วันนี้อยู่สบายจะพาไปรีวิวคอนโด Chewathai Residence บางโพ กันค่ะ คอนโดนี้อยู่ใกล้รถไฟฟ้าสถานีบางโพ ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่คาดว่าจะเสร็จในปี 2560 นี้  และแน่นอนโครงการตั้งอยู่ในย่านบางโพที่ตอนนี้กำลังป๊อปปูล่ามากๆ  มีคอนโดเกิดใหม่ทยอยเปิดขึ้นในย่านนี้เรื่อยๆค่ะ  ส่วนนึงก็มาจากอานิสงค์ของรถไฟฟ้าทั้งสายสีม่วงและสายสีน้ำเงินที่เห็นเป็นรูปเป็นร่างกันไปเยอะแล้ว  สำหรับโครงการสายสีน้ำเงินนั้นจะทำให้คนสามารถเดินทางเชื่อมต่อข้ามไปทางฝั่งจรัญสนิทวงศ์ได้ง่ายขึ้น โครงการ Chewathai Residence  บางโพ  นั้นถือเป็นคอนโดที่วางตัวเองอยู่ในตลาดบนสุดในทำเลนี้ ณ ตอนนี้ค่ะ

ไปดูรีวิวโครงการอย่างละเอียดกันดีกว่า

เริ่มจากข้อมูลเบื้องต้นของโครงการกันก่อน

Chewathai Residence Bang Pho 

(ชีวาทัย เรสซิเดนซ์ บางโพ)

• เจ้าของโครงการ >>>  บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน)
• ที่ตั้งโครงการ >>>  ถนนประชาราษฎร์ สาย 2 เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร
• ขนาดที่ดิน >>>  1-1-94.3 ไร่
• จำนวนชั้น >>> 24 ชั้น
• จำนวนอาคาร >>>  1 อาคาร
• ประเภทห้องและขนาดห้อง >>>
  • 1 ห้องนอน (เล็ก) 33.50 – 36.00 ตารางเมตร
  • 1 ห้องนอน (ใหญ่) 42.50-49.00 ตารางเมตร
  • 2 ห้องนอน 68.00-78.50 ตารางเมตร
  • 3 ห้องอน (เพนท์เฮ้าส์) 95.50, 117.00 ตารางเมตร
• จำนวนยูนิต >>>  172  ยูนิต
• ที่จอดรถ >>> 80% รวมจอดซ้อนคัน
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> 3.9 ล้านบาท (ราคา ณ วันที่ 1/9/2558)
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> ราคาเฉลี่ยประมาณ  125,000 บาท/ตารางเมตร
• พิกัด GPS >>> 13.806306, 100.522390
• เว็บไซต์โครงการ >>> คลิกที่นี่
• โทร >>> 02-912-8808

คอนโด Chewathai Residence บางโพ นั้นตั้งอยู่ในบนถนนประชาราษฎร์สาย 2 ใกล้สี่แยกบางโพซึ่งเป็นบริเวณที่จะมีรถไฟฟ้า MRT สถานีบางโพ คอนโดห่างจากตัวสถานีแค่ 80 เมตร และอยู่ห่างจากสามแยกเตาปูน และ MRT สถานีเตาปูน 900 เมตรค่ะ ส่วนสำนักงานขายจะอยู่ฝั่งตรงข้ามเยื้องๆกับคอนโด The Tree Interchange ของทางพฤกษาค่ะ

สถานีบางโพเป็นสถานีหนึ่งของส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินค่ะ จากเดิมที่มีอยู่แค่บางซื่อ-หัวลำโพงจะพัฒนาเป็นสายรถไฟที่จะวิ่งเป็นวงแหวนรอบกรุงเทพฯเลยค่ะ โครงการนี้คาดว่าแล้วเสร็จปี 2560 ส่วนสถานีเตาปูนเป็นสถานี Interchange Station ที่เชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีม่วงจากบางซื่อถึงบางใหญ่ สายสีม่วงนี้ใกล้เปิดให้บริการจริงเดือนธันวาคมปี 2558 นี้แล้วค่ะ

เริ่มเดินทาง ดูทำเล

วันนี้เราเริ่มเดินทางจากสามแยกเตาปูนไปตามถนนประราษฎร์สาย 2 มุ่งหน้าไปที่สี่แยกบางโพค่ะ ขับเลยโครงการ The Tree Interchange ไปนิดเดียว โครงการ Chewathai Residence บางโพ จะอยู่ทางซ้ายมือค่ะ ส่วนสำนักงานขายจะต้องกลับรถกลับที่สี่แยกบางโพ ขับผ่านโรงพยาบาลบางโพไปตัวสำนักงานขายจะอยู่ทางซ้ายมือค่ะ

มาดูตำแหน่งรอบๆตัวคอนโดก่อนว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนกันบ้าง

เริ่มจากตำแหน่งที่ตั้งโครงการ Chewathai Residence ตั้งอยู่บนถนนประชาราษฎร์สาย 2 ใกล้แยกบางโพ บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของ MRT สถานีบางโพ เดินมาจากคอนโดชีวาทัย เรสซิเดนซ์ บางโพ ประมาณ 80 เมตร ส่วนถนนประชาราษฎร์สาย 1 นี้สามารถไปขึ้นสะพานพระราม 7 เพื่อข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาได้ค่ะ หรือจะไปแยกเกียกกายก็ได้ซึ่งบริเวณนี้จะมีโครงการในอนาคตที่สำคัญๆ 2 โครงการคือสะพานเกียกกายข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปฝั่งถนนจรัญสนิทวงศ์ (เส้นประสีชมพู) และอาคารรัฐสภาใหม่ โดยรอบรัฐสภาจะถูกจำกัดความสูงของอาคารในช่วงรัศมีตามกฎหมายค่ะ (ก่อนหน้านี้ก็มีคอนโด The Tree Privata ที่มีปัญหาเรื่องความสูงอาคาร  จนต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบโครงการ) นอกจากนี้โครงการยังใกล้แยกเตาปูน ห่างประมาณ 900 เมตร สามแยกนี้จะเชื่อมกับถนนกรุงเทพฯ-นนทบุรี เส้นนี้จะยาวไปผ่านแยกวงศ์สว่างและนนทบุรีค่ะ สถานีรถไฟฟ้าเตาปูนเป็น Interchange Station จะคล่อมเหนือแยกเตาปูนนี้ค่ะ เดิมทีท่าเรือที่ใกล้โครงการที่สุดจะเป็นท่าเรือบางโพค่ะ ห่างไป 400 เมตรค่ะ  ตอนนี้ก็ปิดยาวเพราะสร้างรถไฟฟ้า  ไม่แน่ใจว่าพอรถไฟฟ้าเสร็จเปิดวิ่งจะยังมีท่าเรือบางโพนี้อยู่หรือเปล่านะคะ

แหล่งซื้อของใช้ในบ้านที่ใกล้ๆก็จะมีตลาดเตาปูน และ Tesco Lotus ประชาชื่น ที่สี่แยกประชาชื่น เลยจาก Tesco Lotus ไปจะเป็นสำนักงานใหญ่ของเครือปูนซีเมนต์ไทย (SCG) และบางซื่อ-จตุจักร (กราฟิกสีชมพู) ตรงนี้เองที่จะเป็น Hub รถไฟที่สำคัญในอนาคตค่ะ

ส่วนใหญ่แถวนี้ตลอดแนวถนนประชาราษฎร์สาย 2  จะเป็นอาคารพาณิชย์เก่าสูงประมาณ 3-4 ชั้น บ้านพักอาศัย และมีอพาร์ทเมนท์เตี้ยๆปนอยู่ แต่หลังจากมีแนวรถไฟฟ้ามาก็มีคอนโดสูงเกิดขึ้นตลอดแนวเลยค่ะ บริเวณแยกบางโพ จะมีคอนโด 333 Riverside ติดแม่น้ำเจ้าพระยา บนเส้นถนนประชาราษฎร์สาย 1 มีคอนโด The Tree Bang Po และที่อยู่บนถนนประชาราษฎร์สาย 2 เช่นเดียวกับโครงการ Chewathai Residence Bang Pho มี The Tree Interchage, The Stage, Rich Park 2 และ Chewathai Interchange ซึ่งเป็นของบริษัทชีวาทัยเองค่ะ  แต่เมื่อเทียบขนาดที่ดินโครงการ Chewathai Residence จะเล็กกว่าโครงการอื่นทั้งหมด  เลยเป็นโครงการที่จำนวนยูนิตน้อยกว่าค่ะ

ตลอดแนวถนนและติดกับโครงการจะเป็นตึกแถวสูง 4-5 ชั้น (กราฟิกสีเขียว)  ส่วนถัดเข้าไปหลังตึกแถวจะเป็นบ้านไม้เก่าๆที่อยู่กันมานานแล้วเสียส่วนใหญ่ค่ะ (หมายเลข 3)  ติดกับโครงการนั้นจะเป็นที่ทำการไปรษณีย์บางโพ (หมายเลข 1)  เดินเลี้ยวซ้ายเข้าถนนประชาราษฎร์สาย 1 จะเจอที่ดินเปล่าอยู่ทางทิศใต้ของโครงการค่ะ (หมายเลข 2)  ที่ดินตรงนี้เดิมเป็นโรงเรียนประถมชื่อโรงเรียนพรศรีวิทยา บางโพ  ต่อมาก็เปลี่ยนเป็นโรงเรียนเทคนิค  ตอนหลังก็ถูกซื้อที่รื้อโรงเรียนไป  พื้นที่ตรงนี้ใหญ่พอที่จะขึ้นคอนโดได้  ถ้ามีการสร้างจริงอาจจะบังทัศนียภาพในมุมเฉียงๆของบางห้องที่อยู่ทางทิศนี้ได้ค่ะ  ฝั่งตรงข้ามจะเป็นร้านอาหารชื่อร้านวิเศษไก่ย่าง เป็นร้านชื่อดังเปิดมานานหลายสิบปีแล้ว

