สวัสดีค่ะ รีวิวนี้พามาชมคอนโด Canapaya Residences คอนโดหรูแห่งใหม่บนถนนพระราม 3 ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Canapaya ที่จะมีทั้งโรงแรม พลาซ่าและคอนโดมิเนียม อีกทั้งยังมีท่าเทียบเรือยอร์ชส่วนตัว จะหรูหราแค่ไหนวันนี้อยู่สบายแวะเข้าไปเก็บรีวิวมาให้ชมกันอย่างละเอียดเช่นเคยค่ะ
Canapaya Residences (คณาพญา เรสซิเดนซ์ พระราม 3)
· 32 min readเริ่มจากข้อมูลเบื้องต้นของโครงการกันก่อน
Canapaya Residences (คณาพญา เรสซิเดนซ์)
- เจ้าของโครงการ >> Canapaya Property ( คณาพญา พร็อพเพอร์ตี้)
- ที่ตั้งโครงการ >>> ติดถนนพระราม 3 ใกล้ BRT สะพานพระราม 9
- ขนาดที่ดิน >>> 4-0-51 ไร่
- จำนวนชั้น >>> อาคารที่พักอาศัย 57 ชั้น (อาคารจอดรถรวมอยู่ในตัวคอนโด)
- จำนวนอาคาร >>> 1 อาคาร
- ประเภทห้องและขนาดห้อง >>>
- 1 ห้องนอน 45 ตารางเมตร
- 2 ห้องนอน 85-93 ตารางเมตร
- 2 ห้องนอน Duplex 78 ตารางเมตร
- 3 ห้องนอน 93-159 ตารางเมตร
- 3 ห้องนอน Duplex 140 ตารางเมตร
- 4 ห้องนอน 234-248 ตารางเมตร
- Penthouse Duplex 192-502 ตารางเมตร
- จำนวนยูนิต >>> 188 ยูนิต
- ที่จอดรถ >>> 312 คันห หรือประมาณ 140%
- ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> 7.58 ล้านบาท (ห้อง 45 ตารางเมตร ชั้น 10 ณ วันที่ 25/07/2014)
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> ราคาเฉลี่ยประมาณ 180,000 บาท/ตารางเมตร
- พิกัด GPS >>> 13.687624, 100.513584

ขับตรงมาเรื่อยๆ จากในรูปใต้สะพานด้านขวามือจะมีที่กลับรถอยู่ ถ้าเรามาจากทางสะพานกรุงเทพก็จะต้องมากลับรถใต้สะพานข้ามแยกนี้ค่ะ จากจุดนี้ก็ตรงไป
มาดูตำแหน่งรอบๆตัวคอนโดก่อนว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนกันบ้าง
ถ้าหันหน้าเข้าหาที่ดินของโครงการจะเห็นซอยพระราม 3 ซอย 22/1 อยู่ทางขวามือ ที่ด้านหน้าจะมีอาคารสำนักงาน 8 ชั้นอยู่ และถัดไปในซอยด้านในก็จะมีอาคารสำนักงาน 8 ชั้นอยู่อีก 1 ตึก เป็นสำนักงานของ Veloil (หมายเลข1) ถัดไปก็จะมีวัดบางโคล่นอก โรงเรียน และชุมชนริมน้ำของชาวบ้านที่อาศัยอยู่เดิม ถ้ามองขนานกับริมน้ำออกไปทางสะพานกรุงเทพก็จะเห็นคอนโดสูง 33 ชั้น (หมายเลข5) ตั้งอยู่ เลยไปหน่อยก็เป็นโรงแรมมณเฑียร ริเวอร์ไซด์
ส่วนทางฝั่งซ้ายมือเดินไปไม่ไกลจะเจอ BRT สถานีสะพานพระราม9 อยู่ (กราฟิกเส้นสีม่วง) บริเวณริมถนนช่วงสถานี BRT นั้นมีอาคารสำนักงานสูงประมาณ 4-5 ชั้นอยู่กลุ่มนึงกับโชว์รูมรถ ส่วนในซอยด้านนี้ที่ติดกับริมน้ำจะมีคอนโดริเวอร์ไซด์วิลล่า สูง 19 ชั้นตั้งอยู่ 2 ทาว์เวอร์ หน้าตาเหมือนๆกัน (หมายเลข 2 และ 3) ฝั่งตรงข้ามเยื้องๆกันจะเป็นคอนโด Star View สูง 40 ชั้น 2 อาคาร (หมายเลข 4) ซึ่งอยู่ในระหว่างการก่อสร้างค่ะ
ตรงเชิงสะพานพระราม 9 ฝั่งเดียวกับโครงการจะมีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ คือ สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ (หมายเลข6 ) ส่วนฝั่งตรงข้ามตรงสะพานพระราม 9 จะเป็นสำนักงานใหญ่ของ ธนาคารกสิกรไทย ค่ะ (หมายเลข8)
สภาพแวดล้อมรอบคอนโด
พาไปเดินเล่นรอบๆก่อนเข้าสำนักงานขายก่อนเข้าไปชมห้องตัวอย่างกันค่ะ
เริ่มเปิดประตู ไปดูในโครงการ
เข้ามาที่สำนักงานขายกันค่ะ
เริ่มตรงทางเข้าโครงการ เห็นบ้านเลขที่ไหมค่ะ 888 เลขมงคลของชาวไทยเชื้อสายจีน
ถนนในโครงการค่ะ ตัวสำนักขายจะอยู่ติดริมแม่น้ำ รูปนี้ถ่ายจากถนนในโครงการ อาคารที่เห็นอยู่อยู่สำนักงานของ Veloil
ถึงแล้วค่ะ สำนักงาน Canapaya Residences
ส่วนของสำนักงานขายจะถูกปรับให้เป็น Clubhouse ในอนาคตนะคะ
ภายในสำนักขาย ออกแบบให้ระยะความสูงชะลูดขึ้นไป ใช้วัสดุมันเงาสะท้อนไปมา ให้ความรู้สึกหรูหราดี
อีกมุมนึงของสำนักงานขายค่ะ มีที่นั่งเพียบ
หรือจะออกมาชมวิวด้านนอกก็ได้นะคะ อย่างที่บอกไปส่วนนึงภายหลังจะถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นClubhouse ส่วนนี้จะเป็นสระ่ว่ายน้ำชั้นล่าง กับพื้นที่ชมวิวแม่น้ำค่ะ
