่ากัน เนื่องจากแบบบ้าน ELSE ได้ออกแบบให้ลานจอดรถมาอยู่ข้างๆ ห้องรับแขกแทนค่ะจึงทำให้หน้าบ้านดูกว้างขึ้น

ชั้น 1 ทางเข้าหลักของบ้านจะอยู่ตรงกับห้องรับแขก พื้นที่ห้องรับแขกนั้นสามารถจัดชุดโซฟารองรับได้ถึง 3-4 ที่นั่ง ห้องรับประทานอาหารจะอยู่ถัดเข้าไปจากห้องรับแขก ส่วนทางด้านขวามือจะเป็นห้องครัวแบบเปิด สามารถทำเคาน์เตอร์ครัวแบบตัว L เข้ามุมผนังได้ ด้านหลังห้องครัวจะเป็นลานซักล้างที่ทางโครงการจัดเตรียมไว้ให้ ส่วนทางด้านห้องน้ำตั้งอยู่บริเวณใต้บันไดมีการลดระดับพื้นลงไปประมาณ 1 ขั้นบันไดเพิ่มความสูงของเพดานห้องน้ำค่ะ

ชั้น 2 ของบ้านขึ้นบันไดมาจะเจอกับโถงชั้นบน ห้องนอนใหญ่กินพื้นที่ไปประมาณครึ่งหนึ่งของพื้นที่ชั้นบนทั้งหมด ภายในแบ่งสัดส่วนได้ลงตัว มีพื้นที่สามารถทำ walk-in closet ได้ด้วยค่ะ ภายในห้องนอนใหญ่จะมีระเบียงอยู่ด้านหน้าห้อง สามารถเปิดระเบียงรับลมได้ ห้องน้ำในชั้นบนมีเพียงห้องเดียวเท่านั้นซึ่งทั้ง 3 ห้องนอนจะต้องแชร์กันใช้ แต่ห้องนอนใหญ่จะพิเศษกว่าห้องอื่นๆ ตรงสามารถเข้าห้องน้ำได้จากภายในห้องนอนได้เลยค่ะ  ส่วนทางด้านห้องนอนเล็กทั้งสองห้องมีขนาดค่อนข้างใกล้เคียงกัน แต่ห้องที่ถูกวางไว้ด้านหน้าของบ้านจะมีพื้นที่ระเบียงเพิ่มเติม ระเบียงนี้มีขนาดค่อนข้างใหญ่ทีเดียว สามารถนำโต๊ะ เก้าอี้กาแฟไปตั้งรับลมชมวิวได้ค่ะ

THE PLANT ปิ่นเกล้า-สาย 5
แบบบ้าน PISSARO

แบบบ้าน PISSARO มีทั้งแบบเป็นบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดในโครงการ The Plant ปิ่นเกล้า-สาย 5 มีพื้นที่ใช้สอย 145 ตร.ม. ฟังก์ชั่นในบ้านมี 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถในร่มค่ะ

หน้าตาของแบบบ้าน PISSARO มีความละม้ายคล้ายคลึงกับบ้านแบบ ELSE มาก ใช้สีโทน ขาว เทาอ่อน เทาเข้มตัดกันเหมือนบ้านหลังอื่นๆ  แต่สิ่งที่ต่างกันอย่างเห็นได้ชัดคือความลึกของบ้านค่ะ

ชั้น 1 ทางเข้าบ้านเปิดประตูมาจะเจอกับห้องรับแขก ส่วนอื่นๆ คล้ายกับบ้าน ELSE ต่างกันอยู่ 2 ที่คือ 1.ผนังด้านหลังชั้นวางทีวีมีความยาวขึ้นทำให้ห้องดูเป็นสัดส่วนมากขึ้น และ 2.ห้องครัวที่ทางโครงการให้มาเป็นครัวแบบปิดซึ่งประตูที่ให้มาเป็นแบบบานเลื่อนถือว่าค่อนข้างดีและใช้งานง่าย

ชั้น 2 ของบ้านแบบแปลนแทบไม่ต่างจากแบบบ้าน ELSEเลยค่ะ  ต่างกันอยู่ตรงที่ภายในห้องนอนใหญ่มีห้องน้ำส่วนตัวเพิ่มขึ้นมา และมีห้องน้ำบนชั้น 2 สำหรับห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้อง โดยพื้นที่วางห้องน้ำนี้จะไปตั้งอยู่ข้างห้องนอนเล็กทางด้านหลังบ้านซึ่งทำให้พื้นที่ห้องนอนเล็กด้านหลังบ้านถูกเบียดไปเล็กน้อยค่ะ

มาดูบ้านจริงกัน ลานจอดรถอยู่ด้านข้างของตัวบ้านภายใต้คานเดียวกันทำให้เวลาฝนตกลูกบ้านจะไม่เปียกเพื่อเดินเข้าภายในบ้านค่ะ แม้จะไม่มีประตูต่อเข้าบ้านโดยตรงจากลานจอดรถก็ตาม

Facade ชั้น 2 ของบ้านหน้าตาแทบจะไม่ต่างจากบ้านแบบ ELSE เลยค่ะ

ฝั่งซ้ายของบ้านที่เป็นระเบียงห้องนอนเล็กทางโครงการได้ก่อกำแพงไว้ให้ด้วยเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับผู้อยู่อาศัย

ส่วนผนังบ้านทางด้านขวามือสังเกตเห็นได้ว่ามีหน้าต่างและประตูกระจกอยู่พอสมควรทำให้แสงธรรมชาติส่องเข้าถึงภายในตัวบ้านได้เพิ่มความปลอดโปร่งของการอยู่อาศัยอีกระดับค่ะ

THE PLANT ปิ่นเกล้า-สาย 5
แบบบ้าน DELANCY

แบบบ้าน DELANCY มีทั้งแบบเป็นบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดขนาดใหญ่สุดในโครงการ The Plant ปิ่นเกล้า-สาย 5 มีพื้นที่ใช้สอย 166 ตร.ม. ฟังก์ชั่นในบ้านมี 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถในร่มค่ะ

หน้าตาของบ้านแบบ  DELANCY แค่ดูด้านหน้าก็รู้แล้วนะคะว่าเป็นแบบบ้านที่ใหญ่และแพงที่สุดในหมู่บ้าน  Facade  ด้านหน้าบ้านออกแบบมาให้ดูหรูหรา  มั่นคงดีค่ะ

ชั้น 1 บ้านแบบ DELANCY มีทางเข้าบ้าน 2 ทางค่ะ คือทางเข้าตรงห้องรับแขกและทางเข้าบริเวณลานจอดรถ ถือว่าสะดวกมากๆ เลยนะคะอย่างเช่น เวลาจอดรถแล้วเราสามารถขนของที่ซื้อมาเข้าบ้านได้จากลานจอดรถเลย เวลามีแขกมาจะได้ไม่รบกวนแขกบริเวณห้องรับแขกด้วยค่ะ  ประตูทางเข้าหลักเปิดมาจะเจอกับห้องรับแขก ถัดเข้าไปเป็นห้องรับประทานอาหาร ข้างๆ กันเป็นแพนทรี่ครัวที่สามารถทำเป็นส่วนเตรียมอาหารและครัวฝรั่งได้ค่ะ ถัดจากแพนทรี่ครัวเข้าไปจะเป็นห้องครัวไทยแบบเปิด  ส่วนห้องน้ำจะอยู่ใต้บันไดเช่นเดียวกับแบบบ้าน PISSARO