วนกลับมาทางด้านทิศตะวันออกของโครงการบ้าง  ถัดจากโครงการมาทางเตาปูนจะมีปั๊มน้ำมัน ESSO (หมายเลข 4) ฝั่งตรงข้ามจะเป็นโรงพยาบาลบางโพค่ะ (หมายเลข 5) ถัดจาก Esso จะเป็น The Market ซึ่งเป็นศูนย์การค้าที่เจ๊งไปนานพอควรแล้ว  เจ้าของจริงๆคือ TCC ของเสี่ยเจริญซึ่งยังถือที่ดินไว้  อีกหน่อยถ้าคอนโดย่านนี้เปิดพร้อมๆกันอาจจะเห็นการหยิบเอามาปัดฝุ่นกันอีกรอบก็ได้  เพราะยังไงเงินทุนก็หนาอยู่แล้ว  ถัดไปจะเป็นปั๊ม LPG เปิด 24 ชั่วโมง (หมายเลข 6) ติดกันเป็นโครงการ The Tree Interchange หน้าโครงการนี้จะมี 7-Eleven (หมายเลข 7) และมีสะพานลอยข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามได้ค่ะ ฝั่งตรงข้ามนี้จะมีธนาคารไทยพาณิชย์สาขาบางโพ และภัทรอพาร์ทเมนท์ อยู่ใกล้กับ Sales Office ค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบคอนโด

พาไปเดินเล่นรอบๆก่อนเข้าสำนักงานขายค่ะ เราจะเริ่มเดินจากสำนักงานขายไปที่โครงการ เลยไปจนถึงถนนประชาราษฎร์สาย 1 อ้อมไปข้างๆโครงการ แล้ววนกลับมาที่สำนักงานขายอีกรอบค่ะ

เดินจากสำนักงานขายมาจะเจอโรงพยาบาลบางโพ

สภาพทางเดินหน้าตึกแถว สะอาดเรียบร้อยดีค่ะ

ส่วนใหญ่เป็นตึกแถวสูง 4-5 ชั้น สภาพเก่า รถไฟฟ้ายกสูงดีจังค่ะ ดูโล่งไม่มืดทึบค่ะ

อยู่บริเวณเกาะกลางถนนค่ะ กำลังจะข้ามถนนไปที่หน้าโครงการ ข้างๆโครงการเป็นตึกแถวสูง 4 ชั้นค่ะ

อีกด้านหนึ่งที่ติดกับโครงการเป็นที่ทำการไปรษณีย์บางโพค่ะ

ถัดมาเป็น Napha Place เป็นอพาร์ทเม้นท์ให้เช่า มีธนาคารธกส.อยู่ด้านหน้าด้วยค่ะ

มาดูบรรยากาศแถวถนนประชาราษฎร์สาย 1 ที่อยู่ฝั่งเดียวกับโครงการกันค่ะ

แยกบางโพค่ะ จากรูปจะที่เห็นเป็นถนนประชาราษฎร์สาย 1 มุ่งตรงไปทางสะพานพระราม 7 ค่ะ สถานีรถไฟฟ้าบางโพจะคล่อมแยกนี้พอดี ซึ่งจะมีบันไดรถไฟฟ้ามาลง ณ ตำแหน่งที่ยืนถ่ายรูปนี้ด้วยค่ะ

เดินเลาะถนนประชาราษฎร์สาย 1   มาทางแยกเกียกกาย สองข้างทางจะเป็นตึกแถวเหมือนกันค่ะ

ร้านวิเศษไก่ย่างอยู่ฝั่งตรงข้ามค่ะ

ตึกแถวฝั่งตรงข้ามสูง 4 ชั้น

ตรงนี้เป็นที่ดินว่างที่มีพื้นที่ติดกับด้านหลังโครงการ Chewathai Residence ค่ะ ขนาดพื้นที่ใหญ่พอๆกัน  มองเข้าไปจะเห็น The Tree Interchange

ติดๆกันคืออพาร์ทเมนท์ ช.ประพันธ์คอร์ทค่ะ สูงประมาณ 7 ชั้นมีร้านขายของที่ชั้นล่างค่ะ

กลับมาตั้งต้นที่หน้าโครงการกันใหม่ค่ะ ทีนี้จะเดินทางโครงการกลับไปที่สำนักงานขายค่ะ

รอบๆแถวนี้ก็ยังเป็นบ้านไม้ บ้านปูน สูง 1-2 ชั้นสลับกันไปค่ะ

ตึกแถวด้านหน้าโครงการมีขายโต๊ะหมู่บูชา ศาลพระภูมิค่ะ

ถัดไปเป็นร้านขายวัสดุก่อสร้าง

ปั๊มน้ำมัน Esso ค่ะ

The Market ที่ตอนนี้ร้างอยู่เป็นของ ทีซีซี แลนด์ ในเครือของ เสี่ยเจริญ สิริวัฒนภักดี ค่ะ

ปั๊ม LPG เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ติดกับ The Market ค่ะ

คลินิกสัตว์เลี้ยง ติดกับคลินิกรักษาทั่วไป อยู่ตรงข้ามกับสำนักงานขาย

อยู่หน้าโครงการ The Tree Interchange จะมีสะพานลอยข้ามไปฝั่งตรงข้ามค่ะ

โครงการ The Tree Interchange ใกล้สร้างเสร็จแล้ว เดี๋ยวจะมีรีวิวออกมาให้ชมกันเร็วๆนี้ค่ะ

บรรยากาศถนนประชาราษฎร์สาย 2 ค่ะ

ธนาคารไทยพาณิชย์สาขาบางโพค่ะ

อู่ล้างรถ ซ่อมรถ  อยู่ใกล้ๆกับสำนักงานขาย

เริ่มเปิดประตู  ไปดูในโครงการ

เข้ามาที่สำนักงานขายกันเลยค่ะ

ด้านหน้าสำนักงานขายโครงการ Chewathai Residence บางโพ ค่ะ ดีไซน์เป็นกล่องโมเดริ์นสีดำกับสีทองกุหลาบ (Rose Gold) เอกลักษณ์ของโครงการนี้ค่ะ

ด้านในสำนักงานขาย ผนังตกแต่งได้รับแรงบันดาลใจมากจากลายฝาปะกนของบ้านเรือนไทย  ซึ่งเอาไอเดียไปใช้ในการออกแบบผนังรอบตัวคอนโดโครงการนี้ค่ะ

เคาน์เตอร์ในสำนักงานขายค่ะ

ป้ายโครงการ Chewathai Residence Bang Pho ก็เป็นสแตนเลสสี Rose Gold  ค่ะ จะให้บรรยากาศเดียวกับตัวอาคารจริงค่ะ

ดูผังโครงการ  ตำแหน่งการเข้าถึง

ทางเข้าออกโครงการมีทางเดียวคือด้านหน้าของโครงการที่ติดกับถนนประชาราษฎร์สาย 2  ค่ะ ถนนมีขนาด 4 เลนไป-กลับ อาคารตลอดแนวถนนเป็นทั้งสองฝั่งเป็นตึกแถวสูง 4-5 ชั้น ใกล้โครงการจะมีอพาร์ทเม้นท์สูง 7 ชั้นอยู่ ด้านหลังตึกแถวเข้าไปจะเป็นที่อยู่อาศัย ส่วนใหญ่เป็นบ้านไม้สูงหรือบ้านครึ่งไม้ครึ่งปูน 1-2 ชั้นค่ะ ส่วนทิศใต้ของโครงการจะติดกับที่ดินเปล่าที่มีขนาดพื้นที่ใกล้เคียงกับโครงการชิวาทัย เรสซิเดนซ์ บางโพ หากมีการสร้างอาคารตรงนี้ก็อาจจะบดบังวิวจากห้องบางห้องในโครงการได้ค่ะ

ที่ตั้งโครงการค่ะ กำลังเคลียร์พื้นที่ค่ะ

สภาพในพื้นที่โครงการ ณ วันที่ไปรีวิวค่ะ

สภาพตึกแถวฝั่งตรงข้ามโครงการค่ะ สูง 3-4 ชั้นค่ะ  ที่เห็นไกลๆนั่นคือ The Tree Bangpo

ลักษณะบ้านที่อยู่ด้านหลังตึกแถวค่ะ เป็นบ้านไม้สูง 2 ชั้นค่ะ

ทิศทางแดด  ฝั่งไหนร้อน?  ฝั่งไหนร่ม?

