ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คนส่วนใหญ่เลือกซื้อคอนโดเพื่ออยู่อาศัยนั่นก็เพราะการเดินทางที่สะดวกสบาย ตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพที่รองรับการเติบโตในอนาคต  ซึ่ง The Tree Hua Mak Interchange (เดอะทรี หัวหมาก อินเตอร์เชนจ์) ก็เป็นอีกโครงการที่ผมมองว่าตอบโจทย์ในด้านที่กล่าวมา … วันนี้ผมเลยจะพาลงพื้นที่ไปรีวิวโครงการ The Tree หัวหมาก อินเตอร์เชนจ์ คอนโดที่อยู่ติดถนนใหญ่รามคำแหง ใกล้สี่แยกลำสาลี เชื่อมต่อถนนลาดพร้าว ถนนศรีนครินทร์ และถนนพระราม 9  นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของสถานีลำสาลีอินเตอร์เชนจ์ ที่เชื่อมต่อรถไฟฟ้าถึง 3 สาย ได้แก่ สายสีส้ม สีเหลือง และสีน้ำตาล (โครงการในอนาคต)  รวมถึงยังอยู่ใกล้ท่าเรือ The Mall บางกะปิ ช่วยเพิ่มวิธีการเดินทางให้สะดวกมากยิ่งขึ้นไปอีกครับ เรียกว่าสะดวกทั้งรถ-ราง-เรือ เลยทีเดียว

นอกจากจุดเด่นในเรื่องของทำเลแล้ว การออกแบบห้องพักก็ถือว่าน่าสนใจ โดยที่คอนโด เดอะทรี หัวหมาก อินเตอร์เชนจ์ ชูจุดเด่นในเรื่องของห้องหน้ากว้าง อย่างห้อง 1 Bedroom ที่มีมากที่สุดในโครงการ ถูกออกแบบให้มีหน้ากว้างถึง 8 เมตร สามารถเปิดมุมมองและรับแสงธรรมชาติได้จากทุกจุดของห้อง  นอกจากนี้ก็ยังมีห้องแบบอื่นๆ ให้เลือกอีกหลายแบบ ทั้งแบบสตูดิโอ, 1 ห้องนอน, 1 ห้องนอน พลัส และ 2 ห้องนอน ขนาดตั้งแต่ 23.02-42.94 ตร.ม.  พร้อมทั้งให้ความเป็นส่วนตัวสูงด้วยชั้นละ 7 ยูนิตเท่านั้น เป็นผลจากการออกแบบอาคารแบ่งเป็น 5 อาคาร (อาคารพักอาศัย 3 อาคาร, อาคารบริการและห้องชุดเพื่อการพาณิชย์ 1 อาคาร และอาคารจอดรถ 1 อาคาร)

ตอนนี้โครงการก่อสร้างไปเกือบ 90% แล้ว คาดว่าจะเข้าอยู่ได้ประมาณเดือนกันยายนนี้ครับ  ราคา ณ วันที่เข้าไปรีวิว (7 ก.ค. 63) เริ่มต้นที่ 2.19 ล้านบาท* แถมตอนนี้โปรโมชั่นจองเพียง 5,900 บาท ไม่ต้องวางเงินดาวน์ สามารถรอเข้าอยู่ได้เลย ซึ่งทางโครงการบอกมาว่าถ้ากู้ไม่ผ่าน ยินดีคืนเงินจองให้ด้วยนะครับ เอาใจแบบสุด ๆ ไปเลย

The Tree Hua Mak Interchange

( เดอะทรี หัวหมาก อินเตอร์เชนจ์ )

• เจ้าของโครงการ >>> บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด(มหาชน)
• ที่ตั้งโครงการ >>> ถ.รามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ (300 ม. จากสถานีลำสาลี อินเตอร์เชนจ์)
• ขนาดที่ดิน >>>  3-2-69.6 ไร่
• จำนวนอาคาร >>>  5 อาคาร
  • อาคารพักอาศัย สูง 31 ชั้น 3 อาคาร (อาคาร B, C, D)
  • อาคารส่วนกลางและห้องชุดเพื่อการพาณิชย์ สูง 4 ชั้น 1 อาคาร (อาคาร A)
  • อาคารส่วนกลางและที่จอดรถ สูง 10 ชั้น 1 อาคาร (อาคาร E)
• ประเภทห้อง >>>
  • Studio : 23.02 ตร.ม.
  • 1-Bedroom : 25.49 – 28.5 ตร.ม.
  • 1-Bedroom Plus : 37 ตร.ม.
  • 2-Bedroom : 42.5 – 42.82 ตร.ม.
• จำนวนยูนิต >>> 590 ยูนิต (ห้องชุดพักอาศัย 589 ยูนิต และ ร้านค้า 1 ยูนิต)
• ที่จอดรถ >>> ประมาณ 271 คันคิดเป็น 46% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>>  เริ่มต้น 2.19 ล้านบาท* (7 ก.ค. 63)
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> n/a
• คาดว่าแล้วเสร็จ >>> ประมาณ ก.ย. 63
• พิกัด GPS >>> 13.8113178,100.5471099
• เว็บไซต์โครงการ >>> คลิกที่นี่
• โทร >>> 1739

.

คอนโด The Tree หัวหมาก อินเตอร์เชนจ์ ตั้งอยู่ในย่านหัวหมาก เขตบางกะปิ ทำเลที่ตั้งของโครงการจะอยู่ติดกับถนนรามคำแหง ฝั่งมุ่งหน้าออกนอกเมือง ใกล้กับแยกลำสาลี เป็นแยกที่ตัดกันระหว่างถนนรามคำแหง และถนนศรีนครินทร์ ซึ่งถนนทั้ง 2 เส้นนี้ กำลังจะมีรถไฟฟ้าวิ่งผ่าน นั่นก็คือรถไฟฟ้าสายสีเหลือง และสายสีส้มที่กำลังก่อสร้าง โดยมีสถานี Interchange คือสถานีลำสาลี อยู่ห่างจากโครงการเพียง 300 ม. เท่านั้นครับ  ส่วนเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวก บนถนนรามคำแหงนี้ถือว่าครบครันทีเดียว นอกจากนี้ยังสามารถข้ามมาใช้สิ่งอำนวยความสะดวกที่เส้นลาดพร้าวได้อีกด้วย

การเดินทาง

สำหรับการเดินทางไปยังโครงการ เดอะทรี หัวหมาก อินเตอร์เชนจ์ นั้นง่ายมากครับ วันนี้ผมจะขับรถยนต์จากถนนพระราม 9 เลี้ยวขวาเข้าถนนรามคำแหง ที่บริเวณแยกรามคำแหง-พระราม 9  จากนั้นขับมุ่งหน้าตรงไปเรื่อย ๆ อีกประมาณ 4.5 กม. จะเจอโครงการอยู่ทางด้านซ้ายมือ ติดถนนเลยครับ  จุดสังเกตคือตัวโครงการจะอยู่ใกล้กับซอยลัดของ The Mall บางกะปิ ขับเลยไปแค่นิดเดียวครับ

มาตั้งต้นกันที่ถนนพระราม 9  มุ่งหน้าไปทางบางกะปิ

พอถึงแยกรามคำแหง-พระราม 9  ให้ขับรถเลี้ยวขวา เพื่อเข้าสู่ถนนรามคำแหงครับ

ที่ถนนรามคำแหงในตอนนี้ กำลังก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มอยู่ครับ จึงอาจมีรถติดบ้างในบางช่วง ถ้าเสร็จแล้วรถน่าจะวิ่งได้สะดวกขึ้นครับ

ขับมุ่งหน้าตรงไปทางแยกลำสาลีเรื่อยๆ ระหว่างทางจะเจอซอยย่อยต่างๆ ที่สามารถลัดไปถนนลาดพร้าวได้ เช่น ซ.รามคำแหง 65 ที่ไปเชื่อมกับ ซ.ลาดพร้าว 122 ครับ

ก่อนถึงโครงการ จะเจอซอยลัดไปยัง The Mall บางกะปิได้ ขับเลยซอยนี้ไปแค่นิดเดียวก็ถึงที่ตั้งโครงการแล้วครับ

ถึงแล้วครับ คอนโด The Tree หัวหมาก อินเตอร์เชนจ์ อยู่ติดถนนรามคำแหงเลย มองหาไม่ยากครับ