ชั้น 2 ห้องนอนใหญ่ถูกวางอยู่ส่วนด้านหน้าของบ้านทั้งหมดกินพื้นที่ประมาณครึ่งหนึ่งของพื้นที่ชั้น 2 ของบ้าน แบ่งสัดส่วนภายในห้องชัดเจนมีทั้งพื้นที่ส่วนห้องนอน ส่วนของ walk-in closet ที่เชื่อมต่อกับระเบียงและพื้นที่ห้องน้ำส่วนตัวภายในห้องนอน ที่พิเศษคือภายในห้องนอนห้องนอนใหญ่มีส่วนที่เรียกว่า Pocket Garden อยู่ด้านหลังส่วนเปียกของห้องน้ำค่ะ เพิ่มความเป็นธรรมชาติเข้ามาให้รู้สึกผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น  ส่วนห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้องถูกจัดวางไว้ทางด้านหลังบ้านมีขนาดไม่ต่างกันมาก ถูกคั่นกลางด้วยห้องน้ำชั้น 2 ที่ต้องใช้งานร่วมกันระหว่าง 2 ห้อง

ผนังด้านข้างฝั่งซ้ายมือของบ้านจะเห็นว่ามีช่องเปิด ช่องหน้าต่างและประตูค่อนข้างกว้างและมีจำนวนพอสมควร ส่งผลให้ภายในบ้านมีความโปร่งมากขึ้นค่ะ

ผนังฝั่งขวามือก็เช่นกัน

เปิดแปลนบ้าน

แบบบ้านทาวน์โฮมของโครงการ เนเชอร่า เทรนด์ ปิ่นเกล้า-สาย 5 มีให้เลือก 2 แบบ  เป็นแบบ 3 ห้องนอน ห้องน้ำ 2 ห้อง และที่จอดรถมีหลังคาคลุมได้ 2 คัน ขนาดพื้นที่ใช้สอย 125-140 ตารางเมตร

• Trend MODAR       >> หน้าบ้านกว้าง 7.5 เมตร / 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถในร่ม / 125 ตร.ม.
• Trend VILLAR       >> หน้าบ้านกว้าง 7.7 เมตร / 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถในร่ม / 140 ตร.ม.

NATURA TREND  ปิ่นเกล้า-สาย 5
แบบบ้าน Trend MODAR

แบบบ้าน Trend MODAR มีทั้งแบบเป็นบ้านทาวน์โฮมในโครงการ NATURA TREND ปิ่นเกล้า-สาย 5 มีพื้นที่ใช้สอย 125 ตร.ม. ฟังก์ชั่นในบ้านมี 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถในร่มค่ะ

แบบบ้าน Trend MODAR ออกแบบมาให้หน้าบ้านกว้าง 7.5 เมตร ดูร่วมสมัยเพิ่มลูกเล่น  Facade ด้านหน้าด้วยลายไม้บริเวณชายคาและผนังบางส่วน  ให้ความรู้สึกอบอุ่นค่ะ  แบบบ้าน Trend MODAR มีหน้าตา Facade ให้เลือก 2 แบบด้วยกันคือ MODAR 1 และ MODAR 2 ให้ลูกบ้านได้เลือกตามใจชอบเลยว่าจะชอบแบบฝั่งซ้ายหรือว่าขวาค่ะ

ชั้น 1 เปิดประตูจากลานจอดรถเข้ามาจะเจอกับส่วนห้องรับแขกสามารถวางโซฟาเข้ามุมรูปตัว L ได้ขนาดใหญ่อยู่นะคะ ถัดเข้าไปจากห้องรับแขกเป็นห้องรับประทานอาหารที่เชื่อมต่อกับห้องครัวแบบเปิดทางด้านหลังบ้าน ซึ่งห้องห้องนั้นสามารถเดินออกไปยังลานซักล้างทางด้านหลังบ้านได้ค่ะ ที่นี่ให้ลานซักล้างมาเป็นบริเวณค่อนข้างใหญ่ทีเดียวกินพื้นที่ด้านหลังบ้านทั้งหมดเลยค่ะ ส่วนห้องน้ำนั้นจะอยู่ติดกับห้องครัวเลย  บริเวณเฉลียงด้านข้างที่เป็นส่วนยื่นออกไปด้านนอกตัวบ้านสามารถเข้าออกได้บริเวณประตูกระจกบานเลื่อนตรงห้องรับประทานอาหาร เฉลียงมีพื้นที่ค่อนข้างใหญ่สามารถทำเป็นลานปิ้งย่างBBQ หรือเป็นศาลานั่งเล่น ชมสวนก็ดีไปอีกแบบนะคะ  ห้องเก็บของจะซ่อนตัวอยู่ใต้บันไดมีพื้นที่พอประมาณให้เก็บของได้  ส่วนบันไดถูกวางไว้ด้านหน้าของบ้านใกล้กับประตูทางเข้าค่ะ

ชั้น 2 ห้องนอนใหญ่ถูกวางไว้ทางด้านหน้าของบ้านทั้งแถบกินพื้นที่ประมาณครึ่งหนึ่งของพื้นที่ชั้นบนทั้งหมดมาพร้อมกับระเบียงวางตัวยาวขนานความยาวด้านหน้าของบ้านแต่ระเบียงมีขนาดไม่กว้างมากจึงเหมาะเพียงออกไปยืนรับลมเท่านั้น  ห้องน้ำบนชั้น 2 นั้นทุกห้องนอนจะต้องใช้ร่วมกัน สามารถเข้าใช้ได้ 2 ทางคือจากทางโถงบันไดชั้น 2 และเข้าจากภายในห้องนอนใหญ่ มาดูที่ห้องนอนเล็กกันบ้าง ห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้องมีขนาดใกล้เคียงกัน ถูกวางไว้ทางด้านหลังบ้านทั้งคู่ ภายในห้องนอนยังมีพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้าและยังเหลือสำหรับวางโต๊ะทำงานได้อีกด้วยน้า

มาดูบ้านจริงกันบ้าง ลานจอดรถจะตั้งอยู่ทางด้านหน้าของบ้านและประตูทางเข้าหลักค่ะ ซึ่งทางด้านหน้าบ้านให้ประตูทางเข้าเป็นประตูกระจกกรอบ UPVC พร้อมด้ามจับแบบก้านโยก และยังให้หน้าต่างมาบานค่อนข้างใหญ่ สามารถมองออกมาเห็นด้านหน้าบ้านได้เลย

Facade ด้านบนตกแต่งด้วยระแนงไม้ที่ผนังบางส่วนและทาสีน้ำตาลบริเวณชายคาที่ยื่นออกมาให้ความรู้สึกถึงธรรมชาติและความอบอุ่น  ราวกันตกเป็นราวเหล็กสีดำให้ความรู้สึกทันสมัย

มาดูผนังบ้านส่วนที่ไม่ได้ติดกับอีกหลังกันค่ะ จะเห็นว่ามีหน้าต่างติดอยู่เป็นระยะ ทำให้ภายในบ้านแสงธรรมชาติสามารถส่องเข้าไปได้เพิ่มความปลอดโปร่งแก่ผู้อยู่อาศัย

NATURA TREND  ปิ่นเกล้า-สาย 5
แบบบ้าน Trend VILLAR

แบบบ้าน Trend VILLAR มีทั้งแบบเป็นบ้านทาวน์โฮมในโครงการ NATURA TREND ปิ่นเกล้า-สาย 5 มีพื้นที่ใช้สอย 140 ตร.ม. ฟังก์ชั่นในบ้านมี 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถในร่มค่ะ