ด้านหน้าโครงการหันหน้าไปทางทิศเหนือ แม่น้ำเจ้าพระยาจะอยู่ทางทิศตะวันตกของโครงการ ถึงจะเป็นด้านที่ร้อนแต่คอนโดใกล้แม่น้ำย่อมเน้นวิวแม่น้ำเป็นพิเศษ ห้องที่มีราคาแพงส่วนใหญ่รวมไปถึง Facilities จะเน้นวิวทางทิศตะวันตกและทิศเหนือเป็นส่วนใหญ่ค่ะ ห้องที่จัดไว้ทางทิศตะวันตกเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอนและแบบ Penthouse ส่วน 1 ห้องนอนจะไปอยู่ทางฝั่งทิศตะวันออกและทิศใต้

ส่องโมเดล

มาดูโมเดลของโครงการ Chewathai Residence Bang Pho ค่ะ นี่คือส่วนด้านหน้าของโครงการที่เข้าจากถนนประชาราษฎร์สาย 2  สีของอาคารเน้นออกโทนน้ำตาลทอง ผนังเซาะร่องทำเป็นแพทเทริ์นเข้าไป ทางเข้าโถงต้อนรับด้านหน้าเป็นกระจกสูง ประมาณ 6 เมตรค่ะ เหนือขึ้นไปเป็นที่จอดรถตกแต่งผนังชั้นจอดรถเป็นระแนงสีดำลงมาจนถึงชั้นล่างค่ะ  ตรงระแนงนี้จะบังเฉพาะด้านหน้าและด้านข้างบางส่วน  ด้านหลังนั้นปล่อยทิ้งโล่งๆเอาไว้

ด้านอาคารทางทิศเหนือที่หันหน้าเข้าหาถนน ลายผนังจะเป็น Pattern ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากลายฝาปะกนของบ้านเรือนไทย เนื่องจากย่านบางโพเป็นแหล่งขายไม้ค่ะ จากโมเดลจะเห็น Facilities ที่ชั้น 7 และชั้น 23 ค่ะ ชั้นสีน้ำตาลๆ ถัดจากดาดฟ้าลงมา 2 ชั้น ที่เป็นกระจกเต็มบานเป็นห้องแบบ Penthouse ค่ะ

โมเดลทางทิศตะวันออกจะมีห้องขนาด 1 ห้องนอนมากที่สุดที่ด้านนี้ค่ะ

ด้านทิศตะวันตกที่ราคาแพงสุดเพราะเห็นวิวแม่น้ำ ส่วนใหญ่เป็นห้องแบบ 2 ห้องนอนค่ะ

ด้านหลังโครงการค่ะ  ด้านนี้เห็นวิวรัฐสภา

สวนเล็กๆด้านหลังโครงการ  ซึ่งทำเป็นบล็อกหญ้า  ปรับมาใช้เป็นที่จอดรถได้ (ในแปลนเขียนเอาไว้เป็นที่จอดรถนะคะ)

ที่ชั้น 7 จะมีสวนหย่อมอยู่บนโพเดียมที่จอดรถ ซึ่งชั้นนี้เป็นชั้นแรกที่เริ่มเป็นห้องพักอาศัยค่ะ

ชั้น 23 จะเป็นชั้นที่รวม Facilities มีสระว่ายน้ำที่ยื่นลอยๆ ออกไปด้านหน้าโครงการทำรั้วระเบียงกระจกใส มีสวนอยู่รอบๆ สระ เหนือสระว่ายน้ำที่เห็นเป็นกล่องสีน้ำตาลใส คือห้องฟิตเนสค่ะ แต่ละ Facilities จะเน้นเห็นวิวพาโนราม่าไปทางแม่น้ำเจ้าพระยาค่ะ  แอร์ในห้องฟิตเนสน่าจะทำงานหนักอยู่  เพราะเป็นกระจกเต็มบานหันหน้าไปทางทิศตะวันตกแต่ก็เลี่ยงไม่ได้เพราะด้านหน้าได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยาเต็มๆ  ยังไงก็ต้องวางตำแหน่งเอาไว้ตรงนี้

ชั้น 23 ด้านหลังของอาคาร

สระว่ายน้ำที่ยื่นออกมาทางด้านหน้าของอาคาร กับมีสวนหย่อมทางทิศเหนืออีกสวนค่ะ

พื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งานเป็นอย่างไร

สิ่งอำนวยความสะดวกของโครงการนี้ ไล่มาตั้งแต่ชั้น 1 จะมี Lobby และ Business Lounge ขึ้นมาที่ชั้นพักอาศัยชั้นแรก และที่ชั้น 23 มีสระว่ายน้ำระบบเกลือ มีสวนอยู่ 2 จุด คือบริเวณรอบสระว่ายน้ำ และสวนทางด้านหน้าอาคาร ส่วนห้องฟิตเนสจะอยู่ที่ชั้น 24 ลอยอยู่เหนือสระว่ายน้ำ รับมุมมองของโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาค่ะ

ลิฟต์โดยสารมี 2 ตัว  และลิฟต์ขนของ 1 ตัวค่ะ จำนวนห้องต่อจำนวนลิฟต์ คือ 86 ต่อ 1 นับว่าเกินพอเลยค่ะ เนื่องจากโครงการนี้เน้นมีความเป็นส่วนตัวสูง จำนวนยูนิตจึงมีแค่ 172 ห้อง และแม้จะอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าก็มีที่จอดรถให้ถึง 80% รวมจอดซ้อนกันค่ะ

บรรยากาศจำลองบริเวณ River View Sky Lap Pool และ Panoramic Fitness ที่ชั้น 23 ของโครงการ Chewathai Residence Bang Pho ค่ะ

เปิดผังคอนโด

Floor Plan คอนโด Chewathai Residence Bang Pho ชั้น 1 

เข้าคอนโดมาจะเจอ Lobby และ Business Lounge  ลิฟต์จะอยู่ลึกเข้าด้านหลังเคาน์เตอร์ค่ะ ด้านข้างและด้านหลังโครงการสามารถจอดรถได้ 31 คัน รวมถึงส่วนพื้นที่ด้านหลังที่เป็นติ่งออกไปด้วยค่ะ

Floor Plan คอนโด Chewathai Residence Bang Pho ชั้น 7

ชั้นห้องพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 7 ค่ะ ซึ่งชั้นนี้จะมีสวนด้วย ห้องที่อยู่ติดกับสวนก็จะได้วิวสวนไปเต็มๆค่ะ ห้องแบบ 2 ห้องนอนจะถูกจัดไว้ทางด้านทิศตะวันตก เน้นรับวิวจากแม่น้ำเจ้าพระยามีจำนวน 2 ห้องต่อชั้นค่ะ (สีน้ำตาลอ่อน) ส่วนช่วงกลางอาคารจะเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนใหญ่ ซึ่งมีอยู่ 5 ห้องใน 1 ชั้น (สีเทา)  นอกนั้นก็จะเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนเล็กค่ะ (สีฟ้า) 

Typical Floor Plan คอนโด Chewathai Residence Bang Pho ชั้น 8-15

แปลนจะเหมือนชั้น 7 ค่ะ โดยใน 1 ชั้นจะมีจำนวนยูนิตทั้งหมดแค่ 12 ยูนิต ซึ่งนับว่าน้อยค่ะ

Typical Floor Plan คอนโด Chewathai Residence Bang Pho ชั้น 16-20

ตั้งแต่ชั้น 16 จะเริ่มลดจำนวนห้องต่อชั้นลงมาเหลืออยู่แค่ 10 ห้องค่ะ ลักษณะห้องจะเหมือนชั้น 7-15 เลยค่ะ แค่ตัดห้องทางทิศเหนือ 2 ห้องออกไปค่ะ

Floor Plan คอนโด Chewathai Residence Bang Pho ชั้น 21-22

2 ชั้นนี้จะมีห้องเพนท์เฮ้าส์มาแทนห้องด้านทิศตะวันตกกับทิศเหนือค่ะ มีห้องเพนท์เฮ้าน์ชั้นละ 2 ห้องทำให้จำนวนยูนิตในชั้นนี้ลดลงเหลือ 7 ห้องเท่านั้นค่ะ

แปลนห้องดีไหม?

