รีวิวที่ 2 นี้เราพาไปดูคอนโด Abstracts Phahonyothin Park (แอ็บสแตร็กส์ พหลโยธิน พาร์ค) แถวๆเซ็นทรัล  ลาดพร้าวกันมั่งครับ  โครงการที่จะพาไปดูเป็นโครงการแรกเลยของ BTS Assets โดยซื้อตึกเก่าที่ร้างอยู่มาพัฒนาต่อ  ตึกนี้ประวัติต้องย้อนกันไปนานทีเดียวตั้งแต่สมัยวิกฤตต้มยำกุ้ง    จะเป็นยังไง  เริ่มจากไปดูข้อมูลโครงการกันก่อนเลยครับ

“Abstracts Phahonyothin Park”

เริ่มเดินทาง  ดูทำเล

            การเดินทางนั้นเหมือนกับมาเซ็นทรัล  ลาดพร้าวครับ  น่าจะรู้จักกันดีทุกคนอยู่แล้ว   ถ้ามาทางวิภาวดีขาออกก็ให้เลี้ยวขวามาตามป้ายรัชโยธินพอถึงเซ็นทรัลแล้วก็ให้วิ่งเลยมาหน่อย  เตรียมกลับรถตรงหน้ากองปราบปราม  กลับแล้วก็ชิดซ้ายได้เลยครับ  ถ้ามาจากวิภาวดีขาเข้าก็เลี้ยวซ้ายตรงข้างโรงเรียนหอวังแล้วพอถึงพหลโยธินก็เลี้ยวซ้ายอีกที  จากนั้นก็ไปกลับรถหน้ากองปราบเช่นกันครับ

หรือถ้ามาจากทางแยกเกษตรหรือเมเจอร์รัชโยธินก็วิ่งตรงมาอย่างเดียว  พอเห็นปราสาทแดนเนรมิตก็เตรียมชิดซ้ายเพื่อเลี้ยวเข้าทางโลตัสลาดพร้าวได้เลยครับ  ง่ายมากๆ

พิกัดโครงการ >> 13.817661,100.564995

พอมาถึงโครงการแล้ว  ก็ลองมาดูกันหน่อยว่ารอบๆโครงการมีอะไรกันบ้าง  ไปลอยตัวดูจากด้านบนนะครับจะได้เห็นรอบๆ  แล้วก็ดูตามเลขได้เลยว่าตรงไหนเป็นอะไร

 

เปิดประตู  ดูโครงการ

            ตอนไปดูโครงการ Abstracts พหลโยธิน  นี้ไปตอนบ่ายๆยังไม่ได้ทานอะไร  พอขับรถเข้ามาทางเดียวกับโลตัสก็เลยตัดสินใจเลี้ยวรถแวะหาอะไรรองท้องก่อน   เลยเห็นว่าเป็นคอนโดที่สะดวกดีในการหาของกินของใช้ดี   พอท้องอิ่มเรียบร้อยก็ขับรถวนเข้าไปในโครงการใหม่  หรือจะจอดรถในโลตัสแล้วเดินเข้าไปดูก็ได้เพราะจอดฟรี 3 ชั่วโมง

 

เปิดผังโครงการ

• ดูทิศ มองแดด รับลม
  

            เข้ามานั่งในสำนักงานขายเสร็จ  เราเปิดดูผังโครงการกันมั่งครับ  จะเห็นว่าตัวอาคารนั้นเข้าแถวหน้ากระดานเรียงกันเลยทีเดียว  แต่อาคารที่เปิดขายอยู่มีแค่ตึกหน้า Tower A ครับ  ส่วน Tower B นั้นยังเป็นโครงสร้างเก่าตั้งแต่วิกฤตต้มยำกุ้งที่เล่ามาแล้วยืนเป็นอนุสาวรีย์อยู่   ตอนนี้มีกำลังปรับปรุงอยู่บางส่วน  แต่ยังไม่ได้เปิดขาย   กว่าจะขายก็คงต้องรอให้ขาย Tower A หมดซะก่อนซึ่งก็เหลือไม่เยอะแล้ว  และ Tower C นั้นยังเป็นที่โล่งๆอยู่ครับ (มีคนกระซิบมาว่าส่วน Tower C โครงการหยุดไว้ก่อน  ไม่รู้จริงหรือเปล่า)

