สวัสดีค่า รีวิวนี้เราจะพาทุกคนมาดูโครงการ พลัม คอนโด ราม 60 อินเตอร์เชนจ์ ที่ตึกเพิ่งสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่กันแล้ววันนี้  โดยที่โครงการนี้ตั้งอยู่ในซอยรามคำแหง 60 สามารถเข้าออกได้ 2 เส้นทางด้วยกันทั้งจากถนนรามคำแหงและถนนกรุงเทพกรีฑาค่ะ รายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งร้านค้า ร้านอาหาร การเดินทางที่สะดวกสบาย และในอนาคตที่ตั้งโครงการนี้อยู่ห่างจากรถไฟฟ้าสายสีส้มสถานีลำสำลีเพียง 350 เมตรเท่านั้นอีกด้วย! เปิดมาในราคาเบาๆ เพียง 1.59 ล้านบาท

ใครที่กำลังมองหาคอนโดราคาไม่แพง ใช้รถไฟฟ้าได้ เดินทางสะดวกสบาย แนะนำที่นี่เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกเลยค่ะ

Additional Info

ลงทะเบียนรับสิทธิ์โปรโมชั่น >> คลิกที่นี่ 

Promotion  :  Open House วันที่ 8 – 9 มิ.ย. 62

• ฟรีแอร์ ฟรีเฟอร์
• ฟรีเครื่องใช้ไฟฟ้า พิเศษเฉพาะวันงานเท่านั้น
• ผ่อนเริ่มล้านละ 1500/เดือน (ปีแรก)
• เริ่ม 1.59 ล้าน

PLUM CONDO RAM 60 INTERCHANGE

( พลัม คอนโด ราม 60 อินเตอร์เชนจ์ )

• เจ้าของโครงการ >>> บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)
• ที่ตั้งโครงการ >>> ซอยรามคำแหง 60 ถ.รามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ
• ขนาดที่ดิน >>> 8 – 2 – 27.4 ไร่ (โดยประมาณ)
• จำนวนอาคาร >>> 8 อาคาร + อาคารสันทนาการ 1 อาคาร
• จำนวนชั้น >>>
  • อาคาร A-H สูง 8 ชั้น
  • อาคารสันทนาการ สูง 3 ชั้น
• จำนวนยูนิต >>> 960 ยูนิต
  • อาคาร A 132 ยูนิต
  • อาคาร B 131 ยูนิต
  • อาคาร C 128 ยูนิต
  • อาคาร D 131 ยูนิต
  • อาคาร E 135 ยูนิต
  • อาคาร F 137 ยูนิต
  • อาคาร G 83 ยูนิต
  • อาคาร H 83 ยูนิต
• ประเภทห้อง >>>
  • 1 ห้องนอน Type 1 ขนาด 22.5 ตารางเมตร
  • 1 ห้องนอน Type 2 ขนาด 26 ตารางเมตร
  • 1 ห้องนอน Plus ขนาด 34.95 ตารางเมตร
• ที่จอดรถ >>> โดยประมาณ 40% (รวมจอดซ้อนคัน)
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> 1.59 ล้านบาท
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> ราคาเฉลี่ย 75,000 บาท/ตร.ม. ณ เดือนพฤษภาคม 2562
• พิกัดที่ตั้งคอนโด >>> 13.7610641,100.6488104
• เว็บไซต์โครงการ >>> พลัม คอนโด รามคำแหง 60
• โทร >>> 1739
• Line@ : @plumcondo
• FB :  https://www.facebook.com/plumcondobypruksa/

In Brief Review

จุดเด่นของโครงการ Plum Condo Ram 60 Interchange จะมีอยู่หลักๆ ด้วยกัน 3 ข้อได้แก่ ทำเล, การเข้าถึง และ ความอุดมสมบูรณ์ ซึ่งทั้ง 3 ข้อนี้เกี่ยวเนื่องกันทั้งหมดจากทำเลที่ตั้งที่อยู่ค่อนข้างกลาง Hub ของย่านนี้ทำให้การเข้าถึงโครงการมีหลากหลายแบบทั้งรถยนต์ส่วนตัวที่สามารถเข้าได้ทั้งจากถนนรามคำแหงและถนนกรุงเทพกรีฑา และการสัญจรด้วยรถสาธารณะบริเวณหน้าปากซอยที่มีทั้งรถเมล์ วินมอเตอร์ไซต์รับจ้าง รถแท็กซี่ และในอนาคตยังมีรถไฟฟ้าสายสีส้มสถานีลำสาลีห่างออกไปเพียง 350 เมตร นอกจากนี้ยังมีแผนในอนาคตสำหรับรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลที่จะมาที่สถานีลำสาลีอีกด้วย  และเนื่องจากอยู่ใกล้ Hub ของย่านนี้จึงอุดมสมบูรณ์ไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายทั้ง โรงเรียน ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาลและร้านค้าต่างๆ ตลอดสองข้างทางค่ะ

เหมาะกับใคร ?? :

โครงการ พลัมคอนโด ราม 60 อินเตอร์เชนจ์ เหมาะกับกลุ่มคนวัยทำงานทั่วไป  หรือแม้กระทั่ง First Jobber ที่ต้องการคอนโดไม่ไกลจากเมือง แต่ยังสามารถเดินทางได้สะดวก ราคาไม่แพงในทำเลย่านรามคำแหง  ถ้าคิดจากราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท ต้องมีกำลังผ่อนขั้นต่ำ 8,542 บาท**/เดือน

**บนสมมติฐานการกู้ 85% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 30 ปี
**สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หัวข้อ “เปิดกระเป๋า ดูสตางค์“ ด้านล่างนะคะ
——–>

กระซิบนิดนึงค่ะ ตอนนี้ทางโครงการได้ร่วมมือกับธนาคารกรุงเทพให้สามารถผ่อนได้เพียงเดือนละ 1,500 บาท สำหรับในปีแรก ซึ่งถ้าจะนับจริงๆ ถือว่าคุ้มค่ากับการลงทุน ถูกกว่าการเช่า Apartment แถวนี้หลายๆ แห่งอีกนะคะ

การเดินทาง

สำหรับการเดินทางไปยังโครงการ PLUM Condo Ram 60 Interchange สามารถเดินทางได้หลากหลายเส้นทางไม่ว่าจะเป็นถนนรามคำแหงหรือถนนกรุงเทพกรีฑา และยังสามารถเดินทางด้วยรถสาธารณะได้อย่างง่ายได้อีกหลากหลายวิธีเช่น มอเตอร์ไซต์รับจ้าง รถแท็กซี่ รถเมล์ ทั้งในอนาคตยังมีรถไฟฟ้าสายสีส้มวิ่งผ่านถนนหน้าโครงการค่ะ

แต่วันนี้เราจะพาทุกคนมาเริ่มต้นเดินทางกันที่ ถนนรามคำแหง ขาเข้า มุ่งหน้าไป ม. รามคำแหงกันค่ะ ขับตรงไปก่อนถึงแยกตัดกับถนนศรีนครินทร์ทางด้านซ้ายมือจะพบกับซอยรามคำแหง 60 เข้ามาในซอย 200 เมตรจะเจอกับที่ตั้งโครงการอยู่ทางด้านขวามือค่ะ

จากจุดเริ่มต้นของเราจะอยู่ที่ถนนรามคำแหง มุ่งหน้ารามคำแหงค่ะ

ขวามือของจุดเริ่มต้นเป็น BIG C สุขาภิบาล 3

ขับตรงมาเรื่อยๆ ประมาณ 1.3 กิโลเมตรจะเจอกับซอยรามคำแหง 60 อยู่ทางด้านซ้ายมือ เลี้ยวเข้าไปเลยค่า

เข้าซอยมาแล้วจะเจอกับถนนที่ค่อนข้างร่มรื่น มีต้นไม้ที่เกาะกลางถนนเพราะเป็นพื้นที่ทางเข้าหมู่บ้านเดิม ทำให้ซอยดูดีขึ้นเป็นกองเลยทีเดียว

เข้าซอยมาเพียง 200 เมตรจะเจอกับที่ตั้งโครงการอยู่ทางด้านขวามือค่ะ

มาดูตำแหน่งรอบๆ ตัวคอนโดก่อนว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนกันบ้าง