มาดูตำแหน่งรอบๆ ตัวคอนโดก่อนว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนกันบ้าง

ก่อนที่เราจะเข้าไปดูในโครงการ เรามาทำความรู้จักทำเลที่ตั้งของโครงการ The Tree Hua Mak Interchange ให้มากขึ้นกันก่อนครับ  สำหรับย่านรามคำแหงนี้ถือเป็นทำเลกรุงเทพฝั่งตะวันออก เป็นย่านที่มีคนอยู่อาศัยค่อนข้างหนาแน่น มีถนนเส้นหลักก็คือถนนรามคำแหง ที่มีจุดเริ่มต้นเชื่อมต่อจากโซนพระราม 9 ลากยาวไปจนถึงมีนบุรี จึงทำให้สามารถเชื่อมต่อไปได้หลายพื้นที่ และจากการขยายตัวออกของเมืองนั้น ทำให้ย่านรามคำแหงนี้มีการเจริญเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วจนหลายคนยกให้เป็นย่าน EBD (Extension Business District) ที่น่าจับตามองทีเดียวครับ

สำหรับที่ตั้งของโครงการ เดอะทรี หัวหมาก อินเตอร์เชนจ์ จัดอยู่ในทำเลช่วงรามคำแหงตอนต้น ค่อนมาทางช่วงกลาง ซึ่งสามารถเชื่อมต่อเข้าสู่ใจกลางเมืองได้สะดวก ถึงแม้จะมีรถติดอยู่บ้างในช่วงเวลาเร่งด่วน แต่ก็มีซอยต่างๆ ให้สามารถลัดเลาะไปได้ เช่น

• ถนนประชาอุทิศ เชื่อมไปออกถนนประดิษฐ์มนูธรรม เพื่อใช้ทางด่วนฉลองรัช
• ซอยรามคำแหง 24 ขับไปออกที่ถนนพระราม 9 เพื่อใช้ทางด่วนศรีรัช
• ซอยรามคำแหง 65 ที่เชื่อมต่อกับ ซ.ลาดพร้าว 122 ใช้เพื่อไปออกถนนลาดพร้าวได้ครับ

นอกจากนี้ตัวโครงการก็ยังอยู่ใกล้กับแยกลำสาลี ทำให้สามารถใช้ถนนศรีนครินทร์, ถนนลาดพร้าว, ถนนเสรีไทย และถนนนวมินทร์ เพื่อออกนอกเมืองได้อย่างสะดวกเช่นกัน

ในอนาคต ย่านรามคำแหงจะสามารถใช้การเดินทางด้วยระบบรางเพื่อเข้า-ออกเมืองได้สะดวกยิ่งขึ้น เพราะเป็นจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าถึง 3 สาย ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ที่วิ่งตามแนวถนนลาดพร้าว และถนนศรีนครินทร์ โดยคาดว่าเปิดใช้บริการปี 64 , รถไฟฟ้าสายสีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี) ที่วิ่งตามแนวถนนรามคำแหง คาดว่าเปิดใช้ปี 67 และ รถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล (แคราย-ลำสาลี) ที่ตอนนี้อยู่ระหว่างการศึกษาออกแบบครับ โดยรถไฟฟ้าทั้ง 3 สายนี้ จะมีจุดเชื่อมกันแถวบริเวณแยกลำสาลี (สถานีลำสาลี Interchange) ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการ The Tree หัวหมาก อินเตอร์เชนจ์ เพียงแค่ 300 ม. เท่านั้น เดินได้แบบสบาย ๆ เลยครับ

ด้านสิ่งอำนวยความสะดวก ย่านนี้ก็ถือว่าครบครัน บนเส้นรามคำแหง มีแหล่งช้อปปิ้งทั้ง Foodland, Big C และ The Mall รามคำแหง ที่กำลังปรับปรุงอยู่ สถานบันการศึกษาในย่านนี้ก็มีให้เลือกทั้งเอกชนและรัฐบาล ทั้ง มหาวิทยาลัยรามคำแหง, มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ วิทยาเขตหัวหมาก และสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ส่วนแหล่งงานและสถานที่สำคัญอย่างอื่นก็มีอีกหลายอย่างรายล้อมอยู่ อาทิเช่น การกีฬาแห่งประเทศไทย, สนามราชมังคลากีฬาสถาน, รพ.รามคำแหง เป็นต้น  

และถ้าซูมเข้ามาดูให้ใกล้อีกนิด จะเห็นว่าตัวโครงการอยู่ใกล้กับทางลัดไปด้านหลัง The Mall บางกะปิ คนที่อยู่ในคอนโดจึงสามารถเดินข้ามคลองแสนแสบไปช้อปปิ้งได้แบบสบาย ๆ  ซึ่งตรงนั้นถือเป็นฮับใหญ่ของโซนบางกะปิ นอกจากจะมี The Mall บางกะปิแล้ว ก็ยังมีตลาดตะวันนา, Makro, Lotus และ รพ.เวชธานี ครับ แถมด้านหลังของ The mall บางกะปิ ที่ติดกับคลองแสนแสบ ก็ยังเป็นท่าเรือ สามารถนั่งเรือเข้าเมืองไปทางอโศก ประตูน้ำ โดยไม่ต้องกลัวรถติดครับ  ซึ่งทางโครงการก็ได้ทำประตูเข้าออกเข้า-ออกสำหรับคนไว้ที่ด้านหลังโครงการด้วย (ใช้ Key Card) ทำให้สามารถเดินข้ามไปท่าเรือได้ง่าย ระยะเพียง 250 ม. เท่านั้น

ส่วนพื้นที่รอบ ๆ โครงการ The Tree หัวหมาก อินเตอร์เชนจ์ ด้านหน้าจะอยู่ติดถนนรามคำแหง ขนาบข้างด้วยอาคารพาณิชย์ 3-4 ชั้น และโชว์รูม Mazda ฝั่งตรงข้ามก็เป็นอาคารพาณิชย์ สูง 3-4 ชั้น  ส่วนด้านหลังติดคลองแสนแสบ ฝั่งตรงข้ามเป็น The Mall บางกะปิ  ด้านทิศตะวันออก มีอาคารหอพัก 6 ชั้น นอกนั้นส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัย 1-2 ชั้น   และด้านทิศตะวันตกจะติดกับลานจอดรถของ The Mall ที่ใช้เป็นทางลัดไป The Mall ได้นั่นเองครับ โดยรวมแล้วแทบจะไม่มีอาคารสูงอยู่ใกล้ ๆ เลย ยกเว้นด้านทิศใต้ที่จะมีอาคาร 23 ชั้น อยู่เยื้องกับคอนโด แต่ก็แทบไม่มีผลกับมุมมอง เพราะห้องส่วนใหญ่หันไปทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตกครับ

ลักษณะที่ดินของโครงการ The Tree Hua Mak Interchange จะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าครับ ขนาดประมาณ 3-2-69.6 ไร่ ด้านแคบหันไปทางทิศเหนือ-ใต้ ติดถนนรามคำแหง และติดคลองแสนแสบ  ภายในโครงการแบ่งอาคารออกเป็น 5 อาคาร ได้แก่ อาคาร A เป็นอาคารบริการและห้องชุดเพื่อการพาณิชย์ สูง 4 ชั้น อาคาร B, C และ D เป็นอาคารพักอาศัย สูง 31 ชั้น ส่วนด้านในสุด เป็นอาคารจอดรถ สูง 10 ชั้น ครับ  ซึ่งการจัดวางผังอาคารนั้น ก็จะเป็นลักษณะแนวยาว ล้อไปกับรูปร่างของที่ดิน ทำให้ห้องพักจะแบ่งออกเป็นฝั่งตะวันออก และฝั่งตะวันตก  เราลองมาดูวิวของทั้ง 2 ฝั่ง กันครับ

• มุมมองฝั่งทิศตะวันออก 

มองเยื้องไปทางด้านหลัง เห็นคลองแสนแสบ และ The Mall บางกะปิ

• มุมมองฝั่งทิศตะวันตก

มองเยื้องไปทางด้านหลัง เห็นตลาดตะวันนา และ Makro มีสะพานเดินข้ามคลองไปได้

โดยภาพรวม วิวทั้ง 2 ด้านค่อนข้างเปิดโล่งทีเดียว ไม่มีตึกสูงมาบังให้รู้สึกอึดอัดเลยครับ

