Chic District รามคำแหง53 รีวิวคอนโดและอาคารพาณิชย์จาก YuSabuy
· 4 min readรีวิวไปกันโซนรามคำแหงบ้างครับ อยู่สบายพาไปดูโครงการ Chic District Ram53 (ชิค ดิสทริคท์ รามคำแหง53) ซึ่งเป็นโครงการแรกๆของ Major Development ที่ลงมาเล่นในตลาดราคาไม่แพงมากช่วงล้านปลายๆถึงสองล้านต้นๆ เพราะอย่างทราบๆกันว่าโดยปกติเมเจอร์นั้นมักจะทำตลาดบนเป็นหลัก
โครงการ Chic District รามคำแหง53 นี้เป็นโครงการแบบผสม (mixed-use project) ครับ ประกอบด้วยคอนโดมิเนียม อาคารพาณิชย์(shophouse) และส่วนร้านค้า(retail) ที่ตั้งโครงการนั้นอยู่ในซอยรามคำแหง53 หรือจะเข้าจากซอยลาดพร้าว112 ก็ได้สามารถทะลุกันได้อยู่แล้ว รีวิวโครงการ Chic District นี้ผมจะเน้นพูดถึงส่วนที่เป็นโครงการคอนโดมิเนียมเป็นหลัก ส่วนอื่นๆเช่นพวกอาคารพาณิชย์หรือร้านค้าจะไม่ได้ลงลึกมากนะครับ
ขอเสริ์ฟด้วยรีวิวข้อมูลเบื้องต้อนของคอนโด Chic District รามคำแหง53 ครับ
Chic District Ram53 (ชิค ดิสทริคท์ รามคำแหง53)
- เจ้าของโครงการ >>> Major Development (พัฒนาในนาม MJR Development)
- ที่ตั้งโครงการ >>> ซอยรามคำแหง53 , ซอยลาดพร้าว112
- ขนาดที่ดิน >>> แบ่งเป็น 3 ส่วนคือส่วนคอนโดมิเนียม ประมาณ 10 ไร่, อาคารพาณิชย์ 3 เฟส ขนาด 9-3-00, 1-0-84, 1-0-96 ไร่, อาคารสาธารณูปโภคส่วนกลางที่เมเจอร์บริหารเอง 3-3-69 ไร่
- จำนวนชั้น >>> 5 ชั้น
- จำนวนอาคาร >>> 20 อาคาร
- ประเภทห้อง >>> 1 ห้องนอน
- ขนาดห้อง >>> 28 , 35 ตารางเมตร
- จำนวนยูนิต >>> 800 ยูนิต
- ราคาเริ่มต้น >>> 1.63 ล้านบาท (นับเฉพาะยูนิตที่เหลือขายวันทำรีวิว)
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> 58,000-66,000 บาท/ตารางเมตร (นับเฉพาะราคาเฉลี่ยวันทำรีวิวของภาพรวมยูนิตที่เปิดขาย)
- พิกัด GPS >>> 13.767392 , 100.618828
เรามาออกเดินทางไปดูรีวิว Chic District รามคำแหง53 กันได้แล้วครับ
เริ่มเดินทาง ดูทำเล
ผมใช้เส้นทางไปโครงการจากถนนลาดพร้าวครับ เข้ามาทางซอยลาดพร้าว 112 สังเกตด้านหน้าตรงปากซอยจะมีสะพานลอยกับโชว์รูม BMW อยู่ ตรงปากซอยนี้มีวินมอเตอร์ไซด์ใหญ่อยู่ด้วย พอเลี้ยวเข้าซอยมาเสร็จก็ตรงมาอย่างเดียวครับ ถนนนั้นจะเป็นสองเลนสวนกันไม่ค่อยมีพื้นที่ไหล่ทางนัก สองข้างทางเป็นตึกแถว อาคารพาณิชย์ สลับกับหอพักและอพาร์ทเม้นท์ตลอดแนว ให้ตรงมาจนสุดทางก็จะบังคับเลี้ยวขวา เลี้ยวไปนิดเดียวเจอสามแยกก็ให้เลี้ยวซ้าย ตรงนี้จะเข้าสู่ช่วงซอยรามคำแหง53 แล้วครับ ก็ให้ขับรถตรงมาจะเห็นโครงการอยู่ทางซ้ายมือ หาไม่ยาก
