รีวิววันนี้เราจะพามาชมโครงการ The Connect Ramintra Km.8 (เดอะ คอนเนค รามอินทรา กม.8) ทาวน์โฮม 2 ชั้นสไตล์ European Contemporary พัฒนาภายใต้แนวคิด Modish Real Living ที่ตั้งอยู่บนทำเลย่านรามอินทรา เดินทางสะดวก ใกล้ทางด่วน 2 สาย และรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่กำลังจะเปิดให้ใช้งานกันในปี 2564 ค่ะ สิ่งอำนวยความสะดวกมีครบอุดมสมบูรณ์ทั้งศูนย์การค้า ตลาด ร้านค้า โรงพยาบาล

The Connect รามอินทรา กม.8 มีแบบบ้านให้เลือก 2 แบบ ขนาดที่ดิน 18.2-20.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 115-136 ตร.ม. ฟังก์ชั่น 4 ห้องนอน 2-3 ห้องน้ำ 1-2 ที่จอด มาพร้อมการออกแบบที่ใส่ใจการประหยัดพลังงานภายในบ้าน โดยคำนึงถึงเรื่องแสง การหมุนเวียนอากาศภายในบ้านและระบายความร้อน แถมยังติดตั้ง Smart Control เพื่อการใช้ชีวิตที่สะดวกมากขึ้นมาให้อีกด้วย

The Connect Ramintra km.8

(เดอะ คอนเนค รามอินทรา กม.8 )

• เจ้าของโครงการ >>> บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)
• ที่ตั้งโครงการ >>> ซ.คู้บอน 27  บางเขน
• ขนาดที่ดิน >>>  39-2-04 ไร่
• ประเภท >>> ทาวน์โฮม
• จำนวน >>>  377 ยูนิต
• จำนวนชั้น >>> 2 ชั้น
• แบบบ้าน >>>
  • อาร์เทมีส (Artemis) >> ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 ม. ที่ดิน 18.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 115 ตร.ม. 3 ห้องนอน/ 2 ห้องน้ำ / 1 ที่จอดรถ
  • อพอลโล (Apollo) >> ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 ม.ที่ดิน 20.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 136 ตร.ม. 3 ห้องนอน/ 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอด
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> ราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท (ณ ก.พ. 63)
• พิกัด GPS >>> 13.8549363,100.6627919
• เว็บไซต์โครงการ >>> คลิกที่นี่
• โทร >>> 1739

เดอะ คอนเนค รามอินทรา กม.8 ตั้งอยู่ในซอยคู้บอน 27 ห่างจากปากซอย 600 ม. สามารถเข้าถึงได้จาก 2 ทางหลัก คือ ถนนคู้บอนและถนนเลียบทางพิเศษกาญจนาภิเษกที่สามารถเชื่อมออกไปรามอินทราหรือจะตรงขึ้นเหนือไปทางสายไหม-ลำลูกกา ก็ได้ พร้อมทั้งมีทางด่วน 2 สายอยู่ใกล้กับโครงการ ใครที่ต้องการใช้รถไฟฟ้าในอนาคตก็มีรถไฟฟ้าสถานีคู้บอนอยู่ใกล้กับโครงการมากที่สุด ห่างประมาณ 2.5 ก.ม. และยังอยู่ใกล้ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ The Promenade และ Fashion Island อีกด้วยนะคะ

(กดขยายภาพได้นะคะ)

เริ่มเดินทาง ดูทำเล

การเดินทางมายังโครงการ The Connect รามอินทรา กม. 8 สามารถมาได้หลายเส้นทาง โดยวันนี้เราเลือกเดินทางมาโครงการโดยใช้เส้นเลียบด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ฝั่งขาออกค่ะ  พอใกล้ถึงจุดตัดกับเส้นรามอินทราก็ขึ้นสะพานวนลงรามอินทราขาออกเพื่อไปถนนคู้บอน  หลังจากนั้นให้ขับรถเข้าไปอีกประมาณ 1.5 กม. จะถึงซอยคู้บอน 27 ทางซ้ายมือ ให้เลี้ยวเข้าไปอีกประมาณ 600 ม. ก็จะถึงทางเข้าโครงการแล้วค่ะ

มาดูตำแหน่งรอบๆ ตัวโครงการก่อนว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนกันบ้าง

ก่อนจะพาไปดูโครงการ เราขอเล่าถึงภาพรวมทำเลย่านรามอินทรากันสักเล็กน้อยนะคะ  บนถนนรามอินทราเป็นโซนที่อยู่อาศัยแนวราบ และมีกิจการพาณิชย์ต่างๆ อยู่อย่างคึกคักตลอดแนว  รวมถึงแหล่งชุมชนทั้งเก่าใหม่รายล้อมอยู่  ตัวโครงการ The Connect รามอินทรา กม.8  ตั้งอยู่ในซอยคู้บอน 27 เดินทางสะดวกเพราะใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์และมอเตอร์เวย์กาญจนาภิเษก ในอนาคตทำเลนี้จะยิ่งสะดวกสบายและเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้นอีก เนื่องจากปัจจุบันมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู แคราย-มีนบุรี ที่กำลังก่อสร้าง โดยมีสถานีคู้บอนอยู่ใกล้กับโครงการมากที่สุดห่างประมาณ 2.5 กม. คาดว่าจะเปิดให้เราได้ใช้บริการกันในปี 2564 ค่ะ

