สวัสดีค่ะ  รีวิวนี้พามาชมคอนโด The Urban Attitude Bearing 14 ของเป็นคอนโด Low-rise 8 ชั้นจาก Urban Property อยู่ในซอยแบริ่ง 14 บนถนนสุขุมวิท 107 ส่วนสถานีรถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุด คือ BTS สถานีแบริ่ง ค่ะ The Urban Attitude แบริ่ง 14 เป็นคอนโดราคาประหยัดหยิบจับง่าย และให้เฟอร์นิเจอร์มาแบบ Fully furnished ส่วนจะมีรายละเอียดยังไงนั้น YuSabuy เอามาให้ชมกันอย่างละเอียดเช่นเคยค่ะ

เริ่มจากข้อมูลเบื้องต้นของโครงการกันก่อน

The Urban Attitude Bearing 14  

(ดิ เออร์แบน แอททิจูด แบริ่ง 14)

• เจ้าของโครงการ >>> The Urban Property Co.,Ltd
• ที่ตั้งโครงการ >>>  ซอยแบริ่ง 14 บนถนนสุขุมวิท 107 หรือซอยแบริ่ง
• ขนาดที่ดิน >>>  0-3-62 ไร่
• จำนวนชั้น >>> 8 ชั้น
• จำนวนอาคาร >>>  1 อาคาร
• ประเภทห้องและขนาดห้อง >>>
  • 1 ห้องนอน  25.57-34.60 ตารางเมตร
  • 2 ห้องนอน 49.95-51.56 ตารางเมตร
• จำนวนยูนิต >>>  137  ยูนิต
• ที่จอดรถ >>> ประมาณ 35% (รวมจอดซ้อนคัน)
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> 1.49 ล้านบาท (21 ตุลาคม 2558)
  • Update 30 มีนาคม 2559 >>> 1.76 ล้านบาท (ราคาแบบ 1 ห้องนอน 26.15 ตารางเมตร)
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> ราคาเฉลี่ยประมาณ 7X,XXX บาท/ตารางเมตร
• เว็บไชต์โครงการ >>> คลิกที่นี่
• ติดต่อโครงการ >>>  02-744-4114
• พิกัด GPS >>> 13.654861, 100.606995

โครงการ The Urban Attitude Bearing 14 นั้น ตั้งอยู่ในซอยแบริ่ง หรือชื่อทางกาารว่าซอยสุขุมวิท 107 นั้น ซึ่งเป็นถนนที่เชื่อมระหว่างสุขุมวิทกับถนนศรีนครินทร์ค่ะ โดยคอนโดจะตั้งอยู่ในซอยแบริ่ง 14 ค่ะเข้ามาจากปากซอยประมาณ 120 เมตร  ซึ่งซอยแบริ่ง 14 เป็นซอยที่เชื่อมกับซอยสุขุมวิท 109 ด้วยค่ะ ถ้าวัดระยะห่างจากถนนสุขุมวิทจากปากซอยแบริ่ง 14 จะอยู่ที่ประมาณ 750 เมตรค่ะ ส่วนถ้าจะออกไปถนนศรีนครินทร์จากปากซอยแบริ่ประมาณ 3.5 กิโลเมตรค่ะ

เริ่มเดินทาง ดูทำเล

การเดินทางไปคอนโด The Urban Attitude Bearing 14 นั้น หลักๆแล้วมี 2 ทาง คือ จากถนนศรีนครินทร์และถนนสุขุมวิทค่ะ  ถ้ามาจากทางถนนศรีนครินทร์โดยมาทางเทพารักษ์ ซอยแบริ่งจะอยู่ถัดจากซอยศรีด่าน 13   แต่ถ้าขับมาจากเส้นทางบางนาจะต้องไปยูเทิร์นไกลหน่อยประมาณ 1.1 กิโลเมตร ไม่สามารถเลี้ยวขวาเข้าซอยแบริ่งได้เลยเพราะติดเกาะกลางถนน

ส่วนการเดินทางของเราในวันนี้ เราจะเดินทางด้านถนนสุขุมวิทค่ะ ขับรถมาตามแนวรถไฟฟ้า BTS  ตรงมาเรื่อยๆ ผ่านแยกบางนา เราจะเห็นไบเทค บางนา และสถานีรถไฟฟ้า BTS บางนา ตรงมาไม่ไกลก็เจอสถานีรถไฟฟ้า BTS แบริ่ง พอผ่านสถานีแบริ่งก็เตรียมชิดซ้ายเพราะซอยไม่ไกลจากสถานีค่ะ  เลี้ยวซ้ายผ่านตลอดได้เลย ถ้ามาจากฝั่ง BTS ซอยแบริ่ง 14 จะอยู่ทางขวา ส่วนสำนักงานขายนั้นจะอยู่ฝั่งซ้ายค่ะ ตรงข้ามกับซอยแบริ่ง 16 สังเกตง่ายๆจะอยู่ตรงข้ามกับคอนโด High-rise 2 โครงการที่ตั้งค่อนข้างโดดเด่นบนเส้นนี้เลยค่ะ

มาดูตำแหน่งรอบๆตัวคอนโดก่อนว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนกันบ้าง

คอนโด The Urban Attitude Bearing 14 ตั้งอยู่ห่างจากปากซอยแบริ่ง 14 ประมาณ 120 เมตร อยู่ตรงหัวมุมสี่แยกพอดีเลยค่ะ บริเวณโดยรอบๆส่วนใหญ่จะรายล้อมด้วยบ้านพักอาศัย ภายในซอยนี้สามารถทะลุไปซอยแบริ่ง 10, 12 และ 16 ที่อยู่ขนานกันได้ นอกจากนี้แล้วยังทะลุไปออกซอยสุขุมวิท 109 ได้ด้วยค่ะ โดยรอบที่ดินกับที่ดินของคอนโดจะเป็นบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้นทั้งหมดค่ะ ฝั่งตรงข้ามกันจะเป็นบ้านพักอาศัยเช่นกัน แต่จะมีร้านขายของชำเล็กๆอยู่ด้วย ร่วมไปถึงอู่ซ่อมรถ (หมายเลข 1) ที่อยู่ในบริเวณเดียวกัน ส่วนติดกันจะเป็นคอนโด Pause ID (หมายเลข 2) ของทางออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ค่ะ เป็นคอนโดสูง 8 ชั้น เช่นเดียวกับ The Urban Attitude ตอนนี้ก็ล้อมรั้วเอาไว้แล้วเช่นกัน ส่วนอีกด้านที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับที่ดินของโครงการในซอยที่เชื่อมกับแบริ่ง 14 คือซอยสันติคาม 13 จะมีโรงงานสูง 5 ชั้น (หมายเลข 3) ตั้งอยู่ค่ะ โดยที่ซอยสันติคาม 13 นี้เชื่อมต่อกับซอยสุขุมวิท 109 ด้วย

อย่างที่บอกไปว่าบริเวณนี้ซอยแบริ่ง 10,12,14 และ 16 นั้นเชื่อมต่อถึงกันหมด ในบริเวณซอยแบริ่ง 12 จะมีอพาร์ทเม้นท์สูง 10 ชั้น (หมายเลข 4) ตั้งอยู่ค่ะ  สภาพค่อนข้างเก่าหน่อย  ส่วนปากซอยจะเป็นโรงเรียนอนุบาลบ้านหนู (หมายเลข5) ส่วนปากซอยอีกด้านจะเป็น 107 แบริ่งคอนโดมิเนียม (หมายเลข 7) สูง 10 ชั้นค่ะ ติดกันจะเป็น B.B.A. Plaza (หมายเลข 7) เป็นเวิ้งที่มีร้านอาหารตั้งอยู่หลายร้านรวมถึงมี Family Mart ด้วยค่ะ ฝั่งตรงข้ามกับซอบแบริ่ง 14 จะเป็นซอยแบริ่ง 3 ซึ่งสามารถใช้เป็นทางออกไปซอยสุขุมวิท 105 หรือซอยลาซาลได้ค่ะ