ตัวที่ตั้งโครงการ Plum Condo ราม 60 อินเตอร์เชนจ์ ตั้งอยู่ในซอยรามคำแหง 60 ที่เรียกได้ว่าตั้งอยู่ค่อนข้างอยู่ใกล้ Hub ในย่านนี้มาก ซึ่งความเจริญส่วนใหญ่จะเกาะอยู่บนเส้นถนนสายหลักอย่างถนนรามคำแหงและถนนลาดพร้าว โดยที่บนถนนรามคำแหงมีศูนย์การค้าหลาย และ Hypermarket หลายแห่งให้เลือกจับจ่ายใช้สอยเช่น The Mall รามคำแหง, Big C หัวหมาก, Major รามคำแหง และ Big C สุขาภิบาล 3 ค่ะ บนถนนสายนี้ยังมีมหาวิทยาลัยรามคำแหง มหาวิทยาลัยเปิดชื่อดังของไทยตั้งอยู่ด้วยนะ ข้างๆ มหาวิทยาลัยเป็นราชมังคลากีฬาสถาน สนามกีฬาขนาดใหญ่ที่มักจะมีอีเว้นท์มาจัดกันตลอดทั้งปี และยังมีโรงพยาบาลรามคำแหงด้วยค่ะ ซึ่งถนนรามคำแหงนี้จะมีรถไฟฟ้าสายสีส้ม(ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี) วิ่งยาวตลอดแนวยาวไปตามถนน คาดว่าจะสามารถเปิดใช้งานได้ภายในปี 2566

ส่วนถนนสายหลักอีกเส้นหนึ่งที่อยู่ใกล้กับที่ตั้งโครงการคือถนนลาดพร้าว ซึ่งเส้นนี้ก็ขึ้นชื่อเรื่องความเจริญอยู่แล้ว ใกล้ๆกับที่ตั้งโครงการมี The Mall บางกะปิ, โรงพยาบาลเวชธานี และ NIDA บนถนนลาดพร้าวนี้ก็มีโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง monorail(ลาดพร้าว-สำโรง) มาตัดกับรถไฟฟ้าสายสีส้มที่สถานีลำสาลี คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในปี 2563

และที่จะไม่พูดถึงเลยคงเป็นไปไม่ได้คือ รถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล(แคราย-ลำสาลี) ที่จะมาเชื่อมตรงจุดตัดแยกลำสาลีอีกสายหนึ่ง  มีข้อมูลปรากฎในแผนการพัฒนา แต่ว่ายังไม่ฟันธงแต่อย่างใด (ตามแผนคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2565 นี้ค่ะ)

ถนนหัวหมาก ก็ไม่ไกลจากที่ตั้งโครงการเท่าใดนักจะมี ABAC หัวหมาก ตั้งอยู่ค่ะ ส่วนทางด้านถนนกรุงเทพกรีฑาที่เชื่อมต่อกับถนนหัวหมากมีสโมสรกรุงเทพกรีฬา มองลงมาอีกหน่อยที่ ถนนศรีนครินทร์จะพบกับ โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ ตั้งอยู่ด้วยน้า

.

ขยับมาซูมดูกันใกล้ๆ โครงการ พลัมคอนโด ราม 60 อินเตอร์เชนจ์ จะเห็นว่าภายในซอยรามคำแหง 60 สามารถเชื่อมต่อไปยังซอยกรุงเทพกรีฑา 7 ได้ ในซอยก็มีความอุดมสมบูรณ์ของร้านค้า ร้านอาหารค่อนข้างมากจะเห็นได้จากร้านค้า ร้านอาหารที่ตั้งอยู่เรียงรายตลอด 2 ข้างทาง รวมถึง Community Mall อย่าง Kurve7 ที่ภายในมี Max Valu และ Market Today พื้นที่รวมร้านค้า ร้านอาหาร ที่เรียนพิเศษ ร้านทันตกรรม และร้านอื่นๆ อีกมากมาย ที่น่าสนใจอีกแห่งบนถนนสายนี้คือ Talent Space Co-working Space สุดเก๋สำหรับสาย Creative ทั้งหลายอีกด้วยค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบคอนโด

หลังจากดูแผนที่กราฟิกกันไปแล้ว เรามาดูสภาพแวดล้อมจริงๆ รอบๆ โครงการกันบ้างดีกว่าค่ะ

เริ่มจากฝั่งตรงข้ามโครงการเป็น 7-11 และร้านค้าระดับชุมชน

ซ้ายมือเป็นถนนไปเชื่อมกับถนนรามคำแหง จากที่ตั้งโครงการออกไปเพียง 200 เมตรเท่านั้น

ขวามือจะเป็นถนนที่สามารถเชื่อมต่อกับซอยกรุงเทพกรีฑา 7 ได้ค่ะ

มาดูกันที่ถนนทางด้านขวามือของโครงการที่เชื่อมกับ ซอยกรุงเทพกรีฑา 7 กันค่ะ

ขับตามทางมาเรื่อยๆ ขวามือจะพบกับ Talent Space ที่เป็น Co-working space สำหรับสาย creative โดยเฉพาะ

เลยมาไม่ไกลจะเจอกับ Kurve 7 เป็น Community mall เล็กๆ ภายในมีร้านอาหารอยู่ 4-5 ร้านพร้อม Car care และที่จอดรถสะดวกสบายมากๆ เลยค่ะ

ที่ด้านหน้า Kurve 7 มี Max Valu ด้วยนะ

เลยจาก Kurve 7 มาสักหน่อยจะเห็น Market Today Community Mall ที่ใหญ่ขึ้นมาอีกหน่อย

ภายใน market today ประกอบไปด้วยร้านอาหารมากมาย และร้านค้ามาเปิดให้บริการต่างๆ เช่น ตัดผม รักษาสัตว์ เป็นต้น

นอกจากร้านค้า ร้านอาหารแล้วบยังมีที่เรียนพิเศษอยู่ด้วยค่ะ มีหลายเจ้าเลย

จากถนนในซอยกันมาแล้ว เรามาดูกันที่ ถนนรามคำแหง กันต่อเลย เราจะมาเริ่มกันที่แถวตรง The Mall รามคำแหงมุ่งหน้ามีนบุรีนะคะ

The Mall รามคำแหง ที่กำลังรีโนเวทใหญ่เตรียมรับรถไฟฟ้าสายสีส้มค่ะ  อีกหน่อยเปิดแล้วน่าจะอลังการน่าเดินกว่าของเดิมเยอะ

ถัดมาไม่ไกลเป็นหัวหมาก TownCenter มี Big C หัวหมากอยู่ภายในค่ะ

Major รามคำแหง ก็เป็นอีกแหล่งหนึ่งที่ค่อนข้าง Popular ในย่านนี้

ฝั่งตรงข้ามเมเจอร์เป็น มหาวิทยาลัยรามคำแหง มหาวิทยาลัยเปิดชื่อดังในประเทศไทย

ติดกันกับมหาวิทยาลัยรามคำแหงเป็น ราชมังคลากีฬาสถาน

ถัดจากราชมังคลามา 1.3 กิโลเมตรจะเจอกับ โรงพยาบาลรามคำแหงอยู่ฝั่งเดียวกับสนามกีฬาเลย

และที่สุดท้าย Big C สุขาภิบาล 3 ห่างจากที่ตั้งโครงการไปเพียง 1.3 กิโลเมตรเท่านั้นค่ะ

สุดท้ายเราจะมากันที่ ถนนลาดพร้าว บริเวณเลยแยกลำสาลีขึ้นไปเล็กน้อย กันค่ะ

เลยบริเวณแยกลำสาลีขึ้นมาที่ถนนลาดพร้าวตรงแยกบางกะปิจะเจอกับ The Mall บางกะปิ ศูนย์การค้าค้าปลีกขนาดใหญ่ในย่านนี้เลยค่ะ

เลย The Mall บางกะปิขึ้นไปทางลาดพร้าวจะเจอกับ โรงพยาบาลเวชธานี อยู่ขวามือค่ะ เป็นโรงพยาบาลขนาดกำลังพอดีแต่มีเครื่องมือครบครันนะคะ

