หนึ่งในย่านที่ถ้าทุกคนเลือกได้ รู้สึกอยากอยู่มากที่สุด เชื่อว่าทำเล ‘ทองหล่อ’ คือคำตอบของเรื่องราวในครั้งนี้ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีอยู่แล้วในเรื่องของความเพียบพร้อม เพราะเต็มไปด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์ในทุกมุมมอง ที่ให้เราเพลิดเพลินได้ในทุกช่วงเวลา จนถูกนิยามให้ทองหล่อ เป็นทำเลที่ไม่เคยหลับใหล

ทำให้เมื่อไหร่ก็ตามที่มีโครงการที่อยู่อาศัยเกิดขึ้นบริเวณนี้ ยิ่งโดยเฉพาะคอนโดด้วยแล้วล่ะก็ มักจะได้รับความสนใจจากผู้คนเป็นจำนวนมากเสมอ ซึ่งไม่ใช่แค่ชาวไทยเท่านั้น แต่รวมไปถึงชาวต่างชาติที่มาจากทั่วทุกสารทิศ ก็ล้วนอยากจับจองเป็นเจ้าของกันหมด

อย่างไรก็ดีการเลือกที่อยู่อาศัยบนใจกลางทองหล่อที่มีความคึกคักตลอดทั้งวันทั้งคืน กลับต้องสัมผัสได้ว่านี่เป็นพื้นที่พักผ่อนที่ให้ความรู้สึกเงียบสงบอย่างเป็นส่วนตัวเปรียบเทียบให้เห็นภาพง่ายๆ ว่า เลือกให้เหมือนกับหลุดไปอยู่อีกมิติหนึ่ง

และนี่อาจคอนโดที่หลายคนกำลังตามหาอยู่ก็เป็นได้  กับโครงการ Chewathai Residence Thonglor (ชีวาทัย เรสซิเดนส์ ทองหล่อ) ตอบโจทย์คนเมืองให้ใช้ชีวิตได้อย่างสมบูรณ์แบบในทุกมิติ ผ่านสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์พร้อมสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด แบบที่ได้เห็นแล้วต้องหลงรัก

แน่นอนว่าทำเลที่ตั้งโครงการคืออยู่บนทองหล่อ โดยจะเข้าไปใน ซอยทองหล่อ 20 หรือเรียกอีกชื่อว่าซอยแจ่มจันทร์ ซึ่งมีจุดเด่นในเรื่องของการเดินทาง ที่สามารถทะลุไปซอยเอกมัย 21 ได้ แต่ไม่ได้รู้สึกพลุกพล่านอย่างที่คิด เพราะในซอยนี้ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยแนวราบเสียมากกว่า

ทั้งนี้ตัวโครงการจะห่างจากถนนทองหล่อแค่ประมาณ 200 เมตร ซึ่งจะเชื่อมต่อไปได้ทั้งฝั่งสุขุมวิท วิ่งไปออกโซนอ่อนนุช บางนา หรือวิ่งเข้าเมืองผ่านพร้อมพงษ์ อโศก อีกฝั่งคือวิ่งไปยังถนนเพชรบุรี ที่สามารถไปลาดพร้าว ดินแดงได้ อีกทั้งยังอยู่ไม่ไกลจากจุดขึ้น-ลงทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา 

แต่ถ้าช่วงเวลาเร่งด่วนหรือต้องการใช้รถสาธารณะ ก็สะดวกสบายไม่แพ้การขับรถด้วยตนเองเพราะ โครงการอยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีทองหล่อ เพียงประมาณ 2 กิโลเมตร หรือจะเรียกใช้บริการ Grab ก็ง่ายและรวดเร็ว รวมถึงขนส่งอื่นๆ ทั้งวินมอเตอร์ไซค์ แท็กซี่ รถประจำทาง หรือเรือด่วน ก็มีให้บริการแทบจะตลอดทั้งวัน

