รีวิวนี้เราจะพาทุกคนมาดูโครงการคอนโด The Monument Thong Lo (เดอะ โมนูเมนต์ ทองหล่อ) จากแสนสิริ ที่เพิ่งสร้างเสร็จหมาดๆ ค่ะ คอนโดนี้เป็นโครงการที่มีความน่าสนใจหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของงานดีไซน์ การเลือกใช้วัสดุ ที่ทางแสนสิริเลือกมาสื่อสารความ luxury ให้เหมาะสมกับระดับราคาที่ 30-300 ล้านบาท แน่นอนว่าโครงการในระดับราคาแบบนี้มีคนไม่เยอะที่เข้าถึงได้ ซึ่งก็น่าดูและศึกษาเอาไว้เป็นความรู้ค่ะ เรียกว่าอ่านกันเพลินๆ นะคะ ^^
รีวิวพาทัวร์โครงการ THE MONUMENT THONG LO (เดอะ โมนูเมนต์ ทองหล่อ) หนึ่งในคอนโดของ Sansiri Luxury Collection
· 7 min readตัวโครงการ The Monument Thong Lo ตั้งอยู่ริมถนนทองหล่อช่วงเกือบจะถึงถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ติดกับสำนักงานเขตวัฒนา หากเข้ามาจากทางถนนเพชรบุรีข้ามสะพานลงมาจะเจอกับโครงการอยู่ทางด้านซ้ายมือเลย
มาดูข้อมูลโครงการกันบ้างดีกว่า ตัวโครงการคอนโดเป็นอาคารสูง 45 ชั้น (177 เมตร) ถือว่าเป็นอาคารที่สูงที่สุดบนถนนทองหล่อในปัจจุบันเลยนะ แสนสิริเรียกสไตล์การออกแบบนี้ว่า MONOLITH ซึ่งคำนี้รากศัพท์มาจากคำว่า Monolithos ในภาษากรีกโบราณ เป็นการผสมระหว่างคำว่า Monos ที่แปลว่า Single และคำว่า Lithos ที่แปลว่า Stone โดยความหมายรวมๆ จะสามารถแปลออกมาได้ว่า เป็นอาคารที่ตั้งตระง่านออกมาอย่างโดดเด่น นั่นเองค่ะ เป็นอิมเมจเดียวกับตึกที่มีชื่อเสียงหลายแห่งของของโลก อย่างเช่น Millennium Hilton New York, Seagram Building, 432 Park Avenue in New York และ Al Sharq Tower เป็นต้น
จำนวนยูนิตที่โครงการ The Monument Thong Lo มีเพียง 127 ยูนิต และ จำนวนห้องต่อชั้นสูงสุดเพียง 4 ห้องซึ่ง 4 ห้องต่อชั้นนี้จะเป็นในส่วนของห้องแบบ 2 ห้องนอน ส่วนห้องแบบ 3 ห้องนอนจะมีจำนวนยูนิตต่อชั้นเพียง 2 ยูนิตเท่านั้นค่ะ เรียกได้ว่าเป็นส่วนตัวแบบสุดๆ ไปเลย ขนาดของห้องภายในโครงการ เดอะ โมนูเมนต์ ทองหล่อ มีให้เลือกด้วยกัน 3 แบบคือ
- 2 ห้องนอนขนาด 124.5 ตารางเมตร พื้นถึงฝ้าสูง 3 เมตร ราคาเริ่มต้นที่ 3X ล้านบาท เริ่มที่ชั้น 3-27
- 3 ห้องนอนขนาด 252.25 ตารางเมตร พื้นถึงฝ้าสูง 3.3 เมตร ราคาเริ่มต้นที่ 7X ล้านบาท เริ่มที่ชั้น 29-40
- Penthouse ขนาด 508.75 – 662 ตารางเมตร พื้นถึงฝ้าสูง 4 เมตร ราคาเริ่มต้นที่ 3XX ล้านบาท เริ่มที่ชั้น 41-44
