รีวิวนี้ผมจะพาไปเจาะลึกคอนโดที่เป็น Segment ใหม่ ของ GRAND UNITY ในปีนี้ครับ  เราแวะไปที่ Mazarine Ratchayothin (แมสซารีน รัชโยธิน)  โครงการนี้เป็นคอนโดที่อยู่ติดถนนพหลโยธินในแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย (หมอชิต-คูคต)  ที่จะเปิดให้บริการกันในช่วงปี 2563 ไล่เลี่ยกับที่  Mazarine รัชโยธิน จะสร้างเสร็จพอดีครับ  ซึ่งที่ตั้งโครงการเองก็อยู่ตรงบันไดทางขึ้นลงสถานีรัชโยธินพอดีเลย  นอกจากนั้นก็ยังอยู่ตรงข้ามกับ Major รัชโยธิน อีกด้วย  แน่นอนว่าจัดเป็นหนึ่งในคอนโดที่ทำเลดีงามมากในโซนนี้

เดี๋ยวผมจะค่อยๆ เล่าให้อ่านกันว่าในโครงการ Mazarine Ratchayothin นี้มีประเด็นอะไรน่าสนใจบ้างนะครับ  ตามมาดูกันเลย

Mazarine Ratchayothin
(แมสซารีน รัชโยธิน)

• เจ้าของโครงการ >>> GRAND UNITY DEVELOPMENT
• ที่ตั้งโครงการ >>> ปากซอยพหลโยธิน 30 ตรงข้ามเมเจอร์รัชโยธิน  ติดรถไฟฟ้าสถานีพหลโยธิน
• ขนาดที่ดิน >>> 3-3-46.60 ไร่
• จำนวนอาคาร >>> 1 อาคาร
• จำนวนชั้น >>> 37 ชั้น
• จำนวนยูนิต >>> 474 ยูนิต / ร้านค้า 2 ยูนิต
• ประเภทห้อง >>>
  • Studio 24.00-25.50 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Type A, B ขนาด 32.50 – 33.00 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Flexi ขนาด 41.50 – 43.00 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus Corner Type A ขนาด 39.00 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Corner Type A ขนาด 39.50 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus Corner Type B ขนาด 48.00 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Corner Type B ขนาด 43.00 ตร.ม.
  • 2 Bedroom Corner ขนาด 48.00 ตร.ม.
• ที่จอดรถ >>> 70%  (แบบ Automatic Parking และแบบธรรมดา) 
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> 4.21 ล้านบาท (ชั้น 8) (ได้ห้องแบบ Fully Furnished)
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> ราคาเฉลี่ย 170,000 บาท/ตร.ม. (พรีเซลล์ ตุลาคม 2561)
• เริ่มก่อสร้าง >>> กรกฎาคม  2561
• คาดว่าแล้วเสร็จ >>> ตุลาคม 2563
• พิกัดที่ตั้งคอนโด >>> 13.829083, 100.569444
• เว็บไซต์โครงการ >>> คลิกที่นี่
• โทร >>> 02-652-4000

.

บริเวณแยกรัชโยธินที่โครงการ Mazarine ตั้งอยู่นั้นถือเป็นสี่แยกสำคัญอีกแห่ง  เนื่องจากเป็นจุดตัดกับถนนวงแหวนรัชดาภิเษก  เมื่อเลี้ยวเข้ารัชดาภิเษกแล้วจึงสามารถมุ่งตรงเข้าสู่ใจกลางเมืองได้อย่างสะดวก  และในอนาคตตามแนวถนนพหลโยธินนี้ก็จะมีรถไฟฟ้า BTS สถานีรัชโยธินวิ่งผ่าน  นอกจากนี้ก็ยังมีแผนงานที่กำลังศึกษาแนวขยายเส้นทางของ monorail สายสีเหลือง จากสถานีลาดพร้าวมาจบที่แยกรัชโยธินนี้ด้วยครับ

In Brief : ถ้ายาวไปไม่ชอบอ่าน  อ่านสรุปสั้นๆ กันก่อนจ้าาาา… 

คอนโด Mazarine Ratchayothin นี้จัดเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ทาง GRAND UNITY หวังจะเอามาสร้างชื่อนะครับ  เพราะฉะนั้นหลายๆ อย่างในโครงการนี้จึงค่อนข้างจัดเต็มที่เดียว  และผมว่าทำเลโครงการนี้น่าจะเป็นทำเลคอนโดที่ prime ที่สุดตั้งแต่ GRAND UNITY ทำมาเลยทีเดียวครับ

• ด้านทำเลและการเข้าถึง  อยู่ตรงข้ามเมเจอร์ รัชโยธิน ติดถนนใหญ่ ติดบันไดรถไฟฟ้าที่เป็นสายหลักวิ่งเข้าเมืองได้เลยต่อเดียว  รวมทั้งยังขับรถเข้าออกถนนรัชดาภิเษกได้สะดวก  สรุปสั้นๆ ประมาณนี้คงพอนึกถึงความดีงามออกนะครับ  #ไม่พิมพ์เยอะเจ็บมือ

• สิ่งอำนวยความสะดวกรอบโครงการ   โดยภาพรวมก็จัดว่ามีความอุดมสมบูรณ์ครบถ้วนทีเดียวครับ  โครงการอยู่ตรงข้ามกับเมเจอร์ รัชโยธิน และอเวนิว รัชโยธิน ซึ่งนอกจากโรงหนังแล้วก็มีร้านอาหารต่างๆ ทั้งแบบร้านในห้างและแบบราคาย่อมเยาว์ซึ่งอยู่ในระยะเดินไปได้  นอกจากนั้นยังใกล้ธนาคารแบบ stand alone ที่เดินไปได้  ถ้าจะไปโรงพยาบาลก็ไป รพ.เปาโล เกษตร ซึ่งไม่ไกลนัก

• แปลนห้อง  อันนี้เป็นอีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจครับ  ผมว่าที่นี่แบ่งพื้นที่สเปซต่างๆ ของห้องออกมาได้ค่อนข้างดี  ผมชอบที่สุดก็เป็นแบบ 1 Bedroom Flexi ซึ่งเดี๋ยวจะเล่าขยายรายละเอียดต่อไปในตัวรีวิวให้อ่านกันครับ

• สาธารณูปโภคในโครงการ  ถือว่าครบถ้วนดีนะครับ  ให้สัดส่วนมาดี  มีที่จอดรถให้ 70% แม้ว่าตัวโครงการจะอยู่ติดรถไฟฟ้าเลยก็ตาม  เพราะระดับราคาแบบนี้ ถึงจะอยู่ใกล้รถไฟฟ้าแต่ก็มีรถยนต์ส่วนตัวไว้ใช้เองกันอยู่แล้วเกือบทั้งหมดแหละ

• วัสดุ  ให้มาแบบ Fully Furnished ผิวสัมผัสดี  ทำ Built-in บางชิ้นมาให้  ภายในห้องเป็นกระจกนิรภัยทั้งหมด  ได้หน้าต่างสูงแบบ Full Height ด้วย

——–>

เหมาะกับใคร ?? :

