Siam Discovery – The Exploratorium ตั้งเป้าเป็น Hybrid Retail แห่งแรกในเมืองไทย บนพื้นที่กว่า 40,000 ตารางเมตร ด้วยเงินลงทุนกว่า 4,000 ล้านบาท
· ~ 1 min readหลังจากศูนย์การค้า Siam Discovery ได้ปิดปรับปรุงไปเมื่อ 8 เดือนก่อน วันนี้ (23 กุมภาพันธ์ 2559) สยามพิวรรธน์ ได้จัดเปิดตัวคอนเซ็ปใหม่ของศูนย์การค้า Siam Discovery โฉมใหม่ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จเปิดให้บริการเป็นทางการได้ในไตรมาส 2 ของปีนี้ โดย Siam Discovety โฉมใหม่จะวางตัวเป็น Hybrid Retail แห่งแรกในเมืองไทย บนพื้นที่กว่า 40,000 ตารางเมตร (GFA) ด้วยเงินลงทุนกว่า 4,000 ล้านบาท มั่นใจเป็นศูนย์การค้ารูปแบบและแนวคิดใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนในประเทศไทย จับกลุ่มคนทุกเพศทุกวัย มีสินค้าและบริการทุกระดับราคา
นางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า “Siam Discovery เป็นศูนย์การค้ารูปแบบ Hybrid Retail แห่งแรกของไทย ที่ผสมผสานทั้งด้านสินค้าบริการและกิจกรรมต่างๆ เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตและไลฟ์สไตล์ กับความสนใจในเรื่องนวัตกรรมด้านต่างๆ ของคนรุ่นใหม่ที่ปรารถนาการค้นพบจุดยืนที่แตกต่างของตนเอง แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องการร่วมมีประสบการณ์ที่แปลกใหม่กับผู้อื่น เรากำลังสร้าง “Life style specialty store” ที่ซึ่ง “เข้าถึงใจ”ของลูกค้าให้มากที่สุด และให้เป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งนี้เพื่อมอบประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นเร้าใจ สนุกสนานมีสีสัน รู้สึกเข้าถึงและเป็นส่วนหนึ่งได้ สนองความต้องการของลูกค้าได้ครบถ้วน”
“เราต้องการให้ผู้คนรู้สึกตกหลุมรักกับประสบการณ์ที่หลากหลาย ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และรู้สึกว่าที่สยามดิสคัฟเวอรี่ พวกเขาสามารถมาค้นพบตัวตน อีกทั้งได้มาสร้างความสัมพันธ์กับคนอื่นๆ และสนุกสนานเพลิดเพลินไปกับการได้ทำกิจกรรมร่วมกับผู้คนที่มีความชื่นชอบในเรื่องราวเดียวกัน บทบาทของสยามพิวรรธน์ได้พัฒนาขึ้นเป็นการบริหารจัดการประสบการณ์ อารมณ์ และความปรารถนาของลูกค้าที่มาเยือน มากกว่าจะเป็นเรื่องการบริหารจัดการสินค้าและบริการให้ครบวงจรเหมือนในอดีต”
“มาเล่นสนุกด้วยกัน”
มอบพลังอำนาจในการสร้างสรรค์สไตล์ของตัวเองให้กับคนรุ่นใหม่หัวใจแรง
“เรากำลังพลิกวิธีการค้าปลีกรูปแบบเดิมๆ ในอดีตให้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จากที่เคยเป็นการจัดวางสินค้าตามประเภทและตามแบรนด์ ให้กลายเป็นการนำเสนอด้วยการผสมผสานหลายกลุ่มสินค้าตามเรื่องราวและความสนใจของผู้คน เพื่อความสะดวกสบายและความสนุกสนานในการค้นหา นับเป็นคอนเซ็ปต์ค้าปลีกรูปแบบใหม่ที่บุกเบิกวงการ โดยมุ่งเน้นที่จะมอบพลังอำนาจความคิดสร้างสรรค์ให้กับลูกค้า ในการ Mix and Match สินค้าจากหลากหลายแบรนด์และหลากหลายประเภท นี่คือสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อนในประเทศไทยและในสเกลที่ใหญ่ระดับนี้ ซึ่งเราคาดว่าจะช่วยทำให้รายได้ต่อตารางเมตรของสยามดิสคัฟเวอรี่เพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่าภายในระยะเวลา 1 ปี” นางชฎาทิพกล่าว