จุดเด่นของโครงการนี้จะอยู่ที่ให้พื้นที่ภายในห้องไม่ต่างจากการอยู่บ้านเดี่ยว ให้ห้องน้ำในทุกๆ ห้องนอนให้ฟิลลิ่งเหมือนกับการอยู่บ้านค่ะ ส่วนแบบ 3 ห้องนอนขึ้นไปจะมีระเบียงที่เรียกว่า Semi-Outdoor อยู่ซึ่งเพื่อนๆ สามารถ convert ระเบียงนี้เป็นแบบปิด หรือถ้าวันไหนอยากรับลมก็สามารถเปิดหน้าต่างบานเฟี้ยมเป็นพื้นที่ outdoor ได้อย่างสบายๆ
แอบกระซิบนิดนึงตอนนี้โครงการขายไปได้แล้วถึง 40% และได้ข่าวมาว่าห้อง Penthouse ที่มีเพียง 3 ห้องในโครงการนั้นได้ถูกขายออกไปแล้วถึง 2 ห้องค่ะ! แหมมม … อยากได้บ้างแต่ไม่ตังค์ 5555 T^T
F A C I L I T I E S
พูดถึงห้องกันไปแล้วจะไม่พูดถึงส่วนกลางได้ยังไงล่ะ โครงการ The Monument Thong Lo จัด Facilities มาให้ลูกบ้านอย่างมีคุณภาพ ด้วยความเข้าใจในจุดเริ่มต้นของความต้องการแต่ละแบบของลูกบ้าน
- Dog Park เป็นส่วนทางด้านหน้าโครงการ จะมีการจัดตกแต่งด้วยทางเดินเล่นรูปแบบ Free Form พร้อมลานสำหรับให้น้องหมาได้วิ่งเล่น โดยภายในลานจะถูกกั้นด้วยรั้วเตี้ยๆ อีกชั้นหนึ่งเพื่อป้องกัน ที่พิเศษกว่านั้นคือมีแท่งอลูมิเนียมขึ้นมาเพื่อเป็นห้องน้ำสำหรับน้องหมาโดยเฉพาะ เมื่อน้องหมาปัสสวะเสร็จแล้วทางเจ้าของสามารถเปิดก๊อกเพื่อให้น้ำทำความสะอาดแท่งนี้ได้โดยอัตโนมัติ
- สวนส่วนกลาง ทางด้านข้างและด้านหลังโครงการ โดยภายในสวนนี้จะมีต้นไม้เก่าแก่ที่เคยตั้งอยู่ในที่ดินนี้ ทางโครงการได้นำไปอนุบาลระหว่างการก่อสร้างและนำกลับมาปลูกไว้ในสวนทางด้านหลังของโครงการ เพื่อให้เป็นร่มเงาและเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อมไปด้วยในตัวค่ะ ซึ่งต้นไม้ที่นำมาปลูกอีกครั้งจะเป็นต้นจามจุรี อายุกว่า 50 ปีถึง 2 ต้น ถ้าใครไปโครงการแนะนำว่าเป็นจุดที่ต้องไปดูค่ะ ต้นไม้ที่นำมาปลูกแต่ละต้นมีขนาดใหญ่มากๆ จริงๆ ให้ความร่มเงาเหมือนอยู่บ้านเลย
- สระว่ายน้ำ ที่มาพร้อมกับสระเด็กและสระน้ำวน ตั้งอยู่บนอาคารสูง 10 เมตร กว้าง 9.5 เมตร และยาว 28 เมตร ปูด้วยหิน White Cloud ที่ดูเข้ากันได้ดีกับสวนและต้นไม้ต่างๆ ที่ปลูกอยู่รอบบริเวณ แต่จะบอกว่าจุดเด่นจริงๆ ไม่ใช่สระว่ายน้ำของโครงการแต่เป็นอาคารที่เป็นที่ตั้งของสระว่ายน้ำโครงการต่างหาก ที่ทางแสนสิริได้ออกแบบดีไซน์ได้รับแรงบันดาลใจจากรูปทรงของต้นไม้ขนาดใหญ่ ซึ่งทางแสนสิริได้บอกว่าการออกแบบตึกนี้ไม่เพียงแต่จะเป็นการออกแบบตามแรงบันดาลใจเท่านั้น แต่ยังเป็นการสะท้อนถึงภาพลักษณ์ผู้อยู่อาศัยภายในโครงการอีกด้วยนะคะ
- Fitness อยู่บริเวณชั้น 2 ชั้นเดียวกับสระว่ายน้ำ ภายในใช้เครื่องเล่นของแบรนด์ TechnoGym รุ่นระดับท็อปๆ แล้วค่ะ ให้เครื่องออกกำลังกายมาค่อนข้างหลากหลายและมีตัวนึงที่พิเศษคือ เครื่องออกกำลังกายที่ใช้เล่นคู่กับแว่น VR จะเป็นเครื่องยังไง เล่นแบบไหน ต้องมาลองกันเองที่โครงการนะคะ แต่ทางทีมงานขอบอกไว้เลยว่าเครื่องนี้สนุกมากๆ อิจฉาคนได้อยู่คอนโดนี้เลยล่ะ