มุมแม่น้ำเจ้าพระยาจากสำนักงานขายค่ะ ฝั่งนี้มองไปทางสะพานพระราม 9 กับสำนักงานใหญ่ของกสิกรไทย พระราม 3
ดูผังโครงการ ตำแหน่งการเข้าถึง
ที่ดินของโครงการนั้นจะถูกแบ่งเป็น 2 ส่วน คือส่วนโรงแรมและส่วนที่เป็นคอนโดมิเนียม โดยสัดส่วนที่ดินที่ทำโรงแรมจะใหญ่กว่าพอสมควร ตรงกลางนั้นมีคลองระบายน้ำของกรุงเทพมหานครกั้นกลางอยู่ โดยจะมีประตูระบายน้ำกั้นตรงก่อนไหลออกทางแม่น้ำเจ้าพระยา
ทางเข้าของทั้งส่วนคอนโดและส่วนโรงแรมจะแยกออกจากกันชัดเจน แต่จะมีทางเชื่อมข้ามคลองระบายน้ำให้เดินถึงกันได้ (ซึ่งแน่นอนว่าจากคอนโดเดินไปโรงแรมได้ แต่คนจากโรงแรมจะไม่ได้รับอนุญาตให้ข้ามมายังฝั่งคอนโดนะคะ) ตัวอาคารของคอนโดกับโรงแรมนั้นจะวางเหลือมกันอยู่ เพื่อไม่ให้บังวิวกันเอง โดยตัวอาคารของโรงแรมจะใกล้กับฝั่งถนนพระราม 3 มากกว่าทางแม่น้ำเจ้าพระยา เพราะพื้นที่ที่ติดริมแม่นั้นฝั่งเจ้าพระยานั้นทำเป็น Plaza ค่ะ
ตัวอาคารของคอนโดจะอยู่ช่วงกึ่งกลางไซท์ มีคลิบเฮ้าส์ติดกับริมแม่น้ำซึ่งมีสระว่ายน้ำของจริงที่ทำเสร็จแล้วด้วย ริมน้ำจะมีท่าจอดเรือของตัวเอง ซึ่งดีไซน์ตำแหน่งท่าจอดเรือในรูปวางไว้คร่าวๆนะคะ อาจจะมีการปรับแบบกันอีกนิดหน่อยเท่าที่ถามมา ด้านหลังของคลับเฮ้าส์ที่ติดกับแนวที่ดินและก็มีสำนักงานของ Veloil ก็จะมีคลองระบายน้ำเล็กๆกั้นอยู่เช่นกัน
ทิศทางแดด ฝั่งไหนร้อน? ฝั่งไหนร่ม?
ในเรื่องของทิศทางแดดนั้นเราจะมาโฟกัสกันเฉพาะในส่วนของคอนโดนะคะ เพราะถ้าดูเทียบความสัมพันธ์ระหว่างตำแหน่งของของคอนโดกับโรงแรมแล้วจะเห็นตัวทาวเวอร์ของโรงแรมนั้นจะอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของคอนโด ซึ่งไม่ได้มีผลกระทบอะไรต่อทิศทางแดดและความร้อนที่เข้ามาอย่างมีนัยยะสำคัญอะไร
ลองสังเกตการวางแนวของหน้าต่างคอนโดที่ลดหลั่นกันในฝั่งทิศตะวันออกนั้นดูจงใจจะให้เปิดมุมมองไปด้านสะพานพระราม 9 ค่อนข้างชัดเจนแม้ว่าส่วนนึงจะมองไปเห็นคอนโดริเวอร์ไซด์ วิลล่า ก็ตาม เท่าที่ไปดูก็ค่อนข้างชอบวิวฝั่งนี้มากกว่าพอควรค่ะ เพราะอีกด้านนึงจะมีวัดกับพวกชุมชนของคนในพื้นที่เดิมอยู่ด้วย อาจจะไม่ค่อยน่าดูเท่าไหร่เมื่อเทียบกัน
ตำแหน่งอาคารสูงรอบๆที่มีผลต่อมุมมองจากตัวคอนโด
รูปนี้ทำกราฟิกให้เห็นคร่าวๆว่าอาคารรอบๆนั้นมีผลอะไรกับมุมมองจากตัวโครงการบ้างนะคะ รอบๆที่เป็นอาคารสำนักงานไม่น่ามีปัญหาอะไรเพราะตัวห้องของคอนโดเริ่มที่ชั้น 8 อีกทั้งผนังแต่ละชั้นของคอนโดก็ค่อนข้างสูง จึงไม่น่ามีผลกระทบอะไรมากนัก ยูนิตพักอาศัยชั้นล่างสุดที่มีก็จะสูงเลยแนวของตึก Veloil ข้างๆไปแล้ว แต่ด้านที่ติดกับโรงแรมห้องชั้นล่างๆที่ติดกับโรงแรมอาจจะได้รับผลกระทบเรื่องมุมมองบ้าง ต้องดูจากโมเดล ส่วนคอนโดริเวอร์ไซด์วิลล่าที่สูง 19 ชั้น ก็ไม่ได้อยู่ติดกันมาก แต่ก็มีผลอยู่บ้างในการมองไปทางสะพานพระาม 9 ค่ะ
ส่องโมเดล
ทางโครงการทำโมเดลมาให้ดูทั้งโปรเจคเลยค่ะ จะได้เห็นตำแหน่งที่ตั้งของทั้งโรงแรมและคอนโด แต่พอโมเดลทำมาใสๆก็เลยส่องดีเทลกันลำบากนิดนึง
ฝั่งติดถนนพระราม3 ทางเข้าโครงการ
อีกมุมฝั่งถนนใหญ่ค่ะ จะเห็นได้ว่าโรงแรมจะอยู่ติดถนนมากกว่า ส่วนคอนโดจะเซ็ตเข้าไปด้านในมากกว่า จะมีบางห้องอาจจะมองมาเห็นโรงแรมตรงๆด้วยตามโมเดลค่ะ
มุมจากแม่น้ำค่ะ ฝั่งโรงแรมตรงส่วนที่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา ทางผู้ประกอบการจะทำเป็น Plaza ริมน้ำค่ะ มีท่าเรือ ห้องพักในชั้นล่างๆก็อาจจะโดนโพเดียมของโรงแรมบังวิวไว้ส่วนนึง
ฝั่งคอนโดค่ะ ส่วนที่ติดริมน้ำ จะเป็น Clubhouse ส่วนกลางของคอนโดค่ะ ซึ่งตอนนี้คือสำนักงานขายค่ะ
ท่าเทียบเรือภายในโครงการ แต่ตำแหน่งยังอาจจะมีการปรับเปลี่ยนในอนาคตอีกทีนะคะ
ซูมในดูตัวตึกค่ะ แต่ละชั้นจะค่อนข้างไม่เหมืิอนกัน มียื่นเข้ายื่นออก ดูมีลูกเล่นดีค่ะ
