บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN ผู้นำแห่งวงการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับคนเมือง ครองตำแหน่งผู้นำตลาดคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้า มั่นใจตลาดอสังหาริมทรัพย์มีสัญญาณการฟื้นตัว โชว์ศักยภาพความเป็นผู้นำสู่แบรนด์อสังหาริมทรัพย์ที่เข้าใจคนเมืองมากที่สุด ผนึกกำลังเสริมความพร้อมในทุกสายงานธุรกิจขององค์กร มุ่งสู่การสร้างประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด อ้าแขนรับดีมานด์ต่างชาติแห่ซื้ออสังหาฯไทย มองเห็นโอกาสหลังจีนเปิดประเทศ มั่นใจโครงการพร้อมอยู่พร้อมโอนครอบคลุมทุกทำเลศักยภาพทั่วกรุงเทพฯ กว่า 45,000 ล้านบาท ตอบโจทย์ทั้งตลาดในประเทศ และตลาดต่างชาติ โดยปี 2566 นี้ บริษัทฯ ตั้งเป้ารับรู้รายได้ 14,500 ล้านบาท (เติบโต 20% จากปีที่ผ่านมา) เป้ายอดขาย 18,000 ล้านบาท พร้อมเปิดใหม่ 2 โครงการแฟลกชิพ มูลค่า 14,600 ล้านบาท และขยายไลน์ธุรกิจใหม่ สู่ APSMC
( Ananda Professional Services and Management Consultancy) ในแบบ Total Solutions และเตรียมออกหุ้นกู้มูลค่า 5,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายธุรกิจในอนาคตตามแผนที่วางไว้
คุณชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2566 ถือเป็นปีแห่งโอกาส โดยเริ่มเห็นสัญญาณบวกต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2565 ที่มีแนวโน้มการเติบโตตามสภาพเศรษฐกิจ ซึ่งได้รับปัจจัยบวกจากภาคการท่องเที่ยวและธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่กลับมาคึกคักอีกครั้งหลังมีการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ สำหรับอนันดาฯ ผู้นำตลาดคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้าที่สามารถเข้าถึงและเข้าใจลูกค้าคนเมืองทั้งตลาดคอนโดและแนวราบในเมืองได้เป็นอย่างดีจึงพร้อมเดินหน้าภายใต้แนวคิด “Ananda Ride the Wave” เพื่อเตรียมรับโอกาสที่กำลังจะเข้ามา
อนันดาฯ มองเห็นโอกาสจากการที่ต่างชาติเปิดประเทศโดยเฉพาะประเทศจีนที่มีความต้องการโครงการที่อยู่อาศัยพร้อมอยู่พร้อมโอนบนทำเลศักยภาพ นอกจากนี้ อนันดาฯ มีความพร้อมเป็นอย่างมากเพื่อรองรับดีมานด์ดังกล่าว โดยมีสินค้าที่ดีและมีคุณภาพพร้อมอยู่พร้อมโอนบนทำเลที่ดีที่สุดของกรุงเทพฯ (Blue Chip Location) ครบทุกเซกเม้นท์ ในราคาที่ยังไม่ได้ปรับตัวสูงขึ้นตามราคาของที่ดินที่ปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังคงเชื่อมั่นในศักยภาพคอนโดติดรถไฟฟ้าว่ายังเป็นสินค้าที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการใช้ชีวิตของคนเมืองได้เป็นอย่างดี
อีกทั้งยังตอบรับโอกาสทางธุรกิจในส่วนของ Branded Residence ที่มีความต้องการเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยอนันดาฯจับมือพันธมิตรระดับโลก (WORLD CLASS PARTNER) พร้อมสร้างปรากฏการณ์เซ็ตมาตรฐานบทใหม่แก่วงการอสังหาฯ เพื่อตอบโจทย์ดีมานด์ในระดับลักชัวรี่ที่เพิ่มสูงขึ้นของกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์ ด้วยการเปิดตลาดบนถนนสุขุมวิท ซึ่งจะเป็นที่สุดของความร่วมมือสำหรับการพัฒนาที่อยู่อาศัยในแบบ Branded Residence ที่ไม่เคยมีมาก่อนในประเทศไทย
