ในปี 2561 ที่ผ่านมาเป็นปีที่บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ประสบความสำเร๊จสูงที่สุด โดยสามารถทำนิวไฮยอดขายได้สูงเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจมา และยังคงเป็นผู้พัฒนาอสังหาฯ อันดับ 1 ในประเทศอย่างต่อเนื่อง ทำให้ในปี 2562 นี้พฤกษาได้วางเป้าไว้สูงกว่าเดิม โดยตั้งเป้ายอดขายไว้สูงถึง 54,000 ล้านบาท ในขณะที่เป้ารายได้อยู่ที่ 47,000 ล้านบาท โดยจะเปิดโครงการใหม่มากถึง 55 โครงการ พร้อมคาดการณ์ตลาดคอนโดระดับ super luxury ในปีนี้ว่าจะเริ่มปรับราคาขายลดลง แต่จะแข่งขันในเรื่องฟังก์ชั่นต่างๆ มากขึ้น

นางสุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) พูดถึงผลประกอบการในปี 2561 ว่าเป็นปีที่ Pruksa ประสบความสำเร็จสูงสุด โดยสามารถทำยอดขายไปได้กว่า 51,101 ล้านบาท ซึ่งมากที่สุดตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจมา โดยโตขึ้นจากปีที่แล้ว 7.5% นอกจากนี้ยังสามารถทำรายได้สูงถึง 44,901 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.2% มีกำไรสุทธิ 6,022 ล้านบาท โตขึ้น 10.4% อีกด้วย และทำให้บริษัทสามารถรักษาตำแหน่งผู้พัฒนาอสังหาฯ ที่มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 ไปได้อีกปี

สำหรับปี 2562 พฤกษายังคงมั่นใจว่าจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่่อง โดยปีนี้ตั้งเป้ายอดขายไว้ 54,000 ล้านบาท ขณะที่เป้ารายได้ตั้งไว้ 47,000 ล้านบาท โดยจะเปิดโครงการทั้งหมดกว่า 55 โครงการ มูลค่ารวม 68,100 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทยังมียอด Backlog ณ สิ้นปี 61 อยู่ที่ 33,233 ล้านบาท โดยจะรับรู้ในปีนี้ 21,638 ล้านบาท ซึ่งบริษัทแบ่งการทำธุรกิจเป็น 3 กลุ่มใหญ่ คือ กลุ่ม ทาวน์โฮม, คอนโด และพรีเมี่ยม

กลุ่มธุรกิจทาวน์โฮม

ในกลุ่มธุรกิจทาวน์โฮมปีนี้ตั้งเป้ายอดขายไว้ 24,200 ล้านบาท คาดว่าจะมีรายได้จากกลุ่มนี้ 22,500 ล้านบาท โดยจะเปิดโครงการใหม่ 28 โครงการ มูลค่ากว่า 26,500 ล้านบาท เป็นโครงการในกรุงเทพ และปริมณฑล 21 โครงการ โครงการในต่างจังหวัดอีก 7 โครงการ ซึ่งจะไปเปิดในจังหวัด ชลบุรี, เชียงใหม่, ภูเก็ต, ขอนแก่น, นครปฐม และสระบุรี

Pruksa ยังต้องการรักษาความเป็นผู้นำในตลาดทาวน์โฮมนี้ต่อไป โดยจะมุ่งขยายทาวน์โฮมในระดับราคา 3-5 ล้านในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลให้มากขึ้น ในขณะเดียวกันก็จะขยายตลาดไปยังจังหวัดใหม่ที่ยังมี demand สูงอยู่อย่างขอนแก่น, ระยอง, สระบุรี และนครปฐม เพิ่มเติมอีกด้วย

โครงการทาวน์โฮมที่จะเปิดตัวในปีนี้ ได้แก่

• Patio พระราม 9 – พัฒนาการ เปิดตัว ก.พ. 62
• Pruksa Ville กรุงเทพกรีฑา – วงแหวนฯ มิ.ย. 62
• บ้านพฤกษา หนองมน – ชลบุรี พ.ค. 62
• The Plant หนองมน – ชลบุรี พ.ค. 62
• บ้านพฤกษา สุขุมวิท – บางปู มิ.ย. 62
• The Connect ดอนเมืองสเตชั่น ส.ค. 62

กลุ่มธุรกิจแวลู

ในปีนี้ Pruksa ตั้งเป้ายอดขายจากกลุ่มธุรกิจนี้ไว้ 24,000 ล้านบาท และตั้งเป้ารายได้ไว้กว่า 22,000 ล้าน บาท โดยจะเปิดโครงใหม่ 23 โครงการ เป็นบ้านเดี่ยว 12 และคอนโด 11 ซึ่งโครงการบ้านเดี่ยวที่เปิดใหม่ในปีนี้จะมีระดับราคา 5-10 ล้านบาทมากขึ้น ส่วนคอนโดก็จะนำแบรนด์ IVY กลับมาพัฒนาใหม่อีกครั้ง โดยจะเปิดโครงการแรกที่ อโศก-พร้อมพงษ์

