สวัสดีค่ะ  รีวิวนี้พามาชมคอนโด Manor สนามบินน้ำ เป็นหมู่ตึกคอนโดมิเนียม High Rise 4 อาคาร  รวมอยู่ในโครงการเดียว  แบ่งเป็นคอนโดสูง 25 ชั้น 2 อาคาร และสูง 35 ชั้น 2 อาคาร  พัฒนาโครงการโดย เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ค่ะ  ตัวคอนโด แมเนอร์ สนามบินน้ำ ชื่อก็บอกชัดเจนว่าต้องอยู่บนถนนสนามบินน้ำแน่นอน  ที่ดินของคอนโดจะอยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา และติดด้านข้างของกระทรวงพาณิชย์  อยู่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วงสถานีสะพานพระนั่งเกล้าเท่าไหร่ค่ะ

ตอนนี้คอนโด Manor Sanambinnam ก็สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่แล้ว (ก.ค. 59)   อยู่สบายแวะเข้าไปเก็บรีวิวและภาพบรรยากาศจริงกับ แมเนอร์ สนามบินน้ำ คอนโดสไตล์รีสอร์ท มาให้ชมกันอย่างละเอียดเช่นเคยค่ะ

ข้อมูลเบื้องต้นของโครงการ

Manor Sanambinnam

(แมเนอร์ สนามบินน้ำ)

• เจ้าของโครงการ >>> บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
• ที่ตั้งโครงการ >>> ถนนสนามบินน้ำ ติดกระทรวงพาณิชย์
• ขนาดที่ดิน >>> ประมาณ 11 ไร่
• จำนวนชั้น >>> Tower A และ B สูง 25 ชั้น และ Tower C และ D สูง 35 ชั้น
• จำนวนอาคาร >>> 4 อาคาร
• ประเภทห้องและขนาดห้อง >>>
  • 1 ห้องนอน ขนาด 26.17 – 44.54 ตารางเมตร
  • 2 ห้องนอน ขนาด 61.82 – 73.75 ตารางเมตร
• จำนวนยูนิต >>> ห้องพักอาศัย 1,848 ยูนิต
• ที่จอดรถ >>> ประมาณ 50% รวมจอดซ้อนคัน
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> 1.79 ล้านบาท (ราคา 1 ห้องนอน 26 ตร.ม. ณ วันที่ 9/7/59)
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> เริ่มต้นประมาณ 62,000 บาท/ตารางเมตร
• พิกัด GPS >>> 13.882097, 100.485660
• เว็บไซต์โครงการ >>> Manor สนามบินน้ำ
• โทร >>> 02 526 8833

คอนโด Manor สนามบินน้ำ มีทางเข้าออกอยู่ตรงถนนสนามบินน้ำ ติดกันกระทรวงพาณิชย์ ส่วนอีกด้านจะติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาเลยค่ะ การเข้าถึงโครงการนั้น ถนนสนามบินน้ำเชื่อมต่อกับถนนรัตนาธิเบศร์ ถนนติวานนท์ และถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี โดยที่บริเวณถนนรัตนาธิเบศร์นั้นจะมีรถไฟฟ้าสายสีม่วงวิ่งผ่านค่ะ สถานีที่ใกล้ที่สุดจะเป็นสถานีสะพานพระนั่งเกล้า ซึ่งสถานีสะพานพระนั่งเกล้านั้นจะเป็นสถานีสุดท้ายก่อนที่จะข้ามแม่น้ำไปฝั่งบางกรวย-ไทรน้อย และฝั่งบางใหญ่ค่ะ  ส่วนถ้านั่งรถไฟฟ้าไป 1 สถานีก็จะมีเซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์  ถ้าขยับไปอีกสองสถานีจะเป็นสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี ที่เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีชมพูช่วงแคราย-มีนบุรีค่ะ

อีกหน่อยถ้ารถไฟฟ้าสายสีชมพูสร้างเสร็จ  จากโครงการ แมเนอร์ สนามบินน้ำ  ก็จะเข้าถึงรถไฟฟ้าได้ทั้งสายสีม่วงที่สถานีสะพานพระนั่งเกล้า และสายสีชมพูที่สถานีสนามบินน้ำค่ะ

เริ่มเดินทาง ดูทำเล

การเดินทางไป Manor สนามบินน้ำ วันนี้เราเริ่มเดินทางจากบนถนนรัตนาธิเบศร์ค่ะ วิ่งไปตามแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง ผ่าน MRT สถานีแยกนนทบุรี 1  ตรงนี้พยายามอยู่เลนซ้ายด้านใน  เพราะถ้าอยู่ทางขวาจะเป็นเลนที่ขึ้นสะพานพระนั่งเกล้าใหม่ข้ามไปฝั่งบางใหญ่  เราต้องตรงไปกลับรถใต้สะพานพระนั่งเกล้าเพื่อเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนสนามบินน้ำค่ะ  พอเลี้ยวเข้ามาบนถนนสนามบินน้ำก็ตรงมาเรื่อยๆ ตัวคอนโดจะเห็นเด่นชัดไม่มีอะไรมาบดบัง เป็น 4 อาคารอยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา และอยู่ก่อนถึงกระทรวงพาณิชย์ค่ะ

ติดกับที่ดินของโครงการ แมเนอร์ สนามบินน้ำ เป็น กระทรวงพาณิชย์ (หมายเลข 1) ส่วนอีกฝั่งจะเป็นพื้นที่โล่งขนาดใหญ่ (หมายเลข 2) ที่ตอนนี้เคลียร์พื้นที่ไปเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ทราบว่าจะขึ้นเป็นโครงการอะไรค่ะ ตัวที่ดินโครงการติดแม่น้ำเจ้าพระยา  มองไปฝั่งตรงข้ามจะเห็นวัดแดงธรรมชาติ (หมายเลข 3)  ซึ่งพื้นที่ฝั่งตรงข้ามยังเป็นพื้นที่สีเขียวซึ่งเป็นสวนของชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่มานานแล้ว  ความเจริญและความคึกคักจะไม่เท่ากับฝั่งที่โครงการอยู่ค่ะ

บริเวณรอบๆ โครงการ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นบ้านพักอาศัย  มีทั้งอาคารพาณิชย์ที่อยู่ติดถนน โครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้นในซอยต่างๆ ถัดจากที่โล่งขนาดใหญ่ที่ติดกับโครงการไปจะมีวัดแคนอก (หมายเลข 4) บริเวณนั้นจะมีร้านอาหารบ้านระเบียงน้ำ อยู่ด้วยเป็นร้านอาหารริมน้ำรูปแบบเรือนไทย  บรรยากาศดีค่ะ

กลับมาที่ฝั่งกระทรงพาณิชย์ ในอนาคตนั้นจะมีโครงการทำสะพานข้ามแม่น้ำจากถนนราชพฤกษ์มาตรงหลังกระทรวงพาณิชย์ด้วยค่ะ  สะพานนี้จะยาวไปจนสุดถนนวิภาวดีรังสิตนู้นเลย  โครงการนี้ทำมาเพื่อเชื่อมกรุงเทพตะวันตกให้เดินทางเข้าถึงกลางเมืองได้ง่ายขึ้นอีกทางนอกเหนือจากถนนรัตนาธิเบศร์ค่ะ

จากโครงการพอเลี้ยวโค้งมาตามถนนสนามบินน้ำแล้ว จะเจอวัดตําหนักใต้ (หมายเลข 5) บริเวณนี้ค่อนข้างคึกคักเพราะใกล้กับโซนของสถานที่ราชการ มีตลาดจิตรวรรณ (หมายเลข 6)  ตั้งอยู่ นอกจากนี้ฝั่งตรงข้ามกับตลาดก็มีหมู่บ้านจัดสรรขึ้นอยู่ด้วยอย่าง โครงการบุราศิริ สนามบินน้ำ และหมู่บ้านพลัส ซิตี์ พาร์ค สนามบินน้ำ (หมายเลข 7) ถ้าตรงไปเรื่อยๆ ตามถนนสนามบินน้ำนั้นจะไปออกถนนติวานนท์ได้ค่ะ

นอกจากนี้เราก็ยังสามารถเลี้ยวขวาไปถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี ซึ่งตรงสามแยกนี้จะมี สนามบินน้ำ มาร์เก็ต พาร์ค (หมายเลข 8) ด้านในจะมีร้านอาหาร รวมไปถึงเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส และธนาคาร ธกส. ค่ะ เส้นเลี่ยงเมืองนนทบุรีนี้ ถ้าตรงไปเรื่อยๆ ก็จะออกไปถนนรัตนาธิเบศร์ได้ ซึ่งตรงหัวมุมนั้นจะเป็นที่ตั้งของเซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ ซึ่งบริเวณนั้นนอกจากเซ็นทรัล ก็ยังมี โรบินสัน และ Index Living Mall อยู่ด้วยค่ะ ส่วนถ้าข้ามสะพานข้ามแยกไปก็จะไปตัวเมืองนนทบุรีค่ะ

ตัวโครงการ Manor สนามบินน้ำ อยู่ไม่ไกลจาก แนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง มากนัก  จากโครงการไปจนถึงสถานีสะพานพระนั่งเกล้านั้นระยะทางจะอยู่ที่ 1.4 กิโลเมตรค่ะ บริเวณที่ใกล้กับ MRT จะมีคอนโดขึ้นอยู่ตอนนี้ 3 โครงการ ได้แก่ The Politan Rive และ The Politan Breeze (หมายเลข 9)  ส่วนใกล้ๆ กันก็จะมี คอนโด Supalai City Resort พระนั่งเกล้า-เจ้าพระยา (หมายเลข 10) ซึ่งตอนนี้อยู่ในระหว่างการก่อสร้างค่ะ

ในเรื่องการเดินทางนั้นนอกจากจะมีรถไฟฟ้าสายสีม่วงวิ่งผ่านตามแนวถนนรัตนาธิเบศร์แล้ว ในอนาคตจะมีท่าเรือตรงสะพานพระนั่งเกล้า (หมายเลข 11)  เพิ่มมาด้วย  ซึ่งจะใช้เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างเรือกับรถไฟฟ้า ซึ่งพอสร้างเสร็จก็จะขยายเส้นทางของเรือจากตรงบริเวณท่าน้ำนนท์มาสุดตรงท่าพระนั่งเกล้าเลย   ถ้าตรงไปตามถนนสนามบินน้ำฝั่งทิศใต้จะมีกับโรงพยาบาลพระนั่งเกล้านนทบุรี (หมายเลข 12) เป็นโรงพยาบาลใหญ่ในย่านนี้  ลงมาเรื่อยๆ จะไปถึงท่าน้ำนนท์ได้ค่ะ ส่วนถ้าข้ามสะพานพระนั่งเกล้าไปก็จะไปถึงบางใหญ่ เซ็นทรัลพลาซ่า เวสต์เกท และสามารถออกถนนกาญจนาภิเษกได้เลยค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบคอนโด

พาไปรอบๆ พื้นที่ใกล้กับคอนโดแมเนอร์ สนามบินน้ำ กันก่อนค่ะ

เริ่มจากบรรยากาศทางเท้าด้านหน้าทางเข้าออกโครงการ ค่อนข้างกว้าง เดินสบายๆ บริเวณที่กั้นรั้วไว้อยู่จะเป็นโซนร้านค้าของทางเมเจอร์เองค่ะ

บรรยากาศถนนสนามบินน้ำฝั่งทางเข้าออกโครงการค่ะ เป็นถนนฝั่งละ 2 เลน มีเกาะกลาง

ถนนสนามบินน้ำฝั่งตรงข้ามจะมีร้านอาหารอยู่

มีทั้งเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น และอาคารชั้นเดียว

ติดกันเป็นโรงงานไม้

ด้านหน้าที่โล่งขนาดใหญ่ที่อยู่ติดกับโครงการค่ะ ล้อมรั้วและเคลียร์พื้นที่ไว้เรียบร้อย

ปากซอยนนทบุรี 23 ติดกับที่โล่ง เป็นทางเข้าวัดแคนอก

บรรยากาศแม่น้ำเจ้าพระยาค่ะ ฝั่งตรงข้ามพื้นที่ไทรม้า จะค่อนข้างเป็นที่โล่ง พื้นที่สีเขียวเป็นส่วนใหญ่ มีวัดแดงธรรมชาติตั้งอยู่ มองเห็นได้จากตัวโครงการ

ติดกันที่เป็นพื้นที่ของกระทรงพาณิชย์ มีท่าเรืออยู่

จากด้านหน้าทางเข้าออกกระทรวงพาณิชย์ มองเข้าไปเห็นคอนโดแมเนอร์ สนามบินน้ำอยู่ข้างๆ  ข้าราชการในกระทรวงถ้าซื้อเอาไว้นี่แทบจะเดินกลับมาทานข้าวกลางวันที่ห้องตัวเองได้เลย

สะพานลอยข้ามถนนสนามบินน้ำจะอยู่ด้านหน้ากระทรวงพาณิชย์ ข้ามไปเจอเซเว่น

ติดสะพานลอยก็มีป้ายรถประจำทาง

ที่กลับรถจะอยู่เลยสะพานลอยไปหน่อยค่ะ

บรรยากาศบ้านพักอาศััยบริเวณรอบๆ โครงการ ส่วนใหญ่ก็จะมีทั้งบ้าน 2 ชั้น ทาวน์เฮ้าส์ และอาคารพาณิชย์  กระจายกันไปแบบไม่ได้หนาแน่นมากค่ะ

ถนนสนามบินน้ำอีกรูป  ถนนเส้นนี้มีเกาะกลางถนน  ปลูกไม้พุ่มประดับตกแต่งตลอดแนว  เป็นถนนที่สวยเส้นหนึ่งค่ะ

ทางเข้าวัดตําหนักใต้

บรรยากาศบริเวณใกล้ๆ วัดตําหนักใต้ บริเวณนี้จะมีร้านค้า อาคาารพาณิชย์ขึ้นอยู่คึกคัก มีตลาดอยู่ด้วยค่ะ

ตลาดจิตรวรรณ นนทบุรี

อาคารพาณิชย์ฝั่งตรงข้ามตลาด

ปั๊ม LPG บริเวณถนนสนามบินน้ำ ใกล้ซอยนนบุรี 31

หมู่บ้านบุราศิริ สนามบินน้ำ  บนถนนสนามบินน้ำ

หมู่บ้านพลัส ซิตี์ พาร์ค สนามบินน้ำ

พื้นที่บางส่นที่เป็นของทหารก็มีกองน้ำมันเชื้อเพลิง กรมพลาธิการทหารบก

สามแยกตรงถนนสนามบินน้ำ ตรงไปจะไปออกถนนติวานนท์ ส่วนถ้าเลี้ยวขวาจะไปถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี ไปออกถนนรัตนาธิเบศร์

สนามบินน้ำ มาร์เก็ต พาร์ค อยู่หัวมุมสามแยกตรงถนนสนามบินน้ำ กับถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี

บรรยากาศบริเวณถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี ถนนก็จะคล้ายๆ กับตรงสนามบินน้ำ แต่ก็ค่อยข้างเงียบกว่า ส่วนใหญ่ใช่เป็นทางเชื่อมต่อไปยังถนนรัตนาธิเบศร์ และนนทบุรี

โรงเรียนอนุบาลราชประสิทธิ์ บริเวณถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี

ถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี กับแยกที่ตัดกับถนนรัตนาธิเบศร์ จะมีสะพานข้ามแยกไปตัวเมืองนนทบุรี ส่วนถ้าเลี้ยวซ้ายก็จะไปแยกแคราย  ผ่านหน้าเซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ ค่ะ

Central Plaza รัตนาธิเบศร์ เข้าจากฝั่งถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี

ด้านในนอกจากส่วนของเซ็นทรัล ก็มีส่วนที่เป็นห้างโรบินสัน และ Index living mall ด้วย

มาดูบริเวณถนนสนามบินน้ำ ช่วงที่อยู่ใกล้กับถนนรัตนาธิเบศร์และ MRT สะพานพระนั่งเกล้ากันต่อเลยค่ะ

บรรยากาศต้นๆ ถนนสนามบินน้ำ ใกล้ MRT สะพานพระนั่งเกล้า

ปากซอยนนทบุรี 15  มีธนาคารไทยพาณิชย์  สาขาสนามบินน้ำ

ฝั่งตรงข้ามปากซอยนนทบุรี 15 จะเป็นคอนโด ศุภาลัย City Resort พระนั่งเกล้า-เจ้าพระยา

บริเวณแยกถนนสนามบินน้ำ ตัดกับถนนรัตนาธิเบศร์ มองไปเห็นแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง

รถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีสะพานพระนั่งเกล้าจะอยู่คร่อมแยกถนนรัตนาธิเบศร์ ตัดกับถนนสนามบินน้ำเลยค่ะ

สะพานพระนั่งเกล้าเก่า ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปบางใหญ่ค่ะ ด้านบนสะพานพระนั่งเกล้าจะเป็นสะพานพระนั่งเกล้าใหม่ค่ะ

ริมแม่น้ำเจ้าพระยาใกล้กับตัวสะพานพระนั่งเกล้า และตัวสถานีรถไฟฟ้าจะมีโครงการทำท่าเรือสะพานพระนั่งเกล้าอยู่ด้วย

บรรยากาศบนสะพานพระนั่งเกล้าค่ะ ถ้ามาจากฝั่งไทรม้า บางใหญ่ แล้วจะเข้าถนนสนามบินน้ำ ต้องขึ้นสะพานพระนั่งเกล้าเก่าเท่านั้น  ถ้าขึ้นสะพานพระนั่งเกล้าใหม่ (ด้านบน) เวลาลงสะพานแล้วจะเลยทางเข้าถนนสนามบินน้ำค่ะ

Central Plaza รัตนาธิเบศร์ ใกล้สถานีแยกนนทบุรี 1

บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ @ รัตนาธิเบศร์ 2 ใกล้สถานีบางกระสอ

เริ่มเปิดประตู  ไปดูในโครงการ

เข้ามาที่ดูภายในโครงการ แมเนอร์ สนามบินน้ำกันเลยค่ะ

เริ่มจากถนนทางเข้าออกโครงการ จากถนนสนามบินน้ำ เข้ามาประมาณ 100 เมตรก็ถึงทางเข้าออกโครงการ

เงยหน้ามองดูอาคารหน่อย  มุมนี้ดูอลังการดี

มองย้อนกลับไป ถนนทางเข้าออกเป็น 2 เลนสวนกันแบบสบายๆ ฝั่งนึงจะติดกับพื้นที่ Community Mall ชั้นเดียว ของทางเมเจอร์ค่ะ

ด้านขวามองไปเห็นอาคารของกระทรวงพาณิชย์ มีทางเดินแบบ Covered Walkway อยู่ติดตัวอาคารฝั่งอาคาร A

ทางเข้าออกโครงการส่วนกลางระหว่าง Tower A และ B (ด้านหน้า)

จุด Drop-Off  ที่พอขับรถเข้ามาสุดทาง จะบังคับให้เลี้ยวไปที่จอดรถค่ะ

ถนนด้านข้างโครงการ พอเลยตัว Tower B ไปแล้วก็เลี้ยวขวาค่ะ รถจะไม่สามารถวิ่งเข้าไปด้านในสุดที่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา (Tower C และ D) ได้

เลี้ยวขวามาจะเป็นถนนตรงกลางที่อยู่ระหว่าง Tower A และ B ที่อยู่ติดด้านหน้าทางเข้าออกโครงการ และ Tower C และ D ที่อยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยาค่ะ

ที่จอดรถจะอยู่บริเวณชั้น 1-5 บริเวณโพเดียมของ Tower A และ B ค่ะ

ทางเข้าที่จอดรถ  มีไม้กระดกกั้นให้

บรรยากาศด้านในที่จอดรถ ที่จอดรถมีตั้งแต่ชั้น 1- 5 ใต้ Tower A และ B ค่ะ  ทำมาเรียบร้อย มีไฟอยู่เป็นระยะ ไม่มืด

จอดรถเสร็จแล้วจะมีทางเข้าอาคารอยู่ เข้ามาใน Tower A และ B ด้านหน้าจะเป็นพื้นที่ Lobby ส่วนกลางที่ตอนนี้ทำเป็นสำนักงานขายด้วย

บรรยากาศบริเวณ Lobby ส่วนกลางอีกรูป  ตกแต่งด้วยโทนสีอ่อน สีขาว, ครีม และชมพูอ่อน  เน้นเฟอร์นิเจอร์แนวร่วมสมัย

ดูผังโครงการ  ตำแหน่งการเข้าถึง

ตัวที่ดินของ Manor Sanambinnam จะมีทางเข้าออกอยู่ติดกับถนนสนามบินน้ำค่ะ แต่ตัวอาคารจะอยู่เข้าไปด้านใน ใกล้ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ห่างจากถนนสนามบินน้ำประมาณ 100 เมตร  เดินเข้าออกได้ไม่ไกล  ติดกับถนนทางเข้าออกคอนโดจะเป็นพื้นที่ของ Community mall ที่เมเจอร์กันเอาไว้พัฒนาในอนาคต  ด้านในจะมีร้านค้าอยู่ประมาณ 11-12 ร้าน  ตามแผนตอนนี้ก็จะมี เซเว่นแบบพรีเมี่ยม ร้านซักรีด ร้านยาฟาร์มาซี กาแฟอเมซอน ร้านก๋วยเตี๋ยวไข่ย้อนยุค และธนาคารกรุงเทพ  ตอนนี้อยู่ในระหว่างการคัดเลือกร้านอาหารมาอีก 3-4 ร้านค่ะ  ถ้าทำเสร็จก็จะเป็นจุดอำนวยความสะดวกที่ดี  เพราะลงมาหน้าคอนโดก็สามารถหาซื้อของกินของใช้เล็กๆ น้อยๆ ได้  ทำธุรกรรมการเงินได้ โดยที่ไม่ต้องออกไปไหนไกล

