ห้องซักรีดกลายเป็นอีกหนึ่งมุมที่คนมีบ้าน โดยเฉพาะทาวน์โฮมที่หันมาให้ความสำคัญ และออกแบบให้สวยงามน่าใช้งานกันมากขึ้น เราเลยนำไอเดียการดีไซน์ห้องซักรีดแบบ Before-After มาให้เห็นความต่างกันแบบชัดๆ เผื่อเป็นแนวทางให้ใครที่กำลังสนใจจะทำห้องซักรีดไว้ในบ้าน

สตาร์ทที่ห้องแรก ซึ่งมีการดัดแปลงจากก่อนเดิมไม่ได้มาก แค่ทาสีผนังใหม่เป็นสีเขียวเข้มแบบสีเขียวต้นไม้ เพิ่มความสบายตาด้วยสีขาวทั้งจากเพดาน กรอบหน้าต่าง เครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า และชั้นวางของด้านบนสีขาว ส่วนพื้นจากพื้นไม้ก็ปูกระเบื้องแทน และทางเข้าแบบเปิดโล่งซึ่งไม่อยากใช้ประตูเปิด-ปิด เลยเลือกใช้เป็นม่านแบบลูกปัดไม้สีน้ำตาลลายวงกลมสีขาว ซึ่งเข้ากับห้องนี้ได้อย่างลงตัว

มาในโทนสีสันสดใสกันบ้างด้วยผนังสีพีชออกสีส้มอ่อนๆ ผนังอีกฝั่งติดวอลเปเปอร์ลายเลมอนส่วนตู้เก็บของเป็นสีชาเขียวมีความนุ่มนวล ซึ่งระหว่างตู้มีชั้นวางของแทรกให้หยิบได้ง่ายสะดวกสบาย ใต้ตู้ทำเป็นเคาน์เตอร์วางไว้บนเครื่องซักผ้า และยังมีพื้นที่ว่างสำหรับเก็บตะกร้าผ้า ตกแต่งด้วยกระดานสีดำ ต้นไม้และดอกไม้ปลอม พร้อมปูพรมแบบถัก ทำให้ห้องนี้ดูโดดเด่นสวยงาม

ห้องนี้จะคล้ายกับห้องที่แล้ว แต่จะมีขนาดเล็กลงมาหน่อย ออกแบบเคาน์เตอร์เหนือเครื่องซักผ้า เพื่อให้มีพื้นที่วางของ ชั้นวางของ 2 ชั้น ทำจากไม้เข้าเซตกับเคาน์เตอร์ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือจากปกติทาสีผนัง ก็เปลี่ยนเป็นทาเพดานไม้ด้วยสีเขียว ส่วนพื้นจากกระเบื้องสีพื้นๆ ก็เปลี่ยนเป็นปูกระเบื้องแบบเพนนี หรือก็คือกระเบื้องชิ้นเล็กๆ ที่มีรูปร่างเป็นเหรียญเพนนี ซึ่งสร้างเสน่ห์ของห้องซักรีดได้ดีทีเดียว

ก่อนรีโนเวทเจ้าของห้องวางเครื่องซักผ้าซ้อนกัน เพราะคิดว่าจะเป็นการเพิ่มพื้นที่ในส่วนอื่นๆ แต่กลายเป็นใช้งานไม่สะดวก ก็เลยปรับให้อยู่ที่พื้นขนานเท่ากันทั้งสองเครื่อง และทำเป็นเคาน์เตอร์ไว้สำหรับพับผ้าหรือวางของ รวมถึงบิวท์ตู้เก็บของสีขาวที่ด้านบนเพิ่ม นอกเหนือจากเป็นห้องซักรีดแล้ว ยังมีส่วนสำหรับวางอาหารแห้งคอนเฟลกและขนมต่างๆ โดยชั้นวางเป็นไม้วอลนัท เข้ากันได้ดีกับสีผนังสีฟ้าอ่อน ดูเป็นระเบียบร้อยขึ้นทันที

ต่อมาเป็นห้องโทนสีเข้มแต่ดูเท่ไม่เบา โดยเลือกใช้สีเทาเข้มทาผนัง แต่เพื่อไม่ให้ห้องมืดเกินไปจึงเลือกทาเพียงส่วนหนึ่ง ที่เหลือเป็นการปูกระเบื้องลายอิฐสีขาว เช่นเดียวกับเครื่องซักผ้า ตู้ ม่านมู่ลี่ และเพิ่มเติมด้วยอ่างล้างหน้าสีขาว ตัดกับเคาน์เตอร์ไม้สีโอ๊ค รวมถึงนำกรอบรูปและที่แขวนผ้าสีโอ๊คเช่นเดียวกันมาตกแต่ง

แตกต่างจากห้องซักรีดที่กำลังเอ่ยถึง เพราะเลือกใช้กระเบื้องลายอิฐสีขาวปูเต็มผนัง ส่วนเคาน์เตอร์ตู้เป็นสีน้ำเงินเข้ม และท็อปเป็นไม้ที่ดัดแปลงมาจากประตูบานเก่า รวมถึงนำไปทำเป็นชั้นวางของด้านบน ส่วนที่ยึดติดกับชั้นพ่นด้วยสีทองเพื่อให้ดูสวยดูแพงในราคาย่อมเยา เพิ่มลูกเล่นด้วยต้นไม้ปลอมและกระดานดำ ทั้งหมดนี้ทำให้ห้องดูมีมิติมากขึ้น

พาไปดูห้องซักรีดที่แตกต่างจากหน้ามือเป็นหลังมือมากที่สุด เริ่มตั้งแต่รื้อหลังคาและทาสีขาวเรียบๆ ต่อด้วยทำการสร้างแท่นสูงประมาณหนึ่ง สำหรับวางเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้า ส่วนผนังแบ่งเป็นปูกระเบื้องลายอิฐสีขาว (ลายนี้นี่ท่าจะฮิตไม่เบา ฮ่าาา) และติดวอลเปเปอร์ลวดลายดอกไม้ออกแนววินเทจ ส่วนพื้นก็ทำการไล่สีเขียว สีเหลือง ไปจนถึงสีชมพู ช่วยเพิ่มสีสันให้แก่ห้อง

ภาพ Before ถ้าไม่สังเกตดีๆ คือแทบมองไม่เห็นโซนซักผ้าที่วางไว้ตรงโรงจอดรถ โดยทำการจัดระเบียบใหม่หมดตั้งแต่ทำเป็นพื้นอีพ็อกซี่ ซึ่งพื้นแบบนี้มีข้อดีคือป้องกันการเกิดเชื้อราไม่ซึมน้ำ และติดวอลเปเปอร์สีเทามีลวดลายเก๋ๆ เพิ่มอ่างสำหรับซักเสื้อด้วยมือพร้อมเคาน์เตอร์เชื่อมต่อกันสีขาว รวมถึงบิวท์ชั้นวางของที่เลือกวัสดุทำจากไม้ติดผนังเพิ่มเติม

แต่ละแบบที่เรานำมาให้ดูจะเห็นเลยได้อย่างชัดเจนเลยว่า ไม่ว่าจะมีพื้นที่ขนาดใหญ่หรือพื้นที่จำกัด ก็สามารถออกแบบห้องซักรีดได้อย่างมีสไตล์และสามารถใช้งานได้จริง

เรียบเรียงบทความจาก thespruce