ส่วนที่จอดรถนั้นต้องขับไปปลายสุดเลยครับ  แล้วก็นั่งรถกอล์ฟของโครงการกลับมา  พนันได้ว่าคนอยู่ Tower A จำนวนนึงจะสุขภาพดีขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนเพราะขี้เกียจรอรถแล้วเดินเองนี่แหละครับ  รอบนึงก็ร่วมๆ 250 เมตร  ไปกลับครึ่งกิโลพอดี   เรียกว่าอยู่คอนโดนี้ไม่มีพุง

ตัวอาคารนั้นวางตามแนวตะวันออก – ตะวันตก ทำให้คนที่อยู่ห้องทิศใต้ในหน้าร้อนควรจะต้องไปเดินเล่นโลตัสหน้าโครงการ  ซื้อแป้งเย็นตรางูมาติดห้องไว้เป็นดีที่สุด  แต่มีข้อดีคือได้วิวเมืองครับ  กลางคืนไฟจะสวยกว่า  ราคาก็แพงกว่าห้องแบบเดียวกันที่อยู่ฝั่งเหนือนิดหน่อย  ส่วนด้านทิศเหนือก็จะร่มเกือบตลอดวัน  เพราะอาคารตัวอาคารกลายเป็นแนวกำแพงบังแดดใหญ่มาก  ชั้นล่างๆก็จะเห็นสวน  ส่วนชั้นบนๆก็ดูแข่งโกล์คาร์ทที่สนามแดนเนรมิตไปครับ

ไปดูในแปลนห้องกันบ้าง  เลือกมาเฉพาะบางชั้นนะครับ ไม่งั้นจะเยอะไป

• ดูพื้นที่ส่วนกลาง  ความพอเพียงในการใช้งาน

พอเห็นภาพทิศทางการวางอาคารกับเรื่องแดดไปแล้ว  ทีนี้ก็มาดูเรื่องพื้นที่ส่วนกลางต่างๆกันมั่งครับ…  ด้วยความที่ตึกมันใหญ่มาก  Abstracts จึงเลือกวาง Facilities ในแต่ละส่วนกระจายไปทั่วตึกถึง 3 จุด  ซึ่งเป็นแนวคิดที่ดีครับ  เพราะจะทำให้คนที่อยู่ในแต่ละห้องมีระยะทางเข้าถึง Facilities อย่างใดอย่างหนึ่งไม่ไกลจนเกินไปนัก  และก็ไม่ทำให้คนที่ไปใช้พื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดไปแออัดกันอยู่ที่เดียวด้วย  ลองดูตามรูปไดอะแกรมที่โครงการให้มาครับ

คอร์ทตรงกลางอาคารที่เขียนว่า Green พอขึ้นไปดูด้านบนเอาจริงๆแล้วก็ไม่ได้เขียวเท่าไหร่นะครับ  เหมือนเป็นพื้นที่พักผ่อนนั่งรับลมมากกว่า  ห้องสมุดและห้องเด็กอยู่ชั้น 12A  เป็น Double Volume  ส่วนห้องฟิตเนสกับห้องแอโรบิคอยู่ที่ชั้น  23   ในส่วนดาดฟ้าชั้น 34 นั้นทั้งสองฝั่งเป็น Function Room  สามารถทำเป็นห้องประชุม จัดเลี้ยง  หรือจัดงานอื่นๆได้เพราะเป็นห้องเปิดโล่ง  ใช้พื้นปูกระเบื้องทำให้รองรับงานหนักได้และมีพื้นที่ส่วนหน้าห้องที่เป็น Foyer ที่สามารถรองรับคนได้จำนวนมาก  จัดงานตรงนี้ผมว่ากลางคืนสวยมากกกก  ซึ่งอันนี้ต้องเสียตังเช่ากับนิติบุคคลนะครับ   มีข้อควรระวังเรื่องนึงก็คือเรื่องเสียงสำหรับคนซื้อชั้น 33 ครับ  เพราะผมไม่แน่ใจว่าถึงเวลาจะดังขนาดไหน  และพื้นที่ระหว่างชั้น 33 กับ 34  มีการป้องกันเสียงขนาดไหนอันนี้ไม่รู้จริงๆ