แปลนของคอนโด Chewathai Residence Bang Pho เริ่มต้นของห้องขนาดเล็กสุดในโครงการนี้เริ่มที่ 33.50 ตารางเมตร ซึ่งได้ห้องค่อนข้างใหญ่กว่าหลายๆคอนโดในเมืองค่ะ ทำให้สามารถจัดแปลนได้ค่อนข้างลงตัว มีระยะที่ไม่แคบจนเกินไป มีไม่ซอกแคบๆประหลาดๆให้เห็น แบบห้องที่มีจำนวนมากที่สุดจะเป็นแบบ 1 ห้องนอนใหญ่ค่ะ

• 1 ห้องนอนเล็ก (A1-A5) 33.50 – 36.00 ตารางเมตร
• 1 ห้องนอนใหญ่ (B1-B5) 42.50-49.00 ตารางเมตร
• 2 ห้องนอน (C1-C3) 68.00-78.50 ตารางเมตร
• Penthouse (3 ห้องนอน) (P1-P2) 95.50-117.00 ตารางเมตร

แปลนห้องคอนโด Chewathai Residence Bang Pho

แบบ 1 ห้องนอนเล็ก (A1) ขนาด 33.50-36.00 ตารางเมตร

เริ่มต้นจาก 1 ห้องนอนค่ะ  แปลนจะแบ่งครึ่งห้องกันระหว่างห้องนอนกับห้องนั่งเล่นด้วยสัดส่วนพื้นที่พอๆกัน ส่วนห้องห้องน้ำ ห้องครัว และระเบียง ถูกจัดเรียงกันไว้ที่ด้านหนึ่งของห้อง ซึ่งต้องเดินเข้าจากทางห้องนั่งเล่น เจอห้องครัวก่อนแล้วแยกไปห้องน้ำ ฝั่งตรงข้ามเป็นทางออกระเบียงค่ะ ห้องนั่งเล่นของห้องแบบ 1 ห้องนอนเล็กนี้ ห้องนั่งเล่นไม่ติดระเบียงนะคะ  ถ้าระหว่างวันนั่งในห้องอาจจะเปิดประตูระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องนอนเอา ซึ่งเป็นบานเลื่อนแบบ 3 ช่วง จะช่วยให้ในห้องนั่งเล่นรู้สึกกว้างขึ้นไม่อึดอัดค่ะ  ประตูเข้าห้องครัวก็เป็นบานเลื่อนค่ะเพื่อประหยัดพื้นที่ แต่ระเบียงค่อนข้างเล็กเหลือที่ไว้แค่ตากผ้าเท่านั้นค่ะ  โดยรวมๆก็เป็นรูปแบบการจัดแปลนแบบมาตราฐานของ 1 ห้องนอน ขนาดสามสิบกว่าตารางเมตร  ลงตัวดีไม่มีปัญหาอะไรค่ะ  ในเรื่องที่ต้องดูเพิ่มเติมเวลาอยู่อาศัยก็คงจะเป็นเรื่องที่ต้องทำ built-in ตู้เก็บของต่างๆ เพื่อความเรียบร้อยของห้องค่ะ

แปลนห้องคอนโด Chewathai Residence Bang Pho

แบบ 1 ห้องนอนใหญ่ (B1) ขนาด 42.50-49.00 ตารางเมตร

ห้องแบบนี้จะมีมากที่สุดในโครงการค่ะ เริ่มต้นที่ 42.50 ตารางเมตร  เป็นห้องแบบที่เอามาทำห้องตัวอย่างให้ดูกันด้วย  เปิดประตูเข้าไปจะเจอพื้นที่ครัวจัดไว้เป็นตัว L ติดกับโต๊ะกินข้าว ถัดไปเป็นส่วนที่นั่งเล่นติดระเบียง ประตูห้องนอนอยู่ตรงพื้นที่นั่งเล่นค่ะ ระหว่างทางจากห้องนอนจะไปห้องน้ำทำเป็นตู้เก็บเสื้อผ้าไว้สองข้าง เข้าไปแล้วจะเป็นห้องอาบน้ำ ส่วนโถสุขภัณฑ์จะกั้นเป็นอีกห้องแยกออกมา ซึ่งสามารถเข้าได้จากห้องอาบน้ำและพื้นที่ครัว การแบ่งสเปซแบบนี้ดีตรงที่สามารถใช้งานได้พร้อมๆกัน  เท่าที่ลองเข้าไปดูในสเปซจริงจะพบว่าช่องตรงโถส้วมนั้นระยะแคบไปหน่อยค่ะ  ถ้าเป็นคนตัวใหญ่ๆนั่งอาจจะรู้สึกอึดอัดหน่อย  ประตูบานเลื่อนระหว่างห้องน้ำและห้องอาบน้ำจะค่อนข้างแคบไปหน่อยแค่ 60 ซม. เท่านั้นเอง ส่วนระเบียงกว้างประมาณ 95 ซม. ห้องนี้จะมีคอมเพรสเซอร์แอร์แขวนอยู่ตรงระเบียงเหนือศรีษะเลย ซึ่งทำได้พื้นที่ระเบียงมากว้างมากยิ่งขึ้น  โดยรวมๆการจัดฟังก์ชั่นใช้งานนั้นทำออกมาได้น่าสนใจทีเดียว  มีจุดติแค่สเปซในห้องน้ำเท่านั้น

แปลนห้องคอนโด Chewathai Resedence Bang Pho

แบบ 2 ห้องนอน (C1-C3) ขนาด 68.00-78.50 ตารางเมตร

แบบ 2 ห้องนอนจะใหญ่ขึ้นกว่าแบบ 1 ห้องนอนแบบเท่าตัวค่ะ และห้องอาบน้ำจาก Bathtub จะกลายมาเป็นอ่างแบบ Jacuzzi ค่ะ มีห้องนอน 2 ห้อง ห้องน้ำ 2 ห้องค่ะ  ส่วนที่แตกต่างกันอย่างมีนัยยะสำคัญคือพื้นที่ส่วนเตรียมอาหารและห้องน้ำค่ะ

เริ่มกันจากแบบ C1 เข้าไปจะเป็นพื้นที่ครัวซึ่งเป็นครัวแบบที่ island ให้ด้วย  ส่วนโต๊ะกินข้าวต่อเนื่องกับพื้นที่นั่งเล่นค่ะ ห้องนั่งเล่นติดระเบียง พื้นที่ครัวค่อนข้างใหญ่เลยค่ะ ถัดเข้าไปจะเป็นทางเดินแยกเข้าห้องน้ำเล็ก ห้องนอนเล็ก และห้องนอนใหญ่  ระเบียงของห้องนี้กว้างอยู่ที่ 95 ซม. และมีการเก็บความสวยงามของคอมเพรสเซอร์แอร์ไว้ที่ฝ้าด้วยค่ะ ทำให้สามารถใช้พื้นที่ระเบียงได้เต็มพื้นที่เลยค่ะ

ในห้องนอนนอนใหญ่จะมีห้องน้ำในตัว ซึ่งห้องน้ำใหญ่มาก ห้องน้ำนี้จะมีทั้งส่วนอาบน้ำแบบยื่นอาบ, อ่าง Jacuzzi และอ่างล้างหน้าแบบ His and Her ใช้งานได้พร้อมกันทั้งคุณผู้หญิงและคุณผู้ชายค่ะ  ห้อง master bedroom นั้นทำออกมาอลังการมาก  แต่ส่วนห้องนอนเล็กนั้นดูจะมีขนาดและสัดส่วนจำกัดไปหน่อยค่ะ  ถ้าจะตั้งเตียง queen size แบบในแปลนก็ดูจะแน่นเกินไป  เป็นเตียงเดียวน่าจะดีกว่านะคะ

ส่วนแบบ C2 จะเป็นแบบที่มีห้องตัวอย่างให้ค่ะ  ฟังก์ชั่นของห้องนั้นก็จะเหมือนกับแบบ C1  แต่จุดที่ดีกว่าคือได้ครัวมาใหญ่มากกกกก..  จนรู้สึกว่าบางทีใหญ่เกินไปหรือเปล่า  รวมๆแปลนสวยดีค่ะ  มีพื้นที่แนวผนังตรงส่วนรับประทานอาหารและส่วนนั่งเล่นพักผ่อนโครงการทำ built-in มาให้ตลอดแนว  ก็ช่วยเรื่องพื้นที่เก็บของได้ดี   สัดส่วนของห้องนอนเล็กนั้นดูจะหลวมๆและไม่อึดอัดเท่ากับห้องนอนเล็กของแบบ C1 นะคะ  ส่วนห้อง Master Bedroom นั้นทำออกมาค่อนข้างลงตัวอยู่แล้ว

ส่วนแปลน C3 จะต่างจาก C1, C2 ที่จะรวบห้องน้ำอยู่ติดกันไว้ด้านนึงของห้อง ห้องน้ำและครัวจะเล็กลง  ขนาดเคาน์เตอร์ pantry ต่างกับแบบ C2 มาก แต่ก็ได้ระเบียงห้องนี้ยาวกว่าเพื่อนและไม่ได้ยื่นออกไปด้านนอกตัวคอนโด  นอกจากนั้นในห้องนอนใหญ่มีส่วนที่ทำเป็น walk-in closet ได้ค่ะ  แบบ C3 นี้ฟังก์ชั่นนั้นได้มาไม่ต่างกันกับ C1 และ C2  แต่การให้ขนาดและสัดส่วนของพื้นที่ใช้งานต่างๆนั้นต่างกันมากทีเดียว  ตรงนี้ขึ้นอยู่กลับลักษณะพฤติกรรมของคนที่จะอยู่จริงหล่ะค่ะ

แปลนห้องคอนโด Chewathai Resedence Bang Pho

3 ห้องนอน (เพนท์เฮ้าส์) 95.50-117.00 ตารางเมตร

ห้อง Penthouse จะมี 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ จำนวนห้อง Penthouse ทั้งหมดจะมีอยู่แค่ 4 ห้องเท่านั้นค่ะ มี 2 แบบที่มีลักษณะต่างกันแบบ P1 ห้องจะเป็นทรงผอมยาวอยู่ทางทิศเหนือของโครงการ ส่วนห้องแบบ P2 จะอยู่ทิศตะวันตกของโครงการค่ะ

