สวัสดีค่ะ  รีวิวนี้พามาชม คอนโด The Privacy ลาดพร้าว-เสนา จาก พฤกษา เรียลเอสเตท ค่ะ รูปแบบของแบรนด์ The Privacy นั้นพฤกษาวางเอาไว้จับตลาดราคาไม่สูงนักที่หยิบจับซื้อหากันได้ไม่ยาก โดยมักจะเลือกทำเลในซอยย่อยๆ แต่อยู่ในเขตชุมชนมาพัฒนา อย่างเช่น The Privacy งามวงศ์วาน และ The Privacy เรวดี ที่เราเคยพาไปชมโครงการกันมาแล้ว มาดู คอนโดเดอะ ไพรเวซี่ ลาดพร้Œาว-เสนากันดีกว่าค่ะ จะเหมือนหรือต่างจาก The Privacy โครงการก่อนๆอย่างไรบ้าง ไปชมกันเลยค่ะ

เริ่มจากข้อมูลเบื้องต้นของโครงการกันก่อน

The Privacy Ladprao-Sena

(เดอะ ไพรเวซี่ ลาดพร้าว-เสนา)

• เจ้าของโครงการ >>> Pruksa Real Estate (พฤกษา เรียลเอสเตท)
• ที่ตั้งโครงการ >>>  ถนนลาดพร้าววังหิน ปากซอยลาดพร้าววังหิน 43
• ขนาดที่ดิน >>> : 3-0-12.9 ไร่
• จำนวนชั้น >>> 8 ชั้น
• จำนวนอาคาร >>>  2 อาคาร
• ประเภทห้องและขนาดห้อง >>>
  • 1 ห้องนอน 22.50 – 26.00 ตารางเมตร
  • 2 ห้องนอน (2 ห้องชุดรวมกัน) 45.00  ตารางเมตร
• จำนวนยูนิต >>> ห้องพักอาศัย  376  ยูนิต และร้านค้า 1 ร้าน
• ที่จอดรถ >>> 40% รวมจอดซ้อนคัน
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> 1.09 ล้านบาท
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> ราคาเฉลี่ยประมาณ 60,000 บาท/ตารางเมตร
• พิกัด GPS >>> 13.809619, 100.591201

คอนโด The Privacy ลาดพร้าว-เสนา ตั้งอยู่ติดถนนลาดพร้าววังหิน ตรงปากซอยลาดพร้าววังหิน 43 ซึ่งถนนลาดพร้าววังหินสามารถเข้าออกได้หลายทางค่ะ ถนนหลักๆจะอยู่รอบๆ ทั้ง 4 ทิศ ได้แก่ ถนนประเสริฐมนูกิจ (เกษตร-นวมินทร์) ตรงไปก็เป็นมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน, ออกมาจากโชคชัย 4 เข้าถนนประดิษฐ์มนูธรรม (เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทราฯ) และใช้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ได้,  ถนนพหลโยธินที่จะมีบางซอยย่อยที่สามารถออกไปถนนรัชดาภิเษกได้ และถนนลาดพร้าวที่ปัจจุบันจะมีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ลาดพร้าว เป็นรถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุดกับโครงการ (ใกล้ที่สุดแต่ก็ยังไกลอยู่)  ส่วนในอนาคตบริเวณนี้จะมีโครงการส่วนต่อขยายของรถไฟฟ้ามหานคร (MRT) ในอนาคตสายสีเหลือง ลาดพร้าว – ศรีนครินทร์ – สำโรง (เส้นประสีเหลือง) และ รถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต (เส้นประสีเขียว) ที่กำลังเริ่มดำเนินการเตรียมการก่อสร้างอยู่เกิดขึ้นมาด้วยค่ะ

เริ่มเดินทาง ดูทำเล

วันนี้เราเริ่มเดินทางจากถนนลาดพร้าวบริเวณ MRT ลาดพร้าวค่ะ ผ่านแยกรัชดา-ลาดพร้าวมาตามถนนลาดพร้าวเรื่อยๆ จนถึงซอยลาดพร้าว 41 หรือซอยภาวนา ให้เลี้ยวเข้าซอยนี้ จะไปออกถนนลาดพร้าววังหินได้ค่ะ ถ้ามาจากลาดพร้าวโครงการก็จะอยู่ด้านซ้ายมือพอดีค่ะ ซึ่งตอนนี้ตัวโครงการยังล้อมรั้วกันขอบเขตเอาไว้ ไม่ได้เริ่มก่อสร้าง ส่วนสำนักงานขายนั้นจะไม่ได้อยู่ตรงที่ตั้งโครงการ แต่จะอยู่ในโครงการ Green Plaza ปากซอยลาดพร้าว 77 ค่ะ