- Playroom เป็นห้องเล่นเพื่อพัฒนาการทางด้านร่างกายและสมองสำหรับเด็ก ห้องนี้เรียกได้ว่าค่อนข้างใส่ใจในรายละเอียดมาก ซึ่งกว่าจะได้ห้องนี้ออกมาทางแสนสิริได้ทำการร่วมมือกันกับโรงพยาบาลสมิติเวช เพื่อวิจัยและพัฒนาเครืองเล่นและกิจกรรมที่เหมาะสำหรับเด็กในช่วงวัยกำลังพัฒนา จะเห็นได้ว่าห้องนี้ค่อนข้างปลอดภัยโดยเฉพาะขอบและมุมต่างๆ จะถูกหุ้มไว้ด้วยหนังบุโฟมกันกระแทกทุกจุดเลยค่ะ ปล่อยให้เด็กสามารถเล่นได้อย่างเต็มที่ โดยที่ผู้ปกครองสบายใจได้หายห่วงกันเลยทีเดียว
อีกจุดที่น่าสนใจในห้อง Playroom คือ โคมไฟแบรนด์ LASVIT ที่ออกแบบมาพิเศษเป็นรูปทรงคล้าย Lollipop สีสันสวยงามเหมาะกับช่วงวัยของเด็กๆ มากทีเดียว
- Yoga Room อยู่ติดกันกับห้อง Playroom และ Fitness Center ภายในห้องตกแต่งมาคล้าย Studio ของโยคะเลย มีราวจับออกกำลังกายอยู่ติดผนัง รวมถึงติดกระจกเงาที่ผนังทำให้สามารถสังเกตท่าทางออกกำลังกายได้อย่างสะดวกค่ะ
- The Parlour เป็น Residential Lounge ที่ทางแสนสิริต้องการให้ลูกบ้านรับรู้ถึงคำว่า Feel like home จริงๆ โดยจัดห้อง The Parlour ออกมาเสมือนห้องรับแขกใหญ่ของบ้าน ที่สามารถทำหน้าที่ได้ทั้งรองรับแขกและนั่งเล่นพักผ่อนตามอัธยาศัยของลูกบ้านได้เหมือนห้องนั่งเล่นภายในบ้านจริงๆ โดยพื้นที่นี้ออกแบบมาเป็นลักษณะของ Semi-Outdoor ทำให้สามารถเทควิวของสระว่ายน้ำภายในโครงการได้อีกด้วยค่ะ
- Mail Room ของที่โครงการ The Monument ทองหล่อ ตั้งอยู่ที่บริเวณชั้น G แถวๆ Lobby Lift โดยจะมีห้องจดหมายอยู่ 2 ห้องแบ่งเป็นห้องจดหมายแรกสำหรับยูนิต 2-3 ห้องนอน และห้องจดหมายที่ 2 สำหรับห้อง Penthouse ค่ะ ภายในห้องบอกได้เลยว่าตกแต่งสวยมากกกกกก เข้าไปแล้วรู้สึกหรูหรา ดูดีมีระดับ โดยเฉพาะตู้จดหมายที่ทำออกมาเป็นหนังสีครีมตัดด้วยที่ดึงตู้จดหมายสีทองในลวดลายต่างๆ ประมาณ 5-6 แบบสลับกันไปในแต่ละห้อง บางทีเห็นตู้จดหมายสูงๆ ยาวๆแบบนี้ทำให้นึกถึงหนังเรื่องแฮรี่ พอตเตอร์เหมือนกันนะคะเนี่ย
นอกจากส่วนกลางที่กล่าวมาข้างต้นแล้วทางโครงการยังใส่ใจจุดเล็กๆ น้อยๆ ตามมุมต่างๆ รองรับความต้องการและ Solve Problem ต่างๆ ของผู้พักอาศัยด้วยอย่าง ห้อง Private Meeting Room ที่ให้ลูกบ้านสามารถเข้ามาใช้บริการนั่งคุยงานธุรกิจกับเพื่อนๆ หรือ Partner ทางธุรกิจได้โดยไม่ต้องออกไปข้างนอกหรือไม่ต้องขึ้นไปยังห้องพักส่วนตัว