ถ้าหากเลี้ยวขวาที่แยกบางกะปิจะสามารถเข้าสู่ถนนเสรีไทย ตรงไปประมาณ 700 เมตรจะเห็น NIDA อยู่ทางด้านขวามือเลย

เปิดประตู ไปดูในโครงการ 

หลังจากพาไปดูรอบๆ ที่ตั้งโครงการกันมาจนทั่วแล้ว เรามาดูที่ตัวโครงการกันบ้างค่ะ ซุ้มประตูทางเข้าโครงการแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งด้วยป้อมยาม ตกแต่งด้วยต้นไม้ตลอดแนวกำแพงทางเข้า ให้ความรู้สึกสบายตาดีนะคะ ล้อไปกับป้ายโครงการและป้อมยามลายไม้ด้านในค่ะ

ทางเข้า-ออกโครงการรักษาความปลอดภัยด้วยไม้กระดกทั้งสองฝั่งด้วยระบบสแกนทะเบียนรถยนต์ พร้อมกล้อง CCTV บันทึกภาพการเข้าออกตลอด 24 ชั่วโมง

ส่วนลูกบ้านเข้า-ออกด้วยระบบ Key Card Access ค่ะ ตัวนี้สามารถตรวจจับ key card ได้แม้จะชูการ์ดอยู่ภายในรถก็ตาม ดีมากๆ เลยนะคะในกรณีที่ฝนตก

ที่จอดรถภายในโครงการมีประมาณ 40% เป็นจอดบนพื้นดินทั้งหมด เลือกจอดได้ตามใจชอบลูกบ้านเลยค่ะ

แต่จะเห็นได้ว่าช่องจอดมีขนาดค่อนข้างพอดีกับตัวรถ ในรูปเป็นรถขนาด B segment ถ้ารถใครคันใหญ่หน่อยคงจะต้องเล็งจอดดีๆ ไม่ไปกินที่จอดคันข้างๆ นะคะ เดี๋ยวจะขึ้น-ลงรถไม่ได้กัน 🙂

EXTERIOR

คอนโด พลัม คอนโด ราม 60 อินเตอร์เชนจ์ มีพื้นที่โครงการทั้งหมด 8 ไร่ 2 งาน 27.4 ตารางวา วางแปลนตึกทั้งหมด 8 อาคารและอาคารสันทนาการอีก 1 อาคารทางด้านหน้าทางเข้าค่ะ ซึ่งทั้งหมดเป็นตึก Low Rise สูง 8 ชั้นและ 3 ชั้นตามลำดับ

ภายนอกตึกออกแบบมาในสไตล์โมเดิร์น โดยเลือกใช้สีของแต่ละตึกไม่เหมือนกันอย่างตึกที่ถ่ายมาให้ชมนี้จะเป็นสีเทาเข้มและใช้สีน้ำตาลในการเน้นเส้นสายของตึกให้ดูเด่นชัดขึ้นมาค่ะ

ส่วนบางตึกก็จะทาด้วยสีเทาอ่อนเป็นสีหลักและใช้สีเหลืองอมทองเป็นตัวเน้นเส้นสายของตึกค่ะ เรื่องสีของแต่ละตึกแล้วแต่คนชอบเลยนะคะ ใครชอบสีอะไรก็เลือกซื้อตึกนั้นได้เลยค่า

ดูผังโครงการ ตำแหน่งการเข้าถึง

ที่ดินโครงการ Plum Condo ราม 60 อินเตอร์เชนจ์ มีรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวขนานกับซอยรามคำแหง 60 ตัวโครงการนี้ตั้งอยู่ด้านหลังของโครงการคอนโด High Rise สูง 39 ชั้นตัวหนึ่งที่มีมานานแล้วทางด้านทิศเหนือ แต่ก็ยังมีระยะห่างให้สามารถรับลมและวิวได้อย่างไม่มีปัญหาค่ะ อย่างที่บอกตัวอาคารวางยาวขนานซอยรามคำแหง 60 จึงทำให้ห้องภายในโครงการส่วนใหญ่หันหน้าทางทิศตะวันออกและตะวันตก

เรามาดูวิวรอบข้างกันบ้างว่าซื้อห้องทิศไหนจะได้วิวอะไรค่ะ

ทิศตะวันออก อาคาร A, G, H ชั้นที่ 1-3 จะได้วิวของที่พักอาศัยสูง 2-3 ชั้น และอาคาร D บางส่วนก็จะเห็นวิวนี้ด้วยเช่นกัน อาคาร B และ C ส่วนใหญ่จะได้วิวเป็นอาคาร G และ H ค่ะ ส่วนทางด้านอาคาร E และ F จะมีวิวเป็นอาคารที่พักอาศัยสูง 5-6 ชั้นเลย ถ้าใครอยากได้วิวโล่งๆ อาคารนี้คงต้องซื้อชั้น 7-8 กันเลยทีเดียว

ทิศตะวันตก ในทิศนี้วิวจะโล่งๆ หน่อยสำหรับอาคาร A และ F เนื่องจากเป็นที่ดินว่างเปล่า ไม่มีอาคารใดๆ ขึ้นบังวิวตั้งแต่ชั้น 2 เลยค่ะ รับลมกันไปเต็มๆ อาคาร B และ C จะโดนบังวิวจากอาคารสูง 19 ชั้นในซอยรามคำแหง 58/5 ไปเต็มๆ มีเพียงปีกบางส่วนที่ได้วิวโล่งๆ อยู่บ้าง อาคาร D และ E โดนบังวิวจากตึกในซอยรามคำแหง 58/5 เช่นเดียวกันแต่มีระยะห่างของตึกมากกว่าตึกที่บังอาคาร B และ C อยู่นิดหน่อยค่ะ ทางด้านอาคาร G และ H นั้นจะได้วิวเป็นอาคาร B และ C ไป

ทิศเหนือ อาคาร A จะได้วิวที่ค่อนข้างโล่งหน่อยตั้งแต่ชั้น 3 ขึ้นไปค่ะเนื่องจากสูงพ้นอาคารสันทนาการที่อยู่ข้างๆ แล้ว ส่วนอาคาร G จะได้วิวแบบโล่งๆ ไปเต็มๆ เลยใครชอบวิวโล่งๆ ห้องไม่ร้อน ไม่โดนแดดเยอะแนะนำตึกนี้เลย ส่วนอาคารอื่นๆ จะได้วิวของอาคารด้านหน้าไปแทนค่ะ

ทิศใต้ ก็อย่างที่เห็นในภาพนะคะ ส่วนใหญ่จะโดนบังด้วยอาคารข้างหลังถัดๆ ไป จะมีเพียงอาคาร H ที่อาคารที่บังวิวตั้งอยู่ค่อนข้างไกลสักหน่อย ถ้าไม่อยากโดนบังวิวควรซื้อตั้งแต่ชั้น 6 ขึ้นไปค่ะ ส่วนอาคาร F จะโดนบังวิวแค่ถึงชั้น 3 เท่านั้น ใครชอบตำแหน่งไหนจิ้มซื้อตำแหน่งนั้นค่า

นอกจากการวางแปลนแล้ว เราจะพามาดูพื้นที่รอบๆ โครงการว่าส่วนใหญ่เป็นอะไร จากภาพจะเห็นได้ว่าเป็นสีส้มหมดคือทั้งหมดเป็นพื้นที่อยู่อาศัยและชุมชนเก่าค่ะ ตอนกลางคืนก็จะสงบๆ หน่อย  จะไม่วุ่นวายมากเมื่อเทียบกับการอยู่ช่วงเลยแยกลำสาลีขึ้นไป

เนื่องจากทางโครงการวางอาคารยาวขนานตามแนวถนนซอยรามคำแหง 60 จึงทำให้ห้องส่วนใหญ่หันทิศตะวันออกและตะวันตก ห้องที่หันทางทิศตะวันออกจะไม่ค่อยร้อนมากเท่าไหร่เพราะโดนเพียงแดดตอนเช้า ส่วนห้องทิศตะวันตกจะเป็นส่วนห้องที่ค่อนข้างร้อนกว่าเพราะจะโดนแดดช่วงบ่าย-เย็นเลยค่ะ แต่จะมีบางส่วนของตึก B และ C ที่จะมีเงาของตึกสูง 19 ชั้นทางด้านหลังบังแดดให้แต่ก็แลกมาด้วยการที่วิวหายไปด้วยนะคะ ใครชอบห้องเย็นหน่อยก็คงต้องแลกนิดนึง

