รีวิวฉบับนี้ทางอยู่สบายพาไปดูคอนโดใจกลางเมืองอีกแห่งที่เปิดตัวกันสดๆร้อนๆ อย่าง Noble BE33  โดยตัวคอนโดหน้าตาโมเดริ์นเห็นแว๊บแรกก็บอกได้ว่าเป็นแบบโนเบิลสไตล์  ที่ตั้งของคอนโด BE33 นั้นอยู่ในซอยสุขุมวิท 33 ตามชื่อโครงการเป๊ะ  ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่่างไร  ทางเราก็ข้อมูลมาให้ชมกันอย่างละเอียดครับ

ข้อมูล Fact Sheet ของโครงการ

Noble BE 33 Sukhumvit (โนเบิล บี เทอร์ตี้ทรี) 

• เจ้าของโครงการ >>> Noble Development (โนเบิล ดีเวลลอปเม้นท์)
• ที่ตั้งโครงการ >>> ซอยสุขุมวิท 33
• ขนาดที่ดิน >>>  2 – 0 – 5.9 ไร่
• จำนวนชั้น >>> 31 ชั้น
• จำนวนอาคาร >>>  1 อาคาร
• ประเภทห้อง >>>  1, 2, 3 bedroom และ penthouse
• ขนาดห้อง >>>
  • 1 bedroom  34.25 – 43.72 ตารางเมตร
  • 2 bedroom 51.50 – 69.76 ตารางเมตร
  • 3 bedroom 76.82 ตารางเมตร
  • Penthouse 109.51 – 139.85 ตารางเมตร
• จำนวนยูนิต >>>  277 ยูนิต
• ที่จอดรถ >>> 67% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>>  n/A ล้านบาท
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> ราคาเฉลี่ย 230,000 บาท/ตารางเมตร
• พิกัด GPS >>> 13.735487, 100.567734
• เว็บไซต์โครงการ >>> Noble BE33

  ลงทะเบียนรับส่วนลด 100,000 บาท คลิกที่นี่

เริ่มเดินทาง ดูทำเล

ในเรื่องทำเลและสภาพแวดล้อมรอบๆของคอนโด Noble BE33 ผมเคยเขียนพรีวิวโดยพาไปเดินเล่นรอบๆโครงการกันแล้ว  ในรีวิวฉบับนี้เลยจะขอข้ามหัวข้อนี้ไปนะครับ  ใครยังไม่ได้อ่านในส่วนของทำเลและสภาพแวดล้อมอ่านกันได้ที่ Noble BE33 Preview

ดูผังโครงการ  ตำแหน่งการเข้าถึง

ที่ตั้งของคอนโด Noble BE33 นั้นอยู่ช่วงกลางซอยสุขุมวิท 33  ถ้าวัดระยะจากปากซอยเข้ามาก็ประมาณ 320 เมตร  ถ้ารวมเดินจาก BTS สถานีพร้อมพงษ์ด้วยก็ประมาณ 500 เมตร  ระยะทางก็เดินกันพอเหงื่อซึมๆหล่ะครับ  ถือว่าออกกำลังกายกันไป  ในตอนนี้จุดขึ้นลงสถานีรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์ยังอยู่ตรงหน้า Emquartier แต่ในอนาคตก็จะมีการต่อขยายทางเดิน Sky Walk จากหน้า Emquartier มาลงตรงที่ดินที่จะพัฒนาเป็น The Emsphere ซึ่งอยู่ตรงข้ามปากซอยสุขุมวิท 33  อีหน่อยความรู้สึกในการเดินก็คงจะสั้นลงหล่ะครับ (แต่ระยะทางเท่าเดิมนะ)

ถนนในซอยสุขุมวิท 33  นี้เป็นถนนเล็กๆสวนกัน 2 เลน  ริมฟุตบาทจะมีพ่อค้าแม่ค้าขายอาหารแบบยึดที่ทางประจำกันพอควร  ทำให้บางช่วงเวลาที่เดินเข้าซอยก็จะต้องลงมาเดินบนถนนกันบ้าง  ยังไงก็ระวังรถด้วยหล่ะครับ  ถ้าลองขับรถเข้าไปในซอยสุขุมวิท 33 ก็จะมีเส้นทางที่เชื่อมต่อไป Mid Sukhumvit โซนต่างได้  เพราะถนนซอยย่อยๆนั้นเชื่อมถึงกันหมด  หลักๆที่ออกได้ก็จะมีซอยสุขุมวิท 31 (ซอยสวัสดี), ออกถนนอโศก (สุขุมวิท 21), ถนนเพชรบุรี หรือจะไปออกทองหล่อ (สุขุมวิท 55) ก็ได้

ที่ดินรอบๆโครงการนั้นฝั่งตรงข้ามเป็นตึกแถว 5 ชั้น  ด้านทิศใต้ติดเซอร์วิสอพาร์ตเม้นต์สูง 8 ชั้น  นอกนั้นพื้นที่รอบๆก็ยังมีว่างอยู่  ซึ่งอนาคตก็อาจจะมีคอนโดเพื่อนบ้านข้างเคียงขึ้นมาได้อีกครับ

ทิศทางแดด  ฝั่งไหนร้อน?  ฝั่งไหนร่ม?