แบบบ้าน Trend VILLAR  ออกแบบมาให้มีหน้าบ้านกว้าง 7.7 เมตร  Facade มีมาให้เลือก 2 แบบด้วยกันคือ VILLAR 1 และ VILLAR 2 ให้ลูกบ้านได้เลือกตามใจชอบเลยว่าจะชอบแบบฝั่งซ้ายหรือว่าขวาค่ะ

ชั้น 1 เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับห้องรับแขก ฝั่งตรงข้ามห้องรับแขกเป็นบันไดขึ้นชั้น 2 และห้องเก็บของ ถัดเข้าไปจากห้องรับแขกเป็นส่วนห้องรับประทานอาหาร ที่สามารถเดินออกไปยังส่วนเฉลียงด้านนอกของบ้านได้ค่ะ ห้องครัวที่โครงการให้มาเป็นครัวแบบเปิดสามารถวางเคาน์เตอร์ครัวเป็นตัว L เข้าชิดผนังได้ เชื่อมต่อออกไปยังลานซักล้างทางด้านหลังบ้านที่ทางโครงการเทปูนฉาบเรียบเตรียมไว้ให้ขนาดค่อนข้างใหญ่ค่ะ ห้องน้ำชั้นล่างจะอยู่บริเวณเดียวกันกับครัวเลย

ชั้น 2 แปลนชั้นบนห้องบ้านแบบ Trend VILLAR คล้ายกับแปลนแบบบ้าน MODAR เลยค่ะ ที่จะวางห้องนอนใหญ่ไว้ทางด้านหน้าบ้านมีห้องน้ำที่สามารถเข้าออกได้ทั้งจากห้องนอนใหญ่และโถงบันไดที่ต้องใช้ร่วมกันกับห้องนอนอื่นๆ ส่วนห้องนอนเล็กที่เหลือถูกจัดวางไว้ทางด้านหลังบ้าน  แต่ที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดคือ ห้องนอนเล็กฝั่งซ้ายมือจะมีขนาดใหญ่กว่าขวามือค่อนข้างมากค่ะ

มาดูบ้านจริงกัน ด้านในลานจอดรถเป็นไฟแบบ Auto Lighting จะสว่างขึ้นเองเมื่อเซนเซอร์จับถึงความมืดได้ มีกำแพงบางส่วนถูกตกแต่งด้วยลายไม้ เพิ่มความสวยงามให้กับบ้าน ประตูทางเข้าหลักที่ทางโครงการให้มาเป็นประตูบานเลื่อนกระจกบานใหญ่ เพิ่มความโปร่งให้กับบ้าน ส่วนหน้าต่างบานยาวด้านขวามือเป็นหน้าต่างแสงให้กับบริเวณทางเดินขึ้นบันไดค่ะ ช่วยเพิ่มแสงสว่างในการเดินขึ้น-ลงและยังช่วยลดโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุด้วยนะคะ

Facade ด้านบนออกแบบให้ดูเรียบง่าย แต่ยังร่วมสมัยอยู่ การตกแต่งผสมผสานของไม้สีน้ำตาลเข้ม สีเทาเข้ม ดำ และขาวตัดสลับกันไปทำให้บ้านดูมีมิติขึ้น

ผนังด้านข้างบ้านทาสีเทาอ่อนตัดขาวเรียบทำให้ดูสะอาด ทันสมัยดีค่ะ มุมนี้ดูคล้ายๆ บ้านญี่ปุ่นนิดๆ นะเนี่ย

ฝั่งซ้ายก็เช่นเดียวกัน เล่นสีตัดกันไปมาเพิ่มมิติให้กับบ้าน

เปิดห้อง  มองสเปซ  :  Focus  on  “SPACE”  and  “DIMENSION”

หลังจากดูภายนอกบ้านกันไปแล้วเรามาดูภายในบ้านกันดีกว่าค่ะ บ้านที่จะพาไปดูของโครงการ เดอะ แพลนท์ ปิ่นเกล้า-สาย 5 เป็นบ้านแบบ LEVINE และบ้านแบบ PISSARO เนื่องจากเป็นแบบบ้านที่มีมากที่สุดในโครงการค่ะ

THE PLANT ปิ่นเกล้า-สาย 5
แบบบ้าน LEVINE

เปิดประตูบานเลื่อนเข้ามาจะพบกับห้องรับแขกขนาดกำลังพอดี สามารถรับรองแขกได้ประมาณ 4-5 คนพร้อมๆ กันเลยค่ะ

ขวามือเมื่อเข้าประตูมาจะเป็นบันไดพาดยาวไปยังชั้น 2 ของบ้าน ถัดมาหน่อยเป็นพื้นที่ว่างจะไม่มีผนังกั้นออกมาแบบบ้านตัวอย่าง เพื่อนๆ สามารถ built-in ผนังออกมาเป็นแบบในบ้านตัวอย่างสำหรับวางทีวีได้นะคะ ส่วนถ้าใครไม่อยาก built-in ก็สามารถซื้อโต๊ะวางทีวีมาตั้งก็สวยไปอีกแบบน้า ข้างๆ ชั้นวางทีวีเป็นห้องน้ำชั้นล่างค่ะ

บริเวณใต้บันไดทางโครงการทำให้เป็นห้องเก็บของ มีพื้นที่สามารถเก็บของได้พอประมาณค่ะ

มาดูกันต่อที่ห้องน้ำชั้นล่างกันบ้าง มีการแยกส่วนแห้งและเปียกเอาไว้ให้เรียบร้อย ภายในมีอุปกรณ์สุขภัณฑ์ครบครันสามารถใช้งานได้อย่างสะดวก อุปกรณ์สุขภัณฑ์ทั้งหมดเป็นของยี่ห้อ COTTO

ส่วนเปียกมีการทำขั้นลดระดับลงไปสามารถติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำได้  แต่แนะนำให้ใช้ฉากกั้นอาบน้ำแบบม่านเนื่องด้วยพื้นที่ที่จำกัดภายในห้องน้ำค่ะ

ถัดจากห้องรับแขกเข้ามาจะเป็นห้องรับประทานอาหารและแพนทรี่ครัว บริเวณตรงนี้เหมาะกับการทำหรืออุ่นอาหารเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น เนื่องจากกลิ่นจะเข้าไปรบกวนภายในห้องรับแขกได้จากการที่เป็นพื้นที่ติดต่อกัน

บริเวณห้องรับประทานอาหารจะมีประตูสามารถเดินไปทางหลังบ้านได้  เมื่อเปิดประตูออกมาจะเจอกับลานซักล้างหลังบ้านทางโครงการได้ทำการเทปูนฉาบเรียบไว้ให้เรียบร้อยแล้ว พื้นที่ลานที่ให้มาก็ค่อนข้างใหญ่สามารถวางเครื่องซักผ้าและราวตากผ้าไว้ด้วยกันได้อย่างไม่คับแคบ

ข้างขวาของห้องรับประทานอาหารจะเป็นห้องอเนกประสงค์ มีประตูบานเลื่อนเปิด-ปิดได้เป็นพื้นที่ค่อนข้างยาวมากกว่ากว้าง อย่างในบ้านตัวอย่างได้ตกแต่งเป็นห้องทำงานและห้องนั่งเล่นที่เป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้นอีกห้องหนึ่งก็น่ารักดีนะคะ  หรือถ้าใครชอบทำอาหารดัดแปลงมาเป็นห้องครัวแบบปิด ก่อเคาน์เตอร์ครัวทำเป็นครัวไทยได้สบายๆ เลยค่ะ