ส่วนด้านข้างของโครงการฝั่งนึงจะติดกับกระทรวงพาณิชย์ และอีกฝั่งจะเป็นที่ดินเปล่าขนาดใหญ่ ด้านหน้าจะเป็นโรงงานไม้ค่ะ

ถนนสนามบินน้ำตอนนี้เป็นถนนฝั่งละ 2 เลนส่วนกัน มีเกาะกลาง ด้านหน้ากระทรวงพาณิชย์จะมีที่กลับรถอยู่บริเวณซอยนนทบุรี 24 ค่ะ  นอกจากนี้ด้าหนน้ากระทรวงพาณิชย์ก็ยังมีป้ายรถประจำทาง รวมไปถึงสะพานข้ามไปฝั่งตรงข้ามที่มีเซเว่น และร้านอาคารตั้งอยู่ ในอนาคตทางโครงการบอกไว้ว่าจะมีแผนขยายถนนสนามบินน้ำ จาก 4 เลน เป็น 6 เลน ซึ่งจะเวนคืนกินพื้นที่บริเวณฝั่งตรงข้ามกับกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเป็นฝั่งตรงข้ามกับโครงการเพื่อขยายถนนค่ะ

Community Mall ด้านหน้าคอนโดค่ะ ตอนนี้ก็กำลังก่อสร้างอยู่

บรรยากาศบริเวณด้านหน้าโครงการที่เป็นถนนสนามบินน้ำค่ะ ส่วนใหญ่รอบๆ บริเวณใกล้ๆ ก็จะเป็นบ้านพักอาศัย ด้านขวามือตรงข้ามกับพื้นที่คอมมูนิตี้ มอลล์ เป็นโรงไม้ค่ะ

ติดกับเป็นกระทรวงพาณิชย์  จะเห็นว่ารอบๆ นั้นไม่มีอาคารสูงอื่นมาบังวิวเลย  โล่งมาก

กระทรวงพาณิชย์  มองจากฝั่งริมน้ำเจ้าพระยาเข้าไปค่ะ

อีกด้านจะเป็นพื้นที่โล่งขนาดใหญ่มากๆ  ตรงนี้เราไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นที่ดินของใคร

ทิศทางแดด  ฝั่งไหนร้อน?  ฝั่งไหนร่ม?

คอนโด Manor สนามบินน้ำ มีด้วยกัน 4 Tower แบ่งเป็น 2 ฝั่ง คือ Tower A วางเรียงต่อไปกับ Tower D และ Tower B วางเรียงไปกับ Tower C หลักๆ แล้วห้องของทั้ง 4 Tower จะแบ่งเป็นฝั่งที่หันเข้าด้านคอร์ท เป็นวิวส่วนกลาง กับฝั่งที่หันออกด้านนอกโครงการค่ะ  ซึ่งห้องที่หันหน้าเข้าหาส่วนกลางจะหันหน้าหาเห็น Tower ฝั่งตรงข้ามด้วย  ระหว่างอาคาร A และ B กับ อาคาร C และ D ที่หันหน้าเข้าหากัน จะห่างกันประมาณ 35 เมตร  ระยะห่างจริงสามารถไปดูได้ที่โครงการเลยเพราะห้องก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว

ห้องด้านในก็จะค่อนข้างร่ม เพราะตัวอาคารจะบังแดดซึ่งกันและกัน ส่วนห้องที่หันด้านนอกนั้น ที่ Tower A และ D  ด้านที่หันไปทางกระทรวงพาณิชย์จะร่มกว่าห้องที่หันออกไปทางถนนรัตนาธิเบศร์  ของ Tower B และ C  ซึ่งเป็นทิศตะวันตกเฉียงใต้ค่ะ

โมเดลอาคาร

มาดูตัวโมเดล เพื่อให้เป็นภาพรวมของโครงการกันเพิ่มขึ้นค่ะ  คอนโดจะมีด้วยกัน 4 Tower ซึ่ง Tower A และ B สูง 25 ชั้น จะอยู่ติดทางเข้าออก มีโพเดียมตรงกลางเชื่อมต่อกับเป็นพื้นที่จอดรถและพื้นที่ส่วนกลาง ส่วนด้านในจะเป็น Tower C และ D สูง 35 ชั้น ติดแม่น้ำเจ้าพระยา

รูปด้านข้าง ฝั่งที่ติดกับกระทรวงพาณิชย์ค่ะ จะเป็น Tower A และ D

ฝั่ง Tower B และ C

ที่จอดรถใต้ Tower A และ B ที่ชั้น 1-5

ตัวห้องที่อยู่เหนือโพเดียมที่จอดรถจะได้ระเบียงกว้างกว่าห้องชั้นอื่นๆ ค่ะ

ทางเชื่อมระหว่าง Tower B และ Tower  C ที่ชั้น 6 ซึ่งเป็นชั้นส่วนกลาง บริเวณชั้น 6 ของ Tower  A และ D ก็จะมีทางเชื่อมแบบนี้เช่นกันค่ะ

พื้นที่ส่วนกลางอีกจุดอยู่ติดริมน้ำเจ้าพระยา ใกล้กับ Tower C และ D

ซูมให้ดูพื้นที่ส่วนกลางริมน้ำค่ะ มีสระว่ายน้ำ และอาคารสูง 2 ชั้นเป็นฟิตเนสและห้องอเนกประสงค์  สระว่ายน้ำกว้างใหญ่เต็มที่มาก

หน้าตาอาคารจริง

ดูโมเดลเสร็จ  ไปดูเทียบหน้าตาอาคารจริงกันเลยค่ะ

เริ่มจาก Tower D และ C ที่อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยากันก่อนค่ะ  มองเข้าไปด้านในเป็นอาคาร A และ B มีพื้นที่ส่วนกลางอยู่ตรงชั้น 6

ห้องมุมปลายอาคารทั้ง Tower C และ D จะเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอน ได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยาแบบ 180 องศา

จากฝั่งที่หันออกด้านนอกค่ะ

ให้ดูหน้าตา 2 ห้องนอนที่ได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยา

วิวแบบนี้เลยค่ะ โล่งๆ

จาก Tower D ถัดไปเป็น Tower A ค่ะ

หน้าตาอาคารจากมุมด้านในค่ะ ระยะห่างจาก Tower A ที่หันไปเจอกับ Tower B และ Tower C ที่หันเข้าหา Tower D ค่อนข้างห่างกัน 35 เมตร

ส่วน Tower A จะวางเรียงไปกับ D และ Tower B ที่วางเรียงต่อกับ C

มีทางเชื่อมเดินถึงกันที่ชั้น 6 ด้วย

หน้าตา Tower C จะเหมือน Tower D เลยค่ะ  (แบบ Mirror หากัน)  ตัว Tower C และ D จะค่อนข้างดูชะลูดกว่า Tower A และ B

Tower A มองจากชั้น 6 ค่ะ  ซึ่งทั้ง Tower A และ B จะเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนทั้งหมด  ไม่มี 2 ห้องนอนเลย

จบด้วยพื้นที่ภาพบรรยากาศหันไปที่ Tower A ค่ะ จะเห็นส่วนกลางที่เป็นสระว่ายน้ำอยู่ที่ชั้น 6

พื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งานเป็นอย่างไร

พื้นที่ส่วนกลางจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ ค่ะ คือที่ชั้น 1 บริเวณพื้นที่ริมน้ำไปจนถึงคอร์ทระหว่าง Tower C และ D โดยบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาจะมีสระว่ายน้ำระบบเกลือความยาว 48 เมตร สระเด็ก และพื้นที่นั่งเล่นริมสระ ติดกับจะเป็นอาคาร 2 ชั้น ด้านในมีฟิตเนสที่หันหน้าเข้าสระว่ายน้ำ และห้องน้ำที่มีซาวน่าและสตรีมอยู่ด้วยค่ะ ชั้น 2 จะมีห้องอเนกประสงค์  ส่วนอีกฝั่งนึงของสระว่ายน้ำจะมีสนามบาสเกตบอลอยู่  และบริเวณพื้นที่ระหว่างTower C และ Tower D นั้นจะเป็นสวนค่ะ มีศาลาอยู่ตรงกลางไว้สำหรับนั่งเล่น ชมวิวพระอาทิตย์ตก ชิลล์ๆ

พื้นที่ส่วนกลางอีกจุดจะเป็นที่ชั้น 6 ค่ะ อยู่ระหว่าง Tower A และ B  บนเหนือโพเดียมที่จอดรถ มีสระว่ายน้ำระบบเกลือ ความยาว 50 เมตร สระเด็ก ที่นั่งเล่นริมสระ และศาลา ส่วนใน Tower A และ B นั้น บางส่วนที่ติดกับพื้นที่สวนและสระว่ายน้ำจะเป็นส่วนของพื้นที่ส่วนกลาง อย่าง ห้องสนุกเกอร์, ห้องสันทนาการ, ห้องปิงปอง, ห้องสมุด, ห้องโยคะ, ฟิตเนส และห้องเด็กเล่น ใกล้กับบริเวณพื้นที่ส่วนกลางนี้จะมีทางเชื่อมไป Tower  C และ D ด้วยค่ะ นอกจากนี้ชั้นดาดฟ้าของทั้ง 4 Tower ก็จะเป็นพื้นที่ส่วนกลาง ปูหญ้าเทียม สามารถขึ้นไปนั่งเล่นชมวิวได้

1. สระว่ายน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา
2. สระเด็ก
3. ส่วนพักผ่อนชมวิวริมแม่น้ำเจ้าพระยา
4. ห้องออกกำลังกาย
5. ห้องเปลี่ยนเครื่องแต่งตัว
6. สวนริมแม่น้ำเจ้าพระยา
7. ลู่งวิ่งรอบโครงการ
8. สนามบาสเกตบอล
9. สนามเด็กเล่น
10. ห้องซาวน่า และห้องสตรีม
11. ลานกิจกรรมอเนกประสงค์
12. ลานพักผ่อนใต้อาคาร
13. โถงรับรองกลางแจ้งของอาคาร C และ D
14. ห้องอเนกประสงค์
15. เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ

1. จุดชมวิวพระอาทิตย์ตก
2. สระว่ายน้ำ
3. สระเด็ก
4. ที่นั่งเล่นส่วนตัว
5. ห้องสนุกเกอร์
6. ห้องสันทนาการ
7. ห้องปิงปอง
8. ห้องสมุด
9. ห้องโยคะ
10. ห้องเด็กเล็ก
11. ห้องออกกำลังกาย
12. ลานพักผ่อนริมสระน้ำ

มาดูบรรยากาศของพื้นที่ส่วนกลางๆ ภายในโครงการกันค่ะ เริ่มจากส่วนของ Mail box ใต้อาคาร

ตู้จดหมายที่ชั้น 1

จะขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นต่างๆ ได้ ต้องสแกนบัตรผ่านประตูก่อนค่ะ