ถ้าใครจะมาจากทางถนนนรามคำแหง ก็ให้ขับตรงมาทางหน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหงเลย ซอย 53 จะอยู่ฝั่งตรงข้ามครับ หน้าปากซอยมีร้านทองเยาวราชอยู่ เข้าซอยแล้วสองข้างทางก็จะเป็นตึกแถว อาคารพาณิชย์ และหอพักกับอพาร์ทเม้นท์ตลอดแนวเหมือนกัน ให้ข้ามคลองแสนแสบมาเลยมาหน่อยจะเห็นตัวโครงการจะอยู่ทางขวามือครับ
สรุประยะทางจาก คอนโดมิเนียม Chic District รามคำแหง 53 ไปจุดสำคัญๆต่างๆในบริเวณทำเลของคอนโดให้ดูกันครับ
(อยู่สบายได้เลือกเส้นทางที่สั้นที่สุดแต่ยังเดินทางได้สะดวกมาให้ดูนะครับ)
ไปปากซอยรามคำแหง53 แนวรถไฟฟ้าสายสีส้มในอนาคต 1 กิโลเมตร
ไปเดอะมอลล์ รามคำแหง 3 กิโลเมตร
ไปปากซอยลาดพร้าว112 แนวรถไฟฟ้าสายสีเหลือในอนาคต 1.5 กิโลเมตร
ไปโรงพยาบาลรามคำแหง 4.5 กิโลเมตร
ไปโรงเรียนบดินทร์เดชา กิโลเมตร
ผมพาขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินวนดูรอบๆก่อนเหมือนเดิมครับ ตัวโครงการอยู่ในเส้นสีแดงที่ล้อมกรอบไว้เลย จะเห็นว่าซอยรามคำแหง53นั้นอยู่ตรงข้ามกับม.รามพอดี เลยไม่น่าแปลกใจว่าทำไมหอพักและอพาร์ทเม้นท์ถึงเยอะมาก พื้นที่เดิมของโครงการ Chic District รามคำแพง53 นั้นเป็นสนามไดรฟ์กอล์ฟกรีนฟิลด์มาก่อนครับ มีแนวเขตที่ดินที่ติดถนนซอยยาวมาก ซึ่งถ้าวนดูรอบๆก็ไม่น่าแปลกใจว่าทำไมตัวโครงการถึงทำเป็น mixed-use project โดยมีพื้นที่ด้านหน้าทำเป็ฯอาคารพาณิชย์ขาย เพราะตลอดแนวที่เข้าจากปากซอยรามคำแหง53 มาก็จะมีตึกแถวและอาคารพาณิชย์อยู่เต็มไปหมด
ถ้าเลยเข้าซอยจากตัวโครงการไปอีก จะสามารถเลี้ยวไปออกทาวน์อินทาวน์ได้ครับ โรงเรียนบดินทร์เดชาก็อยู่ตรงนั้น ในซอยนี้มีโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ๆขึ้นเยอะเหมือนกันครับ หลักๆเลยก็เป็นคอนโด low rise ที่เป็นคู่แข่งกันโดยตรงกับพวกอพาร์ทเม้นท์ในซอย หรือกระทั้งบ้านเดียวราคาแพงในตลาด Luxury ก็ยังโผล่มาในซอยนี้อย่างโครงการ SOUL ของทางค่าย AP
ลองไปดูภาพสภาพแวดล้อมรวมๆกันครับ ผมจะเน้นให้ดูแถบทางรามคำแหงเข้ามานะ เพราะว่าด้านบนถ่ายรูปเส้นทางที่เดินทางมาจากทางลาดพร้าวแล้ว จะได้ดูกันครบๆครับ
ดูรอบๆกันเสร็จแล้ว ก็ได้เวลาเข้าไปดูในโครงการกันครับ
เริ่มเปิดประตู รีวิวโครงการ
เปิดผังโครงการ
-
รีวิวดูทิศ มองแดด รับลม
