Siamese Asset (SA) มั่นใจภายใน 3 ปี รายได้ทะลุ 10,000 ล้านบาท ชูกลยุทธ์พัฒนาแนวราบ-สูง ในสัดส่วน 50:50 ดันผลงานออลไทม์ไฮ
· ~ 1 min readบมจ.ไซมิส แอสเสท (SA) ตั้งเป้าหมายรายได้ 3 ปีข้างหน้า โดยปี 68 แตะระดับ 10,000 ล้านบาท เน้นสร้างสมดุลรายได้จากโครงการอสังหาฯ แนวราบ-สูง ในสัดส่วน 50:50 พร้อมตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้อื่นๆ ที่เป็นรายได้ประจำ (Recurring Income) อยู่ที่ประมาณ 10-15% จากรายได้รวม
เตรียมพัฒนา 5 โครงการใหม่ เป็นแนวราบมูลค่ารวม 7,000 ล้านบาท และแนวสูง 1 โครงการ รูปแบบ Mixed Use ตุน Backlog Forecast มูลค่ากว่า 6,500 ล้านบาท
นายขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) (SA) กล่าวว่า “บริษัทฯ มีแผนจะพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งแนวราบและแนวสูง โดยในการพัฒนาโครงการจะมุ่งเน้น รูปแบบการพัฒนาโครงการที่มีเอกลักษณ์แตกต่างกันไปในแต่ละโครงการ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าเป้าหมายแต่ละกลุ่ม พร้อมนำนวัฒกรรมและสิ่งอำนวยความสะดวกมาใช้เพื่อสร้างจุดเด่นแก่โครงการ และยกระดับคุณภาพการอยู่อาศัยภายใต้สิ่งแวดล้อมที่ดี สามารถตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยและเพื่อลงทุนในระยะยาว” นายขจรศิษฐ์ กล่าว
โดยมีแผนจะพัฒนาโครงการแนวราบจำนวน 4 โครงการใหม่ รวมมูลค่ากว่า 7,000 ล้านบาท ประกอบด้วย
1. Siamese Kin รามอินทรา(Phase 2) พัฒนาในรูปแบบของบ้านแฝดและทาวน์โฮม จำนวนรวม 36 ยูนิต ราคา 6-10 ล้านบาท มูลค่าโครงการเฟส 2 ประมาณ 250 ล้านบาท
2. Siamese Holm พหลฯ-วิภาวดี พัฒนาในรูปแบบของบ้านเดี่ยว ราคา 8-12 ล้านบาท จำนวน 192 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 1,700 ล้านบาท
3. Siamese Blossom พหลฯ-วิภาวดี พัฒนาในรูปแบบของบ้านแฝดและทาวน์โฮม ราคา 2-5 ล้านบาท จำนวน 445 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 1,700 ล้านบาท
4. Monsane ราชพฤกษ์แจ้งวัฒนะ พัฒนาในรูปแบบของบ้านเดี่ยวระดับ Luxuy ราคา 15 -25 ล้านบาท จำนวน 175 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 3,300 ล้านบาท
และในส่วนกลยุทธ์การพัฒนาโครงการแนวสูง มุ่งเน้นในรูปแบบ Mixed Use 3 โครงการ ทำเลใจกลางเมือง ซึ่งจะมีการจัดสรรพื้นที่บางส่วนของโครงการเป็นพื้นที่เช่าเชิงพาณิชย์ และเป็นห้องพักในรูปแบบโรงแรมหรือเซอร์วิสเรสซิเดนซ์ เพื่อกระจายแหล่งที่มาของรายได้ให้มีความหลากหลายขึ้น ทั้งนี้ มีแผนเปิดตัว
โครงการโครงการ Wellness & Healthcare @ Talingchan และอีก 2 โครงการ มูลค่าโครงการรวม ประมาณ 11,400 ล้านบาท ขณะ ที่มีโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ (อยู่ระหว่างการโอนกรรมสิทธิ์ จำนวน 8 โครงการ มูลค่า 20,000ล้านบาท และโครงการปัจจุบัน อยู่ระหว่างก่อสร้าง จำนวน 5 โครงการ มูลค่า 19,500 ล้านบาท โดยปัจจุบันมียอดขายรอโอน (Backlog) มูลค่ากว่า 6,500 ล้านบาท
ทยอยรับรู้รายได้ถึงปี 2568 ขณะเดียวกันธุรกิจอื่นๆ ประกอบด้วยธุรกิจโรงแรม ธุรกิจให้เช่า ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจด้านสุขภาพ ธุรกิจเทคโนโลยีของการพักอาศัย และธุรกิจการเงินและการลงทุน มีแนวโน้มอัตราการเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน จากอานิสงส์การกลับมาของนักท่องเที่ยวและนักลงทุนต่างชาติ และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