โครงการ Mazarine Ratchayothin  เหมาะกับคนที่ค่อนข้างมีความ stable ในชีวิตและหน้าที่การงานพอสมควรครับ  ด้วยทำเลแล้ว  ผมว่าคนกลุ่มที่เลือกโครงการนี้ก็ต้องการ exposure สูงมากทีเดียว  ไม่ได้เป็นกลุ่มคนวัยทำงานเริ่มต้นมาซื้อเองแน่ๆ  และแม้ว่าราคาโครงการจะจัดว่าสูงเลยแหละ  แต่เมื่อเทียบกับสิ่งที่ให้มาสำหรับคนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายจริงๆ  ก็สมเหตุสมผลอยู่พอสมควรครับ  การเดินทางจัดว่าสะดวกมากทีเดียว

ถ้าคิดจากราคาเริ่มต้น 4.21 ลบ. ต้องมีกำลังผ่อนรวมกู้ร่วมประมาณ 23,820 บาท** /เดือน หรือมีรายรวมผู้กู้ร่วมประมาณ 59,550 บาท**/เดือน ขึ้นไปครับ

**บนสมมติฐานการกู้ 90% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 30 ปี / กำลังผ่อนคิดเป็น 40% ของรายได้

**สามารถเลื่อนดูรายละเอียดกรอบค่าใช้จ่ายคร่าวๆ ได้ที่หัวข้อ “เปิดกระเป๋า ดูสตางค์” ด้านล่างสุดครับ

——–>

.
.
.
ทีนี้.. ถ้าสนใจ ก็ตามผมมาเจาะลึกรีวิวฉบับเต็มได้เลยครับ  เดี๋ยวจะค่อยๆ เล่าให้อ่านกัน

การเดินทาง

สำหรับการเดินทางไปยัง Mazarine Ratchayothin นี้ผมคงไม่ต้องเจาะลึกมากนะครับ  เพราะแค่บอกว่าอยู่ตรงข้าม เมเจอร์ รัชโยธิน เชื่อว่าหลายๆ คนคงจะไปกันถูกอยู่แล้ว  แถมตัวโครงการก็มีรายละเอียดน่าสนใจค่อนข้างมากด้วย  เลยขอข้ามตรงนี้ไปก่อนนะครับ

มาดูตำแหน่งรอบๆ ตัวคอนโดก่อนว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนกันบ้าง

ผมเล่าถึงภาพรวมของโซนนี้ให้อ่านก่อนละกันครับ  โซนรัชโยธินนี้ถือว่าเป็นพื้นที่ที่เป็นรอยต่อออกมาจากใจกลางเมือง  แต่ยังมีระดับของความเจริญและความคึกคักที่สูงมากอยู่  ถ้านับเป็นสถานีรถไฟฟ้าก็ถือว่าเลยจากหมอชิตมาแค่ 3 สถานีครับ  บนเส้นพหลโยธินช่วงนี้จะมีฮับใหญ่ๆ อยู่ 2 จุด  คือ ช่วงห้าแยกลาดพร้าวที่มีเซนทรัล ลาดพร้าว และช่วงรัชโยธิน ที่มีเมเจอร์ รัชโยธิน และสำนักงานใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB Park Plaza) รวมถึงตึกช้างเป็นแหล่งงานสำคัญ

พื้นที่โซนนี้จึงถูกใช้ประโยชน์ทั้งในแง่ของการเป็นที่อยู่อาศัย  แหล่งงาน (จากอาคารสำนักงานที่มีกระจายตัวอยู่พอสมควร)  รวมถึงมีความเป็นไลฟ์สไตล์พอตัวจากแหล่งช็อปปิ้ง กิน เที่ยว ต่างๆ  เรียกว่าโดยปัจจัยพื้นฐานของการอยู่อาศัยนั้นจัดว่าครบถ้วนตามสมควร แม้จะไม่ได้อยู่ใจกลางเมืองครับ

ทีนี้เราลองมาเจาะโฟกัสกันลงไปอีกในส่วนของทำเลแยกรัชโยธินครับ  อย่างที่เกริ่นไปตอนต้นรีวิวว่าการที่จากโครงการ Mazarine Ratchayothin  สามารถเข้าถึงถนนรัชดาภิเษกได้ง่ายนั้นเป็นจุดดีในเรื่องของการเดินทางเข้าเมืองโดยเฉพาะการขับรถยนต์ครับ  ด้านข้างของโครงการจะติดกับซอยพหลโยธิน 30  ซึ่งซอยนี้สามารถไปเชื่อมกับซอยพหลโยธิน 32 (ซอยเสนานิคม) และไปออกยังชุมชนแถวลาดพร้าว-วังหิน ได้ด้วยครับ

ส่วนฝั่งด้านข้างของ เมเจอร์ รัชโยธิน นั้นมีซอยพหลโยธิน 33 อยู่  ซึ่งซอยนี้จะไปเชื่อมกับรัชดาภิเษก 46  ถ้าสมมติว่าเดินทางมาโครงการจากทางวิภาวดีรังสิต  แล้วไม่อยากรถติดตรงแยกรัชโยธิน  ก็สามารถใช้ซอยนี้มาออกถนนพหลโยธินฝั่งตรงข้ามกับ Mazarine Ratchayothin  เลยก็ได้ครับ

ตอนนี้ตรงแยกรัชโยธินก็กำลังมีการขุดอุโมงค์ลอดใต้สี่แยกอยู่ด้วยนะครับ  คาดว่าน่าจะเปิดให้ใช้บริการกันได้ช่วงปลายปี 2561 นี้แหละ  สำหรับที่ดินของ Mazarine Ratchayothin นั้นเป็นตัว L ทำมุมป้าน  มีหน้ากว้างของที่ดินติดถนนใหญ่เยอะมากทีเดียว  ด้านทิศใต้นั้นจะติดคอนโด เซนทรัล รัชโยธิน ปาร์ค (หมายเลข 1)  เป็นคอนโดเก่าที่อยู่มานานแล้วครับ  ติดกันเป็นอพาร์ตเมนต์ชื่อ Highclass Mansion (หมายเลข 2)  ส่วนด้านทิศเหนือจะเป็นคอนโด low rise 7 ชั้นที่ปิดโครงการไปนานแล้ว (หมายเลข 3)  และก็มีอพาร์ทเมนท์ติดกันข้างเคียงชื่อ Greenhouse Mansion  (หมายเลข 4) ครับ

ออกมาดูบริเวณริมถนนใหญ่กันบ้าง  ฝั่งเดียวกับโครงการไปทางแยกรัชโยธินมีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาบางเขน (หมายเลข 6)  ใกล้ๆ กับร้านอาหารชื่อเสวนาพาเพลิน  (หมายเลข 5) ครับ  ถ้าย้อนขึ้นไปหน่อยจะมีธนาคารกสิกรไทย สาขาบางเขน (หมายเลข 7)  ที่อยู่หน้าคอนโดลุมพินี เพลส รัชโยธิน (หมายเลข 8) ครับ

สภาพแวดล้อมรอบคอนโด

ผมพาไปดูบรรยากาศรอบๆ ของ Mazarine Ratchayothin กันครับ ตามมาเลย

ถ้าเรายืนอยู่ในที่ดินของโครงการ  ด้านหน้าเราจะเห็นสถานีรถไฟฟ้ามาเกยอยู่แบบนี้เลย

บริเวณปากซอยพหลโยธิน 30 ติดกับหัวมุมที่ดินของโครงการครับ  ซอยนี้มีชื่อซอยด้วย เรียกว่าซอยอาลาดิน ^^