และที่ดึงดูดผู้คนได้ดีที่สุด ก็ต้องยกให้แหล่งไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ตั้งแต่ Donki Mall, Eight Thonglor, J Avenue, The Common, 72 Courtyard, Foodland, Villa Market, Tops รวมถึงร้านอาหารที่มีครบทุกสัญชาติ คาเฟ่น่ารักๆ และสถานที่แฮงค์เอาท์อีกมากมาย ที่อยู่บนทองหล่อ นอกจากนี้ละแวกใกล้เคียงยังมีห้างสรรพสินค้า Emquartier, Emporium และ Gateway เอกมัย ตอบสนองทุกความต้องการของทุก Gen ได้เป็นอย่างดี

ไม่เพียงแค่นั้นแม้แต่สถานศึกษาก็มีรองรับ โดยเฉพาะโรงเรียนนานาชาติชื่อดัง เช่น Ekamai International school, Wells International school, St.Andrews International school, The American School of Bangkok และ Bangkok Prep International School เป็นต้น

ต่อเนื่องไปถึงสถานพยาบาลที่มีชื่อเสียง ก็รวมตัวอยู่บนทองหล่อ ได้แก่ รพ.คามิลเลียน, รพ.สมิติเวช, รพ.ปิยะเวท, รพ.กรุงเทพ 2 และรพ.สุขุมวิท เกิดเจ็บป่วยกะทันหันก็ไร้กังวลเพราะอยู่ใกล้โครงการแค่เอื้อม

เรียกได้ว่า ทำเลทองหล่อ คือมีทุกอย่างครบถ้วนอุดมสมบูรณ์สุดๆ จะช้อป กิน เที่ยว หรือสังสรรค์ ก็สามารถใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ และเหมาะแก่การอยู่อาศัยอย่างมาก

เมื่อใช้ชีวิตข้างนอกอย่างเต็มที่แล้ว ก็ถึงเวลาต้องกลับมายังสถานที่ที่ช่วยชาร์จพลังให้เต็มร้อยเหมือนเดิม อย่างโครงการ Chewathai Residence Thonglor มาในคอนเซ็ปต์ An Urban Oasis ที่ออกแบบสถาปัตยกรรมภายนอกได้อย่างมีเอกลักษณ์ ผสานกับธรรมชาติได้อย่างลงตัว ขณะที่ดีไซน์ห้องพักอาศัยและฟังก์ชันได้แบบใส่ใจในทุกรายละเอียด

โดยเป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 1 อาคาร บนพื้นที่ขนาด 1-0-89.2 ไร่ มีทั้งหมด 130 ยูนิต ลูกบ้านไม่เยอะไม่วุ่นวาย เพื่อให้แต่ละคนมีสเปซความเป็นส่วนตัวที่ขยายใหญ่ขึ้น

สร้างความโดดเด่นตั้งแต่อาคารภายนอกได้อย่างน่าจับตามอง ด้วยโทนสีขาวคลีนๆ และสะดุดตาจากการดีไซน์ Facade เปลี่ยนระเบียงธรรมดาให้ดูพิเศษ คือทำเป็นทรงสามเหลี่ยม และเพิ่มกิมมิกที่แตกต่างอย่างชาญฉลาด ด้วยต้นไม้เขียวชอุ่มทรงสูง ที่มีให้ตรงระเบียงในทุกยูนิต สร้างความใกล้ชิดธรรมชาติได้ในสไตล์ที่ไม่ซ้ำใคร

ซึ่งแม้ว่าจะมีจำนวนยูนิตน้อย แต่ส่วนกลางกลับได้แบบจัดเต็มอลังการ โดยมีค่าส่วนกลางอยู่ที่ 90 บาท/ตารางเมตร/เดือน ไล่เรียงกันมาเลยตั้งแต่จอดรถได้ 70 คัน (2EV Charger) คิดเป็น 55% โดยในการเข้า-ออกรถ จะใช้ระบบ RFID และมีรปภ.คอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง

ข้างๆ ทางลงไปยังลานจอดรถจะมีโซน Meeting Room แยกจากส่วนกลางอื่นๆ ไว้สำหรับนั่งทำงานหรือนัดประชุมได้อย่างเต็มที่

เข้ามาข้างในอาคารจะเจอกับ Lobby ที่ตระการตาด้วยกระจกแบบ Full-Height แทบจะรอบทิศทาง ทำให้ภายในดูโปร่งโล่ง และมองเห็นวิวภายนอกชัดเจน

ซึ่งจัดที่นั่งรองรับแขกหรือให้ลูกบ้านมานั่งพักผ่อนไว้หลากหลายที่นั่ง

อีกหนึ่งโซน Indoor ของพื้นที่ส่วนกลางเป็น Fitness ซึ่งออกแบบโดยเปลี่ยนจากผนังทึบฝั่งหนึ่งเป็นกรุกระจกสูงเหมือนกับ Lobby มองเห็นวิวสระว่ายน้ำ

พร้อมจัดเตรียมเครื่องออกกำลังกายไว้ให้เรียบร้อย ลูกบ้านใช้งานพร้อมกันได้หลายๆ คนแบบสบายๆ

ส่วน Outdoor คือสระว่ายน้ำระบบเกลือ แบบ Free From ว่ายออกกำลังกายแบบจริงจังได้สุขภาพที่ดีแน่นอน

หรือถ้าใครอยากนอนแช่น้ำชิลๆ ก็มีมุม Jacuzzi หรือถ้าไม่อยากตัวเปียก แต่อยากนอนเล่นแถวนี้ก็มี Day Bed จัดไว้ให้ใกล้ร่มไม้

โดยพื้นที่บริเวณนี้จะล้อมรอบไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ สร้างบรรยากาศร่มรื่นร่มเย็นให้ลูกบ้านได้เป็นอย่างดีทีเดียว

จากชั้นล่างไปต่อที่ชั้นบนสุด Rooftop ขึ้นไปนั่งชมวิวทิวทัศน์ใจกลางทองหล่อ

นอกจากนี้โครงการยังพิถีพิถันไปถึงการออกแบบโถงทางเดิน ที่ทำเป็น Vertical Garden หรือสวนแนวตั้งโดยชั้นบนสุดกรุกระจกเพื่อให้แสงธรรมชาติส่องลงมา ที่ให้ลูกบ้านในทุกๆ ชั้นตั้งแต่

ชั้น 1-8 ได้สัมผัสธรรมชาติในทุกย่างก้าว

มาชมห้องของโครงการ ชีวาทัย เรสซิเดนส์ ทองหล่อ กันต่อ ซึ่งเป็นจุดสำคัญอย่างมากเพราะผู้อยู่อาศัยจะรู้สึกได้ถึงการพักผ่อนอย่างแท้จริง โดยโครงการขายแบบ Fully Fitted มีเฟอร์นิเจอร์มาให้บางส่วน ได้ Digital Door Lock รวมถึงเลือกใช้วัสดุเกรดดี ได้ผนังห้องเป็นอิฐมวลเบา และพื้นถึงเพดานสูง 2.65 เมตร 

ทั้งนี้มีห้องพักอาศัยให้เลือก 3 แบบ ดังนี้

• 1 Bedroom ขนาด 30-44 ตารางเมตร
• 1 Bedroom Plus ขนาด 44-52 ตารางเมตร
• 2 Bedroom ขนาด 41-61 ตารางเมตร

ขอเริ่มที่ 1 Bedroom ขนาด 30.09 ตารางเมตร

เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับห้องครัวแบบครัวปิด ที่มีขนาดค่อนข้างกว้าง วางโต๊ะกินข้าวเพิ่มเติมขนาด 2 ที่นั่งก็ยังได้