Chandelier ด้านบนมาจากแบรนด์ LASVIT แบรนด์ระดับโลกที่ดีไซน์มาเพื่อโครงการนี้โดยเฉพาะ ภายในห้อง Private Meeting Room ประกอบไปด้วยโต๊ะทำงาน และเก้าอี้นั่งอีก 2 ตัว ทางทีมงานได้ลองนั่งมาดูแล้วพบว่าเนื้อสัมผัสนิ่มมากแต่ก็ไม่ได้ทำให้นั่งนานๆ แล้วปวดหลังแต่อย่างใด ทั้งยังให้ความหรูหราไปในตัวด้วย (อยากได้ไปนั่งที่บ้าน 5555)
E X T E R I O R & I N T E R I O R
จาก Facilities กันแล้วเรามาดูการตกแต่งโครงการ The Monument ทองหล่อ กันบ้าง ทางโครงการได้บอกเรามาเสมอว่านี่จะเป็นอีกหนึ่งในโครงการของ Sansiri Luxury Collection ที่คง concept One-of-a-kind high-end housing project นำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้สำหรับคุณและเป็นมรดกที่สืบทอดไปยังรุ่นต่อๆ ไปได้อย่างมีคุณค่า as “The Monument to Generations”
มาเริ่มกันที่ การตกแต่งภายนอกของโครงการ The Monument Thong Lo บริเวณจุด Drop Off ให้ความรู้สึกสง่างาม มั่นคง หรูหรามีระดับด้วยกระจก Low-e ที่มีคุณสมบัติตัดความร้อนจากภายนอกได้ 50%, รังสี 90% และเสียงรบกวนภายนอกถึง 30% ให้ความสูงมาตั้งแต่พื้นถึงฝ้าสีเข้มตัดกับขอบอลูมิเนียมสีทองเพิ่มความสวยงามอีกระดับด้วย Alabaster Wall Lamp ค่ะ
เข้ามาดูด้านใน มีสตอรี่เยอะไปอีกค่ะ …. การตกแต่งภายในของ Lobby คอนโด หรือที่เรียกกันว่า Common Areas ที่โครงการ The Monument ทองหล่อ ตกแต่งผนังออกมาเป็นลวดลายหินอ่อนเทคนิคแบบต่อลายโดยใช้ หินอ่อน Palissandro Classico จากประเทศ อิตาลี ลงตัวกับ หินอ่อน White Venus แบบ book-match บนพื้นห้อง แชนเดอร์เรียจาก LASVIT แบรนด์เครื่องแก้วระดับ Luxury ชั้นนำที่เป็นที่นิยมจากกลุ่มราชวงศ์ทั่วโลก เครื่องเฟอร์นิเจอร์เก้าอี้อาร์มแชร์จาก Fendi Casa และ Goose Down Sofas จาก Flexform
.
นอกจากเรื่องของการตกแต่งแล้ว ยังมีการประดับศิลปะอันทรงคุณค่าจากทั่วโลกมาอยู่ใน Residence แห่งนี้ด้วยเช่น Sculpture “Mother & Child” จากยุคสงครามโลกราวปี 1970s โดยศิลปินชาวอิตาเลี่ยนชื่อ Salvatore Gallo
โคมไฟ Murano Glided Glass ผลิตจาก Murano Island ภายในเคลือบด้วยสีทองแต่ยังสามารถเรืองแสงออกมาได้อย่างสวยงาม ซึ่งโคมไฟแบบนี้มีเพียง 4 คู่ในโลกเท่านั้นแต่ที่ Residence นี้ได้มา 1 คู่ค่า สุดๆ ไปเลยค่า ใครอยากชมโคมไฟคู่นี้ตั้งอยู่บริเวณ Lift Lobby ชั้น G ค่ะ สวยมากๆ เลย