ตรงปากซอยพหลโยธิน 30 ก็มีเซเว่นอยู่นะครับ

ลองเดินเข้าไปในซอยหน่อย  แนวรั้วด้านขวามือที่เห็นคือที่ดินของ Mazarine Ratchayothin ทั้งหมดเลยครับ

มองย้อนกลับไปจะเห็นแนวรถไฟฟ้าผ่านด้านหน้าเลย

จากที่ตั้งโครงการ  มองไปเฉียงๆ จะเห็นลุมพินี เพลส รัชโยธิน ครับ  ซึ่งระยะและมุมมองก็ถือว่าห่างกันพอสมควร  ไม่ได้บังวิวอะไร

ทางทิศเหนือของโครงการจะมี low rise อยู่ 2 อาคาร  โครงการนี้เป็น Bangkok Felix รัชโยธิน  ที่ปิดโครงการไปนานแล้วครับ

ติดกันเป็น Greenhouse Mansion ซึ่งทั้ง 2 ตึกนี้ไม่มีผลกับมุมมองจากห้องของ Mazarine นะครับ   เพราะยูนิตพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 8 ไปแล้วครับ

แอบชะโงกดูในโครงการหน่อย  ตอนนี้ก็เริ่มก่อสร้างแล้วนะครับ เพราะว่าผ่าน EIA แล้ว  ยังไงก็สร้างชัวร์

ตึกสูงที่ใกล้กับโครงการมากที่สุดจะเป็นคอนโดชื่อ เซนทรัล รัชโยธิน ปาร์ค  ซึ่งจะมีผลกับมุมมองบางห้องนะครับ

เดี๋ยวพาเดินดูริมถนนพหลโยธิน ฝั่งเดียวกับที่ตั้งคอนโดครับ

ฝั่งนี้มีธนาคารแบบ stand alone อยู่ 2 แห่ง  ที่แรกคือธนาคารกสิกรไทย สาขาบางเขน  อยู่ด้านหน้าของ ลุมพินี เพลส รัชโยธิน ครับ

ส่วนทางฝั่งใกล้กับแยกรัชโยธิน จะเป็นธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาบางเขน ครับ

ร้านเสวนาพาเพลิน  เป็นร้านนั่งแบบนั่งชิลล์เปิดช่วงเย็นๆ ถึงเวลากลางคืน  เน้นคนวัยทำงานครับ

ถัดไปหน่อยเป็นร้านชาบู เปิดมาไม่นาน

มีคลินิกหมอฟัน

พวกร้านอาหารที่อยู่ตามตึกแถวก็มีครับ

ขอเดินข้ามถนนมาฝั่งเมเจอร์ รัชโยธิน กันบ้าง ตอนนี้กำลังสร้างรถไฟฟ้าอยู่  การข้ามถนนยังไม่สะดวกนัก  ยังไงต้องระมัดระวังกันด้วยนะครับ

ด้านหน้าเมเจอร์ รัชโยธิน ครับ

ซอยด้านข้างเมเจอร์ คือ ซอยพหลโยธิน 33 ซึ่งจะเชื่อมกับรัชดาภิเษก 46 ได้ด้วย  ถ้าสมมติจะมาโครงการจากทางวิภาวดี แล้วไม่อยากรถติดตรงแยกรัชโยธิน  ก็ใช้ซอยนี้เป็นทางลัดได้ครับ

ในเมเจอร์ก็ถือว่าสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันนะครับ

พื้นที่ลานด้านข้างเมเจอร์ ก็จะแบ่งเป็นพื้นที่ให้เช่าเปิดร้านค้าต่างๆ  หมุนเวียนเปลี่ยนรูปแบบกันไปเรื่อยๆ มาหลายปีแล้วครับ  ตอนนี้ทำเป็นตลาดนัดรัชโยธิน

มีโซน Street Food ขายอาหารทั่วไปราคาไม่แพงมาก

มีข้าวผัดปูเมืองทองด้วย  น่าจะย้ายมาจากตรงแยกเกษตรหลังจากขายที่ดินให้ดีเวลลอปเปอร์เจ้าหนึ่งไปทำคอนโดเรียบร้อย

พื้นที่อีกฝั่งของทางเมเจอร์ก็จะเป็น Avenue Ratchayothin ที่มีร้านอาหารต่างๆ ให้เลือกเยอะมาก  ทั้งหมดอยู่ในระยะที่เดินมาจาก Mazarine Ratchayothin ได้แบบสบายๆ เลย

ตรงใต้อาคารจอดรถของเมเจอร์ รัชโยธิน มี Villa Market ด้วย  สามารถเดินมาหาซื้อของกินของใช้เข้าคอนโดได้สะดวกครับ

เริ่มเปิดประตู ไปดูในโครงการ 

หลังจากวนสำรวจพื้นที่รอบๆ ของ Mazarine Ratchayothin มาแล้ว  เดี๋ยวเราเข้าไปดูในสำนักงานขายกันต่อครับ  ดีไซน์นั้นโดดเด่นรับมุมมองจากริมถนนดีทีเดียว

ชอบสเปซตรงนี้  แบบไม่มีเหตุผล 😛

ภายในสำนักงานขายก็เป็น Double Space ตกแต่งด้วยโทนสีขาว-ดำ เป็นหลัก  ซึ่งก็จะเป็น mood & tone เดียวกับโครงการครับ

มีห้องตัวอย่าง 3 ห้องครับ แบบสตูดิโอจะอยู่ชั้นล่าง  ส่วน 1 bedroom กับ 1 bedroom flexi จะอยู่ที่ชั้น 2 นะ

ส่องโมเดล

เรามาลองดูโมเดลของตัวคอนโด  เพื่อให้เข้าใจรูปทรงของตัวอาคารได้ดียิ่งขึ้นครับ  ด้านล่างจะเป็นส่วนของโพเดียมที่จอดรถ  ส่วนตั้งแต่ชั้น 8 ขึ้นไปเป็นชั้นพักอาศัย

ความแปลกของที่นี่คือระยะถอยร่นอาคารที่เป็นสเต็ปจะอยู่ด้านหลังนะครับ (มีติดถนนสาธารณะเล็กๆ อยู่ด้วย)  ส่วนด้านหน้าที่ติดถนนพหลโยธินนั้นถอยร่นเข้าไปเยอะ  จนสามารถสร้างแนวอาคารสูงตรงขึ้นไปได้เลย

อันนี้เป็นมุมที่ถ่ายจากฝั่งซอยพหลโยธิน 30 ครับ  ผมว่าถ้ามองจากคอนโดลุมพินี เพลส รัชโยธิน จะเห็นมุมประมาณนี้

มาส่องมุมทางเข้ากันบ้างครับ  พยายามถ่ายหลบมุมสะท้อนของกระจกให้มากที่สุดแล้ว ><

อาคารสีขาวทางขวามือก็คือสำนักงานขายในปัจจุบันนี่แหละครับ  โดยเมื่อเสร็จโครงการแล้วจะปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่ยูนิตเพื่อการพาณิชย์  อาจจะเป็นร้านค้าหรืออะไรยังไม่รู้  บริเวณนี้คนนอกจะยังเข้ามาใช้งานได้  แต่ว่าก็จะมีทางกั้นสำหรับ security ภายในโครงการอยู่ไม่ให้มาปะปนกัน

