การจัดตกแต่ง Indirect Lighting หรือไฟซ่อน ไฟหลืบ และเทคนิคการติดตั้ง [ไอเดียอยู่สบาย]
· 13 min readคร่าวๆ คือ ครั้งนั้นได้นำเสนอให้เพื่อนๆได้รู้จักกับการจัดแสงสว่าง โดยแบ่งจากลักษณะของการใช้งานที่สามารถแบ่งออกได้เป็น แสงเพื่อการใช้งาน และแสงเพื่อสร้างบรรยากาศ หรือตกแต่ง
.
.
.
.
แต่ แต่ แต่ ในครั้งนี้อยากจะมานำเสนอไอเดียการจัดแสงสว่าง
ในอีกลักษณะหนึ่งที่แบ่งจากลักษณะของการให้แสงสว่าง
และการกระจายของแสง สามารถแบ่งเป็น
1 แสงสว่างแบบส่องโดยตรง หรือที่เราทุกคนคุ้นหูกันว่า Direct Lighting
เป็นการกระจายของแสงจากแหล่งกำเนิดของแสงโดยตรง ส่องไปในบริเวณที่ต้องการ เพื่อการใช้งานทั่วไป เพื่อการใช้งานเฉพาะจุด หรือเพื่อสร้างบรรยากาศตกแต่งก็ได้ ให้ความเข้มของแสงได้ดีที่สุด ให้ความสว่างแก่พื้นที่ได้เป็นอย่างดี หากไม่ได้แอบหรี่ไฟจากระบบหรี่ไฟที่ติดตั้งไว้นะคะ
สังเกตุง่ายๆว่าไฟแบบไหนเป็นแบบ Direact Light จากการที่เราสามารถมองเห็นหลอดไฟได้อย่างชัดเจนภายหลังการติดตั้ง
2 แสงสว่างแบบส่องโดยอ้อม หรือ Indirect Lighting ซึ่งโดยส่วนมากทุกคนมักจะเรียกกันว่า ไฟหลืบ ไฟซ่อน
เป็นแสงที่เกิดจากการสะท้อนแสงจากแหล่งกำเนิดแสง หรือหลอดไฟ ส่องกระทบไปบนพื้นที่ระนาบให้มีการส่องสว่าง สามารถกระจายแสง และให้แสงได้อย่างสม่ำเสมอสบายตา โดยส่วนมากมักจะใช้เพื่อสร้างบรรยากาศ และตกแต่ง มากกว่าให้แสงเพื่อการใช้งานทั่วไป ซึ่งแบบ Indirect Light นี้ก็จะมองไม่เห็นหลอดไฟภายหลังการติดตั้งค่ะ
แต่ในความเป็นจริงแล้วในบางพื้นที่ที่ไม่ต้องการให้ได้แสงสว่างที่จ้าเกินไปนั้นก็สามารถใช้ Indirect Lighting เพื่อการใช้งานทั่วไปได้ เช่น ใช้เป็นไฟส่องทางเวลากลางคืนภายในห้อง สำหรับใครที่อยากลุกเข้าห้องน้ำกลางดึก แต่ไม่อยากเปิดไฟทั้งห้องรบกวนคนที่นอนอยู่ให้ห้องเดียวกัน (ขอติดป้าย 18+ นะคะ) โดยมากมักติดตามใต้โต๊ะหัวเตียง หรือใต้เคาน์เตอร์อ่างล้างมือ
หรือตามสปาก็ใช้ไฟลักษณะนี้เป็นไฟเพื่อการใช้งาน
หรือแม้แต่ไฟฟลูออเรสเซสที่ติดบนฝ้าตามสำนักงาน หรือร้านกาแฟบางแห่งนั้น ก็มีการใส่กระจก ใส่อะคลีลิคครอบปิดตัวหลอดไฟไว้อีกชั้นหนึ่ง เพื่อให้ได้แสงนวลสบายตามากขึ้น และไม่ทำให้เกิดแสงจ้าบนระนาบของพื้นที่ทำงาน
การติดตั้งระบบแสงชนิดนี้มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงกว่าระบบการให้แสงสว่างแบบส่องโดยตรง และไม่เหมาะกับการติดตั้งกับฝ้าเพดานที่มีความสูงมาก หรือติดตั้งในบริเวณที่แหล่งกำเนิดแสงมีระยะห่างจากพื้นที่ระนาบที่แสงตกกระทบมากเกินไป
การติดตั้ง Indirect Lighting สามารถทำได้หลายวิธีนะคะ
ไอเดียอยู่สบายขอเสนอเทคนิคการติดตั้ง Indirect Lighting
ให้เพื่อนๆได้รู้จักกันซัก 8 วิธี ที่มักเห็นใช้กันทั่วไปค่ะ
- Cove Lighting
- Case Lighting
- Toe Kicks
- Under Cabinet / Shelf
- Curtain / Wall Washing
- Backlit Glass / Signage
- Railings / Architectural Details
- Backlit Mirrors
ว่าแล้วตามมาดูตัวอย่างไอเดียการจัดไฟตามเทคนิคทั้ง 8 วิธีกันเลยนะคะ . . . .