อย่างที่บอกว่าในโครงการจะมีผสมกัน 3 รูปแบบคอนโดมิเนียม, อาคารพาณิชย์(Shop house) และร้านค้า(Retail) จะเห็นว่าในส่วนของคอนโดนั้นจะไม่ได้ติดแนวถนนใหญ่ในซอยครับ ต้องขยับเข้าไปด้านในอีกหน่อย เพราะพื้นที่ตลอดแนวที่ติดซอยรามคำแหง53 นั้นเมเจอร์ทำเป็นอาคารพาณิชย์หมดเลย ทางเข้าของคอนโดก็จะเข้าได้ 2 ทาง (ตรงลูกศรสีม่วงในรูป) ตลอดแนวของคอนโดที่ติดกับอาคารพาณิชย์จะมีรั้วกั้นให้ไม่สามารถเดินถึงทะลุกันได้ครับ ต้องมาเข้าทางหัวกับทางท้ายอย่างเดียว
จุดที่ดีอีกอย่างนึงคือแต่ละตึกนั้นไม่ยาวมากครับ ผมไม่แน่ใจว่าการซอยอาคารย่อยๆเยอะขนาดนี้มาจากเคาะตัวเลขในเรื่องการแบ่งเฟสการก่อสร้างอาคารหรือการเคาะตัวเลขยูนิตขายในเรื่องของ EIA แต่ที่แน่ๆคือพอตัวอาคารสั้นๆหน่อยไม่ยาวมากมันทำให้ภาพของโครงการดูดีขึ้น ไม่งั้นถ้าตึกยาวพรืดกับการวางผังโครงการเป็นเส้นก๋วยเตี๋ยวแบบนี้จะกลายเป็นแฟลตไปได้ง่ายๆ ซอยตึกย่อยๆแบบนี้ดีแล้วครับ
ในเรื่องการวางตัวอาคารนั้นก็จับมาเข้าแถวหน้ากระดานเรียงกัน โดยทุกตึกวางตัวในแนวทิศเหนือ-ใต้ ทำให้ด้านที่รับแดดมากๆคือด้านหน้าของตึกฝั่งเลขคี่และด้านหลังของตึกฝั่งเลขคู่ครับ
รีวิวดูพื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งาน
ในแต่ละอาคารนั้นมีลิฟต์อาคารละตัวครับ เฉลี่ยก็ได้ 40 ยูนิต/ลิฟต์ 1 ตัว อาคาร 5 ชั้นก็ขึ้นลงสบายๆ ที่จอดรถทั้งโครงการให้มา 480 คัน แต่นั่นคือรวมของทุกส่วน ผมลองนับเฉพาะช่องจอดในส่วนคอนโดได้ประมาณ 160 คัน(ไม่รวมจอดซ้อน) ตัวเลขออกมาแค่ 20% ซึ่งถือว่าน้อยทีเดียว
พื้นที่ส่วนกลางนั้นมีสระว่ายน้ำ, สนามฟุตซอล และก็ส่วนพักผ่อนเล็กๆครับ ตำแหน่งจะไปรวมกันอยู่ตรงมุมของโครงกาีีรที่ติดกับส่วนร้านค้า ถ้าซื้อตึกอีกด้านนึงจะมาว่ายน้ำนี่อาจจะต้องถีบจักรยานมาเพราะเดินน่าจะเหนื่อย แต่เอาเข้าจริงๆจะว่ายน้ำต้องเสียค่าบริการนะครับ ไม่ได้รวมอยู่ในค่าส่วนกลาง เพราะตรงนี้เมเจอร์บริหารแยกเองเลยอาจจะเรียกว่าเป็นพื้นที่ส่วนกลางได้ไม่เต็มปากนัก
-
รีวิวดูรายละเอียดและตำแหน่งห้องต่างๆในผังโครงการ
หลังจากดูเรื่องทิศทางอาคารและพื้นที่ส่วนกลางไปแล้ว คราวนี้เราลองมาดูกันว่าในบริเวณรอบๆเลยเราจะมองเห็นอะไรบ้าง ผมจับผังวางลงไปบนแผนที่ครับ เส้นสีแดงคือแนวที่ดินโครงการ เส้นสีเหลืองๆนั้นเป็นแนวของอพาร์ทเม้นท์และหอพักโดยรอบครับ บางช่วงก็อาจจะมีฟันหลอบ้างแต่บางช่วงก็เห็นฝั่งตรงข้ามเลย
ดูกันคร่าวๆครับ จะเห็นว่าอาคารฝั่งเลขคี่ด้านที่ร่มกว่าจะเห็นอพาร์ทเม้นท์ด้านนอก ส่วนอาคารฝั่งเลขคู่ด้านที่รุ่มจะเห็นวิวในคอร์ทครับ ส่วนด้านที่แดดเข้าจะเห็นอาคารพาณิชย์ในโครงการ Chic District เหมือนกัน