ในเรื่องของทิศทางแสงแดดนั้น  ตัวคอนโดจะวางในแนวทิศเหนือ-ใต้  ห้องในคอนโดจะหันไปทางทิศตะวันออก(วิวทางทองหล่อ) และทิศตะวันตก (วิวทางอโศก)  แน่นอนว่าทิศทางวิวด้านอโศกซึ่งอยู่ตะวันตกนั้นก็จะร้อนกว่าเนื่องจากโดนแดดบ่าย   ถ้าอยากได้วิวเมืองไฟกลางคืนสวยๆก็ต้องแลกมาด้วยความร้อนหน่อย

มุมมองกับอาคารอื่นๆข้างเคียง

ผมลองวางตำแหน่งของตัวตึกคอนโด Noble BE33 ลงไปในแผนที่ให้ดูเทียบกับอาคารรอบๆ  จะเห็นว่าทิศทางนั้นจะไม่โดนบังวิวกันเลย  ตำแหน่งของห้องในคอนโดนั้นจะได้วิวโล่งทั้ง 2 ด้านครับ (บนสมมติฐานที่ยังไม่มีคอนโดหรือตึกอื่นๆแบบในปัจจุบัน)

ส่องโมเดล

เรามาดูหน้าตาของคอนโด Noble BE33 กันจากตัวโมเดลนะครับ  แน่นอนว่าคอนโดยี่ห้อโนเบิล  ดีไซน์ก็เหมือนจะเป็น Noble Style ไปแล้ว  ด้วยลักษณะรูปทรงเรียบง่ายตรงไปตรงมาแบบงานสถาปัตยกรรมโมเดิร์นแท้ๆ  ตัวคอนโดในโทนสี 2 โทนหลัก คือ สีเทาอ่อน กับ สีเทาอมน้ำตาล

หน้าตาดูแล้วก็โนเบิ๊ล โนเบิล นะคร้าบ

จะเห็นว่าตึกนั้นให้กระจกมาเยอะมาก  ส่วนที่ทึบก็จะเป็นส่วนของที่ซ่อนคอมเพรสเซอร์แอร์  ซึ่งจัดวางเรียงไว้ในแนวเดียวกันอย่างเป็นระเบียบ

มุมนี้จากด้านหลังครับ

ด้านข้างมาเรียบๆ

ตรงทางเข้าจะมีล็อบบี้ยื่นออกมา  ตรงนี้จะใช้วัสดุเป็น Reflective Glass ซึ่งจะสะท้อนเงาและภาพของต้นไม้และสภาพแวดล้อมโดยรอบไปที่ตัวล็อบบี้เอง  และพอมองด้านนี้ก็จะเห็นกระจกเต็มบานสูงจรดฝ้า  ลักษณะก็คล้ายๆกับ Noble Ploenjit หล่ะครับ

ถ้าดูจากผังและโมเดลจะเห็นว่ามีแนวต้นไม้ด้านหน้าค่อนข้างหนาแน่น  ซึ่งโครงการบอกว่าจะเลือกใช้ต้นไม้ต่างพันธ์กันให้ดูเป็นเหมือนสวนป่า  ชั้นล่างๆก็จะได้วิวตรงนี้ไปด้วยเอามาชดเชยกับวิวตึกแถวฝั่งตรงข้ามที่หน้าตาไม่ค่อยหน้าดูนัก

ซูมดูกันตรงยอดตึกครับ  ช่วงบนที่มีระยะถอยร่นเข้าไปนั้นจะเป็นส่วนของห้อง Penthouse ทั้งหมด  มีสระว่ายน้ำอยู่ด้วย (แต่ถ่ายขึ้นไปไม่เห็นนะ)

ฝั่งนี้เป็นยอดของคอนโดทางด้านหลังครับ

ซูมให้ดูกันใกล้  จะเห็นว่าแนวของตำแหน่งเครื่องคอมแอร์นั้นถูกจัดวางไว้เป็นระเบียบเป็นแนวเดียวกันทั้งหมด  ซึ่งประเภทห้องแต่ละชั้นไม่ได้เหมือนกัน  แต่ก็ดีไซน์ให้ตำแหน่งคอมฯแอร์ตรงกันครับ  นอกนั้นก็มีเส้นตั้งซึ่งช่วยทำหน้าที่เป็นแผงบังแดดได้บ้างนิดหน่อย

พื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งานเป็นอย่างไร

พื้นที่ส่วนกลางด้านหน้านั้นทำเป็นสวนป่่า  ปลูกพันธ์ไม้ผสมกันด้านหน้าอย่างที่เล่าไปแล้ว  โครงการบอกว่าต้องการทำเป็น Buffer กันเสียงจากภายนอกบริเวณถนนเข้ามาในคอนโด  ซึ่งจะได้ผลหรือไม่ก็คงต้องรอดูของจริงทั้งการเลือกพันธ์ไม้แต่ละพันธ์ที่มารวมกัน  เพราะเรื่องกันเสียงนี่ความหนาของทรงพุ่มไม้ต่างๆก็มีผลหมดครับ  ตรง Lobby อย่างที่ชึ้นให้ดูในโมเดลว่าใช้ Reflective Glass สะท้อนเงาของต้นไม้ด้านหน้าและรอบๆเข้ามา  ในตัว Lobby นั้นมีทั้งส่วนที่เป็น Outdoor และ Indoor มีสระน้ำอยู่ด้านหน้า  รูปทรงก็เป็นสี่เหลี่ยมเรียบๆครับ

พื้นที่ส่วนกลางบนตัวคอนโดนั้นจะอยู่ที่ชั้น 29 ซึ่งจะมี fitness, stream room, semi-outdoor space, multi-purposed room  และมีสระว่ายน้ำระบบเกลือยาว 28 เมตร  รวมๆก็ให้มาครบตามมาตราฐานที่ควรจะมีครับ