ถ้าดูจากแผนที่  เราจะเห็นว่าตลอดแนวเส้นรามอินทรานั้นมีสิ่งอำนวยความสะดวกจะกระจายตัวกันอยู่ตลอด  ไม่ว่าจะเป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่อย่าง The Promenade, Fashion Island  หรือคอมมิวนิตี้มอลล์ต่างๆ  นอกจากนั้นแหล่งช้อปปิ้ง กิน เที่ยว ก็ยังกระจายตัวไปตามแนวเส้นเลียบด่วนรามอินทราที่เราเพิ่งผ่านกันมาเมื่อกี้อีกหลายแหล่งไม่ว่าจะเป็น CDC, Central Eastville, Crystal Park, The Walk เกษตรนวมินทร์ และ Plearnary Mall ค่ะ

ส่วนถ้าเจ็บป่วย โรงพยาบาลที่อยู่ใกล้โครงการก็มีให้เลือกทั้ง โรงพยาบาลสินแพทย์ รามอินทรา และ โรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์ นะคะ

ส่วนบรรยากาศภายในถนนคู้บอนจะมีลักษณะเป็นแหล่งชุมชนที่มีความคึกคักสูง มีร้านค้า ร้านอาหาร และตลาดอยู่ตามเส้นทางโดยตลอด การเดินทางในย่านนี้นอกจากรถยนต์ส่วนตัวก็มีรถสาธารณะที่เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งใช้ในเดินทางไปมาค่ะ  สำหรับซอยคู้บอน 27  ที่เป็นซอยที่ตั้งของโครงการจะมีบรรยากาศที่เงียบสงบมากกว่า ไม่ค่อยวุ่นวาย เพราะเพื่อนบ้านส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยและยังมีที่ดินเปล่ารอการพัฒนาอยู่บางส่วน

ส่วนใครที่สนใจอยากลงไปสำรวจทำเลของ แบบละเอียด เดอะ คอนเนค รามอินทรา กม.8  ทีมงานเคยเขียนเล่าเรื่องของโลเคชั่นนี้แบบเจาะลึกเอาไว้แล้ว  สามารถคลิกเข้าไปดูพรีวิวทำเลโครงการ เดอะ คอนเนค รามอินทรา กม.8 เพิ่มเติมได้ตามลิงก์ด้านล่างนี้นะคะ  ส่วนเนื้อหาต่างจากนี้ในบทความเราจะพาทุกคนไปเจาะลึกในส่วนของตัวโครงการกันว่าแบบบ้านที่ออกแบบมานั้นมีจุดที่น่าสนใจอย่างไรบ้างค่ะ

เริ่มเปิดประตู ไปดูในโครงการ

เราขอเปิดกันด้วยซุ้มประตูทางเข้า The Connect รามอินทรา กม.8 กันก่อนเลย ใครที่เข้ามาครั้งแรกก็ไม่ต้องกลัวหลงเพราะสามารถมองเห็นซุ้มประตูทางเข้าได้ชัดเจนเลยค่ะ

โดยซุ้มจะเน้นคุมโทนด้วยสีขาวและสีเทาอ่อนดูสบายตา มีการเล่นเลเยอร์ให้ดูมีมิติซ้อนทับกัน

ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยการเข้าออกโครงการจะมีทั้งแบบประตูเหล็กและไม้กระดกกั้นอยู่ พร้อมทั้งมีกล้อง CCTV ตรวจคนเข้าออกอีกด้วยนะคะ

การเข้าออกโครงการจะใช้ระบบ Key Card Access

เมื่อผ่านประตูเข้ามาแล้วทางซ้ายมือบ้านหลังแรกจะเป็นที่ตั้งของ Sales Gallery ค่ะ

ภายในมีพื้นที่รับรองให้เราสามารถเข้ามานั่งตากแอร์เย็นๆ ติดต่อสอบถามพนักงานได้  ตกแต่งภายในโดยใช้สีเอิธ์นโทนเป็นหลัก ดูละมุนสบายตา

พื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งานเป็นอย่างไร

มาต่อกันที่พื้นที่ส่วนกลางกันบ้าง โครงการ The Connect รามอินทรา กม.8 จัดพื้นที่ส่วนนี้เป็นสวนสีเขียวเพื่อสร้างความร่มรื่นภายในโครงการ

รอบสนามหญ้ามีทางเดินที่จะมาเดินเล่นหรือวิ่งออกกำลังกายก็ได้นะคะ

มีส่วนของเครื่องออกกำลังกายและเครื่อเล่นเด็กมาให้ด้วยค่ะ

เปิดแปลนบ้าน

แปลนบ้านภายในโครงการ The Connect Ramintra KM.8 ทำบ้านหน้ากว้าง 5.7 ม. ความสูงฝ้า 3 ม.  มีแบบให้เลือก 2 แบบ  คือ