มาดูกันที่ชั้น 2 กันบ้างเริ่มจากห้องนอนใหญ่ถูกจัดให้อยู่ด้านหน้าของบ้าน มีบานประตูระเบียงกระจกขนาดใหญ่สามารถให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามา ทำให้ห้องโปร่งโล่งสบาย เหมาะกับการพักผ่อน

ระเบียงภายในห้องนอนใหญ่มีขนาดไม่กว้างมาก เหมาะกับการออกไปยืนสูดอากาศรับลม

ห้องนอนใหญ่จะพิเศษกว่าห้องนอนอื่นๆ ตรงที่มีประตูสามารถเดินเข้าห้องน้ำได้เลยค่ะ

ภายในห้องน้ำบนชั้น 2 อุปกรณ์สุขภัณฑ์ที่ให้มาก็จะเหมือนๆ กับที่ให้มาในห้องน้ำข้างล่าง มีอ่างล้างมือพร้อมกระจกเงาบานใหญ่ ถัดไปเป็นโถสุขภัณฑ์ ข้างในสุดของห้องน้ำเป็นส่วนเปียกที่ทางโครงการกั้นฉากกั้นอาบน้ำกระจกบานเปลือยมาให้พร้อมก่อธรณีขึ้นมากั้นน้ำสูงประมาณ 5 เซนติเมตร มีฝักบัวพร้อมสายอ่อนอลูมิเนียมและราวตากผ้าเช็ดตัวมาให้ด้วยค่ะ พร้อมอยู่ทีเดียว

มาดูกันต่อที่ห้องนอนเล็กฝั่งซ้ายมือกันบ้าง ห้องนอนนี้จะใหญ่กว่าห้องนอนเล็กอีกห้องหนึ่ง มีพื้นที่สามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้อย่างไม่อึดอัด ทางโครงการให้หน้าต่างมา 2 บานทำให้ห้องรู้สึกกว้างขึ้นด้วยนะคะ

ฝั่งตรงข้ามเตียงมีพื้นที่ค่อนข้างกว้างสามารถวางตู้เสื้อผ้าขนาด 2-3 บานได้อย่างสบายๆ และยังมีที่เหลือพอสำหรับวางโต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะทำงานได้อีกตัวนึงเลย

ส่วนห้องนอนเล็กสุดของบ้านถูกวางไว้ทางด้านหลังบ้านข้างบันได เนื่องจากมีพื้นที่ค่อนข้างจำกัดจึงสามารถวางขนาดเตียงได้เพียง 3.5 ฟุตเท่านั้น และตู้เสื้อผ้าแบบ 2 บานเปิดพร้อมโต๊ะทำงานหรือที่เก็บของได้อีก 1 ใบเท่านั้นค่ะ น่าจะเหมาะกับเด็กเล็กๆ ที่ใช้พื้นไม่เยอะมาก

THE PLANT ปิ่นเกล้า-สาย 5
แบบบ้าน PISSARO

มาดูกันที่ประตูทางเข้าหลักกันก่อนเป็นประตูบานเลื่อนกระจกขนาดค่อนข้างใหญ่ทีเดียว

มือจับประตูขนาดพอดีกับมือ จับสะดวกค่ะ

เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับส่วนห้องรับแขกมีขนาดพื้นที่ค่อนข้างใหญ่อยู่นะคะ สามารถวางโซฟาขนาด 3-4 ที่นั่งแล้วยังเหลือพื้นที่เดินระหว่างทีวีได้สบาย บรรยากาศภายในห้องจะเห็นได้ว่าค่อนข้างโปร่งและสว่างจากแสงธรรมชาติสามารถส่องเข้ามาได้ ส่งเสริมให้บ้านน่าอยู่มากยิ่งขึ้น

ถัดเข้ามาจากห้องรับแขกเป็นห้องรับประทานอาหาร มีพื้นที่ขนาดใหญ่สามารถวางโต๊ะและเก้าอี้ทางอาหารได้ 6-8 ที่นั่งเลยทีเดียว พร้อมหน้าต่างและประตูกระจกบานใหญ่สามารถรับวิวสวยข้างบ้านได้อีกค่ะ

ฝั่งซ้ายของห้องรับประทานอาหารเป็นห้องครัวแบบปิดซึ่งในบ้านจริงจะได้เป็นประตูกระจกบานเลื่อนป้องกันเสียงและกลิ่นจากการทำอาหารเข้ามารบกวนส่วนภายในบ้าน  ข้างๆ ห้องครัวเป็นห้องน้ำและบันไดขึ้นไปยังชั้น 2

ภายในห้องครัวสามารถ built-in เคาน์เตอร์ครัวเป็นตัว L เข้ามุมเพิ่มพื้นที่สอยและที่เก็บของได้อีกโขเลยค่ะ ห้องครัวให้พื้นที่มาค่อนข้างกว้างและโปร่ง สามารถดัดแปลงจัดสรรพื้นที่ได้อีกหลายรูปแบบแล้วแต่ไอเดียของแต่ละคนเลยค่ะ

ลานซักล้างจะอยู่ต่อจากห้องครัวไปทางด้านหลังบ้าน ทางโครงการได้เทปูนฉาบเรียบมาให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

บริเวณทางเดินไปยังห้องน้ำชั้นล่างเป็นพื้นลดระดับ 1 ขั้นทอดยาวไปถึงประตูห้องน้ำ ระหว่างทางเดินซ้ายมือจะเป็นห้องเก็บของใต้บันได

ห้องน้ำชั้นล่างมีส่วนพื้นที่อาบน้ำให้ด้วยนะคะ เผื่อห้องน้ำข้างบนคนเต็มสามารถมาอาบน้ำข้างล่างก็ได้ในช่วงเวลาเร่งด่วนอย่างตอนเช้า มีธรณีกั้นส่วนเปียกมาเรียบร้อย สุขภัณฑ์ทั้งหมดใช้ของยี่ห้อ COTTO และทุกห้องน้ำในโครงการนี้จะติดตั้งหลอดไฟพร้อมพัดลมระบายอากาศของ LAMPTAN

ส่วนโถสุขภัณฑ์อยู่ฝั่งตรงข้ามกับส่วนเปียก

ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเจอกับโถงบันไดที่จะเป็นทางเดินแยกไปยังห้องต่างๆ บนชั้นนี้

มาดูที่ห้องนอนใหญ่กัน ห้องนอนใหญ่ถูกวางไว้ฝั่งขวาของตัวบ้านซึ่งประตูห้องจะตรงกับทางขึ้น-ลงบันไดพอดี ภายในห้องกินพื้นที่ครึ่งหนึ่งของพื้นที่บนชั้น 2 แบ่งสัดส่วนได้ดี มีทั้งพื้นที่วางเตียง พื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้าหรือ walk-in closet และห้องน้ำส่วนตัว  โดยที่ส่วนของพื้นที่วางเตียงจะอยู่ติดกับระเบียง สามารถเปิดรับลม รับวิวภายนอกบ้านได้อย่างโล่งสบายจากประตูบานเลื่อนที่ค่อนข้างกว้าง

ระเบียงภายในห้องนอนใหญ่มีความกว้างพอประมาณ ถ้าใครรักธรรมชาติสามารถหาต้นไม้เล็กๆ ขึ้นมาตั้งปลูกด้านบนได้นะคะ

