
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ (ALL ) กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับความโดดเด่นของโครงการดังกล่าวจัดเป็นจุดไฮไลท์ของเมืองชลบุรีเพราะอยู่ใจกลางเมืองชลบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับการส่งเสริมจากโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก ในอนาคตจะมีทั้งโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินสนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินอู่ตะเภา และสนามบินดอนเมือง รวมทั้งการพัฒนาโครงการรถไฟรางคู่จากแหล่งอุตสาหกรรมทั่วประเทศที่เชื่อมสู่ท่าเรือแหลมฉบัง มาบตาพุด และสัตหีบ สำหรับการขนส่งสินค้าระบบรางที่มีค่าใช้จ่ายต่ำโดยรถไฟรางคู่เข้าเชื่อมโยงและมีระบบบริการการขนส่งสินค้าแบบไร้รอยต่อ(Seamless Operation) และการขยายถนนทางหลวงและมอเตอร์เวย์ รองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมและทางด้านเศรษฐกิจในอนาคตมากขึ้น
นอกจากบริษัทตั้งเป้าชิงมาเก็ตแชร์ของตลาดศูนย์การค้าและค้าปลีกในชลบุรี อีกทั้งยังคาดหวังจะเป็น Top of Mind ของลูกค้าในพื้นที่ใจกลางเมืองชลบุรีและพื้นที่ใกล้เคียงรวมไปถึงเขตระเบียงเศรษฐกิจ EEC คาดว่าจะจะมีรายได้จากธุรกิจ Shopping Mall หลังจากเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในครึ่งปีหลัง 2563 โดยคาดมีรายได้รวมเดือนละกว่า 10 ล้านบาท และหลังจากเปิดบริการเต็มปีในปี 2564 จะส่งผลให้มีรายได้เฉลี่ย 200 ล้านบาทต่อปี ซึ่งมาจากรายได้ค่าเช่า 90% และอื่นๆ อีก 10%
ดังนั้นมั่นใจว่าเป้ารายได้ใน 3 ปีจากนี้(ปี 2562 – 2564) เติบโตอีกเท่าตัวจากปี 2562 ที่ตั้งเป้ารายได้ที่ระดับ 4,500 ล้านบาทจากการการดำเนินธุรกิจแบบครบวงจรมากขึ้นทั้งอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัยที่ทยอยเปิดโครงการอย่างต่อเนื่องและยังมีศูนย์การค้า ค้าปลีก เพิ่มเข้ามา และจากกลยุทธ์การบริหารแบบเชิงรุกดังกล่าวจะส่งผลให้มาร์เก็ตแคปของบริษัทแตะระดับ 10,000 ล้านบาทในอีก 3 ปีข้างหน้าได้ตามแผนที่วางไว้