สภาพแวดล้อมรอบคอนโด

จากที่เราได้ดูแผนที่ตั้งของ เดอะทรี หัวหมาก อินเตอร์เชนจ์ กันไปแล้ว ทีนี้เราไปสำรวจบรรยากาศรอบ ๆ ที่ตั้งโครงการกันหน่อยครับ จะได้เห็นภาพกันมากขึ้น

เริ่มจากที่หน้าโครงการ ฟุตบาทค่อนข้างกว้าง เดินได้สบาย มีวินมอเตอร์ไซค์อยู่ด้านหน้าโครงการเลยครับ

ฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารพาณิชย์ มีธนาคารกสิกรตั้งอยู่

เดินมาด้านหลังโครงการที่ติดกับคลองแสนแสบ มีทางเดินและทางปั่นจักรยานเลียบคลอง ทางโครงการกำลังทำประตูให้เดินเข้า-ออก โดยใช้ระบบ Key Card เพื่อความปลอดภัยครับ

มองไปฝั่งตรงข้าม เยื้องกับคอนโด เป็นท่าเรือ The Mall บางกะปิครับ

เดี๋ยวผมจะพาเดินข้ามสะพานไปฝั่ง The mall บางกะปิ บรรยากาศก็จะประมาณนี้ครับ

ตอนนี้ผมก็ข้ามมาอยู่ที่ฝั่งของ The Mall บางกะปิแล้ว ถ่ายกลับไปให้เห็นสะพาน และคอนโด The Tree หัวหมาก อินเตอร์เชนจ์ ที่อยู่ด้านหลังครับ

เนื่องจากที่ตั้งโครงการสามารถข้ามมาฝั่งลาดพร้าวได้ค่อนข้างง่าย ผมเลยจะพามาสำรวจที่เส้นลาดพร้าวกันต่อครับ…

เริ่มกันที่ The Mall บางกะปิ ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ แหล่งรวมวัยรุ่นในย่านนี้

ฝั่งตรงข้ามเป็น Tesco Lotus ครับ ภายในมีโรงภาพยนตร์ด้วย

ติดกับ The Mall เป็นตลาดตะวันนา ส่วนใหญ่เป็นพวกสินค้าแฟชั่นราคาประหยัด

ถัดไปอีกหน่อยเป็น Makro มีทั้งของใช้ และอาหารต่าง ๆ ให้เลือกซื้อ

ปิดท้ายโซนนี้ด้วย รพ.เวชธานี โรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ ที่ให้บริการคุณภาพระดับสากล

วนกลับเข้ามาสำรวจที่เส้นรามคำแหงกันอีกครั้งนะครับ คราวนี้เริ่มตั้งแต่รามคำแหงช่วงต้นเลย…

ช่วงซอยรามคำแหง 9 มี Foodland เปิดตลอด 24 ชม.

ถัดมาเป็น The Mall รามคำแหง ซึ่งกำลังปรับปรุงอยู่ มารอดูกันว่าโฉมใหม่จะยิ่งใหญ่ขนาดไหน

Huamark Town Center ด้านในมีร้านอาหารชื่อดังมากมาย รวมถึงเป็นที่ตั้งของ Big C หัวหมาก ด้วย

มหาวิทยาลัยรามคำแหง เป็นมหาวิทยาลัยรัฐที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ ปี 2514  มีจำนวนนักศึกษามากมายหลายคณะ

ใกล้กันเป็น สนามราชมังคลากีฬาสถาน ใช้จัดการแข่งขันกีฬาระดับประเทศ รวมทั้งใช้จัดคอนเสิร์ตขนาดใหญ่ด้วย

ถ้าเจ็บป่วยขึ้นมาก็มี รพ.รามคำแหง อยู่ใกล้ ๆ ขับรถเพียง 3 นาทีจากโครงการครับ

เริ่มเปิดประตู ไปดูในโครงการ

หลังจากไปสำรวจทำเลกันมาพอสมควรแล้ว กลับมาที่โครงการกันต่อ เดี๋ยวเราเข้าไปในสำนักงานขายกันครับ..

สำหรับสำนักงานขายของ เดอะทรี หัวหมาก อินเตอร์เชนจ์ จะอยู่ที่ชั้น 1 ของอาคาร A ครับ เป็นอาคารแรกที่อยู่ติดถนนเลย ซึ่งอาคารนี้จะเป็นพื้นที่ส่วนกลาง+ร้านค้า  ถ้าทางโครงการขายหมดแล้ว สำนักงานขายนี้จะถูกปรับเปลี่ยนเป็นร้านค้า คาดว่าน่าจะเป็น 7-11 ครับ

สำนักงานขายที่นี่ตกแต่งเรียบง่าย ทันสมัย แต่แฝงไว้ด้วยความหรูหราของวัสดุลายหินอ่อนทั้งที่พื้นและผนังครับ  ภาพรวมจะเน้นคุมโทนด้วยสีครับ ดูอบอุ่น เป็นกันเองดีครับ

มีพื้นที่รองรับลูกค้า รวมทั้งมีจอ TV แสดงข้อมูลโครงการ และมีโมเดลให้ดูเข้าใจง่าย ๆ ด้วยครับ เดี่ยวเราไปเดินดูตรงโมเดลกัน

ส่องโมเดล

โครงการ The Tree Hua Mak Interchange มี 5 อาคาร ประกอบไปด้วย อาคาร A อยู่ด้านหน้าสุด สูง 4 ชั้น เป็นอาคารบริการและห้องชุดเพื่อการพาณิชย์  อาคาร B, C และ D อยู่ตรงกลาง เป็นอาคารพักอาศัย สูง 31 ชั้น มีทางเดินเชื่อมกันที่ชั้น 2 และชั้น 31 ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนกลาง ส่วนด้านในสุด เป็นอาคารจอดรถ สูง 10 ชั้น ครับ

มุมนี้เป็นอาคาร A ครับ จะอยู่ด้านหน้าติดกับถนนรามคำแหง ในอาคารนี้จะมีร้านค้า, Lobby, ห้องทำงานนิติฯ, ห้องฟิตเนส และ Co-Working Space

อาคารที่พักอาศัยทั้ง 3 อาคาร (B, C และ D) จะอยู่ตรงกลางครับ ใช้สีโทนขาว-เทา ให้ดูโมเดิร์นทันสมัย ซึ่งการแยกอาคารพักอาศัยออกเป็น 3 อาคาร จะช่วยให้จำนวนยูนิตในแต่ละชั้นไม่หนาแน่นเกินไป โดยที่นี่จะมีเพียงชั้นละ 7 ยูนิตเท่านั้น ได้ความเป็นส่วนตัวค่อนข้างสูงครับ

อาคารพักอาศัยทั้ง 3 อาคารนั้น จะมีทางเดินเชื่อมต่อกันที่ชั้น 31 ซึ่งเป็นชั้น Facility หลักของโครงการ และบนดาดฟ้าของอาคาร C จะมีสระว่ายน้ำ มองเห็นวิวเมืองจากมุมสูง ส่วนรายละเอียดส่วนกลางต่างๆ เดี๋ยวไว้เล่าในหัวข้อถัดไปนะครับ

นอกจากชั้น 31 แล้ว ที่ชั้น 2 ก็เป็นอีกชั้นที่สามารถเดินเชื่อมต่อกันได้ โดยชั้นนี้จะเชื่อมต่อกันทั้ง 5 อาคาร ตั้งแต่อาคาร A ไปจนถึงอาคารจอดรถด้านหลังเลยครับ

ส่วนอาคารจอดรถที่อยู่ด้านหลัง สามารถจอดรถได้ประมาณ 271 คัน หรือคิดเป็น 46% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) โดยชั้นบนสุดจะเป็นพื้นที่ส่วนกลาง ได้แก่ สนามฟุตซอล สนามเด็กเล่น และสวนพักผ่อน เป็นการเพิ่มพื้นที่กิจกรรมให้กับลูกบ้านได้อย่างคุ้มค่าครับ