กลับเข้ามาข้างในห้องนอนใหญ่ ฝั่งตรงข้ามเตียงเป็นพื้นที่ว่าง ลูกบ้านสามารถจะวางตู้เสื้อผ้าหรือ built-in ตู้เสื้อผ้าเป็น walk-in closet ระหว่างทางเดินไปห้องน้ำก็ได้นะคะ มีพื้นที่เก็บเสื้อผ้าอีกเยอะเลย

ห้องน้ำส่วนตัวภายในห้องนอนใหญ่มีสุขภัณฑ์เหมือนของห้องอื่นๆ ภายในบ้าน มีอ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเงาติดยาวตลอดแนวผนัง ซ้ายมือเป็นโถสุขภัณฑ์

ฝั่งขวามือเป็นส่วนเปียก ทางโครงการได้ก่อธรณีสูงประมาณ 5 เซนติเมตรขึ้นมาให้พร้อมฉากกั้นอาบน้ำกระจกบานเปลือย มีหน้าต่างระบายอากาศติดมาให้ด้วยนะคะ

มาดูห้องนอนเล็กกันบ้าง ห้องนอนเล็กห้องนี้ถูกวางไว้ทางด้านหน้าบ้านมาพร้อมกับระเบียงขนาดใหญ่ภายในห้อง เปิดประตูเข้ามาเป็นพื้นที่วางเตียงนอนสามารถวางเตียงขนาด 3.5-5 ฟุตได้โดยไม่ทำให้ห้องดูแคบเกินไป

ระเบียงห้องด้านนอกขนาดค่อนข้างใหญ่ สามารถตั้งโต๊ะจิบกาแฟหรือวางเต็นท์นอนดูดาวก็เก๋ไปอีกแบบนะ

ส่วนห้องนอนเล็กอีกห้องที่ค่อนข้างเล็กนะคะ เนื่องจากถูกเบียดพื้นที่ไปทำห้องน้ำบางส่วน พื้นที่ห้องเหมาะกับการวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตเท่านั้นนะคะ เพราะถ้าวางขนาดใหญ่กว่านั้นจะทำให้บรรยากาศภายในห้องดูแน่น อึดอัด แต่ถ้าใครชอบเตียงใหญ่ๆ จะนำมาวางไว้ในห้องนี้ก็ไม่ขัดศรัทธาค่าาา

ฝั่งตรงข้ามที่นอน ยังมีที่ว่างให้วางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะทำงานเล็กๆ ได้อีก 1 ตัวด้วยน้า

มาดูห้องน้ำชั้น 2 ที่ห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้องจะต้องแชร์กันใช้บ้างดีกว่าค่ะ  เปิดประตูเข้ามาจะเจอสุขภัณฑ์ติดตั้งเรียงกันอยู่ทางด้านขวาทั้งหมดเริ่มจาก อ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ และส่วนเปียกด้านในสุด

หลังจากที่เราพาดูบ้านโครงการ THE PLANT ปิ่นเกล้า-สาย 5 กันไปแล้ว เรามาดูบ้านตัวอย่างของโครงการ Natura Trend ปิ่นเกล้า-สาย 5 ซึ่งบ้านตัวอย่างที่จะพาไปดูเป็นแบบ Trend MODAR และ แบบ Trend VILLAR กันค่ะ

NATURA TREND ปิ่นเกล้า-สาย 5
แบบบ้าน TREND MODAR

เปิดประตูเข้าบ้านมาจะเจอกับชั้นวางทีวีทางด้านซ้ายมือขนาดค่อนข้างใหญ่ แต่ตำแหน่งของผนังอยู่ค่อนข้างเยื้องไปจากโซนห้องรับแขก อาจจะทำให้องศาการดูทีวีค่อนข้างแปลกนิดนึง

โซนห้องรับแขกออกแบบมาให้โปร่งโล่ง จากการที่มีกระจกอยู่ทั้งสองฝั่งผนัง มีพื้นที่การวางโซฟาค่อนข้างใหญ่สามารถรองรับได้ถึง 7-8 ที่นั่งเลยทีเดียว

ถัดเข้ามาจากห้องรับแขกเป็นห้องรับประทานอาหารเป็นพื้นที่ค่อนข้างโล่งค่ะ เพราะทางโครงการติดตั้งประตูบานเลื่อนกระจกมาให้ทั้ง 2 ด้าน เปิดรับวิวสวนภายนอกบ้านได้อย่างพอดี

ขวามือของห้องรับประทานอาหารเป็นเฉลียงด้านนอกบ้านที่ทางโครงการทำมาให้  สามารถทำเป็นลานปิ้งย่างบาร์บีคิวหรือที่นั่งเล่นพักผ่อนของครอบครัวก็ชิลล์ไปอีกแบบ

ฝั่งซ้ายของห้องรับประทานอาหารเป็นห้องครัวขนาดกระทัดรัดแบบเปิดสามารถทำอาหารได้เล็กๆ น้อยๆ ค่ะ  ส่วนถ้าใครชอบทำครัวแบบไทยๆ สามารถกั้นห้องส่วนนี้ทำเป็นห้องครัวแบบปิดก็สามารถกันกลิ่นการทำอาหารให้ไม่ไปรบกวนคนในบ้าน ก็เป็นไอเดียแต่งบ้านที่ดีอีกแบบนะ

ห้องน้ำจะอยู่ใกล้ๆ ห้องครัว ตกแต่งด้วยสีขาว ดำ ให้ความรู้สึกทันสมัย

ด้านซ้ายเป็นอ่างล่างมือพร้อมกระจกเงา

ส่วนฝั่งขวามือเป็นส่วนเปียกที่ทางโครงการเตรียมไว้ให้ สามารถติดม่านอาบน้ำเพิ่มเติมได้ พื้นที่ยืนมีพอสมควรสามารถบิดตัวซ้ายขวาได้ไม่ติดขัด

ส่วนลานซักล้างหลังบ้านมีขนาดค่อนข้างใหญ่ มีพื้นที่เหลือสำหรับตากผ้าเหลือเฟือเลยค่ะ

บันไดขึ้นไปยังชั้นบนถูกวางเอาไว้ด้านหน้าของบ้าน เปิดประตูเข้าบ้านมาจะเห็นอยู่ทางด้านซ้ายมือเลยค่ะ

ข้างๆ บันไดจะเป็นซอกเล็กๆ เข้าไปยังห้องเก็บของใต้บันได  พื้นที่บริเวณนี้จะค่อนข้างเล็กมาก น่าจะไม่สามารถเอาของชิ้นใหญ่ๆ เข้ามาเก็บได้เนื่องจากปากทางเข้ามีความกว้างไม่มากพอค่ะ

บันไดทางขึ้นชั้น 2 ค่อนข้างมีความชันและขึ้นยากอยู่พอสมควรเลยค่ะ หากบ้านไหนมีผู้สูงอายุอยู่ด้วยควรดูแลท่านตอนขึ้นลงบันไดนิดนึงนะคะ

ขึ้นมาชั้น 2 จะเจอกับโถงบันไดเป็นส่วนแยกไปยังห้องต่างๆ

มาที่ห้องนอนใหญ่กันค่ะ ห้องนอนนี้ถูกวางไว้ทางด้านหน้าของบ้าน กินพื้นที่ประมาณครึ่งหนึ่งของชั้น 2 อย่างที่เห็นในบ้านตัวอย่างสามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้แล้วยังมีพื้นที่ด้านข้างอีกนิดหน่อย  ห้องนอนค่อนข้างโปร่งเพราะมีประตูระเบียงกระจกขนาดใหญ่เปิดเป็นช่องให้แสงและลมธรรมชาติสามารถเข้ามาได้