พาไปที่สำนักงานขายที่อยู่ในโครงการกรีน พลาซ่า ปากซอยลาดพร้าววังหิน 77 กันต่อ ตัวสำนัักงานขายนั้นจะอยู่ห่างจากที่ตั้งโครงการไปประมาณ 1.5 กิโลเมตรค่ะ

มาดูตำแหน่งรอบๆตัวคอนโดก่อนว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนกันบ้าง

คอนโด The Privacy ลาดพร้าว-เสนา อยู่ตรงปากซอยลาดพร้าววังหิน 43 ทางทิศเหนือตรงไปเรื่อยๆจะเป็นแยกวังหินและถนนเกษตร-นวมินทร์ ทิศตะวันออกเป็นถนนโชคชัย 4 ถนนเลียบทางด่วนรามอินทราและทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ทิศตะวันตกเป็นถนนพหลโยธินและถนนรัชดา ส่วนทิศใต้เป็นถนนลาดพร้าว ถ้าจะไปขึ้นรถไฟฟ้านั้น ปัจจุบัน MRT สถานีลาดพร้าวจะอยู่ใกล้สุด ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตรส่วน ในอนาคตจะมีทั้งรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว – ศรีนครินทร์ – สำโรง ใกล้สุดจะเป็นสถานีภาวนา และรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต

บริเวณที่ตั้งโครงการ ช่วงซอยลาดพร้าววังหิน 43 จะเป็นชุมชนที่ค่อนข้างอยู่กันหนาแน่นและอยู่มานานแล้วค่ะ  ถนนที่เชื่อมพื้นที่ต่างๆ นั้นจะไม่ใช่ถนนเส้นใหญ่มาก  มีซอยเล็กซอยน้อยเยอะ สามารถไปออกโชคชัย 4 และเสนานิคม 1 ซอยรัชดาได้สบายๆ  ที่อยู่อาศัยในพื้นที่ก็มีทั้งบ้านเดี่ยว ตึกแถวอาคารพาณิชย์ โครงการบ้านจัดสรรแนวราบ และคอนโดมิเนียมที่เริ่มจะมีโครงการขึ้นบริเวณนี้อยู่ก่อนแล้วบ้างค่ะ  บริเวณไม่ไกลจากโครงการมากนักจะมีคอมมูนิตี้มอล์ขึ้นอยู่หลายโครงการเลยค่ะ อย่าง The Jas วังหิน ,  Plaza lagoon รวมถึงมี Lotus วังหิน ที่ด้านหน้าก็จะมีพื้นที่ร้านค้าและธนาคารอยู่ รวมไปถึง Green Plaza ที่เป็นที่ตั้งสำนักงานขายก็มีร้านค้า และร้านอาหารอยู่เยอะเลยค่ะ

สิ่งอำนวยความสะดวกก็จะมีกระจายตัวอยู่รอบๆ บริเวณถนนพหลโยธินก็จะมีโรงพยาบาลเมโย เข้าจากซอยเสนานิคม 1 ได้ค่ะและโรงพยาบาลเปาโลสยาม ในซอยโชคชัย 4  ถนนรัชดาจะมีศาลอาญา และ มรฎ.จันทรเกษม ไปทางเกษตร-นวมินทร์จะเป็น ม.เกษตรฯ ค่ะ เส้นลาดพร้าวจะมี ตลาดโชคชัย 4 … ส่วนบริเวณถนนโชคชัย 4 ที่เชื่อมต่อกับถนนลาดพร้าววังหิน โซนนี้ของกินกมีให้เลือกเยอะมากเลยค่ะ เส้นเลียบทางด่วนรามอินทราจะเริ่มเป็นคอมมูนินี้มอล เช่น The Walk รามอินทรา, Crystal Design Center (CDC), The Crystal รวมถึง Tesco Lotus Extra สาขารามอินทราค่ะ  และและสุดก็เพิ่งมี  Central Festival East Ville  ศูนย์การค้าล่าสุดจากทางเซ็นทรัลพัฒนา มาเปิดบริเวณนี้ เป็นตัวเลือกเพิ่มขึ้นมาจาก เซ็นทรัล ลาดพร้าว หรือเซ็นทรัล รามอินทราค่ะ ที่อยู่ห่างออกไปค่ะ