ลิฟต์ในแต่ละอาคารมีด้วยกัน 3 ตัวค่ะ เป็นแบบล็อคชั้น ขึ้นได้เฉพาะชั้นที่เป็นห้องพักอาศัยของตัวเอง และชั้นพื้นที่ส่วนกลางค่ะ

ตอนนี้เราอยู่บริเวณ Tower  B ที่ชั้น 6 พาขึ้นไปดูพื้นที่ส่วนกลางระหว่าง Tower A และ B กันก่อน

จากลิฟต์จะมีทางออกไปส่วนกลางด้านนอกเลยค่ะ

ออกมาเจอกับศาลาก่อนเลย

บริเวณนี้ทำไว้เป็น feature ศาลาตกแต่งเฉยๆ ค่ะ ไม่มีพื้นที่นั่งบริเวณนี้

จากตรงศาลามองออกไปฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาค่ะ โครงการทำพื้นที่ลายดาวแปดแฉกตามบริเวณต่างๆ ในพื้นที่ส่วนกลางเลยค่ะ ตกแต่งมาเป็นสไตล์รีสอร์ท

สระว่ายน้ำอยู่ตรงกลางระหว่าง Tower A และ B มีศาลาและที่นั่งพักผ่อนริมสระ

ทางเดินส่วนกลางใกล้กับตัว Tower ค่ะ ใช้เป็นทางวิ่งจ็อกกิ้งได้ค่ะ

มาดูสระว่ายน้ำกันค่ะ

ตัวศาลานั่งเล่นริมสระจะอยู่ไปทางฝั่ง Tower B

ด้านในศาลามีเก้าอี้นั่งเล่น นอนเล่นสี่ที่

ดีเทลสระว่ายน้ำค่ะ ทำมาเรียบร้อยดี

พื้นที่ล้างตัวก่อนลงสระ

ปลายสุดของอาคาร มองกลับไปที่ศาลาที่เราเห็นตอนแรกค่ะ สระว่ายน้ำสระนี้ยาว 50 เมตร ว่ายออกกำลังกายสบายๆ

ส่วนฝั่ง Tower A จะเป็นทางลงสระเพียงอย่างเดียว ไม่มีศาลาค่ะ สระว่ายน้ำจะมีสระเด็กแยกต่างหากด้วย

ทางเดินลงสระว่ายน้ำ

ที่ชั้น 6 จะมีห้องพักอาศัยอยู่ด้วยค่ะ จากส่วนกลางมองเห็นได้อยู่  ถ้าคนที่ชอบความเป็นส่วนตัวหน่อยก็อาจจะต้องเลือกชั้นบนๆ ขึ้นไป ส่วนคนที่ชอบวิวสระว่ายน้ำ หรือสวน รวมถึงชอบใช้พื้นที่ส่วนกลาง น่าจะชอบห้องตรงนี้  ถ้าไปอยู่ในห้องแล้วอยากเป็นส่วนตัวก็ปิดม่านทึบเอา

นอกจากนี้ก็ยังมีพื้นที่ส่วนกลางที่อยู่ในอาคาร แบ่งเป็นห้องต่างๆ อีกด้วยค่ะ

ทางเข้าออกอาคารจากพื้นที่ส่วนกลางอีกฝั่งที่อยู่ใกล้กับทางเดินเชื่อมต่อกับ Tower C

ให้ดูส่วนกลางที่ชั้น 6 อีกรูป ตกแต่งสวยงามดีค่ะ

.

เข้ามาดูพื้นที่ส่วนกลางด้านในอาคารกันบ้าง แต่ละห้องจะมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ต่างกันค่ะ อย่างเช่น ห้องสนุ๊กเกอร์ ห้องโยคะ ห้องสมุด ฟิตเนส และห้องเด็กเล่น

ทางเดินเชื่อมต่อระหว่าง Tower B ไป Tower C

รูปนี้ยืนถ่ายจากบริเวณทางเดิน Sky walk อาคาร B เชื่อมกับอาคาร C  มองไปฝั่งตรงข้ามก็เห็น Sky walk แบบเดียวกันที่เชื่อมระหว่างอาคาร A และ D ค่ะ  จากพื้นที่สระว่ายน้ำตรงกลาง เหนือโพเดียมที่จอดรถจะมีพื้นที่ที่เป็นราวกันตกกระจก สามารถออกไปยืนชมวิวพระอาทิตย์ตกได้ค่ะ

พื้นที่ส่วนกลางบริเวณชั้น 6  มองมุมสูงจากห้องพักอาศัยที่ชั้น 12A ค่ะ มองลงมาสวยดี  จัดพื้นที่ต่างๆ เป็นระเบียบเรียบร้อย

พื้นที่ส่วนกลางที่ชั้น 1 ระหว่าง Tower C และ D ค่ะ เป็นพื้นที่สวน

ส่วนพื้นที่ที่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาก็มีสระว่ายน้ำ และอาคาร 2 ชั้นที่เป็นพื้นที่ส่วนกลาง (ด้านขวามือสุด)

ดูพื้นที่ส่วนกลางที่ชั้น 6 ไปแล้วก็ลงมาดูพื้นที่ส่วนกลางบริเวณชั้น 1 กันบ้างค่ะ ตรงทางเข้าออกอาคารจะมีทางลาดสำหรับรถเข็นอยู่ค่ะ

ทางเดิน Covered Walkway ที่อยู่ยาวไปตั้งแต่ด้าหน้าอาคาร A จนถึงสุดอาคาร D จะบังแดดบังฝนได้ตลอดช่วง  ยกเว้นตรงที่ถนนตัดผ่านนิดหน่อย

.

ทางเดินด้านหน้า Tower C บริเวณสวนชั้น 1 ระหว่าง Tower C และ D ค่ะ เดินตรงไปสุดทาง ก็เป็นพื้นที่สระว่ายน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา  ทางรอบๆ ก็ใช้เป็น jogging track สำหรับวิ่งออกกำลังกายได้นะคะ

ที่นั่งตรงกลางบริเวณสวนค่ะ

วิวจากตรงศาลา ซึ่งตอนเย็นๆ สามารถมานั่งดูพระอาทิตย์ตกได้ เพราะเป็นทิศตะวันตกค่ะ

ตรงกลางของ Tower C และ D จะมีช่องเปิดอยู่ค่ะ ที่ชั้น 2 และ 3 จะมีทางเดินเชื่อมอยู่

ห้องพักอาศัยของ Tower  C และ D จะเริ่มที่ชั้น 1 เลย ไม่มีพื้นที่จอดรถ ซึ่งห้องที่ชั้น 1 จะสามารถเข้าได้ทั้งจากสวนและทางเดินด้านในอาคารค่ะ  รอบๆ ก็จะปลูกแนวต้นไม้พุ่มเอาไว้  เพื่อให้ดูเป็นส่วนตัวมากขึ้นหน่อย

พื้นที่สีเขียวระหว่าง Tower C และ D กับส่วนของพื้นที่สระว่ายน้ำติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณนี้รถจะไม่สามารถเข้ามาถึงได้ค่ะ ลูกบ้านสามารถใช้พื้นที่ได้อย่างเต็มที่  บางส่วนจะปลูกหญ้า  บางส่วนก็ทำเป็นบล็อกตัวหนอน

มีศาลานั่งเล่นติดกับสวน

จากศาลาด้านหน้าสระว่ายน้ำมองกลับไปที่พื้นที่ส่วนบริเวณ Tower C และ D

ป้ายบอกตำแหน่งทางไป facilities ต่างๆ บริเวณสวนค่ะ

ถ้าเดินออกมาจากอาคาร จะเป็นป้ายบอกทางไปพื้นที่ส่วนกลางต่างๆ

ที่วิ่ง Jogging รอบอาคาร  ปูด้วยบล็อกตัวหนอน

สนามสตรีทบาสก็มีค่ะ

เดินขึ้นบันไดมาเล็กน้อยก็เจอสระว่ายน้ำ

ที่ล้างตัวก่อนลงสระ

สระว่ายน้ำระบบเกลือยาว 48 เมตร ติดกันเป็นอาคารทรงกลม 2 ชั้น เป็นพื้นที่ส่วนกลางเช่นกัน

จากสระว่ายน้ำ ก็จะมีพื้นที่สวนไว้เดินเล่นริมน้ำ

ศาลพระภูมิของโครงการอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา

มีทางลงไปริมน้ำ ส่วนนี้เตรียมไว้เพื่อใช้เป็นพื้นที่กิจกรรมพิเศษ อย่างเช่น วันลอยกระทง ค่ะ  ไม่ได้ให้เอาเรือมาเทียบท่าขึ้นตรงนี้นะ

พื้นที่ส่วนกลางริมน้ำมุมกว้างอีกรูป

เข้ามาด้านในอาคารทรงกลมจะเป็นฟิตเนส ได้วิวสระว่ายน้ำ สวน และแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยค่ะ ฟิตเนสตรงนี้เครื่องเล่นจะมีเยอะกว่าบริเวณชั้น 6 ซึ่งเป็นอีกจุดที่มีห้องฟิตเนสค่ะ  ลูกบ้านก็สามารถใช้ร่วมกันได้ทั้ง 2 ที่  ไม่ว่าจะอยู่ตึกไหนก็ตาม

มุมดัมเบลก็มา  มองออกไปนอกหน้าต่างเห็นต้นไม้เขียวๆ

ห้องน้ำแยกชายหญิงอยู่ติดกับห้องฟิตเนส

ด้านในห้องน้ำค่ะ

มีห้องซาวน่านั่งได้ 2 ที่

ขึ้นไปดูชั้น 2 กันค่ะ

พื้นที่ Lobby อีกจุด เอาไว้นั่งเล่น รับแขกได้ บริเวณชั้น 2 ตกแต่งเน้นเรียบหรู

.