ถัดไปอีกนิดบริเวณฝั่งตรงข้ามกับซอยแบริ่ง 1 จะเป็นอาคารพาณิชย์ที่มีพวกร้านเสริมความงามอยู่ตั้งอยู่หลายร้าน  ปากทางเข้าหมู่บ้าน Fantasia Villa 2 (หมายเลข 8) และร้าน 7-Eleven (หมายเลข 9) เป็นสาขาค่อนข้างใหญ่อยู่ตรงข้ามกับตรงปากซอยแบริ่ง 1 ซึ่งภายในซอยแบริ่ง 1 นี้จะมีคอนโดที่เป็น Low-rise ตั้งอยู่หลายโครงการเลยค่ะ … เลยออกไปหน่อยบนถนนสุขุมวิท 107 ฝั่งตรงข้ามกับซอยแบริ่ง 6 จะเป็น Sales Office ของ The Urban Attitude Bearing 14 (หมายเลข 10) ส่วนที่อยู่หัวมุมของซอยแบริ่ง 6 จะเป็นคอนโดสูง 2 อาคาร คือคอนโด The Gallery (หมายเลข 11) จาก The Urban Property เจ้าเดียวกับ The Urban Attitude เนี้ยแหละค่ะ และ คอนโด KnightsBridge (หมายเลย 12) จะเป็นของทาง Origin Property ซึ่งเจ้าของเดียวกับ คอนโด Pause ID โครงการเพื่อนบ้านของ The Urban Attitude ค่ะ ซึ่งจากตรงนี้ก็จะออกไปถนนสุขุมวิท และ BTS แบริ่งค่ะ

อย่างที่บอกซอยแบริ่งสามารถทะลุไปยังซอยสุขุมวิท 109 ได้ ซึ่งในซอยสุขุมวิท 109 นั้นก็เป็นที่ตั้งของคอนโดอีกหลายโครงการ ไม่ว่าจะเป็นคอนโด D Condo จากแสนสิริ (หมายเลข 13) ที่สามารถเข้าได้จากซอยแบริ่ง 12 ถัดไปอีกนิดจะเป็นคอนโดลุมพินีวิลล์ จากลุมพินี (หมายเลข 14) ซึ่งทั้งสองโครงการนี้จะเป็นคอนโดประเภท Low Rise เช่นเดียวกับคอนโด The Urban Attitude ทั้ง 2 โครงการสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ

กลับมาที่ถนนสุขุมวิท 107 ฝั่งที่จะออกไปถนนศรีนครรินทร์ ปากซอยแบริ่ง 16 นั้นเป็นสำนักงานใหญ่ของบริษัท ออริจิ้น พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (หมายเลข 15)  ถัดไปหน่อยเป็นโรงงานและมีลานจอดรถของพนักงานที่กว้างมากๆ (หมายเลข 16) ตรงไปจากนี้ออกไปถนนศรีนครรินทร์ระยะทางอยู่ที่ประมาณ 3.5 กิโลเมตรค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบคอนโด

พาไปเดินเล่นรอบๆที่ตั้งโครงการ ก่อนจะพาเข้าไปในสำนักงานขายค่ะ

ถนนบริเวณด้านหน้าโครงการค่ะ ซึ่งทางเข้าออกโครงการจะอยู่บริเวณนี้ ส่วนถนนสันติคาม 13 ที่อยู่เชื่อมกับแบริ่ง 14 นั้นไม่ได้มีทางเข้าออกค่ะ ตรงไปจะออกไปซอยแบริ่ง 16 ได้ค่ะ

ด้านข้างโครงการฝั่งที่ติดกับถนนสันติคาม 13 จะเป็นโรงงานสูง 5 ชั้น

ฝั่งตรงข้ามเป็นบ้านพักอาศัยที่ทำเป็นอู่ซ่อมรถ

มีร้านขายของชำเล็กๆอยู่ด้วยค่ะ

ติดกับที่ดินของคอนโดก็เป็นบ้านพักอาศัย 2 ชั้น

ถัดไปหน่อยก็เป็นบ้านพักอาศัยเช่นกันค่ะ อยู่กันแบบหลวมๆ ไม่หนาแน่นมาก

คอนโด Pause ID อยู่ตรงข้ามเยื้องๆกับโครงการไปตรงซอยแบริ่ง 16

กลับมาที่ด้านข้างของโครงการฝั่งถนนสันติคาม 13 ที่เชื่อมต่อกับซอยแบริ่ง 14

ติดกับที่ดินของคอนโดภายในซอยสันติคาม 13 ก็เป็นบ้านพักอาศัยอีกเช่นกัน

ซอยด้านข้างที่ติดของคอนโดค่ะ ด้านนี้จะไม่มีทางเข้าออก มองไปจะเป็นสี่แยก ตรงไปก็เป็นแบริ่ง 14 ค่ะ

โรงงานสูง 5 ชั้นหัวมุมซอยแบริ่ง 14 ข้างๆคอนโด

ถนนที่เชื่อมระหว่างซอยแบริ่ง 10 ,12 ,14 และ 16 เข้าด้วยกันค่ะ บรรยากาศบริเวณนี้จะมีร้านค้ารถเข็นอยู่ข้างๆค่ะ

ภายในซอยแบริ่ง 14 ใกล้ๆกับสี่แยกจะมีอู่ซ่อมรถอยู่ค่ะ

ตรงข้ามกันเป็นบ้านพักอาศัย ซึ่งบริเวณนี้จากตั้งแต่ซอยไปจนถึงสี่แยกที่เป็นที่ตั้งคอนโด จะค่อนข้างเงียบ เป็นบ้านพักอาศัยเกือบทั้งหมดค่ะ

บรรยากาศในซอยแบริ่ง 14 นั้นจะดูเงียบสงบ ร่มรื่นดีึค่ะ

ปากซอยแบริ่ง 14 จะมีหอพักสูง 5 ชั้นอยู่ค่ะ

หน้าตาปากซอยแบริ่ง 14 ซอยทางเข้าคอนโดค่ะ

ด้านหน้าปากซอยจะมีร้านอาหารรถเข็นอยู่ค่ะ

ฝั่งตรงข้ามกับซอยแบริ่ง 14 จะเป็นซอยแบริ่ง 3 ไปออกซอยสุขุมวิท 105 หรือซอยลาซาลได้ค่ะ

หัวมุมซอยแบริ่ง 16 จะเป็นออฟฟิศของออริจิ้น ที่ทำโครงการ Pause ID

บรรยากาศในซอยแบริ่ง 16 ค่ะ โครงการสามารถเข้าออกได้จากซอยนี้เช่นกัน

ซอบแบริ่ง 16 ก็ไปออกซอยสุขุมวิท 109 ได้อีกเช่นกันค่ะ

โรงเรียนอนุบาลบ้านหนู ปากซอยแบริ่ง 12 ค่ะ

ปากซอยแบริ่ง 12 อีกด้านเป็น 107 แบริ่งคอนโดมิเนียม คอนโดเก่าสูง 10 ชั้น

ภายในซอยแบริ่ง 12 ค่ะ ซอยนี้ก็ใช้เข้าออกโครงการได้เช่นกัน ทะลุถึงกันหมด

แมนชั่น 107 ในซอยแบริ่ง 12 เช่นเดียวกันค่ะ มองเห็นจากที่ดินคอนโดเลย เป็นตึกที่ดูจากสภาพน่าจะสร้างมานานแล้วค่ะ

ออกมาหัวมุมซอยแบริ่ง 10 มีร้านอาหารและ Family Mart อยู่ค่ะ

เวิ้งนี้เรียกว่า B.B.A. Plaza ค่ะ ด้านในจะมีร้านอาหาร และร้านค้า เช่น ร้านขายยาอยู่ด้วย

ออกมาเดินดูบรรยากาศโดยรอบบริเวณถนนสุขุมวิท 107 หรือซอยแบริ่งกันต่อค่ะ

จากถนนสุขุมวิท 107 ออกไปฝั่งที่จะไปถนนศรีนครรินทร์ค่ะ

ฟุตบาทตรงช่วงแบริ่ง 12 ค่ะ บางช่วงจะเดินง่าย แต่บางช่วงก็จะเดินค่อนข้างลำบาก มีเสาไฟฟ้าอยู่ตรงกลางฟุตบาท

ซอยแบริ่ง หรือสุขุมวิท 107 จะเป็นซอยที่กว้าง มีถนน 4 เลน  สภาพถนนดีมากมีฟุตบาทอยู่ 2 ข้างทาง

อาคารพาณิชย์แต่งสวย ด้านล่างเป็นร้านค้า อยู่บริเวณฝั่งตรงข้ามกับซอยแบริ่ง 1

หมู่บ้าน Fantasia Villa 2 ค่ะ

7-Eleven ตรงหัวมุมแบริ่งซอย 1 สาขานี้ค่อนข้างใหญ่ค่ะ มีที่จอดรถให้ด้านหน้า ถ้าขับรถกลับคอนโดมาจากสุขุมวิทจะแวะซื้อของเข้าคอนโด ก็แวะตรงนี้ได้ค่ะ สะดวกดี

สำนักงานขายของ Manhattan park ด้านหลังจะเห็นกลุ่มคอนโด Low-rise ภายในซอยแบริ่ง 1 ค่ะ