มาดูใกล้ๆกันบ้างว่ารอบๆโครงการมีอะไรอยู่ใกล้ๆ เริ่มจากที่ด้านหน้าที่ทิศใต้ที่ติดกับที่ดินโครงการจะมีบ้านพักอาศัยชั้นเดียว (หมายเลข 1) อยู่ติดถนนลาดพร้าววังหินเลยค่ะ ทำเป็นร้านขายของชำ ฝั่งนี้จะมีถนนเข้าไปบ้านพักอาศัยที่อยู่ด้านในค่ะ อีกด้านติดกับถนนย่อยจะเป็นพื้นที่โล่ง ทำเป็นตลาดนัด (หมายเลข 2) จะเป็นช่วงบ่ายๆเย็นๆ ค่ะ อีกฝั่งทางทิศเหนือจะติดกับซอยลาดพร้าววังหิน 43 ปากซอยอีกฝั่งจะเป็นเพิงร้านขายอาหาร (หมายเลข 3) ค่ะ ติดกับร้านขายอาหารจะเป็นอาคารพาณิชย์ สูง 4 ชั้นอยู่ติดถนนลาดพร้าววังหิน เข้ามาในซอยลาดพร้าววังหิน 43 ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น (หมายเลข 4) จะมีซอยย่อยที่สามารถไปออกซอยลาดพร้าววังหิน 45 ได้ เลยตัวที่ดินโครงการไปนิดนึงจะมีอาคารสำนักงานสูง 4 ชั้น (หมายเลข 5) ตั้งอยู่ เป็นอาคารเดียวภายในซอยนี้ค่ะ

ออกมาบริเวณถนนลาดพร้าววังหินฝั่งตรงข้ามที่ตั้งโครงการ ส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์สูงตั้งแต่ 2-4 ชั้นค่ะ ชั้นล่างจะเป็นร้านค้า จะมีร้านสำหรับอุปกรณ์รถยนต์ ร้านซ่อมและล้างรถยนต์ ค่อนข้างเยอะตลอดแนวลาดพร้าววังหิน ฝั่งตรงข้ามกับซอยลาดพร้าววังหิน 43 จะมีร้านอาหารตั้ว ราชบุรี ข้าวแกง (หมายเลข 6) ขายทั้งข้าวแกง และก๋วยเตี๋ยว ส่วนฝั่งตรงข้ามกับตลาดจะเป็นตึกแถวที่ด้านล่างทำเป็นเซเว่น (หมายเลข 7)

ลงมาฝั่งที่จะไปลาดพร้าวจะมีซอยลาดพร้าว 39/1 ซึ่งเป็นซอยทางเข้าคอนโด The Niche ID ลาดพร้าว-วังหิน (หมายเลข 8) เป็น คอนโด Low rise เช่นเดียวกัน สร้างเสร็จเมื่อปีก่อน ส่วนฝั่งที่จะไปสี่แยกวังหินนั้นตลอดแนวก็จะเป็นตึกแถว อาคารพาณิชย์เป็นส่วนใหญ่ค่ะ บริเวณปากซอยลาดพร้าววังหิน 47 ก็มีแฟมิลี่ มาร์ท (หมายเลข 10) รวมถึงร้านค้าอื่นๆ อยู่บริเวณนี้ ตรงไปเรื่อยๆจะมีศูนย์รับฝากไปรษณีย์จำนวนมาก โชคชัย 4 (หมายเลข 11) ค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบคอนโด

พาไปเดินเล่นรอบๆที่ตั้งโครงการ ก่อนจะพาเข้าสำนักงานขายเพื่อดูห้องตัวอย่างกันค่ะ

ฟุตบาทด้านหน้าโครงการค่ะ ถือว่าสภาพยังโอเคอยู่ จะมีฝาท่อโผล่นูนมาบ้างเล็กน้อย

ฝั่งนี้จะเรียบๆ เดินออกไปหาของกินบริเวณข้างเคียงได้สบายๆ

ด้านหน้าติดกับที่ดินจะเป็นบ้านชั้นเดียว เป็นร้านขายของชำ

บ้านชั้นเดียวที่อยู่ติดกับที่ดินของโครงการทางด้านข้างที่ติดกับซอย

ซอยฝั่งทิศใต้ที่อยู่ติดกับโครงการจะเป็นซอยที่ไม่มีชื่อซอยค่ะ หัวมุมซอยอีกฝั่งจะเป็นพื้นทีตลาดนัด

ด้านในตลาดนัดค่ะ ตอนที่ถ่ายเป็นช่วงบ่ายๆ ร้านเลยยังมีไม่มากนัก ตลาดนี้จะออกแนวชาวบ้านหน่อยนึง

ซอยที่ไม่มีชื่อที่อยู่ติดกับตลาดนัด  เป็นถนนดินบดอัดธรรมดา ไม่ได้เป็นถนนคอนกรีต

เข้ามาด้านในสุดจะเป็นบ้านพักอาศัยค่ะ

ส่วนด้านหลังตลาดนัด จะเป็นพื้นที่โล่งทำเป็นที่จอดรถค่ะ

บ้านพักอาศัยที่อยู่ด้านใน

ทางทิศเหนือจะเป็นซอยลาดพร้าววังหิน 43

ด้านหน้าเป็นเพิงร้านอาหารค่ะ

ติดกับเพิงร้านอาหารจะเป็นอาคารพาณิชย์

อาคารพาณิชย์จะสูงประมาณ 4 ชั้นอยู่ติดถนนลาดพร้าววังหินค่ะ

เข้ามาในซอยลาดพร้าววังหินจะเป็นบ้านพักอาศัย

มีซอยย่อยที่เชื่อมระหว่างซอยลาดพร้าววังหิน 43 และ 45

ถนนด้านในลาดพร้าววังหิน 43 ค่ะ ถนนจะดีกว่าถนนที่ไม่มีชื่อทางทิศใต้ ฝั่งตรงข้ามกับโครงการจะเป็นบ้านพักอาศัยอยู่

เลยที่ดินของโครงการไปนิดเดียว จะมีอาคารสูง 4 ชั้น เป็นอาคารสำนักงานค่ะ นอกนั้นรอบๆก็เป็นบ้านพักอาศัย สูง 2 ชั้นทั้งหมด โซนนี้ด้านในจะไม่ได้เป็นตึกแถว แต่ถ้าเป็นซอยฝั่งตรงข้าม ส่วนใหญ่ด้านในซอยก็เป็นตึกแถวค่ะ

ไปดูรอบๆที่ติดกับที่ดินโครงการกันแล้ว พาออกมาตรงถนนลาดพร้าววังหินที่อยู่ใกล้ๆกับคอนโดกันต่อค่ะ

ถนนด้านหน้าคอนโด ส่วนใหญ่เลนที่ติดกับฟุตบาท ช่วงกลางวันจะมีรถจอดเทียบอยู่เกือบตลอดแนวถนนค่ะ ทำให้รถสามารถวิ่งได้หลักๆ ไปกลับแค่ฝั่งละเลนเท่านั้น

ร้านข้าวแกงฝั่งตรงข้ามกับคอนโด

ร้านขายกรอบรูปก็มีค่ะ

ตึกแถวสูง 2 ชั้นฝั่งตรงข้ามกับคอนโด มองไปเห็นวัดจีนที่อยู่ในซอยสุขสันติ

หน้าตาของตึกแถวฝั่งตรงข้ามคอนโดค่ะ สูงตั้งแต่ 2-4 ชั้น ด้านล่างส่วนใหญ่จะเป็นร้านค้า

ตึกแถวฝั่งตรงข้ามตลาดนัด มีเซเว่นด้วยค่ะ

7-Eleven ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม

ตึกแถวฝั่งตรงข้ามที่อยู่ถัดจากเซเว่นค่ะ

ถนนลาดพร้าววังหินฝั่งที่จะไปลาดพร้าวค่ะ

ถ้าไม่ได้ใช้รถยนต์ส่วนตัว จะมีรถกระป้อวิ่งผ่านตลอด มีหลายสายค่ะ นอกจากนี้ก็ยังมีมอไซค์รับจ้างด้วยค่ะ