ในเรื่องของสัดส่วนความเพียงพอในการใช้งานนั้นจะได้ลิฟต์มา 2 ตัว กับจำนวน 277 ยูนิต คิดออกมาแล้วจะได้ประมาณ 139 ยูนิต ต่อลิฟต์ 1 ตัว  เมื่อเทียบสัดส่วนการใช้งานกับราคาแล้วก็จัดอยู่ในระดับกลางๆครับ  ที่จอดรถของคอนโดเป็นที่จอดรถใต้ดินทั้งหมด 5 ชั้น ซึ่งถ้าให้เดาก็น่าจะเป็นเพราะคอนโดถูกจำกัดความสูงจากระยะถอยร่นจากถนน  เนื่องจากซอยสุขุมวิท 33 นั้นไม่กว้างเท่าไหร่  เลยต้องเอาที่จอดรถลงไปไว้ใต้ดินหมด  จำนวนที่จอดรถนั้นให้มา 67% แบบไม่รวมจอดซ้อน  ถ้าซ้อนไปก็คงได้ที่เกิน 70%+ ซึ่งก็ถือว่าโอเคอยู่หล่ะครับ

ด้านหน้าทาางเข้าคอนโด

ตัว Lobby ด้านหน้า  ปิดผิวด้วย Reflective Glass อย่างที่บอกครับ  เวลากลางวันจะมองไม่ค่อยเห็นด้านในนัก  ถ้าเห็นก็แบบลางๆ

แต่ถ้ากลางคืนเปิดไฟก็จะมองทะลุไปเห็นด้านในทั้งหมด

ด้านในก็ตกแต่งด้วยแพทเทริ์นรูปทรงเรขาคณิต  โทนสีก็ใช้สีน้ำตาลช็อคโกแลต, เทา และสีดำเป็นหลัก

ส่วนรูปนี้โถงลิฟต์นี่ดูเป็นกราฟิกไปหน่อย  เดี๋ยวต้องไว้ดูของจริงในเรื่องการเลือกใช้วัสดุครับ

จากตรงนี้ของล็อบบี้จะเปิดไปสู่ outdoor space ได้  ซึ่งก็จะมองเห็นสวนด้านนอก ซึ่งสวนนี่เป็นความหวังใหญ่ของสเปซตรงนี้เลย ซึ่งกว่าจะได้สเปซมองไปเขียวๆเต็มที่แบบนี้ก็คงต้องรอกันพักใหญ่ๆหลักจากคอนโดเสร็จแล้ว (รอให้ต้นไม้โตนั่นแหละ) เพราะผมว่าพระเอกของสเปซนี้ไม่ใช่ตัวล็อบบี้แต่เป็นวิวสวนด้านนี้มากกว่าครับ

ด้านหน้ามีบ่อน้ำตกแต่งเล็กๆและก็มีมุมให้นั่งเล่นนิดหน่อย

รูปนี้ขึ้นมาที่ชั้น 29 ที่มีสระว่ายน้ำครับ (มีนกนางนวลบินด้วย 555) ดีไซน์ส่วนนี้ก็เป็นโมเดริ์นเรียบๆ เท่ๆ แบบที่โนเบิลชอบทำครับ  สเปซจะดูนิ่งๆ ไม่ได้หวือหวาวัยรุ่นอะไรมาก

เปิดผังคอนโด  Typical Floor Plan

ผังโครงการคอนโด Noble BE33 Sukhumvit ชั้น 1 

ที่ชั้นล่างสุดนี้จะมีสวนด้านหน้ากับล็อบบี้เป็นหลักครับ  ทางลงที่จอดรถใต้ดินนั้นจะอยู่ทางด้านหลังของตัวตึก  นอกนั้นก็เป็นพวกห้องเครื่องงานระบบอาคาร

Typical Floor Plan Noble BE33 ชั้น 2-8 

ที่ชั้นล่างๆ (ชั้น 2-8) ส่วนใหญ่จะเป็นแบบ 1 ห้องนอน ที่เป็นแบบหลัก  ส่วนหัวมุมอาคารฝั่งหันไปทางสุขุมวิทจะเป็นแบบ 2 ห้องนอน ส่วนฝั่งหันไปทางเพชรบุรีจะเป็นแบบ 1 ห้องนอนขนนาดใหญ่ (40 และ 43 ตารางเมตร)  โดยห้องทั้งหมดจะมีลิฟต์วางคั่นอยู่ตรงกลางทำให้มองได้เสมือนว่าทุกห้องเป็นแบบ Single Corridor ครับ

ส่วนพอสูงขึ้นไปอีก (ตั้งแต่ชั้น 9) ก็จะมีห้องแบบ 3 ห้องนอนเพิ่มขึ้นมาชั้นละห้อง  โดยจะรวมห้องมุม B12 และ A11 (บางส่วน) เข้าด้วยกัน  แต่ไม่ได้มีแปลนมาให้ดูนะครับ

Typical Floor Plan Noble BE33 ชั้น 18-28 

ในส่วนชั้นสูงๆขึ้นไป (ชั้น 18-28) ก็จะมี 2 ห้องนอนเพิ่มขึ้นมาอีก  ซึ่งตั้งแต่ชั้น 18 ขึ้นไปนี้ส่วนใหญ่ก็จะเป็นห้องขนาดใหญ่ๆ  ยูนิตแต่ละชั้นน้อย  โดยจะเหลือห้องแบบ 1 ห้องนอนแค่ชั้นละห้องเดียวครับ  การที่มียูนิตน้อยๆในชั้นบนๆที่ราคาสูงก็ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวเยอะขึ้น  และการที่เป็น single corridor ก็ทำให้เวลาเดินตามทางเดินหน้าห้องก็จะเหลือยูนิตเพียงครึ่งเดียว  อย่างชั้น 18-28 นี้จะมีชั้นละ 9 ยูนิต  ซึ่งทางเดินแต่ละฝั่งก็จะมีห้องแค่ 4-5 ยูนิตเท่านั้น ความหนาแน่นน้อย ไม่แออัดครับ

แปลนห้องดีไหม?

