บทความนี้จะพาไปทำความรู้จักกับโครงการ XT EKKAMAI (เอ็กซ์ที เอกมัย) คอนโดมิเนียม High Rise สูง 38 ชั้น จากแสนสิริร่วมทุนกับ Tokyu มีทำเลตั้งอยู่ใจกลาง“เอกมัย” ย่านที่โดดเด่นและขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งรวมไลฟ์สไตล์และที่อยู่อาศัยระดับไฮเอน เป็นทำเลที่มีศักยภาพสูง ฮอตฮิตเป็นอันดับต้นๆ ของกรุงเทพฯ ตลอดกาล

หากพูดถึง “เอกมัย” หลายคนคงจะนึกถึงถนนที่เต็มไปด้วยคลับบาร์เรียงรายสองฝั่งและชีวิตไนท์ไลฟ์อันครึกครื้นในยามค่ำคืน แต่นอกจากนั้น ในตอนกลางวัน เอกมัยยังเป็นแหล่งรวมออฟฟิศของชาววัยทำงานและเป็นแหล่งรวมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆไว้มากมาย จึงทำให้ย่านนี้กลายเป็นอีกหนึ่งย่านยอดฮิตที่รวบรวมสีสันของ lifestyle คนเมืองไว้ วันนี้ YUSABUY จะขอพาไปเปิดมุมมองใหม่ๆ แล้วคุณจะรู้ว่าทำไม ย่านเอกมัยถึงมีเสน่ห์ดึงดูดทั้งชาวไทยและต่างชาติไม่เคยเปลี่ยน

ถนนเอกมัย เป็นถนนซอยของถนนสุขุมวิท หรือชื่อจริงๆก็คือ ซอยสุขุมวิท 63 วิ่งตัดเชื่อมจากถนนสุขุมวิท เข้าถึงถนนเพชรบุรี ระหว่างซอยเต็มไปด้วยซอยซอกแซกเชื่อมไปยังซอยต่างๆได้มากมาย หากพูดถึงจุดเด่นของถนนสายนี้ ขอแยกออกมาเป็น 3 ประเด็นหลักๆ ครับ คือ จุดเด่นด้านการเดินทาง, ศูนย์รวมชาวต่างชาติ และ แหล่งรวมไลฟ์สไตล์

เอกมัย กับความสะดวกสบายด้านการเดินทาง

แน่นอนครับว่าการเดินทางที่สะดวกและรวดเร็วที่สุดสำหรับกรุงเทพฯ คงจะหนีไม่พ้นรถไฟฟ้า และที่หน้าปากซอยเอกมัยเอง ก็มีรถไฟฟ้า BTS สถานีเอกมัยตั้งอยู่ ซึ่งรถไฟฟ้าสายนี้ถือเป็นสายหลักที่วิ่งไปตามถนนสุขุมวิท จะไปสยามหรือไปที่ไหนๆก็เป็นเรื่องง่ายไปหมด

นอกจากรถไฟฟ้าแล้ว ภายในถนนเอกมัยก็มีรถสาธารณะให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นรถเมล์ รถแท็กซี่ หรือแม้แต่ในชั่วโมงเร่งด่วน ที่ต้องการความคล่องตัว ฝ่ารถติด ก็สามารถเรียกใช้บริการพี่วินได้ ซึ่งมีอยู่เกือบทุกซอย พบเห็นได้ไม่ยากครับ

ส่วนใครที่ใช้รถส่วนตัว ที่ซอยเอกมัยนี้ก็ถือว่าสะดวกครับ เพราะอย่างที่กล่าวไว้ตอนต้นว่าถนนเส้นนี้วิ่งเชื่อมระหว่างถนนสุขุมวิทและถนนเพชรบุรี นอกจากนี้ยังสามารถวิ่งไปถนนประดิษฐ์มนูธรรม เพื่อไปขึ้นทางด่วนได้ และภายในซอยก็มีเส้นทางให้สามารถลัดเลาะไปยังซอยทองหล่อ และซอยสุขุมวิท 71 ได้หลากหลายเส้นทาง ซึ่งถือเป็นตัวเลือกที่ดีในชั่วโมงเร่งด่วนครับ เพราะย่านที่ฮอตฮิตขนาดนี้ ยังไงก็ต้องมีรถติดบ้างเป็นเรื่องปกติเนอะ