ห้องแบบ P1 เนื่องจากเป็นทรงยาวๆ ตรงกลางจะเป็นทางเดินเชื่อมเข้าห้องต่างๆค่ะ เข้าห้องไปแล้วจะเป็นบริเวณพื้นที่ครัวเป็นตัว L มี Island ตรงกลาง ถัดเข้าไปจะเป็นโต๊ะกินข้าว กับห้องนั่งเล่นติดระเบียงยาวๆ รับวิวทางแม่น้ำเจ้าพระยาค่ะ  ห้องนอน 2 ห้องจะมีห้องน้ำส่วนตัวทั้งหมด

ห้องแบบ P2 จะเป็นห้องที่ใหญ่สุดในโครงการ  ตรงกลางห้องจะเป็นพื้นที่ครัวและโต๊ะรับประทานอาหาร เชื่อมกับพื้นที่นั่งเล่นค่ะ ห้องนอนจะแบ่งเป็นสองฝั่งห้องนอนใหญ่กับเล็กสุดจะอยู่ด้วยกันใกล้ส่วนนั่งเล่นดูทีวี  อีกห้องนอนนึงอยู่ใกล้ประตูทางเข้า ระเบียงอยู่ทางทิศตะวันตกรับวิวแม่น้ำเช่นกัน  ขนาดระเบียงสั้นกว่าแบบ P1 และมีห้องเก็บของให้บริเวณทางเข้าห้อง

เปิดห้อง  มองสเปซ  :  Focus  on  “SPACE”  and  “DIMENSION”

ห้องตัวอย่างมีให้ดูแบบ 1 ห้อนอน 42.50 ตารางเมตร และ 2 ห้องนอน ขนาด 78.50 ตารางเมตร  ความสูงของสเปซระยะฝ้าเพดานในห้องทั่วๆไปสูง 2.80 เมตร ส่วนห้อง Penthouse ฝ้าจะอยู่ที่ 3 เมตรเลยค่ะ ห้องที่ได้จะเป็นแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์ Built-in ทุกชิ้น เหมือนในห้องตัวอย่างเลยค่ะ

ห้องตัวอย่างคอนโด Chewathai Residence Bang Pho

แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 42.50 ตารางเมตร

เปิดประตูเข้าห้องมาจะเจอห้องครัวที่จัดเป็นตัว L เข้ามุม ติดกับโต๊ะกินข้าว ต่อเนื่องกับห้องนั่งเล่นค่ะ โทนห้องเน้นสีขาว เฟอร์นิเจอร์ผิว High Gloss จะดูเงาๆ ไฟเป็นแบบ Down Light ค่ะ

ถัดเข้ามาเป็นห้องนั่งเล่นติดกับระเบียงค่ะ ที่ทางออกระเบียงจะทำช่องฝ้าซ่อนรางม่านไว้ให้ด้วยค่ะ  ประตูกระจกออกไปที่ระเบียงไม่ได้สูงชนฝ้านะคะ สูงแค่ประมาณ 2 เมตร ตามมาตราฐาน  เฟอร์นิเจอร์ที่เห็นในรูปจะได้โซฟา โต๊ะหน้าโซฟา ที่วางทีวี  รวมถึงโต๊ะรับประทานอาหารด้วย

มองกลับมาที่ทางเข้าห้องค่ะ จะเห็นว่าให้เฟอร์นิเจอร์ตู้มาแบบสูงติดเพดาน ทำให้ที่เก็บของเยอะพอสมควร แต่ที่เปิดอยู่สูงไปนิดค่ะ ถ้าคนสูงไม่เกิน 170 ซม. นี่ต้องเขย่งเอา เฟอร์นิเจอร์และผนังห้องเป็นสีขาวค่ะ พื้นทำจากลามิเนตหนา 12 มม.

เข้ามาดูในห้องนอนค่ะ มีพื้นที่เดินรอบเตียงได้ ทำชั้นวางทีวีเล็กๆและติดของตกแต่งที่ผนังมาให้ด้วย ชุดนี้จะได้หัวเตียง เตียง ฟูกเตียง และโต๊ะข้างเตียงค่ะ ห้องนอนนี้จะติดกระจกแบบบานเปิดกระทุ้งไว้ค่ะ กระจกจะยกสูงจากพื้นขึ้นมาประมาณ 40 ซม ไม่ได้กระจกแบบสูงถึงฝ้าเช่นเดียวกับห้องนั่งเล่นค่ะ

มองจากห้องนอนเข้าไปทางห้องแต่งตัวค่ะ ตู้เสื้อผ้าจะเป็นกระจกดำอยู่ 2 ข้าง มีกระจกสูงเต็มตัวที่ผนังที่สุดทางเดิน

เปิดประตูบานเลื่อนเข้ามาในห้องอาบน้ำจะลดระดับพื้นลงมา มีจะอ่างล้างหน้าอยู่กลางห้อง อ่างอาบน้ำชิดผนังคนละฝั่งเป็น Shower ค่ะ ซ่อนไฟสีน้ำเงินหลังกระจกไว้ด้วย

อีกด้านนึงของห้องน้ำ กระเบื้องห้องอาบน้ำเป็นสีเบจ

ที่ปลายอ่างอาบน้ำจะเป็นประตูบานเลื่อนชุดเดียวกับที่เปิดเข้าห้องนอนค่ะ  ซึ่งผ่านห้องน้ำออกไปจะไปออกพื้นที่ห้องครัว  ทะลุถึงกันได้หมดค่ะ

มุมมองจากส่วน pantry เข้ามาในห้องน้ำ  สามารถเข้าห้องน้ำได้จากทางครัวและห้องนั่งเล่นได้สะดวกดีค่ะไม่ต้องอ้อมเข้าทางห้องนอน  การแบ่งฟังก์ชั่นนั้นน่าสนใจ  ทำให้สามารถใช้งานได้พร้อมกันทั้ง 2 คน  แต่ช่องตรงโถสุขภัณฑ์นี้แคบไปหน่อยอย่างที่บอกค่ะ  ที่แขวนทิชชู่เลยต้องมาติดอยู่ข้างอ่างล้างหน้าแทน  ประตูที่เข้าห้องอาบน้ำกว้างแค่ 60 ซม.

กลับมาที่ห้องนั่งเล่นอีกรอบค่ะ โครงการนี้ให้วอลเปเปอร์ด้วยนะคะ แต่เป็นสีขาวไม่ใช่สีเดียวกับห้องตัวอย่างค่ะ

มุมมองจากโซฟานั่งเล่นค่ะ

ห้องตัวอย่างคอนโด Chewathai Residence Bang Pho

แบบ 2 ห้องนอนขนาด 78.50 ตารางเมตร

สำหรับห้องนี้เปิดเข้ามาก็เป็นส่วนของส่วนครัวและโต๊ะทานข้าวเหมือนกัน   ถัดไปเป็นห้องนั่งเล่นค่ะ

มองกลับออกมาหน้าห้องค่ะ มีสเปซพอสำหรับตั้งโต๊ะรับประทานอาหารลอยตัวตรงกลาง

ถัดจากส่วน pantry ครัวเข้าไปจะเป็นทางเดิน ไปยังห้องนอนและห้องน้ำ

ห้องนอนเล็กค่ะ  ห้องนี้ใส่เตียงคู่แล้วจะต้องวางชิดริมหน้าต่างเลยค่ะ  ส่วนปลายเตียงที่ติดกับทีวีก็พอเดินได้ค่ะ

ไม่มีโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งนะคะ แค่นี้ก็เต็มห้องแล้ว

ห้องน้ำเล็กที่อยู่ตรงข้ามกับห้องนอนเล็กค่ะ  กันพื้นที่ส่วนเปียกกับส่วนแห้งให้ชัดเจน

ห้องนอนใหญ่ค่ะ มีโต๊ะทำงานมาให้ด้วย พื้นที่ห้องนี้กว้างขวางค่ะ

ตู้เสื้อผ้าในห้องนอนใหญ่ค่ะ หน้าบานเป็นกระจก ซ่อนไฟข้างใน สวยงามดี

มองไปที่ปลายเตียงค่ะ  มีเฟอร์นิเจอร์โต๊ะเตรียมไว้ให้วางของ โต๊ะทำงานจะหันเข้าหาห้องน้ำ มีกระจกฝ้าด้วย เห็นเงาแฟนในห้องน้ำเบาๆค่ะ

เข้ามาดูในห้องน้ำ  จะเป็นอ่าง Jacuzzi ติดระจกเข้ามุม  เห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาค่ะ ติดๆกันคือห้องอาบน้ำฝักบัว  มีชั้นวางของตกแต่งให้

อ่างล้างหน้าแบบ His and Her ค่ะ เก็บของไว้ที่ตู้ใต้อ่างได้

จากห้องนอนใหญ่มองออกไปที่ห้องครัวค่ะ

นั่งเล่นที่โซฟาดูค่ะ

ระเบียงจะกว้างพอสมควรค่ะ ส่วนด้านบนของระเบียงจะทำเป็นส่วนเก็บคอมเพรสเซอร์แอร์ โดยมีเหล็กตะแกรงปิดอำพรางสายตาไว้ให้สวยงามค่ะ ทำให้พื้นที่ตรงนี้ดูเป็นระเบียบดี

เปิดห้อง  ส่องวัสดุ  :  Focus  on  “MATERIALS”

วัสดุในภาพรวมก็ให้มาค่อนข้างดีค่ะ มาแบบ Fully Furnished  เฟอร์นิเจอร์หลายทำมาเฉพาะโครงการนี้โดยเฉพาะ  คุมโทนสีของวัสดุที่มากับห้องได้ดี  ชุด pantry ครัวทางโครงการออกแบบและเลือกวัสดุเองและให้ Starmark เป็นผู้ผลิตค่ะ

