พื้นที่ส่วนกลางกับ Aspire New Series
สำหรับส่วนกลางของ Aspire เอราวัณ ไพร์ม ต้องบอกว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการของ AP ที่ให้มาแบบจัดเต็ม สมกับเป็น Aspire New Series โดยจะกระจายอยู่ตามส่วนต่าง ๆ ของโครงการ เพื่อให้ลูกบ้านใช้งานได้อย่างทั่วถึง รวมแล้วกว่า 30 จุดเลยทีเดียว
ผมขอขยายความถึง Aspire New Series หน่อยแล้วกันครับ เรื่องนี้เป็นไอเดียที่ทาง AP พัฒนาเพิ่มขึ้นมาเพื่อให้สอดคล้องกับยุค New Normal โดยดูจากพฤติกรรมและความต้องการของผู้อยู่อาศัยเป็นหลัก เกิดเป็นแนวคิด The Intelligent Living Beat ซึ่งแบ่งหลัก ๆ ออกเป็น 2 ด้าน คือ Smart Living และ New Standard Hygiene ครับ
Smart Living
เป็นสิ่งที่ AP ใส่ใจความเป็นอยู่ของลูกบ้านให้ใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น ด้วย Smart Application หรือดิจิตอลแพลตฟอร์มที่ควบคุมตั้งแต่การเข้าออกอาคาร การจองพื้นที่ส่วนกลาง ค้นหาเจ้าของรถเมื่อมีการจอดขวาง แจ้งข่าวสารต่างๆ รวมถึงเรียกขอความช่วยเหลือเมื่อมีเหตุฉุกเฉิน เป็นต้น นอกจากนี้ลูกบ้านยังมั่นใจได้ถึงความปลอดภัยด้วยกล้อง CCTV ที่มีทุกชั้น ระบบ Lift Lock ชั้น และ รปภ. ตลอด 24 ชม. ครับ
.
New Standard Hygiene
แน่นอนว่าจากเหตุการณ์ Covid ทำให้เกิดความกังวลหลายอย่างในการอยู่อาศัยในคอนโด จุดนี้ทำให้ดีเวลลอปเปอร์ต้องพยายามปรับตัวเพื่อให้ลูกค้าและคนที่จะมาซื้อคอนโดเกิดความสบายใจในการอยู่อาศัย สามารถใช้ชีวิตวิถีใหม่ได้อย่างปลอดภัยไร้กังวลครับ Aspire ก็ให้ความสำคัญตรงจุดนี้เช่นกัน โดยตั้งแต่เปิดประตูเข้าอาคาร จะออกแบบประตูหลักเป็นแบบประตูอัตโนมัติ เพื่อลดการสัมผัส ส่วนประตูอื่นๆ และปุ่มกดลิฟต์ จะมีการติดฟิลม์ที่ช่วยลดเชื่อแบคทีเรียและไวรัสได้ รวมถึงใช้สี Dura clean A+ ที่ผนังของพื้นที่ส่วนกลางด้วยครับ
นอกจากนี้ยังมี Alcohol Station อยู่ตามจุดต่าง ๆ พร้อมเครื่องฟอกอากาศที่บริเวณ Lobby, Lift, Fitness และ Co-Working Space และที่ห้อง Fitness กับ Co-Working Space ก็ยังมีการใส่ Glass Partition เพื่อป้องการการฟุ้งกระจายของละอองฝอยผ่านทางอากาศอีกด้วยครับ
คราวนี้เรามาไล่ดูกันดีกว่าครับ ว่าส่วนกลางแต่ละอย่างที่ทางโครงการให้มา จะกระจายอยู่ตรงไหนบ้าง ซึ่งหลัก ๆ จะมีอยู่ 3 ชั้นด้วยกันครับ คือ ที่ชั้น G, ชั้น 7 และชั้นดาดฟ้าครับ
เริ่มจาก Ground Floor ด้านนอกของอาคารล้อมรอบไปด้วยพื้นที่สีเขียว โดยภายในสวนจะมีพื้นที่นั่งเล่นอย่าง Serene Pavilion และ Sunken Seat ให้แต่ละคนมาหลบมุมพักผ่อนได้อย่างเป็นส่วนตัว