ทางเดินเข้าโครงการสำหรับคนที่มาจาก BTS  ไม่ได้ขับรถมาครับ

ด้านล่างส่วนที่เป็นโพเดียมคอนโด  จะ decoration ที่ผนังภายนอก  ทำให้ตัวอาคารโดยรวมออกมาดูดีครับ

สวนบริเวณชั้น 8

สวนบริเวณชั้น 22 ด้านหลังครับ

สระว่ายน้ำบริเวณชั้น 36 ของโครงการ  เป็นสระรูปตัว C มีทั้งส่วนที่อยู่ภายใต้อาคารและส่วนที่ยื่นออกมาด้านนอก  เวลาแดดร้อนกลางวันก็ยังว่ายน้ำได้อยู่

บันไดภายนอกที่สามารถเดินเชื่อมชั้น facilities ต่างๆ ได้  รวมถึงขึ้นไป service งานระบบอาคารด้านบนครับ

เปิดผังคอนโด Typical Floor Plan

เรามาดูที่แปลนกันดีกว่าครับ  ในรูปนี้มีตำแหน่งบันไดของ BTS รัชโยธิน ที่มาลงตรงหน้าโครงการเลยด้วย  เรียกว่าลงปุ๊บก็เดินเข้าคอนโดได้เลย  ด้านหน้าอีกฝั่งจะเป็นส่วนของร้านค้าที่ติดถนนใหญ่  โดยจะมีทางเดินเข้ามาตรงสวนด้านข้างครับ  สำหรับคนที่ขับรถมาจะต้องวนรถทางเดียว  เข้าที่จอด Automatic Parking ที่อยู่บนอาคาร  โดยที่นี่มีให้ 4 ช่อง  ซึ่งก็คงจะช่วยร่นระยะเวลาที่ต้องรอคิวรถยนต์เวลาเร่งด่วนได้พอสมควรแหละ

ห้องพักของคอนโดนี้จะเริ่มที่ชั้น 8 นะครับ  จัดว่าสูงมากทีเดียว  อย่างน้อยก็น่าจะเริ่มเห็นวิวเคลียร์ๆ หน่อย  ที่ชั้นนี้จะมีส่วนของสวนส่วนกลางเหนือโพเดียมที่จอดรถด้วย

ชั้น Typical Floor Plan จะเป็นในชั้น 9-19 ครับ  แปลนจะเป็นเหมือนกันหมดเลย  จะแอบสังเกตว่าตรงปลายอาคารด้านหลังนั้นจะถอยร่นเข้าไปหน่อย  เพราะตำแหน่งนี้จะมีอาคารข้างเคียงอยู่  อย่างน้อยก็เซตระยะเข้ามาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ

ชั้น 22 ส่วนที่พักอาศัยจะเหลือเฉพาะด้านหน้าครับ   ชั้นสูงนี้จะค่อนข้าง private กว่า ยูนิตไม่เยอะครับ

พื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งานเป็นอย่างไร

พื้นที่ส่วนกลางหลักของ Mazarine Ratchayothin จะอยู่ที่ชั้น 36-37 นะครับ  เรียกว่าจับมาไว้ชั้นบนเพื่อขายวิวด้วย  ด้านฝั่งที่ติดถนนใหญ่จะเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 13.10 x 18 เมตร ลึก 1.2 เมตรครับ  แล้วมีสระเด็กลึก 30 ซม. อยู่ด้านข้างครับ  มีห้อง Stream room และ Sauna room แยกทั้งชายและหญิงเลย

สำหรับชั้น 37 จะห้องส่วนกลางหลายห้องทีเดียวครับ  มีทั้ง Party room, Sky Lounge, Exclusive Foyer & Bar แล้วก็มีฟิตเนส ที่มีห้องส่วนตัวแยก  ถ้าจะจัดคลาสอะไรส่วนตัวก็สามารถทำได้  นอกจากนั้นก็มี Kids room,  Laundry และที่เก๋น่าจะถูกใจสาวๆ ก็คือ Private Salon  ครับ  สมมติเวลาจะไปงานที่ต้องแต่งหน้าทำผมจัดเต็ม  แล้วเรียกช่างมาที่คอนโด  ก็สามารถมาใช้ห้องนี้ได้ ไม่ต้องให้เข้าไปในห้องส่วนตัวของเรา

สำหรับสัดส่วนของการใช้งานลิฟต์นั้น  ที่โครงการมีทั้งหมด 474 ยูนิต มีลิฟต์โดยสาร 3 ตัว  เฉลี่ยออกมาก็ได้ 158 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว  สัดส่วนถือว่าไม่หนาแน่นมากครับ  เช่นเดียวกับที่จอดรถ  ที่มีรวมทั้งหมด 70%  ก็จัดว่าดีงามทีเดียว  จะได้ไม่ต้องมีปัญหาเรื่องที่จอดรถไม่พอกัน

แปลนห้องดีไหม?

สำหรับ Mazarine รัชโยธิน นั้นมีแปลนค่อนข้างหลากหลายครับ  ขนาดห้องต่างๆ นั้นแตกต่างกันอย่างมีนัยยะสำคัญสำหรับความต้องการแต่ละแบบ  ผมเลือกหยิบมาให้ดูในรีวิวกัน 3 แบบ  ซึ่งเป็นแบบที่โครงการเอามาทำห้องตัวอย่างให้ชมกันด้วย

• Studio 24.00-25.50 ตร.ม.
• 1 Bedroom Type A, B ขนาด 32.50 – 33.00 ตร.ม.
• 1 Bedroom Flexi ขนาด 41.50 – 43.00 ตร.ม.
• 1 Bedroom Plus Corner Type A ขนาด 39.00 ตร.ม.
• 1 Bedroom Corner Type A ขนาด 39.50 ตร.ม.
• 1 Bedroom Plus Corner Type B ขนาด 48.00 ตร.ม.
• 1 Bedroom Corner Type B ขนาด 43.00 ตร.ม.
• 2 Bedroom Corner ขนาด 48.00 ตร.ม.

• Studio ขนาด 24.5 ตร.ม.

ห้องนี้เป็นสตูดิโอขนาดกระทัดรัดครับ  ฟังก์ชันของส่วนที่นอน, นั่งเล่นพักผ่อน รวมถึงตู้เสื้อผ้าอยู่รวมกัน  แต่มีจุดเด่นคือด้านหน้าตรงทางเข้านั้นกั้นส่วน pantry ครัว รวมถึงห้องน้ำแยกเอาไว้เป็นสัดส่วน  ซึ่งจะช่วยให้ยังสามารถทำอาหารแบบที่มีกลิ่นนิดหน่อยได้อยู่โดยที่กลิ่นยังไม่ได้ไปรบกวนส่วนนอนมากนักครับ  และพื้นส่วนของ pantry ก็ปูด้วยกระเบื้องที่ช่วยให้สามารถทำความสะอาดได้ง่ายเวลาเลอะไอน้ำมันหรือคราบต่างๆ ครับ  พื้นที่ตรงระเบียงนั้นมีนิดหน่อย  พอจะตากผ้าได้อยู่  อาจจะใช้ราวตากผ้าติดผนังแบบที่พับได้  ก็จะช่วยประหยัดพื้นที่ในการใช้งานได้ดีขึ้น  โดยภาพรวมก็ถือว่าเป็นการจัดพื้นที่ขนาดเล็กได้ดีพอสมควรครับ

.