สำนักงานขาย คอนโดเอ็มบาสซี่ เพลส แบริ่ง 45

สำนักงานขาย Pause ID อยู่ติดกับ สำนักงานขายของ The Urban Attitude เลย

ติดกับสำนักงานขายของ The Urban Attitude เช่นกันเป็น สำนักงานของคอนโด The Nine Bearing ซึ่งที่ตั้งจริงจะอยู่ในซอยแบริ่ง 9 ค่ะ

สำนักงานขายโครงการ Voque Place ค่ะ อยู่ฝั่งตรงข้ามซอยแบริ่ง 4 แต่โครงการจริงๆจะอยู่ในซอยแบริ่ง 2 และ 4 ค่ะ เป็นคอนโดสูง 8 ชั้นเช่นกันค่ะ

ถนนแบริ่งจากหน้าสำนักงานขาย บริเวณฝั่งตรงข้ามซอยแบริ่ง 6

คอนโด The Gallery ของ The Urban Property เจ้าเดียวกับ The Urban Attitude

คอนโด Knightsbridge ของทาง Origin Property

ปากซอยแบริ่งเป็นตึกแถว มีร้านอาหารให้เลือกค่อนข้างเยอะ ส่วนหัวมุมอีกด้านตอนนี้ปรับปรุงใหม่มีร้านค้าและร้านอาหารใหม่ๆเพิ่มขึ้นมา

โรงเรียนนานาชาติ เซนต์ แอนดรูส์ ตรงปากซอย

จบด้วยบนถนนสุขุมวิท ก่อนจะถึงรถไฟฟ้า BTS แบริ่งค่ะ จากคอนโดมาถึงสถานีรถไฟฟ้านั้น วัดตาม Google map ได้ระยะทางประมาณ 1.1 กิโลเมตรค่ะ

เริ่มเปิดประตู  ไปดูในโครงการ

เข้ามาที่สำนักงานขายกันเลยค่ะ

มาเข้ามาดูที่สำนักงานขายกันก่อน สำนักงานนั้นจะอยู่ตรงข้ามกับคอนโด The Gallery ของ Urban Property เช่นกัน

ด้านหน้ามีพี่หมีสีส้ม ถือกระเป๋าสีเหลือง สีสันสดใส คอยต้อนรับแขกอยู่ค่ะ

ด้านหน้าของสำนักงานขาย

ขอจบด้วยพี่หมีอีกรอบ ตอนนี้เราอยู่ Bearing พี่ Bear เลยมาต้อนรับ

ดูผังโครงการ  ตำแหน่งการเข้าถึง

ตัวที่ดินโครงการเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ตั้งอยู่หัวมุมสี่แยกแรกในซอยแบริ่ง 14 ห่างจากปากซอย 120 เมตร ในซอยเป็นถนนสองเลนวิ่งเชื่อมไปยังซอยสุขุมวิท 109 ได้ค่ะ  รอบคอนโดส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยเป็นส่วนใหญ่ และมีโรงงานกระจายตัวอยู่บ้างแต่ไม่ใช่อาคารสูง  จะมีอาคารสูงแต่ก็สูงไม่มากอยู่บริเวณซอยแบริ่ง 12 เป็นหอพักสูง 10 ชั้น อยู่ 2 อาคาร มองเห็นได้จากด้านหน้าคอนโดค่ะ แต่อยู่เยื้องๆกัน ส่วนทางฝั่งทิศตะวันออกเฉียงเหนือของ The Urban Attitude Bearing 14 จะมีคอนโดอีกโครงการนึงชื่อ Pause ID ซึ่งเพิ่งเปิดตัวไปก่อนหน้านี้ไม่นาน ตอนนี้ก็ยังไม่ได้มีการก่อสร้างอะไร แต่กั้นรั้วโครงการเอาไว้แล้วค่ะ เป็นโครงการคอนโด Low-rise สูง 8 ชั้นเช่นเดียวกัน

คอนโด The Urban Attitude แบริ่ง 14 นั้น วัดระยะทางห่างจากปากซอยตรงถนนสุขุมวิทได้ 750 เมตร ถือว่าก็ไกลเหมือนกันค่ะ เดินไปก็แอบเหนื่อย ส่วนจะไปขึ้นรถไฟฟ้า BTS แบริ่งเลยก็ระยะกิโลกว่าๆได้ เดินไปคงจะไม่ไหว ใช้บริการมอเตอร์ไซต์รับจ้าง หรือไม่ก็รถสองแถวจะสะดวกกว่าค่ะ ในซอยแบริ่ง 14 นี้ เชื่อมต่อกับซอยแบริ่ง 10, 12 และ 16 และสามารถเดินทางไปเชื่อมกับสุขุมวิท 109 ได้อีกด้วยค่ะ

ด้านหน้าโครงการค่ะ อยู่ตรงสี่แยกแรกของซอยแบริ่ง 14 เข้ามาจากปากซอยประมาณ 20 เมตร

ที่ดินของโครงการจะติดกับถนน 2 ด้าน แต่จะมีทางเข้าออกด้านเดียวคือด้านที่เป็นถนนเชื่อมต่อกับซอยแบริ่ง 10,  12 และ 16 ค่ะ

ถนนที่ใช้เป็นทางเข้าออกของคอนโดค่ะ

ส่วนถนนด้านข้างที่เป็นถนนที่ต่อมาจากซอยแบริ่ง 14 นั้นจะมีสามารถเข้าออกได้ค่ะ ถนนเส้นนี้จะสามารถไปออกซอยสุขุมวิท 109 ได้

ด้านข้างที่ดินของโครงการอีกรูปค่ะ

ทิศทางแดด  ฝั่งไหนร้อน?  ฝั่งไหนร่ม?

ตัวคอนโดเป็นรูปตัว U ห้องที่เป็นทิศเหนือจะเป็นห้องที่หันไปทางเข้าออกโครงการค่ะ ด้านหลังจะเป็นทิศใต้ จะเห็นด้านที่ร้อนสุดในโครงการ ส่วนด้านข้างฝั่งที่ติดกับบ้านคนจะหันไปทิศตะวันออก จะได้แสงแดดเช้าค่ะ อีกฝั่งที่ติดกับถนนและเป็นด้านในของตัว U เป็นทิศตะวันตกที่จะได้แดดบ่าย และได้วิวโรงงาน โครงการเลยทำฝั่งนี้เป็นผนังทึบและไม่ช่องเปิดรับแสงค่ะ

ส่องโมเดล

เริ่มจากภาพรวมของคอนโดกันก่อนค่ะ ตัวที่ดินของโครงการจะติดกับถนน 2 ด้าน แต่จะมีทางเข้าออกทางเดียว

ทางเข้าออกจะอยู่ตรงถนนที่เป็นถนนเชื่อมระหว่างซอยแบริ่ง 10, 12, 14 และ 16

ตัวอาคารด้านหน้าทางเข้าออกค่ะ ด้านนี้จะหันไปทางทิศเหนือ

ซูมให้ดูหน้าตาป้ายทางเข้าโครงการ

ด้านนี้จะเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนค่ะ ส่วนห้องหัวมุมจะเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอน

ห้องมุมที่เป็นแบบ 2 ห้องนอน

ด้านข้างทางทิศตะวันออกค่ะ เป็น 1 ห้องนอนเช่นกัน

ด้านหน้า Facade จะเรียบๆค่ะ

ห้องมุมก็เป็นแบบ 2 ห้องนอนเช่นกัน แต่แปลนจะคนละแบบ

ด้านข้างที่ติดกับถนนในซอยแบริ่ง 14 ด้านที่ไม่มีทางเข้าออกค่ะ ด้านนี้ที่บอกไปว่าเป็นทิศตะวันตก ไม่มีห้องที่หันไปฝั่งนี้ค่ะ อีกทั้งมุมฝั่งนี้จะหันไปหาโรงงานด้วย  ทางโครงการเลยทำ Facade แซมสีทองเข้ามา ช่วยให้ตัวอาคารดูหรูขึ้นค่ะ

ถนนเส้นนี้จะไปออกสุขุมวิท 109 ได้ค่ะ

ห้องด้านในแปลนรูปตัว นี้จะเป็นห้องไซส์เล็กทั้งหมดค่ะ ตรงกลางจะเป็นบันไดหนีไฟและลิฟต์

โถงชั้นล่างจะเป็นสวนค่ะ ตัวอาคารด้านในรูปตัว U มีสวนแนวตั้งเชื่อมต่อกับสวนด้านล่างด้วยค่ะ

ชั้นบนสุดเป็นชั้นส่วนกลางค่ะ

ชั้น 8 จะยังมีห้องพักอาศัยอยู่ แต่ปลายตัว U ด้านทิศเหนือจะเปลี่ยนเป็นสระว่ายน้ำแทน ส่วนบนชั้น 8 จะเป็นสวนดาดฟ้าค่ะ