ดูผังโครงการไปแล้ว พาไปดูในที่ตั้งโครงการกันต่อครับ
ลองดูโมเดลกันดีกว่า โครงการใหญ่โมเดลก็ใหญ่ด้วย เดินวนรอบโมเดลก็เหนื่อยแล้ว
-
รีวิวดูแปลนห้องแต่ละแบบ
แปลนห้องของคอนโด Chic District มี 2 แบบครับ แต่คล้ายกันมาก ตำแหน่งฟังก์ชั่นเหมือนกันเลย ต่างกันที่ขนาดแค่นั้น ไปดูรีวิวแปลนเลยครับ
แปลนห้องคอนโด Chic District รามคำแหง53 แบบ 1 ห้องนอน 35 ตร.ม. และ 28 ตร.ม.
ผมวางแปลนห้องของชิค ดิสทริคท์ ทั้ง 2 ขนาดมาให้ดูคู่กันเลยนะครับ ทางซ้ายมือคือขนาด 35 ตารางเมตร ทางขวาคือขนาด 28 ตารางเมตร ความลึกของห้องนั้นเท่ากัน ตำแหน่งการวางฟังก์ชั่นก็เหมือนกัน พอเข้าห้องมาจะเจอส่วนพักผ่อน(living room) และถัดไปเป็นห้องนอนซึ่งกั้นไว้ให้เลย ด้านข้างเป็นห้องน้ำและห้องครัว
ทั้งสองแบบมีขนาดห้องน้ำ,ห้องครัวและระเบียงเท่ากัน ต่างกันที่ความกว้างของห้องนั่งเล่นและห้องนอนแค่นั้น โดยห้องไซส์ 35 ตร.ม. จะอยู่ตรงหัวมุมอาคารทั้งหมด แต่ก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์เพิ่มจากผนังอีกด้านที่ติดข้างนอก เป็นผนังทึบเหมือนๆกันครับ
เปิดห้องตัวอย่าง ดูรีวิวสเปซ
-
“Focus on Space and Dimension”
ห้องที่ให้ไม่มีเฟอร์นิเจอร์มาเป็น Fully-Fitted กั้นห้องระหว่างส่วนนอนกับส่วนนั่งเล่นมาให้โดยทำเป็นประตูบานเลื่อนทึบกับชั้นวางของ, ห้องนอนมีตู้เสื้อผ้าให้, ตัวเคาท์เตอร์ pantry ครัวได้ Sink ล้างจานกับตู้ แต่ไม่ได้เตากับฮูดแบบให้ห้องตัวอย่าง ต้องมาติดเพิ่มเองครับ ส่วนห้องน้ำและวัสดุอื่นๆก็จะได้มาเหมือนที่ผมอธิบายไว้ในส่วนรีวิววัสดุครับ ตอนนี้ไปรีวิวดูสเปซกันก่อน
ห้องตัวอย่างคอนโด Chic District รามคำแหง53 แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 35 ตารางเมตร
ห้องตัวอย่างคอนโด Chic District รามคำแหง53 แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 28 ตารางเมตร
เปิดห้องตัวอย่าง ชมรีวิววัสดุ
-
“Focus on Materials”
หลังจากดูรีวิวเรื่องสเปซเสร็จ คราวนี้มาดูรีวิวเรื่องวัสดุที่ได้กันครับ แบ่งรีวิววัสดุเป็น 3 ส่วน เพื่อให้ดูง่ายๆเช่นเคย คือ รีวิววัสดุครัว, รีวิววัสดุห้องน้ำ และรีวิววัสดุทั่วไปกับวัสดุปิดผิว(finishing)
โดยภาพรวมของของที่ให้มาก็อยู่ในระดับกลางๆ ไม่ดีมากแต่ก็ไม่ได้แย่อะไรครับ ตามระดับราคานั่นแหละ เฟอร์นิเจอร์บางส่วนที่เป็นสีขาวคงต้องใช้กันอย่างระมัดระวังนิดนึงครับ เพราะดูแล้วน่าจะเลอะง่ายอยู่เหมือนกัน