Siam Discovery เจาะกลุ่มเป้าหมายคนทุกเพศทุกวัยที่มีไลฟ์สไตล์ในแบบคนรุ่นใหม่ (Millennial Generation) ด้วยสินค้าในทุกระดับราคาที่สามารถเข้าถึงได้ จำนวนกว่า 5,000 แบรนด์ แบ่งออกเป็น 5 กลุ่มใหญ่ คือ
- Everyday Products
- Sustainable Products
- Trend Products
- Collaboration & Limited Collections
- Innovative Products
นางชฎาทิพกล่าวว่า สยามดิสคัฟเวอรี่ โฉมใหม่ – ‘The Exploratorium’ จะเป็น Lifestyle Lab ที่เปรียบเสมือนสนามทดลองอันยิ่งใหญ่อันเต็มไปด้วยประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นเร้าใจ เปิดโอกาสให้ทุกคนได้เข้ามาค้นหา ทดลองไอเดียใหม่ และผสมผสานสไตล์ที่มีอยู่อย่างหลากหลายรูปแบบในสยามดิสคัฟเวอรี่ เพื่อค้นพบตัวตนที่แท้จริงของตนเองมากที่สุด
โครงการ Siam Discovery ได้ดีไซน์เนอร์ระดับโลก Oki Sato ผู้ก่อตั้งสำนักงานออกแบบ Nendo ซึ่งมีสาขาอยู่ทั้งกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และเมืองมิลาน ประเทศอิตาลี โดยมีบทบาทในฐานะหัวหน้าที่ปรึกษางานออกแบบอาคารและงานออกแบบตกแต่งภายใน ในขณะที่บริษัท เออร์เบิ้น อาร์คิเทค จำกัด รับหน้าที่ออกแบบสถาปัตยกรรมของโครงการ ซึ่งศูนย์การค้า Siam Discovery เป็นโครงการที่ใหญ่ที่สุดของ Nendo และเป็นโครงการแรกในประเทศไทยด้วย
“ตามกลยุทธ์การเติบโตของสยามพิวรรธน์ เรากำลังสร้างจุดหมายปลายทางที่ไม่เคยมีมาก่อนในประเทศไทย ซึ่งสามารถแข่งขันในระดับโลกได้ ภายในปีแรก เราตั้งเป้าว่าจะมีผู้มาเยี่ยมเยือนและตกหลุมรักสยามดิสคัฟเวอรี่โฉมใหม่ เป็นจำนวนกว่า 100,000 คนต่อวัน เป็นชาวไทย 65% และชาวต่างชาติ 35%” นางชฎาทิพกล่าว
นอกจากนี้สยามดิสคัฟเวอรี่ ก็ยังมีการปรับเปลี่ยนโลโก้เพื่อสื่อสารแนวคิดของสยามดิสคัฟเวอรี่โฉมใหม่ด้วย
สยามดิสคัฟเวอรี่ โฉมใหม่ เป็นอีกครั้งหนึ่งของการพลิกประวัติศาสตร์ เช่นเดียวกับเมื่อครั้งที่สยามพิวรรธน์ทุ่มงบประมาณลงทุน 1,800 ล้านบาทพลิกโฉมสยามเซ็นเตอร์ ให้เป็นเมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์เมื่อสามปีที่แล้ว และประสบความสำเร็จเป็นปรากฏการณ์ ซึ่งในครั้งนั้น ได้ปฏิวัติวงการค้าปลีกด้วยคอนเซ็ปต์แปลกใหม่ไม่เคยมีมาก่อน โดยร่วมทำงานกับบรรดาร้านค้าและเจ้าของแบรนด์ เพื่อมอบเอกลักษณ์ที่เป็นเอกภาพทั้งอาคาร โดยคอนเซ็ปต์ดังกล่าวเป็นที่ยอมรับและกล่าวขวัญไปทั่วโลก ได้รับรางวัลระดับนานาชาติจำนวน 8 รางวัล รวมทั้งได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน 5 ศูนย์การค้าที่ออกแบบดีที่สุดในโลก จากสมาคมชั้นนำของโลกทางด้านธุรกิจค้าปลีก คือ สมาคมศูนย์การค้าระหว่างประเทศ (International Council of Shopping Centers – ICSC)