ด้านบนเป็นส่วนของ Penthouse ยอดตึกนั้นดีไซน์ดุแปลกตามาก โครงการบอกว่ารูปทรงนั้นได้แนวคิดมาจากรูปทรงของเงินจีนโบราณ อันนี้ก็ต้องรอดูต่อไปว่าของจริงจะออกมาแล้วสวยหรือหรือเปล่า
พาเข้าไปดูที่ดินจริง
ถ่ายจากชั้น 2 ของตัวสำนักงานขาย ซึ่งในอนาคตจะเป็น Clubhouse ตัวคลองสาธารณะ(กราฟิกเส้นสีเขียว)จะแบ่งที่ดินออกเป็นสองส่วนตามรูปค่ะ ด้านนึงเป็นคอนโดอีกด้านเป็นโรงแรม สัดส่วนที่ดินของฝั่งโรงแรมจะมากกว่า
ในฝั่งด้านที่โดนคลองคั่นก็จะเป็นไปอีกเป็นโรงแรมด้านหน้า ส่วนด้านหลังที่ติดกับสำนักงานขายจะเป็น Plaza ซึ่งเชื่อมต่อกับโพเดียมของโรงแรมค่ะ
ที่ดินส่วนของ Plaza ริมน้ำค่ะ ตึกขาวๆริมรูปคือคอนโดริเวอร์ไซด์ วิลล่า
ถ่ายให้ดูคลองสาธารณะที่มาพื้นที่ค่ะ ตอนแวะไปดูประตูระบายน้ำเสียอยู่ น้ำเลยขังซะเขียวเลย
พื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งานเป็นอย่างไร
พื้นที่ส่วนกลางที่ได้มาจะมีทั้งคลับเฮ้าส์ด้านหน้าและบนตัวคอนโด โดย Facilities ส่วนใหญ่จะอยู่ในส่วนของ Clubhouse ติดริมน้ำ ในรูปคือตรงหมายเลข 1 ซึ่งก็จะมีทั้งห้องออกกำลังกาย ห้องสมุด ห้องอเนกประสงค์ , Lounge และสระว่ายน้ำ (หมายเลข2) นอกจากมียังมีท่าเรือส่วนตัว (หมายเลข3) ให้ด้วย แต่ถ้าจะจอดเรือต้องเสียเงินนะคะ ส่วนถ้าจะอยากเดินเล่นในโซน Plaza ทางโครงการก็ทำสะพานข้ามคลองไว้ให้ด้วย (หมายเลข4)
อกจากนี้ก็มีพื้นที่ Sky Lounge ที่ชั้น 7 และสระว่ายน้ำ Sky Pool ที่ชั้น 50 เป็นสระรูปโค้งชมวิวแม่น้ำและเมืองในมุมสูง และก็มี Deck ไว้นั่งเล่นชมวิวกับ Lounge ส่วนกลางเพิ่มเติมด้วยค่ะ รวมๆแล้วก็จัดมาเต็มค่ะ
สำหรับสัดส่วนการใช้งานนั้น สัดส่วนลิฟต์โดยสาร 3 ตัวกับ 188 ยูนิต เฉลี่ยออกมาได้ 63 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว ถือว่ามากเกินพอเป็นเกรดพรีเมียมทีเดียว นอกจากนี้ยังมี Private Elevator 1 ตัวสำหรับห้อง Penthouse Duplex ส่วนที่จอดรถ 140% นับรวมจอดซ้อนคันและ fixed ที่จอดสำหรับห้องแบบ 2 ห้องนอนขึ้นไป เรียกว่าเหลือๆค่ะ สัดส่วนการใช้งานนั้นพอเพียงแน่ๆ
ภาพจำลองในส่วนของสระว่ายน้ำชั้น 50 ค่ะ เห็นวิวกรุงเทพมหานครและแม่น้ำเจ้าพระยา
ภาพจาก Clubhouse ค่ะ ช่วงเทศกาลอาจจะได้เห็นพลุสวยๆแบบในรูป คาดว่าน่าจะเห็นจากฝั่งตะวันตกมากกว่าแถวๆช่วงเอเชียทีค
ฟิตเนสจะอยู่ตรง Clubhouse ชั้น2 ค่ะ
Clubhouse หน้าตาของจริงค่ะ ด้านที่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา
มีพื้นที่พักผ่อนกับสระว่ายน้ำริมแม่น้ำเลย
มีที่นั่งติดแม่น้ำอีกส่วนนึง
ท่าเรือส่วนตัวฝั่งคอนโด แอบขัดใจวิวฝั่งตรงข้ามนิดนึง ไม่น่าเป็นวิวโรงงานเลย
ภายใน Clubhouse ค่ะ ตกแต่งหรูหราสมกับราคาห้องที่สูงเช่นกัน
เอาวิวพาโนราม่าของโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาบน Clubhouse ชั้น 2 มาฝากกันค่ะ ด้านบนก็มีระเบียงนั่งชมวิวได้อีกเช่นกัน
เปิดผังคอนโด Typical Floor Plan
Floor Plan คอนโด Canapaya Residences
ลักษณะของแปลนแต่ละชั้นของอาคารในแต่ละชั้นจะ่ค่อนข้างแตกต่างกัน โดยห้องพักจะเริ่มอยู่ที่ชั้น 8 ค่ะ จะวางห้องไปทางทิศตะวันออก ทิศตะวันตกและทิศใต้ (ได้วิวแม่น้ำ) จำนวนยูนิตสูงสุดต่อชั้นคือ 7 ห้องเท่านั้นค่ะ ส่วนใหญ่ห้องแบบ 1 ห้องนอนจะอยู่ทางทิศตะวันตกด้านใกล้ถนนพระราม 3 นอกนั้นก็จะเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอนขึ้นไป จากแปลนบางชั้นจะมีสวนเล็กๆ หรือพื้นที่โล่งอยู่ แต่บางชั้นก็เป็นห้องเต็ม Floor เลยค่ะ ตั้งแต่ชั้น 51 เป็นต้นไป จะป็นส่วนของชั้น Penthouse ค่ะ มีลิฟท์แยกส่วนตัว
Floor Plan แต่ละชั้นจะไม่ได้ซ้ำกันเท่าไหร่ค่ะ มีการสลับตำแหน่งห้องกันบ้าง ทำให้ตำแหน่งของหน้าต่าง ระเบียง และส่วนยื่นเข้ายื่นออกแต่ละจุดสลับกันไปมา ไม่ได้เป็นแพทเทริ์นเดียวกันทั้งตึก บางส่วนก็มีเว้นสเปซเอาไว้สำหรับปลูกต้นไม้บนตัวอาคารด้วย
แปลนห้องดีไหม?