โดยเคาน์เตอร์ครัวจะอยู่ทางซ้ายมือ ด้านล่างเว้นพื้นที่วางเครื่องซักผ้าไว้ให้แล้ว ตัว Top เป็นหินเทียม และ Backsplash ปูกระเบื้องลายหินอ่อน ช่วยให้เช็ดทำความสะอาดง่าย 

ได้ซิงค์ล้างจานจากแบรนด์ MEX ซึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าจะได้ เตาไฟฟ้า 2 หัว และ Hob & Hood จากแบรนด์เดียวกัน

ด้านบนบิวท์อินตู้เก็บของมาให้สุดเพดาน เก็บเครื่องครัวได้เยอะ ส่วนหน้าบานจะเป็นแบบไฮกรอส เพิ่มความเรียบหรู

เดินไปอีกนิดจะเป็นห้องนั่งเล่น วางโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง แบบตัวไอ อีกฝั่งบิวท์อินชั้นวางทีวี หรือถ้าใครของเยอะจะบิวท์ตู้ชั้นบนเพิ่มก็ยังมีพื้นที่เหลือเฟือ ด้านในสุดติดหน้าต่างมีสเปซให้วางโต๊ะทำงาน พร้อมได้ชมวิวข้าวนอกไปในตัว

ต่อด้วยห้องนอนขนาดใหญ่ ที่กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน วางเตียง 5 ฟุต ก็ยังเหลือพื้นที่รอบด้าน

แต่โซนแต่งตัวสายแฟชั่นน่าจะชอบ เพราะโครงการบิวท์ตู้เสื้อผ้ามาให้ถึง 2 ฝั่ง เพิ่มการจัดเก็บเสื้อผ้าได้มากขึ้น 

ติดกันเป็นห้องน้ำ ได้สุขภัณฑ์จากแบรนด์ Grohe ทั้งอ่างล้างหน้า ข้างใต้มีเคาน์เตอร์เก็บของ โถสุขภัณฑ์ รวมถึง Rain Shower และ Hand Shower พร้อมติดตั้งฉากกั้นแยกส่วนเปียกส่วนแห้ง

มาถึงไฮไลต์นั่นก็คือระเบียง รูปทรงสามเหลี่ยม ที่อยู่ในห้องนอน ซึ่งจะมีต้นไม้พร้อมกระถางไว้ให้ทุกห้อง และทางโครงการยังติดตั้งระบบหยดน้ำไว้ให้โดยที่เราไม่ต้องมารดน้ำเอง

ห้องตัวอย่างห้องที่ 2 คือ 1 Bedroom Plus ขนาด 49.77 ตารางเมตร

เมื่อเข้ามาแล้วจะเจอกับห้องครัวแบบปิดทางซ้ายมือ โดยจะได้เคาน์เตอร์หน้าตาเหมือนกับห้องแบบแรก 

แต่เพิ่มเติมคือทางขวามือจะมีพื้นที่ให้ทำเป็นตู้รองเท้า แนะนำให้บิวท์สุดเพดาน เพื่อให้เก็บรองเท้าได้หลายๆ คู่

เข้ามาจะเป็นห้องนั่งเล่น ซึ่งพื้นที่มีความยืดหยุ่นในการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ จะเลือกวางโซฟาตัวยาวขนาด 3-4 ที่นั่ง หรือจะวางแค่ขนาด 2 ที่นั่ง และเหลือสเปซไว้สำหรับวางโต๊ะกินข้าวหรือบิวท์เป็นตู้เก็บของแทน ก็แล้วแต่ไลฟ์ไสตล์ของผู้อยู่อาศัย

ด้านในสุดเป็นเหมือนห้อง Multi-Purpose ให้เลือกออกแบบได้ตามใจชอบ จะทำเป็นห้องทำงาน ห้องนอนที่ 2 หรือห้องต่างๆ ก็ดูดีได้ทุกรูปแบบ