ถัดจากตลาดนัดไปหน่อย อยู่ฝั่งเดียวกันก็เป็นตึกแถวเช่นกันค่ะ

ด้านล่างเป็นร้านค้า มี ATM ตั้งอยู่ด้วย

ร้านค้าจะมีอยู่ทั้ง 2 ฝั่ง ค่อนข้างคึกคักและเป็นแหล่งชุมชนจริงๆค่ะ

ไม่ไกลจากโครงการมีซอย 39/1 ด้านในเป็นคอนโด The Niche ID ลาดพร้าว-วังหิน ของ เสนา ดีเวลลอปเม้นท์

ขยับออกไปบริเวณที่จะไปสี่แยกวังหินกันบ้างค่ะ โซนนั้นจะมีคอมมูนิตี้มอลล์อยู่หลายโครงการเลย

ซอยลาดพร้าววังหิน 45 ที่ด้านในไปออกซอยลาดพร้าววังหิน 43 ได้ค่ะ

ตรงข้ามกับซอยลาดพร้าววังหิน 45 เป็นซอยลาดพร้าววังหิน 30 ที่เชื่อมต่อกับซอยสุขสันติ ไปออกโชคชัย 4 ได้ค่ะ

ปากซอยลาดพร้าววังหิน 45 เป็นร้านล้างรถ

ตึแถวอาคารพาณิชย์บริเวณซอยลาดพร้าววังหิน 47

ศูนย์รับฝากไปรษณีย์จำนวนมาก โชคชัย 4

ทาวน์โฮมบ้านกลางเมือง Urbanion ลาดพร้าว-โชคชัย 4

ปั๊มน้ำมัน Susco

ร้านขายอาหารจะมีอยู่ตลอดแนวถนนลาดพร้าววังหินค่ะ

โรงเรียนบุญฤดี หัวมุมลาดพร้าววังหิน 64

ซอยลาดพร้าววังหิน 64 สามารถออกไปถนนรัชดาภิเษกได้ค่ะ

Plaza Lagoon ด้านในมี Max Valu, Food Court, ร้านอาหาร, ร้านกาแฟ รวมถึงมีโรงเรียนดนตรีสยามกลการด้วย

Max Valu เปิด 24 ชั่วโมง

ร้านอาหาร Alpaca View Farm Music & Restaurant  ชื่อร้านอัลปาก้า ก็เลยมีอัลปาก้าตัวจริงอยู่ด้วยค่ะ

ติดกันเป็นร้านสามวันสองคืน สำหรับนัดสังสรรค์กับเพื่อนฝูง

The Jas วังหิน เป็นคอมมูนิตี้มอลล์ มีสตาร์บัคอยู่แยกออกมาเป็นอาคารเดี่ยวๆ

Green Plaza ด้านในก็มีร้านอาหารอยู่

เทสโก้ โลตัส สาขาวังหิน ด้านหน้าเป็น JC Town Square มีร้านค้า และธนาคารตั้งอยู่ด้านหน้าก่อนเข้าโลตัสค่ะ

แยกบ่อปลา บริเวณซอยลาดพร้าววังหิน 79 เลี้ยวขวาไปจะเป็นถนนโชคชัยค่ะ

ถนนลาดพร้าววังหิน บริเวณแยกบ่อปลา ตรงไปจะเป็นสี่แยกวังหิน ส่วนเลี้ยวขวาจะไปโชคชัย 4

ถนนลาดพร้าววังหินฝั่งจะกลับไปยังที่ตั้งคอนโด The Privacy ลาดพร้าว-เสนา และไปถนนลาดพร้าวค่ะ

เริ่มเปิดประตู  ไปดูในโครงการ

มาดูกับที่ตั้งโครงการก่อนจะพาเข้าไปชมสำนักงานขายค่ะ

ด้านหน้าที่ดินคอนโดบริเวณปากซอยลาดพร้าววังหิน 43 ติดถนนลาดพร้าววังหิน

ส่วนใหญ่เลนที่ติดกับฟุตบาทจะไว้จอดรถกันค่ะ

ซอยลาดพร้าววังหิน 43 ด้านข้างโครงการ

บรรยากาศด้านในซอยค่ะ

อีกด้านของที่ดินโครงการก็ติดกับซอยที่ไม่มีชื่อ

ออกจากที่ตั้งโครงการไปดูสำนักงานขายกันต่อ สำนักงานขายจะตั้งอยู่ใน Green Plaza ซอยลาดพร้าววังหิน 77