• อาร์เทมีส (Artemis) >>> ขนาดที่ดิน 18.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 115 ตร.ม. ฟังก์ชั่น 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ
• อพอลโล (Apollo) >>> ขนาดที่ดิน 20.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 136 ตร.ม. ฟังก์ชั่น 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ

โดยตัวบ้านมีจุดเด่นเรื่องประหยัดพลังงานทั้งการออกแบบที่เน้นช่องแสงภายในบ้าน ให้ทาวน์โฮมมีแสงธรรมชาติส่องเข้าไปถึงได้มากขึ้น รวมไปถึงระบบ Fresh Air ที่ติดตั้งมาตามจุดต่างๆ ของบ้านให้เกิดการหมุนเวียนอากาศและระบายความร้อนออกไป ช่วยให้เราประหยัดค่าไฟและค่าแอร์ไปได้เยอะเลยทีเดียวค่ะ

รีวิว โครงการ เดอะ คอนเนค รามอินทรา กม.8

แปลนทาวน์โฮม อาร์เทมีส (Artemis) ขนาด 115 ตร.ม

เปิดกันด้วยแปลนบ้านทาวน์โฮม อาร์เทมีส ที่มีพื้นที่ใช้สอย 115 ตร.ม. บ้านหน้ากว้าง 5.7 ม.  สามารถจอดได้ 1 คัน ค่ะ

บริเวณที่จอดรถจะมีห้องเก็บของใต้บันไดเพื่อใช้พื้นที่ให้เป็นประโยชน์มากที่สุด  ส่วนแปลนชั้น 1 ภายในบ้านพื้นที่ส่วนแรกเมื่อเปิดเข้ามาจะเป็นพื้นที่ของห้องนั่งเล่นเชื่อมติดกับพื้นที่รับประทานอาหารขนาด 4 ที่นั่ง มีประตูกระจกบานเลื่อนสามารถเปิดออกไปยังโซนหลังบ้านได้  มีห้องด้านหลังแยกเป็นส่วนครัวสำหรับเตรียมอาหาร  แต่หากใครอยากได้เป็นครัวไทยทำอาหารหนักๆ ก็สามารถต่อเติมพื้นที่หลังบ้านออกไปแล้วปรับเปลี่ยนห้องนี้เป็นห้องนอนได้ค่ะ  สำหรับห้องน้ำชั้น 1 จะอยู่ติดกับห้องครัวนะคะ

แปลนชั้น 2 ของบ้าน จะแบ่งพื้นที่ออกมาเป็น 2 ส่วน โดยมีห้องน้ำคั่นอยู่ตรงกลาง ส่วนแรกจะเป็นตำแหน่งของห้องนอนใหญ่ มีสเปซกว้างพอสำหรับทำพื้นที่แต่งตัวแยกออกมาเป็นสัดส่วนค่ะ ส่วนที่ 2 จะอยู่โซนหลังบ้านเป็นตำแหน่งของห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้อง ที่สามารถวางเตียงเดี่ยวสำหรับลูกๆ ได้สบาย

หน้าตาแบบบ้าน Artemis จะเป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น ขนาดเล็กที่สุดในโครงการ ออกแบบมาสไตล์ European Contemporary ที่เน้นเส้นสายของเสาและหน้าต่างทรงสูงให้ดูเด่นขึ้นมา  ใช้โทนสีขาวตัดกับสีครีมและตกแต่งหน้าต่างบานลูกฟักให้บ้านดูอบอุ่นมากขึ้น

หากเรามองขึ้นไปดูที่ Facade ชั้น 2 ของบ้าน  เราจะเห็นการตกแต่งบริเวณระเบียงโดยการเล่นสีตัดกันระหว่างสีน้ำตาลกับสีครีมให้บ้านดูไม่เรียบจนเกินไปค่ะ หากสังเกตดีๆ เราจะมองเห็นช่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ที่ผนัง ซึ่งช่องนี้ คือ Fresh Air ระบบระบายอากาศภายในบ้านที่เกริ่นไว้ก่อนหน้านี้นั่นเอง

ส่วนชั้นล่างของบ้านสามารถจอดรถได้ 1 คัน มีขนาดกว้างพอสำหรับจอดรถกระบะยาวๆ ได้ นอกจากนี้ยังมีส่วนของห้องเก็บของอยู่บริเวณนี้ ทำให้เราสะดวกในการใช้งานเวลาเก็บอุปกรณ์ต่างๆ

ทาวน์โฮมตัวอย่าง เดอะ คอนเนค รามอินทรา กม.8
แบบบ้าน Artimis ขนาด 115 ตร.ม.