FLOOR PLAN

ผังรวมภายในโครงการ พลัม คอนโด ราม 60 อินเตอร์เชนจ์ จะเห็นว่ามีทางเข้า-ออกเพียงทางเดียวคือด้านบนสุดซ้ายมือ แล้ววิ่งตรงยาวเข้าไปผ่านตึกต่างๆ ภายในโครงการจนสุดตาม ลูกศรสีเหลือง และ ออกทางเดียวกับที่เข้าไปตาม ลูกศรสีส้ม ค่ะ

จากด้านนอกไล่เข้าไปด้านในสุดชื่ออาคารจะไล่จาก A-F และมีอีก 2 อาคารอยู่ฝั่งซ้ายมือเมื่อเข้าไปภายในอาคารจะเรียกว่าอาคาร G-H ค่ะ ส่วนกลางของที่นี่จะแบ่งเป็น 3 จุดใหญ่ๆ คืออาคารสันทนาการด้านหน้าทางเข้าเลย จุดที่ 2 คือสระว่ายน้ำตรงอาคาร H และ Facilities ห้องนันทนาการอื่นๆ รวมถึงที่ออกกำลังกาย outdoor และสระว่ายน้ำขนาดใหญ่จะอยู่บริเวณตึก E-F ด้านในสุดค่ะ

จากที่ดูแปลนรวมของโครงการแล้วเรามาดูแปลนอาคารกันบ้างค่ะ อันนี้เราจะพูดแบบคร่าวๆ นะคะ เนื่องจากมี 8 อาคารและแบบแปลนแต่ละอาคารค่อนข้างคล้ายๆ กัน โดยจะหยิบเอาแปลนของอาคาร A มาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังกันง่ายคือ ห้องพักอาศัยของทุกอาคารจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 1 เลยค่ะ ในแต่ละอาคารจะมี Lobby ส่วนตัวเพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับลูกบ้านกรณีคนแปลกหน้าหรือขโมยจะเข้ามาที่ห้องของเราค่ะ การจะเข้าตึกและใช้ลิฟต์จะต้องใช้ Key card ในการเปิดการทำงานของระบบและลิฟต์ของที่นี่เป็นแบบล็อคชั้นด้วยค่ะ บริเวณพื้นที่ Lobby ของแต่ละตึกจะมีพื้นที่นั่งเล่นไว้ให้ลูกบ้านด้วยนะคะ และติดกับพื้นที่นั่งเล่นจะเป็น Mail Box ของแต่ละห้องค่ะ สะดวกดี ไม่ต้องเดินเข้ามุมเข้าซอกแบบบางคอนโด

ส่วนชั้น 2-8 จะเป็นห้องพักอาศัยทั้งหมดในแต่ละชั้นและแต่ละอาคารจะมีจำนวนยูนิตไม่เท่ากัน มีตั้งแต่ 9-18 ห้องต่อชั้นและลิฟต์จำนวน 1-2 ตัวต่อ 1 อาคารตามจำนวนยูนิตที่มีภายในอาคารค่ะ

FACILITIES

โถง Lobby ต้อนรับของแต่ละอาคารภายในโครงการตกแต่งเรียบง่าย เน้นใช้สีสดให้ มีชีวิตชีวาดีค่ะ แถมแต่ละอาคารตกแต่งด้วยสีที่แตกต่างกันไปด้วยนะคะ

.

ฝั่งตรงข้ามที่นั่งเล่นบริเวณ Lobby เป็นห้องจดหมายค่ะ เรียงกันหน้าตาแบบนี้เลย สีก็จะล้อไปตามสีโซฟาบริเวณ Lobby ค่ะ ส่วนห้องจดหมายสีฟ้าด้านล่างเป็นของอีกตึกหนึ่งที่ตกแต่ง Lobby เป็นสีฟ้านะคะ

ประตูทางเข้าไปยัง Lobby ลิฟต์มีประตูกระจกกั้นก่อน จะต้องแสกนบัตรก่อนเข้าค่ะ

ส่วนกลางอย่างที่บอกไปแล้วว่าจะแบ่งออกเป็น 3 จุดใหญ่ๆ เราจะมาเริ่มกันที่จุดแรกกันก่อนเลย อาคารสันทนาการหรือที่ทางโครงการเรียกว่า Plum Space เป็นตึกสูง 3 ชั้น

ขึ้นมาชั้น 2 จะเป็น Co-working Space & Mini Home Theatre ค่ะ ตรงจุดนี้และ Fitness ด้านบนจะสงวนสิทธิ์การใช้งานแค่ลูกบ้านที่มี Key card เท่านั้นนะคะ  ภายในห้อง Co-working space ตกแต่งสไตล์ Loft นิดๆ มีพื้นที่นั่งเล่นทั้งแบบโซฟาและเก้าอี้ armchair ให้เลือกนั่ง

ถัดเข้ามาด้านในห้องอีกหน่อยเป็นโต๊ะทำงานยาวๆ สามารถมานั่งทำงานหรือนั่งประชุมได้เลยค่ะ มีปลั๊กติดตั้งไว้ที่พื้นมาให้พร้อมแล้ว

มุมด้านหลังโต๊ะนั่งทำงานเป็นห้อง Mini Home Theatre พร้อม Bean bag ตกแต่งด้วยสีโทนสดใสให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวา กระปรี้กระเป่ามากทีเดียว

นอกจากที่นั่งเล่นแล้วภายในห้องยังมีห้องน้ำแยกชาย-หญิงไว้ให้บริการอีกด้วยน้า สบายสุดๆ แอร์เย็นมากด้วย ฮ่าๆ

ขึ้นมากันที่ชั้น 3 กันบ้าง ชั้นนี้จะเป็นห้อง Fitness มาพร้อมกับเครื่องออกกำลังกายครบครัน มีให้เลือกเล่นหลากหลายอย่างเลยค่ะ

วิ่งบนลู่พร้อมชมวิวด้านหน้าโครงการไปก็ได้

ดัมเบลมีให้เลือกน้ำหนักครบทุก scale ตั้งแต่อันละ 5 กิโลกรัมจนถึง 50 กิโลกรัมเลยค่ะ!!

และยังมีตู้ Locker ไว้ให้เก็บของด้วยน้า

ชั้นบนสุดจะเป็นดาดฟ้าค่ะ ทางโครงการได้จัดตั้งโต๊ะพร้อมเก้าอี้นั่งเล่นมาให้ไว้ด้วย ให้ลูกบ้านสามารถขึ้นมาใช้งานนั่งเล่น ปิกนิกรับลมชิลล์ๆ ได้เลย

มาดูกันที่จุดที่ 2 กันบ้างจะอยู่ตรงอาคาร G และ H ค่ะ จุดนี้จะเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือค่ะ ทางขึ้นไปยังสระว่ายน้ำเป็นสวนขนาดเล็กๆ สามารถมานั่งเล่นพักผ่อนได้

สระว่ายน้ำมีขนาดความยาวที่ 20 เมตร กว้าง 4.5 เมตร ลึก 1.2 เมตร พร้อมกับแยกสระเด็กและสระผู้ใหญ่ให้ด้วยค่ะ

ฝั่งตรงข้ามสระว่ายน้ำมีห้องน้ำไว้สำหรับเปลี่ยนเสื้อผ้า ล้างตัวให้ด้วยนะ

จุดสุดท้ายที่เราจะพามาชมคือ Facilities ด้านหน้าอาคาร E-F ค่ะ ตรงจุดนี้จะมี Facilities รวมกันอยู่ค่อนข้างเยอะ เริ่มจากอาคาร 2 ชั้นที่อยู่ด้านหน้าตึก E-F ก่อนเลยด้านล่างจะเป็นที่จอดรถในร่ม ส่วนด้านบนจะเป็นสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ของโครงการค่ะ

ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเป็นทางเดินยาวๆ ฝั่งขวามือเป็นห้องน้ำและห้องซาวน่าแยกชายหญิงให้ด้วย

ภายในห้องน้ำจะแบ่งพื้นที่เป็นหลายส่วน เมื่อเปิดประตูเข้าไปจะเจอกับห้องซาวน่าก่อนเป็นอันดับแรก