• 1 Bedroom ขนาด 32.5 ตร.ม.

ในภาพรวมของห้องแบบนี้ก็ถือว่าจัดเป็นสัดส่วนได้ดีทีเดียวครับ  แยกพังก์ชันการใช้งานแต่ละส่วนได้ดี  และมีการเชื่อมสเปซถึงกัน  โดยส่วนของ pantry ครัว นั้นกั้นแยกออกมาเหมือนกับแบบสตูดิโอ  ถ้าจะทำอาหารก็ปิดประตูบานเลื่อนไว้เพื่อไม่ให้กลิ่นออกมารบกวนพื้นที่ส่วนอื่นๆ ครับ  สเปซในส่วนของพื้นที่นั่งเล่นและห้องนอนกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน  สามารถเปิดสเปซเชื่อมถึงกันได้เวลากลางวัน  ส่วนเวลานอนถ้าอยากประหยัดแอร์ก็เลื่อนปิดประตูกระจก แล้วเปิดแอร์แยกกันได้ครับ

พื้นที่บริเวณหน้าห้องน้ำสามารถทำ walk-in closet ได้ด้วย  และมีทางออกไประเบียงที่มีขนาดใหญ่พอสมควรครับ  ในภาพรวมของการจัดแปลนถือว่าทำได้ดีเช่นกัน

.

• 1 Bedroom Flexi  ขนาด 41.5 ตร.ม.

โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่าแปลนนี้คือ highlight สำคัญทีเดียว  ผมชอบแปลนนี้นะครับ สามารถใช้พื้นที่ได้คุ้มดี  และก็วางตำแหน่งการเชื่อมต่อของฟังก์ชันต่างๆ ได้ดี  ส่วนของ pantry นั้นเป็นครัวเปิด  ที่อยู่ในสเปซเดียวกับส่วนพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อน  ซึ่งนอกจากตรงนี้แล้วก็ยังมีห้องอเนกประสงค์ที่อยู่ติดกับหน้าต่าง  ตรงนี้จะทำเป็นห้องนอนเล็ก  หรือจะเป็นห้องทำงานแยก  หรือห้องนั่งเล่นอีกสักห้องที่ไม่ปะปนกันก็ได้  คือ ถ้าสมมติอยากทำเป็นส่วนนั่งเล่น  เราก็จะมี option ทั้งอยู่ภายในติดกับ pantry และส่วนที่ติดหน้าต่างภายนอกครับ

ซึ่งส่วนที่เป็นห้องอเนกประสงค์นั้นสามารถเปิดประตูบานเลื่อนไปเก็บไว้ตรงผนัง  ทำให้สเปซห้องสามารถเปิดเชื่อมกันได้กว้างมาก  นอกจากนี้จุดที่ดีมากอย่างหนึ่งของแปลนนี้คือ เราสามารถเข้าห้องน้ำได้จากทั้งตรงส่วน pantry และผ่าน walk-in closet ในห้องนอน  เวลาตื่นมาเข้าห้องน้ำตอนดึกก็ไม่ต้องเดินออกมาข้างนอก  ส่วนเวลาแขกมาก็ไม่ต้องเดินผ่านเตียงเราเพื่อไปเข้าห้องน้ำครับ  เรียกว่าสเปซค่อนข้างมีความยืดหยุ่นในการใช้งานแต่ละช่วงเวลามากทีเดียวแหละ

เปิดห้อง มองสเปซ : Focus on “SPACE” and “DIMENSION”

ห้องตัวอย่างของ แมสซารีน รัชโยธิน มี 3 แบบ อย่างที่เล่าไปเบื้องต้นครับ  ทั้ง studio, 1 bedroom และ 1 bedroom flexi  ซึ่งทั้ง 3 แบบนั้นมีความแตกต่างกันเรื่องของฟังก์ชั่นการใช้งานอย่างชัดเจน  ก็ต้องแล้วแต่ว่าใครชอบแบบไหนมากกว่ากันครับ

สำหรับห้องที่ได้มานั้นเป็นแบบ Fully Furnished ฝ้าเพดานภายในส่วนของพื้นที่นั่งเล่น, ห้องนอน จะสูง 3 เมตร  ส่วนของ pantry ครัวสูง 2.6 เมตร  และส่วนของห้องน้ำสูง 2.4 เมตร เนื่องจากต้องมีพื้นที่บางส่วนสำหรับงานระบบท่อและระบบประปาครับ  แล้วก็ห้องน้ำที่นี่เป็นห้องน้ำแบบสำเร็จรูป  ซึ่งเอาจริงๆ พอติด finishing เข้าไปแล้วก็แทบดูไม่ออกครับ  แบบนี้ทางโครงการเค้าเคลมว่าเรื่องปัญหาการรั่วซึมจะน้อยกว่าห้องน้ำที่ก่อสร้างแบบปกติ  เพราะว่าสามารถคุม quality มาจากโรงงานได้เลย  ไม่ต้องขึ้นอยู่กับคุณภาพของช่างที่ก่อสร้างในส่วนนั้นๆ ครับ

ตามผมไปรีวิวห้องตัวอย่างกันดีกว่า ^^

ห้องตัวอย่างคอนโด Mazarine รัชโยธิน

แบบสตูดิโอ ขนาด 24 ตารางเมตร

เปิดเข้าห้องมาเลยครับ  ส่วนแรกที่เราเจอจะเป็น pantry ซึ่งขนาดพื้นที่ตรงนี้จัดว่าใช้งานได้จริงนะครับ  เคาน์เตอร์เป็นตัว I ยาวติดผนัง  ความกว้างของสเปซตรงนี้พอจะตั้งโต๊ะรับประทานอาหารเล็กๆ เพิ่มก็ยังได้  หรือไม่อาจจะลอง Built-in ตู้เก็บของต่างๆ ก็จะดีครับ  เพราะว่าจะได้มีพื้นที่เก็บของจิปาถะให้เป็นระเบียบเรียบร้อย  ไม่ไปรกอยู่ในส่วนของที่นอนและที่นั่งเล่นพักผ่อน

เวลาจะทำอาหารก็เลื่อนประตูกระจกปิดแบบนี้ครับ  ฮูดที่นี่จะเป็นระบบหมุนเวียน  อาจจะไม่ได้ระบายอากาศดีมากนัก  แต่การมีประตูกั้นก็ช่วยเรื่องการสกรีนกลิ่นได้อยู่พอสมควร  ปกติแล้วคอนโด 24 ตารางเมตร ที่อื่นมักจะให้สัดส่วนพื้นที่ครัวที่เล็กกว่านี้มากทีเดียว

มองกลับไปตรงทางเข้าครับ

ในห้องน้ำ แม้จะเป็นแบบสำเร็จรูป  แต่ก็ปูกระเบื้องแกรนิตโต้  ติดกระจกบานใหญ่  ทำ finishing materials ออกมาได้ดูดีมากทีเดียว  ไม่ได้รู้สึกถึงความก๊องแก๊งของห้องน้ำสำเร็จรูปแบบที่หลายๆ โครงการทำมา