เมื่อเปิดเข้ามาจะพบกับพื้นที่ห้องนั่งเล่นอยู่ในโซนด้านหน้า ส่วนด้านหลังจะเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร มีบันไดเป็นตัวกลางกั้นแยกโซนให้เป็นสัดส่วนชัดเจนมากยิ่งขึ้นค่ะ

บรรยากาศภายในบ้านดูโปร่งโล่งไม่อึดอัด มีแสงธรรมชาติส่องเข้าถึง ทาวน์โฮมแปลงมุมจะได้หน้าต่างเพิ่มเติมเข้ามาอีกด้วย

พื้นที่ห้องนั่งเล่นสามารถวางโซฟาและโต๊ะกลางได้พอดี มีพื้นที่เหลือสำหรับทำเป็นทางเดินได้สบายเลยค่ะ

ถัดมาตรงกลางบ้านจะเป็นส่วนของบันไดทางขึ้นชั้น 2 ห้องที่อยู่ติดกันจะเป็นห้องน้ำชั้น 1

ซึ่งภายในห้องน้ำให้อุปกรณ์และสุขภัณฑ์มาครบทั้ง ฝักบัวอาบน้ำ อ่างล้างมือ โถสุขภัณฑ์ รวมไปถึงเครื่องระบายอากาศ แต่ไม่ได้แยกโซนเปียกโซนแห้งมาให้นะคะ

สำหรับพื้นที่รับประทานอาหารมีสเปซสามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารสำหรับ 4-5 ที่นั่ง  เป็นขนาดที่ใช้งานได้จริงค่ะ

จากตำแหน่งที่ตั้งเรายังได้สามารถมองวิวพื้นที่หลังบ้านได้อีกด้วย ทำให้บรรยากาศการทานอาหารดูไม่อึดอัดจนเกินไป

ห้องฝั่งตรงข้ามกัน ทาวน์โฮมตัวอย่างตกแต่งเป็นห้องครัวแบบปิด ใครที่ชอบทำอาหารก็ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นจะเข้าไปรบกวนในบ้านค่ะ

ออกมาพื้นที่หลังบ้านกันสักหน่อย มองจากมุมนี้จะเห็นได้ว่าทาวน์โฮมของที่นี่ทำประตูกระจกบานเลื่อนที่เชื่อมออกมาได้ 2 ทางจากพื้นที่รับประทานอาหารและจากห้องครัว ทำให้เราสะดวกในการปรับเปลี่ยนเพิ่มพื้นที่บ้านโดยไม่ต้องเจาะหรือทุบผนังให้เกิดปัญหากับโครงสร้าง Precast ค่ะ

ตัวพื้นหลังบ้านเองก็ลงเสาเข็มรองรับการต่อเติมเอาไว้ให้เรียบร้อย ป้องกันการทรุดตัว

กลับเข้ามายังชั้น 2 ของบ้านกันต่อ เมื่อเดินขึ้นบันไดมาจะพบกับโถงกลางทางเดินที่เชื่อมห้องต่างๆ เข้าด้วยกัน ซึ่งพื้นที่ตรงจุดนี้ติดตั้งทั้ง Fresh Air และ เครื่องระบายอากาศมาให้ เพื่อเพิ่มการหมุนเวียนอากาศภายในบ้านให้มากขึ้นและระบายความร้อน

Fresh Air ภายในบ้าน

นอกจากนี้ยังมีช่อง Skylight มาให้เพื่อเพิ่มแสงธรรมชาติให้ส่องเข้าถึงมากขึ้น ช่วยแก้ปัญหาพื้นที่อับแสงภายในบ้านบริเวณโถงบันไดของทาวน์โฮมได้ดีเลยทีเดียว

ห้องนอนใหญ่จะอยู่ในตำแหน่งหน้าบ้าน บรรยากาศดูโปร่ง มีช่องหน้าต่างหลายบาน สามารถวางเตียงขนาดใหญ่ได้สบาย

ส่วนพื้นที่อีกฝั่งหนึ่งเราสามารถ Built-in ทำเป็นชั้นวางทีวีและตู้เสื้อผ้าได้ประมาณ 2 ตู้

มุมพื้นที่แต่งตัวแบบชัดๆ ค่ะ

ห้องนอนเล็กจะอยู่ในโซนด้านหลังบ้าน มีสเปซที่เหมาะสำหรับวางเตียงเดี่ยวและ Built-in เฟอร์นิเจอร์แบบชิดมุม เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการใช้สอยให้มากขึ้น

ห้องนอนเล็กอีกห้องที่อยู่ติดกันมีขนาดไม่แตกต่างกันมาก หากสังเกตจะเห็นระบบ Fresh Air ติดตั้งอยู่ตามห้องต่างๆ อีกด้วย

ห้องน้ำชั้นบนจะเป็นแบบที่ใช้ร่วมกัน ซึ่งห้องน้ำจะแยกโซนแห้งโซนเปียกเอาไว้ให้เรียบร้อย โดยติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำมาค่ะ

ในห้องน้ำก็ยังมี Skylight นะคะ ตอนกลางวันเดินเข้าห้องน้ำจึงไม่ต้องเปิดไฟก็ได้

แบบบ้านเปล่าที่เป็นทาวน์โฮมหลังกลาง

ห้องที่อยู่ชั้นล่าง ทางโครงการทำประตูบานเลื่อนมากั้นแยกโซนเอาไว้ให้

พื้นที่หลังบ้านเป็นพื้นเทคอนกรีต มีเสาเข็มรองรับน้ำหนัก

สเปซห้องนอนใหญ่ก็เป็นผนังฉาบเรียบทาสีขาวค่ะ

รีวิว โครงการเดอะ คอนเนค รามอินทรา กม.8

แปลนทาวน์โฮม ทาวน์โฮม อพอลโล (Apollo) ขนาด 136 ตร.ม.