สระว่ายน้ำนั้นมี 2 จุด  คือชั้น 12A เป็นสระคลอรีน  ส่วนชั้น 34 จะเป็นสระน้ำเกลือครับ  สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่พาเด็กๆไปเล่นในห้องเด็กที่ชั้น 12A  เสร็จแล้วถ้าลูกๆอยากว่ายน้ำ  แนะนำให้ขึ้นไปดาดฟ้าดีกว่าครับ  เพราะผิวเด็กๆนั้นโดนคลอรีนไม่น่าจะดีแน่ๆ   จริงๆผมว่าทำเป็นสระน้ำเกลือทั้ง 2 ชั้นไปเลยก็น่าจะดีนะครับ  สระชั้น 12A  เล็กกว่าชั้น 34 ตั้งเยอะ

เอาหล่ะครับ   อ่านมายาวแล้ว  เรามาดูรูปถ่ายจริงพักสายตากันบ้างดีกว่า

เริ่มจากชั้น  12A ก่อนครับ

 

ตอนนี้เราขึ้นไปดาดฟ้าชั้น 34 กันมั่ง

มาถึงเรื่องลิฟต์กันบ้างครับ   ลิฟต์นั้นแยกเป็น 2 ฝั่ง  ฝั่งละ 4 ตัว ( แต่ละฝั่งแบ่งเป็น ลิฟต์โดยสาร 3 ตัว และลิฟต์บริการที่เป็นลิฟต์ดับเพลิงในตัวอีก 1 ตัว )   รวมแล้วก็มีลิฟต์โดยสาร 6 ตัว  กับ 1,012 ยูนิต  เฉลี่ยออกมาได้ 168 ยูนิต ต่อลิฟต์ 1 ตัว  จริงๆผมว่าลิฟต์บริการลดเหลือตัวเดียว  ให้แม่บ้านเดินเอาอีกนิด  แล้วเพิ่มลิฟต์โดยสารเป็น 7 ตัวน่าจะช่วยให้การใช้งานในเวลา Peak Hour คล่องตัวขึ้นอีกเยอะเลยครับ

(Note : ปกติจำนวนลิฟต์ที่เหมาะสมสำหรับอาคารพวกคอนโดมิเนียมนับเป็นจำนวนคนก็จะอยู่ ที่ประมาณ 80-120 คน/ลิฟต์ 1 ตัว  แล้วแต่ระดับราคาครับ  เรียกว่ายิ่งจ่ายแพงก็ไม่ควรต้องให้รอนาน   ถ้าจะบอกว่าเพียงพอหรือไม่คงต้องดู spec ของลิฟต์ว่าใช้ความจุและความเร็วเท่าไหร่มาประกอบกันครับ  เพราะวิศวกรจะคำนวณให้รองรับคนในช่วง Peak Hour ได้เหมาะสมกับตัวเลข Benchmark  ของอาคารแต่ละประเภท  ดูแค่จำนวนลิฟต์กับจำนวนห้องแล้วเอามาหารกันอย่างเดียวไม่ได้นะครับ)

หลังจากขึ้นมาบนดาดฟ้าแล้ว  เราลงไปเดินเล่นกันในสวนมั่งดีกว่าครับ

 

เปิดแปลน  ดูห้องมองสเปซ

แปลนของ Abstracts นั้นค่อนข้างจะยิบย่อยหลายแบบครับ  เพราะเกิดจากการแบ่งพื้นที่ห้องจากโครงสร้างเดิม  ซึ่งตอนวันที่ผมไปดูโครงการนั้น  ยังเหลือห้อง 1  bedroom อยู่อีก 3 แบบ