แปลนห้องของคอนโด Canapaya Residences มีหลายแบบมากค่ะ ได้แก่ 1 ห้องนอน, 2 ห้องนอน, 3 ห้องนอน, 4 ห้องนอน, Duplex 2 ห้องนอน, Duplex 3 ห้องนอน และ Penthouse โดยมีขนาดเริ่มต้นที่ 45 – 502 ตารางเมตรกันเลยทีเดียว เราเลือกแปลนห้องที่มีจำนวนห้องเยอะๆมาให้ดูกันค่ะ
แปลนห้องคอนโด Canapaya Residences
แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 45 ตารางเมตร
แปลนรวมๆนั้นจัดออกมาได้เป็นสัดเป็นส่วนดีค่ะ เข้าห้องมาจะเจอส่วนครัวก่อนกับส่วนรับประทานอาหารก่อน เคาน์เตอร์ครัวจะเป็นตัว L เข้ามุม ติดๆกันทำสเปซเป็นส่วนนั่งเล่นกับส่วนทำงาน โดยวางตำแหน่งของโต๊ะทำงานเอาไว้ด้านหลังของโซฟานั่งเล่น ตรงนี้ถ้าใครอยากดูทีวีแบบจอใหญ่ๆสะใจหน่อยอาจจะต้องยอมเอาโต๊ะหนังสือออก เพราะไม่งั้นระยะจากโซฟาถึงทีวีจะใกล้ไปหน่อยค่ะ
ระเบียงออกไปด้านนอกให้มาค่อนข้างเต็มที่ค่ะ ส่วนคอมเพรสเซอร์แอร์จะไปอยู่ระหว่างผนังห้องนอนกับส่วนพักผ่อนทำให้ยังเห็นวิวได้ทั้งสองห้องอย่างไม่โดนเบียดมากนัก ไม่บังวิวดี กระจกให้มาบานใหญ่เต็มแสงธรรมชาติเข้าได้เยอะ ส่วนห้องน้ำเข้าได้ทั้งจากในห้องนอนและด้านนอก ซึ่งประตูจะทำหลบไม่ให้ชนกัน รวมๆก็จัดเป็นแปลน 1 ห้องนอนที่ค่อนข้างจะดีทีเดียวค่ะ
แปลนห้องคอนโด Canapaya Residences
แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 85 ตารางเมตร
แบบ 2 ห้องนอนมีด้วยกัน 4 แบบ เราเลือกแบบ B2 85 ตารางเมตรมาค่ะเนื่องจากเป็นแปลนที่เอามาทำเป็นห้องตัวอย่างด้วย เข้ามาจะเจอครัว ส่วนรับประทานอาหารและส่วนนั่งเล่น สามารถออกไปที่ระเบียงได้ ให้ระเบียงมายาวตามแนวห้องเลยค่ะ อีกด้านจะเป็นโซนของห้องนอน ห้องแรกจะเป็นห้องนอนเล็ก ไม่มีห้องน้ำในตัว ฝั่งตรงข้ามจะเป็นห้องน้ำ สุดทางจะเป็นห้องนอนใหญ่ พร้อมห้องน้ำในตัวค่ะ ค่อนข้างกว้าง ห้องน้ำสามารถวางอ่างอาบน้ำได้ด้วย ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่เป็น Sext Bathroom มีกระจกบานใหญ่เต็มบานกั้นให้และมีส่วนของ Walk-in closet ด้วย รวมๆแล้วก็จัดได้เป็นสัดเป็นส่วนดีเช่นกันค่ะ
แปลนห้องคอนโด Canapaya Residences
แบบ 3 ห้องนอน ขนาด 147 ตารางเมตร
แบบ 3 ห้องนอนก็มีหลายขนาดตั้งแต่ 92-157 ตารางเมตร เราเลือกแบบ 147 ตารางเมตรมาเพราะเป็นแบบที่มีจำนวนห้องมากที่สุดค่ะ โดย 3 ห้องนอน 147 ตารางเมตร ส่วนใหญ่จะวางฝั่งติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา คือเป็นห้องที่หันหน้าเข้าชนแม่น้ำตรงๆนั่นเอง ห้องน้ำก็ทำเป็นห้องตัวอย่างเช่นกันค่ะ แต่ตอนที่ไปดูก็เห็นว่าขายหมดแล้ว แต่ไหนๆก็ไหนๆเลยหยิบมารีวิวให้ดูกันค่ะ
เริ่มจากเข้าห้องมาจะเจอกับทางเดิน ซึ่งมีส่วนแยกไปยังห้องนอนเล็ก 2 ห้อง ห้องน้ำในห้องนอนเล็กสุดจะเข้าจากด้านนอกได้ด้วย ฝั่งตรงข้ามจะเป็นห้องนอนที่ 2 มีห้องน้ำในตัวและมีส่วนของ Walk-in closet เพิ่มมาด้วย
ออกมาจากส่วนนี้เข้าทางเดินหลักก็จะเป็นสเปซของส่วนพักผ่อน รับประทานอาหาร pantry และครัวค่ะ สเปซตรงนี้ค่อยข้างใหญ่มากและได้พื้นที่เต็มจัดเป็นสัดส่วนดี ที่พิเศษกว่าแบบ 1 และ 2 ห้องนอนคือจะมีห้องกั้นแยกเป็นส่วนครัวไทยด้วย จะมีส่วนของ pantry ที่จะต่อออกมาจากครัวไทย ตรงนี้สามารถทำอาหารมื้อหนักได้เลยเพราะเป็นครัวปิดมิดชิด ถัดไปจาก Pantry ก็เป็นพื้นที่นั่งเล่นกับส่วนรับประทานอาหารค่ะ มีระเบียงออกไปนั่งเล่นชมวิวได้ โดยตำแหน่งจริงๆ ระเบียงนี้ จะหันหน้าออกแม่น้ำค่ะ เป็นระเบียงที่เป็นตัว L