ภาพ Abstract เขียนแบบ Oil on Canvas ที่แขวนอยู่ทางด้านหน้าห้อง Fitness เป็นภาพของศิลปินชาวฝรั่งเศส Tapon (pseudonym) จากปี 1950 ภาพนี้ทางทีมงานต้องขอยอมรับเลยว่าดูไม่ออกจริงๆ ว่าหมายความว่าอย่างไร ใครมีโอกาสได้ผ่านไปดูช่วยกันมาคอมเม้นต์บอกทีว่าคืออะไรนะค้า
ส่วนนี่ก็เป็นผลงานอีกชิ้นของ Tapon จากยุคสงครามโลก
และปิดท้ายด้วยประติมากรรมปูนปั้นเรซิ่น Maternity Abstract จากปี 1970s โดยศิลปินที่ชื่อ Salvatore Gallo ชาวฝรั่งเศสค่ะ
R O O M – – 2 B E D R O O M
มาถึงจุดไฮไลท์กันแล้ว มาดูห้องของโครงการกันบ้าง ห้องที่เราจะพาไปชมนั้นเป็นแบบ 2 ห้องนอนและแบบ 3 ห้องนอนค่ะ
มาเริ่มต้นกันที่ ห้องแบบ 2 ห้องนอน กันก่อนเลย มีขนาดอยู่ที่ 124.25 ตารางเมตร โดยห้องแบบนี้จะมีจำนวนห้องเพียง 4 ห้องต่อชั้นเท่านั้น พื้นถึงฝ้าสูงถึง 3 เมตร และห้องตัวอย่างนี้ตั้งอยู่ที่บริเวณชั้น 6 ของอาคาร แต่บอกได้เลยว่าแค่ชั้น 6 นี้ก็สูงมากพอที่จะทำให้ไม่มีตึกรอบข้างมาบดบังทัศนียภาพของห้องได้เลยค่ะ
ในแต่ละห้องจะได้โถงลิฟต์และ Private Lift 2 ตัวแบบนี้ค่ะ เพื่อไม่ให้ลูกบ้านต้องรอนานกรณีกดลิฟต์เวลาเดียวกันหลายๆ ห้อง ซึ่งลิฟต์ที่ทางโครงการติดตั้งมาให้นี้ค่อนข้างมีคุณภาพในเกณฑ์ดีและเร็วมากๆ ใช้เวลาเพียง 1 วินาทีต่อ 1 ชั้นเท่านั้น ถ้าหากใครซื้อห้องที่ชั้น 30 ก็จะใช้เวลาเพียง 30 วินาทีเท่านั้น รวดเร็วทันใจสุดๆ ไปเลย
Lift Control ให้หน้าตามาหรูหรา พร้อมจอแสดงผลฟังก์ชั่นครบทั้งเลขชั้นที่ลิฟต์กำลังมาและจำนวนคิวลิฟต์ที่รอค่ะ บริเวณด้านบน Lift Control จะเป็นบ้านเลขที่ของห้องนั้นๆ ซึ่งบ้านเลขที่โครงการนี้จะทำค่อนข้างแปลกใหม่พอสมควรเนื่องจากเรียงเลขจากห้องชั้นบนสุดไล่ลงมาที่ห้องด้านล่างสุดค่ะ นั่นก็หมายความว่า Penthouse ชั้น 43-44 จะได้บ้านเลขที่เท่ากับ 998/1 นั่นเอง
ออกจากลิฟต์มาจะเจอกับห้องรับแขกของห้องอยู่ทางด้านหน้าเลย มาพร้อมกับกระจกที่สูงตั้งแต่ floor – ceiling ทำให้ห้องรู้สึกเปิดกว้างรับวิวและแสงธรรมชาติได้ดีค่ะ
ห้องครัวที่ทางโครงการให้มาจะมีทั้ง Island ตรงกลางสำหรับล้างและจัดเตรียมอาหาร และส่วนของเคาน์เตอร์สำหรับทำอาหารหนักเชื่อมต่อกับพื้นที่สำหรับรับประทานอาหารอย่างลงตัว
โดยเคาน์เตอร์ครัวจะให้มาเป็นครัว built-in แบบในภาพพร้อมทั้งอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าบางประเภทเช่น เครื่องดูดควัน เตาไฟฟ้าและตู้เย็น ยี่ห้อ SMEG อ่างล้างจานและก๊อกน้ำ ยี่ห้อ FRANKE ค่ะ
ห้องนอน Master มีขนาดค่อนข้างใหญ่สังเกตได้จากพื้นที่รอบเตียงที่แม้จะวางเตียงขนาด 6 ฟุตแล้วยังมีพื้นที่เหลืออีกเยอะมาก และยังได้กระจกเข้ามุมให้ความรู้สึกโปร่งมากยิ่งขึ้น