หน้าตาสระว่ายน้ำที่ชั้น 8

พื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งานเป็นอย่างไร

Facilities จะอยู่ที่ชั้น 8 ค่ะ เป็นชั้นบนสุด ซึ่งชั้นนี้ปลายตัว U ด้านทิศเหนือที่ติดกับถนนทางเข้าออกโครงการ จะเปลี่ยนเป็นสระว่ายน้ำ ติดกันจะเป็นฟิตเนสค่ะ นอกนั้นก็ยังเป็นที่พักอาศัยอยู่ ส่วนด้านบนของที่พักอาศัยจะเป็นสวนดาดฟ้าด้วย

พื้นที่ส่วนกลางที่ได้มามีสระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 4×10 เมตร  แล้วก็มีฟิตเนสและสวน หลักๆที่ชั้น 8 นอกจากนี้ก็ยังมี ล็อบบี้ ห้อง Multi-function และ Library อยู่รวมกันที่ชั้น 2 ส่วนที่จอดรถจะอยู่บริเวณชั้น 1

สำหรับสัดส่วนการใช้งานนั้น  สัดส่วนลิฟต์โดยสาร 2 ตัวกับ 137 ยูนิต  เฉลี่ยออกมาได้ 69 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว  ถือว่าดีค่ะ ที่จอดรถ 30% กว่าๆ นับรวมจอดซ้อนคัน ก็ดูน้อยไปสำหรับการอยู่จริงในทำเลนี้  แต่เมื่อมองเทียบกับราคาขายแล้วก็ถือว่าต้องยอมรับกันไปค่ะ จากรูปหน้าตา Facilities ตกแต่งสไตล์เรียบหรู เน้นไปที่ลายหินอ่อนและไม้ค่ะ

บริเวณสวนด้านในรูปตัว U มีบันไดที่ไว้ใช้เดินจากชั้น 1 ขึ้นไปยังห้อง Multi-funtion ที่ชั้น 2 ได้ค่ะ

ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณห้องMulti-funtion มีทั้งมุมชั้นวางหนังสือ โต๊ะกลุ่ม และโซฟานั่งเล่นค่ะ

ห้องฟิตเนสที่ชั้น 8 ค่ะ มองไปจะเห็นทางขึ้นไปสวนดาดฟ้า ซึ่งฟิตเนสเองก็จะอบู่ติดกับสระว่ายน้ำด้วยค่ะ

เปิดผังคอนโด  Typical Floor Plan

Floor Plan คอนโด The Urban Attitude Bearing 14 ชั้น 1

ชั้นที่ 1 ทางเข้าออกจะอยู่ฝั่งที่เป็นถนนสาธารณะประโยชน์ ส่วนด้านที่ติดกับซอยสันติคาม 13 นั้นจะไม่มีทางเข้าออกค่ะ ที่ชั้น 1 จะเป็นพื้นที่จอดรถใต้อาคารรูปตัว U ตรงกลางตัว U จะเป็นทางเข้าออกอาคารและลิฟต์โดยสารค่ะ ชั้น 1 จะมีบันไดขึ้นไปยัง Lobby ชั้น 2 พื้นที่ว่างตรงรูปตัว U จะกลายเป็นสวนหย่อมค่ะ

Floor Plan คอนโด The urban Attitude Bearing 14 ชั้น 2

ห้องพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 2 แบ่งเป็น 2 ฝั่งคือ ตัว U ด้านนอก และด้านใน  ชั้นนี้หลักๆจะมี 3 แบบ คือ แบบ 1 ห้องนอน Type A , แบบ 1 ห้องนอน Type B และ 2 ห้องนอนค่ะ ในชั้น 2 นี้ จะมีส่วนนึงของตัว U ด้าในที่ทำเป็น ห้อง Multi-funtion ซึ่งจะมีล็อบบี้ และ Library อยู่ในนี้ค่ะ เดินขึ้นบันไดจากชั้น 1 มาได้เลย ชั้นนี้มีจำนวนห้องทั้งหมด 18 ยูนิต

Floor Plan คอนโด The Urban Attitude Bearing 14 ชั้น 3-7

ห้องพักอาศัยตั้งแต่ชั้น 3–7 จะเหมือนกันทุกชั้นค่ะ แต่ชั้น 3 จะมีหลังคาของห้อง Muti-Funtion เพิ่มขึ้นมาหน่อย ในแต่ละชั้นตั้งแต่ชั้น 3-7 จะมีจำนวนห้องทั้งหมด 21 ห้องต่อชั้นค่ะ ลิฟต์โดยสารและบันไดหนีไฟจะอยู่ตรงกลางแปลนด้านในของรูปตัว U แปลนห้องหลักๆ ด้านในรูปตัว U จะเป็นห้อง 1 ห้องนอน Type A (แปลนสีเทา) เป็นห้องไซส์เล็กสุดของโครงการค่ะ ส่วนตัว U ด้านหน้าที่หันออกนอกอาคาร ส่วนใหญ่จะเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน Type B (แปลนสีส้ม) จะมีห้องไซส์เล็กแบบด้านในโผล่มาห้องเดียทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนห้องมุมนั้นจะเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอน (แปลนสีน้ำตาลอ่อน) มีเพียง 2 ห้องต่อชั้นค่ะ หันหน้าออกถนนกับหันไปทางบ้านพักอาศัย

แปลนห้องดีไหม?

แปลนของคอนโด The Urban Attitude Bearing 14  นั้นแบ่งเป็น 3 แบบคือ แบบ 1 ห้องนอน Type A , แบบ 1 ห้องนอน Type B และ 2 ห้องนอน Type C ค่ะ

แปลนห้องคอนโด The Urban Attitude Bearing 14

แบบ1 ห้องนอน Type A2 ขนาด 26.17 ตารางเมตร

แบบ 1 ห้องนอน Type เล็กสุด สัดส่วนของห้องนั่งเล่นที่รวมกับพื้นที่รับประทานอาหาร จะพอๆกับพื้นที่ห้องนอนค่ะ ส่วนห้องน้ำกับห้องครัวที่รวมกับระเบียงจะมีพื้นที่เท่าๆกัน เข้ามาภายในห้องจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนก่อน ติดกันกับโซฟาเป็นโต๊ะรับประทานอาหาร ส่วนประตูทางเข้าห้องน้ำจะอยู่ข้างกับชั้นวางทีวีค่ะ ด้านในจะแบ่งเป็น 2 ฝั่ง คือ ฝั่งห้องครัว ซึ่งระเบียงจะอยู่ตรงนี้ ส่วนอีกฝั่งจะเป็นห้องนอนค่ะ ซึ่งในห้องนอนนั้นก็จะวางเตียงขนาด 5 ฟุตกับตู้เสื้อผ้าได้พอดี

แปลนห้องคอนโด The Urban Attitude Bearing 14

แบบ 1 ห้องนอน B2C ขนาด 31.17 ตารางเมตร

แปลนห้องแบบ 1 ห้องนอน Type B นั้นตำแหน่งการจัดวางฟังก์ชั่นจะไม่ต่างจากแบบ 1 ห้องนอน Type A เท่าไหร่นัก เพียงแต่สเปซที่เพิ่มขึ้น เลยทำให้ทุกอย่างออกมาดูสบายๆ มากกว่าแบบ Type A อีกทั้งยังเพิ่มพื้นที่เก็บของขึ้นมาที่ในแบบ Type A ไม่มี เริ่มกันตั้งแต่เข้ามาในห้องก็จะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อน ติดกันเป็นโต๊ะรับประทานอาหารที่วางหันเข้ากำแพง สเปซตรงนี้จะสามารถขยับขยายได้ ไม่เหมือนแบบ Type A ที่ทุกอย่างจะพอดีกับพื้นที่หมด ทางเข้าห้องน้ำจะแอบอยู่ตรงพื้นที่เก็บของที่ทางโครงการทำไว้ให้ ไม่หันหน้าออกมาติดกับชั้นวางทีวีเหมือนแบบ Type A ส่วนด้านหลังจะเป็นห้องนอนกับห้องครัว เหมือนกับแบบ Type A เลยค่ะ

แปลนห้องคอนโด The Urban Attitude Bearing 14

แบบ 2 ห้องนอน C1 ขนาด 49.95 ตารางเมตร

ตำแหน่งของห้องแบบ 2 ห้องนอนนั้นจะอยู่ตรงมุมอาคารพอดีค่ะ เข้ามาภายในห้องจะเป็นพื้นที่รับประทานอาหารและพื้นที่ครัว เชื่อมต่อกับพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อน จะมีระเบียงอยู่ตรงห้องนั่งเล่น  ระหว่างห้องนั่งเล่นกับครัวจะมีทางเดินเข้าห้องนอนเล็ก ส่วนฝั่งตรงข้ามจะเป็นห้องน้ำค่ะ ส่วนห้องในสุดจะเป็นห้องนอนใหญ่ที่มีห้องน้ำในตัว สเปซจะพอๆกับห้องนั่งเล่นกับครัวรวมกันเลยค่ะ