แบบ A

แบบ A  นี้เป็นแบบที่มีเยอะที่สุดในโครงการครับ  ขนาดประมาณ 37 – 41 ตร.ม.  แปลนแบบนี้ถ้าเอาประตูกั้น bedroom กับ living room ออก  ก็กลายเป็นห้อง Studio นี่เอง   ลักษณะการวางตำแหน่งห้องกระทัดรัดลงตัวแบบสูตรสำเร็จของคอนโดสมัยก่อน(- -“:)    ซึ่งก็เข้าใจได้ว่าถูกบังคับด้วยช่วงเสาโครงสร้างเดิม  ถ้าเป็นโครงการสร้างใหม่ทั้งหมดในระดับราคานี้   คงไม่มี developer เจ้าไหนกล้าให้ห้อง 1 bedroom หน้ากว้่างแค่ 4 เมตรแน่ๆ

แบบ D

แบบ D  นี้จะเป็นแบบที่ติดอยู่กับลิฟต์ครับ  โดยแบบ D ครัวใน นั้นเสียพื้นที่ไปพอสมควรกับทางเดินเข้าห้อง  ที่ขนาดไม่พอจะทำอะไรได้นอกจากทำชั้นวางของเล็กๆน้อยๆ  หรือตู้ Built-in ตกแต่ง   เพราะโดนบีบด้วยเสาอาคารกับผนังลิฟท์(ตำแหน่งที่วงเส้นประไว้)  ในขณะที่แปลนแบบ D ครัวหน้า นั้นกว้างพอที่จะวางเคาท์เตอร์ครัวเข้าไปได้  เนื่องจากถ้าดูแปลนรวมจะเห็นว่าผนังอีกด้านไม่ใช่ผนังรับน้ำหนักของอาคารเลยสามารถขยับพื้นที่ได้  นอกจากนั้นข้อแตกต่างคือแนวปูกระเบื้อง  แบบ D ครัวหน้า  นั้นจะปูแค่สุดแนวเคาท์เตอร์ครัว  แต่ D ครัวใน  จะปูเข้าไปจนชนส่วนของ Living เลย  วัสดุในห้องก็เป็นแบบเดียวกันทั้งสองครับ

 

 เปิดห้องตัวอย่าง  ชมวัสดุ  

“Focus on Materials”

เรา มาดูเรื่องวัสดุกันบ้างครับ  ห้องทุกแบบนั้นให้วัสดุแบบเดียวกัน  เพื่อให้ดูง่ายเข้าผมเลยแบ่งเรื่องวัสดุในห้องออกเป็น 3 ส่วน  คือ  ห้องครัว,  ห้องน้ำ  และวัสดุทั่วไปซึ่งรวมถึงวัสดุปิดผิว(finishing materials)  โดยโครงการ “Abstracts พหลโยธิน” นี้ห้องที่ให้มาเป็น Fully-Fitted  มีครัวให้  มีวัสดุอุปกรณ์ห้องน้ำให้  ไม่มีเฟอร์นิเจอร์  คุณภาพของวัสดุโดยรวมจัดอยู่ในระดับกลางๆครับ  ไม่ดีมากแต่ก็ไม่แย่  ที่ดูเด่นๆน่าจะเป็นพื้นไม้ Engineering Wood  สีไม้สักดูดีสวยงามทีเดียว

 

เปิดห้องตัวอย่าง  ดูอินทีเรีย 

“Focus on Space and Dimension”

เริ่มที่ห้องแบบ A กันก่อนครับ

Type A (ประมาณ 37-45 ตร.ม.)

Type D ครัวหน้า (ประมาณ 45 ตร.ม.)

Type D ครัวใน (ประมาณ 45 ตร.ม.)

