บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ตั้งเป้าหมายแผนการดำเนินงาน ในปี 2563 โดยตั้งเป้าหมายยอดขาย (Booking) 28,000 ล้านบาท และเป้าหมายรับรู้รายได้จากยอดโอนกรรมสิทธิ์ 28,000 ล้านบาท
นายนพร สุนทรจิตต์เจริญ ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัทแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ได้ชี้แจงการดำเนินงานของบริษัทที่สำคัญในปี 2562 ดังนี้
- มีการเปิดโครงการใหม่ 16 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 30,535 ล้านบาท
- บริษัทมีการจัดการซื้อที่ดิน มูลค่าโดยรวม 5,000 ล้านบาท
- บริษัทมีการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพื่อการเช่า มูลค่ารวม 1,500 ล้านบาท
- บริษัทได้ออกหุ้นกู้ มูลค่ารวม 13,000 ล้านบาท ระยะเวลา 3 ปี อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 2.35% ต่อปี
- บริษัท LHMH ได้ขายโครงการ Grande Centre Point สุขุมวิท 55 ให้กับกองทรัสต์ เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ LHHOTEL ในมูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท
- บริษัท LHMH ได้ดำเนินการพัฒนาโครงการอีก 2 โครงการ คือ
-
- โครงการ Grande Centre Point Pattaya (2) บนที่ดิน 5 ไร่ จำนวนห้องพัก 490 ห้อง มูลค่าการลงทุน 3,400 ล้านบาท แล้วเสร็จประมาณ Q3/2565
- โครงการ Terminal 21 Rama III บนที่ดิน 15 ไร่ พื้นที่ให้เช่า (Leasable Area) 38,000 ตารางเมตร มูลค่าการลงทุน 4,500 ล้านบาท แล้วเสร็จประมาณ Q4/2564
ทางด้าน นายอดิศร ธนนันท์นราพูล กรรมการผู้จัดการ (สายสนับสนุน) ได้เปิดเผยถึงฐานะการเงินของบริษัทฯ ณ สิ้นปี 2562 ว่า บริษัทและบริษัทย่อยมีหนี้สินกู้สิทธิจำนวน 45,000 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนหนี้สินต่อทุนอยู่ที่ประมาณ 84% และต้นทุนทางการเงินเฉลี่ยอยู่ที่ 2.5% ในปี 2562 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีรายจ่ายด้านการลงทุนประมาณ 6,500 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น
- รายจ่ายในการซื้อที่ดินเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัย 5,000 ล้านบาท
- รายจ่ายในการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการให้เช่า มูลค่ารวม 1,500 ล้านบาท ประกอบด้วย
- การลงทุนในการพัฒนาโครงการ Shopping Mall – Terminal 21 จำนวน 900 ล้านบาท
- ลงทุนในธุรกิจโรงแรมและอพาร์ทเมนต์ จำนวน 600 ล้านบาท
และในปี 2562 บริษัทได้ขายโรงแรม Grande Centre Point สุขุมวิท 55 ให้กับกองทุนทรัสต์ เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ LHHOTEL ในมูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท โดยมีกำไรก่อนภาษีเป็นจำนวนกว่า 2,000 ล้านบาท
สำหรับในปี 2563 บริษัทฯ ได้เตรียมงบลงทุนไว้ทั้งหมดประมาณ 11,000 ล้านบาท ประกอบด้วย
- งบสำหรับการซื้อที่ดินเพื่อการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยประมาณ 7,000 ล้านบาท
- งบลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อการให้เช่าอีกจำนวน 4,000 ล้านบาท
นอกจากนี้บริษัทฯ มีแผนที่จะขายอพาร์ทเมนท์ 1 แห่งในสหรัฐอเมริกา และมีแผนที่จะออกหุ้นกู้อีกจำนวน 14,000 ล้านบาท
จากแผนการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2563 คาดว่า ณ สิ้นปี 2563 บริษัทฯ จะมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับเมื่อสิ้นปี 2562 โดยจะมีต้นทุนทางการเงินเฉลี่ยลดลงกว่าระดับเฉลี่ย ณ สิ้นปี 2562
ส่วน นายวัชริน กสิณฤกษ์ กรรมการผู้จัดการสายปฎิบัติการ โครงการบ้านจัดสรร และ นายอดุล ชูวณิชชานนท์ กรรมการผู้จัดการสายปฎิบัติการ โครงการอาคารชุด บริษัทแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ได้เปิดเผยภาวะตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2562 ที่ผ่านมา โดยสรุปดังนี้
ภาวะตลาดที่อยู่อาศัยปี 2562
ตลาดที่อยู่อาศัยโดยรวมในปี 2562 จากตัวเลขโดยรวมของบ้านจดทะเบียนเพิ่มเฉพาะประเภทจัดสรร ตั้งแต่ ม.ค.- ต.ค. 2562
- ยอดบ้านจดทะเบียนเพิ่มประเภทจัดสรร มีจำนวนรวมทั้งหมด 73,031 หน่วย ลดลง 22.0 % เทียบกับช่วงเวลา 10 เดือนของปี 61 (มีจำนวน 93,686 หน่วย)
- ประมาณการบ้านจดทะเบียนเพิ่มเฉพาะที่จัดสรรที่เกิดขึ้นทั้งปี 2562 มีจำนวนรวม 89,340 หน่วย ลดลง 18.8% เมื่อเทียบกับทั้งปี 2561 (ประเภทจัดสรร มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 110,053 หน่วย)
โดยสามารถจำแนก บ้านจดทะเบียนเพิ่มเฉพาะประเภทจัดสรรในช่วง 10 เดือนของปี 2562 และประมาณการรวมของปี 2562 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปี 2561 ได้ดังนี้
- ประเภทบ้านเดี่ยว ในช่วง 10 เดือน มีจำนวนรวม 12,635 หน่วย ลดลง 5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 61 (มีจำนวน 13,302 หน่วย)
- ประมาณการรวมทั้งปี 62 มีจำนวนรวม 15,140 หน่วย ลดลง 2.7 % เมื่อเทียบกับทั้งปี 61 (มีจำนวนรวม 15,563 หน่วย)
- ประเภทบ้านแฝด ในช่วง 10 เดือน มีจำนวนรวม 1,999 หน่วย เพิ่มขึ้น 27.4% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 61 (มีจำนวน 1,569 หน่วย)
- ประมาณการรวมทั้งปี 62 มีจำนวนรวม 2,400 หน่วย เพิ่มขึ่น 14.2% เทียบกับทั้งปี 61 (มีจำนวนรวม 2,101 หน่วย)
- ประเภททาวน์เฮ้าส์และอาคารพาณิชย์ ในช่วง 10 เดือน มีจำนวนรวม 17,636 หน่วย เพิ่มขึ้น 3% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 61 (มีจำนวน 17,416 หน่วย)
- ประมาณการรวมทั้งปี 62 มีจำนวนรวม 21,040 หน่วย เพิ่มขึ้น 4.9% เทียบกับทั้งปี 61 (มีจำนวนรวม 20,051 หน่วย)
- ประเภทคอนโดมิเนียม ในช่วง 10 เดือน มีจำนวนรวม 40,761 หน่วย ลดลง 33.6% เทียบช่วงเวลาเดียวกันของปี 61 (มีจำนวน 61,399 หน่วย)
- ประมาณการรวมทั้งปี 62 มีจำนวนรวม 50,760 หน่วย ลดลง 29.8% เทียบกับทั้งปี 61 ทั้งปีมีจำนวนรวม (72,338 หน่วย)
ผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2562
ผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2562 มีสัดส่วน แบ่งตามประเภทที่อยู่อาศัย และระดับราคา ได้ดังนี้
แบ่งตามประเภทที่อยู่อาศัย | แบ่งตามสัดส่วนระดับราคา | ||
ประเภทที่อยู่อาศัย | สัดส่วน | ระดับราคา | สัดส่วน |
บ้านเดี่ยว | 76 % | ต่ำกว่า 2 ล้านบาท | – |
ทาวน์เฮ้าส์ | 9 % | 2.01-4 ล้านบาท | 19 % |
คอนโดมิเนียม | 15 % | 4.01-6 ล้านบาท | 22 % |
6.01-10 ล้านบาท | 16 % | ||
10.01-25 ล้านบาท | 26 % | ||
มากกว่า 25 ล้านบาท | 17 % | ||
รวม | 100% | 100% | |
สัดส่วนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล | 91 % | ||
สัดส่วนต่างจังหวัด | 9 % |
ในปี 2562 ณ ต้นปี บริษัทฯ มีจำนวนโครงการที่เปิดดำเนินการ จำนวนทั้งรวมสิ้น 70 โครงการ ดังนี้