สำหรับโครงการ highlight ที่จะเปิดตัวในปี 62 ได้แก่

• The Privacy เตาปูน อินเตอร์เชนจ์
• The Privacy บางกะปิ
• The Tree สุขุมวิท – พระราม 4
• Passorn พุทธมณฑลสาย 2 – บางแวก
• Passorn ร่มเกล้า รามคำแหง
• Passorn ดอนเมือง – ธูปเตมีย์
• IVY อโศก – พร้อมพงษ์

กลุ่มธุรกิจพรีเมียม

สำหรับกลุ่มธุรกิจพรีเมียมในปีนี้จะมีการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ในชื่อ Chapter ซึ่งจะเป็น segment ระหว่างแบรนด์ Chapter One และ The Reserve โดยจะมีระดับราคาอยู่ที่ 5-10 ล้านบาท นอกจากนี้ยังตั้งเป้ายอดขายในธุรกิจพรีเมียมไว้ที่ 7,500 ล้านบาท ในขณะที่เป้ารายได้อยู่ที่ 5,000 ล้านบาท ซึ่งมากกว่ารายได้ปีที่แล้วถึง 169%

โครงการใหม่ที่จะเปิดตัวในกลุ่มธุรกิจพรีเมี่ยม ได้แก่

• Chapter จุฬา – สามย่าน
• Chapter เจริญนคร – ริเวอร์ไซต์
• The Reserve พญาไท
• The Reserve ประสานมิตร

นอกจากนี้ทางพฤกษาเองยังมองว่าตลาดคอนโดมิเนียมในกลุ่ม super luxury ปัจจุบันราคาเริ่มอื่มตัวแล้ว ซึ่งในปีนี้คาดว่าผู้ประกอบการณ์ในตลาดจะเริ่มทยอยลดราคาห้องพักในกลุ่มนี้ลงมาให้ลูกค้าเข้าถึงได้มากขึ้น ในขณะเดียวกันก็จะแข่งขันกันในเรื่องฟังก์ชั่นต่างๆ มากขึ้นกว่าเดิม

ธุรกิจโรงพยาบาล

ความคืบหน้าการก่อสร้างโรงพยาบาลวิมุตติ ปัจจุบันก่อสร้างชั้นใต้ดินเสร็จสิ้นแล้ว และกำลังจะเริ่มก่อสร้างตัวอาคารในเดือนพฤษภาคมนี้ โดยคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จและพร้อมเปิดให้บริการช่วงปลายปี 2563

สำหรับโครงสร้างธุรกิจโรงพยาบาลจะใช้ model แบบดาวเทียม คือ มีโรงพยาบาลใหญ่ และจะแตกย่อยเป็นสถานพยาบาลขนาเล็กในชื่อ บ้านหมอวิมุต ซึ่งจะกระจายตัวไปตามชุมชนต่างๆ เพื่อให้เข้าถึงชุมชนได้กว้างขึ้น ซึ่งดีกว่าการที่ผู้ป่วยจะแห่กันมารวมในโรงพยาบาลใหญ่เพียงที่เดียว โดยบ้านหมอวิมุตที่แรกตั้งอยู่ในพื้นที่ รังสิต คลอง 3 ซึ่งเปิดดำเนินการเมื่อปลายปีที่แล้ว และได้ผลตอบรับเป็นอย่างดี

ส่วนเงินลงทุนในกลุ่มธุรกิจนี้อยู่ที่ 1,450 ล้านบาท ในปี 2562 และ 1,800 ล้านบาท ในปี 2563 ซึ่งจะได้จากการขายหุ้นกู้ภายในปีนี้

ในปี 2562 นี้เป็นปีที่พฤกษาให้ความสำคัญกับระบบเทคโนโลยีเป็นอย่างมาก โดยบริษัทได้ทำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อพัฒนาองค์กรทั้ง Big Data ในการวิเคราะห์ลูกค้า รวมถึงการทำ Application อย่าง The Living Application ที่รวมทุกการใช้งานต่างๆ เอาไว้ในที่เดียวเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ลูกบ้าน อาทิ การค้นหาบ้าน ข่าวสาร และโปรโมชั่น ไปจนถึงการตรวจรับบ้าน และเข้าอยู่อาศัย อย่าง การชำระค่าผ่อนดาวน์ รวมไปถึงระบบ Smart Home, จองพื้นที่ส่วนกลาง,  การแจ้งเตือนรับจดหมายหรือพัสดุ และบริการอื่นๆ เป็นต้น ซึ่งบริษัทเชื่อว่าทั้งหมดนี้จะทำให้สามารถบรรลุเป้าหมายในปี 2562 ได้