มาถึงแบบบ้าน อพอลโล กันบ้าง  แบบนี้เป็นบ้านทาวน์โฮม 2 ชั้น มีขนาดพื้นที่ใช้สอย 136 ตร.ม. ทำบ้านหน้ากว้าง 5.7 ม. เช่นกัน  แต่จะสามารถจอดรถได้ 2 คัน

เมื่อเปิดเข้ามาภายในบ้าน พื้นที่ติดประตูทางเข้าจะเป็นส่วนของห้องนั่งเล่นและบันไดทางขึ้น ถัดไปจะเป็นห้องน้ำชั้นล่าง ส่วนห้องที่อยู่ติดกันจะเป็นห้องครัวแบบปิดที่มีประตูบานเลื่อนสามารถเชื่อมออกไปยังหลังบ้านได้ค่ะ

ชั้น 2 ของบ้าน  จุดที่แตกต่างจากแบบแรกก็คือในห้อง Master bedroom จะมีห้องน้ำในตัวด้วย  พื้นที่โซนด้านหน้าจะเป็นพื้นที่ของห้องนอนใหญ่ทั้งหมด สามารถวางเตียงขนาดใหญ่ได้สบาย  ปลายเตียงมี Walk-in closet ที่เชื่อมต่อกับห้องน้ำ  ห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้องมีขนาดแตกต่างกันเล็กน้อย ไม่มีห้องน้ำในตัว ต้องออกมาใช้ห้องน้ำที่โถงกลางค่ะ

หน้าตาแบบบ้าน อพอลโล จะมีลักษณะการตกแต่ง Facade ที่ใกล้เคียงกับแบบก่อนหน้านี้ โดยจะเน้นไปที่เสาให้ดูดึงดูดสายตาเช่นเดิมค่ะ ตัวทาวน์โฮมคุมโทนสีด้วยสีเทาเข้มกับสีเทาอ่อนตัดกัน  ซึ่งเป็นสีที่ดูเรียบง่ายคงอยู่ได้นานไม่ตกเทรนด์

ทาวน์โฮมแปลงมุมจะมีการตกแต่งหลังคาที่แตกต่างจากหลังอื่นโดยยื่นออกมานิดนึงค่ะ

ส่วนชั้นล่างของบ้าน ประตูทางเข้าบ้านจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อนเขียวตัดแสง  มีช่องแสงบริเวณทางขึ้นบันไดช่วยให้แสงธรรมชาติส่องเข้าไปในบ้านได้มากขึ้น

ทาวน์โฮมตัวอย่าง เดอะ คอนเนค รามอินทรา กม.8
แบบบ้าน Apollo ขนาด 136 ตร.ม.

เปิดมาส่วนแรกจะเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่น สามารถมองเห็นลึกเข้าไปจนถึงโซนรับประทานอาหารที่อยู่หลังบ้านเลยค่ะ

พื้นที่ห้องนั่งเล่นที่อยู่ด้านหน้าจะได้แสงธรรมชาติจากประตูทางเข้า และถ้าเป็นบ้านหลังมุมจะได้หน้าต่างด้านข้างเพิ่มเติมอีกด้วย ส่วนสเปซค่อนข้างกว้างสามารถวางโซฟาขนาดใหญ่ได้ หรือจะเป็นตัว L ก็ยังมีพื้นที่เหลือค่ะ

อีกฝั่งนึงจะเป็นชั้นวางทีวีและบันไดทางขึ้นชั้นบน

ติดกันจะเป็นห้องน้ำชั้นล่างที่อยู่ตำแหน่งใต้บันได ภายในไม่ได้แยกโซนเปียกโซนแห้งเอาไว้ ตกแต่งด้วยกระเบื้องสีเทา ทำให้ง่ายต่อการดูแล ทำความสะอาด

พื้นที่รับประทานอาหารสามารถนั่งได้ 4-5 ที่นั่ง ใครที่ตกแต่งพื้นที่ส่วนนี้แล้วดูโล่ง ก็ลองเอาแชนเดอเรียมาประดับตกแต่งให้ห้องดูเต็มขึ้นได้ตามแบบบ้านตัวอย่างนะคะ

มองจากอีกมุมจะมองเห็นประตูทางเข้าไปยังห้องชั้นล่าง ซึ่งบ้านตัวอย่างทำเป็นฟังก์ห้องครัวมาให้ดูเป็นไอเดียค่ะ

ในห้องครัวทางโครงการไม่ได้ก่อเคาร์เตอร์มาให้ ทำให้เราสามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องอเนกประสงค์หรือห้องทำงานได้ตามใจเรา

พื้นที่หลังบ้านมีการลงเสาเข็มรับน้ำหนักให้เหมือนแแบบบ้านก่อนหน้านี้ค่ะ (ในรูปคือตกแต่งให้ดูเป็นไอเดียนะคะ)

กลับเข้ามาในบ้าน ก่อนจะเดินขึ้นบันไดไปชั้น 2 จะเห็นว่าโครงการทำช่องแสงไว้เพื่อให้มีแสงส่องเข้าไปในบ้านมากขึ้น