เข้ามาที่ห้องนอนใหญ่ ก็มีส่วนของ Walk-in closet ให้เช่นกัน ห้องน้ำกว้าง มีพื้นที่เล็กๆให้วางโซฟาเดี่ยวๆได้นิดหน่อยด้วค่ะ ห้องนอนตรงนี้จะได้กระจกเข้ามุมเต็ม ซึ่งถ้าดูจากตำแหน่งแล้วก็น่าจะเป็นจุดที่ดีที่สุดจุดในในตัวคอนโด เพราะมองเห็นวิวสะพานพระราม 9 ได้
แปลนห้องคอนโด Canapaya Residences
แบบ 3 ห้องนอน Penthouse ขนาด 420 ตารางเมตร
เอาห้อง Penthouse มาฝากค่ะ เป็นแบบ 3 ห้องนอน ขนาด 420 ตารางเมตร สเปซขนาดนี้เหมือนเป็นบ้านเดี่ยวอยู่บนคอนโดกันเลย ซึ่งแน่นอนว่ามาพร้อมกับค่าตัวที่สูงลิ่วเช่นกันค่ะ สเปซด้านในนั้นเป็นแบบ Duplex ที่มีกระจกรอบ ดูแล้วอลังการแน่ๆค่ะ
ห้องแบบนี้จะมีแค่ 3 ยูนิตนี้เท่านั้น ที่พิเศษกว่า Penthouse แบบอื่นในโครงการคือจะมีสระว่ายน้ำส่วนตัวอยู่ที่ระเบียงด้วยค่ะ นอกจากนี้ก็มี Penthouse ขนาดอื่นๆเริ่มตั้งแต่ 192-500 ตารางเมตรค่ะ ทั้งหมดมี 10 ยูนิตเท่านั้น จะอยุ่ที่ชั้นสูงๆเท่านั้น เริ่มที่ชั้น 52 โดยคนที่อยู่ห้องแบบอื่นๆจะไม่สามารถขึ้นมาได้ เนื่องจากมี Private Lift แยกส่วนตัวอีกทีค่ะ
ห้องตัวอย่างที่เอามาให้ชมกันมีแบบ 1 ห้องนอน 45 ตารางเมตร และ 2 ห้องนอน 85 ตารางเมตร ความสูงของสเปซระยะฝ้าเพดานในห้องสูง 3 เมตร ห้องที่ได้จริงๆจะเป็นแบบ Fully-Fitted ค่ะ มีเฟอร์นิเจอร์ Built-in บางส่วน ได้เครื่องใช้ไฟฟ้าอน่างเตาไมโครเวฟ และตู้เย็นมาด้วย, ฝ้าและผนังเรียบทาสีขาวไม่มี Wallpaper จะมีดีเทลบางชิ้นที่ไม่เหมือนกับห้องตัวอย่าง เดียวจะบอกแทรกไว้ในรายละเอียดนะคะ
ห้องตัวอย่างคอนโด CanapayaResidences แบบ 1 ห้องนอน 45 ตารางเมตร
มาชมห้องตัวอย่างแบบ 1 ห้องนอนกันค่ะ เข้ามาก็จะเจอส่วนพื้นที่ครัว ข้างๆเป็นส่วนนั่งเล่นกับทำงาน
มาดูที่ส่วน pantry ครัวชัดๆกัน Built-in ครัวเป็นรูปตัว L ได้ตามนี้เลยค่ะ มีตู้เย็นกับเตาไมโครเวฟ Siemens ให้มาด้วย
อีกมุมนึงของห้องครัว วางโต๊ะทานข้าวแบบ 2 ที่นั่งได้อยู่ค่ะ ส่วนห้องที่เห็นติดประตูจะเป็นห้องน้ำค่ะ
มุมห้องทำงานค่ะ รับแสงจากด้านนอกและมองไปก็ได้วิวด้วย การวางตำแหน่งโต๊ะทำงานตรงนี้ก็ได้อย่างเสียอย่าง คือใช้สเปซคุ้มค่าจริงแต่ก็จะทำให้ระยะจากโซฟาถึงทีวีสั้นไปหน่อยครับ ถ้าใช้ทีวีใหญ่มากๆอาจจะดูไม่สบายตา
ถ่ายให้ดูสัดส่วนพื้นที่ครัว พื้นที่ทำงานและพื้นที่นั่งเล่นค่ะ
ห้องน้ำเข้าได้ทั้งจากห้องนอนและติดประตูทางเข้าห้องค่ะ โทนสีในห้องเป็นสีขาว ใช้กระเบื้องลายหินอ่อน
มุมห้องน้ำอีกด้าน จากส่วนอาบน้ำมองออกมา
มาดูที่ห้องนอนกันบ้าง ห้องจริงจะไม่ได้มีเตียงให้นะคะ ถ่ายให้ดูขนาดของสเปซเฉยๆ
ตู้เสื้อผ้าได้ตามนี้ค่ะ
ผนังปลายเตียงไว้วางทีวี ผนังจริงๆเป็นทาสีขาวเรียบๆค่ะ
ถ่ายให้ดูพื้นที่ระหว่างเตียงกับหน้าต่าง สามารถวางโต๊ะหัวเตียงได้ มีที่เหลือไม่แคบเกินไปค่ะ พื้นที่เหลือพอควร
วนกลับมาส่วนนั่งเล่นกันอีกรอบ รับแสงธรรมชาติได้ดี เพราะได้กระจกบานใหญ่มาเต็มบานค่ะ มีระเบียงออกจากทางห้องนั่งเล่นด้วย
พื้นที่ระเบียง เนื่องจากในห้องตัวอย่างเป็น Clubhouse จึงมีระเบียงยื่นต่อไปอีก ของจริงไม่มีแบบนี้นะคะ ระเบียงจะสุดแค่แนวราวกันตกกระจกเท่านั้นค่ะ