1
Cove Lighting
ติดตั้งตามหลืบ แบบให้แสงส่องกระทบด้านบน นิยมใช้เป็นไฟหลืบสำหรับหลุมฝ้าเพดาน
2
Case Lighting
ติดตั้งแบบมีตัวกรองแสง นิยมใช้ในลักษณะเป็นกล่องไฟ ให้แสงที่มลังเมลือง สามารถใช้ได้ทั้งในระนาบนอน และระนาบตั้ง ตัวกรองแสงที่ใช้ สามารถใช้วัสดุที่โปรงแสงแต่ไม่โปรงใส อาจจะเป็นได้ทั้งกระจกฝ้า อะคลีลิค หรือหิน
3
Toe Kicks
ติดตั้งแบบให้แสงส่องกระทบด้านล่าง เน้นให้แสงส่องกระทบลงพื้น จะมีลักษณะตรงกันข้ามกับการติดตั้งแบบที่ 1 กลับทิศกันและไม่จำเป็นต้องมีปีกยื่นออกมาสำหรับบังตัวหลอดไฟ เนื่องจากเป็นการติดตั้งที่ระดับต่ำกว่าสายตามาก เหมาะใช้สำหรับส่องทางเดิน หรือขั้นบันได
4
Under Cabinet / Shelf
ติดตั้งใต้เคาน์เตอร์ หรือชั้นวางของ เพื่อให้แสงส่องกระทบวัตถุสิ่งของที่อยู่ภายใน ให้โดดเด่นสวยงามมากขึ้น
5
Curtain / Wall Washing
ติดตั้งแบบให้แสงสาดส่องเข้าหาผนัง ม่าน หรือพื้นระนาบแนวตั้ง โดยเน้นให้แสงมาจากทางด้านบน และปล่อยให้มืดดำในส่วนด้านล่าง
6
Backlit Glass / Signage
ติดตั้งแบบให้แสงสาดส่องเข้าหาผนัง หรือวัตถุอย่างทั่วถึงทั้งแนวระนาบตั้ง ต่างจากการติดตั้งแบบที่ 5 คือ ให้แสงทั้งส่องลง และส่องขึ้น และบางครั้งสามารถติดตั้งจัดซ่อนไฟเพื่อให้แสงจากทางด้านข้างด้วย นิยมใช้สร้างบรรรยากาศ และจุดเด่นให้กับระนาบตั้ง ผนัง ป้าย หรือช่องเจาะในผนัง
7
Railings / Architectural Details
ติดตั้งใต้มือจับราวบันได หรือรายละเอียดองค์ประกอบเล็กๆในงานสถาปัตยกรรมที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษ ลักษณะการให้แสงจะใกล้เคียงการติดตั้งในแบบที่ 4 เพียงแต่จะมีระยะ หรือพื้นที่ติดตั้งหลอดไฟที่น้อยกว่ามาก
8
Backlit Mirror
ติดตั้งแบบให้แสงส่องออกมาโดยรอบวัตถุ นิยมใช้กับกระจกแต่งหน้าภายในห้องน้ำ ป้าย หรืองานประติมากรรมต่างๆ
จะเห็นได้ว่าเราสามารถใช้เทคนิควิธีติดตั้งหลายวิธีในพื้นที่เดียวกันได้สบายๆเลยค่ะ
ส่วนการเลือกใช้หลอดไฟสำหรับการให้แสงแบบ Indirect Lighting นั้น สามารถเลือกใช้ได้หลากหลายด้วยกัน เน้นหลอดไฟที่มีลักษณะเป็นหลอดแนวยาว หรือเป็นสายยาว ไม่ว่าจะเป็น
- หลอดฟลูออเรสเซนต์ (Fluorescent Lamp) แบบหลอดยาว T12, T8 หรือ T5
- หลอดไฟ LED (Light Emitting Diode) แบบหลอดยาว เหมือนหลอดฟลูออเรสเซนต์ (Fluorescent Lamp)
- หลอดไฟ LED แบบเส้น หรือแบบสายยาง เช่น หลอด LED Cove Light, หลอด LED Rope Light หรือหลอด LED Strip Light
ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับพื้นที่ติดตั้งว่า มีลักษณะเป็นแนวตรงหรือโค้ง และมีพื้นที่ให้ติดตั้งหลอดไฟได้มากน้อยแค่ไหนนะคะ
สำหรับใครที่อยากรู้จักกับชนิดของหลอดไฟเพิ่มเติมสามารถ ดูได้จากไอเดียอยู่สบายเรื่องการซื้อหลอดไฟค่ะ
>>> “หลอดไฟ และการเลือกซื้อมาใช้งานได้อย่างเหมาะสม” <<<
ลากันไปก่อนสำหรับครั้งนี้นะคะ พบกันใหม่กับไอเดียอยู่สบายในครั้งหน้าค่ะ สวัสดีค่ะ