มีป้ายบอกอยู่ด้านหน้าโครงการกรีน พลาซ่าเลยค่ะ

สำนักงานขายจะอยู่ที่ชั้น 1 ติดกับร้านแว่นแก้วค่ะ

เข้ามาดูภายในสำนักงานขายกัน เข้ามาจะเห็นตัวโมเดลของคอนโดวางอยู่ตรงกลาง

ห้องตัวอย่างจะมีแบบเดียว คือ แบบ 1 ห้องนอน 22.50 ตารางเมตรค่ะ

ดูผังโครงการ  ตำแหน่งการเข้าถึง

ตัวที่ดินของโครงการจะเกือบเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า จะมีทางด้านหน้าตรงทิศใต้ที่จะเว้าเข้าไปหน่อย เนื่องจากติดกับบ้านชั้นเดียวที่มีอยู่ก่อนแล้ว ด้านข้างโครงการจะขนานด้วยถนน คือถนนของซอยลาดพร้าววังหิน 43 และถนนที่ไม่มีชื่อซอย เป็นถนนสองเลนสวนกันได้ คอนโดมีทางเข้าออกทางเดียวอยู่ทางเข้าออกจากถนนลาดพร้าววังหิน ด้านหลังของคอนโดจะติดกับที่โล่งที่มีต้นไม้ขึ้นอยู่ค่อนข้างเยอะ และมีบ้านพักอาศัยอยู่ด้วย  ทางทิศเหนือที่ติดกับซอยลาดพร้าววังหิน 43 ด้านหน้าจะเป็นเพิ่งร้านอาหารชั้นเดียว ติดกับเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น ส่วนภายในซอยส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยเดิมอยู่ 2 ชั้น จะมีอาคารสูง 4 ชั้นโผล่มาโดดๆเพียงอาคารเดียวอยู่เลยจากที่ดินโครงการไปไม่ไกล ทางทิศใต้ที่ติดกับซอยที่ไม่มีชื่อจะเป็นที่โล่ง ซึ่งด้านหน้าติดถนนลาดพร้าววังหินจะทำเป็นตลาดนัด ส่วนด้านหลังจะเป็นพื้นที่จอดรถ ฝั่งตรงข้ามกับที่ดินของคอนโดจะเป็นอาคารพาณิชย์สูงตั้งแต่ 2-4 ชั้น บริเวณนั้นค่อนข้างจะคึกคัก เป็นย่านชุมชน มีร้านอาหารอยู่ค่อนข้างเยอะค่ะ

มาดูวิวจากในที่ดินของโครงการกันค่ะ  ด้านนี้มองไปทางด้านหน้าโครงการติดกับถนนลาดพร้าววังหิน จะเห็นอาคารพาณิชย์ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ส่วนยอดเจดีย์สูงๆเป็นวัดจีน ตั้งอยู่ในซอยสุขสันติ

ฝั่งซอยลาดพร้าววังหิน 43 มองไปที่ถนนใหญ่จะเห็นตึกแถวสูง 4 ชั้นอยู่ด้านหน้าค่ะ

ฝั่งซอยไม่มีชื่อ มองไปก็จะเห็นตึกแถวฝั่งตรงข้ามค่ะ

ด้านหลังโครงการที่เป็นที่โล่ง มีบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้นตั้งอยู่ อาคารที่อยู่ใกล้ๆนั้น The Niche ID ลาดพร้าว-วังหิน ที่อยู่ในซอยลาดพร้าววังหิน 39/1 ค่ะ

ทิศทางแดด  ฝั่งไหนร้อน?  ฝั่งไหนร่ม?