เปิดกระเป๋า ดูสตางค์
มารีวิวดูค่าใช้จ่ายกันครับ วันที่ผมไปรีวิวตึกเปิดขายแค่ 8 ตึกจาก 20 ตึกครับ ตึกที่ขายเป็นตึกช่วงกลางๆโครงการ คือ ตึก 4, 5, 6, 7 และ 14, 15, 16, 17 จริงๆราคาตั้งในแต่ละห้องนั้นออกมาไม่เท่ากันครับ ราคาที่ผมได้มาเป็นราคาตึก 5 และตึก 6 ซึ่งทำ package ราคาเดียว(One Price)ทั้งตึกเลย ห้อง 28 ตารางเมตรอยู่ที่ 1,630,000 บาท ส่วน 35 ตารางเมตรอยู่ที่ 2,040,000 บาท
แต่พอลองกดเครื่องคิดเลขดูจากราคาตั้งที่ยังไม่ได้จัด Package จะเห็นว่าถ้าเอาราคาตั้งต้นแต่ละชั้นจริงๆนั้นเพิ่มขึ้นประมาณ 2,000 บาทต่อตารางเมตรครับ อย่างห้อง 28 ตารางเมตรชั้น 2 ราคาจะอยู่ที่ 1,680,000 บาท ส่วนชั้น 5 จะอยู่ที่ 1,848,000 บาทครับ สุดท้ายเอามาขายที่ 1,630,000 เท่ากันไปเลย
ราคา ณ วันที่ 12 สิงหาคม 2556
ราคาเริ่มต้น :
1 bedroom ชั้น 2 ตึก 5 พื้นที่ 28 ตร.ม. ราคา 1,630,000 บาท เฉลี่ย 58,214 บาท/ตร.ม
1 bedroom ชั้น 2 ตึก 5 พื้นที่ 35 ตร.ม. ราคา 2,040,000 บาท เฉลี่ย 58,286 บาท/ตร.ม
เงื่อนไขการจอง :
1 bedroom จอง 10,000 บาท // เซ็นต์สัญญา 40,000 // ผ่อนดาวน์ 158,000 บาท
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :
ค่าส่วนกลาง 30 บาท/ตร.ม. (ชำระล่วงหน้า 18 เดือน)
ค่ากองทุนเริ่มแรก (Sinking Fund) 400 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)
ประมาณอัตราการผ่อน (คิดจากราคาเริ่มต้นด้านบน) เพื่อให้เห็นกรอบของค่าใช้จ่ายคร่าวๆและนำไปวางแผนประมาณการของแต่ละคนครับ ถึงไม่ได้ซื้อห้องที่ยกมาเป็นตัวอย่างก็ใช้ตัวเลขได้ :
บนสมมติฐาน กู้ 90% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 30 ปี
1 bedroom ชั้น 2 พื้นที่ 28 ตร.ม. ราคาขาย 1,630,000 บาท ผ่อนประมาณ 10,193 บาท/เดือน
1 bedroom ชั้น 2 พื้นที่ 35 ตร.ม. ราคาขาย 2,040,000 บาท ผ่อนประมาณ 12,757 บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 90% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 25 ปี
1 bedroom ชั้น 2 พื้นที่ 28 ตร.ม. ราคาขาย 1,630,000 บาท ผ่อนประมาณ 10,733 บาท/เดือน
1 bedroom ชั้น 2 พื้นที่ 35 ตร.ม. ราคาขาย 2,040,000 บาท ผ่อนประมาณ 13,483 บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 90% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 20 ปี
