“LWS วิสดอม” ชี้ ย่านราชพฤกษ์ ทำเลศักยภาพในการพัฒนาบ้านพักอาศัยเพื่อคนทุกวัยตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
· ~ 1 min read“LWS วิสดอม” ชี้ “ราชพฤกษ์”ทำเลศักยภาพในการพัฒนาที่อยู่อาศัยแนวราบ ติดรถไฟฟ้าสายสีม่วงตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการบ้านในทำเลฝั่งตะวันตกของกรุงเทพฯ
สะดวกสบายด้วยการคมนาคม เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและรองรับ Life Style ของคนทุกวัย
นายประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล ดับเบิลยูเอส วิสดอม แอนด์ โซลูชั่นส์ จำกัดบริษัทวิจัยและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือบริษัท แอล.พี. เอ็น.
ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด(มหาชน) ระบุว่าภายหลังการแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัสสายพันธ์ใหม่ 2019 (โควิด-19)ส่งผลให้การใช้ชีวิตในสังคมเมืองมีการปรับตัวไปในรูปแบบใหม่ ที่เรียกว่า New Normal หรือวิถีชีวิตใหม่ ทั้งเรื่องการทำงานและการอยู่อาศัย “จากที่สังคมเมืองในสมัยก่อนแหล่งที่ทำงานจะอยู่ในบริเวณใจกลางเมืองอย่างศูนย์กลางธุรกิจ (Central Business District: CBD) ทำให้ความต้องการที่อยู่อาศัยใจกลางเมืองมีการแข่งขันที่สูงมาก อย่างไรก็ตาม หลังจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้เกิดการปรับตัวในภาคธุรกิจทุกภาคส่วนอย่างการทำงานมีการนำนโยบายการทำงานที่บ้าน (Work from home) มาใช้เพื่อลดการแพร่กระจายของโรครวมทั้งการพัฒนาเทคโนโลยีในระบบ online
เข้ามาใช้สนับสนุนการทำงานในระบบนี้ ส่งผลให้ผู้คนอยู่บ้านกันมากขึ้นมีการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distance)
- ในปัจจุบันเรากำลังเรียนรู้เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ มาประยุกต์ใช้ในการใช้ชีวิตใหม่ เพื่อก้าวไปสู่วิถีชีวิตถัดไป (Next Normal) หนึ่งในวิถี Next Normal ที่น่าสนใจคือ Stay-at-home Economy หรือระบบเศรษฐกิจการใช้จ่าย และการบริโภคภายในบ้านอย่างการสั่งอาหารและสินค้าผ่านบริการ Delivery online หรือสื่อบันเทิงที่ใช้เทคโนโลยี VR (Virtual Reality) มาใช้องค์กรการทำงานหลายองค์กรที่ใช้การทำงานแบบ Work from homeได้นำระบบนี้มาใช้อย่างจริงจังแม้สถานการณ์การระบาดจะคลี่คลายลงมากแล้ว
ดังนั้นบ้านจึงไม่ได้เป็นแค่ที่อยู่อาศัย แต่ยังกลายเป็นที่ทำงาน ห้องประชุมและรองรับกิจกรรมผ่อนคลายต่างๆผ่านการใช้งานผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ได้อย่างสะดวกสบาย