มองเข้าไปด้านในจะเป็นห้องอาบน้ำและห้องน้ำแยกกันอย่างละ 1 ห้องค่ะ

ขวามือเป็นอ่างล้างมือพร้อมกระจกเงาสำหรับแต่งหน้า แต่งตัว

ซ้ายมือเป็นตู้ Locker ไว้เก็บของมีค่าก่อนลงสระว่ายน้ำค่ะ  เผื่อใครมาว่ายน้ำคนเดียว ไม่มีเพื่อนมาเฝ้าของให้

ออกจากห้องน้ำมา เดินตรงมาเรื่อยๆ จะเจอกับสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 30*4.5 เมตร ลึก 1.2 เมตร ทอดตัวยาว สวยมากทีเดียว

ขึ้นมาด้านบนห้องซาวน่าเป็นดาดฟ้าพร้อมเก้าอี้แบบ outdoor เย็นๆ ค่ำๆ ขึ้นมานั่งเล่นได้สบายๆ

ชั้นล่างของอาคารนี้มีห้อง Laundry ไว้ให้ด้วยนะคะ

พื้นที่ระหว่างอาคารสระว่ายน้ำและตึก E-F ทางโครงการจัดเป็นสวนเล็กๆ และเก้าอี้นั่งเล่นเป็นระยะๆ ค่ะ

มากันที่ห้องแรกอยู่ใต้ตึก E เป็นห้อง Reading Lounge พื้นที่นั่งอ่านหนังสือ นั่งเล่น

ภายในห้องยังมีโต๊ะสำหรับนั่งทำงานไว้ให้ด้วยนะคะ

ส่วนใครที่รักความเป็นส่วนตัวมากๆ ก็มีโต๊ะทำงานแบบเดี่ยวๆ พร้อมปลั๊กส่วนตัวมาให้ด้วยนะ

อีกห้องหนึ่งที่อยู่ข้างๆ ห้อง Reading Lounge คือห้อง Kids Room ห้องนี้จะอยู่ใต้ตึก F ค่ะ ข้างในก็จะประกอบไปด้วยเครื่องเล่นต่างๆ เช่น โต๊ะปิงปอง ตกแต่งด้วยสีสันสดใส เหมาะสำหรับวัยน้องๆ หนูๆ มากเลยทีเดียว

มีบ้านบอลที่เด็กๆ จะต้องร้องกรี๊ดไม่ยอมกลับห้องแน่ๆ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ

ที่นั่งเล่นสำหรับเด็กๆ ที่เหนื่อยจากบ้านบอล หรือผู้ปกครองที่มารอน้องๆ เล่นบอลกันค่ะ

พื้นของห้องนี้จะเป็นพื้นยางนิ่มๆ ป้องกันเด็กๆ หกล้มแล้วเกิดอาการบาดเจ็บได้ค่ะ

พื้นที่ระหว่างห้องสองห้องทางโครงการตกแต่งด้วยการวางเก้าอี้และโต๊ะนั่งเล่นไว้ให้ค่ะ

ด้านหลังเก้าอี้นั่งเล่นระหว่างอาคารมีเครื่องเล่นเด็กพร้อม Slider ติดตั้งไว้ให้ด้วยนะคะ

และที่ด้านข้างของอาคาร F ฝั่งด้านในสุดติดกำแพงจะเป็นลานออกกำลังกายแบบ Outdoor มีเครื่องเล่นเหมือนสวนสาธารณะต่างๆ เลยค่ะ เย็นๆ ใครชอบออกกำลังกายมาเล่นตรงนี้ได้เลย

แปลนห้องดีไหม?

แปลนห้องพักของ พลัม คอนโด ราม 60 อินเตอร์เชนจ์ มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 แบบค่ะ ซึ่งเป็นแบบ 1 ห้องนอนทั้งหมด แบ่งออกเป็น 1 ห้องนอน Type 1 ขนาด 22.5 ตารางเมตร, 1 ห้องนอน Type 2 ขนาด 26 ตารางเมตร และ 1 ห้องนอน Plus ขนาด 34.95 ตารางเมตรค่ะ แบบแปลนของทั้ง 3 ห้องจัดออกมาค่อนข้างลงตัวทีเดียว สามารถใช้สอยได้ทุกตารางนิ้วเลยค่ะ

.

• 1 ห้องนอน Type 1 ขนาด 22.5 ตร.ม.

สำหรับแบบ 1 ห้องนอนขนาด 22.5 ตารางเมตร  เป็นห้องไซส์เล็กสุด  พื้นที่ไม่ใหญ่แต่ก็จัดแปลนออกมาลงตัวดีมากเลยค่ะ   เน้นความคุ้มค่าของการใช้พื้นที่แทบจะทุกตารางเมตร เปิดประตูเข้ามาส่วนแรกที่จะเจอคือห้องรับแขก มองเข้าไปด้านในห้องจะเจอกับส่วนของห้องนอนซึ่งทางโครงการทำประตูบานเลื่อนกระจกกั้นเอาไว้ให้เรียบร้อย  พร้อมตู้เสื้อผ้า 1 หลัง ภายในห้องนอนได้หน้าต่างมา 1 บานช่วยให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาภายในห้องได้ดีขึ้นส่งผลให้ห้องรู้สึกโปร่ง โล่งสบายยิ่งขึ้นค่ะ

ห้องครัวจะอยู่ฝั่งขวามือติดกับระเบียง สามารถวางเคาน์เตอร์ยาวตามแนวผนังได้ ถ้าดูตามแปลนที่วางไว้จะเห็นว่าพื้นที่ส่วนระเบียงบางส่วนถูกนำเอาเครื่องซักผ้าไปวางไว้ด้านนอกด้วย และที่ลืมไม่ได้เลยคือห้องน้ำ ที่นี่จะให้ห้องน้ำมาแบบแยกส่วนแห้งและเปียกมาให้พร้อมพัดลมระบายอากาศและความชื้นในห้องน้ำค่ะ  โดยรวมแล้วห้องขนาด 22.5 ตารางเมตรเป็นห้องแบบหน้ากว้างเลยทำให้รู้สึกว่าห้องมีขนาดที่กว้างมากยิ่งขึ้นกว่าความเป็นจริง ถือเป็นเรื่องที่ดีนะคะ

เฟอร์นิเจอร์ที่ทางโครงการแถมให้* ในห้องแบบ 1 ห้องนอน Type 1 ขนาด 22.5 ตารางเมตรค่ะ

.

• 1 ห้องนอน Type 2 ขนาด 26 ตร.ม.

เป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนที่ขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อย ซึ่งพื้นที่ที่เพิ่มเข้ามาจะเห็นได้ชัดว่าเป็นพื้นที่บริเวณห้องนอนค่ะมีพื้นที่เหลือระหว่างเตียงและตู้เสื้อผ้าเพิ่มมากขึ้นสามารถตั้งโต๊ะญี่ปุ่นเล็กๆ ไว้ทำงานที่พื้นเพิ่มขึ้นได้อีกตัวชิลล์ๆ เลยค่ะ  แปลนห้องจะแบ่งซ้ายขวา ไปเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับห้องรับแขก ถัดเข้าไปเป็นเคาน์เตอร์ครัวแบบเปิดพร้อมโต๊ะรับประทานอาหาร ระเบียงจะอยู่ด้านในสุดของห้องต่อจากห้องครัวค่ะ

ส่วนห้องนอนจะกินพื้นที่ประมาณครึ่งหนึ่งของพื้นที่ห้องทั้งหมด สามารถวางเตียง 5 ฟุต แบบติดผนังได้ ห้องน้ำจะตั้งอยู่ภายในห้องนอนอีกทีนึงค่ะ แยกส่วนแห้งและเปียกให้เรียบร้อย

เฟอร์นิเจอร์ที่ทางโครงการแถมให้* ในห้องแบบ 1 ห้องนอน Type 2 ขนาด 26 ตารางเมตร

.

• 1 ห้องนอน Plus ขนาด 34.95 ตร.ม.