และในส่วนของธุรกิจ Serviced Apartment ในปี 2566 นี้ มั่นใจว่าจะสามารถสร้างรายได้ประจำ อย่างต่อเนื่อง ให้กับบริษัทในทุกทำเล ซึ่งเปิดให้บริการเต็มรูปแบบทั้ง 5 โครงการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ( โครงการซัมเมอร์เซ็ต พระราม 9 / โครงการแอสคอทท์ ทองหล่อ บางกอก / โครงการแอสคอทท์ เอ็มบาสซี สาทร / โครงการไลฟ์ สุขุมวิท 8 บางกอก / โครงการซัมเมอร์เซ็ต พัทยา ) ด้วยปัจจัยบวกโดยตรงจากการเปิดประเทศต่างๆ ซึ่งประเทศไทย โดยเฉพาะกรุงเทพและพัทยา ก็เป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจอยู่ในระดับต้นๆของโลก
นอกจากนั้น ในปีนี้อนันดาฯ ยังมีแผนเปิดตัว Business Line ใหม่ ซึ่งจะดำเนินงานในรูปแบบของ Professional Services and Management Consultancy รับดำเนินงานบริหาร และพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบ Total Solutions ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเจรจาข้อตกลงขั้นสุดท้าย กับบริษัท แรบบิท โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เพื่อบริหารและพัฒนาโครงการแรกบนทำเล Prime Area บริเวณสุขุมวิท 38 (ใกล้รถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีทองหล่อ) ซึ่งจะเป็นโครงการในรูปแบบ Mix Used ที่ประกอบด้วยคอนโดมิเนียม เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ และ Food and Beverages โดยในอนาคตอันใกล้คาดว่าจะมีความร่วมมือในโครงการอื่นๆ ลักษณะเดียวกันนี้ทั้งกับทางแรบบิท โฮลดิ้งส์ และพันธมิตรรายอื่นๆ ต่อไป
นอกจากนี้อนันดาฯ ยังมุ่งพัฒนาด้าน Tech Education เพื่อเป็นส่วนช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่เศรษฐกิจดิจิตอล มีจุดมุ่งหมายให้ไทยก้าวทันการพัฒนาด้านดังกล่าวทัดเทียมหลายประเทศในกลุ่มอาเซียน บริษัทฯ จึงจัดตั้ง The Master Academy (TMA) ขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ที่จะสร้างทักษะและเสริมความคิดในทางธุรกิจผนวกกับเทคโนโลยีดิจิตอล โดยเริ่มจากการ upskill / reskill โครงการดังกล่าวเป็นความร่วมมือกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเพื่อเปิดตัวหลักสูตร The Data Master ทำหน้าที่ผลิตนักวิทยาศาสตร์ด้านข้อมูลหรือ Data Scientists ซึ่งปัจจุบันมีไม่เพียงพอกับความต้องการในประเทศ โดยในอนาคตมีแผนที่จะพัฒนาสู่หลักสูตรอื่นๆ เช่น Blockchain และ Cyber Security ร่วมกับมหาวิทยาลัยและบริษัทชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศโดยเน้นการนำไปใช้ได้จริง รวมถึงความร่วมมือกับ Singularity University (SU) ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย
คุณประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า อนันดาฯ มีแผนรองรับการกลับมาของตลาดอสังหาฯ และดีมานด์ของลูกค้าทั้งในประเทศและต่างชาติ
โดยการนำเสนอสินค้าพร้อมอยู่พร้อมโอนซึ่งมีโครงการ Inventory ที่แข็งแกร่งมูลค่าประมาณ 45,000 ล้านบาท แบ่งตามพอร์ตดังนี้ คือ
- โครงการที่เป็น RTM (READY TO MOVE) มูลค่า 34,880 ล้านบาท
- โครงการที่จะสร้างเสร็จ ในปี 2023 มูลค่า 10,012 ล้านบาท