เข้ามาจะเป็นห้องนั่งเล่น ซึ่งพื้นที่มีความยืดหยุ่นในการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ จะเลือกวางโซฟาตัวยาวขนาด 3-4 ที่นั่ง หรือจะวางแค่ขนาด 2 ที่นั่ง และเหลือสเปซไว้สำหรับวางโต๊ะกินข้าวหรือบิวท์เป็นตู้เก็บของแทน ก็แล้วแต่ไลฟ์ไสตล์ของผู้อยู่อาศัย

ติดกันเป็นระเบียงมีขนาดกว้างขวาง วางต้นไม้ทรงสูงที่ทางโครงการให้ ก็ยังมีพื้นที่ให้นั่งเล่นรับลมข้างนอกในตอนเย็นๆ ได้

ติดกันเป็นระเบียงมีขนาดกว้างขวาง วางต้นไม้ทรงสูงที่ทางโครงการให้ ก็ยังมีพื้นที่ให้นั่งเล่นรับลมข้างนอกในตอนเย็นๆ ได้

กลับเข้ามาเพื่อไปดูห้องน้ำ คือมีขนาดใหญ่ประมาณหนึ่งเลย ส่วนของอ่างล้างหน้าก็ได้พื้นที่วางของเพิ่มด้วย และนอกจากสุขภัณฑ์ใช้งานทั่วไป ห้องนี้ยังได้อ่างอาบน้ำมาอีก โดยยังคงเป็นแบรนด์จาก Grohe

ตรงข้ามเป็นห้องนอน ที่สามารถวางเตียง 6 ฟุต ห้องก็ยังรู้สึกโปร่งโล่ง แต่จะเลือกวางเตียง 5 ฟุต เพื่อให้มีสเปซมากขึ้นก็ได้เช่นเดียวกัน

ข้างประตูเป็นส่วนของตู้เสื้อผ้า ที่ทางโครงการบิวท์อินมาให้สวยงามน่าใช้งาน

ห้องสุดท้าย 2 Bedroom ขนาด 52.61 ตารางเมตร

พอเข้ามาแล้วจะเจอกับพื้นที่โล่ง ทำให้รู้สึกเหมือนเป็นสัดเป็นส่วน เมื่อเดินเข้ามาอีกนิดจะเจอกับ Common Area ที่เชื่อมต่อระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องรับประทานอาหาร

ซึ่งให้ความรู้สึกโปร่งโล่งสบายน่าอยู่อาศัยมาก ทั้งจากขนาดพื้นที่ และการได้ช่องแสงขนาดใหญ่เต็มผนัง

โดยพื้นที่ตรงนี้ มุมหนึ่งวางโต๊ะกินข้าวขนาด 2 ที่นั่ง อีกมุมจะเป็นโซนนั่งเล่น

ห้องนั่งเล่นวางโซฟาขนาด 2-3 ที่นั่ง ได้ทั้งแบบตัวไอรวมถึงตัวแอล และด้วยระยะห่างของการดูทีวีค่อนข้างมาก จึงมีพื้นที่วางโต๊ะกลางไซซ์ใหญ่ขึ้นได้จากปกติ ขณะเดียวกันก็ติดตั้งทีวีขนาด 50-55 นิ้วได้สบาย

ข้างหลังจะเป็นห้องครัวแบบปิด มีพื้นที่ทำอาหารกว้างขวาง เคาน์เตอร์ครัวและตู้เก็บของด้านบนก็มีขนาดใหญ่ รวมถึงพื้นที่ในการวางตู้เย็นก็ได้ไซซ์ใหญ่ตามไปด้วย พร้อมหน้าต่างระบายอากาศด้านข้าง