ภายในห้องนอน Master ยังมี Walk-in Closet ด้วยนะ
แต่ที่เป็นจุดเด่นสุดๆ เลยจะอยู่ที่ห้องน้ำค่ะ ห้องน้ำของห้องนอน Master เป็นกระจกรอบด้าน ทำให้ห้องน้ำดูโปร่งและสะอาดตามาก ภายในยังคง concept เดิมคือหินอ่อนแบบต่อลายเช่นเดียวกับภายในห้องอื่นๆ เล่นสีขาวตัดดำให้ความรู้สึก classic และ Elegance ไปในตัว
ส่วนของ Shower จะมีประตูกระจกบานเลื่อนกั้นแยกโซนไว้ให้อย่างชัดเจน
ส่วนโถสุขภัณฑ์ที่ทางโครงการให้มาก็ให้มาเป็นแบบอัตโนมัติเลยนะ และอยู่ติดกับโซน Shower เลย แต่ไม่ได้ให้ความรู้สึกอึดอัดหรือแน่นอะไรแบบนั้นเลยนะคะ
และยังมีอ่างอาบน้ำมาให้ด้วยสำหรับห้องนอนใหญ่ ตอนกลางคืนสามารถแช่น้ำในอ่างพร้อมกับเทควิวย่านทองหล่อไปด้วยก็ดูดีไม่เบาทีเดียว
มาดูกันที่ห้องนอนเล็ก ที่ขนาดไม่เล็กตามตัวกันบ้าง เปิดประตูเข้ามาก็จะเจอกับพื้นที่ห้องนอนขนาดใหญ่พอๆ กับห้องนอน Master ทีเดียว
ภายห้องน้ำของห้องนอนเล็กตกแต่งด้วยหินอ่อนแบบต่อลายสีขาว เพิ่มลูกเล่นด้วยสีทองตัดกับสีดำคล้ายๆ กับห้องน้ำของห้องนอนใหญ่ค่ะ ดูสิให้ Rain Shower มาแบบอย่างสูงงงงงงง ถ้าตอนอาบคงได้ฟีลแบบน้ำฝนจริงๆ นะคะเนี่ย
R O O M – – 3 B E D R O O M
ดูแบบ 2 ห้องนอนกันไปแล้ว มาดู ห้องแบบ 3 ห้องนอน กันบ้างค่ะ ซึ่งห้องแบบ 3 ห้องนอนนี้จะกินพื้นที่ครึ่งหนึ่งของ floor ไปเลย มีขนาด 252.25 ตารางเมตร ขนาดใหญ่จุใจกันไปเลยค่ะ แล้วยังมีจำนวนห้องต่อ floor เพียง 2 ห้องเท่านั้น ได้ความ Private ไปเต็มๆ ความสูงตั้งแต่พื้นถึงฝ้าเท่ากับ 3.3 เมตรกันเลยทีเดียว ซึ่งห้องตัวอย่างที่จะพาไปดูนั้นเป็นห้องเปล่าหน้าตาเหมือนกับที่ลูกค้าจะได้เลยค่ะ ถือว่าทางโครงการค่อนข้างใจกว้างมากที่ให้ทางเราถ่ายภาพห้องเปล่ามาให้เพื่อนๆ ดูได้ เพราะปกติห้องเปล่าจะดูไม่ค่อยรู้สึกว้าวหรือน่าอยู่เท่ากับห้องที่ตกแต่งมาแบบจัดเต็มค่ะ … เรามาดูกัน! ว่าห้องเปล่าของทางโครงการ The Monument ทองหล่อ จะดูดีแค่ไหน ไปกันเลย
ในแต่ละห้องจะได้ Private Lift 2 ตัวพร้อมโถงลิฟต์หน้าตาแบบนี้เลย ตัวหน้าบานลิฟต์เป็นสี Copper ดูหรูหรา มีราคา บริเวณพื้นที่โถงลิฟต์ ห้องรับแขกและห้องครัวทางโครงการจะให้พื้นปูด้วยหินอ่อน white venus แบบต่อลาย ดูจากรูปว่าสวยแล้ว เห็นของจริงนี่ stun ไปเลยค่ะ สวยติดตามากๆ
เปิดประตูลิฟต์ออกมาจะเจอกับพื้นที่ห้องๆ หนึ่งที่ทางโครงการเคลมว่าเป็น Semi-Outdoor Balcony จะเห็นได้ว่าพื้นบริเวณนี้จะเป็นไม้ ให้ความรู้สึกของพื้นที่ outdoor มากยิ่งขึ้น ถือเป็นข้อดีนะคะถ้าใครไม่อยากได้พื้นที่ outdoor ก็ปิดหน้าต่างทำเป็นพื้นที่ภายใน แต่ถ้าวันไหนอากาศดีๆ อยากนั่งตากลมหรือ Party ก็สามารถเปิดหน้าต่างทำเป็นพื้นที่ outdoor hangout กับเพื่อนๆ ได้อย่างสบายใจค่ะ