1 bedroom ชั้น 2 พื้นที่ 28 ตร.ม. ราคาขาย 1,630,000 บาท ผ่อนประมาณ 11,744 บาท/เดือน
1 bedroom ชั้น 2 พื้นที่ 35 ตร.ม. ราคาขาย 2,040,000 บาท ผ่อนประมาณ 14,698 บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 90% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 15 ปี
1 bedroom ชั้น 2 พื้นที่ 28 ตร.ม. ราคาขาย 1,630,000 บาท ผ่อนประมาณ 13,514 บาท/เดือน
1 bedroom ชั้น 2 พื้นที่ 35 ตร.ม. ราคาขาย 2,040,000 บาท ผ่อนประมาณ 16,914 บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 90% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 10 ปี
1 bedroom ชั้น 2 พื้นที่ 28 ตร.ม. ราคาขาย 1,630,000 บาท ผ่อนประมาณ 17,305 บาท/เดือน
1 bedroom ชั้น 2 พื้นที่ 35 ตร.ม. ราคาขาย 2,040,000 บาท ผ่อนประมาณ 21,658 บาท/เดือน
Overview Summary
ด้านการเดินทาง
ถนนเส้นหลักๆที่อยู่รอบๆโซนพื้นที่นี้มี 3 เส้น คือ รามคำแหง, ลาาดพร้าว และเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา ซึ่งคนโซนนี้คงทราบกันดีว่าซอยย่อยต่างๆนั้นเยอะแยะไปหมดและเชื่อมต่อกันไปมาทะลุได้หลายทาง เป็นโซนที่อยู่อาศัยที่ค่อนข้างหนาแน่น การเข้าออกโครงการนั้นไม่ยาก แต่เรื่องคุณภาพการเข้าถึงอาจไม่ได้ดีนักตามสภาพแวดล้อมของพื้นที่โซนนี้ รถสาธารณะก็ไม่ต้องเป็นห่วงเพราะหน้ารามนั้นไปได้เกือบทุกที่อยู่แล้ว
ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต
คงจะต้องรอรถไฟฟ้าสายสีส้มซึ่งได้ผ่านการอนุมัติเห็นชอบในหลักการแล้ว (ดูข้อมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่นี่) ตรงนี้น่าจะช่วยให้เดินทางโดยไม่ใช้รถสะดวกขึ้นอีกเยอะครับ เพราะมันจะไปเชื่อมกับรถไฟฟ้า MRT ช่วงศูนย์วัฒนธรรม ซึ่งโซนๆนั้นก็ถูกเล็งว่าจะเกิดเป็น CBD ใหม่ในอนาคตได้ ส่วนการพัฒนาที่ดินโซนที่เข้าซอยแบบนี้ในอนาคตก็ยังน่าจะเห็นอาคารแบบ low rise เป็นส่วนใหญ่อยู่ต่อไปครับ ด้วยข้อจำกัดเรื่องความกว้างของถนนซอยนั่นเอง
ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ
ถ้าดูการวาง floor plan เฉพาะตัวแต่ละตึกก็ไม่มีอะไรมากครับ เรียบง่ายตรงไปตรงมา วางโครงสร้างง่าย ก่อสร้างง่าย ไปเน้นที่การเอาองค์ประกอบมาตกแต่งหน้าตาอาคารมากกว่า ซึ่งสไตลนั้นค่อนข้างมีคาร์เร็คเตอร์ชัดเจนอยู่ องค์ประกอบที่ช่วยให้อาคารดูไม่ใช่โมเดิร์นธรรมดาทั่วๆไปก็คือลวดลายของตัวลูกกรงราวกันตกครับ โครงการบอกว่าอิมเมจนั้นได้แรงบันดาลใจมาจากย่าน Le Marais (เลอ มาร์เร่) ของฝรั่งเศส อันนี้ก็คงแล้วแต่รสนิยมความชอบของแต่ละคนแล้ว… ว่าแล้วก็ให้คุณกูเกิ้ลพาไปดูหน่อยว่าย่าน Le Marais นี่หน้าตาเป็นยังไง (>> ดูรูป Le Marais)