ห้องตัวอย่างคอนโด Canapaya residences
แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 85 ตารางเมตร
เปิดประตูเข้ามาชมห้องตัวอย่างแบบ 2 ห้องนอนกันค่ะ มองไปจะเจอส่วนระบประทานอาหารกับส่วนนั่งเล่น แถมวางโต๊ะทำงานได้นิดหน่อย
พื้นที่ครัวเป็นรูปตัว U ค่ะ มี Island ยื่นออกมา ของทั้งหมดได้ตามรูปเลยทั้งเคาท์เตอร์ เตา ฮูทลอยตัว ไมโครเวฟและตู้เย็น
สเปซครัวกับพื้นที่นั่งเล่นกั้นด้วย Island
จากพื้นที่นั่งเล่นค่ะ วางโต๊ะทานข้าวแบบ 4 ที่นั่งได้พอดี ด้านขวามือจะเป็นส่วนของทางเข้าห้องนอน ในห้องตัวอย่างพอติดกระจกเงาเข้าไปก็ยิ่งทำให้ห้องดูกว้างขึ้นไปอีก
จากโต๊ะทานข้าว ถ่ายให้เห็นสเปซนั่งเล่น วางโต๊ะทำงานเล็กๆได้ค่ะ ลักษณะการวางโซฟาและโต๊ะเขียนหนังสือตรงนี้จะเป็นแบบเดียวกับ 1 ห้องนอนด้านบน แต่จะยืดหยุ่นว่าเพราะมีพื้นที่ให้ขยับได้บ้าง วางทีวีใหญ่กว่าได้ค่ะ
รูปนี้จากบริเวณโต๊ะทานข้าวเช่นเดียวกัน มองไปด้านหน้าห้องและประตูทางเข้าติดกับส่วน pantry ค่ะ
ห้องนอนเล็กค่ะ วางเตียงแบบ 3 ฟุตได้กำลังดี ไม่มีห้องน้ำในตัว
จากทางเดินหน้าห้องนอนเล็ก มองไปเป็นห้องนอนใหญ่
เข้ามาที่ห้องนอนใหญ่กัน มีห้องน้ำในตัวนะคะ กระจกที่กั้นส่วนอ่างอาบน้ำในห้องตัวอย่างเป็นกระจกที่ซอยเฟรม แต่ของจริงจะเป็นกระจกใหญ่เต็มบานค่ะ
ห้องนอนใหญ่อีกรูป มีพื้นที่สามารถวางโต๊ะทำงานหรือชั้นวางทีวีได้ สเปซค่อนข้างเยอะ
ออกจากห้องนอนใหญ่ ถ่ายจากทางเดินมองไปจะเห็นพื้นที่ครัวกับส่วนนั่งเล่น
ออกมาที่ระเบียงตรงส่วนห้องนั่งเล่นกันค่ะ ความยาวระเบียง ยาวสุดระหว่างสเปซส่วนพักผ่อนนั่งเล่นถึงสเปซส่วนโต๊ะทานข้าวเลย ได้พื้นที่เต็มๆดี แต่อย่างว่าถ้าทำคอนโดริมแม่น้ำเจ้าพระยาห้องใหญ่แล้วไม่มีระเบียงใหญ่ๆแบบนี้ให้มันก็ไม่โอแน่ๆ ตรงนี้ก็เลยถือว่าทำมาได้ดี
เปิดห้อง ส่องวัสดุ : Focus on “MATERIALS”
วัสดุในภาพรวมก็ให้มาดีตามราคาที่สูงค่ะ คือจัดเป็นคอนโดสำหรับตลาดบนๆไปแล้ว วัสดุที่ให้มาให้มาแบบ Fully-Fitted มีเครื่องใช้ไฟฟ้าบางชิ้นมาให้ด้วย โดยรวมๆแล้วใช้วัสดุได้ดี ดูมีราคาค่ะ
อยู่สบายแบ่งรีวิววัสดุออกเป็น 3 ส่วน คือ วัสดุครัวและส่วนเตรียมอาหาร(pantry) , วัสดุห้องน้ำ , วัสดุทั่วไปและวัสดุปิดผิวภายในห้อง(Finishing Material) เพื่อให้ส่องกันง่ายๆเช่นเคยค่ะ
วัสดุห้องครัว / ส่วนเตรียมอาหาร (pantry)
วัสดุห้องน้ำ
วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (finishing)
เปิดกระเป๋า ดูสตางค์
ในเรื่องของราคานั้นเฉลี่ยต่อตารางเมตรเริ่มต้นอยู่ที่ 16x,xxx บาทค่ะ ถ้าเป็นราคาเฉลี่ยในภาพรวมของทั้งโครงการก็อยู่ที่ประมาณ 18x,xxx บาทต่อตารางเมตร ซึ่งโดยราคาก็เป็นกลุ่มตลาดบนที่เริ่มไปอยู่ในกลุ่มของการซื้อขายด้วยอารมณ์ (Emotional Benefits) เป็นหลักมากกว่าจะโฟกัสเรื่องความคุ้มค่าของเงินอย่างเดียวค่ะ
ราคาเริ่มต้นวันที่แวะเข้าไปทำรีวิว (25 กรกฎาคม 2557) อยู่ที่ชั้น 10 ค่ะ แบบ 1 ห้องนอนนั้นเริ่มที่ 7.58 ล้านบาท ส่วนแบบ 2 ห้องนอน 86 ตารางเมตรจะอยู่ที่ 14.64 ล้านบาท แต่ส่วนของ Penthouse จะโดดไปที่ตารางเมตรละ 300,000 กว่าบาทเลยทีเดียวค่ะ อันนี้สำหรับเศรษฐีเงินเหลือๆนะคะ ^^”
ราคา ณ วันที่ 25 กรกฎาคม 2557
ราคาเริ่มต้น :
1 bedroom พื้นที่ 45 ตร.ม. ชั้น 10 ราคา 7,580,430 บาท เฉลี่ย 168,454 บาท/ตร.ม.