หน้าตาอาคารจริง

เนื่องจากตอนนี้โครงการกำลังก่อสร้างอยู่ ยังไม่เสร็จ 100% แต่ก็เป็นรูปเป็นร่างแล้ว เหลือเก็บรายละเอียดต่าง ๆ  วันนี้ผมเลยถ่ายด้านนอกมาอาคารมาให้ดูกันบางส่วนก่อนนะครับ

ด้านนี้ถ่ายจากทางเข้าโครงการ เห็นอาคาร A ที่อยู่ด้านหน้า และเห็นอาคารพักอาศัย สูง 31 ชั้น ที่อยู่ด้านใน

อาคารพักอาศัยทั้ง 3 อาคาร ดูยิ่งใหญ่ทีเดียวครับ

ส่วนมุมนี้ถ่ายจากด้านหลังโครงการ เห็นเป็นอาคารจอดรถ 10 ชั้น มีพื้นที่สีเขียวอยู่ด้านบน

มุมนี้ถ่ายจากฝั่ง The Mall บางกะปิ ให้เห็นภาพรวมแบบกว้างๆ ครับ

เปิดผังคอนโด Typical Floor Plan

Plan คอนโด The Tree Hua Mak Interchange

เรามาไล่ดูกันทีละส่วนเลยครับ เริ่มจาก Master plan ก่อน .. ทางเข้าหลักของโครงการจะเข้าจากถนนรามคำแหง เมื่อเข้ามา ถนนภายในโครงการจะวิ่งได้รอบอาคารพักอาศัย ผ่านอาคาร A, B, C และ D ก่อนจะเข้าสู่อาคารจอดรถครับ เมื่อจอดรถเสร็จสามารถขึ้นมาที่ชั้น 2 เพื่อเดินเชื่อมสู่อาคารต่าง ๆ ได้โดยไม่ต้องตากแดดตากฝนครับ นอกจากนี้ด้านหลังที่จอดรถก็ยังมีทางสำหรับคนเดินเข้า-ออก ให้สามารถออกไปใช้ทางเดินริมคลองแสนแสบได้ด้วยครับ โดยโครงการจะมีระบบ Key Card เพื่อความปลอดภัยของลูกบ้านครับ

สำหรับที่ชั้น 1  จะไม่มีห้องพักอาศัยนะครับ แต่จะเป็นส่วนของ Lobby ซึ่งค่อนข้างใหญ่ทีเดียว และมีร้านค้าอยู่ที่อาคาร A น่าจะเป็น 7-11 ก็ถือว่าสะดวกสบายดีครับ

ห้องพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 3 ครับ (ยกเว้นอาคาร C เริ่มที่ชั้น 4)  ซึ่งอาคารพักอาศัยทั้ง 3 อาคาร จะวางแปลนและตำแหน่งห้องพักคล้ายกัน ผมขอยกตัวอย่างแปลนชั้นพักอาศัยของอาคาร B มาให้ดูนะครับ

ห้องพักอาศัยจะแบ่งเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งทิศตะวันออกจะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom ทั้งหมด 4 ยูนิต เป็นห้องที่มีหน้ากว้างถึง 8 เมตร สามารถรับลม รับวิวได้เต็มที่ ส่วนฝั่งทิศตะวันตกมีโถงลิฟต์อยู่ตรงกลาง จำนวนลิฟต์โดยสาร 2 ตัว และมีห้องพักเพียง 3 ยูนิต ได้แก่ ห้อง Studio 1 ยูนิต และห้อง 2 bedroom ที่อยู่ตำแหน่งมุมอีก 2 ยูนิต ซึ่งถ้าสังเกตที่ทางเดิน จะเห็นว่าทางโครงการไม่ได้ทำยาวไปจนสุดแนวอาคาร ทำให้ห้องน้ำในห้องแบบ 2 bedroom สามารถเจาะช่องแสงเพื่อระบายอากาศได้ครับ เป็นการออกแบบที่น่าสนใจดี

ขึ้นมาที่ชั้น 22-30 ฝั่งทิศตะวันออกยังเป็นห้อง 1 Bedroom หน้ากว้าง 8 ม. เหมือนเดิม แต่ฝั่งทิศตะวันตกมีการปรับเปลี่ยนเป็นห้อง 2 Bedroom, 1 Bedroom Plus และ 1 Bedroom อย่างละ 1 ยูนิต ซึ่งรวมแล้วก็ยังเป็น 7 ยูนิต เท่ากับว่าทุกชั้นของโครงการ The Tree Hua Mak Interchange จะมีเพียง 7 ยูนิตเท่านั้น ค่อนข้างได้ความเป็นส่วนตัวดีครับ

สำหรับชั้น 31 ของทั้งอาคาร B, C และ D จะเป็นพื้นที่ส่วนกลาง แต่สามารถเดินเชื่อมถึงกันได้ ที่อาคาร B จะมี Sky Lounge และ Theater Room นอกจากนี้ก็มีห้องพักอาศัยอีก 4 ยูนิตด้วย แต่มีประตูกั้นเพื่อความเป็นส่วนตัวครับ

ชั้น 31 ของอาคาร C จะมีห้อง O2 Creative Space ไว้มานั่งทำงาน หรือนั่งชมวิวท่ามกลางอากาศที่มีปริมาณออกซิเจนสูง ช่วยให้ร่างการรู้สึกสดชื่น นอกจากนี้ก็มีห้องอาบน้ำแต่งตัวแยกชาย/หญิง  เพราะชั้น Rooftop ของอาคาร C นี้ จะเป็นสระว่ายน้ำนั่นเองครับ

สระว่ายน้ำของโครงการ เดอะทรี หัวหมาก อินเตอร์เชนจ์ จะอยู่บนชั้น Rooftop เพื่อให้มองเห็นวิวได้แบบเต็มมา เป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ กว้าง 5×30 ม. แบ่งเป็นสระเด็ก และส่วนของ jacuzzi ครับ นอกจากนี้ยังมี Deck เหนือสระว่ายน้ำ ให้สามารถขึ้นไปชมวิวแบบ Panorama ได้ด้วยครับ

ส่วนชั้น 31 ของอาคาร D  จะมี O2 Lounge, Kid’s Room และห้องพักอาศัยอีก 4 ยูนิต เหมือนที่อาคาร B ครับ

พื้นที่ส่วนกลาง

พอเห็นแปลนของโครงการ The Tree Hua Mak Interchange แล้ว ก็น่าจะทราบตำแหน่งของส่วนกลางกันแล้วใช่มั้ยครับ  ทีนี้เรามาดูรูปร่างหน้าตาของส่วนกลางกันบ้างดีกว่าครับ ว่าจะออกมาสวยงามน่าใช้งานขนาดไหน เดี๋ยวเราไปไล่ดูกันทีละส่วนเลยครับ

• อาคาร A

เริ่มจากที่อาคาร A  บริเวณชั้น 3 จะเป็นส่วนของ Co-Working Space ครับ

ภายในมีที่นั่งให้เลือกหลากหลายทีเดียว ไม่ว่าจะมานั่งทำงานด้วยกันเป็นกลุ่มหลายคน หรือแค่นั่งคุยกัน 2-3 คน ก็มีสเปซต่าง ๆ ไว้รองรับครับ

หรือใครอยากได้ห้องประชุมแบบปิด ที่มีความเป็นส่วนตัว ก็มีให้เช่นกันครับ

ชั้นที่ 4 ของอาคาร A เป็นห้องฟิตเนส ภายในมีเครื่องเล่นมากมาย ทั้ง cardio และ weight training

บรรยากาศภายในจะแต่งด้วยกระจกเงาเพื่อให้ดูกว้าง และสามารถมองเห็นท่าทางของตนเองได้  พร้อมทั้งเพิ่มลูกเล่นด้วยไฟ LED สีฟ้า ทำให้ดูมีชีวิตชีวาดีครับ

ที่ชั้น 4 นี้ จะมีห้องน้ำด้วยครับ แยกชาย-หญิง ตกแต่งด้วยสีครีมดูสบายตา

พร้อมทั้งมีตู้ Locker สำหรับเก็บของให้ด้วย

• อาคาร B, C และ D

มาต่อกันที่อาคารพักอาศัยครับ  ชั้นที่ 1 ของแต่ละอาคารจะมี Lobby ที่ตกแต่งไว้อย่างสวยงาม ดูโปร่งโล่ง รับแขกได้อย่างไม่อายใครครับ