- โครงการในกทม. และปริมณฑล 42 โครงการ
- ต่างจังหวัด 28 โครงการ
รวมโครงการที่เปิดใหม่ระหว่างปี 16 โครงการ รวมโครงการที่เปิดดำเนินการในปี 62 มีจำนวนทั้งหมด 86 โครงการ สำหรับโครงการที่เปิดใหม่ 16 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 30,535 ล้านบาท จำแนกเป็น
- โครงการบ้านเดี่ยว 11 โครงการ
- โครงการบ้านแฝด 2 โครงการ
- โครงการทาวน์โฮม 5 โครงการ
- โครงการคอนโดมิเนียม 1 โครงการ
ในด้าน ส่วนแบ่งการตลาด (Market Share) ตามจำนวนหลัง ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ยอดรวมสะสมตั้งแต่ ม.ค. – ต.ค. 62 แบ่งจำแนกตามประเภทที่อยู่อาศัย เป็นดังนี้
- ตลาดบ้านเดี่ยว บริษัทมีส่วนแบ่งตลาด 7%
- ตลาดบ้านแฝด บริษัทมีส่วนแบ่งตลาด 1%
- ตลาดทาวน์เฮ้าส์ บริษัทมีส่วนแบ่งตลาด 1%
- ตลาดคอนโดมิเนียม บริษัทมีส่วนแบ่งตลาด 0.9%
แผนการดำเนินงานของบริษัทในปี 2563
ณ ต้นปี 2563 บริษัทฯ มีโครงการที่เปิดดำเนินการอยู่ทั้งสิ้น 78 โครงการ โดยเป็นโครงการในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 50 โครงการ และต่างจังหวัด 28 โครงการ และ ในปี 2563 นี้ บริษัทมีแผนการดำเนินงานเปิดโครงการใหม่ 16 โครงการ มูลค่ารวม 28,440 ล้านบาท แบ่งแยกเป็น
- โครงการในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 13 โครงการ
- ต่างจังหวัด 3 โครงการ
ทั้งนี้หากแบ่งตามประเภทของที่อยู่อาศัยได้ดังนี้
- โครงการบ้านเดี่ยว 11 โครงการ
- โครงการบ้านแฝด 3 โครงการ
- โครงการทาวน์เฮ้าส์ 3โครงการ
- คอนโดมิเนียม – โครงการ
รวมจำนวนโครงการที่เปิดดำเนินการทั้งสิ้นในปี 2563 ทั้งหมด 94 โครงการ
สัดส่วนของยอดขายรวม (Booking) ของปี 2563 มีรายละเอียดดังนี้
แบ่งตามประเภทที่อยู่อาศัย | แบ่งตามสัดส่วนระดับราคา | ||
ประเภทที่อยู่อาศัย | สัดส่วน | ระดับราคา | สัดส่วน |
บ้านเดี่ยว | 73 % | ต่ำกว่า 2 ล้านบาท | – |
ทาวน์เฮ้าส์ | 9 % | 2.01-4 ล้านบาท | 16 % |
คอนโดมิเนียม | 18 % | 4.01-6 ล้านบาท | 18 % |
6.01-10 ล้านบาท | 18 % | ||
10.01-25 ล้านบาท | 22 % | ||
มากกว่า 25 ล้านบาท | 26 % | ||
รวม | 100% | 100% | |
สัดส่วนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล | 89 % | ||
สัดส่วนต่างจังหวัด | 11 % |
เป้าหมายยอดขายในปี 2563 บริษัทตั้งเป้า ยอดขาย (Booking) รวม 28,000 ล้านบาท และ ยอดโอนกรรมสิทธิ์มูลค่ารวม 28,000 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยต่อยูนิตที่ขายในปี 2563 เท่ากับ 7.4 ล้านบาท (ปี 2562 ราคาเฉลี่ยต่อยูนิต 6.9 ล้านบาท)
สำหรับสัดส่วนของยอดขาย ในปี 2563 พิจารณาตามมูลค่า จำแนกตามประเภทที่อยู่อาศัย มีสัดส่วน ดังนี้
- บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด 73%
- ทาวน์เฮ้าส์ 9%
- คอนโดมิเนียม 18% (รายละเอียดตามตารางข้างต้น)
ในส่วนของ แผนการลงทุนในการซื้อที่ดิน เพื่อรองรับการขยายตัวในอนาคตในทำเลต่างๆ ในเขตกรุงเทพฯปริมณฑล และต่างจังหวัด งบประมาณรวม 7,000 ล้านบาท ทั้งนี้การพิจารณาซื้อที่ดิน บริษัทจะพิจารณาทำเลที่สามารถนำมาพัฒนาโครงการได้ทันทีและมีศักยภาพที่ดี
ภาวะตลาดที่อยู่อาศัยอาคารชุดในปี 2562
ภาวะตลาดที่อยู่อาศัย ประเภทอาคารชุด ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลในปี 2562 จากการสำรวจตลาดของบริษัท สรุปสาระสำคัญๆ ได้ดังนี้