นอกจากนี้ก็มี Free Flow Playground, Lawn Court, Multi-Sport และ Running Loop ที่ตอบโจทย์คนรักสุขภาพครับ อย่างภาพนี้เป็นลาน Multi-sport นี่สามารถปรับเปลี่ยนเล่นกีฬาได้หลากหลายครับ ไม่ว่าจะเป็น Street Basketball หรือ Football ก็ได้ครับ
ทีนี้เรามาดูภายในตัวอาคารกันบ้างดีกว่าครับ จะเห็นว่าส่วนของพื้นที่ชั้นล่างนั้นถูกจัดโซนต่างๆ เป็นส่วนกลางที่รองรับคนได้จำนวนมากเลย แบ่งแยกพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนของ Grand Lobby, Semi outdoor lobby, Co-working space, Meeting room เท่าที่ดูจาก Plan ก็จะเห็นได้ว่ามีมุมต่างๆ สำหรับลูกบ้านเยอะมากทีเดียวครับ
เข้ามาภายในอาคารจะเจอ Welcome Zone เป็นแบบ Semi-Outdoor บรรยากาศใกล้ชิดธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมี Private Lobby ที่อยู่ In-door มีที่นั่งรองรับมากมายครับ มองเห็นพื้นที่สีเขียวภายนอกได้
Semi-Outdoor Lobby เป็นพื้นที่ที่ออกแบบโดยคำนึงถึงระบบการถ่ายเทอากาศแบบธรรมชาติ (Passive Ventilation) เหมาะกับคนที่ไม่ชอบแอร์ แต่ก็ได้ลมเย็น ๆ เช่นกันครับ
Co-Working Cafe เป็นพื้นที่ที่รองรับคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการพื้นที่ทำงานแบบเปิดโล่ง มองเห็นบรรยากาศภายนอกได้ ไม่อึดอัด จะมานั่งทำงานคนเดียว หรือจะชวนเพื่อนมานั่งทำงานเป็นกลุ่มก็ได้ ดูๆ ไปแล้วบรรยากาศเหมือนนั่งทำงานในร้านกาแฟเหมือนกันนะ
ขึ้นมาที่ชั้น 7 จัดเต็มทั้ง Indoor และ Outdoor มีสระว่ายน้ำ ล้อมรอบด้วยต้นไม้และพื้นที่นั่งเล่นมากมาย คือไม่จำเป็นต้องมาว่ายน้ำเท่านั้น แต่ลูกบ้านสามารถออกมานั่งเล่นพักผ่อนที่ส่วนนี้ได้เลยครับ โดยสระว่ายน้ำที่นี่เป็นระบบเกลือขนาด 38×7.75 ม. แยกสระเด็ก และมี Jacuzzi ให้ด้วย
ส่วน Indoor มี Fitness พร้อมเครื่องเล่นครบครัน ซึ่งบริเวณลู่วิ่งสามารถมองเห็นสวนส่วนกลาง พร้อมทั้งมี Glass Partition ที่แต่งคิ้วด้านข้างด้วยโครเมียมสีทอง ได้ทั้งความสวยงาม เป็นส่วนตัว และช่วยลดการกระจายตัวของละอองรวมถึงเหงื่อระหว่างผู้เล่นได้
นอกจากนี้ที่ชั้น 7 นี้ ยังมี Battle Room, Board Game, Private Theater, Sauna และ Heath Complex รองรับทุกไลฟ์สไตล์ของลูกบ้านครับ วันหยุดก็ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ได้เลย ไม่ต้องออกไปไหนไกล
ที่ชั้นดาดฟ้า เป็นพื้นที่สำหรับนั่งเล่นชมวิว มี Sunset Parlor และ Sky Jogging ให้วิ่งออกกำลังกายได้อีกจุดครับ ถือว่าใช้พื้นที่ได้คุ้มค่าทีเดียว