—————————
แบบบ้านเดี่ยว 2 ชั้น Cessna
4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน
พื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม. ที่ดินเริ่มต้น 55.10 ตร.วา
—————————
จุดเด่นแรกที่อยากจะรีวิวบ้านโครงการ สราญสิริ ศรีวารี อยู่ตรงที่ Landscape Design การวางบ้านในทิศทางที่เหมาะสม โดยออกแบบให้สวนอยู่ทางทิศตะวันออก เพื่อให้คนในครอบครัวใช้งานได้ตลอดทั้งวัน รวมถึงออกแบบห้องนอนล่างและห้องนั่งเล่นให้ได้ใกล้ชิดธรรมชาติ แต่ที่เป็นไฮไลต์คือการดีไซน์ Double Volume Living Space สูงถึง 6 เมตร เพิ่มความโปร่งโล่งน่าอยู่อาศัยมากยิ่งขึ้น
ส่วนชั้นบนของบ้านนอกจากเป็นส่วนของห้องนอน และมีห้องน้ำในตัวครบทั้ง 3 ห้อง เพื่อให้สมาชิกในบ้านได้มีพื้นที่ส่วนตัวอย่างแท้จริง ยังมีสเปซสำหรับ Family Room ให้ทุกคนในครอบครัวได้ทำกิจกรรมร่วมกันอย่างแฮปปี้
หน้าตาดีไซน์ของตัวบ้านมาในรูปแบบสไตล์โมเดิร์น สวยงามตามแบบฉบับที่เรียบง่าย โดยเน้นสีเทาโทนอ่อนและโทนเข้มเป็นหลัก ตัดด้วยสีน้ำตาลตรงบริเวณหน้าต่าง เพิ่มมิติให้แก่บ้าน
สามารถจอดรถได้ 2 คัน โดยทางเข้าบ้านด้านข้าง จะทำสเต็ปบันไดไล่ระดับจากลานจอดรถขึ้นมา พื้นโรงจอดรถหน้าบ้านจริงๆ ที่โครงการส่งมอบก็จะทำผิวทรายล้างแบบนี้ให้เลย และก็มีเฉลียงทางเข้าขนาดใหญ่สามารถวางเข้าของเครื่องใช้ รองเท้า ร่ม ตลอดจนอุปกรณ์ต่างๆ โดยไม่ร้อนและไม่เปียกฝนด้วยครับ
เมื่อเข้ามาบ้านในบ้านจะพบกับความโอ่โถงของห้องนั่งเล่น ก่อนเป็นอันดับแรกเพราะทางโครงการดีไซน์ให้เป็นแบบ Double Volume Living Space ความสูงถึง 6 เมตร ที่ไม่ใช่แค่รู้สึกโปร่งโล่งสบายเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นการเชื่อมต่อพื้นที่จากชั้นล่างและชั้นบน
อีกทั้งห้องนี้คือได้ช่องแสงเยอะมากๆ ครับ ทั้งแบบหน้าต่างบานเลื่อนและบานฟิกซ์ล้อมรอบบ้าน ทำให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาได้ทั่วถึงทุกมุมห้อง ขณะเดียวกันก็ทำให้มองเห็นวิวสวนข้างนอกอีกด้วย
อีกทั้งยังมีช่องระบายอากาศบริเวณประตูและหน้าต่างเรียกว่า Breeze Panel พร้อมสวิทช์เปิด-ปิด ช่วยให้อากาศถ่ายเทและระบายความร้อน ทำให้บ้านไม่อบอ้าว ถือเป็นอีกนวัตกรรมที่ทำออกมาได้น่าสนใจอย่างมาก
นอกเหนือจากนึ้ ทางโครงการยังได้ติดสัญญาณกันขโมย Magnetic Censor เอาไว้ให้กับบ้านทุกหลัง เพิ่มความปลอดภัยให้ลูกบ้าน
ติดกันเป็นโซนรับประทานอาหารครับ มีสเปซกว้างขวางพอให้สามารถวางโต๊ะกินข้าวได้ขนาด 6 ที่นั่งเลยทีเดียว และยังเหลือพื้นที่ให้บิวท์อินเป็นชั้นเก็บของหรือจะทำแพนทรี่เป็นครัวนอกก็ยังได้ครับ
ระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องกินข้าวจะมีประตูที่เชื่อมออกไปยังสวนด้านข้างบ้าน เพื่อไว้สำหรับทำเป็นโซนพักผ่อน หรืออยากจะจัดสังสรรค์ปาร์ตี้นอกบ้านในวันหยุด โดยไม่ต้องออกไปไหนไกล
กลับเข้ามาพาไปดูห้องครัวกันต่อครับ โครงการทำบิวท์อินมาให้ครบเลย ไม่ว่าจะเป็นเคาน์เตอร์ด้านล่างท็อปด้วยหินแกรนิตสีดำ รวมถึงตู้เก็บของและอุปกรณ์ต่างๆ ที่อยู่ด้านบน
โดยชั้นล่างนี้จะมีห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุหรือห้องนอนแขกไว้รองรับ สามารถวางเฟอร์นิเจอร์ได้ครบเซตครับ
ติดกันเป็นห้องน้ำ ที่จัดเตรียมสุขภัณฑ์มาให้ครบครันทั้งทำธุระส่วนตัวและพื้นที่อาบน้ำ พร้อมหน้าต่างบานกระทุ้งระบายอากาศ ผู้สูงอายุสามารถเดินเข้าห้องน้ำนี้ได้สะดวก
ออกมาจากห้องน้ำทางซ้ายมือจะเจอกับห้องเก็บของใต้บันไดครับ
ไปต่อกันที่ชั้น 2 ของบ้าน ขึ้นมาแล้วจะเจอกับ Family Area อีกหนึ่งพื้นที่ทำกิจกรรมร่วมกันของคนในครอบครัว อย่างบ้านตัวอย่างที่ทำเป็นมุมอาร์ตสร้างสรรค์งานศิลปะ
ส่วน Master Bedroom จะอยู่ทางด้านหน้าบ้าน มีขนาดใหญ่มากครับ วางเตียง 6 ฟุต โซฟาขนาด 2 ที่นั่งที่ปลายเตียง และชั้นวางทีวี ก็ยังเหลือสเปซรอบข้างให้เดินผ่านได้สะดวกสบาย มีหน้าต่างบานใหญ่รับแสงธรรมชาติเข้ามาจากบริเวณหัวเตียง
ทางฝั่ง Walk-in Closet เองก็มีพื้นที่กว้างขวาง กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน สามารถบิวท์อินตู้เสื้อผ้าเต็มผนังฝั่งหนึ่งและสูงจรดเพดาน พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งแบบจัดเต็ม
ห้องน้ำมีขนาดพอๆ กับข้างล่าง ได้อ่างล้างมือและเคาน์เตอร์ข้างใต้ กระจกเงา โถสุขภัณฑ์และชั้นวางของด้านหลัง รวมถึงโซนอาบน้ำ และหน้าต่างระบายอากาศ
ออกมาจาก Master Bedroom เพื่อไปยังฝั่งตรงข้ามสู่ห้องนอนที่ 2 ซึ่งจะมีขนาดรองลงมา แต่ก็ยังวางเตียงขนาดใหญ่ได้สบายนะครับ
ด้านข้างมีพื้นที่ให้วางโต๊ะทำงานและติดกันเป็นส่วนของตู้เสื้อผ้า
ส่วนฝั่งปลายเตียงสามารถวางเดย์เบดหรือเลือกเป็นวางชั้นเก็บของแทนก็ยังได้ครับ
และยังมีห้องน้ำในตัวให้เสร็จสรรพ ไม่ต้องแย่งกันใช้และได้รับความเป็นส่วนตัวเต็มที่
ติดกันเป็นห้องนอนที่ 3 โดยขนาดและรูปแบบการจัดวางจะคล้ายกันกับห้องก่อนหน้านี้เหมือนฝาแฝดเลย ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดีสำหรับใครที่มีลูกหลายคน เพราะจะได้ไม่ต้องทะเลาะเรื่องแย่งห้องกันครับ