ห้องน้ำจะเดินผ่าน Common Area เข้ามาด้านในอยู่ทางขวามือ ซึ่งมีความพิเศษคือมีประตูกั้นระหว่างโซนทำธุระส่วนตัวและโซนอาบน้ำแยกต่างหาก ยิ่งกว่านั้นคือเข้าออกได้ทั้งสองทาง โดยอีกทางจะอยู่ใน Master Bedroom

ที่สำคัญยังมีห้องเก็บของอยู่ฝั่งตรงข้ามห้องน้ำให้อีกต่างหาก

เดินลึกเข้ามาอีกนิดจะเจอกับห้องนอนที่ 2 ก่อน ซึ่งได้ช่องแสงถึง 2 ฝั่ง ทำให้ห้องดูกว้างขึ้น วางเตียง 3.5 ฟุต หรือจะเป็นแบบ Extra Single Bed ขนาด 4 ฟุต ก็กำลังพอเหมาะพอดี

ตู้เสื้อผ้าทางโครงการบิวท์อินมาให้เรียบร้อยเหมือนเดิม ซึ่งพอวางเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมด ก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดแต่อย่างใด

ปิดด้วย Master Bedroom จัดเต็มกับที่นอน 5-6ฟุต บิวท์ชั้นวางทีวีที่ปลายเตียง ก็ยังมีสเปซให้เดินผ่านไปตรงระเบียงได้สะดวก

แม้แต่ฝั่งข้างเตียงบริเวณตู้เสื้อผ้าก็ยังเหลือพื้นที่พอสมควร ซึ่งได้ตู้เสื้อผ้าแบบจัดเต็มสุดผนังสุดเพดานเลยทีเดียว

ตัวระเบียงยังคงคอนเซ็ปต์โครงการ ที่มีต้นไม้พุ่มสูงให้ลูกบ้านได้สัมผัสความเขียวขจี มองแล้วสบายตาสบายใจ

เก็บภาพห้องจริง 1 Bedroom Plus ขนาด 44-52 ตารางเมตร มาให้ดูกันด้วย ซึ่งสามารถออกไอเดียได้อย่างเต็มที่ เพราะไม่ว่าจะตกแต่งในสไตล์ไหน ก็มั่นใจได้เลยว่าสวยงามแน่นอน

ต้องยอมรับว่าโครงการ Chewathai Residence Thonglor (ชีวาทัย เรสซิเดนส์ ทองหล่อ) ทำให้รู้สึกเซอร์ไพรส์แทบจะทุกก้าวที่เดินเยี่ยมชม ตั้งแต่ภายนอกที่แทบจะไม่ค่อยเห็นใครดีไซน์ Facade ได้เก๋ดูดีมีสไตล์แบบนี้

อีกทั้งการพาไปสัมผัสกับธรรมชาติที่ผสมผสานระหว่างแนวราบกับแนวดิ่งได้อย่างสมดุล ไปจนถึงภายในที่มีการจัดวางฟังก์ชันห้องพักได้อย่างยืดหยุ่น ที่สำคัญคือการได้รับความเป็นส่วนตัวและความสงบ ให้ผู้อยู่อาศัยได้รับการพักผ่อนอย่างมีระดับ

บนทำเลทองหล่อ ย่านที่ครบทุกมิติทั้ง Day Life และ Night Life ที่ไม่ว่าจะกลุ่มคนวัยทำงาน อยู่คนเดียว เป็นคู่ หรือกลุ่มที่อยู่กันเป็นครอบครัว ทั้งคนไทยหรือแม้แต่ชาวต่างชาติเอง ก็สามารถตอบรับและเติมเต็มการใช้ชีวิตได้อย่างไร้ที่ติ

โครงการดีไซน์สวยที่ไม่ได้หากันง่ายๆ กับทุกอย่างที่ได้รับแบบจัดเต็มและคุ้มค่าขนาดนี้ แนะนำให้ลองมาสัมผัสด้วยตนเองที่ ชีวาทัย เรสซิเดนส์ ทองหล่อ