- พร้อมตั้งเป้ายอดรับรู้รายได้ 14,500 ล้านบาท (เติบโต 20% จากปีที่ผ่านมา) เป้ายอดขาย 18,000 ล้านบาท
โดยบริษัทฯวางแผนการทำการตลาดในรูปแบบของ ANANDA URBAN CARAVAN นำโครงการพร้อมอยู่ ไปเสิร์ฟถึงมือให้กับกลุ่มลูกค้า GEN–C ด้วยกิจกรรม Roadshow สไตล์คนเมือง ตลอดทั้งปี นอกจากนี้ ยังเตรียมความพร้อมในการบุกตลาดต่างประเทศ เพื่อขยายฐานลูกค้าต่างชาติให้เพิ่มมากขึ้น โดยมีการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจที่มีศักยภาพและแข็งแกร่ง เพื่อตอบรับการที่ต่างชาติเปิดประเทศ โดยนำโครงการระดับพรีเมี่ยมพร้อมการบริการที่มีมาตรฐานในระดับสากลออกสู่ตลาดต่างประเทศอีกครั้ง
ทั้งนี้ บริษัทฯ ยืนยันในความแข็งแกร่งด้านการเงินรวมถึงศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ ทั้งการมีโครงการ Inventory บนทำเลที่ดีที่สุดรองรับการเติบโตของบริษัทอย่างต่อเนื่อง และมั่นใจว่าจะมีรายได้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน ในส่วนของการสนับสนุนจากพันธมิตรยังคงได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีและต่อเนื่อง จากพันธมิตรชั้นนำระดับอินเตอร์เนชั่นแนล และพันธมิตรชั้นนำของไทย เป็นอย่างดีด้วยเช่นกัน
สำหรับแผนการเปิดโครงการใหม่ 2 โครงการ ซึ่งเป็นโครงการในระดับแฟลกชิพ มูลค่ากว่า 14,600 ล้านบาท โดยประกอบด้วย
1. New Branded Residence บนทำเลใจกลางสุขุมวิท ซึ่งเป็นความร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลก ( World Class Partner ) ที่ถือได้ว่า จะเป็นที่สุดของความร่วมมือในการพัฒนาโครงการในรูปแบบ Branded Residence ที่ไม่เคยมีมาก่อนในประเทศไทย ซึ่งมูลค่าโครงการประมาณ 6,500 ล้านบาท
2.โครงการ ไอดีโอ พหล – สะพานควาย เพียง 0 ม. จากรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีสะพานควาย กับ Design Concept ใหม่ห้อง Hybrid New Series เพื่อชีวิตคน GEN C ด้วยที่สุดของทำเล อีกทั้งยังรายล้อมไปด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์ต่างๆ ของคนเมือง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการ และส่วนกลางแนวคิดใหม่ เพื่อทุกโหมดของการใช้ชีวิต LIVE – WORK – PLAY – LEARN มูลค่าโครงการประมาณ 8,100 ล้านบาท
สำหรับแผนลงทุนในอนาคตสำหรับปี 2566 บริษัทฯมีแผนการลงทุน 10 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 21,200 ล้านบาท ประกอบด้วย
- โครงการแนวราบ จำนวน 4 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 7,200 ล้านบาท
- โครงการคอนโดมิเนียม จำนวน 4 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 10,000 ล้านบาท
- ธุรกิจ Serviced Apartments จำนวน 2 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 4,000 ล้านบาท โดยทั้งหมดคาดว่าจะเป็นโครงการร่วมทุน ( JV )
“ อนันดาฯ มีความมั่นใจว่า ด้วยโอกาสและปัจจัยบวกที่กำลังเข้ามาในปีนี้ บริษัทฯ มีสินค้าที่ดีที่สุดพร้อมอยู่พร้อมโอนบนทำเลศักยภาพ จะสามารถรองรับความต้องการของลูกค้าคนเมืองได้ครบทุกเซกเม้นท์รวมถึงลูกค้าต่างชาติ และการขยายสู่ธุรกิจใหม่ของอนันดาฯ จะเป็นโอกาสที่ดีในการเติบโตของบริษัทฯอย่างแน่นอน” คุณชานนท์ กล่าวทิ้งท้าย