เอกมัย กับศูนย์รวมชาวต่างชาติ

ด้วยความที่เอกมัยเป็นย่าน Hi-end มาแต่ไหนแต่ไร ชาวต่างชาติทุกเชื้อชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยก็ทราบกันดีอยู่แล้ว โดยเฉพาะเป็นแหล่งทำงาน ท่องเที่ยว กิน ดื่ม พบปะสังสรรค์ ย่านนี้เรียกว่ามีความครบครันและมีความเป็นสากลรองรับการใช้ชีวิตของคนทุกเชื้อชาติ นี่จึงถือเป็นอีกเสน่ห์ที่ดึงดูดชาวต่างชาติให้เข้ามาอยู่ที่นี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวญี่ปุ่น ซึ่งสะท้อนให้เห็นผ่านร้านอาหารญี่ปุ่น ที่มีอยู่มากมายภายในถนนเอกมัย ไม่เพียงแค่ถูกใจชาวญี่ปุ่นเท่านั้นแต่ยังถูกใจคนไทยหลายๆคนด้วยใช่ไหมครับ

นอกจากนี้ยังมีโรงเรียนนานาชาติมากมาย เช่น Ekamai International School, Bright Skies International School เป็นต้น รองรับลูกหลานชาวต่างชาติและชาวไทยในย่านนี้ได้เป็นอย่างดี

และแม้ว่าบนถนนเอกมัยจะดูจอแจวุ่นวาย แต่หากเข้าไปในซอยย่อยๆกลับพบว่ามีความเงียบสงบ เหมาะแก่การอยู่อาศัย และหนึ่งในซอยย่อยของถนนเอกมัยก็เป็นที่ตั้งของวัดเกาหลีชื่อว่า วัดฮันมาอึม ซอนวอน ซึ่งตั้งอยู่ในซอยเอกมัย 6  เห็นมั้ยครับว่าเอกมัยมีความเป็นนานาชาติและมีเสน่ห์มากๆหากได้ลองเข้าไปสัมผัส

เอกมัย กับแหล่งรวมไลฟ์สไตล์สุดชิค

เอกมัย เป็นย่านที่คึกคักตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน หากพูดถึงแหล่งไลฟ์สไตล์ เรียกได้ว่ามีมากมายตั้งแต่ต้นซอยจนถึงท้ายซอย สามารถตอบโจทย์ได้ทุก Life Style ของคนเมืองเลยครับ ผมขอแบ่งย่อยออกเป็น 4 Life Style นะครับ เชื่อว่าแต่ละคนคงมีไลฟ์สไตล์ที่ไม่เหมือนกัน หรือบางคนอาจจะมีมากกว่า 1 Life Style ก็ได้

• ไลฟ์สไตล์สายชิวๆ

สายชิวส่วนใหญ่ต้องไม่พลาดแน่กับ Cafe ชิคๆ คูลๆ ที่สามารถไปนั่งเช็คอินถ่ายรูปสวยๆในวันหยุดกันได้ อย่างในเวิ้งโบราณ ที่อยู่ใกล้กับคอนโด XT เอกมัย แบบเดินไปได้ ก็มีหลายร้านให้เลือก เช่น Moola Cafe คาเฟ่ที่มี Breakfast และไอศกรีมโฮมเมดพร้อมเครื่องดื่มหอมกรุ่นเป็นจุดขาย กับอีกร้านนึงชื่อ (UN)FASHION Cafe คาเฟ่ที่ตกแต่งภายนอกดูดิบเท่ด้วยสีของโครงเหล็กสนิมแต่บรรยากาศภายในดูอบอุ่นและเป็นกันเองมากครับ

ขยับไปอีกนิด ใกล้ๆกับเวิ้งโบราณมี Health Land ถูกใจสายชิวที่ชอบผ่อนคลายด้วยการนวดแน่นอนครับ เพราะที่นี่ให้บริการสปาและนวดหน้า-ตัวแบบครบวงจร มีตั้งแต่นวดตัวด้วยน้ำมันอโรมา, นวดแผนไทย, นวดประคบสมุนไพร ฯลฯ

ส่วนใครชอบความบันเทิงด้วยการดูภาพยนตร์ ก็ออกมาที่ปากซอกเอกมัย มี Major Cineplex ให้บริการอยู่ครับ มานั่งดูหนังชิลๆในวันหยุดได้เลย

สำหรับสายชิวที่อยากสงบจิตสงบใจ แนะนำให้มาที่วัดธาตุทองเลยครับ วัดนี้อยู่ติดกับ BTS เอกมัย เดินลง BTS มาก็สามารถแวะไว้พระขอพรกันก่อนได้