จากพื้นที่ semi-outdoor balcony จะเป็นจุดแบ่งประเภทพื้นที่ใช้งานค่ะ โดยที่จะแบ่งออกเป็นฝั่งของพื้นที่ service และฝั่งของพื้นที่พักผ่อน
เรามา ฝั่งพื้นที่ service ก่อน ห้องเปล่าจะได้มาหน้าตาแบบนี้เลย มี island ตรงกลางสำหรับเตรียมอาหาร และเคาน์เตอร์ครัวตกแต่งด้วยหินอ่อนสีขาว Calacatta Belgia โดยมีเครื่องใช้ไฟฟ้าให้มาอย่าง ตู้เย็นและเตาไฟฟ้ายี่ห้อ Smeg, Binova kitchenware from Italy และก๊อกน้ำจาก Gessi ถือว่าให้ของมาสเปคดีมาก ก็ตามราคาแหละเนอะ
ด้านในของห้องครัวฝรั่งจะเป็นห้องครัวไทยที่สามารถทำอาหารหนักได้ กั้นพื้นที่จากครัวฝรั่งด้วยประตูบานทึบ ในครัวไทยก็จะมีอุปกรณ์เครื่องใช้ในครัวคล้ายๆ กับด้านนอกเช่น เตาไฟฟ้า อ่างล้างจาน เครื่องดูดควัน ค่ะ
ห้อง Maid พร้อมห้องน้ำในตัว พื้นที่ที่โครงการกั้นไว้ให้นั้น ซึ่งขนาดห้องใหญ่กว่าห้องนอนเล็กของคอนโดบางโครงการอีก (แบบที่ทางโครงการอื่นเคลม) และวิวดีกว่าคอนโดอื่นอีกหลายๆ โครงการค่ะ
ให้หน้าต่างแบบ Full Height มาเลยจ้า Ps. นี่คือห้อง Maid ค่าาาาาาาา
มาดูกันที่ ฝั่งพักผ่อน กันบ้าง ห้องรับแขกมีขนาดใหญ่มากกกกกกกกกกกกๆๆๆๆๆๆๆ พร้อมกระจกรอบทิศเกือบ 180 องศา สามารถจัดวางทั้งแบบห้องรับแขกและห้องรับประทานอาหารได้หลากหลายแบบเลย ไม่ว่าจะแบบไหนก็สวยไปหมด ทั้งห้องทั้งวิวซื้อร้อยล้านได้วิวแบบพันล้านไปเลย
กำแพงในห้องรับแขกจะเป็นเคาน์เตอร์และบาร์ที่สามารถเปิด-ปิดซ่อนฟังก์ชั่นภายในไว้อย่างเรียบร้อยด้วยหน้าบาน และถ้าใครซื้อห้องแบบ 3 ห้องนอนทางโครงการแถมให้ทั้ง เตาอบไฟฟ้า และตู้แช่ไวน์ให้ด้วยนะคะ แอบบอกนิดนึงว่าแค่ราคาตู้แช่ไวน์ก็ปาไปหลายบาทแล้ว
และยังมี Home Automation แบรนด์ระดับโลกอย่าง Legrand ตัวโหดจากฝรั่งเศสติดตั้งมาให้ด้วยค่ะ นอกจากจะสวยแล้วยังสะดวกสบายจากเครื่องของที่ให้มาอย่างครบครัน
พูดถึงเรื่องเครื่องของที่ให้ในห้องแล้วจะไม่พูดถึงสวิตซ์ไฟได้อย่างไร เป็นสวิตซ์จากแบรนด์เดียวกันกับ Home Automation ออกแบบมาดูเรียบหรู Modern ไปในทิศทางเดียวกันกับ concept ของทั้งห้องและโครงการ
มาต่อกันที่ Master Bedroom ห้องนอน Master จะได้กระจกห้องแบบเข้ามุม เปิดรับวิวภายนอกได้อย่างเต็มตา และที่พื้นห้องภายในโครงการนี้จะสังเกตได้ว่านอกจากปลั๊กไฟที่ให้ติดผนังแล้วยังให้ปลั๊กไฟแบบติดพื้นด้วยนะคะ ยืดหยุ่นกับการใช้งานรูปแบบต่างๆ ได้ดีทีเดียว