แบบ 1 ห้องนอนพลัส ขนาด 34.95 ตารางเมตรถ้ามองจากแปลนเผินๆ นึกว่าเป็นแบบ 2 ห้องนอนได้เลยนะคะเนี่ย เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับส่วนรับประทานอาหารก่อนเลย สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารได้ถึง 4 ที่นั่ง ถัดเข้าไปเป็นห้องรับแขกที่อยู่ติดกับระเบียงของห้อง ห้องนี้จะทำที่วางเครื่องซักผ้าเอาไว้ภายในห้องครัวแทนค่ะ

แปลนห้องนี้ดูเหมือนจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนเท่าๆ กัน คือประตูเข้าห้องจะอยู่ตรงส่วนตรงกลาง ซ้ายขวาแบ่งเป็นพื้นที่ใช้สอยต่างๆ  ฝั่งซ้ายมือจะแบ่งพื้นที่ครึ่งหนึ่งเป็นห้องครัว สามารถทำเคาน์เตอร์ตัว L ได้ขนาดค่อนข้างใหญ่ ใครที่ชอบทำอาหารน่าจะชอบห้องนี้ทีเดียว อีกครึ่งหนึ่งเป็นห้องอเนกประสงค์ แต่ในแปลนวางมาให้เป็นห้องนอนเล็ก สามารถวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตได้พอดีพร้อมกับตู้เสื้อผ้าอีกหลังหนึ่ง ส่วนฝั่งขวามือจะเป็นพื้นที่ของห้องนอนใหญ่กินพื้นที่ไปประมาณ 2 ใน 3 จากทั้งหมด สามารถวางที่นอนขนาด 5-6 ฟุตได้สบายๆ มีที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้าบานใหญ่ได้อีกหลังด้วยค่ะ พื้นที่ที่เหลืออีก 1/3 จะเป็นห้องน้ำ ซึ่งห้องน้ำนี้ทุกคนในห้องจะต้องแชร์กันใช้สามารถเข้าได้ทางเดียวคือ เข้าจากบริเวณส่วนรับประทานอาหารค่ะ

เฟอร์นิเจอร์ที่ทางโครงการแถมให้* ในห้องแบบ 1 ห้องนอน Plus ขนาด 34.95 ตารางเมตรค่ะ

เปิดห้อง มองสเปซ : Focus on “SPACE” and “DIMENSION”

โครงการ พลัม คอนโด ราม 60 อินเตอร์เชนจ์ มีห้องตัวอย่างให้ดู 2 ห้องค่ะ คือ แบบ 1 ห้องนอน Type 1 ขนาด 22.5 ตารางเมตร และ 1 ห้องนอน Type 2 ขนาด 26 ตารางเมตรค่ะ ความสูงพื้นถึงฝ้า 2.4 เมตร ส่วนทางด้านเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ให้มาแบบ Fully-Furnished ในตึก A-F ส่วนตึก G-H จะได้ห้องแบบ Fully-Fitted ค่ะ

ห้องตัวอย่าง Plum Condo ราม 60 อินเตอร์เชนจ์

แบบ 1 ห้องนอน Type 1 ขนาด 22.5 ตารางเมตร

เปิดประตูห้องเข้ามาจะเจอกับห้องนั่งเล่นก่อนเลยค่ะ ขนาดกำลังพอเหมาะสำหรับอยู่ 1-2 คน

พื้นที่ห้องนั่งเล่นสามารถวางโซฟาขนาด 2-3 ที่นั่งได้พอดีๆ มีพื้นที่เหลือเป็นทางเดินได้สบายๆ ไม่แน่นค่ะ

มาดูฝั่งที่วางทีวีกันบ้าง ชั้นวางทีวีจะอยู่อีกฝั่งหนึ่งของประตู มุมมองเมื่อนั่งจากโซฟาค่อนข้างพอดี ไม่เฉ ไม่เอียงดีค่ะ จากผนังวางทีวีจะเห็นทางเดินไปยังห้องครัวและที่รับประทานอาหาร ห้องครัวที่ทางโครงการ built-in ให้มาเป็นแบบยาวติดผนังด้านหนึ่งมีเคาน์เตอร์เล็กๆ ให้สามารถทำอาหารได้บ้าง

มีมุมรับประทานอาหารเล็กๆ สามารถจัดวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 2 ที่นั่ง นั่งดินเนอร์หวานๆ ภายในห้องกันได้เลย cute มาก

ห้องน้ำจะอยู่ต่อกับห้องครัวเลยค่ะ เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับอ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์สีขาวสะอาดตา พร้อมกับกระจกเงาบานใหญ่ช่วยให้ห้องน้ำกว้างขึ้น

ด้านในสุดเป็นพื้นที่ส่วนเปียก ติดตั้งมาให้พร้อมกับ Hand Shower และช่องไฟสำหรับต่อเครื่องทำน้ำอุ่นค่ะ

พื้นที่ระเบียงที่ทางโครงการให้มานั้นจะเป็นพื้นที่สำหรับตั้งเครื่องซักผ้าด้วยค่ะ เลยจะทำให้เหลือพื้นที่ระเบียงน้อยลง เพียงพอสำหรับออกไปยืนรับลมหรือตากผ้าเท่านั้น  แนะนำให้ใช้ราวตากผ้าแบบพับเก็บที่ผนังได้  ก็จะช่วยประหยัดที่และทำให้ใช้งานได้สะดวกขึ้นค่ะ

ระแนงกันตกพร้อมบังสายตาสูงมาจนถึงคอมเพรซเซอร์แอร์กันเลยทีเดียว ดูดีเป็นระเบียบเรียบร้อยเมื่อมองจากภายนอก

กลับมาดูกันที่ห้องนอนกันบ้างค่ะ ห้องนอนจะอยู่ต่อจากส่วนนั่งเล่นเลย ติดตั้งประตูบานเลื่อนกระจกแบ่งแยกพื้นที่ให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

พื้นที่ภายในห้องนอนสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ และยังมีกระจกช่วยให้ห้องดูโปร่งขึ้นไปอีกทางนึงค่ะ

เนื่องจากห้องนี้อยู่ในตึก G ชั้น 3 ห้องหันหน้าทางด้านทิศใต้ ตอนบ่ายแบบนี้จึงไม่โดนแดดเพราะมีเงาของตึก B บังไว้ให้ค่ะ สบายๆ ไม่ร้อน แถมยังได้วิวสระว่ายน้ำอีกด้วย สวยทีเดียว

กลับมาภายในห้องนอนต่อ ตู้เสื้อผ้าจะตั้งอยู่มุมด้านในสุดของห้องนอน บริเวณปลายเตียงค่ะ แต่ตู้เสื้อผ้าที่ทางโครงการให้มาจะไม่ได้แบบนี้นะคะ จะเป็นตู้สีขาวบานทึบแทน

ห้องตัวอย่าง Plum Condo ราม 60 อินเตอร์เชนจ์

แบบ 1 ห้องนอน Type 2 ขนาด 26 ตารางเมตร

เปิดประตูห้องเข้ามาจะเจอกับพื้นที่ห้องโล่งๆ ยาวไปจนถึงระเบียงเลยค่ะ ขวามือเป็นพื้นที่ห้องรับแขก ถัดเข้าไปเป็นห้องครัวและที่รับประทานอาหาร

มาดูกันที่ห้องรับแขกก่อนพื้นที่ตรงนี้สามารถวางโซฟาขนาด 2-3 ที่นั่งได้สบายๆ แล้วด้านข้างยังมีพื้นที่เหลือสำหรับวางตู้เก็บของหรือโต๊ะทำงานเล็กๆ ได้อีกตัวนึงค่ะ

ฝั่งตรงข้ามโซฟาเป็นชั้นวางทีวี ระยะการมองและมุมมองค่อนข้างพอดีทีเดียว

ถัดเข้ามาจากห้องรับแขกเป็นห้องครัวค่ะ นี่คือครัวแบบมาตรฐานที่ห้องขนาด 22.5-26 ตารางเมตรทุกห้องจะได้มาเหมือนกัน  เป็นครัวแบบ Built-in เคาน์เตอร์ด้านล่างทำเป็นซิงค์ล้างจานพร้อมตู้เก็บของ ข้างๆ เป็นที่สำหรับวางเครื่องปรุงหรือที่เตรียมอาหารก็ได้ ด้านล่างทำช่องไว้สำหรับวางไมโครเวฟไว้ให้ด้วยน้า ส่วนชั้นแขวนผนังด้านบนทำมาเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของและใช้พื้นที่ภายในห้องได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วยค่ะ