แปลนรวมๆก็ทำมาลงตัวดีครับ วางแปลนแบบง่ายๆไม่ซับซ้อน พยายามให้สเปซทั่งในส่วนห้องนอนและฟังก์ชั่นด้านนอกได้แสงธรรมชาติพอๆกัน

แปลนห้องคอนโด Noble BE33

แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 34.25 / 43.73  ตารางเมตร

ห้องแบบ 1 ห้องนอนจะมีทั้งหมด 3 ขนาด  คือแบบ 34 ตารางเมตร ซึ่งเป็นแบบที่มีมากที่สุด  และแบบ 40 กับ 43 ตารางเมตร ที่จะอยู่ตรงหัวมุมอาคาร

เริ่มจากสเปซของแบบ 34 ตารางเมตร (รูปซ้าย) กันก่อน ในส่วนห้องนอนและส่วนพักผ่อนด้านนอกนั้นแบ่งด้วยความกว้างเท่าๆกัน  มีห้องน้ำภายในห้องนอนซึ่งมีอ่างอาบน้ำแบบนั่งแช่มาให้ด้วย  มีพื้นที่เคาน์เตอร์ในห้องน้ำมาเยอะ

ด้านนอกตั้งโต๊ะรับประทานอาหารแบบ 4 ที่นั่งได้  มีสเปซเป็นมุมเหลือสำหรับทำตู้เก็บรองเท้าหรือตู้เก็บของตรงประตู  รวมๆแล้วก็จัดแปลนออกมาดีครับ  มีการวางตำแหน่งของคอมเพรสเซอร์แอร์ไว้ตรงกึ่งกลางระหว่างฝั่งห้องนอนและฝั่งห้องนั่งเล่น  เลยทำให้เปิดรับแสงธรรมชาติได้เท่าๆกันทั้งสองสเปซ  ส่วนระเบียงก็จะยาวตลอดแนวหน้ากว้างของห้อง  ตรงระเบียงมีแนวครีบเป็นเส้นตั้งช่วยบังแดดได้นิดหน่อย

ส่วนห้องแบบ 43 ตารางเมตร นั้นจะทำมาเป็นห้องตัวอย่างด้วย  ระยะหน้ากว้างของห้องจะเท่าๆกันกัับแบบ 34 ตารางเมตร (หน้ากว้าง 5.4 เมตร) แต่ว่ามีความลึกของห้องมากกว่า  ซึ่งทำให้ได้สเปซเพิ่มขึ้นมาหลายส่วน  สามารถทำตู้โชว์ Built-in ติดผนังตรงประตูทางเข้าได้ยาวตลอดแนว ในห้องนอนก็ทำ Walk-in closet ที่ค่อนข้างยาวได้ และมีช่องหน้าต่างและระเบียงเล็กๆด้านข้างให้ด้วย  สเปซตรงนี้ถ้าจะตั้งเป็นโต๊ะทำงานเล็กๆก็มีที่เหลือพอครับ  ด้วยขนาดห้องที่ใหญ่ก็เลยทำให้สเปซแบบ 43 ตารางเมตรนี้จัดออกมาหลวมๆ สบายๆ ครับ

แปลนห้องคอนโด Noble BE33

แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 69.76  ตารางเมตร

แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 69 ตารางเมตร นี้จะอยู่ที่ชั้นสูงๆไปแล้ว ตั้งแต่ชั้น 18 เป็นต้นไป จุดเด่นของห้องนี้คือหน้าหว้าง 11.70 เมตร ซึ่งถ้าดูจากขนาดแล้วก็เป็นแบบ 2 ห้องนอน ที่ใหญ่กว้างไซส์ทั่วๆไปที่นิยมทำกันในท้องตลาดหล่ะครับ  สเปซในส่วนห้องนอนนั้นจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง โดยที่มีขนาดต่างกันนิดหน่อย แต่ก็สามารถวางเตียงใหญ่ได้ทั้งคู่  ตรงกลางเป็นสเปซของส่วนพักผ่อน, ส่วนรับประทานอาหาร และส่วนเคาน์เตอร์ pantry เตรียมอาหาร  ทำเป็น Island ที่เป็นเคาน์เตอร์ไวน์บาร์ก็ได้  สเปซตรงกลางนี้ใหญ่ทีเดียวครับ  ความกว้างประมาณ 5.5 เมตร ในส่วนห้องน้ำในห้องนอนใหญ่จะมีอ่างอาบน้ำแบบนั่งแช่ให้เช่นกัน  แต่ห้องน้ำอีกห้องนึงจะเป็นสเปซแบบยื่นอาบแทน โดยรวมๆก็จัดมาลงตัวดีเช่นกัน แปลนสวยครับ

แปลนห้องคอนโด Noble BE33

แบบ 3 ห้องนอน ขนาด 76.82  ตารางเมตร

ในส่วน 3 ห้องนอนนั้นก็จะวางแปลนในลักษณะที่มีสเปซส่วนพักผ่อนและส่วนรับประทานอาหารอยู่ตรงกลางแล้ววางตำแหน่งห้องนอนทั้ง 3 ห้องไว้ในแต่ละมุม  โดยทางเข้านั้นจะเป็นช่องทางเดินเข้ามา  ซึ่งก็สามารถทำ Built-in สวยๆได้  แต่สเปซตรงครัวจะถูกวางหลบมุมอยู่  ไม่ได้เป็น pantry ที่วางในตำแหน่งเด่นๆเหมือนกับแบบ 2 ห้องนอน 69 ตารางเมตร สเปซของพื้นที่ตรงกลางห้องจะเป็นแนวลึกเข้ามา  ด้านในสุดแสงธรรมชาติก็อาจจะเข้ามาได้น้อยหน่อย  ต้องเปิดไฟช่วยเอาครับ

