รัฐออก 3 มาตราการกระตุ้นอสังหาฯ : สนับสนุนทางการเงิน, ลดค่าธรรมเนียมโอน, ยกเว้นภาษีเงินได้
· ~ 1 min readหลังจากช่วงที่ผ่านมา ตลาดอสังหาริมทรัพย์สำหรับระดับกลางและระดับล่างได้ชลอตัวลงพอสมควร วันนี้ (13 ตุลาคม 2558) คณะรัฐมนตรีก็ได้มีมติเห็นชอบกับมาตราการกระตุุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่เสนอโดยกระทรวงการคลัง โดยมีมาตราการ 3 ข้อหลักๆ คือ
1. มาตราการสนับสนุนทางการเงินแก่ผู้มีรายได้น้อยและรายได้ปานกลาง ที่มีรายได้สุทธิไม่เกิน 30,000 บาทต่อเดือน ให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ผ่านทางการกู้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัยกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) โดยในเบื้องต้นมีวงเงิน 10,000 ล้าน และทางธนาคารอาคารสงเคราห์สามารถขยายเพิ่มวงเงินได้ตามความเหมาะสม โดยมีกำหนดระยะเวลายื่นคำขอและดำเนินการนาน 1 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม 2558 ทั้งนี้กรอบระยะเวลาในการกู้เงินจะต้องไม่เกิน 30 ปี
2. มาตราการการลดค่าธรรมเนียมโอน อย่างที่ทราบกันดีว่าปัจจุบันนั้นค่าธรรมเนียมโอนในการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์จะอยู่ที่ 2% จะลดเหลือ 0.01% และลดค่าธรรมเนียมการจดจำนองจากปัจจุบัน 1% เหลือ 0.01% แต่ไม่เกิน 200,000 บาท เป็นระยะเวลา 6 เดือน โดยไม่จำกัดราคาของบ้านและคอนโดที่ซื้อขาย
3. มาตราการการ ลด/ยกเว้น ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับการซื้อห้องชุดหรืออาคารพร้อมที่ดินที่มีมูลค่าไม่เกิน 3 ล้านบาท ที่มีจุดประสงค์เพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของตัวเองและใช้ชื่อตัวเองเป็นเจ้าของ โดยต้องถือกรรมสิทธิ์ติดต่อกันอย่างน้อย 5 ปี และต้องไม่เคยเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์อื่นมาก่อน ซึ่งจะได้ลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นจำนวน 20% ของมูลค่าอสังหาฯ ในรอบระยะเวลา 5 ปี โดยให้แบ่งใช้สิทธิจำนวนเฉลี่ยเท่ากันทุกปีในแต่ละปีภาษี โดยจะต้องเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนและโอนกรรมสิทธิ์นับตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ จนถึงสิ้นปีหน้า (31 ธันวาคม 2559)
โดยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ยอมรับว่ามาตราการดังกล่าว โดยเฉพาะมาตราการลดค่าธรรมเนียมโอนจาก 0.2% เป็น 0.01% และลดค่าจดจำนองจาก 1% เป็น 0.01% จะทำให้การจัดเก็บภาษีของภาครัฐมีรายได้ลดลงประมาณ 15,000 ล้านบาทต่อปี แต่เชื่อว่าในอนาคตจะทำให้รายได้จากภาษีกลับเข้ามามากกว่าที่เสียไปเมื่อเศรษฐกิจดีขึ้น
นอกจากนี้แล้วคณะรัฐมนตรียังมีมติเห็นชอบกับมาตราการภาษีเพื่อสนับสนุนกิจการ Venture Capital รวมถึงอนุมัติร่างหลักการพระราชกฤษฎีกา กำหนดสิทธิประโยชน์การลดภาษีนิติบุคคลและยกเว้นภาษีสำหรับเงินปันผลที่ได้รับจากกิจการ Venture Capital เป็นระยะเวลา 10 ปี โดยจะต้องเป็นนิติบุคคลที่จดทะเบียนภายใต้กฎหมายไทย ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยกิจการเป้าหมายตามประเภทอุตสาหกรรมที่ สวทช. กำหนดคือ
- อุตสาหกรรมอาหารและการเกษตร
- อุตสาหกรรมเพื่อประหยัดพลังงาน ผลิตพลังงานทดแทนและพลังงานสะอาด
- อุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพ
- อุตสาหกรรมการแพทย์และสาธารณสุข
- อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
- อุตสาหกรรมบริการและอุตสาหกรรมเศรษฐกิจสร้างสรรค์
- อุตสาหกรรมวัสดุก้าวหน้า
- อุตสาหกรรมสิ่งทอ เครื่องนุ่งห่มและเครื่องประดับ
- อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน
- อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์
- อุตสาหกรรมฐานการวิจัย พัฒนาและนวัตกรรม
-
Pingback: พฤกษาออกโปร Best Buy Moment จัดหนักรับมาตราการกระตุ้นอสังหาฯ พบโปรกว่า 175 โครงการ เริ่ม 1 มีนาคม นี้ | ร
-
Pingback: เจาะลึกตัวเลขงบการเงินไตรมาส 3 ปี 2558 ของ 15 อันดับบริษัทอสังหาที่รายได้ดี กำไรงาม | รีวิวคอนโด