ฝั่งตรงข้ามครัวเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร ตรงนี้สามารถจัดวางโต๊ะได้ขนาด 2 ที่นั่ง หรืออาจจะบวกอีก 1 ที่นั่งกรณีตรงครัวไม่มีคนยืนอยู่ก็ได้นะคะ จัดมุมทานอาหารแบบนี้ได้น่ารักมากๆ เลยทีเดียว

ห้องนอนจะกินพื้นที่ประมาณ 2/3 ของห้อง เปิดประตูห้องนอนเข้ามาจะเจอกับพื้นที่วางเตียงขนาด 5-6 ฟุตแล้วยังเหลือพื้นที่ด้านข้างสำหรับวางโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งพร้อมตู้เสื้อผ้าบานใหญ่ๆ ได้อีก 1 หลังเลยค่ะ

ห้องน้ำจะตั้งอยู่ภายในห้องนอนเลย ภายในประกอบด้วยสุขภัณฑ์ครบครันตามมาตรฐานโครงการทั่วไป แต่ว่าที่นี่จะให้เป็นห้องน้ำสำเร็จรูปที่ทำมาจากโรงงานเลยนะคะ  เพราะฉะนั้นเรื่องงานก่อสร้างก็จะควบคุมมาตรฐานได้เหมือนกันทุกห้อง

ส่วนด้านในสุดเป็นพื้นที่เปียกเหมือนกันกับห้องขนาด 22.5 ตารางเมตรค่ะ

เปิดห้อง  ส่องวัสดุ  :  Focus  on  “MATERIALS”

อ่างล้างหน้า ยี่ห้อ Englefield

ก๊อกน้ำที่อ่างล้างหน้า ยี่ห้อ Prema

โถสุขภัณฑ์ จาก COTTO

Hand Shower จาก Prema เช่นเดียวกับก๊อกน้ำ

ข้างๆ โถสุขภัณฑ์มี ที่วางทิชชู่ ติดตั้งไว้ให้ด้วยค่ะ

บริเวณโซนเปียกทางโครงการให้ที่วางสบู่ติดไว้ที่บริเวณผนังด้วยนะ

ราวแขวนผ้าเช็ดตัวจะอยู่ข้างๆ ประตูห้องน้ำเลยค่ะ

พื้นห้องน้ำลดระดับลงมาจากพื้นห้องเล็กน้อย ป้องกันการไหลของน้ำเข้าห้องส่วนอื่นๆ ค่ะ

ภายในห้องครัวของห้องขนาด 22.5-26 ตารางเมตรจะได้ครัวขนาดกำลังน่ารักติดผนังตามมาตรฐานโครงการค่ะ ซึ่งจะเป็นครัวแบบ built-in เคาน์เตอร์ด้านล่างติดตั้งอ่างล้างจาน จากแบรนด์ Hafele พร้อมก๊อกน้ำ ชั้นด้านล่างสามารถเก็บของได้ ส่วนช่องข้างๆ ทางโครงการเว้นว่างไว้ให้วางไมโครเวฟ ส่วนใครที่ไม่อยากวางไมโครเวฟด้านล่างก็สามารถทำเป็นช่องเก็บของเพิ่มได้อีก 1 ช่องใหญ่ๆ เลยนะ และชั้นแขวนติดผนังด้านบนสามารถทำเป็นที่วางจาน ช้อน ส้อมได้สบายๆ หยิบจับมาใช้ได้ง่ายอีกด้วยค่ะ

ประตูหลักของห้องเป็น HDF สีขาวพร้อมตาแมวค่ะ

ส่วนประตูห้องนอนจะเป็น HDF สีขาวแบบไม่มีตาแมว และมือจับแบบลูกบิด

มือจับแบบก้านโยกจะมีให้เฉพาะประตูห้องทางเข้าหลักเท่านั้น

Door Stopper ติดตั้งมาให้บริเวณทางเข้าห้อง ป้องกันประตู้เด้งไปชนชั้นวางทีวีค่ะ

ตู้ควบคุมไฟฟ้าภายในห้องติดตั้งอยู่เหนือประตูทางเข้าห้อง

สวิตซ์ไฟเป็นแบบแป้นกด ขนาดกำลังดี กดง่าย

ไฟภายในห้องให้มาเป็นแบบไฟซาลาเปา

ส่วนบริเวณระเบียงได้ไฟส่องสว่างแบบ outdoor กันน้ำกันฝุ่นค่ะ

พื้นภายในห้องปูด้วยลามิเนตลายไม้สีอ่อน

พื้นภายในห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องสีน้ำตาลอ่อนขนาด 60*60 เซนติเมตร

ที่ระเบียงปูด้วยกระเบื้องสีน้ำตาลอ่อนขนาด 15*15 เซนติเมตรค่ะ

เปิดกระเป๋า  ดูสตางค์

เราเข้าไปรีวิวโครงการ พลัม คอนโด ราม 60 อินเตอร์เชนจ์ กันวันที่ 22 พฤษภาคม 2562 ราคาเริ่มต้นของห้องขนาดเล็กสุดคือแบบ 1 ห้องนอน Type 1 ขนาด 22.5 ตารางเมตรอยู่ที่ 1.59 ล้านบาท ตกอยู่ตารางเมตรละ 70,xxx บาทเท่านั้นค่ะ คาดว่าในอนาคตถ้ารถไฟฟ้าสายสีส้มเสร็จสมบูรณ์ราคาคงจะขึ้นไปมากกว่านี้อีกยาวเลยค่ะ

ราคา ณ 22 พฤษภาคม 2562

ราคาเริ่มต้น :

• แบบ 1 ห้องนอน Type 1 ขนาด 22.5 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท

เงื่อนไขการจอง :

เงินจอง

• 1 ห้องนอน Type 1 ขนาด 22.5 ตารางเมตร จอง xx,xxx บาท
• 1 ห้องนอน Type 2 ขนาด 26 ตารางเมตร จอง xx,xxx บาท
• 1 ห้องนอน Plus ขนาด 34.95 ตารางเมตร จอง xx,xxx บาท

ทำสัญญา

• 1 ห้องนอน Type 1 ขนาด 22.5 ตารางเมตร xx,xxx บาท
• 1 ห้องนอน Type 2 ขนาด 26 ตารางเมตร xx,xxx บาท
• 1 ห้องนอน Plus ขนาด 34.95 ตารางเมตร xx,xxx บาท

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :

• ค่าส่วนกลาง 40 บาท/ตร.ม.
• ค่ากองทุนเริ่มแรก (Sinking Fund) 500 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)

ประมาณอัตราการผ่อน (คิดจากราคาเริ่มต้นด้านบน) 

(เพื่อให้เห็นกรอบของค่าใช้จ่ายคร่าวๆ และนำไปวางแผนประมาณการของแต่ละคน  ถึงไม่ได้ซื้อห้องที่ยกมาเป็นตัวอย่างก็ใช้ตัวเลขได้ ซึ่งเราประมาณการอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าปกติหน่อย  เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรองรับความสามารถในการผ่อน  รวมถึงให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆ ที่เกิดขึ้น  เช่น  ค่าส่วนกลาง ไปด้วยในตัว) :

บนสมมติฐาน กู้  85% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 30 ปี

• แบบ 1 ห้องนอน Type 1 ขนาด 22.5 ตร.ม. ราคา 1.59 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ  8,542 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  85% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 25 ปี

• แบบ 1 ห้องนอน Type 1 ขนาด 22.5 ตร.ม. ราคา 1.59 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ 9,125 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  85% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 20 ปี

• แบบ 1 ห้องนอน Type 1 ขนาด 22.5 ตร.ม. ราคา 1.59 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ  10,076 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  85% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 15 ปี

• แบบ 1 ห้องนอน Type 1 ขนาด 22.5 ตร.ม. ราคา 1.59 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ  11,773 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  85% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี/ ระยะเวลา 10 ปี

• แบบ 1 ห้องนอน Type 1 ขนาด 22.5 ตร.ม. ราคา 1.59 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ 15,346 บาท/เดือน