แบบนี้สัดส่วนของห้องนอนใหญ่ 2 ห้องนั้นจะเท่าๆกันเลย เหมืือนมี master bedroom 2 ห้อง และมีห้องน้ำในตัวทั้งคู่ ส่วนห้องนอนเล็กสุดก็จะเปิดเข้าห้องน้ำในตัวได้เช่นกัน  แต่จะเป็นห้องน้ำที่แชร์กับด้านนอกด้วย  ห้องนอนเล็กสุดนี่ก็มีระเบียงมาให้ด้วย

เปิดห้อง  มองสเปซ  :  Focus  on  “SPACE”  and  “DIMENSION”

ห้องตัวอย่างที่ทำมาให้มีแบบ 1 ห้องนอน 43.72 ตารางเมตร และแบบ 3 ห้องนอน 76.82 ตารางเมตร  ก็เลือกไซส์ใหญ่ๆมาทำให้ดูกัน  ความสูงของสเปซภายในห้องนั้นได้ฝ้าเพดานสูง 2.75 เมตร แต่บานกระจกนั้นสูงขึ้นไปอีก 20 ซม. ไปชนกับท้องโครงสร้างของชั้นบน  ทำให้ได้บานกระจกสูง 2.95 เมตร ซึ่งถือว่าใหญ่มาก  ทำให้ห้องค่อนข้างดูโปร่ง  ส่วนสเปซห้องน้ำนั้นสูง 2.5 เมตรครับ

ห้องตัวอย่างคอนโด โนเบิล บีเทอร์ตี้ทรี สุขุมวิท

แบบ 1 ห้องนอน 43.75 ตารางเมตร

เปิดประตูห้องเข้ามาจะเห็นสเปซในส่วนเตรียมอาหาร, ส่วนรับประทานอาหาร และส่วนพักผ่อน จัดอยู่รวมกัน ระยะของสเปซแต่ละส่วนนั้นพอดีๆ ไม่อึดอัดครับ

ผมลองเปิดม่านให้ดู  เวลามองออกไปเราจะไม่เห็นบานกรอบอลูมิเนียมด้านบน  เพราะความสูงของกระจกนั้นมากกว่าความสูงของสเปซในห้อง  ซึ่งก็ทำเป็นรางซ่อนม่านเอาไว้ด้วย  ตำแหน่งของผ้าม่านด้านซ้ายนั้นผมรูดเอาไว้ให้พอดีกับระยะของตำแหน่งซ่อนคอมเพรสเซอร์แอร์จะได้เห็นกันว่าถ้าช่องหน้าต่างเต็มๆที่ได้แสงเข้ามาประมาณไหนครับ

มุมนี้มองจากโต๊ะทานข้าว

มองกลับไปทางหน้าห้องที่เราเข้ามาครับ  ถ้าเป็นแบบ 34 ตารางเมตร สเปซก็จะสั้นกว่านี้ประมาณ 1.6 เมตร และมีประตูอยู่ตรงกลางครับ

เข้ามาดูกันในห้องนอนบ้าง

เปิดม่านนนนนน….

เอียงให้ดูด้านนี้  อย่างที่บอกว่าผมพยายามเปิดม่านให้พอดีกับระยะที่ซ่อนคอมฯแอร์  จะได้เห็นชัดๆว่าได้กระจกมาขนาดไหนครับ

เข้ามาดูภายในห้องน้ำครับ  ตรงส่วนอาบน้ำมีฝักบัวและ Rain Shower มีอ่างอาบน้ำแบบนั่งอาบให้ครับ

มองมาอีกด้านนึงของห้องน้ำ  รวมๆแล้วให้วัสดุมาดีมากทีเดียว ทั้งกระจกและการจัดไฟก็ซ่อนทำมาให้แบบในรูปเลยครับ

ห้องตัวอย่างคอนโด โนเบิล บีเทอร์ตี้ทรี สุขุมวิท

แบบ 3 ห้องนอน 76.82 ตารางเมตร

มาถึงแบบ 3 ห้องนอนกันบ้าง  เข้ามาในห้องก็จะเจอกับแนวทางเดิน  เอาไว้ทำตู้ Built-in ได้ครับ  แต่ตรงนี้แสงธรรมชาติอาจจะเข้ามาไม่ถึง  ต้องเปิดไฟหน่อย

สเปซตรงกลางที่เป็นส่วนรับประทานอาหารและส่วนนั่งเล่นพักผ่อน

รูปนี้ปิดม่านนะครับ

มองย้อนกลับไป

สเปซในห้องน้ำเล็ก  จะมีส่วนอาบน้ำซึ่งกั้นกระจกมาให้

พื้นที่ในห้องนอนเล็กสุด  ในห้องนี้ถ้าจะวางเตียงก็วางได้แค่เตียงเดียวนะครับ

เข้ามาดูในห้องนอนครับ เตียงที่วางได้เป็น Queen Size

ในห้องน้ำ ขนาดก็จะพอๆกับห้องน้ำในแบบ 1 ห้องนอน ต่างกันนิดหน่อย

สเปซรวมๆในห้องนอนครับ

เปิดห้อง  ส่องวัสดุ  :  Focus  on  “MATERIALS”