Type F 

ในแบบของ Type F  โครงการไม่ได้ให้แปลนขยายมานะครับ  แต่มีห้องตัวอย่างให้ดู  แบบนี้จะมีข้อเสียอยู่ตรงที่มีเสาโครงสร้างโผล่มาในห้องเลย   ผมตั้งใจถ่ายรูปมุมนี้มาเพื่อให้เห็นมุมของห้องนอนและเสา  สังเกตว่าเขาทำอินทีเรียให้มุมของห้องนอนและประตูเป็นกระจกบานใหญ่จรดฝ้าทั้งหมด  เพื่อให้ห้องดูโปร่ง  ลดความอึดอัดไป   แต่ของจริงเป็นผนังกับประตูทึบนิสิ  อันนี้ก็ต้องจินตนาการเผื่อไว้หน่อยนะครับ

เปิดกระเป๋า  ดูสตางค์

โครงการ “Abstracts  พหลโยธิน” เปิดขายช่วงแรกๆด้วยราคาเจ็ดหมื่นกว่าบาทต่อตารางเมตรครับ  ถ้าเทียบราคานั้นกับ Facilities ที่ให้ก็ถือว่าคุ้มค่ามากทีเดียว  แต่ก็ต้องนับถือใจคนที่จองไปตั้งแต่ช่วงนั้นเหมือนกัน   เพราะตอนนั้นนอกจากไม่เห็นหน้าตาอาคารแล้วยังเห็นแต่โครงสร้างตึกเก่าที่ทิ้งร้างไปเป็นสิบปี  กับชื่อดีเวลล็อปเปอร์หน้าใหม่(ที่แม้จะขาใหญ่และเงินเยอะมากก็ตาม)  เรียกว่าต้องใช้ความมั่นใจพอๆกับน้องเนยรักษ์โลกเลยทีเดียว

ณ ตอนที่เขียนรีวิวนี้ราคาก็ได้ปรับขึ้นไปอยู่ที่แปดหมื่นปลายๆต่อตารางเมตร  เนื่องจากเป็นชั้นที่สูงขึ้นและราคาเฉลี่ยก็ปรับขึ้นด้วยครับ  โมเดลการตั้งราคานั้นในชั้นเดียวกันราคาทิศใต้ให้สูงกว่าทิศเหนือนิดหน่อย  เพราะเน้นขายวิว   และเมื่อเพิ่มชั้นสูงขึ้นราคาก็จะปรับขึ้นห้องนึงประมาณไม่เกิน 20,000 บาท/ตร.ม.  ว่าแล้วก็ไปดูราคากันดีกว่าครับ

ราคา ณ วันที่ 9 เมษายน 2556

ราคาเริ่มต้น :

1 bedroom   38.15 ตร.ม.  ชั้น 21  (1A4)  ราคา 3,355,746 บาท (เฉลี่ย 87,961 บาท/ตร.ม.)–> Type A

1 bedroom   44.19  ตร.ม.  ชั้น 28  (1D9)  ราคา  3,966,100 บาท (เฉลี่ย 89,751 บาท/ตร.ม.)–> Type D ครัวใน

1 bedroom   45.68 ตร.ม.  ชั้น 27  (1D8)  ราคา 4,026,500 บาท (เฉลี่ย 88,145 บาท/ตร.ม.)–> Type D ครัวหน้า

           เงื่อนไขการจอง :

1 bedroom               จอง 20,000 บาท  ทำสัญญา  30,000   บาท

            ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :

ค่าส่วนกลาง              35   บาท/ตร.ม.  (ชำระล่วงหน้า 1 ปี)
ค่ากองทุนเริ่มแรก     500 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)

ค่าธรรมเนียมการโอนคนซื้อกับโครงการชำระคนละครึ่ง

            ประมาณอัตราการผ่อน (คิดจากราคาเริ่มต้นด้านบน) :