บริเวณโถงบันไดก็มี Skylight ให้เช่นกัน ช่วยให้บ้านดูโปร่งขึ้นและยังประหยัดไฟไปในตัวค่ะ

เครื่องระบายอากาศบริเวณโถงบันได

เดินเข้ามาในห้องนอนใหญ่กันต่อค่ะ ทางโครงการจัดสเปซและฟังก์ชั่นการใช้งานเป็นสัดส่วน พื้นที่วางเตียงกว้างพอสำหรับเตียงขนาดใหญ่และโต๊ะข้างเตียง

ส่วนพื้นที่อีกฝั่งก็มีประตูมากั้นทำเป็น Walk-in Closet ได้

โดยเราสามารถ Built-in ตู้เสื้อได้ 2 ตู้ หรือจะทำเป็นตู้โชว์คอลเลคชั่นกระเป๋าเอาไว้แมทซ์กับชุดก็เป็นไอเดียที่น่าสนใจนะคะ

ห้องน้ำภายในห้องนอนใหญ่จะได้อุปกรณ์สุขภัณฑ์ต่างๆ ของแบรนด์ Kohler หรือเทียบเท่า หน้าต่างระบายอากาศและ Skylight ในห้องน้ำ

มาดูห้องนอนเล็กด้านหลังบ้านกันบ้าง พื้นที่ของห้องนี้จริงๆ สามารถเลือกวางเตียงได้ทั้งแบบ 3.5 ฟุต และ 5 ฟุต ขึ้นอยู่กับความชอบค่ะ  หากวางเตียงใหญ่ก็ต้องแลกมาด้วยพื้นที่ห้องที่ลดน้อยลง หรือใครต้องการพื้นที่สำหรับมุมส่วนตัวและฟังก์ชั่นอื่นๆ ขนาด 3.5 ฟุตก็ดูลงตัวดีนะคะ

ห้องนอนเล็กอีกห้องที่อยู่ติดกัน มีขนาดเล็กลงมาหน่อย เหมาะกับวางเตียงเดี่ยว 3.5 ฟุต มากกว่า

ห้องสุดท้ายที่เราจะพามาทัวร์กันคือ ห้องน้ำชั้น 2 ที่ใช้ร่วมกันของห้องนอนเล็ก พื้นที่โซนด้านหน้าจะเป็นส่วนแห้ง โซนด้านในสุดจะเป็นพื้นที่เปียก มีฉากกั้นอาบน้ำติดตั้งมาให้ค่ะ

แบบบ้านเปล่าที่เราจะได้จริง คือ ผนังฉาบเรียบสีขาว พื้นปูด้วยแกรนิตโต้ 60*60 ซม.

ห้องชั้น 1 ติดตั้งท่อน้ำดีเอาไว้ให้เผื่อใครอยากจะทำเป็นห้องครัว

เปิดห้อง  ส่องวัสดุ  :  Focus  on  “MATERIALS”

วัสดุในภาพรวมของโครงการ The Connect Ramintra KM.8 นั้นให้มามาตรฐาน มีการติดตั้ง Smart Control มาให้ภายในบ้านพร้อมกล้อง CCTV ที่โรงจอดรถทุกหลัง และยังมีระบบ Fresh Air ใครที่เป็นห่วงเรื่องฝุ่น PM 2.5 ที่จะเข้ามาในระบบ Fresh Air ก็ไม่ต้องเป็นกังวลเพราะทางโครงการมี Filter กรองฝุ่นติดตั้งมาให้ค่ะ

อยู่สบายแบ่งแบบเป็น 3 ส่วนให้ดูกันง่ายๆ เป็นวัสดุห้องครัว ห้องน้ำ และวัสดุปิดผิวในห้อง (Finishing Material) สำหรับส่วนครัวนั้นไม่มีรายละเอียดอะไรมากค่ะ เพราะเตรียมพื้นที่กับงานระบบไว้ให้เฉยๆ

วัสดุห้องครัว

ใครที่ไม่ได้ต่อเติมบ้านทำครัวเพิ่มเติมเอง ก็สามารถใช้ห้องชั้นล่างเป็นห้องครัวได้ เพราะทางโครงการเตรียมท่อน้ำเอาไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ

ลองเทียบกับรูปตัวอย่างครัวของบ้านตัวอย่างมาให้ดูเทียบกันค่ะ เอาไว้เป็นไอเดียในการทำได้

วัสดุห้องน้ำ

อ่างล้างมือเซรามิกสีขาวแบบแขวน

ก๊อกน้ำแบบก้านโยกของแบรนด์ Englefield

ฝักบัวอาบน้ำก้านจับพอดีมือ

กระจกเงาในห้องน้ำชั้น 2 แบบยาวตั้งแต่อ่างล้างหน้าไปจนถึงโถสุขภัณฑ์

ฉากกั้นอาบน้ำในห้องน้ำชั้น 2 ของแบบทาวน์โฮม Apollo

ฉากกั้นอาบน้ำในห้องน้ำของบ้าน Artimis และในห้องน้ำของห้องนอนใหญ่ Apollo

โถสุขภัณฑ์สีขาวของ Kohler

กระจกเงาในห้องน้ำ

หน้าต่างบานกระทุ้งในห้องน้ำ ช่วยระบายอากาศและความชื้น

ช่อง Skylight ภายในห้องน้ำชั้น 2 ของบ้านทุกหลัง ทำให้มีแสงธรรมชาติส่องเข้ามาได้มากขึ้น