วัสดุท่ี่ให้มาจัดว่าดีทีเดียวครับ ให้ของมาเกรดดี มีเคาน์เตอร์ครัว, เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เช่น ตู้เย็น, เตาไมโครเวฟ มาให้ด้วย  ซึ่งปกติแล้วโนเบิลมักจะให้ห้องเปล่าโล่งๆ  คราวนี้พอทำตลาดที่ราคาเกิน 2 แสนบาทต่อตารางเมตร เลยเรียกว่าจัดมาเต็มที่เลยทีเดียว (เพราะถ้าให้ห้องเปล่าเหมือนที่อื่นเดี๋ยวจะดูไม่สมราคาหล่ะนะ)  ในห้องน้ำนั้นวัสดุก็จัดว่าดีครับ มีกระจกบานใหญ่ซ่อนไฟ  ปิดผิวเคาน์เตอร์ด้วยหินอ่อน  ดูรวมๆหรูดีครับ

วัสดุห้องครัว / ส่วนเตรียมอาหาร (pantry)

หน้าตาเคาน์เตอร์ที่ทำ Built-in มาให้ครับ  หน้าบานสีขาวผิวด้าน มีลูกฟักทุกบาน

ลองเปิดดูทั้งหมดก็จุของได้เยอะดี

บานนี้เป็นตู้เย็นครับ  ปิดเอาไว้เนียนตาดีทีเดียว

เปิดออกมาให้ดู  เป็นตู้เย็นของ smag นะครับ มีราคาทีเดียว

ทำตัวยึดหน้าบานตู้เข้ากับหน้าบานตู้เย็น  ลองเปิดดูแล้วก็สามารถเลื่อนสไลด์ไปมาได้ไม่ว่าจะเปิดกว้างหรือแคบ

อ่างล้างจานฝังในเคาน์เตอร์ของ Smeg หัวก็อกเป็นแบบเรียบๆของบ MEX  ผิวเคาน์เตอร์เป็นหินเทียมสีขาว  สัมผัสดีครับ

ด้านล้างมีถังขยะให้

ลิ้นชักนั้นเป็น soft-closed ทั้งหมด

เตาเซรามิค 2 หัวของ Smeg

เตาไมโครเวฟของ Smeg หน้าตาเรียบหรูดูดีมีชาติตระกูลทีเดียว

ซ่อนฮูดดูดควันเอาไว้ใต้ตู้เรียบร้อยดี  ถ้ามองจากระดับสายตาธรรมดาจะมองไม่เห็นเลยครับ  หน้าบานตู้นั้นสวยดี  แต่การใช้สีขาวและผิวด้านแบบนี้เวลาใช้งานก็ต้องระมัดระวังกันหน่อยเพราะว่าดูจะเลอะง่ายอยู่พอควรหล่ะครับ

ต้องก้มแหงนดูครับ

ตู้ด้านล่างมีช่องระบายอากาศให้  มีซีลยางเก็บความเรียบร้อย

ตรงผนังติดกระจกเอาไว้กันเลอะให้ครับ

วัสดุห้องน้ำ

ส่วนอาบน้ำที่มี Rain Shower ให้ด้วย  อ่างอาบน้ำเป็นของ Kasch

เคาน์เตอร์ของห้องน้ำห้องเล็ก

กระจกในห้องน้ำทำยื่นออกมาจากผนัง และติดซ่อนไฟเอาไว้ทั้งด้านบนและด้านล่างดูหรูดี

มีสวิตซ์ไฟที่มีฝาปิดกันนั้นให้เรียบร้อย  ระยะอยู่สูงจากก็อก  ปลอดภัยเรื่องน้ำกระเด็นครับ

ด้านบนก็ซ่อนไฟไว้เช่นเดียวกับด้านล่าง

ด้านหลังกระจกเปิดมาเป็นชั้นเก็บของได้

Top เคาน์เตอร์เป็นหินอ่อน ดูดีมากทีเดียว

ตรง skirt ของอ่างอาบน้ำก็บุหินอ่อนแบบเดียวกับที่ปูบนเคาน์เตอร์

อ่างล้างหน้าใช้ของ TOTO แบบฝังครึ่งเคาน์เตอร์  ตัวอ่างดูบางดีครับ

สุขภัณฑ์ของ TOTO แบบฝารองนั่งและก้านฉีดชำระอัตโนมัติ  มีมาให้ในห้องน้ำของ master bedroom ทุกห้อง รวมถึงแบบ 1 ห้องนอนด้วยครับ  โถสุขภัณฑ์แบบนี้ทำมาเอาใจตลาดญี่ปุ่นชัดๆ

ระดับพื้นห้องน้ำกับพื้นห้องด้านนอกก็เท่าๆกัน  มีธรณีหินอ่อนกั้นเอาไว้

วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (finishing)

ประตูเป็น Electronic Door Lock ของทาง Hafele ต้องใช้การ์ดแตะเข้าห้องเท่านั้น

ด้านในเป็นลูกบิดนะครับ

บานประตูห้องสูง 2.4 เมตร ด้านบนปิดลามิเนตต่อเนื่องสีเดียวกันกับบานประตูเอาไว้ให้

พื้นลามิเนตเป็นเกรด premium หนา 10 มม. ผิวสัมผัสดีมากทีเดียว

แอร์แบบคอนซีลซ่อนเอาไว้ในฝ้าเพดานให้เรียบร้อย

ดร็อปรางซ่อนม่านเอาไว้ให้  ตรงนี้กระจกจะสูงเลยระยะของฝ้าเพดานขึ้นไปอย่างที่เล่าไปแล้วครับ  ไฟดาวน์ไลท์ก็จะเป็นรูปทรงสีเหลี่ยมแบบในห้องตัวอย่าง แต่ว่าตัวหลอดจะเป็น LED

รางม่านตีเอาไว้ให้ 2 ราง จะใส่ทั้งม่านโปร่งแสงและม่านทึบก็ได้

บานกรอบอลูมิเนียมอบสีดำ  Fitting ก็โอเคครับ  เลื่อนประตูแล้วไม่หนักมากแม้ว่ากระจกจะบานใหญ่ก็ตาม