แถมด้วยรูปวิวบรรยากาศแม่น้ำเจ้าพระยาจากตัวโครงการมาฝากกันค่ะ ^^

(รูปวิวนี้ขอจากโครงการมานะคะ ไม่ได้ถ่ายเองเหมือนรูปอื่นในรีวิวนี้)

บรรยากาศตอนกลางคืน

เปิดผังคอนโด  Typical Floor Plan

Master Plan คอนโด Manor สนามบินน้ำ

จากถนนใหญ่เข้ามาถึงตัวอาคาร แมเนอร์ สนามบินน้ำ ด้านหน้าลึกประมาณ 100 เมตร จะมีวงเวียน Drop-off อยู่ตรงกลางระหว่าง Tower A และ B ส่วนถ้าจะไปจอดรถที่อาคารจอดรถใต้ Tower A และ B นั้นต้องเลี้ยวซ้ายวนเข้าที่จอดรถทางด้านหลังค่ะ รถจะวิ่งได้ถึงถนนที่อยู่ระหว่าง Tower A, B กับ Tower C, D เท่านั้น เป็นการเดินรถทางเดียว ส่วนช่องทางออกที่จอดรถจะอยู่ด้านข้างทางทิศเหนือค่ะ  ลองดูลูกศรสีชมพูจะเข้าใจทิศทางการวนรถในโครงการได้ชัดเจน

ส่วนพื้นที่บริเวณ Tower C และ D ที่รถไม่สามารถวิ่งเข้าไปได้นั้น จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางติดแม่น้ำเจ้าพระยาค่ะ Tower C และ D จะมีห้องพักอาศัยเริ่มที่ชั้น 1 เลย เพราะไม่มีพื้นที่จอดรถ ทางด้านข้างของ Tower A และ D นั้นทางโครงการทำทางเดินแบบ Covered walkway ไว้ให้ด้วยค่ะ เดินไปได้ถึงพื้นที่ส่วนกลางติดแม่น้ำเจ้าพระยา

Floor Plan ชั้น 2-5 คอนโด Manor สนามบินน้ำ

อย่างที่บอกไปว่าห้องพักอาศัยของ Tower C และ D จะเริ่มที่ชั้น 1 เลย ซึ่งแปลนชั้น 1-3 จะคล้ายๆ กัน คือเป็นห้องออกเป็นสองด้าน โดยมีทางเดินเชื่อมถึงกัน ถ้าดูที่รูปด้านจะเห็นที่ช่องเปิดที่มีทางเดินเชื่อมต่อกันทุกชั้นค่ะ ปลายอาคารทางทิศตะวันตกจะเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอน ขนาดประมาณ 73 ตารางเมตร ที่ได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยาแบบ 180 องศา ห้องส่วนใหญ่จะเป็นแบบ 1 ห้องนอน ขนาดประมาณ 31 ตารางเมตร ส่วนลิฟต์จะอยู่บริเวณมุมอาคารตรงข้ามกับห้องมุมที่เป็น 1 ห้องนอน ขนาด 37.74 ตารางเมตร (แปลนสีฟ้า) มีลิฟต์ด้วยกัน 3 ตัว ต่อ 1 อาคาร

พอชั้น 4 เป็นต้นไป แปลน Tower C และ D ก็จะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าผืนเดียวกันแล้วค่ะ ช่องเปิดจะถูกแทนด้วยห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาดประมาณ 31 ตารางเมตร ความหนาแน่นของห้องพักอาศัย 16 ห้องต่อชั้น  ส่วนที่ Tower  A และ B นั้นตั้งแต่ชั้น 1-5 จะเป็นพื้นที่จอดรถค่ะ ห้องพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 6 ซึ่งเป็นชั้นส่วนกลาง

Floor Plan ชั้น 7-25 คอนโด Manor สนามบินน้ำ

ตั้งแต่ชั้น 7 ไปจนถึงชั้น 25 ที่ Tower A และ B นั้น ห้องที่หันหน้าเข้าพื้นที่ส่วนกลางจะเป็น 1 ห้องนอน ขนาดประมาณ 26 ตารางเมตร ส่วนห้องที่หันออกด้านนอกได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยาจะเป็น 1 ห้องนอน ขนาดประมาณ 29 ตารางเมตรค่ะ มีจำนวนห้องสูงสุดต่อชั้นอยู่ที่ 24 ห้องค่ะ

ส่วน Tower C และ D แปลนก็จะเหมือนกันค่ะ มี 13 ห้องต่อชั้น ความหนาแน่นจะน้อยกว่า Tower A และ B เกือบเท่าตัวเลย  การวางห้องจะไม่เหมือนกับ Tower A และ  B ตรงที่จะไม่ได้แบ่งห้องตามมุมนอกและในอาคาร แต่แบ่งเป็นด้านที่ติดแม่น้ำเจ้าพระยามากกว่าจะเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอน ห้องมุมจะเป็นขนาด 73 ตารางเมตร ขยับมาเป็นแบบ 2 ห้องนอน 62 ตารางเมตร มีชั้นละ 3 ห้อง และห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาดประมาณ 31 ตารางเมตรค่ะ เป็นส่วนใหญ่ค่ะ  เรียกว่ายิ่งใกล้แม่น้ำเจ้าพระยายิ่งเป็นห้องขนาดใหญ่ขึ้น

Floor Plan ชั้น 26 คอนโด Manor สนามบินน้ำ

ห้องพักอาศัยของ Tower A และ B จะมีถึงชั้น 25 ค่ะ ที่ชั้น 26 จะเป็นพื้นที่สวนดาดฟ้า สามารถขึ้นมานั่งเล่นได้   ส่วน Tower C และ D นั้นห้องพักอาศัยจะมีถึงชั้น 35 ค่ะ ด้านบนดาดฟ้าก็มีสวนเหมือนของ Tower A และ B เช่นกัน  แต่วิวจะสวยกว่าเพราะได้เห็นแม่น้ำเต็มๆ

แปลนห้องดีไหม?

แปลนคอนโดแมเนอร์ สนามบินน้ำ ที่ Tower A และ B จะมีแต่ห้องแบบ 1 ห้องนอนเท่านั้นค่ะ เป็นไซส์เล็ก เริ่มตั้งแต่ขนาดประมาณ 26  ตารางเมตรที่เป็นห้องด้านใน ส่วนห้องด้านนอกจะเป็นห้องขนาด 29 ตารางเมตร ถ้าเป็นห้องมุมขนาดจะเพิ่มขึ้นมานิดหน่อย ส่วนที่ Tower C และ D นั้นจะมีทั้งแบบ 1 และ 2 ห้องนอน โดยที่ห้อง ไซส์เล็กสุดจะเป็น 1 ห้องนอน ขนาดประมาณ 31 ตารางเมตรค่ะ

แปลนห้องคอนโด Manor สนามบินน้ำ

แบบ 1 ห้องนอน ขนาดประมาณ 26 ตารางเมตร

เริ่มจากแปลน 1 ห้องนอน ขนาดประมาณ 26  ตารางเมตร ซึ่งเป็นไซส์เล็กสุดในโครงการกันก่อนค่ะ ห้องนอนของแบบนี้จะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน  ทำให้ส่วนห้องนอนกับส่วนนั่งเล่นจะมองเห็นกันได้

เปิดประตูห้องเข้ามาจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นก่อนเลย เชื่อมต่อกับห้องนอนที่กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ห้องนอนจะได้วิวส่วนกลางที่เป็นสระว่ายน้ำและสวนชั้น 6  ตำแหน่งวางทีวีในห้องนอนจะเยื้องกับปลายเตียงหน่อย  เวลานอนดูทีวีต้องมองเฉียงๆ  ระหว่างห้องนอนกับพืื้นที่นั่งเล่นจะมีทางเข้าไปส่วน Pantry ครัว และพื้นที่รับประทานอาหาร ซึ่งตรงพื้นที่รับประทานอาหารนั้น ถ้ามองจากแปลนจะดู Interlock กันอยู่ ถือว่าทำออกมาได้ดี เพราะแบ่งพื้นที่การใช้งานส่วนนึงเป็นที่รับประทานอาหารและอีกส่วนในห้องนอนใช้วางตู้เสื้อผ้าค่ะ ห้องน้ำก็จะอยู่ตรงพื้นที่ครัว ครัวจะอยู่ติดกับระเบียงด้านนอก ถ้าเป็นคนชอบทำอาหาร อยากทำครัวหนักๆ ก็กั้นห้องเพิ่มเอาได้ค่ะ

แปลนห้องคอนโด Manor สนามบินน้ำ

แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 30.53 ตารางเมตร

แปลน 1 ห้องนอน ขนาดประมาณ 31 ตารางเมตร จะมีอยู่ที่ Tower C และ D ค่ะ มีทั้งมุมในและมุมนอก  ห้อง Type นี้จะกั้นห้องนอนออกเป็นสัดเป็นส่วนด้วยผนังทึบ ต่างจากห้องไซส์เล็กสุดที่กั้นเป็นประตูกระจกบานเลื่อนค่ะ (ฟังก์ชั่นการใช้งานจะเหมือนห้องแบบ 29 ตารางเมตร มุมด้านนอกของ Tower A และ B เลย) เราเลยขอรีวิวรวมเป็นเฉพาะห้องแบบ 31 ตารางเมตรอย่างเดียวเลยนะคะ

แปลนห้องจะเป็นพื้นที่หลักๆ ออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนบริเวณทางเข้าออกห้องจะเป็นพื้นที่ Pantry ครัว และพื้นที่รับประทานอาหาร เชื่อมต่อกับพื้นที่นั่งเล่น ติดกับพื้นที่นั่งเล่นจะเป็นระเบียงค่ะ ตรงครัวนั้นจัดแปลนห้องออกมาให้กินพื้นที่เข้าไปตรงส่วนของห้องนอนและห้องน้ำด้านในเล็กน้อย เพื่อวางเคาท์เตอร์ Pantry ครัวค่ะ  สเปซด้านนอกจากส่วนรับประทานอาหาร, ส่วนพักผ่อน และระเบียงจะเชื่อมทะลุตรงกัน  ทางเข้าห้องนอนจะอยู่บริเวณพื้นที่นั่งเล่น ด้านในห้องนอนมีห้องน้ำในตัวค่ะ ขนาดค่อนข้างกว้างขวาง  โดยรวมแบบนี้จัดค่อนข้างลงตัว

แปลนห้องคอนโด Manor สนามบินน้ำ

แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 61.26 ตารางเมตร

มาดูที่แบบ 2 ห้องนอนกันบ้างค่ะ จะอยู่ที่ Tower C และ D มีทั้งมุมด้านนอกและด้านในของโครงการ ขนาดประมาณ 62 ตารางเมตร  แบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ส่วนหลัก โดยการเอาพื้นที่ส่วนกลางอย่างครัว พื้นที่รับประทานอาหาร และพื้นที่นั่งเล่นไว้ตรงกลาง พื้นที่ครัวจะเป็นเคาท์เตอร์รูปตัว L เข้ามุมเอาไว้ ส่วนห้องนอนจะอยู่กันคนละด้านค่ะ ไซส์จะเท่าๆ กัน มีห้องน้ำในตัว เพียงแต่ว่าห้องทางด้านขวามือจะมีทางเข้าออกห้องน้ำจากด้านนอกติดใกล้กับประตูห้องอยู่ด้วย ซึ่งถ้ามองจากแปลนจะเห็นว่า สเปซห้องนอนและห้องนั่งเล่นทุกส่วนจะได้รับแสงธรรมชาติเข้ามาเท่าๆ กันหมดเลยค่ะ

แปลนห้องคอนโด Manor สนามบินน้ำ

แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 70.97 ตารางเมตร

แบบสุดท้ายที่เอามาให้ดูกันเป็นแบบ 2 ห้องนอน 70.97 ตารางเมตร ซึ่งเป็นห้องมุมปลายอาคาร ได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยาเต็มๆ ค่ะ ซึ่งจะต่างจากแบบ 2 ห้องนอนแรกตรงที่จะมีระเบียงเพิ่มมาตรงส่วนของห้องนอนใหญ่ เพราะห้องนอนจะได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยาแบบ 180 องศาเลยค่ะ อีกทั้งพื้นที่ห้องนอนก็จะไม่เท่ากันเหมือนแบบ 2 ห้องนอน 62 ตารางเมตร แบ่งเป็นห้องนอนใหญ่กับห้องนอนเล็กชัดเจน