• ไลฟ์สไตล์สาย Shopping

ขาช้อปทั้งหลายที่ชอบหิ้วของมาจากญี่ปุ่น ต่อไปนี้ไม่ต้องเสียค่าตั๋วเครื่องบินไปช้อปไกลถึงประเทศญี่ปุ่นแล้วนะ เพราะว่าที่เอกมัยมีห้างดังจากญี่ปุ่นมาเปิด มีชื่อว่า DONKI MALL ตั้งอยู่ในซอยเอกมัย 5 ซึ่งเป็นซอยที่สามารถทะลุไปออกเส้นทองหล่อได้

ภายในห้าง DONKI MALL มีของจากญี่ปุ่นมากมายให้เลือกซื้อ ทั้งข้าวของเครื่องใช้ ขนมขบเคี้ยว พืชผักผลไม้ ไปจนถึงอาหารสดและอาหารสำเร็จรูป แต่ที่ไม่ควรพลาดเลยคือมันเผาญี่ปุ่นครับ  ได้ยินเสียงล่ำลือมานาน วันนี้มีโอกาสได้ลองทาน อร่อยสมคำล่ำลือจริงๆครับ

นอกจากนี้ยังมีห้างสรรพสินค้า BIG C เอกมัย ไว้ให้ช้อปของกินของใช้ราคาประหยัดก่อนเข้าบ้าน ซึ่งภายในโซนเดียวกันก็มี Index Living Mall ตั้งอยู่ สามารถช้อปของแต่งห้องโดยไม่ต้องออกไปไหนไกลครับ

หากยังไม่จุใจพอ ตรง BTS เอกมัย มีห้าง Gateway Ekamai เป็นศูนย์การค้าครบวงจร ที่ภายในตกแต่งอบอวลไปด้วยบรรยากาศสไตล์แบบญี่ปุ่นครับ สามารถเดินเชื่อมจาก BTS ได้เลย

• ไลฟ์สไตล์สายกินสุดประหยัด

ใครว่าอยู่เอกมัยจะต้องกินแต่ร้านอาหารหรูๆ แพงๆ ไม่จริงเลยครับ เพราะร้านอาหารแบบ Local Street Food ราคาไม่แพงก็ยังมีอยู่ อย่างร้านนี้มีชื่อว่า วัฒนาพานิช ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ร้านเก่าแก่ระดับตำนาน อยู่คู่เอกมัยมาเกินกว่า 50 ปี ได้ป้ายการันตีจากรายการชวนชิมมาแล้วมากมาย เมนูขึ้นชื่อก็เป็นพวก เนื้อตุ๋น แพะตุ๋น สารพัดเนื้อ แต่ถ้าไม่ทานเนื้อ ก็มีเมนูอื่นเหมือนร้านอาหารตามสั่งทั่วไปครับ (สุกี้ คั่วไก่ ผัดซีอิ๊ว) ทำเลตั้งอยู่เยื้องๆกับโครงการ XT Ekkamai เลยครับ คอก๋วยเตี๋ยวเนื้อไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง

อีกร้านที่จะแนะนำก็อยู่ใกล้ๆกับร้านเนื้อตุ๋นวัฒนาพานิชเลยครับ มีชื่อร้านว่า น้อมจิตต์ไก่ย่าง เปิดมาหลายสิบปีแล้ว มีทั้งหมด 2 สาขา ที่เอกมัยเป็นสาขาแรก ร้านนี้มีดีที่ไก่ ทั้งไก่เนื้อและไก่บ้าน นอกจากนี้ยังมีเมนูอีสานอื่นๆ เช่น เสือร้องไห้ ส้มตำ ลาบหมู เชื่อว่าน่าจะถูกใจคนที่ชอบทานอาหารแซ่บๆ แน่นอนครับ