เปิดห้อง  มองสเปซ  :  Focus  on  “SPACE”  and  “DIMENSION”

ห้องตัวอย่างมีให้ดู 2 แบบ เป็นแบบ 1 ห้องนอน Type A2 ขนาด 26.17 ตารางเมตร กับ 1 ห้องนอน Type B2C ขนาด 31.17 ตารางเมตร ความสูงของสเปซระยะฝ้าเพดานในห้องทั่วๆไปสูง 2.45 เมตร ห้องที่ได้จะเป็นแบบ fully furnished ได้เฟอร์นิเจอร์เกือบจะเหมือนในห้องตัวอย่างเลย แต่ไม่ได้มี Wallpaper ให้ เป็นผนังฉาบเรียบทาสีค่ะ

ห้องตัวอย่างคอนโด The Urban Attitude แบริ่ง 14

แบบ 1 ห้องนอน A2 ขนาด 26.17 ตารางเมตร

เข้ามาภายในห้องด้านนึงจะเป็นพื้นที่นั่งเล่น ติดกันเป็นโต๊ะทำงาน ด้านในสุดจะเป็นห้องครัวค่ะ

มองย้อนกลับไปให้ดูสเปซส่วนพื้นที่นั่งเล่ยค่ะ ชั้นวางของที่อยู่ระหว่างโซฟากับโต๊ะทำงานนั้นไม่ได้ให้มาด้วยค่ะ

ระยะระหว่างชั้นวางทีวีกับโซฟานั่งเล่นค่ะ

ติดกับชั้นวางทีวีจะเป็นห้องน้ำค่ะ แยกส่วนเปียกส่วนแห้งมาให้เรียบร้อย

ด้านในจะถูกแบ่งเป็น 2 ส่วนค่ะ เป็นห้องครัว กับ ห้องนอน ห้องครัวจะเป็นประตูบานเลื่อนกระจก ทำให้แสงธรรมชาติพอที่จะเข้ามาในห้องนั่งเล่นได้อยู่บ้างค่ะ

ด้านหน้าห้องนอนจะให้เตียงมาขนาด 5 ฟุต บานกระจกในห้องนอนให้มาค่อนข้างเต็มพื้นที่ผนัง ช่วยให้แสงธรรมชาติเข้ามาได้ดีค่ะ

สเปซตรงปลายเตียงค่ะ ถ้าวางชั้นวางทีวีอาจจะไม่พอ ต้องติดผนังเอาค่ะ

เตียงจะวางอยู่ชิดกับบานกระจกค่ะ

อีกมุมเป็นตู้เสื้อผ้ากับโต๊ะเครื่องแป้ง

สเปซระหว่างเตียงกับตู้เสื้อผ้าค่ะ

เปิดตู้เสื้อผ้าออกมา ก็ยังพอมีที่เหลือให้เดินได้อยู่ค่ะ

ห้องตัวอย่างคอนโด The Urban Attitude แบริ่ง 14

แบบ 1 ห้องนอน B2C ขนาด 31.17 ตารางเมตร

แบบ 1 ห้องนอนนั้น การจัดวางฟังก์ชั่นต่างๆจะคล้ายกับแบบแรกที่เป็น 1 ห้องนอน Type A เลยค่ะ เพียงแต่พื้นที่จะค่อนข้างใหญ่กว่า ทำให้สเปซดูโล่งๆ กว่าแบบ Type A  โทนสีเฟอร์นิเจอร์ที่ได้ก็จะต่างกันด้วยค่ะ แบบ 1 ห้องนอน Type B จะมาในโทนสีอ่อนๆ

มุมโต๊ะทำงาน หรือจะใช้เป็นพื้นที่รับประทานอาหารก็ได้ค่ะ เวลาไม่ใช่พื้นที่ตรงนี้ก็สามารถพับเก็บได้ ส่วนตู้ลอยด้านบน ห้องจริงไม่ได้มีให้ค่ะ

พื้นที่ตรงห้องนั่งเล่นค่ะ สเปซตรงนี้จะได้มายาวกว่าแบบ Type A อย่างเห็นได้ชัดเลย

สเปซหน้าห้องค่ะ ระยะระหว่างชั้นวางทีวีกับโซฟาไม่ได้ใกล้กันมากนัก

ด้านหลังก็จะเป็นห้องนอนกับห้องครัวค่ะ

ห้องนอนก็จะคล้ายๆกับแบบแรกค่ะ กระจกห้องค่อนข้างได้มาเต็ม แสงธรรมชาติเข้ามาได้สบายๆ

เตียงวางชิดริมเหมือนกัน

อีกด้านก็จะเป็นพื้นที่วางตู้เสื้อผ้ากับโต๊ะเครื่องแป้งค่ะ

ออกมาหน้าห้องนอน จะมีตู้เก็บของและ ทางเข้าห้องน้ำอยู่ด้านใน แบบ 1 ห้องนอน Type B จะไม่หันหน้าออกไปตรงพื้นที่นั่งเล่นเหมือนกับแบบ 1 ห้องนอน Type A ค่ะ

พื้นที่ห้องน้ำก็จะเหมือนกับแบบ Type A ค่ะ มีแยกส่วนเปียกส่วนแห้งไว้ให้เรียบร้อย

เปิดห้อง  ส่องวัสดุ  :  Focus  on  “MATERIALS”

วัสดุในภาพรวมก็ให้มาค่อนข้างดีค่ะ แบบ 1 ห้องนอน Type B จะเป็นโทนสีอ่อน ส่วนแบบ 1 ห้องนอน Type A จะเป็นโทนสีเข้มค่ะ เฟอร์นิเจอร์ที่ได้เป็นแบบ custom made แต่จะมีบางส่วนที่จะได้ไม่เหมือนกับห้องตัวอย่างค่ะ เราจะมาลงรายละเอียดกันเป็นส่วนๆ ซึ่งเราแบ่งรีวิววัสดุออกเป็น 3 ส่วน  คือ  วัสดุครัวและส่วนเตรียมอาหาร (pantry) , วัสดุห้องน้ำ , วัสดุทั่วไปและวัสดุปิดผิวภายในห้อง(Finishing Material)  เพื่อให้ส่องกันง่ายๆเช่นเคยค่ะ

วัสดุห้องครัว / ส่วนเตรียมอาหาร (pantry)

หน้าตาของครัวแบบ 1 ห้องนอน Type A ค่ะ เคาท์เตอร์ครัวค่อนข้างเล็ก มีพื้นที่วางอ่างล้างจานกับเตาไฟฟ้าก็หมดแล้วค่ะ ขาดพื้นที่ในส่วนของการเตรียมอาหารไปหน่อย

อ่างล้างจานแบบกลม คู่กับก๊อกน้ําทรงโค้งสูง ของ Teka เช่นกัน

ตู้ลอยด้านบนของแบบ 1 ห้องนอน Type A ค่ะ เป็นบานเปิดด้านเดียว

ส่วนแบบ 1 ห้องนอน Type B จะเป็นบานเปิดแบบ 2 บานค่ะ

เคาท์เตอร์ครัวด้านล่างของแบบ 1 ห้องนอน Type A เป็นบานเปิดบานเดียวเช่นกัน

ส่วนแบบ 1 ห้องนอน Type B ก็ได้บานเปิดมาแบบ 2 บานเช่นกันกับตู้ลอย

พื้นที่เก็บของด้านในตู้ลอยด้านบนค่ะ

พื้นที่เก็บของของเคาท์เตอร์ด้านล่าง

เครื่องดูดควันของ Teka

เตาไฟฟ้า 2 หัวของ Teka

ตรงเคาท์เตอร์ครัวมีที่วางไมโครเวฟให้ด้วยค่ะ

Top เป็นหินแกรนิต ส่วนเคาท์เตอร์นั้นผิวปิดด้วยเมลามีนค่ะ

ห้องครัวของแบบ 1 ห้องนอน Type A จะกว้างประมาณ 1.65 และยาวประมาณ 1.90 เมตรค่ะ ระยะความกว้างของทางเดินจะอยู่ที่ประมาณ 1 เมตรค่ะ

แบบ 1 ห้องนอน Type B ความกว้างของห้องครัวจะกว้างกว่าแบบ Type A อยู่นิดหน่อย ส่วนความยาวของ Type B จะยาวกว่า อยู่ที่ประมาณ 2.20 เมตร