เปิดเข้ามาในห้องก็เป็นส่วนของพื้นที่ครัว พื้นที่รับประทานอาหารและพื้นที่นั่งเล่น มีระเบียงยาวอยู่ติดกับพื้นที่นั่งเล่น ฝั่งที่ใกล้กับทางเข้าออกห้องจะเป็นห้องนอนเล็กค่ะ มีห้องน้ำอยู่ติดกับห้องนอนเล็ก แต่จะไม่มีทางเข้าห้องน้ำจากในห้องนอน  ห้องนอนใหญ่จะอยู่อีกฝั่งที่เป็นจุดเทควิวแม่น้ำเจ้าพระยา ห้องนอนใหญ่จะมีห้องน้ำในตัว พร้อมอ่างอาบน้ำด้วยค่ะ

เปิดห้อง  มองสเปซ  :  Focus  on  “SPACE”  and  “DIMENSION”

ห้องตัวอย่างมีให้ดูแบบ 1 ห้องนอน ขนาดประมาณ 26 ตารางเมตร ที่มีเฉพาะ Tower A และ B ฝั่งหันหน้าเข้าหาพื้นที่ส่วนกลางด้านใน กับแบบ 1 ห้องนอน 31 ตารางเมตรที่มีแค่ใน Tower C และ D

ห้องที่ได้เป็นห้องเปล่า จะมี Pantry ครัว แอร์ 1 ตัวที่ห้องนอน กับชุดสุขภัณฑ์ห้องน้ำตามห้องตัวอย่างค่ะ

ห้องตัวอย่าง แมเนอร์ สนามบินน้ำ

แบบ 1 ห้องนอน ขนาดประมาณ 26 ตารางเมตร

เปิดห้องมาเป็นพื้นที่นั่งเล่น ด้านในจะเป็นห้องนอน กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก

มองย้อนกลับไปที่ทางเข้าออกห้อง

ระยะดูทีวี ก็ถือว่าโอเค ไม่ได้ใกล้จนเกินไป  ด้านซ้ายจะเป็นทางเดินไปพื้นที่ครัวค่ะ

ด้านในห้องนอน  ขนาดหน้าต่างจะไม่ได้ใหญ่นักนะคะ

ปลายเตียงมีเว้าเข้าไปเป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้า

พื้นที่ปลายเตียง สามารถวางชั้นเก็บของได้แล้วก็ยังมีทางเดินอยู่เล็กน้อยพอเดินผ่านได้

ห้องนอนวางเตียงขนาดควีนไซส์ค่ะ มีพื้นที่เหลือวางโต๊ะหัวเตียงได้  เดินวนเปลี่ยนผ้าปูที่นอนได้

มองย้อนกลับไปที่พื้นที่นั่งเล่น ตรงส่วนนี้ถ้าอยากให้ห้องนอนมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ก็แนะนำให้ติดม่านเอาค่ะ

ออกมาดูบริเวณห้องน้ำและพื้นที่ครัวกันต่อ

พื้นที่ครัวและพื้นที่รับประทานอาหารค่ะ ซึ่งพื้นที่รับประทานอาหารจะเว้าเข้าไปกินพื้นที่ห้องนอน ให้ทำให้เวลาวางโต๊ะทานข้าวแล้ว ก็ยังพื้นที่ทางเดินเหลืออยู่ ไม่ได้คับแคบจนเกินไป  พื้นที่ครัวนี้จะอยู่ติดกับระเบียงด้านนอกด้วยค่ะ

จากตรงพื้นที่ครัว มองไปเป็นห้องน้ำค่ะ

ห้องตัวอย่าง แมเนอร์ สนามบินน้ำ

แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 30.53 ตารางเมตร

แบบ 1 ห้องนอนขนาดประมาณ 31 ตารางเมตร เข้ามาจะเจอพื้นที่ครัวและพื้นที่รับประทานอาหารก่อนค่ะ ด้านในจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นและระเบียงห้อง

มองย้อนกลับไปทางเข้าออกห้อง สเปซตรงพื้นที่ครัว ก็เว้าเข้าไปเพื่อวางเคาท์เตอร์โดยเฉพาะ

พื้นที่นั่งเล่นค่ะ อยู่ติดระเบียง ได้รับแสงธรรมชาติเข้ามา  ซ้ายมือเป็นทางเข้าห้องนอน

ระยะดูทีวีก็อยู่ในระยะพอดีๆ

เข้ามาในห้องนอนกันต่อ

ปลายเตียงสามารถวางชั้นวางทีวีได้ แต่ก็แทบจะไม่เหลือทางเดินแล้วค่ะ  ขอแนะนำให้ติดทีวีแขวนผนังดีกว่านะคะ  เวลาเดินเข้าออกจะได้คล่องตัว

สเปซระหว่างเตียงนอนกับหน้าต่างด้านนอก

อีกด้านจะเป็นพื้นที่นั่งโต๊ะทำงาน ตู้เสื้อผ้า มีห้องน้ำอยู่ภายในห้องนอนค่ะ

เปิดห้อง  ส่องวัสดุ  :  Focus  on  “MATERIALS”

วัสดุห้องครัว / ส่วนเตรียมอาหาร (pantry)

หน้าตาชุดเคาท์เตอร์ทั้งบน-ล่างครัวที่ได้ ใช้โทนสีไม้อ่อนๆ ทำให้ห้องดูสว่างขึ้น แต่ก็ต้องขยันทำความสะอาดหน่อย  เพราะสีโทนอ่อนจะเลอะง่ายกว่าสีโทนเข้มค่ะ

เปิดให้ดูพื้นที่เก็บของด้านในค่ะ  ชั้นลอยด้านบนจะเก็บแผงควบคุมไฟในห้องด้วย

ซูมให้ดูเคาท์เตอร์ครัวด้านล่าง มีที่วางเตาไมโครเวฟ หรือจะวางอุปกรณ์ทำอาหารก็ได้ค่ะ

ที่จับตรงส่วนที่เป็นลิ้นชักค่ะ ดีไซน์มาเป็นพิเศษสำหรับโครงการ

ส่วนถ้าเป็นมือจับบานเปิดหน้าตาจะเป็นแบบนี้ค่ะ สวยงาม

อ่างล้างจาน Häfele

ตัวปิดขอบระหว่างเคาท์เตอร์และผนังห้อง

ด้านหลังเคาท์เตอร์จะติดกระเบื้องกันเปื้อนให้ค่ะ

ปลั๊กไฟตรงเคาท์เตอร์ครัว

ถ้าเป็นแบบ 1 ห้องนอน  ตัวเคาท์เตอร์ที่ได้จะไม่มีเตาไฟฟ้ากับเครื่องดูดควันให้   แต่ถ้าเป็น 2 ห้องนอนจะมีให้ค่ะ  สำหรับ 1 ห้องนอนถ้าจะติดเครื่องดูดควันเพิ่มก็สามารถทำได้เลย เพราะโครงการเตรียมพื้นที่ไว้ให้แล้ว

พื้นที่ครัวของแบบ 1 ห้องนอน 26 ตารางเมตร แบบนี้ครัวจะอยู่ติดกับระเบียง

พื้นที่ครัวของแบบ 1 ห้องนอน 31 ตารางเมตร ครัวจะติดกับทางเข้าออกห้อง

วัสดุห้องน้ำ

ห้องน้ำของแบบ 1 ห้องนอน 26 ตารางเมตร

ห้องน้ำของแบบ 1 ห้องนอน 31 ตารางเมตร หน้าตาเหมือนกัน รวมไปถึงขนาดก็เท่าๆ กันเลยค่ะ

กระจกเหนืออ่างล้างหน้าเป็นบานกรอบสีขาว มีชั้นวางอุปกรณ์ในห้องน้ำให้

โถสุขภัณฑ์ของ Karat

อ่างล้างหน้าแบบแขวนผนังของ Karat ค่ะ เป็นทรงกลมหน้าตาธรรมดา

เหนือโถสุขภัณฑ์จะมีชั้นวางของให้อีก

พื้นที่อาบน้ำค่ะ มีกระจกกั้นให้ได้ตามห้องตัวอย่างเลย

เป็นบานเปิดกระจกเทมเปอร์ แข็งแรงดีค่ะ  ติด stopper ไว้ที่ผนังเพื่อกันกระแทกเวลาเปิดจนสุด

พื้นที่อาบน้ำ ความกว้างหมุนตัวได้

ระหว่างส่วนเปียกกับส่วนแห้งจะมีธรณีกันค่ะ

ฝักบัวในพื้นที่อาบน้ำ

หน้าตาฝักบัวชัดๆ ของ Englefield

ที่วางสบู่จาก Kohler

ตรงพื้นที่อาบน้ำจะมีส่วนที่นั่งให้ด้วยค่ะ ตรงนี้ดีนะคะ  เพราะปกติไม่ค่อยเห็นห้องพื้นที่ต่ำกว่า 30 ตร.ม. เตรียมส่วนที่นั่งอาบน้ำไว้ให้  ด้านใต้ที่นั่งจะมีรูระบายน้ำจะอยู่  มีก๊อกน้ำล้างพื้นอยู่ใต้ฝักบัวด้วย

ไฟดาวน์ไลท์กับที่ระบายอากาศในห้องน้ำ

พื้นห้องน้ำจะอยู่ต่ำกว่าพื้นห้องทั่วไปค่ะ มีตัวปิดขอบให้ทั้งส่วนที่เป็นกระเบื้องและลามิเนต

วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (finishing)

พื้นทางเข้าห้องระดับเดียวกับพื้นทางเดินกลางด้านนอก ต่างกันแต่สีของกระเบื้องเท่านั้นค่ะ ทางเดินทางนอกสีพื้นจะเข้มกว่าในห้อง