ส่วนอาบน้ำติดกระจกนิรภัยเทมเปอร์มาให้ครับ  ส่วนของห้องน้ำได้ฝ้าไม่สูงมาก (2.4 เมตร) แต่ก็ไม่ได้อึดอัดเพราะว่ามีกระจกเงาบานใหญ่ช่วยให้ดูกว้างขึ้นครับ

เรามาปิดท้ายกันด้วยสเปซส่วนอยู่อาศัยเป็นหลัก  สามารถวางเตียง 5 ฟุต ได้  และส่วนของโซฟานั้นวางไว้ริมหน้าต่าง  ซึ่งแม้สเปซจะไม่ได้ใหญ่มาก  แต่ด้วยความที่ฝ้าเพดานสูงถึง 3 เมตร และให้กระจกบานใหญ่เกือบจะ Full Height ก็ทำให้ห้องไม่ได้ดูแคบมากครับ  ค่อนข้างโปร่งทีเดียว

มุมมองจากส่วนของโซฟานั่งเล่นพักผ่อน  ถ้าจะดูทีวีจากตรงโซฟาก็ต้องมองเฉียงๆ หน่อยนะครับ

ปิดท้ายกันที่มุมนี้ครับ  จะเห็นว่าประตูที่ออกไปตรงระเบียงกระจกที่รับแสงธรรมชาติเข้ามาตรงส่วนนั่งเล่นนั้นบานใหญ่ดีทีเดียว  ช่วยให้ห้องดูโปร่งและไม่ทึบตันครับ

.

ห้องตัวอย่างคอนโด Mazarine รัชโยธิน

แบบ 1 Bedroom ขนาด 32.5 ตารางเมตร

เข้ามาในห้องกันเลยครับ  จะเห็นว่าสเปซส่วน pantry นี้ขนาดจะค่อนข้างใกล้เคียงกับแบบ Studio เลย  เป็นไซส์ที่ใช้งานได้จริงอยู่ครับ

เข้ามาด้านใน  จะเป็นส่วนของห้องนั่งเล่น  ทางซ้ายเป็นห้องนอน  กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกนิรภัย

สเปซภายในห้องนอนก็วางเตียง 5 ฟุต แล้วยังเหลือพื้นที่รอบๆ พอสมควรไม่อึดอัดครับ  แต่ถ้าใครชอบเตียงใหญ่ๆ จะวางเตียง 6 ฟุต ก็ยังใส่ได้นะครับ  เพียงแต่จะเหลือที่ข้างเตียงน้อยหน่อย

มองย้อนกลับไปตรงห้องนั่งเล่น  จริงๆ ถ้าใครชอบนอนดูทีวีจากบนเตียง  อาจจะสลับตำแหน่งโซฟามาวางไว้ปลายเตียงก็ได้ครับ  แล้วเอาโต๊ะรับประทานอาหารไปไว้ริมหน้าต่างได้อยู่

มุมนี้มองออกมาจากตรงทางเข้าห้องน้ำ

ภายในห้องน้ำติดกระจกเงาบานใหญ่ช่วยให้ดูกว้างขึ้น

มุมส่วนอาบน้ำครับ  พื้นที่ห้องน้ำของแบบ 1 ห้องนอน กับแบบสตูดิโอนั้นจะเท่ากันเลย

.

ห้องตัวอย่างคอนโด Mazarine รัชโยธิน

แบบ 1 Bedroom Flexi ขนาด 41.5 ตารางเมตร

มาถึงแบบสุดท้าย คือ 1 Bedroom Flexi ครับ ห้องแบบนี้หลายที่ก็เรียกว่า 1 Bedroom Plus ซึ่งคอนเซ็ปต์นั้นก็คล้ายๆ กัน  คือ นอกจากห้องนอนหลักแล้วก็ยังมีห้องอเนกประสงค์ที่สามารถดัดแปลงฟังก์ชันต่างๆ ได้

สเปซรวมๆ ก็ถือว่าจัดออกมาได้ค่อนข้างยืดหยุ่นทีเดียวครับ

ห้องแบบนี้จะได้ pantry ครัวเปิด  พื้นที่ใช้งานเยอะมาก  แต่อาจจะไม่เหมาะกับทำอาหารหนักๆ เท่าไหร่นักครับ

จะเห็นว่าส่วนของห้องอเนกประสงค์นั้นกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกนิรภัยแบบเต็มบาน  ทำให้ยังมีแสงเข้ามาถึงพื้นที่ด้านในห้องได้อยู่ครับ

เข้ามาดูในส่วนของห้องอเนกประสงค์กันครับ บานเลื่อนที่กั้นห้องในส่วนนี้จะเป็นบานทึบ  สามารถเลื่อนไปเก็บตรงผนังได้ไม่เกะกะเลย  การใช้บานทึบนั้นข้อดีคือสามารถแบ่งห้องอเนกประสงค์เป็นห้องนอนอีกห้องได้เลย  โดยที่ไม่รบกวนความเป็นส่วนตัวของกันและกันด้วย

มุมนี้มองไปยังส่วนห้องนอนครับ  ด้านข้างจะมีทางเดินที่ทำเป็น walk-in closet ได้ด้วย  ห้องนี้เหมาะกับวางเตียง Queen size นะครับ  ถ้าว่า King size ผมว่าจะแน่นไป

ถ้าเรานอนดูทีวีบนเตียง  ก็จะเห็นมุมประมาณนี้แหละ

ไปดูทางเข้าห้องน้ำกัน

ด้านหนึ่งจะทำเป็น walk-in closet ได้ยาวพอสมควร  น่าจะถูกใจสาวๆ ที่มีเสื้อผ้าเยอะนะครับ

ปิดท้ายกันด้วยภาพรวมภายในห้องครับ  โดยภาพรวมก็จัดเป็นสัดส่วนดีนะ  ห้อง type นี้จะสามารถเข้าห้องน้ำได้เลยจากสเปซส่วนกลางด้วย  เวลาแขกมาก็ไม่ต้องเดินผ่านห้องนอนเข้าไปครับ  แต่รูปห้องน้ำไม่ได้ถ่ายมาให้ดูนะครับ  ขนาดและวัสดุเหมือนกันกับห้องสตูดิโอ และแบบ 1 ห้องนอน ที่ถ่ายให้ดูกันไปแล้วนั่นแหละ

หน้าตาของ pantry ครัวแบบ studio และ 1 bedroom ครับ  ขนาดเท่ากันเลย

ภายในก็ถือว่าเก็บของได้มากพอสมควร

Pantry แบบของ 1 bedroom flexi ครับ  จะได้ส่วนของ kitchen island ที่เป็นที่นั่งรับประทานอาหารมาด้วย

ลิ้นชัก Soft closed

ส่วนของ island ที่ยื่นออกมา top หน้าเป็นหินสังเคราะห์เช่นเดียวกันครับ

ห้องน้ำกรุกระเบื้องแกรนิตโต้แผ่นใหญ่ ลายหินอ่อน  ดูดีทีเดียว  กระจกเงาให้บานใหญ่ซึ่งสามารถช่วยให้ห้องน้ำดูกว้างขึ้นได้  แม้ในส่วนนี้ฝ้าเพดานจะสูงแค่ 2.4 เมตร

