“สัมมากร” สร้างปรากฏการณ์ลุยตลาดบ้านหรู ผนึก “แอสเซท โปร” ปั้นโครงการ PROVIDENCE LANE เอกมัย-รามอินทรา มูลค่าโครงการกว่า 500 ลบ.
· ~ 1 min read“สัมมากร” สร้างปรากฏการณ์ลุยตลาดบ้านหรู ผนึก “แอสเซท โปร”
ปั้นโครงการ “PROVIDENCE LANE Ekkamai-Ramintra” มูลค่าโครงการกว่า 500 ลบ.
พร้อมดึง “ป๊อด โมเดิร์นด็อก” เป็น ‘Brand Iconic’ หวังเจาะเรียลดีมานด์กลุ่มคนรุ่นใหม่
นายณพน เจนธรรมนุกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) หรือ SAMCO ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่สร้างสรรค์โครงการคุณภาพเป็นระยะเวลา 50 ปี เปิดเผยถึงภาพรวมการดำเนินงานที่ผ่านมาว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังคงส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ ซึ่งบริษัทฯ ได้ติดตามและประเมินผลกระทบต่างๆ เพื่อปรับแผนการดำเนินงานให้ทันต่อสถานการณ์ดังกล่าวเสมอ ไม่ว่าจะเป็นภาพรวมขององค์กรและสินค้า ที่มีการปรับเปลี่ยนทั้งภาพลักษณ์ ฟังก์ชั่น ดีไซน์ ให้มีความทันสมัย สามารถตอบโจทย์ความต้องการแต่ละเซกเมนต์ ของตลาด ส่งผลให้ที่ผ่านมาบริษัทฯ มีการเติบโตไปในทิศทางบวก และยังคงมีเรียลดีมานด์เข้ามาอย่างต่อเนื่องโดย 6 เดือนแรกปี 2564 มีรายได้รวมอยู่ที่ 716.39 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 6.52% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกัน กับปี 2563 ที่มีรายได้รวมจำนวน 672.52 ล้านบาท และตลอดปี 2563 มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,701.50 ล้านบาท
“จากประสบการณ์มาตลอดระยะเวลากว่า 50 ปีของสัมมากร เรามีความพร้อมและมั่นใจในศักยภาพรอบด้านในการพัฒนาโครงการเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกเซกเมนต์ และโอกาสนี้เพื่อขยายฐานตลาดสู่กลุ่มลูกค้าระดับบน บริษัทฯ ได้จับมือกับ แอสเซท โปร พัฒนาโครงการ PROVIDENCE LANE Ekkamai-Ramintra บ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี่ 3 ชั้น บนทำเลเอกมัย-รามอินทรา มูลค่าโครงการกว่า 500 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นการ คิกออฟรุกตลาดบ้านหรูครั้งแรก ด้วยราคาเริ่มต้น 30 ล้านบาท”
นายกล้ายุทธ จินตนะกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอสเซท โปร กรุ๊ป จำกัด ผู้นำด้านการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์โซนภาคตะวันออกเฉียงเหนือในเครือสิริมงคล และธุรกิจรถยนต์นำเข้าระดับพรีเมี่ยมภายใต้แบรนด์ “Rabbit Auto Craft” เผยถึงความร่วมมือครั้งสำคัญว่า “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ สัมมากร พัฒนาโครงการ PROVIDENCE LANE Ekkamai-Ramintra นับเป็นการขยายตลาดมาสู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจของเรา โดยมีสัดส่วนการลงทุนอยู่ 51:49 (สัมมากร: แอสเซท โปร) และเชื่อมั่นว่าจาประสบการณ์การดูแลลูกค้าระดับ พรีเมี่ยมและกลุ่มนิชมาร์เก็ตของเรา ผนวกกับความเชี่ยวชาญของทีมงานสัมมากรในด้านการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยคุณภาพสูง จะสร้างความต่างที่ตอบโจทย์ความต้องการกลุ่มเป้าหมายที่พวกเราวางไว้ รวมถึงสามารถสร้างความพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้ากลุ่มนี้ และส่งผลให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน”
PROVIDENCE LANE เอกมัย-รามอินทรา ถูกพัฒนาภายใต้คอนเซ็ปต์ “Defining Me” เพื่อตอบโจทย์ผู้ที่ใส่ใจและให้ความสำคัญกับความเป็นตัวเอง สนุกสนานกับทุกสิ่งที่ทำ เปรียบเหมือนจิตรกรที่กำลังแต่งแต้มผลงานมาสเตอร์พีซบนผืนผ้าใบ ด้วยรูปแบบดีไซน์ Bauhaus (บาวเฮ้าส์) ผสมผสานระหว่างฟังก์ชั่นที่ทันสมัยกับความสวยงามของศิลปะ สะท้อนให้เห็นถึงรสนิยมของผู้พักอาศัยที่ต้องการความต่างอย่างลงตัว เน้นเจาะกลุ่มนิชมาร์เก็ตคนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นคนโสดหรือกำลังเริ่มสร้างครอบครัว พิเศษด้วยความเป็นส่วนตัวที่มีเพียง 12 หลังเท่านั้น บนไพร์มโลเคชั่นโซนเอกมัย–รามอินทรา ศูนย์กลางแห่งการใช้ชีวิตครบทุกด้านโครงการฯ ตั้งอยู่บนที่ดิน 3-1-6.2 ไร่ มูลค่าโครงการกว่า 500 ล้านบาท มีขนาดตั้งแต่ 64.5 – 100.4 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 428 – 712 ตารางเมตรพร้อมลิฟท์และสระว่ายน้ำส่วนตัว อีกทั้งยังมีคลับเฮ้าส์และฟิตเนส
นางสาวอลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด (CBRE) ที่ปรึกษาด้านงานขาย เผยว่า “จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ได้ส่งผลต่อสภาวะเศรษฐกิจและมีผลกระทบต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยรวมที่ชะลอตัว ทั้งนี้ตลาดบ้านเดี่ยวถือว่าเป็นตลาดที่ได้รับผลกระทบน้อยกว่าตลาดคอนโดมิเนียมเพราะเป็นตลาดของผู้อยู่อาศัยเอง (End User) เป็นหลัก โดยตลาดบ้านเดี่ยวโดยเฉพาะระดับลักชัวรี่ที่มีราคาตั้งแต่ 30 ล้านบาทขึ้นไปยังค่อนข้างคึกคัก มีการเปิดตัวสูงถึง 439 หลังในปี 2563 และมียอดขายอยู่ในเกณฑ์คงที่ประมาณ 60–68% ปัจจัยสำคัญเพราะเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง ประกอบกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้คนเห็นความสำคัญของบ้านมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องพื้นที่และฟังก์ชั่นการใช้งาน ทำเลที่ได้รับความนิยมมากอันดับต้นๆ คือ กรุงเทพฯ ชั้นในฝั่งตะวันออกและตอนเหนือ โดยทำเลกรุงเทพฯ ชั้นในฝั่งตะวันออกมีโครงการมากสุดถึง 1,073 หลัง ส่วนฝั่งเหนือ มีซัพพลายน้อยกว่าด้วยข้อจำกัดของที่ดิน ทำให้มีอัตราการดูดซับดีที่สุดและมียอดขายไปแล้ว 87% ในด้านพฤติกรรมของผู้บริโภคเนื่องด้วยสถานการณ์ปัจจุบันส่งผลลูกค้ากลุ่มนี้ให้ความสำคัญเรื่องพื้นที่ใช้สอยและฟังก์ชั่นต่างๆ ที่ต้องสามารถปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับกิจกรรมที่หลากหลาย มีพื้นที่สีเขียวที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ภายในบ้าน มีการนำเอานวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวก อาทิ ERV (Energy Recovery Ventilator) เครื่องแลกเปลี่ยนอากาศ ที่ช่วยดูดความร้อนออกจากบ้านและเติมความเย็นเข้าไปในตัวบ้านทำให้บ้านเย็น เป็นต้น และอีกสิ่งที่ขาดไม่ได้คือเรื่องทำเล ลูกค้ากลุ่มนี้จะให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมรอบโซนที่อยู่อาศัย เน้นใกล้เมืองที่สามารถเดินทางเข้าออกได้ หลายทาง เชื่อมต่อไปยังโซนต่างๆ ได้ง่าย และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมีอยู่ใน PROVIDENCE LANE Ekkamai-Ramintra”
นายธนชัย อุชชิน (ป๊อด โมเดิร์นด็อก) ในฐานะ Brand Iconic เผยว่า “เราสามารถรู้จักตัวตนของผู้คนได้จากบ้าน เพราะทุกรายละเอียดในบ้านย่อมมาจากรสนิยมและนิสัยส่วนตัวของเจ้าของบ้าน ซึ่งสไตล์การตกแต่งบ้านของผมจะเน้นใช้ของน้อยชิ้นแต่ดูอบอุ่น ที่สำคัญต้องอยู่บนทำเลที่ดี อย่างโครงการ PROVIDENCE LANE Ekkamai-Ramintra ค่อนข้างตรงโจทย์ผมมากๆ ทั้งที่ตั้งและงานดีไซน์ที่มีความเท่ ความทันสมัย ให้ความรู้สึกกระฉับกระเฉง มีชีวิตชีวาและแฝงด้วยความอบอุ่น ตรงนี้ทำให้เป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจในการถ่ายทอดผลงานทั้ง 5 ภาพ ด้วยเน้นการใช้สีสันที่สวยงามและฝีแปรงที่มีความฉับพลันให้อารมณ์ความรู้สึกของความสดใหม่เป็นการสร้างพลังงานชีวิต ขณะเดียวกันก็แฝงด้วยความรู้สึกผ่อนคลาย สะท้อนแนวคิดของโครงการฯ ที่ได้เป็นอย่างดีครับ”
ทั้งนี้ นายกล้ายุทธ กล่าวทิ้งท้ายว่า “สัมมากร และ แอสเซท โปร ยังมีแผนความร่วมมืออย่างต่อเนื่อง โดยจะขยายไปเซกเมนต์ตลาดบ้านเดี่ยวระดับอัลตร้าลักชัวรี่บนทำเลใจกลางเมือง คาดว่าจะเปิดตัวได้ประมาณต้นปีหน้า 1 โครงการ พร้อมกันนี้พวกเรายังคงมุ่งมั่นหาทำเลศักยภาพสูงเพื่อพัฒนาโครงการต่อไปในอนาคตอีกด้วยครับ”
สัมผัสอาณาจักรแห่งใหม่ ที่รอให้คุณมาค้นหาตัวตนที่แท้จริงอย่างอิสระและมีระดับได้แล้ววันนี้! ที่ PROVIDENCE LANE เอกมัย-รามอินทรา บ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี่สไตล์โมเดิร์น 3 ชั้น ราคาเริ่มต้น 30 ล้านบาท
เตรียมเปิดพรีเซลในวันเสาร์ที่ 9 – วันอาทิตย์ที่ 10 ตุลาคม 2564 พร้อมมอบสิทธิพิเศษสำหรับผู้ที่ลงทะเบียนจับจองก่อนใคร ด้วยส่วนลด 500,000 บาท และฟรี! สวน Courtyard ครัวไทย ครัวฝรั่ง เครื่องใช้ไฟฟ้า แอร์ทั้งหลัง รวมทั้งระบบ Home automation สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทร.1427 หรือ คลิก