ตัวแผงอลูมินียมบังแอร์เป็นสีน้ำตาล  ตรงที่จับของราวกันตกนั้นใช้วิธียึดที่พื้นอย่างเดียว  ไม่ได้ยึดกับผนังด้านข้างด้วย

ราวกันตกจะตั้งอยู่ด้วยลูกกรงเหล็กนี้อย่างเดียวครับ  เวลาตรวจรับห้องอย่าลืมเช็คเรื่องความแข็งแรงให้ดีด้วยนะครับ

ถ่ายให้ดูตรงระเบียงครับ

สวิตซ์สีขาวผิวด้านของ Biticino

เปิดกระเป๋า  ดูสตางค์

ราคา Noble BE33 นั้นยังไม่ได้เปิดออกมาให้ดูกันอย่างละเอียด  มีแต่ตัวเลขเบื้องต้นว่าเริ่มที่ 210,000 บาทต่อตารางเมตร  ซึ่งแปลว่าห้องเล็กสุดก็จะเริ่มที่ 7 ล้านกว่า  ซึ่งด้วยระดับราคาแบบนี้ก็จะข้ามไปเป็นการซื้อขายด้วย Emotional Benefits มากกว่าจะเป็น Functional Benefits คือเรียกว่าซื้อด้วยความพึงพอใจนั่นแหละครับ  เพราะฉะนั้นบางทีความคุ้มค่าของคนที่ซื้อของใน Segment นี้ก็วัดออกมาไม่ได้เหมือนกัน

ราคา ณ วันที่ 3 มิถุนายน 2558 

ราคาเริ่มต้น :

เฉลี่ยเริ่มต้น 210,000 บาทต่อตารางเมตร

เงื่อนไขการจอง :

• เงินจอง

n/A

• ผ่อนผ่อนดาวน์

n/A

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :

ค่าส่วนกลาง   n/A  บาท/ตร.ม.  (ชำระล่วงหน้า 1  ปี)
ค่ากองทุนเริ่มแรก (Sinking Fund)  n/A บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)

ค่าธรรมเนียมโอน 2% (ผู้ซื้อ 1% , ผู้ขาย 1%)

Overview Summary

ด้านการเดินทาง

ทำเลของคอนโด Noble BE33 ถือว่าอยู่กลางเมืองช่วง Mid Sukhumvit ทีเดียว  สุขุมวิทฝั่งเลขคี่นั้นจะมีซอยเล็กซอยน้อยที่เชื่อมถึงกันได้ทั้งจากทางอโศกไปจนถึงทองหล่อ, เอกมัย  และสามารถไปออกถนนเพชรบุรีัได้ด้วย  ภาพรวมของการขับรถไปไหนมาไหนถือว่าสะดวกมาก  ยกเว้นเรื่องของการใช้ทางด่วน  เพราะจะต้องไปแถวเพลินจิตหรือไม่ก็พระราม 4 เลย

ถ้ามาจากตัวสถานี BTS พร้อมพงษ์ก็จะมีระยะการเดินประมาณ 500 เมตร  ในอนาคตถ้า The Emphere สร้างเสร็จและมีทางเชื่อม sky walk มาจนถึงปากซอยสุขุมวิท 33 ก็จะทำให้เดินจากตัวสถานีมาสะดวกขึ้น  เพราะพอลงจากบันไดทางเชื่อมรถไฟฟ้าแล้วก็จะเหลือเข้าซอยอีกประมาณ 320 เมตร

สภาพแวดล้อมในการเดินเข้าออก อย่างที่บอกว่าก็จะมีพ่อค้าแม่ค้าตั้งรถเข็นขายอาหารยึดฟุตบาทกันอยู่ประจำ  เลยต้องมีบางช่วงที่ลงมาเดินถนนบ้าง ตรงปากซอยก็มีพี่วินฯให้นั่งรถเข้าไป ค่าเสียหาย 10 บาทครับ  ช่วงระยะปากซอย 33 จะวุ่นวายหน่อย  แต่พอเข้าในกลางซอยช่วงที่โครงการอยู่ก็จะเงียบสงบลงเยอะ

ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต

พื้นโซนรอบๆ BTS พร้อมพงศ์ จัดว่ามีมูลค่าในตัวเองสูงอยู่แล้ว  ซอยทางฝั่งเลขคี่นี่ก็เป็นตลาดของคนญี่ปุ่นซึ่งมีกำลังจ่ายสูง  โดยรวมๆก็จัดว่ามีครบๆ ไม่ได้ขาดอะไรครับ  เรื่องการเติบโจในอนาคตที่น่าสนใจคงเป็นแผนของ The Mall Group ที่จะสร้างพื้นที่บริเวณนี้ให้เป็น Em District ไปแข่งกับเครือ Central ซึ่งหลังจากเปิดตัว Emquartier รวมถึงปรับปรุง Emporium ใหม่ไปแล้ว ก็จะถึงคราวของ The Emsphere  ที่ตรงข้ามปากซอยสุขุมวิท 33 บ้างหล่ะครับ

ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ

ลักษณะของดีไซน์งานสถาปัตยกรรมของคอนโด Noble BE33 ก็ออกมาเป็นแบบ Modern ยี่ห้อ Noble Style เลยทีเดียว คือประมาณว่าปิดชื่อโครงการก็ยังดูออกว่าคอนยี่ห้อไหน  ตัวคอนโดนั้นก็ออกมาเรียบๆ นิ่งๆ ใช้โทนสี 2 โทนหลักคือสีน้ำตาลช็อคโกแลตและสีเทา ลุคเลยดูเป็นผู้ใหญ่แบบที่ไม่แก่ แต่ก็ไม่ได้ดูเด็กน้อยสนุกสนาน