พัดลมระบายอากาศภายในห้องน้ำ

ราวตากผ้าแบบสแตนเลส

วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (Finishing)

รั้วประตูทำจากเหล็ก ทาสีดำ พับได้แบบบานเฟี้ยม

ประตูบ้านใช้วงกบสีขาว เป็นกระจกบานเลื่อน 2 บาน

ด้ามจับแบบตัวล็อคกุญแจธรรมดาจากด้านนอก

ส่วนภายในบ้านเป็นมือจับแบบนี้ค่ะ

พื้นชั้น 1 ปูด้วยแกรนิตโต้ ขนาด 60×60 ซม.

พื้นชั้น 2 ปูด้วยลามิเนตสีน้ำตาลลายไม้

พื้นในห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องสีเทา

บันไดทางขึ้นลูกนอนปิดด้วยไม้สีเข้ม

Skylight บริเวณโถงบันไดของบ้าน Apollo

Smoke Detector  ภายในบ้าน

สวิซต์ปิดเปิดไฟสีขาว

สวิซต์ปิดเปิดแบบ Touch

ระบบ Fresh Air ที่ติดตั้งตัวกรองฝุ่น PM 2.5 เอาไว้ให้เรียบร้อย

เครื่องระบายอากาศภายในบ้าน อยู่บริเวณโถงกลางชั้น 2

ประตูกระจกบานเลื่อนของห้องชั้นล่าง

ลูกบิดประตูห้องต่างๆ

กล้อง CCTV บริเวณโรงจอดรถ

เครื่องควบคุมไฟติดตั้งอยู่บริเวณโถงกลางชั้น 2

เปิดกระเป๋า  ดูสตางค์

ราคาขายเริ่มต้น ณ วันที่ไปรีวิว (ก.พ. 63) ราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท*ค่ะ

ราคา ณ กุมภาพันธ์ 2563

ราคาเริ่มต้น :

ราคาเริ่มต้น 1,990,000 บาท

เงื่อนไขการจอง :

• เงินจอง

จอง XX,XXX บาท , ทำสัญญา XX,XXX บาท

• ผ่อนดาวน์

เป็นบ้านสร้างเสร็จพร้อมอยู่

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :

ค่าส่วนกลาง  N/A บาท/ตารางวา/เดือน (ชำระล่วงหน้า X  ปี)

ค่าธรรมเนียมโอน N/A %

ประมาณอัตราการผ่อน (คิดจากราคาเริ่มต้นด้านบน) 

(เพื่อให้เห็นกรอบของค่าใช้จ่ายคร่าวๆและนำไปวางแผนประมาณการของแต่ละคน  ถึงไม่ได้ซื้อห้องที่ยกมาเป็นตัวอย่างก็ใช้ตัวเลขได้ ซึ่งผมประมาณการอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าปกติหน่อย  เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรองรับความสามารถในการผ่อน  รวมถึงให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆที่เกิดขึ้น  เช่น  ค่าส่วนกลาง ไปด้วยในตัว) :

บนสมมติฐาน กู้  95% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 30 ปี

ราคาขาย 1,990,000 บาท ผ่อนประมาณ 11,949 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  95% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 25 ปี

แปลง D02 พื้นที่ 18.10 ตร.วา ราคาขาย 1,990,000 บาท ผ่อนประมาณ 12,765 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  95% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 20 ปี

แปลง D02 พื้นที่ 18.10 ตร.วา ราคาขาย 1,990,000 บาท ผ่อนประมาณ 14,095 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  95% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 15 ปี

แปลง D02 พื้นที่ 18.10 ตร.วา ราคาขาย 1,990,000 บาท ผ่อนประมาณ 16,468 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  95% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 10 ปี

แปลง D02 พื้นที่ 18.10 ตร.วา ราคาขาย 1,990,000 บาท ผ่อนประมาณ 21,466 บาท/เดือน

Overview Summary

ด้านการเดินทาง

การเดินทางในย่านนี้สะดวกทั้งรถยนต์ส่วนตัวและรถสาธารณะ เพราะคู้บอนเป็นเป็นทำเลที่พักอาศัยมีแหล่งชุมชนคึกคักและเป็นเส้นทางผ่านสัญจรของคนจำนวนมาก  ทำให้มีรถสองแถว วินมอเตอร์ไซต์ แท็กซี่ วิ่งผ่านไปมาให้บริการตลอด และยังสามารถเชื่อมไปออกถนนรามอินทรา และถนนเลียบมอเตอร์กาญจนาภิเษกได้ง่ายด้วยค่ะ

ส่วนใครที่ต้องการเข้าออกนอกเมืองแบบใช้ทางพิเศษ ก็มีทางมอเตอร์เวย์กาญจนาภิเษกห่างจากโครงการ 6 กม.และทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ที่สามารถใช้เป็นเส้นทางวิ่งตรงเข้าเมืองไปย่านทองหล่อเอกมัยได้สะดวก อยู่ห่างออกไปประมาณ 7 กม. ค่ะ

ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต

การเติบโตของย่านนี้เกิดจากการขยายตัวของเมืองออกมา ทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่ถูกพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัย, แหล่งการค้าการพาณิชย์  เกิดสิ่งอำนวยความสะดวกตามมารองรับ  และในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพู แคราย-มีนบุรี วิ่งผ่านบนเส้นรามอินทรา โดยมีสถานีคู้บอนอยู่ใกล้โครงการมากที่สุด ห่างประมาณ 2.5 กม. (แล้วเสร็จปี 2564)  ซึ่งรถไฟฟ้าสายสีชมพูเป็นสาย  Feeder line ที่สามารถเชื่อมต่อไปโซนอื่นๆ ได้อีกหลายโซนช่วยให้ทำเลรามอินทราเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น  ในระยะยาวก็มีแนวโน้มของการเติบโตของมูลค่าอสังหาฯ มากขึ้นตามไปด้วยค่ะ

ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ

ภาพรวมของงานดีไซน์ The Connect รามอินทรา กม.8 นั้นทำออกมาสไตล์ European Contemporary เน้นน้ำหนักไปที่เสา ดูเรียบง่าย แต่ก็มีเส้นสายที่ดึงดูดสายตา เลือกใช้สีโทนสีเทาอ่อน สีครีม สีขาว เป็นหลักทำให้ภาพลักษณ์ของตัวโครงการออกมาดูซอฟๆ  ตัวบ้านมีจุดเด่นเรื่องประหยัดพลังงาน โดยเฉพาะการเอาแสงธรรมชาติเข้าภายในบ้านอย่างการติดตั้ง Skylight ตามจุดต่างๆ ช่วยแก้ปัญหามุมอับแสงภายในทาวน์โฮมและทำให้บรรยากาศดูโปร่งมากขึ้น  ไม่ต้องเปิดไฟในตอนกลางวันด้วยค่ะ  นอกจากนี้ก็ยังมีระบบ Fresh Air ที่ช่วยระบายความร้อนและเพิ่มการหมุนเวียนอากาศภายในบ้านให้มากขึ้น ทำให้ทาวน์โฮม The Connect รามอินทรา กม.8  น่าจะช่วยพลังงานและค่าไฟให้กับลูกบ้านได้ในระยะยาวค่ะ

ตัวทาวน์โฮมเป็นบ้านหน้ากว้าง 5.7 ม. ฟังก์ชั่นภายในจัดวางได้เป็นสัดส่วน ความสูงฝ้า 3 ม. ทางโครงการทำประตูเชื่อมออกไปหลังบ้านได้ 2 ทาง ทั้งจากพื้นที่รับประทานอาหารและห้องชั้นล่าง ทำให้เราสะดวกในการต่อเติมบ้าน เช่น การขยายพื้นที่ทำห้องด้านหลังเพิ่ม ก็เพียงถอดประตูบานเลื่อนออกเท่านั้น ไม่ต้องเจาะหรือทุบกำแพงบ้าน ให้มีปัญหากับ Precast ค่ะ ห้องนอนใหญ่ของแบบทาวน์โฮม Apollo จะได้พื้นที่ Walk-in Closet และ ห้องน้ำในตัวทำในห้สะดวกต่อการใช้งาน

ส่วนของวัสดุในภาพรวมนั้นให้มาตามมาตรฐานค่ะ  พื้นชั้นล่างเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้แผ่นใหญ่  ชั้นบนเป็นลามิเนต สุขภัณฑ์ของ Kohler หรือเทียบเท่า บ้านทุกหลังจะได้ระบบ Smart Control เอาไว้สั่งอุปกรณ์ผ่านแอพพลิเคชั่นในมือถือ ได้ CCTV บริเวณที่จอดรถทุกหลัง และยังติดตั้ง Fresh Air  พร้อมตัวกรองฝุ่น PM 2.5 เอาไว้ให้อีกด้วย

สำหรับพื้นที่ส่วนกลางทางโครงการจะให้เป็นพื้นที่สวนเพื่อสร้างบรรยากาศที่ร่มรื่นภายในโครงการ ลูกบ้านสามารถไปเดินเล่นพักผ่อน หรือออกกกำลังกาย โดยทางโครงการจะติดตั้งเครื่องออกกำลังกายและเครื่องเล่นเด็กมาให้  แต่ไม่ได้มีฟิตเนสหรือคลับเฮ้าส์โดยเฉพาะ  ถนนหลักภายในโครงการกว้าง 16 ม. ส่วนถนนซอยกว้าง 9 ม. รถสามารถขับสวนกันไปมาได้สบาย ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ เดอะ คอนเนค รามอินทรา กม.8 การเข้าออกโครงการจะใช้ระบบ Key Card Access มีกล้อง CCTV และรปภ. เฝ้า 24 ชั่วโมง

Score Summary

สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยค่ะ  (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนบ้านจัดสรรที่นี่)

และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่  https://www.facebook.com/Yusabuy

ถ้าข้อมูลเป็นประโยชน์ ช่วยกด Like กด Share ให้ทีมงานด้วยนะคะ  ^_____^