• ไลฟ์สไตล์สายปาร์ตี้

คงไม่ต้องพูดอะไรมาก สำหรับแหล่งแฮงค์เอาท์ปาร์ตี้ในย่านเอกมัย เชื่อว่าทุกคนน่าจะรู้จักกันดีอยู่แล้ว ยิ่งแสงอาทิตย์มืดลง แสงสีเสียงจากร้านต่างๆ ก็ยิ่งเพิ่มความคึกคักให้กับย่านนี้ขึ้นเป็นทวีคูณ ผับบาร์มีให้เลือกมากมายหลายร้านระรานตา และ 1 ในร้านยอดฮิตคงไม่พ้น ร้านนั่งเล่น เป็นคลับที่ขึ้นชื่ออย่างยิ่งเรื่องดนตรีสดและการตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์และคลาสสิค ร้านนั่งเล่นนี้มักจะมีคนเต็มร้านอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ จึงควรจะจองโต๊ะไว้ก่อน เพื่อจะไม่พลาดความสนุกครับ แต่ถ้าชอบแบบนั่งชิล แนะนำบ้านเพื่อนเอกมัย ครับ อยู่ชั้นบนสุดของเวิ้งโบราณ เป็นร้านกึ่ง Rooftop ที่ตกแต่งแบบดิบๆ ง่ายๆ ดูเป็นกันเอง โต๊ะนั่งมีทั้งด้านนอกแบบ open air และด้านในที่ติดแอร์ นอกจากนี้ยังมีร้าน DND , SHERBET และร้านอื่นๆอีกมากมาย คงจะดีไม่น้อยเลยนะครับถ้ามีคอนโดสักห้องอยู่ในย่านเอกมัยนี้ พอปาร์ตี้เสร็จปุ๊บก็กลับมานอนที่ห้องได้เลย จะเมาสนุกสุดเหวี่ยงขนาดไหนก็ไม่ใช่ปัญหา ^__^

XT EKKAMAI

ได้รู้จักย่านเอกมัยกันครบทุกแง่มุมแล้ว ต่อไปผมจะพาไปทำความรู้จักกับที่อยู่อาศัยในย่านเอกมัยกันบ้าง กับคอนโดที่มีชื่อว่า “XT เอกมัย” 

ขับรถจากถนนสุขุมวิท เข้ามาในซอยเอกมัยประมาณ 1.5 กิโลเมตร ก็จะพบกับสำนักงานขายของโครงการ XT Ekkamai ตั้งอยู่ด้านซ้ายมือครับ สีสันสดใส สังเกตุได้ไม่ยาก ด้านหลังของสำนักงานขายเป็นตึกของโครงการ XT Ekkamai ตอนนี้เริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้วครับ คืบหน้าไปพอสมควร

เข้ามาด้านใน ตกแต่งสไตล์โมเดิร์น ดูสดใสมีความเป็นวัยรุ่นซ่อนอยู่ บนฝ้าเพดานโดดเด่นด้วยเส้นสายที่ห้อยลงมา ทำให้ดูมีลูกเล่นและมีมิติยิ่งขึ้นครับ

มีมุมนั่งเล่นที่จัดแต่งด้วย Sofa และ Prop สีสันสดใส เหมาะแก่การมานั่งถ่ายรูปมากๆ

มาดูข้อมูลของโครงการ เอ็กซ์ที เอกมัย กันหน่อยครับ โครงการ XT เอกมัย เป็นหนึ่งในแบรนด์ XT ซึ่งเป็นแบรนด์ Life Style Condominium ใหม่ของ แสนสิริ ที่เปิดตัวพร้อมกันถึง 3 โครงการ คือ XT เอกมัย, XT ห้วยขวาง และ XT พญาไท ซึ่งตัวแบรนด์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ “คนมิลเลนเนียล”  ที่มีความคิดเป็นของตัวเอง และต้องการเป็นอิสระจากข้อจำกัดเดิมๆ สะท้อนให้เห็นตั้งแต่สำนักงานขายเลยครับ

XT Ekkamai เป็นคอนโด High Rise สูง 38 ชั้น 1 อาคาร และอาคารจอดรถ Mechanical Parking 9 ชั้น + ใต้ดิน 3 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 537 ยูนิต + ยูนิตร้านค้า 1 ยูนิต โดยโครงการนี้แสนสิริร่วมกันพัฒนากับบริษัท โตคิว คอนสตรัคชัน จากญี่ปุ่นครับ

ตัวอาคารออกแบบมาในสไตล์โมเดิร์น โทนสีขาวและม่วง ส่วนกลางหลักจะอยู่บนชั้น Roof top ทำให้บริเวณพื้นที่ส่วนกลางจะโปร่งโล่ง และรับวิวได้ดีนั่นเอง

พื้นที่ส่วนกลาง

จุดเด่นอีกอย่างของโครงการ XT เอกมัย นอกจากเรื่องของทำเลแล้ว ด้านพื้นที่ส่วนกลางก็ถือว่าน่าสนใจครับ เพราะว่ามี CO-SHARING ที่สามารถใช้แชร์กันได้กับ XT ในทำเลอื่นๆ ซึ่งมีสไตล์ที่แตกต่างกัน โดยจองการใช้งานผ่านระบบ Application แต่การเข้าไปใช้ส่วนกลางของโครงการอื่นนั้นมีค่าใช้จ่ายนะครับ รายละเอียดต้องขึ้นอยู่กับทางโครงการและนิติบุคคลต้องสอบถามเพิ่มเติมอีกทีครับ