ซึ่งแน่นอนว่าการวางราคาเฉลี่ยเอาไว้สูงกว่าคอนโดใกล้เคียงอย่างคอนโด 333 Riverside ที่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาของทาง Land and Houses นั้นทำให้ ชีวาทัยเลยเลือกจัดวัสดุในห้องมาเต็มที่เพื่อขึ้นไปสู้กับคอนโด 333 Riverside  ให้เป็นตัวเลือกเพื่อให้ผู้ซื้อเปรียบเทียบกันได้

อยู่สบายแบ่งรีวิววัสดุออกเป็น 3 ส่วน  คือ  วัสดุครัวและส่วนเตรียมอาหาร(pantry) , วัสดุห้องน้ำ , วัสดุทั่วไปและวัสดุปิดผิวภายในห้อง(Finishing Materials)  เพื่อให้ส่องกันง่ายๆเช่นเคยค่ะ

วัสดุห้องครัว / ส่วนเตรียมอาหาร (pantry)

ชุดห้องครัวของห้องแบบ 1 ห้องนอนค่ะ จะมีตู้ลอยติดผนัง ทำผิวแบบ Hi-Gloss  มันเงาค่ะ ซึ่งผิวของหน้าบานตู้ตรงนี้ทำได้ดีค่ะ แต่ชั้นข้างในเป็นพาทิเคิลบอร์ดทาสีธรรมดา

เปิดตู้ให้ดูพื้นที่เก็บของค่ะ เก็บของกันได้มากพอสมควร  ลิ้นชักแบบ Soft Closed ค่ะ

ครัวของห้องแบบ 2 ห้องนอน (C2) จะยาวและใหญ่มาก  มีเปลี่ยนวัสดุเคาน์เตอร์กับหน้าบานตู้ด้านล่างค่ะ

ได้เตาอบกัลไมโครเวฟทั้งสองนี้ไปด้วย ตู้เย็นไม่ได้ แต่ช่องสำหรับวางตู้เย็นใหญ่พอสมควรนะคะ ทั้งแบบ 1 ห้องนอนและ 2 ห้องนอนค่ะ

แบบ 1 ห้องนอนจะมีอ่างล้างจานมาให้ 1 หลุมค่ะ เป็นของยี่ห้อ Teka ค่ะ แข็งแรงไม่ง่อนแง่นค่ะ

ส่วนแบบ 2 ห้องนอนจะได้อ่างล้างจาน 2 หลุมค่ะ

1 ห้อนอนจะได้เตาไฟฟ้าจะมีให้ 2 หัวของยี่ห้อ Teka ค่ะ

2 ห้องจะได้  4 หัว ครัวใหญ่แบบนี้ทำอาหารจริงจังได้เลยค่ะ

ฮูดดูดควันของ Teka ตอนทำอาหารค่ะ

ตู้เก็บของใต้อ่างล้างจานเป็นถังขยะที่ติดกับฝาเปิดมาค่ะ  ตัวถังขยะนั้นใหญ่กว่าขนาดหน้าบาน  ถ้าเปิดทางขวาด้านเดียวขอบถึงขยะจะไปชนบานประตูด้านซ้าย เวลาใช้งานเลยต้องเปิดทั้ง 2 บาน โดยเปิดบานซ้ายก่อนบานขวา  จะได้ไม่กระแทกกันค่ะ

โต๊ะทานข้าวในห้อง 1 ห้องนอนจะเป็นสีขาว ปิดทึบด้านข้างค่ะ จัดที่นั่งไว้สำหรับ 2 คนค่ะ

ส่วน 2 ห้องนอนโต๊ะจะเป็น Top หินเทียม ทำผิวเป็นลายหินอ่อน  ด้านข้างทึบเช่นกันค่ะ  ปิดผิวด้วยลามิเนต

ให้ดูผิววัสดุของเคาน์เตอร์ครัว (แบบ 2 ห้องนอน) กันใกล้ๆ Top ทำจากหินเทียม  ผิวเป็นลายหินอ่อนค่ะ  หน้าบานเป็นลามิเนต  มีเก็บงานปิดรอยต่อด้วยสเตนเลสสีทอง  ดูเรียบร้อยหรูดี

วัสดุห้องน้ำ

วัสดุพื้นในห้องเป็นลามิเนตหนา 12 มม. ค่ะ  ในห้องน้ำเป็นพื้นกระเบื้องแผ่นใหญ่ สีดำผิวด้านค่ะ

ประตูบานเลื่อนกั้นระหว่างห้องส้วมกับห้องอาบน้ำจะมีขอบประตูบานเลื่อนที่พื้นนะคะ

อ่างอาบน้ำ Jacuzzi สีขาวของห้องแบบ 2 ห้องนอนค่ะ เป็นของยี่ห้อ Cotto ค่ะ

ส่วนอาบน้ำค่ะ พื้นตรงกลางผิวด้านกันลื่น กั้นแยกส่วนเปียกส่วนแห้งด้วยประตูกระจก

อ่างล้างหน้าใหญ่ค่ะ เป็นสีขาว มีซ่อนไฟอยู่ข้างหลังด้วยค่ะ ไฟสีน้ำเงินนั้นดูจะหลุดธีมและบรรยากาศโดยรวมของห้องไปหน่อย  ถ้าไม่ชอบก็เปลี่ยนหลอดไปเอาก็จบค่ะ  ข้อสังเกตอย่างนึงคือตรงนี้ไม่มีปลั๊กไฟให้  ถ้าจะใช้ไดรเป่าผมให้ห้องน้ำทำไม่ได้นะคะ

ที่เก็บของใต้อ่างล้างหน้าค่ะ เก็บได้เยอะอยู่

ตู้เก็บของข้างๆอ่างล้างหน้าค่ะ ผอมสูงเก็บขวดอะไรแบบนี้ได้ดี

ฝักบัวแบบ Rain Shower ค่ะ ท่าจะอาบน้ำมันดีค่ะ

ที่แขวนผ้า

โถสุขภัณฑ์จากยี่ห้อ Cristina

อ่างล้างหน้าผอมๆค่ะ เนื่องจากที่แคบ

ที่อ่างหน้าหน้ามี ชั้นวางของให้ด้วย แต่งด้านหลังด้วยกระเบื้องโมเสคค่ะ

มือจับบานเปิดกระจกในห้องน้ำเป็นสแตนเลส  ดูมั่นคงแข็งแรงดีค่ะ

วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (finishing)

ประตูเข้าห้องเป็นสีน้ำตาลลายไม้ค่ะ

Digital Door Lock ของยี่ห้อ Yale ค่ะ

ตู้เก็บของส่วนใหญ่ในห้องหน้าบานจะเป็นผิว Hi-Gloss สีเทา บางส่วนเป็นบานกระจกแบบในรูปค่ะ

ทำใช้ไว้ให้เก็บรองเท้าด้วยค่ะ จุได้เยอะทีเดียว ส่วนชั้นบนนั้นเอื้อมเปิดประตูได้แต่เอื้อมหยิบของไม่ถึงค่ะ

โซฟาสีขาวค่ะ

โต๊ะกลางที่ห้องนั่งเล่น

ชุดวางทีวีติดผนังจะมีในทุกห้องนอนค่ะ

พวกตู้เสื้อผ้าในทุกห้องจะเป็นกระจกสีดำ มีไฟอยู่ในตู้แต่ไม่ได้เปิดปิดอัตโนมัติเมื่อเปิดตู้นะคะ  ต้องกดเปิดปิดสวิตซ์เอง  บานด้านบนจะต้องเอื้อมหน่อย

ชั้นวางของทำจากกระจก ตรงนี้เป็นชั้นที่อยู่ข้างๆตู้เสื้อผ้าค่ะ

ด้านล่างของตู้เสื้อผ้าฝั่งนึง ยกสูงสามารถเก็บกระเป๋าเดินไว้ได้เลย

แต่จากการทำด้านล่างของตู้เอาไว้ให้เก็บกระเป๋าเดินทางได้  ทำให้ระดับของราวแขวนผ้าสูงกว่าปกติค่ะ  เวลาหยิบเสื้อถ้าเป็นคนตัวไม่สูงมาก  อาจจะรู้สึกแปลกๆกับสเกลการใช้งานในช่วงแรก  สักพักคงชิน

ที่เก็บของเหนือที่แขวนเสื้อผ้าค่ะ

หัวเตียงบุผ้าค่ะ

โต๊ะข้างเตียงในห้องนอน มีลิ้นชักให้ 2 ด้านค่ะ แต่เปิดยากไม่ค่อยลื่นเท่าไหร่  ผิววัสดุดี