ผนังเป็นกระจกทั้งหมด มองเห็นสวนที่อยู่ภายนอก

มีโต๊ะสำหรับนั่งทำงาน หรือคุยธุระกันได้ครับ

นอกจากนี้ก็มีห้อง Mail Room อยู่ที่ชั้น 1 ของแต่ละอาคารอีกด้วยครับ

ชั้น 2 เป็นทางเดิน Sky-Walk เชื่อมกันหมดทุกอาคาร ถ้ามองลงมาที่ชั้น 1 ก็จะเห็น Lobby ครับ

ที่ชั้น 2 นี้จะมีห้อง Relaxing Room อยู่ทั้งที่อาคาร B, C และ D ครับ

ขึ้นมาที่ชั้น 31 ชั้นนี้เรียกว่าให้ Facilities มาแบบจัดเต็มครับ ไล่ตั้งแต่ Theater Room ที่สามารถนัดเพื่อนมาดูหนังจอใหญ่ รองรับกิจกรรมเพื่อความผ่อนคลายของลูกบ้าน

O2 Creative Space รองรับทั้งการนั่งทำงาน หรือการพักผ่อนชมวิว โดยภายในห้องนี้จะมีระบบเพิ่มออกซิเจน ทำให้อากาศภายในห้องมีปริมาณออกซิเจนสูงถึง 21.5% ช่วย Refresh ให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น

O2 Lounge ฟังก์ชั่นคล้ายกับห้องก่อนหน้านี้ครับ เป็นพื้นที่ที่ช่วย Generate Oxygen เพิ่มขึ้น ให้ลูกบ้านพักผ่อนเพิ่มพลังได้อย่างเต็มที่ โดยภายในห้องมีการใช้สีสันและลวดลายที่เลียนแบบมาจากต้นไม้ครับ

Kid’s Room พื้นที่ให้คุณพ่อคุณแม่ พาลูกมาทำกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้  ชอบดีไซน์ไฟบนฝ้าที่ทำเป็นก้อนเมฆ น่ารักดีครับ

Sky Lounge พื้นที่นั่งเล่นพักผ่อน พร้อมชมวิวเมืองแบบมุมสูง  ภายในตกแต่งด้วยไฟ LED สีฟ้า สร้างบรรยากาศชวนสนุกสนาน

ชั้น Roof Top ของอาคาร C เป็นสระว่ายระบบเกลือ แบบ Infinity Edge Pool พร้อมสระเด็ก และ Jacuzzi สำหรับผ่อนคลาย โดยเหนือสระขึ้นไปเป็น Deck ให้สามารถมองเห็นวิวได้แบบ Panorama

• อาคารจอดรถ

บนชั้นดาดฟ้าของอาคารจอดรถ จะเป็น Roof Garden and Playground มีทั้งสนามฟุตซอล สนามเด็กเล่น และสวนพักผ่อนสำหรับลูกบ้านครับ

แปลนห้องดีไหม?

แปลนของคอนโด The Tree หัวหมาก อินเตอร์เชนจ์ จะมีทั้งแบบสตูดิโอ, 1 ห้องนอน, 1 ห้องนอนพลัส และ 2 ห้องนอนครับ  ซึ่งก็จะมีแบบที่แยกย่อยออกไปอีก ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของห้องอีกที แต่ส่วนใหญ่จะเป็นแบบ 1 ห้องนอน หน้ากว้าง 8 ม. ซึ่งเป็นจุดขายของที่นี่ครับ

• Studio : 23.02 ตร.ม.
• 1-Bedroom : 25.49 – 28.5 ตร.ม.
• 1-Bedroom Plus : 37 ตร.ม.
• 2-Bedroom : 42.5 – 42.82 ตร.ม.

แปลนห้องคอนโด The Tree Hua Mak Interchange

แบบสตูดิโอ ขนาด 23.02 ตารางเมตร

แปลนแบบแรกที่นำมาให้ดูกัน เป็นห้องแบบสตูดิโอ ขนาด 23.02 ตร.ม. ซึ่งเป็นขนาดเริ่มต้นของโครงการ เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเป็นส่วนของ Pantry ตรงข้ามกันเป็นห้องน้ำ  โดย Pantry นั้นสามารถปิดประตูทำเป็นครัวปิดได้  ถัดเข้าไปด้านในเป็นส่วนของห้องนอน  มีพื้นที่สำหรับวางโซฟา และเตียงนอน พร้อมทั้งมีระเบียงที่เปิดออกไปใช้งาน ซึ่งตำแหน่งของเฟอร์นิเจอร์นั้นอาจจะขยับสับเปลี่ยนตำแหน่งได้บ้างเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับผู้อยู่อาศัย โดยจะเหมาะกับการพักอาศัยกัน 1-2 คนครับ

แปลนห้องคอนโด The Tree Hua Mak Interchange

แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 26.23 ตารางเมตร

สำหรับแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 26.23 ตร.ม. จะเป็นห้องแบบหน้ากว้าง 8 ม. ซึ่งถือเป็นไฮไลท์ของโครงการ และเป็นแบบที่มีมากที่สุดในโครงการด้วยครับ โดยทุกห้องจะอยู่ฝั่งทิศตะวันออกทั้งหมด สามารถรับแสงธรรมชาติ และรับเปิดรับวิวได้เป็นอย่างดี  สำหรับแปลนห้องเมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเป็นพื้นที่ทานอาหารและห้องนั่งเล่นที่อยู่ตรงกลาง แบ่งห้องนอนไว้ฝั่งหนึ่งของห้อง ส่วนอีกฝั่งเป็นพื้นที่ของห้องน้ำและห้องครัว พร้อมทั้งมีระเบียงอยู่ใกล้ๆ โดยประตูห้องน้ำนั้นจะอยู่ตรงข้ามกับระเบียง ทำให้มีแสงส่องเข้ามาได้ ลดปัญหาเรื่องความอับชื้นในห้องน้ำได้เป็นอย่างดีครับ

แปลนห้องคอนโด The Tree Hua Mak Interchange

แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 42.57 ตารางเมตร

แบบ 2 ห้องนอน จะเป็นห้องขนาดใหญ่ ซึ่งมีแค่ชั้นละ 2 ยูนิต เมื่อเข้ามาภายในจะเจอพื้นที่ Common Area ขนาดใหญ่ มีทั้ง Pantry แบบเปิดโล่ง พื้นที่ทานอาหาร และพื้นที่นั่งเล่นซึ่งจะใกล้กับระเบียง โดยระเบียงนั้นจะเป็นแนวยาว มีพื้นที่เก็บ Condensing unit ครับ  ห้องนอนทั้ง 2 ห้อง จะอยู่แยกฝั่งกัน ห้อง Master Bedroom จะอยู่ตรงมุมของอาคาร มีบานกระจกเข้ามุม ที่สามารถหาโซฟาหรือโต๊ะทำงานมาตั้งได้ นอกจากนี้ยังมีห้องนอนในตัวด้วย  ส่วนห้องนอนที่ 2 จะอยู่อีกฝั่ง แยกกันเพื่อความเป็นส่วนตัว แต่จะไม่มีห้องน้ำในตัว โดยสามารถออกมาใช้ห้องน้ำรวมที่โถงกลางได้ ซึ่งก็อยู่ใกล้กับห้องนอนที่ 2 นั่นแหละครับ

เปิดห้อง มองสเปซ : Focus on “SPACE” and “DIMENSION”

ห้องตัวอย่างมีให้ดู 2 แบบ คือ แบบ 1 ห้องนอน 26.23 ตร.ม. และ 2 ห้องนอน  42.57 ตร.ม.   ความสูงฝ้าของห้องโดยทั่วไปนั้นอยู่ที่ 2.7 เมตร  ห้องที่ได้จะเป็นแบบ Fully Fitted คือได้แพนทรี่ครัวครบชุด และชุดสุขภัณฑ์ในห้องน้ำครับ

ห้องตัวอย่างคอนโด The Tree หัวหมาก อินเตอร์เชนจ์

แบบ 1 ฺBedroom  26.23 ตร.ม.