Door Stopper ตรงประตู ช่วยให้เวลาเปิดห้องมาแล้วประตูไม่ไปกระแทกเคาท์เตอร์ครัวค่ะ

หน้าตาบานประตูด้านหน้าทางเข้าออกห้อง  เป็น MDF สีขาว  ทำลูกฟัก 4 ช่อง

บานประตูในห้องค่ะ สีขาวเช่นกัน

มือจับก้านโยกตรงทางเข้าออกห้อง

มือจับก้านโยกจากด้านในห้อง  มีลูกบิดปิดล็อกจากด้านในได้

ส่วนในห้องนอนจะเป็นลูกบิดแบบทั่วไป

พื้นลามิเนตกับพื้นกระเบื้องค่ะ มีตัวปิดรอยต่อเป็นไม้สีใกล้เคียงกับสีพื้น

ผนังห้องจะได้เป็นฉาบเรียบทาสีขาว มีบัวพื้นเป็นสีเดียวกับลามิเนตด้วยค่ะ

แต่ถ้าเป็นพื้นกระเบื้องบัวพื้นจะเป็นสีขาวค่ะ

PVC ปิดบานกรอบประตูก็สีขาว

แบบ 1 ห้องนอนจะได้แอร์มา 1 ตัว ของ Trane

สวิตซ์ไฟแบบทั่วไปของ bticino

ไฟห้องจะเป็นดาวน์ไลท์

ประตูบานเลื่อนตรงห้องนอน

เป็นบานกรอบอะลูมิเนียม 2 ตอน สีเงินธรรมชาติ

หน้าต่างห้องนอน เป็นบานกระทุ้ง 2 ฝั่ง ตรงกลางเป็นบานกระจกธรรมดาค่ะ

หน้าต่างบานกระทุ้งบานอะลูมิเนียม

เปิดได้ประมาณนี้ค่ะ

ประตูบานเลื่อนตรงครัวไประเบียงของแบบ 1 ห้องนอน 25.44 ตารางเมตร เป็นบานเลื่อน 2 ตอนซ่อนอยู่หลังผนังห้อง

มือจับประตูบานเลื่อนจากตรงระเบียง เป็นอะลูมิเนียมสีเงินธรรมชาติ

พื้นระหว่างระเบียงกับภายในห้องระดับเท่ากัน  ถ้าฝนตกหนักต้องระวังน้ำขังตรงร่องด้านล่างนะคะ  หมั่นทำความสะอาดหน่อย

ระเบียงของแบบ 1 ห้องนอน 26  ตารางเมตรที่อยู่ตรงครัว ขนาดค่อนข้างเล็ก ถ้าวางเครื่องซักผ้าก็เต็มแล้วค่ะ  แนะนำให้ใช้ราวตากผ้าแบบพับได้เพื่อประหยัดพื้นที่

ระเบียงของแบบ 1 ห้องนอน 31 ตารางเมตรจะยาวกว่าแบบนี้ วางเครื่องซักผ้าและราวตากผ้าไปแล้วก็ยังพอมีพื้นเหลือให้ยืนได้อยู่

ระเบียงทำจากเหล็กกล่องทำสีเทาดำ

ไม่มีแผงบังคอมเพรสเซอร์แอร์  เวลามองมาจากด้านนอกเลยเห็นคอมเพรสเซอร์แอร์ค่อนข้างชัด

หน้าตาห้องที่ชั้น 1 ของ Tower C และ D ที่มีทางเข้าจากสวน แบบนี้คอมเพรสเซอร์ซ่อนได้เรียบร้อย

คอมเพรสเซอร์แอร์ติดลอยตัวหันหน้าเข้าหาระเบียง  มี hanger แขวนให้แบบนี้ค่ะ

เปิดกระเป๋า  ดูสตางค์

ราคาเริ่มต้นวันที่แวะเข้าไปทำรีวิว (7 กรกฎาคม 2559) แบบ 1 ห้องนอน ขนาดประมาณ 26 ตารางเมตร ที่อยู่ Tower A และ B เป็นไซส์เล็กสุดจะเริ่มที่ 1.79 ล้านบาทค่ะ  เฉลี่ยต่อตารางเมตรเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 62,000 บาท  ซึ่งที่ Tower A และ B ตอนนี้จะมีห้องเหลือแต่ชั้นสูงๆ ตั้งแต่ชั้น 17 เป็นต้นไปค่ะ  ช่วงชั้นที่อยู่ใกล้กับพื้นที่ส่วนกลางที่ชั้น 6-9 แม้จะอยู่ชั้นล่าง แต่ราคาจะพอๆ กับชั้นสูงๆ ค่ะ ด้วยความที่ได้วิวสระว่ายน้ำที่สวยงาม  ส่วนถ้าเทียบในชั้นเดียวกัน  ห้องฝั่งที่ได้วิวสวนจะมีราคาถูกกว่าห้องฝั่งที่เป็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาค่ะ

ส่วนที่ Tower C และ D นั้น 1 ห้องนอน 31 ตารางเมตร เริ่มต้นที่ 3.5 ล้านบาท ถ้าเป็นแบบ 2 ห้องนอน 62 ตารางเมตร เริ่มอยู่ที่ 5.2 ล้านบาท แบบ 2 ห้องนอน ขนาดประมาณ 73 ตารางเมตร ห้องมุมวิวแม่น้ำเจ้าพระยานั้นราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 8.7 ล้านบาทค่ะ เฉลี่ยประมาณ 120,000 บาทต่อตารางเมตร ถ้าเป็นห้องที่ชั้น 34 ราคาอยู่ประมาณ 9.8 ล้านบาทค่ะ Tower C เป็นอาคารที่เหลือห้องให้เลือกเยอะสุด เพราะเปิดเพิ่งขายหลังสุด เมื่อประมาณต้นปีนี้เอง

นอกจากนี้โครงการยังมีห้องแบบ Guarantee Yield โดยที่โครงการจะจัดหาผู้เช่าให้ การันตีผลตอบแทนเป็นเวลา 3 ปี ห้องจะมีเฟอร์นิเจอร์ให้เป็นของ Index เฉพาะแบบ 1 ห้องนอน 26 ตารางเมตร ที่ชั้น 23-25 เท่านั้นค่ะ (เป็นโปรโมชั่นเฉพาะช่วงที่เข้าไปรีวิวนะคะ  ถ้าเข้าไปหลังจากนี้ก็ต้องสอบถามรายละเอียดทางโครงการเพิ่มอีกที)

เนื่องจากประเภทห้องมีหลากหลาย  เราเลยหยิบราคามาเป็นตัวอย่างให้ดูกันหลายๆ แบบค่ะ

ราคา ณ วันที่ 7 กรกฎาคม 2559

ราคาเริ่มต้น :

1 ห้องนอน 26.17 ตร.ม. Tower A ชั้น 17 (Pool View) ราคา 1.79 ล้านบาท เฉลี่ย 68,399 บาท/ตร.ม.

1 ห้องนอน 31.83 ตร.ม. Tower C ชั้น 16 (Garden View)  ราคา 2.55 ล้านบาท เฉลี่ย 80,113 บาท/ตร.ม.

1 ห้องนอน 31.37 ตร.ม. Tower C ชั้น 16 (River View)  ราคา 2.96 ล้านบาท เฉลี่ย 94,357 บาท/ตร.ม.

2 ห้องนอน 62.82 ตร.ม. Tower C ชั้น 20 (Garden View) ราคา 5.40 ล้านบาท เฉลี่ย 85,960 บาท/ตร.ม.

2 ห้องนอน 62.73 ตร.ม. Tower C ชั้น 20 (River View) ราคา 6.46 ล้านบาท เฉลี่ย 102,981 บาท/ตร.ม.

2 ห้องนอน 73.75 ตร.ม. Tower C ชั้น 22 (Garden View) ราคา 9.00 ล้านบาท เฉลี่ย 122,034 บาท/ตร.ม.

เงื่อนไขการจอง :

• เงินจอง

1 ห้องนอน 26 ตร.ม. จอง 5,000 บาท / ทำสัญญา 20,000 บาท

1 ห้องนอน 31 ตร.ม. จอง 10,000 บาท / ทำสัญญา 30,000 บาท

2 ห้องนอน 62 ตร.ม. จอง 20,000 บาท / ทำสัญญา 80,000 บาท

2 ห้องนอน 73 ตร.ม. จอง 50,000 บาท / ทำสัญญา 150,000 บาท

• ผ่อนดาวน์

ห้องพร้อมอยู่ไม่ต้องผ่อนดาวน์

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :

ค่าส่วนกลาง  30  บาท/ตร.ม.  (ชำระล่วงหน้า 1  ปี)
ค่ากองทุนเริ่มแรก (Sinking Fund) 300 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)

ประมาณอัตราการผ่อน (คิดจากราคาเริ่มต้นด้านบน) 

(เพื่อให้เห็นกรอบของค่าใช้จ่ายคร่าวๆและนำไปวางแผนประมาณการของแต่ละคน  ถึงไม่ได้ซื้อห้องที่ยกมาเป็นตัวอย่างก็ใช้ตัวเลขได้ ซึ่งผมประมาณการอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าปกติหน่อย  เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรองรับความสามาารถในการผ่อน  รวมถึงให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆที่เกิดขึ้น  เช่น  ค่าส่วนกลาง ไปด้วยในตัว) :

บนสมมติฐาน กู้  95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 30 ปี

1 ห้องนอน พื้นที่ 26.17 ตร.ม. ราคา 1,790,000 บาท ผ่อนประมาณ 11,816 บาท/เดือน

1 ห้องนอน พื้นที่ 31.83 ตร.ม. ราคา 2,550,000 บาท ผ่อนประมาณ 16,833 บาท/เดือน

2 ห้องนอน พื้นที่ 62.82 ตร.ม. ราคา 5,400,000 บาท ผ่อนประมาณ 35,647 บาท/เดือน

2 ห้องนอน พื้นที่ 73.75 ตร.ม. ราคา 9,000,000 บาท ผ่อนประมาณ 59,411 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 25 ปี

1 ห้องนอน พื้นที่ 26.17 ตร.ม. ราคา 1,790,000 บาท ผ่อนประมาณ 12,488 บาท/เดือน

1 ห้องนอน พื้นที่ 31.83 ตร.ม. ราคา 2,550,000 บาท ผ่อนประมาณ 17,790 บาท/เดือน

2 ห้องนอน พื้นที่ 62.82 ตร.ม. ราคา 5,400,000 บาท ผ่อนประมาณ 37,675 บาท/เดือน

2 ห้องนอน พื้นที่ 73.75 ตร.ม. ราคา 9,000,000 บาท ผ่อนประมาณ 62,791 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 20 ปี

1 ห้องนอน พื้นที่ 26.17 ตร.ม. ราคา 1,790,000 บาท ผ่อนประมาณ 13,614 บาท/เดือน

1 ห้องนอน พื้นที่ 31.83 ตร.ม. ราคา 2,550,000 บาท ผ่อนประมาณ 19,394 บาท/เดือน

2 ห้องนอน พื้นที่ 62.82 ตร.ม. ราคา 5,400,000 บาท ผ่อนประมาณ 41,070 บาท/เดือน

2 ห้องนอน พื้นที่ 73.75 ตร.ม. ราคา 9,000,000 บาท ผ่อนประมาณ 68,450 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 15 ปี

1 ห้องนอน พื้นที่ 26.17 ตร.ม. ราคา 1,790,000 บาท ผ่อนประมาณ 15,666 บาท/เดือน

1 ห้องนอน พื้นที่ 31.83 ตร.ม. ราคา 2,550,000 บาท ผ่อนประมาณ 22,317 บาท/เดือน

2 ห้องนอน พื้นที่ 62.82 ตร.ม. ราคา 5,400,000 บาท ผ่อนประมาณ 47,260 บาท/เดือน

2 ห้องนอน พื้นที่ 73.75 ตร.ม. ราคา 9,000,000 บาท ผ่อนประมาณ 78,767 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 10 ปี