Overview Summary

ด้านการเดินทาง

การเดินทางของโครงการ พลัม คอนโด ราม 60 อินเตอร์เชนจ์ เหมาะกับทั้งผู้ที่มีรถยนต์ส่วนบุคคลและผู้ที่ใช้บริการรถสาธารณะค่ะ เนื่องด้วยที่ตั้งโครงการตั้งอยู่ใกล้ hub ในโซนนั้นทั้งยังห่างจากถนนใหญ่เพียง 200 เมตร อีกทั้งซอยรามคำแหง 60 ยังสามารถเข้าออกได้ทั้งจากถนนรามคำแหงและถนนกรุงเทพกรีฑาได้สบายๆ อีกด้วย และยังสามารถเชื่อมต่อกับถนนหลักๆ ได้อีกหลายสายอย่าง ถนนลาดพร้าว, ถนนเสรีไทย, ถนนหัวหมาก และ ถนนศรีนครินทร์  ทางด้านคนที่ใช้บริการรถสาธารณะก็มีวินมอเตอร์ไซต์ รถแท็กซี่ รถเมล์ และในอนาคตยังมีรถไฟฟ้าสถานี ลำสาลี ที่เป็นสถานี Interchange ของสายสีส้มกับสีเหลืองห่างออกไปเพียง 350 เมตรเท่านั้น (อาจจะมีสีน้ำตาลเพิ่มมาในอนาคตด้วยนะคะ)

ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต

อย่างที่ได้กล่าวไว้ข้างบนว่าในอนาตจะมีรถไฟฟ้าสถานีลำสาลีเป็นสถานี Interchange จึงทำให้มีศักยภาพในการพัฒนาพื้นที่บริเวณนี้ไปได้อีกไกลเลย ทั้งจากที่โซนนี้เป็นโซนที่ค่อนข้างเจริญและมีคนอาศัยอยู่เยอะอยู่แล้วด้วยเป็นทุนเดิม ไม่ยากเลยที่ต่อไปแถวนี้จะเจริญขึ้นไปอีกมาก แค่ ณ ตอนนี้บริเวณใกล้เคียงยังมีศูนย์การค้าขนาดใหญ่อย่าง The Mall บางกะปิ, The Mall รามคำแหง, Big C หัวหมาก, Big C สุขาภิบาล 3 เป็นต้น ยังไม่รวมกับมหาวิทยาลัยเปิดชื่อดังอย่าง มหาวิทยาลัยรามคำแหง หรือนิด้า ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากคอนโดอีกด้วยนะคะ

ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ

โครงการ พลัม คอนโด ราม 60 อินเตอร์เชนจ์ เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น 8 ตึก ออกแบบมาในสไตลโมเดิร์นเน้นสีเทาเข้มตัดกับสีน้ำตาลหรือเทาอ่อนกับสีเหลืองตามแต่ละตึก โดยทางโครงการวางแปลนตึกยาวขนานกับซอยรามคำแหง 60 ค่ะ ทำให้ห้องภายในโครงการส่วนใหญ่หันหน้าทิศตะวันออกและตะวันตก มีเพียงบางตึกที่จะมีห้องทิศเหนือและทิศใต้บ้างประปราย ห้องภายในโครงการมีเพียงแบบเดียวคือแบบ 1 ห้องนอนแบ่งออกเป็น 3 ขนาดได้แก่ 22.5 ตารางเมตร, 26 ตารางเมตร และ 34.95 ตารางเมตรค่ะ

ภาพรวมภายในห้องของโครงการ Plum Condo ราม 60 อินเตอร์เชนจ์ ห้องขนาดเล็กสุด 22.5 ตารางเมตรจะได้ห้องที่หน้ากว้าง กระจกเยอะ ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัดเลยค่ะ ให้ feeling ดีพอๆ กับห้องขนาด 26 ตารางเมตรเลยทีเดียว แต่ขนาดครัวที่ให้มานั้นค่อนข้างกระทัดรัดจึงไม่ค่อยเหมาะกับการทำอาหารหนักๆ มากนักค่ะ ส่วนในเรื่องของวิวและทิศ เนื่องจากตัวโครงการเป็น Low Rise คนที่ซื้อห้องส่วนใหญ่อาจจะคาดหวังกับวิวสูงๆ มากไม่ได้ ถ้าอยากได้วิวสวยๆ แนะนำให้ซื้อห้องที่อยู่ชั้น 6 ขั้นไปค่ะ จะไม่ค่อยโดนบังวิวจากอาคารรอบข้างเท่าไหร่นัก  แต่ถ้าใครสนใจก็สามารถเข้าไปที่โครงการเผื่อดูวิวจริงในแต่ละห้องได้เลยว่าเราโอเคกับมุมมองแต่ละตำแหน่งหรือไม่  เพราะว่าสร้างเสร็จพร้อมให้เข้าอยู่แล้วค่ะ

แม้ว่าจะเป็นคอนโดราคาประหยัด หยิบจับง่าย แต่เรื่องของ Facilities โครงการก็มีมาให้ค่อนข้างหลากหลาย อย่างห้อง Co-Working Space & Mini Home Theatre, ห้อง Fitness, ห้อง Reading Lounge, ห้อง Kid’s Room, ลานออกกำลังกายแบบ outdoor และสระว่ายน้ำระบบเกลือถึง 2 สระ โดยทางโครงการได้จัดให้ Facilities ต่างๆ กระจายกันอยู่ทั่วทั้งโครงการเลยค่ะ

ที่จอดรถที่ทางโครงการเตรียมไว้ให้เป็นแบบ on ground ทั้งหมดอยู่รอบๆ อาคารที่พักอาศัยมีทั้งในร่มและกลางแจ้ง ซึ่งมีทั้งหมดประมาณ 40% รวมจอดซ้อนคัน ส่วนลิฟต์ภายในโครงการให้มาในตึก A-F ตึกละ 2 ตัว และ ตึก G-H ให้มาตึกละ 1 ตัว อัตราเฉลี่ยของการใช้ลิฟต์ในแต่ละตึกถือว่าไม่หนาแน่นนะคะ สบายๆ อาจจะเจอเพื่อนร่วมลิฟต์ได้บ้างบางคราว

ในด้านวัสดุ ทางโครงการให้มาเป็นไปตามมาตรฐานคอนโดทั่วไปเช่น สุขภัณฑ์จาก Cotto/Prema/Englefield ส่วนอุปกรณ์ภายในครัวบางชิ้นมาจาก Hafele ส่วนทางด้านพื้นปูด้วยลามิเนตลายไม้สีอ่อน ผนังติดวอลเปเปอร์ตามมาตรฐานโครงการ หลอดไฟแบบซาลาเปา ให้ความสูงพื้นถึงฝ้า 2.4 เมตรค่ะ

Additional Info

ลงทะเบียนรับสิทธิ์โปรโมชั่น >> คลิกที่นี่ 

Score Summary

สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยค่ะ  (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนคอนโดมิเนียมที่นี่)

และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่  https://www.facebook.com/Yusabuy

ADDITIONAL INFO.

ทางโครงการจะมีงาน Open House ในวันที่ 8-9 มิถุนายน 2562 นี้

ภายในงานจะมีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองภายในงานด้วยนะคะ

“ฟรีแอร์ ฟรีเฟอร์นิเจอร ฟรีวอยเชอร์เครื่องใช้ไฟฟ้า 20,000 บาท* ฟรีค่าโอน+ค่าใช้จ่ายอื่นๆ วันโอน”

และ โปรผ่อนเพียงล้านละ 1,500 บาท! ทั้งยังได้ห้องราคาโปรโมชั่นที่ 1.59 ล้านบาทเท่านั้น*

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ >> https://bit.ly/2XuLOBC

ทุกท่านสามารถสนับสนุนให้อยู่สบายสามารถทำรีวิวออกมาได้เรื่อยๆ ค่ะ  เพียงแค่เวลาไปดูโครงการบ้านและคอนโดที่ต่างๆ  เพียงช่วยระบุในแบบสอบถามของโครงการว่า “อยู่สบาย.com” เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ท่านติดตามอ่านอยู่  เวลาทางทีมงานขออนุญาตโครงการต่างๆ เข้าไปทำรีวิวจะได้ทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นค่ะ  (^_____^)

ถ้าข้อมูลเป็นประโยชน์ ช่วยกด Like กด Share ให้ทีมงานด้วยนะคะ  ^_____^