เริ่มจากเปิดประตูเข้ามาในห้อง สเปซส่วนแรกจะเป็นห้องนั่งเล่น เชื่อมต่อกับพื้นที่รับประทานอาหาร โดยตำแหน่งของห้องนั่งเล่นจะอยู่ใกล้กับหน้าต่าง สามารถมองเห็นวิวภายนอกได้

พื้นที่สำหรับวางโซฟา เหมาะกับโซฟาขนาด 2-3 ที่นั่งครับ จะเหลือพื้นที่กำลังดี ไม่รู้สึกอึดอัด

ส่วนตำแหน่งของพื้นที่รับประทานอาหาร ก็จะอยู่ในแนวเดียวกับโซฟา แต่จะมีระยะห่างให้สามารถเดินเข้าห้องนอนได้

ห้องนอน กว้างพอที่จะที่วางเตียงขนาด 5 ฟุต และเหลือพื้นที่สำหรับตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง โดยภายในห้องนอนก็จะมีหน้าต่างให้อีกเช่นกัน เป็นผลดีของการจัดแปลนแบบหน้ากว้างครับ

ตำแหน่งของตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเตรื่องแป้งก็จะอยู่ตรงข้ามกับหน้าต่าง ได้แสงธรรมชาติที่เพียงพอเวลาแต่งตัวครับ

ส่วนปลายเตียง สามารถติดตั้ง TV แบบแขวนผนังได้ สำหรับคนที่อยากดู TV ในห้องนอนครับ

ระยะปลายเตียงถึงผนังเหลือไม่เยอะมาก แต่ก็ยังสามารถเดินได้อยู่ ไม่ลำบากเวลาเปลี่ยนผ้าปูที่นอน

ออกมาจากห้องนอน เดี๋ยวเราเดินไปดูอีกฝั่งที่เป็นห้องครัวและห้องน้ำกันครับ

Pantry ครัว มีขนาดกระทัดรัด แต่มีฟังก์ชันที่ครบครันทั้ง Hob&Hood อ่างล้างจาน ที่วางไมโครเวฟ และมีช่องสำหรับวางตู้เย็นที่ดูเป็นสัดส่วนดีครับ

ห้องครัวนั้นจะอยู่ใกล้กับประตูที่เดินออกไปสู่ระเบียง ดังนั้นช่วงกลางวันจึงได้รับแสงสว่างจนแทบไม่ต้องเปิดไฟเลย  แถมตำแหน่งของประตูยังอยู่ตรงข้ามกับห้องน้ำ ทำให้ลดปัญหาเรื่องความอับชื้นในห้องน้ำไปได้ด้วย

ภายในห้องน้ำก็จะใช้กระเบื้องโทนสีครีม ขนาด 60×60 ซม. ดูแลทำความสะอาดง่าย สบายตาดีครับ

โดยภายในห้องน้ำก็จะแยกโซนแห้งและโซนเปียกเอาไว้ให้ แต่ไม่มีฉากกั้นอาบน้ำให้นะครับ ติดตั้งเองภายหลังได้ไม่ยากครับ

พื้นที่ตรงระเบียงจะเป็นตำแหน่งของคอมเพรสเซอร์แอร์ ซึ่งทางโครงการติดให้หันหน้าออกไปด้านนอก ทำให้ลมร้อนไม่เป่าเข้าหาตัว ส่วนพื้นที่ด้านล่างเหลือไว้สำหรับวางเครื่องซักผ้า มีระบบท่อต่างๆเตรียมไว้ให้ครับ

ห้องตัวอย่างคอนโด The Tree หัวหมาก อินเตอร์เชนจ์

แบบ 2 ฺBedroom  42.57 ตร.ม.

ห้องแบบ 2 Bedroom ก็จะเป็นห้องแบบหน้ากว้าง พื้นที่ตรงกลางเป็น Common Area ขนาดใหญ่ มีทั้ง Pantry, พื้นที่รับประทานอาหาร และพื้นที่นั่งเล่นครับ

Pantry จะเป็นลักษณะรูปตัว L  อยู่ใกล้กับประตูเข้าห้อง

มีพื้นที่เก็บของได้พอสมควร รวมทั้งตำแหน่งวางเครื่องซักผ้าก็จะอยู่ตรงนี้ครับ

ส่วนโต๊ะทาวข้าวจะอยู่ในโซนของห้องนั่งเล่นครับ สามารถนั่งทานข้าวไปดู TV ไปด้วยได้  โดยโต๊ะอาหารที่เป็นทรงกลมหรือสี่เหลี่ยมจัตุรัส จะดูเหมาะและลงตัวกว่าโต๊ะแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้าครับ

ถัดจากห้องนั่งเล่นเป็นระเบียงแนวยาว เป็นตำแหน่งที่วางของคอมเพรสเซอร์แอร์ โดยมีระแนงเหล็กบังไว้ให้ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยเมื่อดูจากภายนอกอาคาร

ตรง Common Area จะมีห้องน้ำอยู่ 1 ห้อง ที่ใช้งานร่วมกันระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องนอนที่ 2 ครับ

ห้องน้ำก็จะตกแต่งโทนสีครีมดูสว่าง พร้อมทั้งแยกส่วนแห้ง-เปียก เอาไว้ให้ครับ

เข้ามาดูในห้องนอนที่ 2 กันต่อ สามารถวางเตียงนอนขนาด 5 ฟุตได้ อยู่ใกล้กับหน้าต่างไว้ดูวิวภายนอก  ส่วนปลายเตียงสามารถติด TV แบบแขวนผนังได้

พื้นที่ระหว่างเตียงกับหน้าต่างเหลือให้เดินได้พอประมาณครับ

ส่วนตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งจะอยู่อีกฝั่งของห้องครับ

เข้ามาดู Master Bedroom กันต่อ เตียงนอนจะอยู่ตรงกลางห้องครับ เหลือพื้นที่ให้เดินได้รอบๆ

ห้อง Master Bedroom นี้จะอยู่ตรงมุมตึกครับ ทำให้มีบานหน้าต่างเข้ามุม สามารถทำเป็นมุมนั่งทำงานได้ มองเห็นวิวภายนอกได้แบบเต็มตา

ปลายเตียงเป็นทางเดิน ถ้าใครอยากดูทีวีในห้องนอน แนะนำให้ติดกับผนังห้องเพื่อประหยัดพื้นที่ครับ

ใน Master Bedroom จะมีห้องน้ำในตัวด้วย โดยหน้าห้องน้ำจะเป็นตู้เสื้อผ้า ใช้งานสะดวกดีครับ

ภายในห้องน้ำก็จะตกแต่งเหมือนกับห้องก่อนหน้า เป็นห้องสีครีม แยกส่วนแห้ง-เปียก มีสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆ พร้อมใช้งาน ขาดแค่ฉากกั้นอาบน้ำครับ

เปิดห้อง  ส่องวัสดุ  :  Focus  on  “MATERIALS”

วัสดุในภาพรวมของคอนโด เดอะทรี หัวหมาก อินเตอร์เชนจ์ ห้องที่ได้เป็นแบบ Fully Fitted นะครับ คือได้เคาน์เตอร์ครัว ชุดสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ Digital Door Lock และเครื่องปรับอากาศ  ตัวห้องจะได้พื้นไม้ลามิเนต ผนังติดวอลเปเปอร์ และฝ้าฉาบเรียบสีขาวครับ

อยู่สบายแบ่งรีวิววัสดุออกเป็น 3 ส่วน  คือ  วัสดุครัวและส่วนเตรียมอาหาร (Pantry) , วัสดุห้องน้ำ , วัสดุทั่วไปและวัสดุปิดผิวภายในห้อง (Finishing Materials)  เพื่อให้ส่องกันง่ายๆ เช่นเคย

วัสดุห้องครัว / ส่วนเตรียมอาหาร (Pantry)

เคาน์เตอร์ครัวของห้องแบบ 2 Bedroom เป็นแบบตัว L  หน้าบานเป็นวัสดุ Hi gloss สีขาว

เปิดตู้และลิ้นชักออกมา เก็บของได้เยอะพอสมควรเลย

ในตู้ด้านบนซ่อนกล่องควบคุมไฟเอาไว้ ดูเรียบร้อยไม่เกะกะสายตา

ส่วนที่ใส่เครื่องซักผ้าและไมโครเวฟอยู่ด้านล่าง

มี Backsplash เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ สีออกครีม

Top counter เป็นหินสังเคราะห์ มาพร้อมทั้งอ่างล้างจานและก๊อกทรงสูง จาก Franke

เตาไฟฟ้า 2 หัว ยี่ห้อ Franke

เครื่องดูดควันก็ยี่ห้อ Franke เช่นกัน

ห้องแบบ 1 Bedroom ได้อุปกรณ์ต่างๆเหมือนกัน แต่เคาน์เตอร์จะเล็กกว่า และเป็นรูปตัว I ครับ