 บนสมมติฐาน ดาวน์ 10% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 30 ปี

1 bedroom      38.15 ตร.ม.  ชั้น 21    (1A4)  ประมาณ 20,900 บาท/เดือน

1 bedroom      44.19 ตร.ม.  ชั้น 28    (1D9)  ประมาณ 24,800 บาท/เดือน

1 bedroom     45.68 ตร.ม. ชั้น 27    (1D8)  ประมาณ 25,100 บาท/เดือน

 บนสมมติฐาน ดาวน์ 10% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 25 ปี

1 bedroom      38.15 ตร.ม.  ชั้น 21    (1A4)  ประมาณ  22,100 บาท/เดือน

1 bedroom      44.19 ตร.ม.  ชั้น 28    (1D9)  ประมาณ 26,200 บาท/เดือน

1 bedroom     45.68 ตร.ม. ชั้น 27    (1D8)  ประมาณ  26,600 บาท/เดือน

 บนสมมติฐาน ดาวน์ 10% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 20 ปี

1 bedroom      38.15 ตร.ม.  ชั้น 21    (1A4)  ประมาณ 24,100 บาท/เดือน

1 bedroom      44.19 ตร.ม.  ชั้น 28    (1D9)  ประมาณ 28,500 บาท/เดือน

1 bedroom     45.68 ตร.ม. ชั้น 27    (1D8)   ประมาณ  29,000 บาท/เดือน

 บนสมมติฐาน ดาวน์ 10% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 15 ปี

1 bedroom      38.15 ตร.ม.  ชั้น 21    (1A4)  ประมาณ 27,800 บาท/เดือน

1 bedroom      44.19 ตร.ม.  ชั้น 28    (1D9)  ประมาณ 32,800 บาท/เดือน

1 bedroom     45.68 ตร.ม. ชั้น 27    (1D8)  ประมาณ 33,300 บาท/เดือน

 บนสมมติฐาน ดาวน์ 10% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 10 ปี

1 bedroom      38.15 ตร.ม.  ชั้น 21    (1A4)   ประมาณ 35,600 บาท/เดือน

1 bedroom      44.19 ตร.ม.  ชั้น 28    (1D9)  ประมาณ 42,100 บาท/เดือน

1 bedroom     45.68 ตร.ม. ชั้น 27    (1D8)    ประมาณ 42,700 บาท/เดือน

Overview Summary

ด้านการเดินทาง

“Abstracts พหลโยธิน พาร์ค” ชูจุดแคมเปญการตลาดที่ไม่มีใครเลียนแบบได้อย่างเรื่องบัตรรถไฟฟ้า BTS ฟรี 10 ปีมาเป็นจุดขาย   โดยให้เดินทางได้ฟรี 25 สถานี ไปถึงวงเวียนใหญ่หรือไม่ก็อ่อนนุช  ที่เหลือก็ต้องเพิ่มเงินในบัตรเอา  แต่เห็นว่าบนบัตรมีรูปถ่ายติดเลยใช้แทนกันไม่ได้นะครับ    ซึ่งเอาเข้าจริงๆแล้วผมว่าการเดินทางไป BTS  ก็ลำบากเหมือนกัน   ต้องอาศัยนั่ง Shuttle Bus  ของโครงการไป 10 บาท/คน/เที่ยว  ซึ่งแน่นอนว่าการนั่งรถผ่านห้าแยกลาดพร้าวในช่วงเวลาเร่งด่วนก็คงไม่ใช่เรื่องชิลนัก    ส่วนถ้าพูดถึงการขับรถก็อยู่ในจุดที่สะดวก   สามารถเข้าใจกลางเมืองทางหมอชิตหรือวิภาวดีได้   ถ้าจะไปรัชดาก็ไปกลับรถเอาหรือไม่ก็เลี้ยวซ้ายตรงแยกลาดพร้าวตรงไปก็ออกรัชดาได้เหมือนกัน

ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต

จริงๆการอยู่ในทำเลใกล้เซ็นทรัลลาดพร้าวซึ่งเป็น Hub ในย่านนี้รองจากเมเจอร์รัชโยธินก็ถือว่ามีศักยภาพมากๆแล้ว   ถ้า  BTS สายสีเขียวส่วนต่อขยายหมอชิต-สะพานใหม่สร้างเสร็จ  (ซึ่งคอยนานชัวร์ใครที่มีลูกๆเพิ่งเข้า ม.1 โรงเรียนหอวัง  รับรองว่ากว่าจะได้ใช้นี่เข้ามหาวิทยาลัยแล้วแน่นอน)   บริเวณตรงนี้น่าจะยิ่งน่าสนใจมากขึ้นอีก  เพราะห่างจากหมอชิตแค่สถานีเดียว  โดยสถานีในอนาคตจะอยู่หน้าเซ็นทรัลลาดพร้าว  ซึ่งก็คงไม่ได้ห่างจาก MRT พหลโยธินนักเพื่อให้เดินเชื่อมกันได้  และอีกสถานีก็เลยไปแถวซ.พหลโยธิน 24 เลย

ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ

ในงานสถาปัตยกรรมต้องยอมรับว่าการวางผังขยับขยายอะไรไม่ค่อยได้  เนื่องจากถูกบังคับด้วยช่วงเสาของโครงสร้างของอาคารเดิม  แต่ก็เห็นความพยายามที่ดีที่จะจัดผังห้องออกมาได้   แม้สเปซบางจุดจะดูเล็กเกินไปในขณะที่บางจุดก็ดูใหญ่เกินความจำเป็นไปบ้างก็ตาม  ผมว่าจุดเด่นของโครงการนี้เป็นเรื่องของพื้นที่ส่วนกลางมากกว่า   ชอบพื้นที่ส่วนกลางที่อยู่บนอาคารที่ออกแบบให้มีช่องทะลุทั้งด้านทิศเหนือและทิศใต้  ทำให้ลมไหลเวียนดีมาก  ลมพัดเย็นสบาย  แล้วก็พื้นที่สวนซึ่งให้มาเต็มๆจนเหมือนสวนสาธารณะดีๆนี่เอง   การเลือกใช้วัสดุในห้องนั้นเกรดอาจจะไม่ได้ดีมากแต่ก็ไม่ได้ขี้เหนียวอะไรถือว่าสมเหตุสมผลกับราคา  แต่คิดว่าวัสดุที่ใช้กับพื้นที่ส่วนกลางดูธรรมดาไปหน่อยเกรดกลางๆแต่ใช้งานได้

ด้านตัวเลือกอื่นๆ

คอนโดใหม่ๆที่กำลังสร้างและอยู่ใกล้สุดคือ “M ลาดพร้าว” ของ “Major Development”  แต่อย่าเอาไปเทียบกันเด็ดขาดนะครับ  เพราะคนละ Segment กันเลย  ของ M ลาดพร้าวนั้นไปเริ่มต้นที่ตร.ม.ละแสนกว่า   ถ้าจะเทียบในระดับราคาเดียวกันแนะนำให้ลองดู  “U Delight พหลโยธิน สเตชั่น” ที่อยู่ใกล้ๆ SCB Park ครับ  ที่นั่นราคาเฉลี่ยก็ประมาณแปดหมื่นกว่าบาทต่อตร.ม.เหมือนกัน

Score Summary

สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนครับ  โดย “Abstracts พหลโยธิน” นี้  ผมจะจัดเป็นคอนโดที่สร้างเสร็จแล้วหรือเกือบเสร็จแล้วนะครับ  ซึ่งจะมีการให้คะแนนเพิ่มขึ้นมาจากปกติอีก 2 ข้อ  คือ  คุณภาพของพื้นที่ส่วนกลาง  และคุณภาพของการก่อสร้างอาคารโดยภาพรวม  (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนคอนโดที่นี่)

ก็ขอปิดท้ายรีวิวที่สองไว้เท่านี้นะครับ ช่วงนี้เพิ่งเปิดเว็บใหม่ๆ ถ้าอ่านแล้วมีอะไรแนะนำหรืออยากให้เพิ่มบทความตรงไหนก็ยินดีเสมอนะครับ

[twitter-follow screen_name=’yusabuy’ show_count=’yes’]