คอนโดมีทั้งหมด 2 อาคาร คือ อาคาร A และ อาคาร B สูง 8 ชั้นเท่ากันค่ะ อาคารที่ติดถนนใหญ่มากกว่าจะเป็นอาคาร A เป็นอาคารรูปตัว l ส่วนอาคารที่อยู่ด้านในจะเป็นอาคาร B เป็นอาคารรูปตัว L ค่ะ  เริ่มจากอาคาร A ห้องจะแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง คือ หันไปทางทิศเหนือและทิศใต้ค่ะ แต่ทางทิศเหนือบางส่วนทางด้านหน้าห้องที่อยู่ต่ำกว่าชั้น 4 จะมองไปเห็นด้านข้างของอาคารพาณิชย์ที่อยู่บริเวณซอยลาดพร้าววังหิน 43 ส่วนห้องทางทิศใต้ จะมีห้องอยู่ประมาณ 4 ห้องที่หันหน้าไปเจอกับห้องทางทิศเหนือของอาคาร B ค่ะ ซึ่งอาคาร B จะเป็นอาคารรูปตัว L มีห้องที่หันไปทุกทิศค่ะ ห้องที่อยู่ทางทิศเหนือและทิศใต้ จะมีจำนวนยูนิตมากกว่าห้องทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตกที่อยู่ด้านหลังสุดของโครงการค่ะ ทิศตะวันออกจะได้วิวสระว่ายน้ำและสวนส่วนกลาง ส่วนทิศใต้จะเห็นด้านที่โดดแดดบ่ายเต็มๆค่ะ วิวฝั่งนี้ยังโล่งๆอยู่

ส่องโมเดล

เริ่มจากด้านหน้าโครงการ มาจากถนนลาดพร้าวค่ะ จะเห็นอาคาร B จะอยู่ด้านในก่อนอาคาร A ที่อยู่ติดถนนใหญ่มากกว่า

ด้านหน้าฝั่งที่ติดกับบ้านชั้นเดียวจะเป็นที่จอดรถค่ะ

จะไม่มีห้องที่หันหน้ามาทางถนนลาดพร้าววังหิน ทำเป็นผนังลายเฉียงไปมา เป็นโทนสีเทาเข้มกับเทาอ่อนค่ะ

Lobby จะอยู่ด้านใน ส่วนด้านหน้าที่เหมือนจะเป็นทางเข้าโครงการนั้นจะเป็นร้านค้าค่ะ

ใต้อาคารชั้น 1 ก็เป็นที่จอดรถค่ะ

จะมีห้องบางส่วนทางทิศใต้ของอาคาร A ที่จะหันไปหาห้องทางทิศเหนือของอาคาร A ค่ะ

หน้าตาอาคาร A ด้านที่อยู่ติดกับซอยลาดพร้าววังหิน 43 เป็นห้องทางทิศเหนือค่ะ

ชั้นดาดฟ้าของอาคาร A จะมีปูหญ้าไว้  ไม่รู้ว่าของจริงจะเป็นหญ้าจริงหรือหญ้าเทียม

ด้านหลังจะเป็นอาคาร B ส่วนกลางจะอยู่ติดกับอาคาร B ค่ะ

ส่วนกลางจะอยู่มุมของอาคาร B ที่เป็นรูปตัว L ด้านที่ด้านมาทางทิศเหนือ กับทิศตะวันออกของอาคาร B จะได้วิวของสระว่ายน้ำและสวนค่ะ

ซูมให้ดูหน้าตาของส่วนกลางในคอนโดค่ะ ชั้นล่างรอบๆพื้นที่อาคารจะเป็นที่จอดรถทั้งหมด

ด้านหลังของอาคาร B ด้านข้างจะเป็นบันไดหนีไฟ มีสวนอยู่ด้านข้างด้วยค่ะ

อาคาร B ด้านหลังทางทิศตะวันตก

อาคาร B ทางทิศใต้ที่อยู่ติดกับถนนด้านข้างโครงการวิวตรงนี้ก็ยังโล่งๆ อยู่ค่ะ แต่อาจจะมีฝุ่นอยู่บ้าง เพราะถนนบริเวณนี้จะเป็นถนนไม่ได้ลาดยาง จะโรยหินกรวดเอาไว้ และมีรถเข้าออกตลอดเวลา อาจจะต้องระวังเรื่องฝุ่นจากถนนด้านนี้ด้วย

พื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งานเป็นอย่างไร

Facilities จะเป็นอาคารส่วนกลางชั้นเดียว แยกออกมาจากอาคาร A และ B มีสระว่ายน้ำอยู่ติดกับอาคารที่เป็นส่วนกลางค่ะ