โต๊ะทำงานในห้องนอนใหญ่ อยู่หน้ากระจกฝ้า แบบห้อง 2 ห้องนอนค่ะ

ชั้นวางทีวีที่ห้องนั่งเล่น มีแนวไฟเหนือทีวีให้ด้วย

ที่ผนังจะเก็บขอบบัวเชิงผนังดูเรียบร้อยดีค่ะ

ซ้อนไฟ LED ให้ค่ะ หลังทีวีมีบุวัสดุคล้ายหนังสีขาวดูหรูหราดี

สวิทช์ไฟในห้อง

พื้นระเบียงเป็นกระเบื้องสีเทาเข้ม ผิวด้านค่ะ

ชั้นวางของเหนือทีวี เป็นกล่องยาวๆไปตลอดแนวค่ะ  ติดสูงไปนิดนึงนะคะ

หน้าต่างจะเป็นอลูมิเนียมสีดำ บานกระทุ้งแบบนี้จะมีทุกห้องนอนค่ะ

ตะแกรงเหล็กปิดคอมเพรสเซอร์แอร์ของห้องแบบ 2 ห้องนอนที่ระเบียงค่ะ

ระเบียงเป็นเหล็กกล่องทาสีดำค่ะ

เปิดกระเป๋า  ดูสตางค์

ราคาเริ่มต้นวันที่แวะเข้าไปทำรีวิว (2 กันยายน 2558) ราคา Pre-sale แบบ 1 ห้องนอนนั้นเริ่มที่ 3.90 ล้านบาทค่ะ  ราคาเฉลี่ยของแบบ 1 ห้องนอนเริ่มต้นประมาณ 117,500  บาทต่อตารางเมตร  ถ้าเทียบกันในชั้นเดียวกันแล้ว  ราคาเฉลี่ยของห้องที่หันเข้าหาแม่น้ำเจ้าพระยาทางทิศตะวันตกจะแพงสุด (2 ห้องนอน) รองลงมาก็เป็นฝั่งที่เห็นวิวของรัฐสภาแห่งใหม่มองไปทางเกียกกาย  ส่วนฝั่งที่เหลือก็จะราคาถูกกว่าค่ะ

โครงการจะเปิดงาน Pre-Sale ในวันที่ 26-27 กันยายนนี้  โดยจัดโปรแถม iPhone 6S  ค่ะ

ราคา ณ วันที่ 2 กันยายน 2558

ราคาเริ่มต้น :

1 ห้องนอน พื้นที่ 33.50 ตร.ม. ชั้น 7 ราคาเริ่มต้น 3,936,000 บาท เฉลี่ย 117,500 บาท/ตร.ม.

1 ห้องนอน พื้นที่ 42.50 ตร.ม. ชั้น 7 ราคาเริ่มต้น 4,993,750 บาท เฉลี่ย 117,500 บาท/ตร.ม

2 ห้องนอน พื้นที่ 68.00 ตร.ม. ชั้น 7 ราคาเริ่มต้น 9,106,250 บาท เฉลี่ย 133,915 บาท/ตร.ม

*ยกตัวอย่างห้องที่ราคาต่ำสุดในโครงการ ณ วันรีวิว

เงื่อนไขการจอง :

• เงินจอง

1 ห้องนอน (33.50-49.00 ตร.ม.)  จอง 30,000 บาท / ทำสัญญา 70,000 บาท

2 ห้องนอน (68-78.5 ตร.ม.) จอง 50,000 , สัญญา 150,000 บาท

3 ห้องนอน (95.5, 117 ตร.ม.) จอง 50,000 , สัญญา 150,000 บาท

• ผ่อนดาวน์

1 ห้องนอน (33.50-49.00 ตร.ม.) งวดละ N/A บาท

2 ห้องนอน (68-78.5 ตร.ม.) งวดละ N/A บาท

3 ห้องนอน (95.5, 117 ตร.ม.) งวดละ N/A บาท

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :

ค่าส่วนกลาง  50  บาท/ตร.ม.  (ชำระล่วงหน้า 1  ปี)
ค่ากองทุนเริ่มแรก (Sinking Fund)  500 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)

ประมาณอัตราการผ่อน (คิดจากราคาเริ่มต้นด้านบน) 

(เพื่อให้เห็นกรอบของค่าใช้จ่ายคร่าวๆและนำไปวางแผนประมาณการของแต่ละคน  ถึงไม่ได้ซื้อห้องที่ยกมาเป็นตัวอย่างก็ใช้ตัวเลขได้ ซึ่งผมประมาณการอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าปกติหน่อย  เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรองรับความสามาารถในการผ่อน  รวมถึงให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆที่เกิดขึ้น  เช่น  ค่าส่วนกลาง ไปด้วยในตัว) :

บนสมมติฐาน กู้  95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 30 ปี

1 ห้องนอน พื้นที่ 33.50 ตร.ม. ชั้น 7 ราคาเริ่มต้น 3,936,000 บาท ผ่อนประมาณ 25,893 บาท/เดือน

1 ห้องนอน พื้นที่ 42.50 ตร.ม. ชั้น 7 ราคาเริ่มต้น 4,993,750 บาท ผ่อนประมาณ 32,965 บาท/เดือน

2 ห้องนอน พื้นที่ 68.00 ตร.ม. ชั้น 7 ราคาเริ่มต้น 9,106,250 บาท  ผ่อนประมาณ 60,113 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 25 ปี

1 ห้องนอน พื้นที่ 33.50 ตร.ม. ชั้น 7 ราคาเริ่มต้น 3,936,000 บาท ผ่อนประมาณ 27,460 บาท/เดือน

1 ห้องนอน พื้นที่ 42.50 ตร.ม. ชั้น 7 ราคาเริ่มต้น 4,993,750 บาท ผ่อนประมาณ 34,840 บาท/เดือน

2 ห้องนอน พื้นที่ 68.00 ตร.ม. ชั้น 7 ราคาเริ่มต้น 9,106,250 บาท  ผ่อนประมาณ 63,533 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 20 ปี

1 ห้องนอน พื้นที่ 33.50 ตร.ม. ชั้น 7 ราคาเริ่มต้น 3,936,000 บาท ผ่อนประมาณ 29,935 บาท/เดือน

1 ห้องนอน พื้นที่ 42.50 ตร.ม. ชั้น 7 ราคาเริ่มต้น 4,993,750 บาท ผ่อนประมาณ 37,980 บาท/เดือน

2 ห้องนอน พื้นที่ 68.00 ตร.ม. ชั้น 7 ราคาเริ่มต้น 9,106,250 บาท ผ่อนประมาณ 69,258 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 15 ปี

1 ห้องนอน พื้นที่ 33.50 ตร.ม. ชั้น 7 ราคาเริ่มต้น 3,936,000 บาท ผ่อนประมาณ 34,447 บาท/เดือน

1 ห้องนอน พื้นที่ 42.50 ตร.ม. ชั้น 7 ราคาเริ่มต้น 4,993,750 บาท ผ่อนประมาณ 43,704 บาท/เดือน

2 ห้องนอน พื้นที่ 68.00 ตร.ม. ชั้น 7 ราคาเริ่มต้น 9,106,250 บาท ผ่อนประมาณ 79,697 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 10 ปี

1 ห้องนอน พื้นที่ 33.50 ตร.ม. ชั้น 7 ราคาเริ่มต้น 3,936,000 บาท ผ่อนประมาณ 44,109 บาท/เดือน

1 ห้องนอน พื้นที่ 42.50 ตร.ม. ชั้น 7 ราคาเริ่มต้น 4,993,750 บาท ผ่อนประมาณ 55,963 บาท/เดือน

2 ห้องนอน พื้นที่ 68.00 ตร.ม. ชั้น 7 ราคาเริ่มต้น 9,106,250 บาท ผ่อนประมาณ 102,050 บาท/เดือน

Overview Summary

ด้านการเดินทาง

การเดินทางถ้าขับรถเองก็ค่อนข้างสะดวกเพราะโครงการอยู่ติดถนนใหญ่ ไม่ต้องขับรถเข้าซอยอะไรอีก และเนื่องจากตำแหน่งโครงการใกล้แยกบางโพซึ่งเป็นจุดตัดของถนนสองสาย คือประชาราษฎร์สาย 2 และประชาราษฎร์สาย 1 ทำให้จากคอนโดมีทางเลือกไปได้หลายทางค่ะ จะใช้ประชาราษฎร์สาย 2 ไปทางบางซื่อ หรือแยกไปออกถนนกรุงเทพ-นนทบุรีและเลี้ยวเข้ารัชดาภิเษกตรงแยกวงศ์สว่างได้  ถนนประชาราษฎร์สาย 1 ก็สามารถใช้ไปออกสะพานพระราม 7 ได้ หรือในทางกลับกันไปแยกเกียกกาย ถนนทหาร ถนนสามเสนก็ได้ค่ะ

หลังจากรถไฟฟ้สายสีน้ำเงินเปิดใช้ช่วงปี 2560 ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าคงจะสะดวกมาก เพราะว่าคอนโดชีวาทัย เรสซิเดนซ์ บางโพ ใกล้สถานีรถไฟฟ้าบางโพแค่ 80 เมตร เดินประมาณ 1 นาทีเองค่ะ สามารถใช้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินนี้วนเป็น loop ไปรอบกรุงเทพฯได้เลยค่ะ นอกจากนี้ยังห่างจากสถานีเตาปูนที่เป็น Interchange Station สถานีเดียว  ซึ่งสามารถเปลี่ยนไปสายสีม่วงซึ่งออกไปรถไฟฟ้าสายสีม่วงนี้วิ่งไปจนถึงบางใหญ่ได้ค่ะ  และ 2 สถานีก็จะถึง Hub รถไฟบางซื่อ-จตุจักร ที่สำคัญในอนาคต คือเป็นจุดรวมของรถระบบรางทั้งหมด ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าจะเสร็จจริงเมื่อไหร่ แต่ที่แน่ๆคือสายสีม่วงจะเปิดใช้ปี 2558 นี้แล้วค่ะ

ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต

ถ้ามองในภาพรวมของพื้นที่ในโซนบางโพนี้ เรียกได้ว่ากำลังเจริญเลยค่ะ เพราะเดิมเป็นย่านที่อยู่อาศัย ขายไม้ ไม่ค่อยมีอาคารสูง แต่ตอนนี้กำลังเป็นโซนที่ที่มีคอนโดใหม่สร้างขึ้นเยอะมากเพราะโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสายสีม่วงที่มาสร้างนี่แหละค่ะ นอกจากนี้โครงการใหญ่ๆที่มีแผนจะสร้างใกล้ๆก็มี รัฐสภาใหม่ ที่แยกเกียกกาย  โครงการนี้ทำให้พื้นที่รอบๆไม่สามารถสร้างตึกสูงได้ตามกฎหมายค่ะ ดังนั้นโปรเจ็คอย่างพวกศูนยืการค้าหรือคอนโดก็คงจะมาอยู่แถวๆ แนวรถไฟฟ้านี่แหละ ส่วนโครงการสร้างสะพานเกียกกายข้ามแม่น้ำเจ้ายาก็จะทำให้การเดินทางไปฝั่งจรัญสนิทวงศ์สะดวกขึ้น  ไม่ต้องไปวนอ้อมถึงพระราม 7  รองรับการเข้ามาใช้งานของคนในพื้นที่ได้มากขึ้นค่ะ และโปรเจค Hub รถไฟที่บางซื่อ-จตุจักรจะช่วยให้การเดินทางไปไหนมาไหนสะดวกขึ้นไปอีกค่ะ

ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ

ลักษณะการวางตัวของคอนโดก็เป็นตัว L ตามรูปที่ดิน รูปแบบก็เป็นอาคารโมเดิร์นใช้โทนสีขาวและเทา  พยายามสร้างแพทเทริ์นบนตัวอาคารโดยใช้จังหวะของรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าสลับสีทั้งขาว เทาอ่อน และเทาเข้ม  ด้านล่างตรงทางเข้าใช้สีน้ำตาลและสีทองกุหลาบ (Rose Gold) ซึ่งเป็นสีของโครงการ  อิมเมจของคอนโดเลยจะออกมาในแนวผู้ใหญ่ค่ะ ตัวอาคารก็ดูจะตรงไปตรงมา  ดีไซน์ที่น่าตื่นเต้นหน่อยก็ตรงที่สระว่ายน้ำบนดาดฟ้าที่ยื่นออกมาจากตัวคอนโด ด้านข้างเป็นผนังกระจก  ห้องแบบ 2 ห้องนอนซึ่งราคาสูงกว่าจะวางเน้นรับวิวสวยๆจากทางแม่น้ำเจ้าพระยาด้านทิศตะวันตกค่ะ  ไม่ได้แคร์เรื่องความร้อนของแดดที่สาดเข้ามาเท่าไหร่

ด้านการวางแปลนนั้นจัดมาได้ดีทีเดียวค่ะ เพราะเนื่องจากห้องขนาดเล็กสุดก็เริ่มที่ 33 ตารางเมตรแล้ว  ขนาดของสเปซที่ไม่เล็กจนเกินไปทำให้จัดฟังก์ชั่นได้ง่าย  มีพื้นที่เหมาะสมค่ะ ดูใช้อาศัยอยู่ได้แบบสบายๆไม่อึดอัด ถือว่าเป็นการทำตลาดที่ขึ้นไปแข่งกับตลาดบนในย่านนี้อย่าง 333 Riverside และจับกลุ่มลูกค้าคนละกลุ่มกับคอนโด The Tree Interchange ของทางพฤกษา ที่ใกล้จะสร้างเสร็จในอีกไม่กี่เดือนแล้วอย่างชัดเจน  ฝ้าเพดานก็ให้มาสูงที่ 2.8 เมตร

แปลนห้องขนาดเริ่มต้นที่ 33.50 ตารางเมตร นั้นเป็นสูตรสำเร็จทั่วไปของคอนโดพื้นที่ประมาณ 30 ตารางเมตรในตลาด  แบ่งพื้นที่ได้โอเคดี  ส่วนห้อง B1 นั้นจัดฟังก์ชั่นออกมาได้น่าสนใจค่ะ  สเปซและพื้นที่ใช้งานต่างๆครบ  ส่วนแบบ 2 ห้องนอน นั้นจัดห้องนอนใหญ่ Master Bedroom และห้องน้ำในห้องนอนใหญ่มาได้ดี  ในห้องน้ำมีอ่างล้างหน้าแบบ His and Her แบบเดียวกับโรงแรมหรูๆ พร้อมจากุชชี  แต่สัดส่วนของห้องนอนเล็กนั้นค่อนข้างแคบไปค่ะ  ถ้าแบ่งสเปซส่วนอื่นมาได้อีกสักนิดก็ไม่น่าจะทำให้สเปซหลักรู้สึกแคบลง  แต่จะใช้งานห้องเล็กได้ดีขึ้น  ตอนนี้มีแค่ห้องนอนเล็กที่ดูแคบไปหน่อย

ด้านวัสดุนั้นให้มาดีทีเดียวในภาพรวมค่ะ ได้ Fully Furnished ด้วยผิวสัมผัสภายนอกของวัสดุที่ดี ดูแพง  แม้ว่าด้านในตู้อาจจะธรรมดาไปบ้าง  แต่ภาพรวมก็ยังดูดีอยู่มากทีเดียว  สีของพื้นในห้องแบบ 1 ห้องนอนจะเป็นสีน้ำตาลอ่อนเพื่อความห้องจะได้ดูกว้างขึ้น ส่วนห้องแบบ 2 ห้องนอนจะเป็นสีน้ำตาลเข้มขึ้นค่ะ เกรดของวัสดุพื้นก็ดีค่ะ ให้เป็นพื้นลามิเนตแบบหนา 12 มม. มีการทำ Built-in ตู้เก็บของต่างๆมาให้เยอะ ยกเว้นห้องเล็กสุด 33.50 ตารางเมตร  รวมๆแล้วเลือกเฟอร์นิเจอร์พร้อมคุมโทนสีได้ดี  จุดที่ดูจะหลุดไปก็คือไฟสีน้ำเงินที่อยู่ในห้องน้ำค่ะ  เปลี่ยนเป็นไฟเหลืองน่าจะดูหรูหรากว่านี้

สำหรับพื้นที่ส่วนกลางส่วนใหญ่จะอยู่ที่ชั้นดาดฟ้าและชั้นลอย  มีสระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, Sauna และ Business Lounge  ตัวฟิตเนสนั้นจะหันหน้าได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยาเต็มๆ ดีไซน์เปิดมุมมองด้วยกระจกบานใหญ่เต็มบาน  จากที่เคยขึ้นไปลองเทียบดูจากวิวคอนโดใกล้เคียงในระดับเดียวกันอย่าง The Tree Bang Po ก็สวยดีทีเดียวค่ะ  สัดส่วนการใช้งานของลิฟต์นั้นอยู่ที่ 86 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว ถือว่าความหนาแน่นต่ำในระดับดีมากค่ะ  การมีที่จอดรถให้ 80% (รวมจอดซ้อนคัน) ด้วยระดับราคานี้ก็ถือว่าดีมากเช่นกันค่ะ

ด้านตัวเลือกอื่นๆ

ในบรรดาคอนโดย่านนี้ทั้งหมด  ชีวาทัย เรสซิเดนซ์ บางโพ เป็นโครงการที่มีจำนวนยูนิตและความหนาแน่นน้อยที่สุดแล้ว  ไล่มาตั้งแต่สถานีเตาปูนจนถึงสถานีบางโพนี้มีอยู่หลายโครงการเลยทีเดียว  มี Chewathai Interchange และ Rich Park 2 ที่อยู่ติดสถานีเตาปูน  ช่วงระหว่างสถานีเตาปูนกับสถานีบางโพก็มี The Stage และ The Tree Interchange ส่วนตรงสถานีก็มีตัว Chewathai Residence Bang Pho นี้เองด้วยกับ 333 Riverside ค่ะ  คู่แข่งโดยตรงก็คงเป็น 333 Riverside นั่นเอง

Score Summary

สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยค่ะ  (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนคอนโดมิเนียมที่นี่)

และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่  https://www.facebook.com/Yusabuy

ทุกท่านสามารถสนับสนุนให้อยู่สบายสามารถทำรีวิวออกมาได้เรื่อยๆค่ะ  เพียงแค่เวลาไปดูโครงการบ้านและคอนโดที่ต่างๆ  เพียงช่วยระบุในแบบสอบถามของโครงการว่า ”อยู่สบาย.com” เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ท่านติดตามอ่านอยู่  เวลาทางทีมงานขออนุญาตโครงการต่างๆเข้าไปทำรีวิวจะได้ทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นค่ะ  (^_____^)

ถ้าหากว่ารีวิวของเรามีประโยชน์  ช่วยกด Like ด้านล่างสำหรับกำลังใจในการทำรีวิวของทีมงานด้วยนะคะ