มีพื้นที่เก็บของได้เยอะเช่นกัน มีที่วางไมโครเวฟอยู่ด้านล่าง ส่วนที่วางเครื่องซักผ้าจะอยู่ตรงระเบียงครับ

วัสดุห้องน้ำ

อ่างล้างหน้าของห้องแบบ 2 Bedroom จะเป็นทรงสี่เหลี่ยม มีที่เก็บของด้านล่าง จากแบรนด์ COTTO

ส่วนห้องแบบ 1 Bedroom เป็นอ่างล้างหน้าแขวนผนังทรงครึ่งวงกลม ของ American Standard

ก๊อกน้ำแบบก้านโยก American Standard

กระจกเงาแบบส่องครึ่งตัว

โถสุขภัณฑ์สีขาว แบบ 2 ปุ่มกด จาก American Standard เช่นกัน

ราวแขวนผ้าสแตนเลส

ชุดฝักบัวอาบน้ำแบบปรับระดับได้ พร้อมที่วางสบู่

หัวฝักบัวจับถนัดมือกำลังดี

พื้นภายในและภายนอกห้องน้ำมีธรณีกั้น ความสูงประมาณ 5 ซม.

ส่วนพื้นโซนแห้งและเปียกต่างระดับกันเล็กน้อย แนะนำให้ติดฉากกั้นอาบน้ำ

มีพัดลมดูดอากาศอยู่บนฝ้าเพดาน

วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (Finishing)

Digital Door Lock ยี่ห้อ Secuon ใช้งานได้ทั้ง Kay Card, Password และ กุญแจ

หน้าต่างเป็นกรอบเป็นอลูมิเนียมสีเทาเข้ม มือจับเป็นแบบเซาะร่อง

Switch และ Smart Switch ที่ควบคุมการเปิด/ปิดไฟ้ฟ้าผ่าน Mobile Application

เครื่องปรับอากาศ Daikin ที่ห้องนอนและห้องนั่งเล่น

ฝ้าฉาบเรียบสีขาว มาพร้อมไฟดาวน์ไลท์ อุปกรณ์ป้องกันอัคคีภัย และสปริงเกอร์ดับไฟ

พื้นห้องเป็นลามิเนตลายไม้ หนา 8 มม. มีตัวจบระหว่างห้อง

 เปิดกระเป๋า  ดูสตางค์

ราคาเริ่มต้นคอนโดThe Tree หัวหมาก อินเตอร์เชนจ์ เริ่มต้นที่ 2.19 ล้านบาท เป็นแบบสตูดิโอครับ ทั้งหมดขายเป็นห้องแบบ Fully Fitted  ส่วนราคารายห้องสามารถเข้าไปสอบถามที่โครงการได้เลยครับ และตอนนี้ทางโครงการก็มีโปรโมชั่น จองเพียง 5,900 บ. ไม่ต้องเสียเงินทำสัญญา ไม่ต้องวางดาวน์ รอเข้าอยู่เดือนกันยายนได้เลยครับ (กู้ไม่ผ่านคืนเงินจอง)

ราคา ณ วันที่  7 มิ.ย.  2563

ราคาเริ่มต้น :

• Studio ราคาเริ่ม 2.19 ล้านบาท
• 1 Bedroom ราคาเริ่ม 2.54 ล้านบาท
• 1 Bedroom Plus ราคาเริ่ม 4.1 ล้านบาท
• 2 Bedroom ราคาเริ่ม 4.2 ล้านบาท

เงื่อนไขการจอง :

• เงินจอง

5,900 บาท

• ทำสัญญา

ฟรี!

• ผ่อนดาวน์

ฟรี!

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :

ค่าส่วนกลาง 55 บาท/ตร.ม.
ค่ากองทุนเริ่มแรก (Sinking Fund)  500 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)

ประมาณการอัตราผ่อนต่อเดือน

(เพื่อให้เห็นกรอบของค่าใช้จ่ายคร่าวๆ และนำไปวางแผนประมาณการของแต่ละคน  ถึงไม่ได้ซื้อห้องที่ยกมาเป็นตัวอย่างก็ใช้ตัวเลขได้ ซึ่งผมประมาณการอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าปกติหน่อย  เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรองรับความสามารถในการผ่อน  รวมถึงให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆ ที่เกิดขึ้น  เช่น  ค่าส่วนกลาง ไปด้วยในตัว)

บนสมมติฐาน กู้  90% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 30 ปี

• แบบ สตูดิโอ                 ราคา 2.19 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ 12,458 บาท/เดือน
• แบบ 1 ห้องนอน            ราคา 2.54 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ 14,449 บาท/เดือน
• แบบ 1 ห้องนอนพลัส     ราคา 4.1 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ 23,323 บาท/เดือน
• แบบ 2 ห้องนอน            ราคา 4.2 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ 23,892 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  90% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 25 ปี

• แบบ สตูดิโอ                 ราคา 2.19 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ 13,308 บาท/เดือน
• แบบ 1 ห้องนอน            ราคา 2.54 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ 15,425 บาท/เดือน
• แบบ 1 ห้องนอนพลัส     ราคา 4.1 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ 24,915 บาท/เดือน
• แบบ 2 ห้องนอน            ราคา 4.2 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ 25,523 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  90% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 20 ปี

• แบบ สตูดิโอ                 ราคา 2.19 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ 14,695 บาท/เดือน
• แบบ 1 ห้องนอน            ราคา 2.54 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ 17,004 บาท/เดือน
• แบบ 1 ห้องนอนพลัส     ราคา 4.1 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ 27,512 บาท/เดือน
• แบบ 2 ห้องนอน            ราคา 4.2 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ 28,183 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  90% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 15 ปี

• แบบ สตูดิโอ                 ราคา 2.19 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ 17,170 บาท/เดือน
• แบบ 1 ห้องนอน            ราคา 2.54 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ 19,914 บาท/เดือน
• แบบ 1 ห้องนอนพลัส     ราคา 4.1 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ 32,144 บาท/เดือน
• แบบ 2 ห้องนอน            ราคา 4.2 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ 32,928 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  90% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี/ ระยะเวลา 10 ปี

• แบบ สตูดิโอ                 ราคา 2.19 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ 22,380 บาท/เดือน
• แบบ 1 ห้องนอน            ราคา 2.54 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ 25,957 บาท/เดือน
• แบบ 1 ห้องนอนพลัส     ราคา 4.1 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ 41,899 บาท/เดือน
• แบบ 2 ห้องนอน            ราคา 4.2 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ 42,921 บาท/เดือน

Overview Summary

ด้านการเดินทาง

คอนโด The Tree หัวหมาก อินเตอร์เชนจ์ ตั้งอยู่ในย่านหัวหมาก เขตบางกะปิ ทำเลที่ตั้งของโครงการจะอยู่ติดกับถนนรามคำแหง ฝั่งมุ่งหน้าออกนอกเมือง ใกล้กับแยกลำสาลี เป็นแยกที่ตัดกันระหว่างถนนรามคำแหง และถนนศรีนครินทร์  จึงทำให้สามารถเชื่อมต่อไปได้หลายพื้นที่ เช่น ไปถนนพระราม 9, ถนนศรีนครินทร์, ถนนลาดพร้าว, ถนนเสรีไทย และถนนนวมินทร์ เป็นต้น  แต่ถนนเส้นรามคำแหงนี้ค่อนข้างขึ้นชื่อเรื่องรถติด เนื่องจากมีผู้คนอยู่อาศัยกันหนาแน่น แต่ก็ดีที่มีซอยต่างๆ ให้สามารถลัดออกไปได้ เช่น ใช้ถนนประชาอุทิศ เชื่อมไปออกถนนประดิษฐ์มนูธรรม เพื่อใช้ทางด่วนฉลองรัช, ใช้ซอยรามคำแหง 24 ไปออกที่ถนนพระราม 9 เพื่อใช้ทางด่วนศรีรัช หรือใช้ซอยรามคำแหง 65 (ซ.ลาดพร้าว 122) เพื่อไปออกถนนลาดพร้าวก็ได้ครับ