ที่ชั้น 1 ของโครงการ XT Ekkamai เป็น Workspace Lobby ภายในมีการแบ่งพื้นที่ออกเป็นสัดส่วนย่อยๆ ฝ้าเพดานสูงโปร่ง มีผนังกั้นเพื่อความเป็นส่วนตัว และใช้สีที่แตกต่างกันไปในแต่ละห้องเพื่อสร้างบรรยากาศที่หลากหลาย สามารถใช้พื้นที่ได้ทั้งมานั่งรอ นั่งทำงาน รวมถึงทำกิจกรรมอื่นๆ เพราะโต๊ะทำงานที่โครงการให้มาสามารถปรับเป็นโต๊ะปิงปองหรือโต๊ะพลูได้ด้วย

ที่ชั้น 37-38 เป็นพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดครับ เริ่มจากชั้น 37 จะมีสระว่ายน้ำโอลิมปิคที่ยาว 50 เมตร มี Jacuzzi เอาไว้แช่ตัวผ่อนคลาย บริเวณปลายสระจะมี Sunken Seat สำหรับนั่งพักผ่อนชมวิวมุมสูง และพื้นที่ดูหนังกลางแจ้ง รวมถึงห้องน้ำ/ห้องเปลี่ยนเสื้อก็จะอยู่ในชั้นนี้ด้วย

ส่วนชั้น 38 เป็น The Bar & Lounge เผื่อเที่ยวเอกมัยมาแล้วยังรู้สึกไม่เต็มอิ่มก็ชวนเพื่อนๆขึ้นมาที่นี่ได้เลย นอกจากนี้ยังมี Co-Playing Space , Meeting Room และ ฟิตเนส ที่สามารถเห็นวิวเมืองจากมุมสูงได้อีกด้วยครับ

ส่วนชั้นบนสุดของอาคารที่จอดรถ เป็นสวนหย่อมที่มีมุมนั่งเล่น พื้นที่สำหรับทำสวน-ปลูกผัก และยังมี Outdoor Pavilion Gym ที่ร่วมมือกันพัฒนากับโรงพยาบาลสมิติเวช ออกแบบมาสำหรับเด็กให้สามารถออกกำลังกายในรูปแบบที่แตกต่างออกไป เช่น การปีนเขาบนกำแพง ซึ่งอาคารจอดรถนี้ สูง 9 ชั้น เป็นระบบ Mechanical Parking จอดได้ทั้งหมด 266 คันครับ

นอกจากนี้ ที่ XT เอกมัย ยังมีเพื่อนร่วมคอนโดที่เป็นหุ่นยนต์ มีชื่อว่า น้อง SANDEE น้องเค้าทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยบริการส่งจดหมาย พัสดุ และอื่นๆ ไปตามห้องพักโดยไม่ต้องลงมาเอาที่นิติ ด้วยคุณสมบัติของแสนดีที่มีระบบเซ็นเซอร์รอบตัว จึงสามารถหลบหลีกสิ่งกีดขวาง ขึ้น-ลงอาคารโดยใช้ลิฟต์โดยสารผ่านไว-ไฟได้ด้วยตัวเอง เวลาเดินอยู่ในคอนโดแล้วเจอน้องก็ไม่ต้องตกใจนะครับ น้องกำลังทำงานอยู่

เปิดห้องมองสเปซ

สำหรับห้องตัวอย่างของโครงการ XT Ekkamai มีให้ดู 2 ห้องนะครับ คือ ห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 29.75 – 30.25 ตร.ม. และ ห้องแบบ 2 Bedrooms ขนาด 46.25 ตร.ม.

• ห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 29.75 – 30.25 ตร.ม.