ระเบียงในห้องนอนใหญ่ที่ทางโครงการให้มามีพื้นที่ค่อนข้างจำกัด ทำได้เพียงปลูกต้นไม้เล็กๆ หรือยืนรับลมเท่านั้น

ผนังฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่โล่งกว้าง สามารถทำเป็น walk-in closet ได้

ห้องน้ำบนชั้น 2 ตกแต่งด้วยกระเบื้องสี ขาว ดำเหมือนกับห้องน้ำชั้นล่าง รวมถึงประเภทและอุปกรณ์ของสุขภัณฑ์ต่างๆ ทางโครงการได้แยกส่วนแห้งและเปียกเอาไว้ให้เรียบร้อย ลูกบ้านสามารถติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำได้เพิ่มเติมทีหลังค่ะ

ขวามือเป็นอ่างล้างหน้าพร้อมกล่องเก็บของด้านล่าง สามารถเอายาสีฟัน แชมพู ครีมนวด หรือผ้าขนหนูมาเก็บไว้สำรองใช้ได้

ห้องน้ำชั้น 2 สามารถเข้าได้ 2 ทางคือจากภายในห้องนอนใหญ่ และ จากบริเวณโถงบันไดชั้น 2 ค่ะ

มาดูห้องนอนเล็กในบ้านกันบ้าง ห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้องถูกจัดวางอยู่ทางด้านหลังบ้าน มีขนาดค่อนข้างใกล้เคียงกัน เรามาดูห้องนอนเล็กห้องแรกกันก่อน ห้องนี้จะอยู่ติดกับห้องน้ำค่ะ เปิดประตูเข้ามาจะเห็นพื้นที่ห้องขนาดกำลังพอดีสำหรับวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต ส่วนถ้าใครอยากได้เตียงใหญ่กว่านี้ก็สามารถวางได้ถึงขนาด 5 ฟุตก็จะพอดีห้องเหลือทางเดินได้นิดหน่อย

ฝั่งตรงข้ามเตียงสามารถวางตู้เสื้อผ้าขนาด 2-3 บานพร้อมโต๊ะเครื่องแป้งเล็กๆ อีกหนึ่งตัว

ส่วนห้องนอนเล็กอีกห้องหนึ่งตั้งอยู่ติดกับบันได มีพื้นที่สำหรับวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตได้เหมือนกับห้องนอนเล็กเมื่อกี้เลย

ส่วนพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งให้พื้นที่มาพอๆ กับห้องที่แล้วเช่นเดียวกัน

NATURA TREND ปิ่นเกล้า-สาย 5
แบบบ้าน TREND VILLAR

เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับส่วนห้องรับแขกก่อนเลย มีพื้นที่ค่อนข้างกว้างสามารถวางโซฟาได้ 3-4 ที่นั่ง

โซนห้องรับแขกค่อนข้างโปร่ง ตกแต่งด้วยสีครีม เท่าอ่อน-เข้มไล่เรียงกัน ทำให้ห้องน่านั่งเล่นเพิ่มขึ้นไปอีก

ฝั่งตรงข้ามเป็นชั้นวางทีวีที่ทางโครงการ Built-in เพิ่มขึ้นมาบ้านจริงจะไม่มีผนังตรงนี้ค่ะ

ถัดเข้ามาเป็นห้องรับประทานอาหารมีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารได้ประมาณ 4-6 ที่นั่ง บริเวณตรงนี้สามารถเดินออกไปยังสวนข้างบ้านได้อีกด้วย

พื้นที่เฉลียงข้างบ้านที่ทางโครงการทำมาให้จะเป็นพื้นที่ที่เป็นส่วนติดกันกับบ้านข้างๆ นะคะแต่พอมายืนดูแล้วจริงๆ ไม่ได้ให้ความรู้สึกแบบนั้นเลยเหมือนได้ซื้อบ้านเดี่ยวมากกว่า  เฉลียงด้านนอกปูกระเบื้องมาให้เรียบร้อยทำเป็นที่นั่งจิบกาแฟชมสวนดูชิลล์ดีนะคะ

ห้องครัวอยู่ทางด้านขวามือของห้องรับประทานอาหาร ครัวเป็นแบบครัวเปิดขนาดไม่เล็ก ไม่ใหญ่ ตรงนี้สามารถกั้นห้องเพิ่มทำเป็นครัวไทยแบบปิดได้นะคะ

ห้องน้ำอยู่ทางด้านขวามือของครัว ตกแต่งด้วยกระเบื้องปูพื้นสีดำ และกระเบื้องปูผนังสีขาวสุขภัณฑ์ที่ให้มาเป็นไปตามมาตรฐานของโครงการ

หลอดไฟในห้องน้ำเป็นแบบ หลอดไฟพร้อมพัดลมระบายอากาศ ยี่ห้อ LAMPTAN

ส่วนเปียกอยู่ด้านในสุดของห้องน้ำ ก่อธรณีกั้นขึ้นมาประมาณ 5 เซนติเมตร เพื่อนๆ สามารถติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มได้ค่ะ

ลานซักล้างอยู่ทางด้านหลังบ้าน เทปูนฉาบเรียบมาให้มีขนาดค่อนข้างกว้าง สามารถทำงานประเภท service ได้อย่างสะดวกสบาย

บันไดทางขึ้นชั้น 2 จะอยู่ตรงด้านหน้าบ้านเลยค่ะ

ข้างๆ บันไดเป็นห้องเก็บของ ทางเข้าห้องเก็บของที่นี่ไม่เหมือนกับแบบบ้าน MODAR นะคะที่นี่ให้ทางเข้าห้องเก็บของขนาดค่อนข้างกว้าง สามารถนำของเข้าไปเก็บไว้ข้างในได้จริงๆ

มาดูที่ชั้น 2 เริ่มจากห้องนอนใหญ่กันค่ะ พื้นที่ให้มาค่อนข้างใหญ่ สามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้แล้วยังมีพื้นที่เหลือรอบเดียงเดินได้สบายๆ ตำแหน่งที่วางเตียงจะตรงกับประตูระเบียงพอดีทำให้สามารถเทควิวภายนอกหรือติดมุ้งลวดเปิดรับลมตอนนอนได้อย่างสบายๆ เลยค่ะ

ระเบียงห้องนอนใหญ่มีขนาดไม่กว้างมาก มีพื้นที่ทำได้เพียงสำหรับยืนรับลมเท่านั้น

บริเวณระเบียงทางโครงการติดตั้งหลอดไฟสำหรับภายนอกไว้ให้ด้วยค่ะ

ฝั่งตรงข้ามที่วางเตียงเป็นพื้นที่สำหรับตู้เสื้อผ้าสามารถตั้งวางยาวตามแนวผนังได้หลายตู้เลย กว้างมากๆ

มาต่อกันที่ห้องน้ำบริเวณชั้น 2 ของบ้านกันบ้าง ภายในห้องน้ำสุขภัณฑ์ได้ติดตั้งเรียงกันอยู่ทางด้านขวามือทั้งหมด เริ่มจากอ่างล้างหน้าพร้อมกล่องเก็บของด้านล่าง มีกระจกเงาติดตั้งมาให้เสร็จสรรพ ถัดไปเป็นโถสุขภัณฑ์ และด้านในสุดเป็นพื้นที่ส่วนเปียกสำหรับอาบน้ำ มีฝักบัวและสายอ่อนอลูมิเนียมมาให้เรียบร้อยค่ะ

