—————————
แบบบ้าน Nari พื้นที่ใช้สอย 170 ตร.ม.
4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน ที่ดินเริ่มต้น 50 ตร.วา
—————————
รีวิวแบบบ้านแรกชื่อว่า Nari ของโครงการ พิมนารา ศรีนครินทร์-บางนา ในสไตล์ Modern Japandi ผ่านแนวคิด LESS FOR MORE LIVING เน้นการออกแบบมินิมอลไม่ซับซ้อน บวกกับโทนสีที่ดูสบายตาอย่างสีขาวและสีน้ำตาลไม้ ตัดด้วยสีดำเพื่อให้บ้านดูมีมิติ โดยจุดเด่นของที่นี่คือบ้านมีการยกระดับขึ้นมา เพื่อช่วยลดความชื้นจากดินและป้องกันสัตว์เล็กๆ โดดเด่นด้วยเฉลียงหน้าบ้านที่ยาวไปถึงข้างบ้าน ให้สามารถออกมานั่งเล่นชมสวนได้แบบชิลๆ
ขณะที่การออกแบบฟังก์ชันภายในบ้าน ก็ยังคงคอนเซ็ปต์ความเป็นญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว ทั้งในเรื่องของทางเข้าบ้านที่เป็น Foyer และพื้นที่ใช้สอยที่คุ้มค่า โดยชั้นล่างมีไฮไลท์ประตูกระจกบานใหญ่ยาวสุดผนังบริเวณข้างตัวบ้าน ส่วนชั้น 2 ของบ้าน โถงบันไดมีความโปร่งจากช่องแสงที่ส่องเข้ามา โดยมีทั้งหมด 3 ห้องนอนพร้อมระเบียงส่วนตัว อีกทั้งยังมี Bathtub ในห้อง Master Bedroom ส่วนอีก 2 ห้องนอนมีขนาดใหญ่กว้างขวาง พื้นถึงเพดานสูง 2.6 เมตร
มุมหน้าตรงแบบบ้าน NARI โดยภายนอกจะเน้นโทนสีขาวเป็นหลัก และประตูลายไม้ ตัดกับหลังคา ระเบียง และเฟรมกรอบหน้าต่างที่เป็นสีดำ ตัวหลังคาเป็นทรงหน้าจั่ว เมื่อประกอบการดีไซน์ทั้งหมดเข้าด้วยกันจึงดูมีความทันสมัย และเป็นสไตล์ญี่ปุ่นที่น้อยแต่มากเรียบแต่เก๋
บริเวณหน้าบ้านทางโครงการ ทำเฉลียงนั่งเล่นที่ยาวเชื่อมต่อไปจนถึงข้างบ้าน เพื่อให้สามารถออกมานั่งพักผ่อนหย่อนใจนอกบ้านได้ครับ พร้อมกันสาดที่ไปในทิศทางเดียวกันกับหลังคาช่วยเพิ่มความเป็นเจแปนได้อย่างน่ามอง
โรงจอดรถทำหลังคามาให้เรียบร้อย ไม่ต้องเสียเงินทำเพิ่ม สามารถจอดรถได้ 2 คัน และยังมีประตูห้องเก็บของสำหรับไว้อุปกรณ์ที่ใช้ภายนอกบ้าน
ทางเข้าบ้านเป็นประตูไม้บานทึบ พร้อมกรุด้วยกระจกเพิ่มความโปร่งให้บ้าน ซึ่งบ้านจริงก็ได้แบบนี้ครับ
เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับ Foyer เหมือนกับบ้านญี่ปุ่นครับ ซึ่งโซนนี้จะไว้วางตู้รองเท้าหรือไว้เก็บของ โดยทำสเต็ปลดลงมาจากภายในบ้านให้เรียบร้อย
ก่อนจะเอ่ยถึงส่วนอื่นๆ ภายในบ้าน ขอพูดถึงสิ่งที่ดึงดูดสายตาเป็นอันดับแรกก่อนครับ นั่นก็คือประตูกระจกบานใหญ่ที่ยาวตั้งแต่หน้าบ้านไปจนสุดหลังบ้าน ซึ่งสามารถเปิดให้เชื่อมต่อพื้นที่ด้านนอกได้ในแบบที่แตกต่าง และทำให้บ้านดูโปร่งโล่งไม่เหมือนใครอีกด้วย
พื้นที่นั่งเล่นจะอยู่ในส่วนของหน้าบ้าน และด้วยสเปซที่กว้างขวางทำให้เลือกวางโซฟาได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งโซฟาตัวไอ โซฟาตัวแอล ขนาด 3 ที่นั่ง หรือโซฟาเข้าชุดก็ดูดีแตกต่างกันออกไป
ฝั่งวางทีวีก็ยังได้กระจกที่ช่วยให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาได้อีกทางหนึ่ง และบิวท์ชั้นเก็บของได้เยอะแบบที่บ้านตัวอย่างทำให้ดูเป็นไอเดีย
มองจากมุมนี้จะเห็นว่าฝั่งที่ติดกับ Foyer ยังมีสเปซเหลือพอสมควรที่จะสามารถเพิ่มตู้หรือบิวท์ชั้นวางของครับ
ติดกันเป็นโซนรับประทานอาหารกับโซนครัว โดยวางโต๊ะกินข้าวขนาด 6 ที่นั่ง หรือจะขยับเป็น 8 ที่นั่ง ก็ไม่ได้ทำให้ห้องดูเล็กลงหรือรู้สึกอึดอัด