ภาพรวมในห้องน้ำก็จะเป็น mood & tone แบบนี้ทุกห้อง

ชุดฝักบัว  มีเจาะช่องวางของให้ด้านข้าง  ก็อกน้ำที่นี่จะเดินระบบท่อน้ำร้อนน้ำเย็นไว้ให้เรียบร้อยเลย

หน้าตาฝักบัวครับ

เซตของอ่างแขวนผนัง  มีตู้ด้านล่างเก็บความเรียบร้อยให้  เอาไว้เก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดห้องน้ำได้ด้วย

เปิดให้ดูสักหน่อย  จริงๆ ด้านล่างนี้จะเตรียมระบบทำน้ำร้อนไว้ให้นะครับ (ในห้องตัวอย่างยังไม่ได้ทำไว้)

ด้านในจะเอาไว้เก็บของใช้ต่างๆ หรือจะเป็นตู้รองเท้าก็ได้  ชั้นที่เห็นสามารถปรับขึ้นลงได้ตามใจเลยนะครับ

พื้นที่ส่วนของ pantry จะเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ 60×60 ซม.  ตรงนี้ก็ช่วยให้ทำความสะอาดง่ายขึ้นเวลาทำอาหารแล้วมีคราบสกปรกต่างๆ เลอะเทอะ

ตรงประตูบานเลื่อนฝังรางไว้ที่พื้น  เดินไม่สะดุดนะ

แอบเห็นดีเทลเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ สังเกตว่าตรงขอบมีการปาดมุมไว้  ทำให้เวลาเดินเหยียบนั้นสมูท แล้วก็ไม่เจ็บเท้าครับ

แอร์ฝังฝ้าให้ทุกห้อง  โดยตัวเครื่องจะวางไว้ตำแหน่งตรง pantry เป็นหลักครับ  ฝ้าเพดานตรง pantry เลยต้องดร็อปลงมาหน่อย

ส่วนของระเบียงมีกริลอะลูมิเนียมกั้นให้เป็น private balcony

บานกรอบอะลูมิเนียมทำผิวพ่นทราย  ให้สัมผัสที่ดีและดูแพงครับ

มีบานกระทุ้งสามารถเปิดระบายอากาศได้

ตู้เสื้อผ้า built-in มาให้เรียบร้อย  หน้าบานเป็นกระจกสีชาดำ  ดูดีเลยแหละ

ภาพในแบ่งลิ้นชักและช่องต่างๆ เอาไว้ให้ได้หลากหลายพอสมควร

สวิตซ์ไฟของ Schneider  ครับ  อ่อ.. ที่นี่ไม่มีวอลลเปเปอร์นะครับ  ได้ผนังฉาบเรียบมา

 เปิดกระเป๋า  ดูสตางค์

ราคาเฉลี่ยพรีเซลล์ช่วงเปิดโครงการ Mazarine Ratchayothin (กันยายน 2561) อยู่ที่ประมาณ 170,000 บาท/ตารางเมตร ครับ ราคาเริ่มต้นของแบบ studio อยู่ที่ 4.21 ล้านบาท ส่วน 1 bedroom เริ่มที่ 5.8 ล้านบาทครับ  ส่วนของแบบ 2 ห้องนอนจะเริ่มที่ 8.73 ล้านบาท

ราคา ณ วันที่  15 กันยายน 2561

ราคาเริ่มต้น :

แบบ Studio 24 ตารางเมตร  เริ่มต้น 4.21 ล้านบาท เฉลี่ยเริ่มต้น 175,xxx บาท/ตารางเมตร

แบบ 1 Bedroom 32.5 ตารางเมตร  เริ่มต้น 5.8 ล้านบาท เฉลี่ยเริ่มต้น 178,xxx บาท/ตารางเมตร

แบบ 2 Bedroom 48 ตารางเมตร  เริ่มต้น 8.73 ล้านบาท เฉลี่ยเริ่มต้น 181,xxx บาท/ตารางเมตร

เงื่อนไขการจอง :

• เงินจอง

n/a

• ผ่อนดาวน์

n/a

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :

ค่าส่วนกลาง 70 บาท/ตร.ม.  (ชำระล่วงหน้า 1 ปี)
ค่ากองทุนเริ่มแรก (Sinking Fund) 500 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)

ประมาณอัตราการผ่อน (คิดจากราคาเริ่มต้นด้านบน) 

(เพื่อให้เห็นกรอบของค่าใช้จ่ายคร่าวๆและนำไปวางแผนประมาณการของแต่ละคน  ถึงไม่ได้ซื้อห้องที่ยกมาเป็นตัวอย่างก็ใช้ตัวเลขได้ ซึ่งผมประมาณการอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าปกติหน่อย  เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรองรับความสามาารถในการผ่อน  รวมถึงให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆที่เกิดขึ้น  เช่น  ค่าส่วนกลาง ไปด้วยในตัว) :

บนสมมติฐาน กู้  90% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 30 ปี

Studio ขนาด 24 ตร.ม. ราคา 4.21 ล้านบาท  —  ผ่อนประมาณ 23,820 บาท/เดือน
1 Bedroom ขนาด 32.5 ตร.ม. ราคา 5.8 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ  32,816 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  90% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 25 ปี

Studio ขนาด 24 ตร.ม. ราคา 4.21 ล้านบาท  —  ผ่อนประมาณ 25,445 บาท/เดือน
1 Bedroom ขนาด 32.5 ตร.ม. ราคา 5.8 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ 35,055 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  90% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 20 ปี

Studio ขนาด 24 ตร.ม. ราคา 4.21 ล้านบาท  —  ผ่อนประมาณ 28,097 บาท/เดือน
1 Bedroom ขนาด 32.5 ตร.ม. ราคา 5.8 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ  38,709 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  90% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 15 ปี

Studio ขนาด 24 ตร.ม. ราคา 4.21 ล้านบาท  —  ผ่อนประมาณ 32,828 บาท/เดือน
1 Bedroom ขนาด 32.5 ตร.ม. ราคา 5.8 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ  45,226 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  90% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี/ ระยะเวลา 10 ปี

Studio ขนาด 24 ตร.ม. ราคา 4.21 ล้านบาท  —  ผ่อนประมาณ 42,791 บาท/เดือน
1 Bedroom ขนาด 32.5 ตร.ม. ราคา 5.8 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ  58,952 บาท/เดือน

Overview Summary

ด้านการเดินทาง

บริเวณแยกรัชโยธินที่ Mazarine Ratchayothin ตั้งอยู่นั้นเป็นจุดที่เดินทางได้ค่อนข้างสะดวกมากครับ  เพราะว่าเป็นจุดตัดกับถนนวงแหวนรัชดาภิเษก  สามารถเข้าเมืองทางอโศกได้  หรือว่าจะออกไปทางวิภาวดีรังสิตก็ได้ครับ  เรียกว่าแม้จะไม่ได้อยู่กลางเมืองแต่ก็เชื่อมต่อออกไปถนนเส้นหลักได้หลายทิศทาง  นอกจากนี้ในอนาคตสิ่งที่เป็นมูลค่ามากๆ สำหรับการเดินทางก็คือรถไฟฟ้าที่กำลังก่อสร้างอยู่นั่นเองครับ  เพราะรถไฟฟ้าสายสีเขียวนี้เป็นสายที่ยิงยาวเข้าเมืองได้โดยตรงแบบไม่ต้องเปลี่ยนขบวนรถด้วย  ซึ่งกำหนดสร้างเสร็จของรถไฟฟ้าก็เป็นช่วงไล่เลี่ยกับที่คอนโดสร้างเสร็จ  เรียกว่าไม่ต้องรอกันนานครับ

ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต

เดิมทีพื้นที่โซนรัชโยธินก็มีคอนโดขึ้นกันมานานพอควรแล้วครับ  ไม่ใช่โซนใหม่ของตลาดคอนโดแต่อย่างใด  แต่สิ่งที่ทำให้ช่วง 2 ปีหลังมานี้ทำเลนี้กลายเป็นโซนที่น่าสนใจมากขึ้นอย่งมีนัยยะสำคัญก็เพราะรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายนั่นเอง  ราคาคอนโดมิเนียมโซนนี้ก้าวกระโดดอย่างรวดเร็วมาก  ถ้าเป็นโครงการที่ติดถนนใหญ่ มี exposure ดีๆ ก็มักจะเป็น High rise ที่ราคาจะสูงหน่อย  ส่วนโครงการที่อยู่ในซอยย่อยๆ ก็มักจะเป็น low rise ที่ราคาย่อมเยาว์ลงมาตามกำลังซื้อครับ

อนาคตโซนนี้ก็คงเติบโตขึ้นอีกพอสมควรเมื่อเทียบกับพื้นที่ชานเมืองรอบข้างอื่นๆ ครับ  ยิ่งมีศูนย์การค้าใหญ่ๆ รวมถึงแหล่งบันเทิงอย่างเมเจอร์ รัชโยธิน, เซ็นทรัล ลาดพร้าว  ก็น่าจะทำให้โซนนี้คึกคักไปอีกนานทีเดียว

ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ

ตัวคอนโด Mazarine Ratchayothin นั้นจัดเป็นโครงการที่น่าจะมี exposure ที่ดีมากครับ  เพราะว่าอยู่ติดกับถนนใหญ่เลย  แต่ยังมีระยะถอยร่นเข้าไปพอสมควร  ตัวคอนโดออกแบบมาในแนวโมเดิร์น ใช้เส้นสายตรงไปตรงมา เน้นให้ตัวอาคารเป็นสีเทาเข้ม-ขาว  จะได้ลุคแบบขรึมๆ เท่ๆ หน่อย  ข้อจำกัดของที่ดินนี้อย่างหนึ่งก็คือด้านทิศใต้จะติดกับคอนโดด้านข้างครับ  บางตำแหน่งอาจจะเห็นวิวไม่โล่ง  ซึ่งโครงการวางตำแหน่งห้อง studio เอาไว้ฝั่งนี้ครับ  ส่วนมุมอื่นส่วนใหญ่ก็จะโล่งๆ ไม่ได้โดนบังวิวอะไร

แปลนห้องที่นี่ทำมาหลายขนาด  ทั้งแบบ studio, 1 bedroom, 1 bedroom flexi และ 2 bedroom ครับ การวางแปลนนั้นค่อนข้างให้ความสำคัญกับส่วนเตรียมอาหารมากทีเดียว  แม้ขนาดห้องเล็กสุดพื้นที่ก็ไม่ได้ถูกบีบมาก  และยังเพียงพอต่อการใช้งาน ภาพรวมของแปลนไม่ค่อยมีจุดติอะไรใหญ่ๆ ครับ  ถือว่าจัดออกมาได้โอเคดีทีเดียว  มีการเชื่อมต่อของสเปซได้ดี  ใช้กระจกบานเลื่อนสูงจรดฝ้า พอรวมกับความสูงฝ้าเพดาน 3 เมตร  เลยทำให้ห้องดูโปร่งไปด้วย

วัสดุของ  Mazarine Ratchayothin  จัดว่าให้มาดีเลยแหละ  ห้องที่ได้เป็นแบบ Fully Furnished ซึ่งทำ built-in เฟอร์นิเจอร์บางชิ้นมาให้เรียบร้อย เช่น ตู้เก็บรองเท้า, ตู้เสื้อผ้า  มีเคาน์เตอร์ pantry ครัวให้ กระจกภายในห้องเป็นกระจกนิรภัยทั้งหมด  ซึ่งเป็นแนวคิดเรื่องความปลอดภัยในการอยู่อาศัยที่ทาง Grand Unity เน้นมากทีเดียว  ห้องน้ำที่นี่เป็นห้องน้ำสำเร็จรูปครับ  ซึ่งช่วงหลังเริ่มมีการนำรูปแบบนี้มาใช้กันมากขึ้น  โดยห้องน้ำที่ทำมาให้ก็ปูกระเบื้องและเก็บงาน finishing ได้ดีทีเดียว  ดูแล้วก็ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นห้องน้ำสำเร็จรูปเท่าไหร่นักครับ  นอกจากนี้ก็ได้กระจกภายนอกบานใหญ่แบบ Full Height ที่ช่วยให้แสงเข้ามาได้เยอะ  และเวลาดูจากภายนอกก็สร้างอิมเมจของความแพงได้มากทีเดียว

นอกจากล็อบบี้และสวนชั้นล่างแล้ว  พื้นที่ส่วนกลางหลักๆ ของโครงการจะอยู่บนยอดอาคารที่ชั้น 36-37 ครับ  มีสระว่ายน้ำระบบเกลือที่แยกส่วนของสระเด็กเอาไว้ให้ มี stream and sauna room แยกชายหญิง, ฟิตเนส, Party room, Sky Lounge, Kids room, Exclusive Foyer & Bar ที่เก๋คือมีห้อง Private Salon สำหรับคุณผู้หญิงด้วย  เผื่อใครจะมีช่างประจำเรียกมาที่คอนโดได้  เช่น เวลาจะแต่งหน้าทำผมไปงาน  แต่ไม่อยากให้ช่างเข้าไปในห้องส่วนตัว  ก็สามารถมาใช้งานได้ครับ  สัดส่วนของลิฟต์ที่นี่มีลิฟต์ 3 ตัว กับ 474 ยูนิต เฉลี่ยออกมาได้ 158 ยูนิต ต่อลิฟต์ 1 ตัว  ก็จัดว่าสบายๆ ไม่ได้หนาแน่นครับ  เช่นเดียวกับส่วนของที่จอดรถ  ที่มีมาให้ 70% โดยรวมทั้งแบบ Automatic Parking และแบบธรรมดาแล้ว  เมื่อเทียบกับระดับราคาที่จ่ายไป  แม้ว่าจะห้องจะสูงแต่ก็ถือว่าให้มาแบบสมเหตุสมผลครับ

เจาะลึกรีวิวกันไปอย่างละเอียดยิบแล้ว  ก็ขอสรุปจบท้ายคะแนนกันอีกสักรอบครับ…  เห็นด้วยหรือไม่ตรงไหน  แชร์ไอเดียกันได้ครับ ^___^

Score Summary

สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยค่ะ  (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนคอนโดมิเนียมที่นี่)

และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่  https://www.facebook.com/Yusabuy

ถ้าข้อมูลเป็นประโยชน์ ช่วยกด Like กด Share ให้ทีมงานด้วยนะครับ  ^_____^