จะเห็นว่าห้องน้ำชั้น 2 สามารถเข้าได้ 2 ทางคือจากบริเวณโถงบันไดและจากภายในห้องนอนใหญ่

มาดูกันต่อที่ห้องนอนเล็กฝั่งซ้ายมือตรงข้ามบันไดกันบ้าง ห้องนอนเล็กนี้จะมีขนาดใหญ่กว่าห้องนอนเล็กอีกห้องหนึ่งที่อยู่ติดกัน  พื้นที่ภายในห้องนอนนี้เรียกได้ว่าไม่อึดอัดเลย สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้แล้วยังมีพื้นที่เหลือสำหรับตั้งโต๊ะทำงาน โต๊ะเครื่องแป้ง ตู้เสื้อผ้าหรือเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ที่ตามใจเจ้าของห้องอยากซื้อมาใส่เพิ่มเลยค่ะ

อย่างในบ้านตัวอย่างฝั่งตรงข้ามเตียงได้ตกแต่งเป็นที่วางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งขนาดพอดีๆ

มาดูห้องนอนที่เล็กที่สุดของบ้านกันค่ะ ห้องนอนนี้จะอยู่ติดกับบันไดทางลง เปิดประตูเข้ามาจะเห็นพื้นที่สำหรับวางที่นอนสามารถวางที่นอนขนาด 3.5 ฟุตได้อย่างลงตัว

ด้านข้างในบ้านตัวอย่างตกแต่งเป็นที่นั่งทำงานพร้อมโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้าค่ะ

หลอดไฟภายในบ้านให้มาเป็นแบบไฟดาวน์ไลท์ทั้งหลัง

มีแผงควบคุมไฟฟ้ามาให้เรียบร้อยพร้อมฝาปิดป้องกันฝุ่นค่ะ

ส่วนปลั๊กและสวิตซ์ไฟที่ให้มาเป็นของยี่ห้อ Schneider Electric

มาดูเปรียบเทียบมุมต่อมุมระหว่าง บ้านตัวอย่าง กับ บ้านจริง ที่ลูกค้าจะได้กัน

เปิดห้อง  ส่องวัสดุ  :  Focus  on  “MATERIALS”

วัสดุในภาพรวมของโครงการ เดอะ แพลนท์ ปิ่นเกล้า-สาย 5 บ้านเปล่าจะได้ติด wallpaper ตามมาตรฐานโครงการ ส่วน เนเชอร่า เทรนด์ ปิ่นเกล้า-สาย 5  ทางโครงการจัดมาตามมาตรฐานค่ะ บ้านเปล่าจะได้ผนังฉาบเรียบทาสีตามมาตรฐานโครงการ สุขภัณฑ์ของ COTTO หรือเทียบเท่า ห้องครัวได้เป็นแบบห้องเปล่า

โครงสร้าง
บ้านทุกแบบใช้ผนัง Precast มาตราฐานพฤกษา

พื้น
– พื้นชั้นล่างปูกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60*60 ซม. / ชั้นบนปูไม้ลามิเนตพร้อมบัวสำเร็จรูป / ห้องน้ำ ชานข้างบ้านและระเบียงปูกระเบื้องขนาด 12*12 ซม. / พื้นที่จอดรถเป็นทรายล้าง

หน้าต่าง
– หน้าต่างวงกบ-บานกรอบอะลูมิเนียมสีดำ

ประตู
– ประตูหลักเป็นประตูกระจกบานเลื่อน อะลูมิเนียมสีดำ กระจกเขียวตัดแสง
– ประตูบานอื่น ๆ ทำจาก UPVC สีขาว

ฝ้า เพดาน
– ฝ้า เพดานฉาบเรียบ พร้อมไฟแบบดาวน์ไลท์ทั้งหลัง

อื่นๆ 

– หลอดไฟพัดลมระบายอากาศยี่ห้อ Lamptan
– Smart Home System (Motion sensor ที่ห้องรับแขก, ไฟแบบ Photo cell และ กล้อง CCTV ในโรงจอดรถ, สัญญาณ Siren ที่ระเบียงหน้าบ้าน, กล่อง RM ควบคุมการสั่งเปิดปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านผ่าน App)

 เปิดกระเป๋า  ดูสตางค์

ราคาขายเริ่มต้น ณ วันที่ไปรีวิว (11 มีนาคม 2562)  โครงการ เดอะ แพลนท์ ปิ่นเกล้า-สาย 5 ราคาเริ่มต้นที่ 3.85 ล้านบาท ส่วนบ้านโครงการเนเชอร่า เทรนด์ ปิ่นเกล้า-สาย 5 ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 2.88 ล้านบาท  ที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ 52,000 บาท

ราคา ณ วันที่  1 เมษายน 2562

ราคาเริ่มต้น :

• โครงการ เดอะ แพลนท์ ปิ่นเกล้า-สาย 5        >>  ราคาเริ่มต้น 3.85 ล้านบาท
• โครงการ เนเชอร่า เทรนด์ ปิ่นเกล้า-สาย 5     >>  ราคาเริ่มต้น 2.88 ล้านบาท

เงื่อนไขการจอง :

• เงินจอง
  • เดอะ แพลนท์ ปิ่นเกล้า-สาย 5      : 10,000 บาท
  • เนเชอร่า เทรนด์ ปิ่นเกล้า-สาย 5  : 10,000 บาท

• ค่าทำสัญญา
  • เดอะ แพลนท์ ปิ่นเกล้า-สาย 5     : 20,000 บาท
  • เนเชอร่า เทรนด์ ปิ่นเกล้า-สาย 5  : 5,000 บาท

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :

ค่าส่วนกลาง 30 บาท/ตารางวา/เดือน

ประมาณการอัตราผ่อนต่อเดือน

(เพื่อให้เห็นกรอบของค่าใช้จ่ายคร่าวๆ และนำไปวางแผนประมาณการของแต่ละคน  ถึงไม่ได้ซื้อห้องที่ยกมาเป็นตัวอย่างก็ใช้ตัวเลขได้ ซึ่งผมประมาณการอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าปกติหน่อย  เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรองรับความสามารถในการผ่อน  รวมถึงให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆ ที่เกิดขึ้น  เช่น  ค่าส่วนกลาง ไปด้วยในตัว)

Assumption 1: กู้ 95%   ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี  ระยะเวลากู้ 30 ปี

เดอะ แพลนท์ ปิ่นเกล้า – สาย 5           ราคา 3,850,000 บาท  ผ่อนประมาณ 23,118 บาทต่อเดือน

เนเชอร่า เทรนด์ ปิ่นเกล้า – สาย 5      ราคา 2,880,000 บาท  ผ่อนประมาณ 17,293 บาทต่อเดือน