จุดเด่นอีกอย่างของทำเล เดอะทรี หัวหมาก อินเตอร์เชนจ์ คืออยู่ใกล้ทางลัดไปด้านหลัง The Mall บางกะปิ มีสะพานข้ามคลองแสนแสบไปในระยะที่เดินได้ ทำให้ลูกบ้านสามารถเดินไปช้อปปิ้งที่ฝั่งลาดพร้าว ซึ่งตรงนั้นถือเป็นฮับใหญ่ของโซนบางกะปิ มีทั้ง The Mall บางกะปิแล้ว, ตลาดตะวันนา, Makro และ Tesco Lotus ครับ

ด้านการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า โครงการ The Tree Hua Mak Interchange อยู่ใกล้สถานีลำสาลี 300 ม. ซึ่งเป็นสถานี Interchange เชื่อมต่อรถไฟฟ้าถึง 3 สาย ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ที่วิ่งตามแนวถนนลาดพร้าว และถนนศรีนครินทร์ โดยคาดว่าเปิดใช้บริการปี 64 , รถไฟฟ้าสายสีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี) ที่วิ่งตามแนวถนนรามคำแหง คาดว่าเปิดใช้ปี 67 และ รถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล (แคราย-ลำสาลี) ที่ตอนนี้อยู่ระหว่างการศึกษาออกแบบครับ สามารถเดินออกจากคอนโดมาขึ้นรถไฟฟ้าได้แบบสบายๆ

ส่วนรถประจำทางที่วิ่งผ่านก็มีหลายสาย เพราะเป็นถนนหลักและเป็นย่านที่มีคนอยู่อาศัยกันเป็นจำนวนมาก  เพราะฉะนั้นเรื่องรถสาธารณะมีเพียบแน่นอน  มีวินมอเตอร์ไซค์อยู่หน้าโครงการ และด้านหลังโครงการถ้าเดินข้ามคลองไปที่ The Mall บางกะปิ ก็จะมีท่าเรือ The Mall บางกะปิ สามารถนั่งเรือเข้าเมืองไปทางอโศก ประตูน้ำ โดยไม่ต้องกลัวรถติดครับ  ซึ่งทางโครงการก็ได้ทำประตูเข้าออกเข้า-ออกสำหรับคนไว้ที่ด้านหลังโครงการด้วย (ใช้ Key Card) เดินข้ามไปท่าเรือได้ง่าย ด้วยระยะเพียง 250 ม. เท่านั้น

ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต

ทำเลย่านรามคำแหงตอนต้น (ตั้งแต่จุดเริ่มต้นของถนนรามคำแหงไปจนถึงแยกลำสาลี) ถือเป็นพื้นที่ที่รองรับการขยายตัวของเมืองจากโซนพระราม 9  ทำให้มีการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อบวกกับในอนาคตข้างหน้าจะมีรถไฟฟ้าเปิดให้บริการ น่าจะยิ่งทำให้ตลาดคอนโดบนถนนรามคำแหงเติบโตขึ้นได้อีก มีคอนโดเกาะตามแนวรถไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นครับ

ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ

ผังที่ดินของโครงการ The Tree Hua Mak Interchange จะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดประมาณ 3-2-69.6 ไร่ ด้านแคบหันไปทางทิศเหนือ-ใต้ ด้านหน้าติดถนนรามคำแหง ด้านหลังติดคลองแสนแสบ ภายในโครงการมี 5 อาคาร ประกอบไปด้วย อาคาร A อยู่ด้านหน้าสุด สูง 4 ชั้น เป็นอาคารบริการและห้องชุดเพื่อการพาณิชย์  อาคาร B, C และ D อยู่ตรงกลาง เป็นอาคารพักอาศัย สูง 31 ชั้น มีทางเดินเชื่อมกันที่ชั้น 2 และชั้น 31 ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนกลาง ส่วนด้านในสุด เป็นอาคารจอดรถ สูง 10 ชั้น ครับ

The Tree หัวหมาก อินเตอร์เชนจ์ มีจำนวนยูนิตทั้งหมด 590 ยูนิต แต่การแบ่งอาคารพักอาศัยออกเป็น 3 อาคาร ทำให้การอยู่อาศัยในแต่ละอาคารไม่รู้สึกหนาแน่นเกินไป โดยแต่ละชั้นมีเพียงแค่ 7 ยูนิตเท่านั้น ถือว่าได้ความเป็นส่วนตัวค่อนข้างสูงครับ

สำหรับแปลนห้องของ เดอะทรี หัวหมาก อินเตอร์เชนจ์ มีห้องหลักๆ อยู่ 4 แบบ คือ สตูดิโอ ขนาด 23.02 ตร.ม., 1 ห้องนอน ขนาด 25.49 – 28.5 ตร.ม., 1 ห้องนอนพลัส 37 ตร.ม. และ 2 ห้องนอน ขนาด 42.5 – 42.82 ตร.ม.  แต่โดยส่วนใหญ่ของที่นี่จะเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน ที่ออกแบบเป็นพิเศษ เป็นห้องหน้ากว้าง 8 ม. ซึ่งถือเป็นจุดขายของที่นี่ ทำให้ทุกห้องภายในยูนิตสามารถเปิดรับวิวและรับแสงธรรมชาติได้เกือบทุกจุดครับ

ด้านวัสดุในภาพรวมของคอนโด The Tree Hua Mak Interchange ห้องที่ได้เป็นแบบ Fully Fitted นะครับ คือได้เคาน์เตอร์ครัวครบชุด พร้อมอ่างล้างจาน Hob&Hood จาก Franke  ชุดสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ จาก American Standard  เครื่องปรับอากาศ Daikin ในห้องนอนและห้องนั่งเล่น  และ Digital Door Lock  ส่วนตัวห้องจะได้พื้นไม้ลามิเนต หนา 8 มม.  ผนังติดวอลเปเปอร์ และฝ้าฉาบเรียบสีขาวครับ

ด้านพื้นที่ส่วนกลาง  ถือว่าให้มาครบครันทีเดียว เน้นการพักผ่อนของลูกบ้าน ที่ชั้น 1 ของอาคารพักอาศัยมี Lobby ขนาดใหญ่ และชั้น 31 ของทั้ง 3 อาคาร ที่สามารถเดินเชื่อมกันได้ มีทั้ง Theater Room, Kid’s Room, Swimming Pool, O2 Creative Space และ O2 Lounge โดยในห้อง O2 Creative Space และ O2 Lounge จะเป็นพื้นที่ที่ช่วย Generate Oxygen เพิ่มขึ้น มีปริมาณออกซิเจนสูงถึง 21.5% ช่วยให้พักผ่อนได้อย่างสดชื่นครับ นอกจากนี้ที่อาคาร A ยังมี Co-Working Space และ Fitness  ส่วนชั้นดาดฟ้าของอาคารจอดรถ เป็นสนามฟุตซอล สนามเด็กเล่น และสวนพักผ่อนสำหรับลูกบ้านครับ

เรื่องสัดส่วนการใช้ลิฟต์ มีลิฟต์อาคารละ 2 ตัว  ส่วนที่จอดรถจอดได้ประมาณ 271 คัน คิดเป็น 46% แบบไม่รวมจอดซ้อนคัน ถือว่าโอเคอยู่เมื่อเทียบกับราคาคอนโดและทำเลติดรถไฟฟ้า  ไม่ได้มีปัญหาอะไรครับ

Score Summary

สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยครับ  (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนคอนโดมิเนียมที่นี่)

และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่  https://www.facebook.com/Yusabuy

ทุกท่านสามารถสนับสนุนให้อยู่สบายสามารถทำรีวิวออกมาได้เรื่อย ๆ ครับ  เพียงแค่เวลาไปดูโครงการบ้านและคอนโดที่ต่างๆ  เพียงช่วยระบุในแบบสอบถามของโครงการว่า “YUSABUY.COM” เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ท่านติดตามอ่านอยู่  เวลาทางทีมงานขออนุญาตโครงการต่างๆเข้าไปทำรีวิวจะได้ทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นครับ  (^_____^)

ถ้าข้อมูลเป็นประโยชน์ ช่วยกด Like กด Share ให้ทีมงานด้วยนะครับ  ^_____^