1 ห้องนอน พื้นที่ 26.17 ตร.ม. ราคา 1,790,000 บาท ผ่อนประมาณ 20,060 บาท/เดือน

1 ห้องนอน พื้นที่ 31.83 ตร.ม. ราคา 2,550,000 บาท ผ่อนประมาณ 28,577 บาท/เดือน

2 ห้องนอน พื้นที่ 62.82 ตร.ม. ราคา 5,400,000 บาท ผ่อนประมาณ 60,516 บาท/เดือน

2 ห้องนอน พื้นที่ 73.75 ตร.ม. ราคา 9,000,000 บาท ผ่อนประมาณ 100,860 บาท/เดือน

Overview Summary

ด้านการเดินทางและสิ่งอำนวยความสะดวก

ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต

นอกจากรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่กำลังจะเปิดใช้ในปีนี้ ( สิงหาคม 2559 ) ในอนาคตจะมีท่าเรือตรงสะพานพระนั่งเกล้าเพื่อใช้เดินทางได้อีกทางนึง ทำให้ทำเลนี้มีทางเลือกในทางเดินทางหลายทางมากขึ้น มีทั้งรถ เรือ รถไฟฟ้า  ข้อจำกัดอย่างหนึ่งคือตัวโครงการจะอยู่ห่างสถานีรถไฟฟ้าไปกิโลกว่าๆ  แต่ก็มีรถสาธารณะให้ใช้บริการเลยไม่ได้ลำบากมากนัก

นอกจากนี้ในอนาคตจะมีแผนทำถนนเชื่อมระหว่างกาญจนาภิเษก มาข้ามแม่น้ำเจ้าพระยามาตรงบริเวณด้านหลังกระทรวงพาณิชย์ และยาวไปจนออกถนนวิภาวดีได้  เพื่อเชื่อมการจราจรฝั่งกรุงเทพตะวันตก  รวมถึงยังมีแผนขยายถนนสนามบินน้ำ จาก 4 เลน เป็น 6 เลน อีกด้วยค่ะ

ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ

คอนโด แมเนอร์ สนามบินน้ำ  มีจำนวนยูนิตค่อนข้างเยอะ และขนาดที่ดินใหญ่  โจทย์ที่สำคัญอีกอย่างของการออกแบบวางผังอาคารสเกลนี้คือทำอย่างไรให้ไม่ดูหนาแน่นจนเกินไปนัก  และต้องสามารถกระจายการเข้าถึงพื้นที่ส่วนต่างๆ เช่น facilities ให้แต่ละห้องไม่ได้เปรียบเสียเปรียบกันมาก  ซึ่งพอดูโดยรวมที่ออกมาก็จัดว่าทำมาได้โอเคดีค่ะ

โครงการแบ่งตึกออกเป็นทั้งหมด 4 อาคาร  มี 2 อาคารใกล้ถนน อีก 2 อาคารใกล้แม่น้ำ  ซึ่งความสูงก็จะแตกต่างกันไปตามระยะถอยร่นจากถนนและแม่น้ำ  ทำให้ Tower A, B ที่อยู่ใกล้ถนนสูง 25 ชั้น และ Tower C, D ที่อยู่ใกล้แม่น้ำสูง 35 ชั้น  และเชื่อมตรงกลางทั้งหมดด้วยพื้นที่ส่วนกลาง สวน และสระว่ายน้ำ ทำให้ไม่มีการกระจุกตัวของ facilities อยู่ที่จุดใดจุดหนึ่งของโครงการมากจนเกินไป  โดยที่แนวการวิ่งของรถยนต์รอบโครงการนั้นจะถูกจำกัดไว้ที่ Tower A, B ไม่เข้าไปถึง Tower C, D ค่ะ

หน้าตาของตัว Tower คอนโดเมื่อมองในภาพรวมก็เป็นดีไซน์ทั่วไปตามยุคสมัยค่ะ  ดีไซน์ที่ดูจะสร้างจุดเด่นและคาร์เร็คเตอร์ให้โครงการจะเป็นส่วนของ feature ประกอบอาคารและงานภูมิสถาปัตยกรรมต่างๆ มากกว่า  ซึ่งก็ทำออกมาได้สวยงามดี  และน่าใช้งาน

Tower C, D ที่อยู่ติดแม่น้ำ จะมีจำนวนยูนิตต่อชั้นจะอยู่ที่ 13 ห้อง ตัวอาคารจะดูสูงเพรียวกว่า Tower A, B  ซึ่งมี 24 ห้องต่อชั้นค่ะ  ห้องพักอาศัยที่ Tower A และ B จะมีแต่แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 26 และ 29 ตารางเมตร ซึ่งแปลนห้อง 26 ตารางเมตร ไซส์เล็กสุดจะเป็นกึ่งๆ ห้องแบบสตูดิโอ คือจะกั้นห้องนอนด้วยประตูกระจกบานเลื่อน แปลนห้องจัดมาค่อนข้างดี มีการ Interlock กันระหว่างส่วนของห้องนอนและพื้นที่รับประทานอาหาร ทำให้ห้องใช้ประโยชน์จากพื้นที่ขนาดเล็กได้อย่างเต็มที่ ตำแหน่งของห้อง 26 ตารางเมตรจะหันหน้าเข้าพื้นที่ส่วนกลางด้านในที่เป็นสระว่ายน้ำ ส่วนห้อง 29 ตารางเมตรจะหันออกด้านนอกค่ะ ห้องแบบ 29 ตารางเมตรจะกั้นห้องนอนเป็นสัดเป็นส่วนมากกว่า  ในส่วนของห้อง 2 แบบนี้  สิ่งที่ต้องทำเพิ่มเติมคงจะเป็นเรื่องของพื้นที่เก็บของค่ะ  อาจจะทำตู้ Built-in ลอยตัวเพื่อขึ้นมา หรือเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีช่องเก็บของเยอะๆ

Tower A, B ห้องพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 6  เพราะด้านล่างเป็นที่จอดรถ  ส่วนที่ Tower C, D ห้องพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 1 เลย  เป็นห้องนอน 31 ตารางเมตร แปลนห้องฟังก์ชั่นจะเหมือนกันแบบ 29 ตารางเมตรเลยค่ะ สเปซรวมๆ ก็ทำออกมาค่อนข้างดี ส่วนแบบ 2 ห้องนอนนั้นมีทั้งแบบ 2 ห้องนอนธรรมดา และ 2 ห้องนอน 73 ตารางเมตร เป็นห้องท็อปสุดในโครงการเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยา ราคาเลยแพงกว่าตำแหน่งอื่นค่อนข้างเยอะค่ะ

ด้านวัสดุของคอนโด Manor สนามบินน้ำ นั้นเป็นห้องเปล่าไม่มีเฟอร์นิเจอร์ จะได้เคาน์เตอร์ Pantry ครัว, ชุดสุขภัณฑ์ และแอร์ 1 ตัวในห้องนอน ซึ่งถ้าเป็นแบบ 2 ห้องนอน Pantry ครัวจะมีเตาไฟฟ้าให้ ส่วนแบบ 1 ห้องนอนจะไม่มีให้ค่ะ ชุดครัวออกแบบมาสวยงามดีแต่ขนาดไม่ใหญ่มาก  ส่วนห้องน้ำให้ค่อนข้างดีนะคะ จุดที่ชอบคือมีที่นั่งอาบน้ำมาให้ด้วย  แต่ตัวอ่างล้างหน้ากับสุขภัณฑ์หน้าตาค่อนข้างธรรมดาไปหน่อย มีทำชั้นวางของบริเวณอ่างล้างหน้ามาให้ค่อนข้างเยอะ

ตัวคอนโด Manor Sanambinnam  มีพื้นที่ส่วนกลางหลักๆ อยู่ 2 จุด คือที่ชั้น 6 ระหว่าง Tower A และ B จะมีสระว่ายน้ำระบบเกลือยาว 50 เมตร, สระเด็ก, พื้นที่นั่งเล่น, สวนพักผ่อน, จุดชมวิวพระอาทิตย์ตก รวมไปถึงในอาคารที่มีห้องต่างๆ อย่างห้องสนุกเกอร์, ห้องสันทนาการ, ห้องปิงปอง, ห้องสมุด, ห้องโยคะ, ฟิตเนส และห้องเด็กเล่น ส่วนอีกจุดจะอยู่บริเวณชั้น 1 ระหว่าง Tower C และ D เป็นสวนและศาลานั่งชมพระอาทิตย์ตกอีกจุด ซึ่งตรงนี้จะเชื่อมต่อกับพื้นที่ริมน้ำมีเป็นสระว่ายน้ำยาว 48 เมตร ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ติดกันเป็นสนามสตรีทบาส และอาคาร 2 ชั้นที่ด้านในเป็นฟิตเนส ซาวน่า และห้องนั่งเล่นค่ะ  ตรงนี้เห็นวิวแม่น้ำเช่นกัน  แม้โครงการจะมีห้อง 1,800 กว่าห้อง  แต่ก็ถือว่า Facilities ให้มาหลากหลายและเยอะ  ซึ่งก็คงทดแทนกับเรื่องความหนาแน่นไปได้ค่ะ

ลิฟต์มีให้อาคารละ 3 ตัว และลิฟต์เซอร์วิส 1 ตัว สัดส่วนการใช้ลิฟต์ที่ 154 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัวนั้น ก็คือว่ารับได้สำหรับระดับราคานี้นะคะ  ที่จอดรถ 40% แบบไม่รวมจอดซ้อนคัน ถ้าซ้อนคันแล้วจะอยู่ที่ 50%  ถ้าอยู่ Tower  A หรือ B จอดรถแล้วก็ขึ้นอาคารได้เลยค่อนข้างสะดวก แต่ถ้าอยู่ที่ Tower C หรือ D ก็สามารถลงมาที่ชั้นล่างหรือไม่ก็ใช้ทางเชื่อมระหว่างอาคารที่ชั้น 6 เพื่อเดิมเชื่อมเข้าตัวอาคาร C หรือ D ได้ค่ะ อาจจะเดินไกลกว่า แต่ก็ได้วิวที่ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยามากกว่าค่ะ

Score Summary

สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยค่ะ  (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนคอนโดมิเนียมที่นี่)

และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่  https://www.facebook.com/Yusabuy

ทุกท่านสามารถสนับสนุนให้อยู่สบายสามารถทำรีวิวออกมาได้เรื่อยๆค่ะ  เพียงแค่เวลาไปดูโครงการบ้านและคอนโดที่ต่างๆ  เพียงช่วยระบุในแบบสอบถามของโครงการว่า ”อยู่สบาย.com” เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ท่านติดตามอ่านอยู่  เวลาทางทีมงานขออนุญาตโครงการต่างๆเข้าไปทำรีวิวจะได้ทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นค่ะ  (^_____^)

ถ้าหากว่ารีวิวของเรามีประโยชน์  ช่วยกด Like ด้านล่างสำหรับกำลังใจในการทำรีวิวของทีมงานด้วยนะคะ