ประตูห้องครัวเป็นแบบบานเลื่อน 2 ตอน บานกรอบประตูเป็นอลูมิเนียมอบสีดำ

หน้าตาบานจับประตูค่ะ เป็นอลูมิเนียมอบสีดำเช่นกัน

วัสดุห้องน้ำ

ห้องน้ำของแบบ 1 ห้องนอน Type A ค่ะ แยกพื้นที่ส่วนเปียกและส่วนแห้งมาให้เรียบร้อย

แบบ 1 ห้องนอน Type A นั้นเดินเข้ามาจะเจออ่างล้างหน้าอยู่ตรงข้ามกับประตูเลย

ส่วนแบบ 1 ห้องนอน Type B นั้น การวางตำแหน่งสุขภัณฑ์ห้องน้ำจะเหมือนกับแบบ 1 ห้องนอน Type A ต่างกันที่ทางเข้าห้องน้ำจะเข้ามาแล้วอ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์จะอยู่ทางด้านข้างค่ะ มองตรงไปจากหน้าห้องน้ำจะเป็นพื้นที่อาบน้ำ

Shower Block ก็มีให้ค่ะ

กระจกในห้องน้ำได้มาเต็มพื้นที่ผนังด้านนึงเลยค่ะ แบบ Type A นั้นตรงใต้กระจกจะเป็นที่วางของ

ส่วนห้องน้ำแบบ 1 ห้องนอน Type B นั้นกระจกก็ได้มาเต็มบานเช่นกัน แต่จะไม่มีที่วางของด้านล่างค่ะ

อ่างล้างหน้าทรงเหลี่ยมของ American Standard

ก๊อกน้ำ American Standard เช่นกัน

โถสุขภัณฑ์ American Standard เช่นกัน

หน้าตาของสายชำระ

สเปซตรงส่วนแห้งค่ะ

พื้นที่อาบน้ำค่ะ ขนาดประมาณ 1×1 เมตร มี Shower block กั้น เวลาอาบน้ำก็จะได้ไม่เลอะ ทำความสะอาดง่ายค่ะ

ที่จับบานเปิดของ Shower Block เป็นที่จับทรงกระบอกเล็กๆค่ะ

ฉากกั้นอาบน้ำเป็นแบบบานเปิด Tempered Glass

พื้นที่อาบน้ำนั้นมีฝักบัวให้ 2 แบบ

แบบแรกเป็นฝักบัวแบบมือจับทรงกระบอก

ด้านบนเป็น Shower แบบทรงโค้ง

มีที่วางสบู่ให้ แต่คงต้องซื้อชั้นวางของเพิ่มค่ะ

ราวแขวนผ้าในห้องน้ำ

ไฟห้องน้ำเป็นดาวน์ไลท์เหมือนห้องด้านนอก

บานกรอบประตูทาสีขาว

ธรณีประตูเป็นหินทรายสีเทาค่ะ

วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (finishing)

Digital Doorlock ด้านหน้ามีทั้งสแกนบัตรและแบบกดเลขรหัสค่ะ

ด้านในจะเป็นแบบลูกบิดล็อกธรรมดา

ทางเข้าจะมีธรณีประตูหินสีดำ มีตัวจบเป็นไม้ลามิเนต

บานกรอบประตูห้องทางเข้านั้นเป็นไม้กรอบไม้

ประตูห้องเป็นลามิเนตไม้อัด วัสดุค่อนข้างแข็งแรง บานประตูได้มากว้างกว่าขนาดปกติค่ะ

ชั้นวางทีวีของแบบ 1 ห้องนอน Type A ค่ะ จะได้ชั้นด้านล่างมา ส่วนชั้นลอยด้านบนในห้องจริงจะไม่ได้ค่ะ

หน้าตา Doorstopper กั้นประตูทางเข้าห้องค่ะ

ตู้ Built-in ติดผนัง มีช่องเก็บของแบบมีบานเปิดค่ะ เป็นชั้นลอย ด้านล่างวางของได้อีก

ส่วนแบบ 1 ห้องนอน Type B จะได้ตู้วางทีวีเป็นรูป L ค่ะ

ชั้นวางทีวีแบบนี้ได้พื้นที่เก็บของมาเยอะกว่าแบบ 1 ห้องนอน Type A ค่ะ

โซฟาแบบ 2 ที่นั่งของแบบ 1 ห้องนอน Type A ค่ะ

โซฟาของแบบ 1 ห้องนอน Type B เป็นแบบ 2 ที่นั่งเช่นกัน แต่จะยาวกว่าแบบ 1 ห้องนอน Type A ค่ะ

โต๊ะอเนกประสงค์จะเอาไว้นั่งทำงานหรือรับประทานอาหารก็ได้ค่ะ พอไม่ใช่แล้วก็สามารถพับเก็บได้ ช่วยให้พื้นที่ห้องดูโล่งขึ้น ซึ่งแบบ 1 ห้องนอน Type A นั้นจะได้โต๊ะนี้มาเป็นโทนสีเทาเข้ม ส่วนเก้าอี้นั้นจะได้เหมือนของแบบ 1 ห้องนอน Type B ค่ะ

แบบ 1 ห้องนอน Type B ก็ได้โต๊ะมาเช่นเดียวกัน แต่จะเป็นโทนสีอ่อนกว่า เก้าอี้นั้นก็จะได้ตามแบบนี้เลยค่ะ

ให้ดูพื้นที่ใต้โต๊ะค่ะ ใช้เป็นที่เก็บของได้ด้วย

แบบ 1 ห้องนอน Type B ก็จะเหมือนกันค่ะ ต่างกันแค่โทนสี

วัสดุผิวของโต๊ะเคลือบเมลามีนค่ะ

สวิตช์ไฟ Panasonic

ได้แอร์มา 2 ตัวของ Mitsubishi ค่ะ ติดตรงด้านบนของโต๊ะอเนกประสงค์หน้าทางเข้าครัว 1 จุด

ภายในห้องนอนอีก 1 จุด

พื้นลามิเนตสีน้ำตาลเทาค่ะ บัวพื้นก็สีใกล้เคียงกับพื้นลามิเนต ส่วนผนังห้องทั้งหมดจะเป็นฉาบเรียบทาสีขาวค่ะ

พื้นระหว่างห้องไม่มีรอยต่อค่ะ

ปลั๊กไฟ Panasonic

ได้เตียงแบบ 5 ฟุต ตรงหัวเตียงจะเป็นพื้นไม้พอดีกับเตียงค่ะ

หน้าตาบานตู้เสื้อผ้าแบบ 1 ห้องนอน Type A ค่ะ จะเป็นบานไม้

ส่วนแบบ 1 ห้องนอน Type B จะเป็นบานปิดเมลามีนสีอ่อน

หน้าตาบานจับของตู้เสื้อผ้าค่ะ สอดนิ้วไปเปิดเอา อย่างที่บอกว่าแบบ 1 ห้องนอน Type A จะเป็นผิวไม้

ส่วนตู้เสื้อผ้าแบบ 1 ห้องนอน Type B บานจับก็เหมือนกันค่ะ แต่ผิวเคลือบจะเป็นเมลามีนเหมือนกับเคาท์เตอร์ครัว และโต๊ะอเนกประสงค์ค่ะ

ด้านในตู้เสื้อผ้าค่ะ ชั้นบนมีที่เก็บของ

ราวแขวนเสื้อผ้าตรงกลาง

ถ้าเป็นแบบ 1 ห้องนอน Type B จะมีลิ้นชักเก็บของด้านล่างเพิ่มมาให้ด้วย ส่วนแบบ 1 ห้องนอน Type A จะไม่มีให้ค่ะ

ติดกับตู้เสื้อผ้าของทั้ง 2 แบบจะเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง มีบานกระจกแนวยาวให้ตามรูป แต่จะไม่มีกรอบไม้ด้านข้างให้แบบห้องตัวอย่างค่ะ

พื้นที่ของโต๊ะเครื่องแป้งค่ะ ขนาดค่องเล็กกะทัดรัด สีของพื้นผิววัสดุนั้นจะเหมือนกับตู้เสื้อผ้าค่ะ

ลิ้นชักตรงโต๊ะเครื่องแป้งค่ะ

หน้าตาบานกระจกตรงห้องนอนค่ะ ให้มาค่อนข้างใหญ่ ช่วยให้แสงธรรมชาติเข้ามาได้ดี

ตรงห้องนอนที่เป็นบานกระจก จะได้หน้าตาบานกระทุ้งมา 1 บานค่ะ ไว้ระบายอากาศ

ตู้เก็บของ Built-in สูงเท่ากับความสูงห้องค่ะ อยู่ด้านหน้าห้องน้ำ ในห้องแบบ 1 ห้องนอน Type B

ด้านในนั้นจะแบ่งพื้นที่ไว้ตามการใช้งาน

ระหว่างครัวกับระเบียงมีธรณียกสูงเกิือบ 10 ซม.

