นายปิติ จารุกำจร รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมและบริหารกลยุทธ์โครงการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เผยว่า ปัจจุบัน โครงการ เดอะไลน์ อโศก-รัชดา มีสัดส่วนกลุ่มลูกค้าไทย 58% และต่างชาติ 42% ซึ่งอยู่อาศัยเองหรือเป็นเรียลดีมานด์สูงถึง 90% เป็นการตอกย้ำความสำเร็จของการพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์และได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้าที่มีต่อคุณภาพและความโดดเด่นโครงการ การบริการด้วยเทคโนโลยีรองรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต และการพัฒนาแบรนด์ เดอะ ไลน์ (THE LINE) ที่มีจุดเด่นด้านโลเคชั่นใกล้รถไฟใต้ดิน MRT สถานีพระราม 9 เพียง 300 เมตร สะดวกต่อการเดินทางในเมือง เป็นโครงการแรกที่แสนสิริรุกทำเลย่านอโศก–รัชดา ที่สร้างราคาขายเฉลี่ยต่อตร.ม. สูงที่สุดในย่านนี้ตั้งแต่ตอนเปิดตัว ทำให้ปิดการขายได้รวดเร็วตั้งแต่วันพรีเซลล์ ตลอดจนกลยุทธ์การตลาดที่สร้างความแตกต่างให้โครงการนี้ คือ การเป็น Smart Condo แห่งแรกของแสนสิริที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี Internet of Things (IoT)

นอกจากนี้ยังเตรียมเดินหน้าทะยอยโอนและส่งมอบห้องแก่ลูกค้าเดอะ ไลน์ อีกทั้ง 2 โครงการ พร้อมจัดโปรโมชั่นพิเศษ ได้แก่ “เดอะ ไลน์ สุขุมวิท 101” และ “เดอะ ไลน์ พหลฯ-ประดิพัทธ์” รวมมูลโครงการค่ากว่า 10,000 ลบ. จำนวน 1,759 ยูนิต ซึ่งปัจจุบันมียอดขายเฉลี่ยรวมเกือบ 70% ตามแผนการตลาดภายในสิ้นปีนี้ รวมถึงสานต่อโมเดลการพัฒนาคอนโดมิเนียมอัจฉริยะในโครงการเดอะ ไลน์ อื่นในอนาคต

เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา เป็นโครงการคอนโดมิเนียมสูง 38 ชั้น จำนวนทั้งสิ้น 473 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,900 ล้านบาท พัฒนาขึ้นในคอนเซ็ปต์ “Balance is Everything, Location is Everything” ที่เน้นจุดเด่นด้านโลเคชั่นศักยภาพ บนย่านธุรกิจแห่งใหม่ที่น่าจับตามองศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ (New CBD) ซึ่งเป็นพื้นที่รองรับการขยายตัวของเมืองต่อจาก Central Business District ที่รวมการคมนาคมที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ โดยเฉพาะจากแยกเพชรบุรีมาจนถึงแยกศูนย์วัฒนธรรม เพราะเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางเข้าสู่ย่านศูนย์กลางธุรกิจและยังใกล้ทางด่วน และความต้องการใหม่ทั้งชาวไทย และต่างชาติที่ย้ายมาอยู่อาศัยตามแหล่งงานเชื่อมต่อโดยรอบจากการรายล้อมด้วยโครงข่ายโครงสร้างพื้นฐาน

ทำเลนี้ถือว่ามีศักยภาพในแง่การลงทุนสูง จากความต้องการใหม่ทั้งชาวไทยและต่างชาติที่ย้ายมาอยู่อาศัยตามแหล่งงาน โดยเฉพาะชาวจีนและชาวญี่ปุ่นที่เริ่มเห็นเพิ่มขึ้นในทำเลนี้ รวมถึงแนวคิดของโครงการในการพัฒนาโมเดลสมาร์ท คอนโด สำหรับโครงการเดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา ที่โดดเด่นด้านการใช้ IoT เข้ามาเชื่อมโยงการจัดการอาคารเข้ากับผู้ใช้งานหรือผู้อาศัยที่มีความต้องการและพฤติกรรมที่แตกต่างกัน (Personalization) อาทิ ครั้งแรกของระบบลงทะเบียนสำหรับบุคคลภายนอกผ่านระบบคิวอาร์โค้ดโดยลูกบ้านสามารถกำหนดวันและเวลารวมทั้งบริเวณที่ผู้มาติดต่อสามารถเข้าถึงได้ (Smart Guest Registration)

นอกจากนี้ยังมีศูนย์ควบคุมระบบการบริหารจัดการอาคารด้วยระบบ IoT of Building, ระบบควบคุมการใช้ไฟฟ้าส่วนกลาง (Smart Lighting Control), ระบบควบคุมการปิด-เปิดประตูหนีไฟ (Smart Door Safety Monitoring), ระบบสมาร์ทล็อคเกอร์และ ตู้จ่ายพัสดุอัตโนมัติเชื่อมต่อกับ iBox (Smart Delivery), แท่นชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า พร้อมบริการรถยนต์พลังงานไฟฟ้า Smartmove และสถานีชาร์จประจุไฟฟ้า โดยสามารถจองใช้บริการได้ง่ายๆ บนแอพพลิเคชั่น Sansiri Home Service, เครื่องซักผ้าอัจฉริยะ (Smart Wash), เครื่องรับคืนขวดพลาสติก (Refun Machine) และระบบเทเลคอมในอาคารจอดรถ

สำหรับ เดอะ ไลน์ สุขุมวิท 101 มีมูลค่าโครงการ 4,200 ล้านบาท 37 ชั้น จำนวน 778 ยูนิต ติดถนนสุขุมวิท ใกล้รถไฟฟ้า BTS ปุณณวิถีเพียง 250 เมตร เริ่มต้นที่ 3.99 ลบ. และ เดอะ ไลน์ พหลฯ-ประดิพัทธ์ มูลค่าโครงการ 5,800 ล้านบาท 46 ชั้น จำนวน 981 ยูนิต บนถนนประดิพัทธ์ ใกล้รถไฟฟ้า BTS สะพานควายเพียง 550 ม. เริ่มต้น 3.9 ลบ. ปัจจุบันมียอดขาย เดอะ ไลน์ สุขุมวิท 101 กว่า 66% และ เดอะ ไลน์ พหลฯ-ประดิพัทธ์ อยู่ที่ 70% รวมมูลค่ากว่า 7,000 ล้านบาท

… พบกับโปรโมชั่นพิเศษสำหรับทั้ง 2 โครงการได้แล้ววันนี้! จองเริ่มเพียง 5,000 บาท ฟรี ค่าใช้จ่ายวันโอน และ ค่าส่วนกลางสูงสุด 2 ปี* …

สำหรับเดอะไลน์ ทั้ง 2 โครงการที่กำลังเตรียมโอนภายในสิ้นปีนี้ แสนสิริมั่นใจว่าจะสามารถทะยอยส่งมอบห้องและปิดการโอนเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ที่ได้ และส่งผลให้ยอดโอนรวมสิ้นปี 2562 เป็นไปตามเป้าที่ 32,000 ล้านบาท อย่างแน่นอน