ทางโครงการบิวท์อินเคาน์เตอร์ครัวและแพนทรี่ให้ดูเป็นตัวอย่าง ไว้สำหรับทำอาหารง่ายๆ อย่างอาหารเช้า หรืออาหารที่ไม่ค่อยมีกลิ่นครับ
พื้นที่ด้านในจะแยกไปยังส่วนของบันไดขึ้นชั้น 2 ห้องน้ำ ห้องนอนชั้นล่าง และประตูออกไปลานซักล้าง
ห้องน้ำชั้นล่างจัดสุขภัณฑ์ไว้ให้ครบครัน เพิ่มเติมคือใต้อ่างล้างหน้า มีราวไว้สำหรับแขวนผ้าเช็ดมือ และได้พื้นที่สำหรับวางของด้านหลังอ่างล้างหน้า แต่จะไม่ได้ฉากกั้นอาบน้ำครับ
ออกมายังโซนซักล้าง ทางโครงการจำลองเป็นห้องครัวแบบปิด แต่บ้านจริงจะเป็นพื้นยกสเต็ปขึ้นมาพร้อมปูกระเบื้องแบบในภาพครับ
กลับเข้ามาตรงข้ามเป็นห้องนอน ซึ่งอยู่ด้านหน้าบ้านตรงบริเวณลานจอดรถ ทำให้ได้ช่องแสงถึง 2 ฝั่ง เป็นหน้าต่างแบบบานเลื่อน
อีกฝั่งมีพื้นที่เหลือพอให้บิวท์ตู้เสื้อผ้าได้ขนาดค่อนข้างใหญ่พอสมควรครับ
ตำแหน่งบันไดจะอยู่บริเวณกลางบ้าน ซึ่งทางโครงการทำส่วนนี้ออกมาได้ดีทีเดียว นอกจากบันไดจะไม่ชันแล้วยังค่อนข้างกว้างทำให้เดินสะดวก
แม้จะเป็นโถงบันก็ยังได้ช่องแสงถึง 2 ช่องด้วยกัน ทำให้บริเวณนี้ไม่คับแคบและดูโปร่งโล่ง อีกทั้งยังสามารถทำช่องเก็บของเพิ่มตรงส่วนนี้ได้ครับ
พื้นที่แยกไปยัง Master Bedroom รวมถึงอีก 2 ห้องนอน และห้องน้ำครับ
ห้องนอนแรกที่จะรีวิวคือ Master Bedroom โดยอยู่โซนหน้าบ้าน มีขนาดใหญ่มากครับ ขนาดวางเตียง King Size 6 ฟุต บิวท์ชั้นวางทีวีและโต๊ะทำงาน ก็ยังมีสเปซเหลืออีกพอสมควร อยู่ด้วยกันสองคนได้สบายๆ
ประกอบกับได้ช่องแสงทั้งจากทางระเบียง และหน้าต่างตรงหัวเตียง ยิ่งทำให้ห้องนี้ดูกว้างขวางเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวก็ว่าได้ครับ
โซน Walk-in Closet ก็ไม่ธรรมดา ฝั่งหนึ่งบิวท์ตู้เสื้อผ้าสุดเพดาน เก็บเสื้อผ้าได้เยอะแน่นอน อีกฝั่งเป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้ง หรือจะเปลี่ยนเป็นตู้เสื้อผ้าเพิ่ม ก็ปรับเปลี่ยนได้ตามสไตล์ที่ชื่นชอบ
ห้องน้ำจะอยู่ติดกับ Walk-in Closet แยกส่วนเปียกและส่วนแห้งชัดเจน โดย Master Bedroom จะได้อ่างล้างหน้าเป็นแบบฝังเคาน์เตอร์เพื่อให้มีพื้นที่สำหรับวางของ
แต่ที่ชอบคือการมี Bathub มาให้ด้วย พร้อมติดตั้งฉากกั้นเรียบร้อย เผื่อวันไหนเหนื่อยจากการทำงานก็สามารถแช่น้ำให้สบายตัว นอกจากนี้ทางโครงการยังติดตั้งโถสุขภัณฑ์อัตโนมัติให้ดูเป็นแนวทางว่าลูกบ้านสามารถซื้อมาติดตั้งเพิ่มเติมเองง่ายๆ เพราะได้เตรียมระบบไฟเอาไว้ให้แล้วครับ
ห้องนอนที่ 2 ขนาดใหญ่รองลองมาจาก Master Bedroom ทำให้จัดสรรพื้นที่และวางเฟอร์นิเจอร์ได้ยืดหยุ่นพอสมควร วางเตียง 5 ฟุต ก็ยังได้ หรือจะทำเป็นห้องเด็กเล็กแบบบ้านตัวอย่าง ก็น่ารักไปอีกแบบครับ
ห้องนี้ได้ช่องแสงทั้งจากทางระเบียง ทางหน้าต่าง 2 บาน และโครงการยังดีไซน์หน้าต่างบานกระทุ้งด้านบน เพื่อให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาภายในห้องได้ทุกทิศทาง
ห้องนอนที่ 3 แม้จะขนาดเล็กสุดสำหรับห้องนอนชั้นบนแต่เมื่อดูสเปซแล้วก็ยังวางเตียง 5 ฟุต ได้แบบไม่รู้สึกอึดอัดครับ
ห้องน้ำชั้นบนอยู่ตรงกลางระหว่าง 2 ห้องนอน แยกโซนแห้งและโซนเปียกด้วยการทำพื้นต่างระดับมาให้ แนะนำว่าติดฉากกั้นเพิ่มเติมเพื่อไม่ให้น้ำกระเด็นไปยังส่วนอื่นๆ ของห้องน้ำ