คนรุ่นใหม่จึงมองหาที่อยู่อาศัยที่สามารถตอบโจทย์ทั้งการพักผ่อนการทำงาน และทำกิจกรรมต่างๆได้” นายประพันธ์ศักดิ์ กล่าว - จากการสำรวจของของฝ่ายวิจัยอสังหาริมทรัพย์ LWS พบว่า ทำเล “ราชพฤกษ์” เป็นทำเลน่าสนใจสำหรับการหาที่อยู่อาศัยแนวราบ เนื่องจากมีการพัฒนาโครงข่ายการคมนาคมเส้นถนนหลักได้แก่ถนนราชพฤกษ์-กาญจนาภิเษก ความยาว 42 กิโลเมตรถนนชัยพฤกษ์ ทางหลวง 345 และทางหลวง 346 ที่ตัดผ่าน 3 พื้นที่ ได้แก่ราชพฤกษ์ตอนปลาย เชื่อมต่อจังหวัดปทุมธานี ราชพฤกษ์ตอนกลางในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี และเชื่อมต่อไปยังราชพฤกษ์ตอนต้นเข้าสู่เขตติดต่อกรุงเทพฯและใจกลางเมือง สาธร-สีลม ได้อย่างสะดวกสบาย หรือการเลือกใช้ทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอก เพื่อเลี่ยงการจราจรติดขัดได้ ในขณะที่เส้นทางรถไฟฟ้าที่มีรองรับในย่านราชพฤกษ์ 4 เส้นทาง ได้แก่เส้นทางสายสีเขียว ช่วงต้นทางของเส้นราชพฤกษ์ ช่วงสถานีบางหว้า เส้นทางสายสีน้ำเงินที่เชื่อมต่อกับสถานีบางหว้า ต่อขยายกับสถานีช่วงหัวลำโพง-บางแค และตัดกับเส้นถนนราชพฤกษ์ มีสายรถไฟฟ้าสำคัญได้แก่ MRT สายสีม่วง ช่วงระหว่างบางซื่อ-ท่าพระ สิ้นสุดสถานีที่คลองบางไผ่ เป็นรถไฟฟ้าสายที่อำนวยความสะดวกสบายให้กับผู้ที่อยู่อาศัยในย่านนี้และยังเป็นเส้นที่ผ่านสถานที่สำคัญหลายที่ อาทิ ศูนย์ราชการจังหวัดนนทบุรี กระทรวงสาธารณะสุข หรือต่อไปยังสายสีน้ำเงินเพื่อเข้าสู่ใจกลางเมืองได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมกับ สายสีแดงอ่อน
ที่เป็นรถไฟฟ้าชานเมืองที่เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม จากสถานีบางซื่อมายังสถานีบางซ่อน และมีส่วนต่อขยายไปยังพื้นที่ศาลายาได้ เมื่อดูจากเส้นทางการเชื่อมต่อของรถไฟฟ้าสายสีม่วงแล้ว ทำเลโซน “ราชพฤกษ์” เป็นทำเลยุทธศาสตร์ของเขตปริมณฑลฝั่งตะวันตก เพราะเป็นทำเลที่มีถนนที่เชื่อมต่อกับถนนสายหลักและสะดวกการเชื่อมต่อเมืองด้วยรถไฟฟ้าสายม่วงตลอดสาย เรียกได้ว่าครอบคลุมทุกความต้องการ ทำให้การเดินทางที่สะดวกอยู่แล้วยิ่งสะดวกมากกว่าเดิม นอกจากการเดินทางที่สะดวกสบายแล้ว ย่านราชพฤกษ์ ยังเป็นย่านที่ประกอบด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก และรวมทั้งสถานบันเทิงที่ตอบโจทย์กับทุกรูปแบบการใช้ชีวิตในเมือง(Life style) ประกอบด้วย ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ เซ็นทรัล เวสต์เกต, อิเกีย บางใหญ่,เดอะ เซอร์เคิล ราชพฤกษ์,เดอะ คริสตัล เอสบี ราชพฤกษ์,เดอะวอร์ค ราชพฤกษ์ และ เทสโก โลตัส เป็นต้น รวมถึงในแง่ lifestyle
อย่างร้านอาหารและคาเฟ่จำนวนมากอย่าง Chic Republic บนถนนราชพฤกษ์ตลอดเส้นทาง และแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่น่าสนใจ เช่น เกาะเกร็ด และวัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ (วัดเล่งเน่ยยี่ 2)
ในขณะเดียวกันทำเลราชพฤกษ์ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการศึกษา และการสาธารณสุข ใกล้ โรงเรียนนานาชาติ, โรงพยาบาลเกษมราษฎร์รัตนาธิเบศน์, โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ International ,และโรงพยาบาลพญาไท 3 จากการสำรวจพบว่า มี โครงการบ้านพักอาศัย ระดับราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาทที่น่าสนใจในทำเลรอบพื้นที่ศึกษาบริเวณราชพฤกษ์ตอนกลาง มีจำนวนทั้งหมด 7 โครงการ จำนวน 616 