ในส่วนของแปลนในแง่ของตำแหน่งฟังก์ชั่นก็ลงตัวดีครับ ประตูและชั้นวางของที่ให้มานั้นมีทั้งมุมที่เป็นข้อดีและข้อเสีย ข้อดีคือมันใช้เป็นตู้เก็บของแล้วก็ชั้นวางของโชว์ได้ไม่ต้องมานั่งทำ Built-in เพิ่ม แต่ข้อเสียก็คือมันไม่สามารถแบ่งสเปซเพื่อกันแอร์ออกเป็นสองส่วนเพื่อเปิดปิดแยกกันได้ คงต้องติดแอร์ตัวเดียวเวลานอนต้องเปิดแอร์เต็มพื้นที่ไป อีกเรื่องนึงคือตัวผนังกั้นตรงนี้ทำให้แสงจากด้านนอกเข้ามาในส่วนห้องนั่งเล่นได้น้อยลงพอควรทีเดียว ด้านพื้นที่ส่วนกลางถึงจะมีสนามฟุตซอลและสระว่ายน้ำแต่ก็ต้องเสียเงินใช้บริการ เลยเรียกว่าส่วนกลางได้ไม่เต็มปากนักครับ
ด้านตัวเลือกอื่นๆ
ถ้าเอาแบบใกล้ๆโซนเดียวกัน, low rise เหมือนกัน, เข้าซอยเหมือนกัน ก็มีอย่าง LIB รามคำแหง43/1 ของทางลลิล พร๊อพเพอร์ตี้ ที่น่าจะเป็นตัวเปรียบเทียบกันตรงๆ
หรือถ้าหรือถ้าไม่ซีเรียสมากว่าจะต้องอยู่ตรงข้าม Hub ใหญ่อย่าง ม.รามคำแหงเลยไปจะเลยแถวๆช่วงแยกลำสาลีก็มีโครงการ Living Nest รามคำแหง ที่อยู่ระหว่างซอยรามคำแหง 85/1 กับรามคำแหง 85/2 หรือใกล้ๆกันกับ Living Nest ก็มี The Cube รามคำแหง89/2 ซึ่งทั้งสองโครงการก็เป็นของ Developer รายย่อยเหมือนกันครับ
Score Summary
สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยครับ (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนคอนโดมิเนียมที่นี่)
และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่ https://www.facebook.com/Yusabuy
ถ้าหากว่ารีวิวของเรามีประโยชน์… ทุกท่านสามารถสนับสนุนให้อยู่สบายสามารถทำรีวิวออกมาได้เรื่อยๆครับ เพียงแค่เวลาไปดูโครงการบ้านและคอนโดที่ต่างๆ ถ้าเซลล์ให้ท่านช่วยกรอกแบบสอบถาม เพียงช่วยระบุเล็กๆว่า “อยู่สบาย.com” เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ท่านติดตามอ่านอยู่ เวลาทางทีมงานขออนุญาตโครงการต่างๆเข้าไปทำรีวิวจะได้ทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นครับ (^_____^) …… ขอบคุณครับ
ไม่ชอบห้องตัวอย่าง ดูแล้ว เอิงเอย มว๊ากๆๆๆๆ ( คือดูลิเกๆ) แนะนำให้ Re Decorate ใหม่ดีกว่าครับ
ดูรีวิวแล้ว ตัวโครงการดูไม่น่าสนใจ ห้องตัวอย่างไม่มีความดึงดูดอะไรเลย. ดูแล้วเสียของ