การวางผังนั้นจะทิ้งพื้นที่ด้านหน้าเอาไว้เป็นพื้นที่สวน ปลูกต้นไม้เพื่อเป็นแนวกั้น (Buffer) ระหว่างด้านนอกกับภายในโครงการ  โดยวางตัวคอนโดเอาไว้ติดด้านหลัง  ซึ่งก็จะทำให้สร้างคอนโดได้สูงขึ้นด้วย เพราะมีระยะถอยร่นตามกฎหมายมากขึ้น คอนโดนี้เอาที่จอดรถลงใต้ดินหมด 5 ชั้น และเริ่มวางห้องพักเอาไว้ที่ชั้น 2 เลย ในแง่การวางแปลนนั้นพยายามจััดตำแหน่งของคอมเพรสเซอร์แอร์ของห้องทุกแบบให้ตรงกัน  เวลามองจากภายนอกก็จะเห็นเป็นเส้นตรงเรียบร้อย

ภาพรวมของแปลนก็จัดออกมาได้ดีไม่ได้มีปัญหาอะไรครับ  เนื่องจากห้องของ Noble BE33 นั้นเน้นจับตลาดบน กำลังซื้อสูง  เลยทำห้เองขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ เลยพื้นที่การใช้งานไม่คับแคบนักครับ  ในส่วนของวัสดุนั้นก็ให้มาดี  ทำ built-in pantry ให้สวยงาม  วัสดุในห้องน้ำให้มาดี  ข้อควรระวังก็คือเรื่องการใช้งาน pantry ครัว เพราะว่าบานตู้ที่ทำมาให้นั้นเป็นไม้สีขาวผิวด้านทั้งหมด ซึ่งแบบนี้จะค่อนข้างเลอะง่ายเวลาใช้งาน  ต้องหมั่นดูแลรักษากันดีๆหน่อยครับ

พื้นที่ส่วนกลางก็ให้มาตามปกติ  มีล็อบบี้, สวน, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, ห้องเอนกประสงค์, ห้องสตรีม  ก็เป็นตามมาตราฐานที่พึงมี  ส่วนดีไซน์นั่นก็ทำมาแบบเส้นสายตรงไปตรงมาเรียบๆ นิ่งๆ จุดที่ดูจะพยายามพรีเซ็นต์มากก็คือพื้นที่สวนด้านนอกที่มองออกไปจากล็อบบี้  ซึ่งก็คงต้องรอดูของจริงอย่างเดียวว่าจะออกมาเขียวชอุ่มอย่างที่โฆษณาเอาไว้หรือเปล่าครับ  สำหรับความพอเพียงในเรื่องลิฟต์กับที่จอดรถนั้น  ลิฟต์ของโครงการให้ลิฟต์โดยสารมา 2 ตัว  เฉลี่ยออกมาได้  139 ยูนิต ต่อลิฟต์ 1 ตัว  เมื่อเทียบกับราคาแล้วก็ถือว่ากลางๆครับ  ส่วนที่จอดรถได้มา 67% แบบไม่รวมซ้อนคัน ถ้ารวมซ้อนแล้วก็น่าจะได้สัก 75% ขึ้นไป(อันนี้กะเอง) ตัวเลขจริงๆเมื่อเทียบกับราคาอาจจะคาดหวังสูงกว่านี้หน่อย  แต่สำหรับคอนโดตัวแพงๆซึ่งปกติคนซื้อก็จะไม่ได้อยู่กันหนาแน่นครบทุกยูนิต  และก็คงมีส่วนนึงที่จะถูกแชร์ไปกับตลาดชาวญี่ปุ่น  ก็เลยไม่น่าจะมีปัญหาในการใช้งานครับ

Score Summary

***** การให้คะแนนคอนโดในระดับราคาเฉลีี่ยเกิน 200,000 บาท ต่อตารางเมตร จะไม่ได้ลงคะแนนในส่วนของวัสดุและสาธารณูปโภค  เนื่องจากเป็นกลุ่มระดับราคา (Price Segmentation) ที่ซื้อขายด้วยการให้น้ำหนักทางอารมณ์และความชอบ (Emotional Benefits) มากกว่าการวัดความคุ้มค่าของเงินเพียงอย่างเดียว (Functional Benefits)  ซึ่งโดยปกติทั้ง 2 ปัจจัยนั้นทางเราจะมองคะแนนด้วยการเปรียบเทียบจากระดับราคากับสิ่งที่ได้มาเป็นหลักด้วย  ส่วนปัจจัยอื่นก็ยังสามารถให้คะแนนได้เช่นเดิมครับ  *****

(อ่านเกณฑ์การให้คะแนนคอนโดมิเนียมที่นี่)

และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่  https://www.facebook.com/Yusabuy

  ลงทะเบียนรับส่วนลด 100,000 บาท คลิกที่นี่

ทุกท่านสามารถสนับสนุนให้อยู่สบายสามารถทำรีวิวออกมาได้เรื่อยๆครับ  เพียงแค่เวลาไปดูโครงการบ้านและคอนโดที่ต่างๆ  เพียงช่วยระบุในแบบสอบถามของโครงการว่า ”อยู่สบาย.com” เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ท่านติดตามอ่านอยู่  เวลาทางทีมงานขออนุญาตโครงการต่างๆเข้าไปทำรีวิวจะได้ทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นครับ  (^_____^)

ถ้าหากว่ารีวิวของเรามีประโยชน์  ช่วยกด Like ด้านล่างสำหรับกำลังใจในการทำรีวิวของทีมงานด้วยนะครับ