ไม่ใช่แค่ได้หน้าต่างใหญ่นะคะ Closet ที่ทางโครงการให้ก็ใหญ่เช่นเดียวกันค่า ให้ Closet มาถึง 8 บานกันเลยทีเดียว ไม่มีทางที่คุณผู้หญิงคนไหนจะใส่เสื้อผ้าที่มีอยู่ไม่พอ (เอ๊ะ! หรือมี)
ห้องนอน 2 นั้นขนาดจริงๆ เล็กกว่าห้องนอน Master เพียงเล็กน้อยเท่านั้น พื้นที่ภายในห้องค่อนข้างใหญ่และสามารถจัด space ได้ง่ายค่ะ
ในห้องนอน 2 มี Closet มาให้ 4 บานพร้อมกระจกเงาที่บานตู้ ใส่เสื้อผ้าได้พอสมควรค่ะ
ห้องน้ำในห้องนอน 2 เป็นแบบ Sexy bath ด้วยนะคะ
เปิดประตูห้องน้ำมาปุ๊บจะเจอกับห้องน้ำที่ตกแต่งด้วยหินอ่อนตัดด้วยโทนสีทองและดำ
โซน Shower ติดตั้งฉากกระจกกั้นอาบน้ำมาให้ความสูงตั้งแต่พื้นถึงฝ้าเลยสูงมาก ติดตั้งทั้ง Rain Shower และ Hand Shower มาให้ครบ พร้อมใช้งาน
และนอกจากห้องนอน Master ที่จะมีอ่างอาบน้ำแบบ ห้องนอน 2 ก็ทีอ่างมาให้ด้วยค่า
มาที่ห้องนอน 3 ซึ่งจะเป็นห้องสุดท้ายที่เราจะพาชมกันในวันนี้ค่ะ ถึงจะเคลมตัวเองว่าเป็นห้องนอนขนาดเล็กที่สุดของห้องแบบ 3 ห้องนอนแต่จริงๆ ไม่ใช่แบบนั้นเลยนะคะ และด้วยความที่ห้องติดกระจกแบบ full height ทำให้ดูโล่งโปร่งสบาย
ห้องน้ำส่วนตัวภายในห้องตกแต่งคล้ายๆ ห้องอื่นๆ ด้วยหินอ่อนสีขาวตัดกับหินอ่อนสีดำและกรอบอลูมิเนียมสีทอง
แต่จะมาต่างกันที่บริเวณ Shower จะมีเพียง Shower zone แต่ไม่มีอ่างอาบน้ำอย่างห้องนอนอื่นๆ ค่ะ
ยังไม่จบนะคะ เรามาดูวิวโครงการบ้าง วิวที่เราเอามาให้ดูจะเป็นวิวจากชั้น 30 ค่ะ ทางด้าน ทิศตะวันออก จะค่อนข้างโล่งๆ หน่อย
ส่วนวิวนี้เป็น ทิศใต้ ค่ะ มีคอนโดอยู่แต่ค่อนข้างอยู่ไกลจากโครงการอยู่ค่ะ ไม่ได้บังวิวอะไรแบบนั้นเท่าไหร่
ส่วนวิวนี้ได้มาจาก ทิศเหนือ ของโครงการค่ะ จะได้วิวถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ไกลๆเป็นวิวแนวราบเป็นส่วนใหญ่ค่ะ
ท้ายนี้นะคะโครงการ The Monument Thong Lo เป็นโครงการคอนโดระดับ Luxury หนึ่งใน Sansiri Luxury Collection ที่ทางแสนสิริใส่ใจคุณภาพของโครงการในทุกๆ ดีเทล เพื่อการอยู่อาศัยที่แท้จริง ดังนั้นใครที่มีโอกาสได้แวะไปโครงการ เดอะ โมนูเมนต์ ทองหล่อ ก็อย่าลืมกลับมาเล่าให้ฟังด้วยน้าว่าคิดเห็นเป็นยังไงบ้าง ส่วนใครที่มีกำลังทรัพย์ถึง และพร้อมที่จะจ่ายเพื่อยี่ห้อ Sansiri Luxury Collection เอาไว้เป็นความภาคภูมิใจส่วนตัว โครงการนี้น่าจะเป็นในตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับการซื้อเพื่ออยู่อาศัยในระยะยาวนะคะ
. . . . . แล้วเจอกันใหม่กับโครงการสวยๆ ชิคๆ โครงการหน้า สวัสดีค่า . . . . .