หน่วย ราคาขายเริ่มต้นที่ 5.5 ล้านบาท ขายไปแล้วทั้งสิ้น 166 หน่วยคิดเป็นสัดส่วน 27% ของจำนวนที่เปิดขายทั้งหมด โดยมีอัตราการขายเฉลี่ยอยู่ที่ 2 หน่วยต่อเดือนต่อโครงการ จากจำนวนหน่วยที่เหลือคาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการขายไม่เกิน 2.5 ปี ในส่วนของราคาที่ขายดีมีราคาอยู่ที่ 5.5 ล้านบาทและ ไม่เกิน 6 ล้านบาท รูปแบบของบ้านที่ได้รับความนิยมอันดับ 1 คือ บ้านแฝด ขนาดของที่ดินอยู่ที่ 37 ตร.ว. อันดับ 2 คือ บ้านเดี่ยว ขนาดที่ดินอยู่ที่ 60 ตร.ว. รูปแบบบ้านที่ขายดีคือ 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ และมีห้องอเนกประสงค์เพื่อปรับเปลี่ยนตามความต้องการของผู้อยู่อาศัยผู้ให้ความสนใจโครงการที่อยู่อาศัยอยู่ในกลุ่มคนทำงานที่ต้องการบ้านพักอาศัยติดรถไฟฟ้าที่สามารถเชื่อมต่อไปยังใจกลางเมืองได้ และกลุ่มผู้ทำงานอาชีพอิสระที่ต้องการบ้านที่สามารถทำงานที่บ้านได้ ในขณะที่การสำรวจตลาดบ้านมือสองในทำเล พบว่ามีราคาต่ำลงจากช่วงตอนเปิดตัวโครงการอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนติดลบเฉลี่ยที่ 0.63% เนื่องจากมีโครงการที่อยู่อาศัยพัฒนาใหม่จำนวนมากและมีระดับราคาไม่แตกต่างกัน ทำให้ผู้ซื้อมีแนวโน้มเลือกซื้อโครงการเปิดตัวใหม่ โดยบ้านมือสองที่ได้รับความนิยมสูงสุดเป็นประเภทบ้านเดี่ยว ขนาดที่ดินเริ่มต้น 51 ตร.ว. รูปแบบมาตรฐาน 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ อัตราเช่าเฉลี่ยในทำเลที่ 10% โดยทำเลราชพฤกษ์ เป็นทำเลที่มีประชากรในพื้นที่เกือบ 600,000 คน เป็นประชากรในพื้นที่ประมาณ 415,000 คน และมีประชากรแฝงประมาณ 150,000 คน และเป็นกลุ่มประชากรที่มีรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 50,000-200,000 บาทต่อเดือนต่อครัวเรือน ซึ่งเป็นกลุ่มประชากรที่มีกำลังซื้อสูง โดยเป็นกลุ่มคนที่ทำงานในบริษัทและเจ้าของกิจการจึงเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการอสังหาฯ ในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยประเภทบ้านพักอาศัยทั้งทาวน์เฮ้าส์ บ้านแฝด และบ้านเดี่ยว ที่ระดับราคาไม่เกิน 5-10 ล้านบาท
“ทำเลราชพฤกษ์ เป็นทำเลที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ทั้งการคมนาคม ศูนย์การค้า และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อย่างครบครัน จึงเป็นทำเลที่ตอบโจทย์กับความต้องการของผู้ซื้อโดยเฉพาะกลุ่มผู้ซื้อที่เป็นคนทำงานที่ต้องการที่อยู่อาศัยแนวราบที่สามารถเชื่อมต่อไปยังกลางเมืองได้ในขณะที่ระดับราคาบ้านพักอาศัยที่น่าสนใจในทำเลนี้ยังตอบรับกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง จึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่จะเข้ามาลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย โดยเน้นการพัฒนาที่ตอบรับการอยู่อาศัยในแบบ Next Normal ทั้งการทำงานที่บ้านได้ และนำนวัตกรรมเทคโนโลยีมาใช้ในการอยู่อาศัยในอนาคต ”นายประพันธ์ศักดิ์ กล่าว