Overview Summary

ด้านการเดินทาง

เนื่องด้วยพื้นที่โครงการ The Plant ปิ่นเกล้า-สาย 5 และโครงการ Natura Trend ปิ่นเกล้า-สาย 5 ตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่เข้า-ออกเดียวกับซึ่งอยู่บนซอยวัดไร่ขิง 42 ที่สามารถทะลุออกถนนเส้นหลักได้หลายเส้นอย่างถนนบรมราชชนนี ถนนพุทธมณฑลสาย 5 และถนนเพชรเกษม ซึ่งถือว่าค่อนข้างสะดวกแม้ว่าที่ตั้งของโครงการจะอยู่เข้าไปค่อนข้างลึก  แต่ก็ยังมีสิ่งอำนวยสะดวกอยู่รายล้อมในระยะขับรถถึงได้ไม่เกิน 15 นาทีนะคะไม่ว่าจะเป็น ตลาด ร้านค้า ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า สถานีตำรวจ โรงพยาบาล โรงเรียน มหาวิทยาลัย เป็นต้น

ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต

ในย่านนี้บริเวณใกล้เคียงในอนาคตจะมีรถไฟฟ้ามาถึง 2 สายด้วยกันอย่าง รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน บางแค-พุทธมณฑลสาย 4 ที่ปลายสายมาสุดอยู่ที่ถนนพุทธมณฑลสาย 4 จะเริ่มให้บริการได้ภายในปี 2566 ส่วนรถไฟฟ้าอีกสายหนึ่งคือ รถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา ที่สถานีใกล้โครงการที่สุดจะอยู่ตรงสถานีศาลายาแถวๆ มหาวิทยาลัยมหิดลที่จะเปิดให้ใช้บริการได้ในปี 2565 นี้ค่ะ ถ้าทั้งสองสายเสร็จเมื่อไหร่ ในย่านนี้น่าจะมีสิ่งอื่นๆ พัฒนาตามมาอีกมากมาย รวมถึงการเดินทางเข้า-ออกเมืองโดยรถสาธารณะจะสะดวกมากยิ่งขึ้น

ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ

การออกแบบบ้านของโครงการ เดอะ แพลนท์ ปิ่นเกล้า-สาย 5 ได้รับการออกแบบมาในสไตล์ Modern Tropical โดยการเลือกใช้สีโทนสบายตาอย่างสีขาว เทาอ่อน เทาเข้ม ตัดกัน  โดยภายในโครงการมีบ้านให้เลือกกันถึง 4 แบบมีทั้งแบบบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 132-166 ตารางเมตร ที่เปิดมาราคาเริ่มต้นที่ 3.85 ล้านบาทค่ะ

ภายนอกตัวบ้านออกแบบมาให้ใช้สอยได้อย่างคุ้มค่าทุกพื้นที่ตารางนิ้วกันเลยทีเดียว มีที่จอดรถหลังคาคลุมป้องกันแดด ป้องกันฝนให้อย่างดีพร้อมพื้นลานจอดรถแบบทรายล้าง

การตกแต่งภายในออกแบบมาให้ผู้อยู่อาศัยสามารถรับความเป็นธรรมชาติภายนอกได้จากการที่ทางโครงการติดตั้งบานประตูหน้าต่างกระจกบานใหญ่มาให้ค่อนข้างเยอะ ส่งผลให้บ้านดูโล่ง โปร่ง อีกทั้งยังทำให้บ้านดูสว่างจากการที่แสงธรรมชาติสามารถส่องเข้ามาได้ถึงข้างใน  ส่วนแบบแปลนพื้นที่การใช้งานแต่ละส่วนเชื่อมต่อการใช้งานที่สัมพันธ์กันได้อย่างลงตัว

โครงสร้างของบ้านทุกแบบภายในโครงการมีการก่อสร้างโดยใช้ผนังแบบ Precast ที่ไม่สามารถทุบผนังเพื่อต่อเติมหรือเจาะช่องเพิ่มประตูหน้าต่างได้ ส่วนบริเวณลานจอดรถที่ทางโครงการให้มาจะเป็นทรายล้างมีข้อดีคือเวลาฝนตกรถที่ขับเข้ามาจอดจะไม่ทำให้รถลื่นค่ะ

ทางด้านวัสดุอุปกรณ์ที่ให้มาก็เป็นไปตามมาตรฐานของโครงการ อย่างสุขภัณฑ์ให้มาเป็นของยี่ห้อ COTTO หรือเทียบเท่า ส่วนพื้นให้กระเบื้องสีขาวครีมขนาด 60*60 เซนติเมตร ชั้นบนจะปูด้วยไม้ลามิเนตลายไม้สีอ่อน ติดตั้งกรอบประตูและหน้าต่างอลูมิเนียมสีดำ กระจกสีเขียวตัดแสง หลอดไฟภายในบ้านติดตั้งมาเป็นแบบ Downlight ทั้งหมด ทำให้บ้านดูเป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงามค่ะ

ส่วนบ้านโครงการ เนเชอร่า เทรนด์ ปิ่นเกล้า-สาย 5 ได้รับการออกแบบมาให้ดูมีความกลมกลืนกับธรรมชาติด้วยการเลือกใช้หน้า Facade บางส่วนตกแต่งด้วยลายไม้  ให้ความรู้สึกอบอุ่น เป็นธรรมชาติ แต่ยังคงความร่วมสมัยได้อย่างดี

ในโครงการนี้มีแบบบ้านให้เลือก 2 แบบด้วยกันค่ะซึ่งจะเป็นบ้านแบบทาวน์โฮม มีพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นที่ 125-144 ตารางเมตร และมีราคาเริ่มต้นที่ 2.89 ล้านบาทค่ะ

ภายในออกแบบมาให้ส่วนต่างๆ เชื่อมต่อกันเข้าด้วยกันอย่างพอดีด้วยการให้ห้องรับประทานอาหาร ห้องครัวและห้องน้ำอยู่ใกล้กันจากกิจกรรมในแต่ละห้องที่ให้ความสัมพันธ์ระหว่างกันค่ะ

โครงสร้างบ้านจะใช้เป็น Precast ทั้งหมด  ส่วนบริเวณลานจอดรถเป็นแบบทรายล้างเหมือนกันกับโครงการเดอะ แพลนท์ ที่อยู่ในบริเวณพื้นที่เดียวกัน

ส่วนเรื่องของวัสดุ อุปกรณ์ที่ทางโครงการให้มาเป็นไปตามมาตรฐานไฟเพดานให้มาเป็นแบบ Downlight ทั้งหลัง กรอบประตูหน้าต่างเป็นบานเลื่อนอลูมิเนียมสีดำ ชั้นล่างปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้สีขาวครีมขนาด 60*60 เซนติเมตร ส่วนชั้นบนปูด้วยลามิเนตลายไม้ให้ความรู้สึกอบอุ่นสำหรับห้องนอน  บ้านทั้งหลังให้สุขภัณฑ์ยี่ห้อ COTTO หรือเทียบเท่า

พื้นที่ส่วนกลาง ของทั้งสองโครงการจะใช้ร่วมกันโดยมีสวนสาธารณะขนาดกว่า 1 ไร่ และอาคาร Clubhouse ที่ประกอบไปด้วย สระว่ายน้ำขนาด 20*7.2 เมตรลึก 1.2 เมตร, ห้องประชุม, ห้องออกกำลังกาย และพื้นที่นั่งเล่นชั้นบน  โดยที่อาคาร Clubhouse ตั้งอยู่บริเวณทางเข้าของโครงการ ส่วนสวนสาธารณะขนาดใหญ่จะอยู่บริเวณกึ่งกลางของทั้งสองโครงการค่ะ

Score Summary

สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยค่ะ  (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนบ้านจัดสรรที่นี่)

และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่  https://www.facebook.com/Yusabuy

ถ้าข้อมูลเป็นประโยชน์ ช่วยกด Like กด Share ให้ทีมงานด้วยนะคะ  ^_____^