2 bedroom พื้นที่ 86 ตร.ม. ชั้น 10 ราคา 14,637,716 บาท เฉลี่ย 170,206 บาท/ตร.ม
2 bedroom Duplex พื้นที่ 78 ตร.ม. ชั้น 14 ราคา 13,855,062 บาท เฉลี่ย 177,629 บาท/ตร.ม
3 bedroom พื้นที่ 93 ตร.ม. ชั้น 40 ราคา 16,740,000 บาท เฉลี่ย 180,000 บาท/ตร.ม
เงื่อนไขการจอง :
- เงินจอง
1 bedroom จอง 50,000 บาท / ทำสัญญารวมเงินจอง = 10%
2 bedroom จอง 80,000 บาท / ทำสัญญารวมเงินจอง = 10%
2 bedroom Duplex จอง 80,000 บาท / ทำสัญญารวมเงินจอง = 10%
3 bedroom จอง 100,000 บาท / ทำสัญญารวมเงินจอง = 10%
- ผ่อนดาวน์
30 งวด รวมประมาณ 20%
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :
ค่าส่วนกลาง 70 บาท/ตร.ม. (ชำระล่วงหน้า 1 ปี)
ค่ากองทุนเริ่มแรก (Sinking Fund) 800 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)
ประมาณอัตราการผ่อน (คิดจากราคาเริ่มต้นด้านบน)
(เพื่อให้เห็นกรอบของค่าใช้จ่ายคร่าวๆและนำไปวางแผนประมาณการของแต่ละคนครับ ถึงไม่ได้ซื้อห้องที่ยกมาเป็นตัวอย่างก็ใช้ตัวเลขได้ ซึ่งประมาณการอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าปกติหน่อย เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรองรับความสามาารถในการผ่อน รวมถึงให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆที่เกิดขึ้น เช่น ค่าส่วนกลาง ไปด้วยในตัว) :
บนสมมติฐาน กู้ 70% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 30 ปี
1 bedroom พื้นที่ 45 ตร.ม. ชั้น 10 ราคา 7,580,430 บาท ผ่อนประมาณ 36,872 บาท/เดือน
2 bedrooms พื้นที่ 86 ตร.ม. ชั้น 10 ราคา 14,637,716 บาท ผ่อนประมาณ 71,199 บาท/เดือน
3 bedrooms พื้นที่ 93 ตร.ม. ชั้น 40 ราคา 16,740,000 บาท ผ่อนประมาณ 81,425 บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 70% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 25 ปี
1 bedroom พื้นที่ 45 ตร.ม. ชั้น 10 ราคา 7,580,430 บาท ผ่อนประมาณ 38,969 บาท/เดือน
2 bedroom พื้นที่ 86 ตร.ม. ชั้น 10 ราคา 14,637,716 บาท ผ่อนประมาณ 82,031 บาท/เดือน
3 bedroom พื้นที่ 93 ตร.ม. ชั้น 40 ราคา 16,740,000 บาท ผ่อนประมาณ 86,057 บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 70% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 20 ปี
1 bedroom พื้นที่ 45 ตร.ม. ชั้น 10 ราคา 7,580,430 บาท ผ่อนประมาณ 42,482 บาท/เดือน
2 bedroom พื้นที่ 86 ตร.ม. ชั้น 10 ราคา 14,637,716 บาท ผ่อนประมาณ 94,395 บาท/เดือน
3 bedroom พื้นที่ 93 ตร.ม. ชั้น 40 ราคา 16,740,000 บาท ผ่อนประมาณ 93,813 บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 70% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 15 ปี
1 bedroom พื้นที่ 45 ตร.ม. ชั้น 10 ราคา 7,580,430 บาท ผ่อนประมาณ 48,885 บาท/เดือน
2 bedroom พื้นที่ 86 ตร.ม. ชั้น 10 ราคา 14,637,716 บาท ผ่อนประมาณ 94,395 บาท/เดือน
3 bedroom พื้นที่ 93 ตร.ม. ชั้น 40 ราคา 16,740,000 บาท ผ่อนประมาณ 107,952 บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 70% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 10 ปี
1 bedroom พื้นที่ 45 ตร.ม. ชั้น 10 ราคา 7,580,430 บาท ผ่อนประมาณ 62,595 บาท/เดือน
2 bedroom พื้นที่ 86 ตร.ม. ชั้น 10 ราคา 14,637,716 บาท ผ่อนประมาณ 120,871 บาท/เดือน
3 bedroom พื้นที่ 93 ตร.ม. ชั้น 40 ราคา 16,740,000 บาท ผ่อนประมาณ 138,230 บาท/เดือน
Overview Summary
ด้านการเดินทาง
ตัวโครงการนั้นอยู่ในเส้นพระราม 3 ช่วงระหว่างทางด่วนเฉลิมมหานครและถนนเจริญราษฎร์ ซึ่งถนนเจริญราษฎร์นี้สามารถใช้ตรงเข้าสู่สาทรตรงแยกสุรศักดิ์ได้ หรือจะใช้สะพานกรุงเทพข้ามไปลงทางฝั่งธนบุรี เข้าถนนสมเด็จพระเจ้าตากสินก็ได้ ถ้าย้อนไปอีกทางก็จะไปออกคลองเตย เข้ารัชดาได้ โดยลักษณะของถนนเลยเหมือนเป็นเส้นที่เชื่อมระหว่างพื้นที่กลางเมืองจุดต่างๆ เรียกว่าตรงเข้าถึงจุดต่างๆไม่ลำบากแต่ต้องขับรถกันไกลหน่อย ส่วนถ้าไม่ได้ขับรถ ด้านหน้าโครงการมี BRT สถานีพระราม 9 ผ่าน แต่เอาจริงๆแล้วคนส่วนใหญ่ที่ซื้อโครงการระดับราคานี้ก็น่าจะใช้รถเองกันหมดอยู่แล้ว เลยไม่น่าใช้มาปัจจัยพิจารณาเท่าไหร่ค่ะ ดูเรื่องการเชื่อมต่อไปยังโซนต่างๆดูจะมีน้ำหนักมากกว่า
ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต
ที่ดินในแนวถนนพระราม 3 ช่วงเลียบแม่น้ำเจ้าพระยานี้ยังมีแปลงว่างๆอยู่เยอะมากทีเดียว (แต่ว่างนี่คือมีเจ้าของซึ่งเก็บที่ดินรอเวลาเอาไว้แล้วนะคะ) บริเวณนี้ส่วนใหญ่ก็มีอาคารสำนักงานมาเปิดเพิ่มขึ้น เพราะเป็นจุดที่กระจายตัวออกมาจากในเมืองอย่างสาทร และเป็นพื้นที่ที่เริ่มมีโรงงานอุตสาหกรรมอยู่พอควร ทำให้โครงการประเภทคอนโดก็ตามๆกันมามากขึ้น แต่ตลาดคอนโดโซนนี้ก็คงไม่ได้โตอย่างหวือหวานักในเรื่องจำนวนและยูนิตขายเมื่อเทียบกับโซนอื่นๆ แม้จะเป็นจุดที่อยู่ไม่ห่างจากเมืองมากนักแต่รอบๆก็ไม่ได้หนาแน่นหรือดูคึกคักเท่าไหร่ จุดเด่นที่เห็นชัดของคอนโดโซนนี้คือ ติดแม่น้ำเจ้าพระยา ขายวิวสวยๆค่ะ
ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ
ที่ดินของตัวโปรเจคทั้งหมดนั้นมีทั้งโรงแรม พลาซ่าและคอนโด ที่ที่ดินเดิมถูกแบ่งด้วยคลองระบายน้ำสาธารณะทำให้เกิดการแยกโซนที่เป็น Private กับ Public ของคนที่อยู่ในคอนโดได้อย่างชัดเจนมากขึ้นด้วยคลองนี้ และการจัดวางตึกไม่พยายามไม่บังสายตากันมากนักถือว่าทำออกมาได้ดี แต่อย่างที่บอกไปเรื่องคลองว่าเนื่องจากเจ้าของเป็นกทม. ไม่ใช่ของตัวผู้ประกอบการเอง ตรงนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการในอนาคตด้วย เพราะถ้าเกิดมีคลองแล้วน้ำไม่หมุนเวียนก็อาจจะเป็นภาพที่ไม่น่าดูนัก ซึ่งก็หวังว่าทางดีเวลลอปเปอร์คงจะคิดเรื่องตรงนี้เอาไว้แล้วด้วยส่วนนึง
ตัวตึกออกแบบโดย Palmer & Turner (P&T) รูปทรงของอาคารนั้นต้องยอมรับว่าดูค่อนข้างแปลกตาไปจากคอนโดทั่วๆไปค่ะ โดยเฉพาะส่วนยอดอาคารซึ่งเป็นรูปเงินของจีนสมัยโบราณ ต้องถือว่าค่อนข้างกล้าที่ทำดีไซน์ออกมาหลุดจากของเดิมๆแบบนี้ ซึ่งก็ต้องรอดูกันว่าของจริงจะออกมาเป็นยังไง ที่ชั้น 1 ของโครงการให้มาเป็น Lobby แบบ Triple Volumn สูงมาก ผนังแต่ละชั้นก็ค่อนข้างสูงถ้าเทียบกับคอนโดทั่วๆไป การที่เริ่มห้องพักอยู่ที่ชั้น 8 ทำให้ห้องพักทั้งหมดไม่ค่อยโดนบังวิวจากตึกสำนักงาน 8 ชั้นข้างๆสักเท่าไหร่ ถ้าดู Floor Plan ของแต่ละชั้นจะเห็นว่าค่อนข้างต่างกันไป มีการสลับตำแหน่งห้องกันบ้างเพื่อให้มองจากด้านนอกแล้วเกิดจังหวะขององคค์ประกอบต่างๆบนตัวผนังอาคาร ไม่ได้เรียบๆเหมือนกันหมดทุกชั้น
การวางแปลนภาพรวมก็จัดออกมาได้ดีที่เดียว โดยจะไม่มีห้องที่หันหน้าออกทางถนนใหญ่ เน้นวางไปในวิวแม่น้ำ แต่ละชั้นก็มีจำนวนยูนิตน้อย สูงสุดแค่ 7 ยูนิตต่อชั้น เหมาะสมกับคอนโดในราคาระดับนี้ไม่ได้หนาแน่นมาก ส่วนพวกแปลนห้องโดยรวมก็เป็นสัดเป็นส่วนดีค่ะ มีให้เลือกหลากหลายแล้วแต่ความเหมาะสมในการใช้งาน และที่สำคัญคือเงินในกระเป๋า เพราะด้วยระดับราคานี้พื้นที่ต่างกันไม่เท่าไหร่แต่ราคาก็จะต่างกันอยู่พอควร
ด้านวัสดุนั้นให้ดีตามราคาที่สูงตามไป ส่วนพื้นที่ครัวในห้องตัวอย่างก็ให้มาเต็มที่ ทำที่เก็บของไว้ให้หลายจุด อย่างแบบ 1 ห้องนอน กับ 2 ห้องนอน บางส่วนก็จะไม่เหมือนกันอยู่ที่ฟังก์ชั่นการจัดวาง ด้านพื้นที่ส่วนกลางนั้นให้มาครบๆ มีทั้งแยกส่วนมาเป็น Clubhouse ชั้นล่างที่มี ฟิตเนส สระว่ายน้ำ สวน ห้องสมุด และห้องอเนกประสงค์ ถูกจัดวางอยู่ใกล้กับริมแม่น้ำ จุดเด่นอีกอย่างคือ มีท่าจอดเรือส่วนตัวอีกด้วยซึ่งต้องเสียเงินเพิ่ม นอกจากนี้ยังมีในส่วนของชั้น 50 ที่เป็นสระว่ายน้ำพร้อมส่วนพักผ่อนชมวิวแม่น้ำจากมุมสูงด้วย
สัดส่วนการใช้ลิฟต์ที่ 63 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัวนั้นถือว่าพรีเมียม ในส่วนของ Penthouse ยังมีลิฟต์ส่วนตัวทำให้ราคาอัพขึ้นไปสูงกว่าเดิมอีก ที่จอดรถมีให้ถึง 140% แต่ก็ด้วยราคาระดับนี้ก็สมเหตุสมผล เพราะผู้อยู่ส่วนใหญ่ก็คงต้องใช้รถในการเดินทาง อีกทั้งตัวคอนโดก็ไม่ได้อยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายหลักด้วย
ด้านตัวเลือกอื่นๆ
โครงการบริเวณรอบๆและพื้นที่ใกล้เคียงนี้ที่เด่นชัดที่สุดก็คงหนีไปพ้น The Pano ระดับราคาก็จะอยู่ที่ประมาณตารางเมตรละ 120,000 บาท แต่ก็ยังราคาสูงสู้ Canapaya ไม่ได้อยู่ดีค่ะ โครงการนี้เลยแทบจะถูกจัดเป็นตัวบนสุดของทำเลในโซนนี้ ณ ปัจจุบัน นอกจากนั้นก็เป็นคอนโดระดับที่ถูกลงมา จับกลุ่มลูกค้าคนละกลุ่มกันไม่ได้มาชนกันโดยตรง ส่วนในอนาคตเนื่องจากที่ดินตรงแถบพระราม3 ยังเห็นเป็นพื้นที่ว่างอยู่เยอะ ก็น่าจะมีการพัฒาโครงการประเภทคอนโดเพิ่มขึ้นตามๆกันมาอีก
Score Summary
สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยค่ะ (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนคอนโดมิเนียมที่นี่)
และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่ https://www.facebook.com/Yusabuy
ทุกท่านสามารถสนับสนุนให้อยู่สบายสามารถทำรีวิวออกมาได้เรื่อยๆค่ะ เพียงแค่เวลาไปดูโครงการบ้านและคอนโดที่ต่างๆ เพียงช่วยระบุในแบบสอบถามของโครงการว่า ”อยู่สบาย.com” เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ท่านติดตามอ่านอยู่ เวลาทางทีมงานขออนุญาตโครงการต่างๆเข้าไปทำรีวิวจะได้ทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นค่ะ (^_____^)
ถ้าหากว่ารีวิวของเรามีประโยชน์ ช่วยกด Like ด้านล่างสำหรับกำลังใจในการทำรีวิวของทีมงานด้วยนะคะ
รีวิวได้ดีเยี่ยมครับ