ประตูออกไประเบียงเป็นประตูบานเลื่อนอลูมิเนียมอบสีดำ

ตัวล็อคบานประตูตรงระเบียงค่ะ

ราวระเบียงเป็นเหล็กกล่องทาสีเทาดำ

ระเบียงแบบ 1 ห้องนอน Type A ด้านหนึ่งเป็นพื้นที่ซักล้างมีก๊อกน้ำติดไว้ให้ ส่วนอีกด้านวางเครื่องซักผ้า (พอดีวันที่ถ่ายรูปฝนตกหนัก ระเบียงเลยโดนน้ำฝนไปหน่อยค่ะ)

ส่วนแบบ 1 ห้องนอน Type B ก็วางเหมือนแบบ Type A เลย เพียงแต่ขนาดจะกว้างขึ้นมานิดหน่อย

คอมเพรสเซอร์แอร์ทุกห้องจะเป็นแบบแขวนอยู่ตรงระเบียง หันเข้าหากำแพงห้อง

ตรงที่แขวนคอมเพรสเซอร์แอร์ จะมีแผงบังเอาไว้ให้ด้วยค่ะ

เปิดกระเป๋า  ดูสตางค์

ราคาเริ่มต้นวันที่แวะเข้าไปทำรีวิว (21 ตุลาคม 2558) แบบ 1 ห้องนอน Type A นั้นเริ่มที่ 1.499 ล้านบาทค่ะ เป็นราคาโปรโมชั่น ส่วนราคาเฉลี่ยของโครงการจะอยู่ที่ประมาณ 64,000 บาทต่อตารางเมตร  ซึ่งก็ยังถือเป็นคอนโดในกลุ่มราคาประหยัดซื้อหาจับต้องง่ายอยู่ค่ะ  เป็นราคาที่กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เพิ่งเริ่มทำงานซื้อหาได้ไม่ยากนัก  ห้องทางทิศเหนือจะมีราคาสูงกว่าทิศอื่น ส่วนราคาในแต่ละชั้น ยิ่งเป็นชั้นสูงขึ้นไปราคาก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เฉลี่ยต่อชั้นจะเพิ่มขึ้นประมาณ 3-4 หมื่นบาทต่อชั้นต่อห้องค่ะ

• อัพเดทราคาเพิ่มเติม ณ วันที่ 30 มีนาคม 2559 ค่ะ แบบ 1 ห้องนอน Type A ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1.76 ล้านบาท ส่วนแบบ 1 ห้องนอน Type B จะเริ่มต้นที่ประมาณ 2.02 ล้านบาทค่ะ 

ราคา ณ วันที่ 21 ตุลาคม 2558

ราคาเริ่มต้น :

1 bedroom Type A  พื้นที่ 25.57  ตร.ม. ชั้น 2  ราคา 1,499,000 บาท เฉลี่ย 58,623 บาท/ตร.ม. (ราคาโปรโมชั่น)

1 bedroom Type B พื้นที่ 31.71 ตร.ม. ชั้น 2 ราคา 1,954,035 บาท เฉลี่ย 61,622 บาท/ตร.ม

2 bedroom Type C พื้นที่ 49.95 ตร.ม. ชั้น 2 ราคา 3,127,136 บาท เฉลี่ย 62,605 บาท/ตร.ม

เงื่อนไขการจอง :

• เงินจอง

1 Bedroom จอง 10,000 บาท / ทำสัญญา 40,000 บาท

2 Bedroom จอง 20,000 บาท / ทำสัญญา 40,000 บาท

• ผ่อนดาวน์

1 bedroom Type A ผ่อนดาวน์ 14 งวด งวดละ 9,278 บาท

1 bedroom Type B ผ่อนดาวน์ 14 งวด งวดละ 13,178 บาท

2 bedroom Type C  ผ่อน 14 งวด งวดละ 22,519 บาท

ราคา ณ วันที่ 30 มีนาคม 2559 (อัพเดท)

ราคาเริ่มต้น :

1 bedroom Type A  พื้นที่ 26.15  ตร.ม. ชั้น 4  ราคา 1,760,271 บาท เฉลี่ย 67,314 บาท/ตร.ม.

1 bedroom Type B พื้นที่ 31.89 ตร.ม. ชั้น 2 ราคา 2,022,982 บาท เฉลี่ย 63,436 บาท/ตร.ม

เงื่อนไขการจอง :

• เงินจอง

1 Bedroom จอง 10,000 บาท / ทำสัญญา 40,000 บาท

• ผ่อนดาวน์

1 bedroom Type A ผ่อนดาวน์ 14 งวด รวม 176,027 บาท

1 bedroom Type B ผ่อนดาวน์ 14 งวด รวม 202,298 บาท

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :

ค่าส่วนกลาง  45  บาท/ตร.ม.  (ชำระล่วงหน้า 1  ปี)
ค่ากองทุนเริ่มแรก (Sinking Fund)  500 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)

ประมาณอัตราการผ่อน (คิดจากราคาเริ่มต้นด้านบน) 

(เพื่อให้เห็นกรอบของค่าใช้จ่ายคร่าวๆและนำไปวางแผนประมาณการของแต่ละคนค่ะ  ถึงไม่ได้ซื้อห้องที่ยกมาเป็นตัวอย่างก็ใช้ตัวเลขได้ ซึ่งผมประมาณการอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าปกติหน่อย  เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรองรับความสามาารถในการผ่อน  รวมถึงให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆที่เกิดขึ้น  เช่น  ค่าส่วนกลาง ไปด้วยในตัว) :

บนสมมติฐาน กู้  87% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 30 ปี

1 bedroom Type A พื้นที่ 26.15 ตร.ม.  ราคาขาย 1,760,271 บาท  ผ่อนประมาณ 10,661 บาท/เดือน

1 bedroom Type B พื้นที่ 31.89 ตร.ม.  ราคาขาย 2,022,982 บาท  ผ่อนประมาณ 12,304 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  87% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 25 ปี

1 bedroom Type A พื้นที่ 26.15 ตร.ม.  ราคาขาย 1,760,271 บาท  ผ่อนประมาณ 11,267 บาท/เดือน

1 bedroom Type B พื้นที่ 31.89 ตร.ม.  ราคาขาย 2,022,982 บาท  ผ่อนประมาณ 13,004 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  87% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 20 ปี

1 bedroom Type A พื้นที่ 26.15 ตร.ม.  ราคาขาย 1,760,271 บาท  ผ่อนประมาณ 12,282 บาท/เดือน

1 bedroom Type B พื้นที่ 31.89 ตร.ม.  ราคาขาย 2,022,982 บาท  ผ่อนประมาณ 14,176 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  87% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 15 ปี

1 bedroom Type A พื้นที่ 26.15 ตร.ม.  ราคาขาย 1,760,271 บาท  ผ่อนประมาณ 14,134 บาท/เดือน

1 bedroom Type B พื้นที่ 31.89 ตร.ม.  ราคาขาย 2,022,982 บาท  ผ่อนประมาณ 16,312 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  87% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 10 ปี

1 bedroom Type A พื้นที่ 26.15 ตร.ม.  ราคาขาย 1,760,271 บาท  ผ่อนประมาณ 18,098 บาท/เดือน

1 bedroom Type B พื้นที่ 31.89 ตร.ม.  ราคาขาย 2,022,982 บาท  ผ่อนประมาณ 20,888 บาท/เดือน

Overview Summary

ด้านการเดินทาง

การเดินทางก็ถือว่าสะดวกในระดับหนึ่งค่ะ เพราะซอยแบริ่ง หรือซอยสุขุมวิท 107 นั้นสามารถเข้าออกได้ทั้งจากทางสุขุมวิทและทางศรีนครินทร์  โดยซอยย่อยต่างๆของซอยแบริ่งนั้นยังสามารถเชื่อมไปออกสุขุมวิท 105 และ สุขุมวิท 109 ได้อีกด้วย ส่วนการใช้ทางด่วนนั้น จากโครงการไปขึ้นทางพิเศษเฉลิมมหานครตรงแยกบางนาก็ไม่ไกลมาก  ออกจากปากซอยแบริ่งแล้วก็ไปอีกประมาณ 2 กิโลกว่าค่ะ

ส่วนการเดินทางด้วยรถไฟฟ้านั้นจากสถานี BTS แบริ่ง จะต้องใช้บริการพี่วิน หรือรถสองแถวเอาค่ะ เพราะจากโครงการเดินไปรถไฟฟ้านั้นประมาณกิโลกว่า  ถามว่าไกลไหม?  ก็คงต้องตอบว่าไกลพอสมควร แต่นั่นก็แลกมาด้วยราคาต่อตารางเมตรที่ยังไม่แพงมากนัก

ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต

โครงสร้างพื้นฐานในบริเวณรอบๆของโซนนี้จะเป็นส่วนต่อขยายของรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว จากแบริ่งไปจนถึงสมุทรปราการ ตามแผนจะเปิดใช้บริการประมาณปี 2562 ค่ะ ตอนนี้คอนโดก็เริ่มจะกระจายตัวออกไปรอบนอกกันมากขึ้น พอเปิดใช้งานจริงก็คงจะทำให้คนที่อยู่ไกลออกไปสะดวกมากยิ่งขึ้น  ตลาดคอนโดเองก็เช่นกัน  ส่วนบริเวณรอบสถานีแบริ่งเองนั้นอาจจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดมากนัก ยังเป็นโซนที่มีปนกันทั้งที่อยู่อาศัย, คอนโด, สำนักงานและโรงงานต่างๆ คละๆกันไป ปัจจุบันก็ยังมีคอนโดเปิดใหม่เพิ่มขึ้น ราคาของตลาดคอนโดในซอยก็คงเติบโตขึ้นบ้าง แต่อาจจะไม่ได้หวือหวานักค่ะ   คอนโด high rise ราคาสูงก็จะเกาะอยู่ตามแนวส่วนต่อขยายของรถไฟฟ้า  ส่วนีคอนโด low rise ที่ราคาต่ำลงมาก็จะต้องเข้าซอยมาหน่อยตามธรรมเนียม

ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ

แปลงที่ดินของคอนโด Urban Attitude นั้นเป็นรูปเกือบจะสี่เหลี่ยมจัตุรัสค่ะ  ทางด้านทิศตะวันตกนั้นจะถูกบล็อกวิวโดยอาคารข้างเคียงสูง 5 ชั้น  โครงการเลยดีไซน์การวางแปลนออกมาแก้ปัญหาโดยปิดทึบด้านนั้นและวางอาคารเป็นตัว U มีคอร์ทตรงกลางแทน  ซึ่งทำให้ไม่มีห้องไหนที่ต้องเห็นด้านข้างของอาคารข้างเคียงที่ไม่สวยเลย  แต่ก็จะมีห้องไซส์เล็กสุดที่หันหน้าหากันเองในคอร์ทนะคะ  นอกนั้นห้องพักต่างๆก็จะถูกวางตำแหน่งให้หันออกไปด้านนอกหมด  ซึ่ง ณ ปัจจุบันก็ยังโล่งอยู่ไม่ถูกบล็อกวิวค่ะ

หน้าตาของคอนโดใช้โทนขาวและเทาเป็นหลัก และเพิ่มลูกเล่นด้วยสีทองมาสร้างสีสันบนตัวอาคารให้ดูหรูหรามากยิ่งขึ้น  ตัวอาคารด้านในรูปตัว U นั้นจะทำเป็นสวนแนวตั้งด้วย การวางแปลนห้องนั้นแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งอย่างที่เล่าไปแล้ว คือฝั่งตัว U ด้านนอกและด้านใน ซึ่งด้านที่จะโดนแดดบ่ายนั้นจะโดนปิดทึบไว้หมด ทำเป็น Facade อาคารด้านข้างแทนค่ะ  จุดนึงที่ต้องชมคือให้หน้าต่างมาบานใหญ่มาก  เมื่อเทียบกับระดับราคาขาย  ซึ่งก็จะช่วยทำให้ห้องดูสว่างมากขึ้นด้วยค่ะ

การจัดแปลนห้องของคอนโด Urban Attitude นั้นหลักๆจะแบ่งเป็น 3 แบบ คือ 1ห้องนอน Type A, 1 ห้องนอน Type B และ 2 ห้องนอน Type C ซึ่งแปลนของแบบ1 ห้องนอน Type A และ B นั้นแทบจะคล้ายกันเลย เพียงแต่แบบ 1 ห้องนอน Type B จะมีพื้นที่เพิ่มมากกว่า รวมไปถึงได้พื้นที่เก็บของมาเพิ่มด้วยค่ะ พอพื้นที่เพิ่มก็เลยดูลงตัวมากกว่า แต่โดยรวมของการจัดวางฟังก์ชั่นการใช้งานของทั้ง 2 แบบนี้ ทำออกมาได้ดี เป็นสัดเป็นส่วนดีค่ะ ห้อง Type A ก็อาจจต้องทำ Built-in ตู้เก็บของเพิ่มหน่อย  ส่วนแบบ 2 ห้องนอนนั้นก็เป็นแบบทั่วๆไป มีเพียง 2 ห้องต่อชั้นเท่านั้น

ด้านวัสดุนั้นให้มาดีในภาพรวมกับราคาค่ะ ได้มาแบบ Fully furnished เทียบกับราคาแล้วก็จัดว่าแข่งขันได้ในตลาดกับคู่แข่งโดยตรงอย่างคอนโด Pause ID  มีเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหลักๆ มาให้ เช่น เตียง, ชั้นวางทีวี, โซฟา, โต๊ะทำงาน, ตู้เสื้อผ้า และตู้เก็บของ ผิวสัมผัสดี ดูแข็งแรงทนทานค่ะ วัสดุในห้องน้ำก็ให้มาโอเค มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้ด้วย แถมฝักบัวยังได้มา 2 แบบ แต่อาจจะต้องติดพวกชั้นวางของในห้องน้ำเพิ่มเติมเองค่ะ ส่วนครัวนั้นในภาพรวมก็ให้มาค่อนข้างดี มีเคาท์เตอร์ครัว พร้อมเตาไฟฟ้าและที่ดูดควันให้ แต่พื้นที่ตรงเคาท์เตอร์ครัวค่อนข้างแคบค่ะ วางเตากับอ่างล้างจาน พื้นที่ก็หมดแล้ว เวลาทำอาหารจริงๆจังๆ อาจจะต้องลำบากหน่อย

ในเรื่องของพื้นที่ส่วนกลางของคอนโด Urban Attitude นั้น เนื่องจากเป็นคอนโดราคาค่อนข้างย่อมเยา ส่วนกลางอาจจะไม่ได้หรูหรามากนัก มีตามพื้นฐานอย่างสระว่ายน้ำ, ฟิตเนส และสวนที่ดาดฟ้า มีล็อบบี้ที่รวมกับห้องสมุดให้เพิ่มเติมที่ชั้น 2  ขนาดจะไม่ใหญ่นัก  แต่ก็ถือว่าครบ  เรื่องความหนาแน่นของการใช้งานนั้นเฉลี่ยที่ 69 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว  สัดส่วนถือว่าดีมากค่ะ  ที่จอดรถอยู่ที่ประมาณ 35% นั้น ถ้ามองในเชิงตัวเลขอาจจะไม่มากนัก  แต่ถ้าเทียบกับระดับราคาก็ถือว่ายังพอยอมรับได้

ด้านตัวเลือกอื่นๆ

ตัวเลือกคอนโด Low rise ในซอยแบริ่งและซอยข้างเคียงมีค่อนข้างเยอะค่ะ ซึ่งก็เป็นการแข่งกันของ 2 ดีเวลลอปเปอร์ อย่าง Urban Property กับ Origin Property ซึ่งแข่งกันทั้ง high rise condominium และ low rise condominiumอย่าง The Gallery ก็มาชนกับ Knightsbridge ซึ่งทั้ง 2 โครงการเป็นคอนโดสร้างเสร็จพร้อมอยู่ ติดถนนสุขุมวิท 107 ส่วน Urban Attitude ก็ชนก็ Pause ID ค่ะ  ซึ่งจะเงียบสงบกว่า และราคาย่อมเยากว่าเนื่องจากเป็น low rise เข้ามาในซอยค่ะ

Score Summary

สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยค่ะ  (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนคอนโดมิเนียมที่นี่)

และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่  https://www.facebook.com/Yusabuy

ทุกท่านสามารถสนับสนุนให้อยู่สบายสามารถทำรีวิวออกมาได้เรื่อยๆค่ะ  เพียงแค่เวลาไปดูโครงการบ้านและคอนโดที่ต่างๆ  เพียงช่วยระบุในแบบสอบถามของโครงการว่า ”อยู่สบาย.com” เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ท่านติดตามอ่านอยู่  เวลาทางทีมงานขออนุญาตโครงการต่างๆเข้าไปทำรีวิวจะได้ทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นค่ะ  (^_____^)

ถ้าหากว่ารีวิวของเรามีประโยชน์  ช่วยกด Like ด้านล่างสำหรับกำลังใจในการทำรีวิวของทีมงานด้วยนะคะ