เริ่มจากห้องแบบ 1 Bedroom เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับส่วน Kitchen ครับ เป็นสเปซที่เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น

หน้าตาเคาน์เตอร์ครัวที่ทางโครงการให้ครับ ได้ตามที่โชว์เลย เป็นสีน้ำเงินสดใส มีช่องให้เก็บของได้มากมาย

ระหว่างห้องครัวกับห้องนั่งเล่นสามารถหาโต๊ะบาร์มาตั้งแบบห้องตัวอย่างได้ ช่วยทำให้ห้องดูเป็นสัดส่วนชัดเจนยิ่งขึ้น

หันไปดู Space บริเวณห้องครัวแบบชัดๆครับ มีพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นและเครื่องซักผ้าอยู่ตรงข้ามกับเคาน์เตอร์ครัว

หน้าตา Digital Door Lock และสวิตซ์ของ Somfy ซึ่งเป็นแบบ Touch Screen ที่สามารถควบคุมการเปิด-ปิดแอร์/ไฟ ผ่าน Application ได้

ออกมาดูที่ระเบียงกันบ้างครับ พื้นที่ไม่แคบจนเกินไป สามารถหาเก้าอี้มานั่งชมวิวภายนอกได้ครับ

ห้องนี้ Condensing ของแอร์จะถูกแขวนไว้ด้านบน แบบเป่าลมร้อนออกด้านนอกซึ่งมีข้อดีคือไม่บังวิวและไม่ร้อนเวลาเราออกมายืนใช้งานที่ระเบียง พร้อมทั้งมีระแนงบังตาให้ดูเรียบร้อย เป็นระเบียบ และติดตั้งไฟมาให้ด้วย

ห้องนอนขนาดค่อนข้างกว้าง วางเตียงขนาด 5 ฟุตได้กำลังดี เหลือพื้นที่ให้เดินรอบๆได้

ส่วนห้องน้ำก็จะอยู่ในห้องนอนครับ ตกแต่งโดยใช้สีขาว เทา น้ำเงิน ดูเป็นวัยรุ่น ไม่เรียบจนเกินไป

• ห้องแบบ 2 Bedrooms ขนาด 46.25 ตร.ม.

มาดูห้องแบบ 2 Bedroom กันต่อ เมื่อเปิดประตูเข้าห้องมา ส่วนแรกจะเป็นครัว ซึ่งได้เป็นครัวเปิด มองเห็นห้องนอนที่สองและพื้นที่นั่งเล่นที่อยู่ถัดไป

ห้องนอนที่สองนี้ ทางโครงการเลือกตกแต่งออกมาเป็นห้องทำงานครับ ใครที่อยู่คนเดียวก็สามารถดัดแปลงได้ตามใจชอบ

ส่วนพื้นที่กลางห้องจะเป็นโถงกว้าง เป็นสเปซของห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อกับพื้นที่ทานอาหาร ซึ่งพื้นที่ตรงนี้ค่อนข้างกว้าง ถ้าใครไม่ชอบการวางเฟอร์นิเจอร์ที่ทางโครงการจัดมาให้ก็สามารถปรับเปลี่ยนได้หลายแบบ ค่อนข้างยืดหยุ่นครับ

จากห้องนั่งเล่น สามารถเชื่อมต่อไปยังระเบียงภายนอกได้

หันกลับไปดูห้องครัว ได้เป็นครัวเปิดซึ่งเหมาะกับการทำอาหารแบบง่ายๆหรือซื้ออาหารเข้ามาทาน โดยเคาน์เตอร์จะเป็นแบบตัวแอล (L) มีพื้นที่การใช้งานที่มากขึ้นกว่าห้องแบบ 1 ห้องนอน

มีห้องน้ำรวมที่ใช้แชร์กับห้องห้องนอนที่สอง การตกแต่งก็มาในโทนสว่างสีขาว เทา เพิ่มลูกเล่นด้วยตู้ใต้อ่างล้างหน้าสีน้ำเงินสดใส

เข้ามาดูใน Master Bedroom กันบ้าง ขนาดค่อนข้างกว้าง มีหน้าต่างบานใหญ่ เปิดมุมมองและรับแสงธรรมชาติได้ดี

ส่วน Master Bathroom การตกแต่งและวัสดุเหมือนกับห้องก่อนหน้าเลยครับ  แบ่งฟังก์ชันการใช้งานเป็นสัดส่วน ทั้งอาบน้ำ โถสุขภัณฑ์ และ อ่างล้างหน้า

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับการพาทัวร์ย่านเอกมัยในครั้งนี้ เป็นย่านที่มีครบทั้งกิน เที่ยว ช้อป เป็นแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ทุกรูปแบบ นอกจากนี้ยังเป็นย่านที่เหมาะแก่การอยู่อาศัย มีโครงการใหม่เกิดขึ้นมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือโครงการ XT Ekkamai   ใครสนใจก็ลองแวะเข้าไปชมโครงการจริงๆ กันได้เลยครับ