- จำนวนหน่วยที่ขายได้ ทั้งหมด 35,678 หน่วย มูลค่า 147,292 ล้านบาท ลดลงจากปี 2561 28% เมื่อเทียบมูลค่ากับปี 2561
- สัดส่วนการขาย ที่เกิดจาก
- โครงการใหม่และโครงการเก่าในปี 2562 มูลค่าที่ขายได้จำนวน 147,292 ล้านบาท
- จากโครงการเปิดใหม่ มูลค่ารวม 52,034 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ ปี 2561 ลดลง 56%
- จากโครงการเก่า มูลค่ารวม 95,258 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับปี 2561 (รายละเอียดตามตารางด้านล่าง)
ภาวะตลาดที่อยู่อาศัยประเภทอาคารชุด ที่ขายได้ ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลในปี 2562 จำแนกตามระดับราคา
ระดับราคา | < 2.5 ลบ. | 2.5-5 ลบ. | 5.01-10 ลบ. | 10.01-20 ลบ. | > 20 ลบ. | รวม |
จำนวนหลัง | ||||||
2561 | 20,159 | 19,528 | 7,859 | 1,988 | 667 | 50,201 |
2562 | 19,961 | 19,019 | 4,669 | 1,607 | 422 | 35,678 |
% Change | -36% | -18% | -41% | -19% | -37% | -29% |
มูลค่า : ล้านบาท | ||||||
2561 | 37,831 | 67,192 | 51,071 | 24,800 | 23,594 | 204,488 |
2562 | 24,885 | 53,375 | 30,888 | 20,835 | 17,310 | 147,292 |
% Change | -34% | -21% | -40% | -16% | -27% | -28% |
ภาวะตลาดที่อยู่อาศัยประเภทอาคารชุดที่ขายได้ ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลในปี 2562 จำแนกตามโครงการใหม่ และโครงการเก่า
2561 | 2562 | % Change | |
New Project | |||
No. of New Projects | 92 | 48 | -48% |
Unit | 27,014 | 11,028 | -59% |
Value : MB. | 119,218 | 52,034 | -56% |
New Project | |||
No. of New Projects | 289 | 336 | 16% |
Unit | 23,187 | 24,650 | 6% |
Value : MB. | 85,270 | 95,258 | 12% |
รายละเอียดโครงการเปิดใหม่ในปี 2563
โครงการ | ประเภท | ขนาดโครงการ (ไร่) | จำนวนหลังทั้งหมด | ราคาเฉลี่ยต่อหลังล้านบาท | มูลค่าโครงการล้านบาท | ไตรมาสที่เปิดขาย |
1. Indy บางนา รามคำแหง 2 | TH | 36.6 | 355 | 3.95 | 1,400 | Q1 |
2. มัณฑนา มอเตอร์เวย์ กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ | SH | 47.6 | 177 | 11.02 | 1,950 | |
3. สีวลี 3 อยุธยา | SH | 17.6 | 70 | 6.43 | 450 | Q2 |
4. สีวลี ศรีนครินทร์ ร่มเกล้า | SH | 70 | 260 | 7.7 | 2,000 | |
5. สีวลี รัษฎา ภูเก็ต | SH | 83.7 | 204 | 13.43 | 2,740 | |
6. สีวลี เพชรเกษม 69 | SH | 35.7 | 82 | 11.59 | 950 | |
7. นันทวัน พระราม 9 ศรีนครินทร์ | SH | 45.2 | 88 | 46.02 | 4,050 | Q3 |
8. ชัยพฤกษ์ Westgate | SH | 30.8 | 129 | 6.02 | 800 | |
9. Indy ศรีนครินทร์ แพรกษา | TH | 28.1 | 286 | 3.5 | 1,000 | |
10. มัณฑนา สันทราย เชียงใหม่ | SH | 40.9 | 122 | 10.5 | 1,280 | |
11. Anya Westgate | Semi | 31.6 | 164 | 5.5 | 900 | |
12. Anya บางนา รามคำแหง 2 | Semi | 69.6 | 388 | 6.57 | 2,550 | |
13. Anya เพชรเกษม สาย 4 | Semi | 45.4 | 260 | 5 | 1,300 | |
14. มัณฑนา เพชรเกษม สาย 4 | SH | 57.5 | 228 | 7.46 | 1,700 | |
15. Villaggio ศรีนครินทร์ | รวม | 46.3 | 303 | 4.69 | 1,420 | Q4 |
SH | 24.8 | 99 | 7.3 | 720 | ||
TH | 21.5 | 204 | 3.43 | 700 | ||
16. มัณฑนา บางนา วงแหวน | SH | 96 | 262 | 15.08 | 3,950 | |
รวม | 782.4 | 3,378 | 8.42 | 28,440 |