อีสเทอร์นสตาร์ เรียลเอสเตท (ESTAR) ทำกำไรสุทธิปี 63 สูงถึง 240 ลบ. พร้อมลุยเปิด 2-3 โครงการ มูลค่าราว 4 พันล้านบาท ในทำเลกรุงเทพฯ และระยอง

· ~ 1 min read

อีสเทอร์นสตาร์ เรียลเอสเตท (ESTAR) ได้ปรับกลยุทธ์ในการสร้างราย หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในปี 2563 ที่ผ่านมาได้ ปรับทั้งด้านการขายและการตลาดผ่านช่องทางสื่อออนไลน์เต็มรูปแบบ ด้วยระบบขายแบบ Online  ตลอด 24 ชั่วโมง โดยลูกค้าสามารถชมห้องตัวอย่างในรูปแบบเสมือนจริง 360 องศา และยังสามารถรับรู้รายได้จากโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ

ดร.ต่อศักดิ์ เลิศศรีสกุลรัตน์
ดร.ต่อศักดิ์ เลิศศรีสกุลรัตน์

นอกจากนี้ยังพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในแนวราบทั้งกรุงเทพฯ และระยอง เพื่อสร้างฐานรายได้ให้แข็งแกร่ง ซึ่งในปีที่ผ่านมาได้มีการขายที่ดินที่ยังไม่มีแผนพัฒนาบางส่วนออกไป ส่งผลให้ผลการดำเนินงานในปี 2563 มียอดขายรวมประมาณ 2,000 ล้านบาท และมียอดรายได้ที่ 2,663 ล้านบาท ด้วยกำไรสุทธิ 240 ล้านบาท

ทั้งนี้ในปีที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดตัวโครงการใหม่ มูลค่าราว 2,300 ล้านบาท ในพื้นที่กรุงเทพฯ และระยอง  จำนวน 3 โครงการ แบ่งเป็น

Quintara Phume Sukhumvit 39 (ควินทารา ภูม สุขุมวิท 39)
Quintara Phume Sukhumvit 39
BREEZE at Eastern Star Foresto
BREEZE at Eastern Star Foresto
Grand Velana
Grand Velana
  • กรุงเทพฯ จำนวน 1 โครงการ
    • ควินทารา ภูม สุขุมวิท 39 : ระดับราคา 3-7 ล้านบาท
  • อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง 2 โครงการ
    • บรีซ แอท อีสเทอร์น สตาร์ ฟอเรสโต้ : ระดับราคา 3 ล้านบาท
    • แกรนด์เวลาน่า : ระดับราคา 8-10 ล้านบาท

สำหรับปี 2564 บริษัทฯ มีแผนที่จะเปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 2-3 โครงการ แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมในพื้นที่กรุงเทพฯ จำนวน 2 โครงการ ตามแนวรถไฟฟ้าสายหลักและขยายฐานโครงการแนวราบที่อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง อีกจำนวน 1 โครงการ รวมมูลค่าราว 4,000 ล้านบาท  โดยได้ตั้งเป้ายอดขายประมาณ 1,200 ล้านบาท และเป้ารับรู้รายได้ราว 1,500 ล้านบาท อย่างไรก็ดี บริษัทยังมียอดขายที่รอรับรู้เป็นรายได้ (Backlog) อีกจำนวนกว่า 2,000 ล้านบาทที่จะทยอยรับรู้เป็นรายได้ของปีนี้และปีต่อไป

จากการที่บริษัทฯ ขยายธุรกิจในแนวราบทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และบ้านฉางตลอด 3-4 ปี ที่ผ่านมา ประกอบกับการที่รัฐมีโครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก ทำให้อำเภอบ้านฉางจังหวัดระยองกลายเป็นทำเลที่มีศักยภาพและความพร้อมด้านสาธารณูปโภค ส่งเสริมการเจริญเติบโตทั้งด้านเศรษฐกิจ การลงทุนจากนักลงทุนไทยและต่างชาติ จึงส่งผลให้บริษัทมีพื้นฐานทางธุรกิจที่หลากหลายและแข็งแกร่งขึ้น

ดังนั้นในปี 2564 นี้ บริษัทฯ จะยังคงกลยุทธ์พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบในทุกระดับราคา เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกเซ็กเมนต์ และจะขยายให้บริการด้านอื่นๆ อย่างครบวงจรให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ สปอร์ตคลับ และบริการหลังการขาย สำหรับลูกค้าฝากขาย-เช่า

สำหรับสถานการณ์ตลาดอสังหาฯ ภายใต้การระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 ปัจจุบันประเทศไทยกำลังทยอยฉีดวัคซีน และสามารถควบคุมตัวเลขผู้ติดเชื้อไม่เพิ่มสูงขึ้นไปจากนี้ ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี เชื่อว่าเศรษฐกิจจะทยอยฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลัง แต่คาดว่าต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 2 ปี ในการที่เศรษฐกิจจะกลับมาดีเหมือนเดิม

ทั้งนี้จากการที่ผู้ประกอบการต่างออกแคมเปญมาช่วยลูกค้าให้ซื้อบ้านได้ง่ายขึ้น และปรับรูปแบบที่อยู่อาศัยให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ประกอบกับสถานการณ์อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ ที่อยู่อาศัยมีราคาถูกลง นับว่าเป็นโอกาสดีของผู้บริโภคที่จะได้บ้านที่ดีเพื่ออยู่อาศัยในขณะนี้

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

ALL COMMENT (0)
icon-yusabuy-titleRELATED ARTICLE
back to top

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้สำหรับการวิเคราะห์

    คุกกี้นี้เป็นการเก็บข้อมูลสาธารณะ สำหรับการวิเคราะห์ และเก็บสถิติการใช้งานภายในเว็บไซต์นี้เท่านั้น ไม่ได้เก็บข้อมูลส่วนตัวที่ไม่เป็นสาธารณะใด ๆ ของผู้ใช้งาน

บันทึก