พื้นที่ส่วนกลางที่ได้มามีสระว่ายน้ำระบบเกลือ 6 x 19 เมตร ส่วนในอาคารชั้นเดียวนั้นจะมี ฟิตเนส ห้องสมุด และห้องซาวน่าค่ะ ด้านบนจะเป็นสวนนั่งเล่นพักผ่อน ส่วนที่จอดรถจะอยู่บริเวณชั้น 1 มีทั้งด้านนอกและอยู่ใต้อาคารในร่มค่ะ

สำหรับสัดส่วนการใช้งานนั้น  สัดส่วนลิฟต์โดยสาร 4 ตัว แบ่งเป็นอาคารละ 2 ตัว กับ 376 ยูนิต รวมทั้ง 2 อาคาร เฉลี่ยแล้วจะได้ 94 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว ถือว่าดีค่ะ แต่ถ้าแบ่งเป็นอาคารแล้วห้องของอาคาร A จะมีน้อยกว่าอาคาร B สัดส่วนความหนาแน่นลิฟต์ของอาคาร A ก็เลยน้อยลงไปด้วย ที่จอดรถ 40% นับรวมจอดซ้อนคัน ก็ดูน้อยไปสำหรับการอยู่จริงในทำเลนี้  แต่เมื่อมองเทียบกับราคาขายแล้วก็ถือว่าต้องยอมรับกันไปค่ะ จากรูปหน้าตา Facilities ทำออกมาสวยดีค่ะ

หน้าตาอาคารส่วนกลางที่อยู่ตรงอาคาร B ค่ะ พวกห้องสมุด ฟิตเนส และ ซาวน่าจะอยู่ด้านในอาคาร ชั้นบนจะทำเป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อน ส่วนสระว่ายน้ำจะอยู่ทางด้านข้างของอาคารค่ะ

สระว่ายน้ำที่อยู่ทางด้านข้าง เป็นสระยาว 6 x 19 เมตร อยู่กลางแจ้งที่ชั้นล่างสุด

ภายในอาคารจะแบ่งเป็นห้องสมุด

ห้องฟิตเนสวิวสระว่ายน้ำ

เปิดผังคอนโด  Typical Floor Plan

Floor Plan คอนโด The Privacy ลาดพร้าว-เสนา ชั้น 1

เริ่มที่ชั้น 1 กัน อาคาร A จะอยู่ทางด้านหน้าติดกับถนนลาดพร้าววังหิน ตัว Lobby ของอาคาร A จะเข้ามาด้านในอยู่ทางด้านข้างของตัวอาคาร ส่วนด้านหน้าที่ติดกับถนนใหญ่จะมีร้านค้า  นอกนั้นจะเป็นที่จอดรถทั้งหมด ไม่มีอาคารพักอาศัยค่ะ ส่วนอาคาร B จะอยู่ด้านใน เป็นอาคารรูปตัว L ด้านนึงของฝั่งอาคารจะเป็นที่จอดรถ ตัวอาคารด้านหลังจะเป็นห้องพักอาศัยค่ะ ส่วนพื้นที่ส่วนกลางและสระว่ายน้ำจะอยู่บริเวณด้านหน้าของอาคาร B ค่ะ

Floor Plan คอนโด The Privacy ลาดพร้าว-เสนา ชั้น 3-8

ห้องพักอาศัยของอาคาร A จะเริ่มที่ชั้น 2 ส่วนอาคาร B เริ่มที่ชั้น 1 แต่พอมาที่ชั้น 2 จะเป็นห้องพักอาศัยทั้งชั้นค่ะ อาคาร A จะมี 18 ห้องต่อชั้น แบ่งห้องออกเป็นห้องที่หันออกนอกโครงการทางทิศเหนือ เป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน 22.50 ตารางเมตร (แปลนสีเขียว) ส่วนห้องที่หันเข้าโครงการอยู่ทางทิศใต้จะเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน 26.00 ตารางเมตร (แปลนสีฟ้า) ซึ่งเป็นห้องที่มีขนาดใหญ่ค่ะ

ส่วนอาคาร B ที่เป็นอาคารรูปตัว L นั้น ห้องฝั่งที่หันออกนอกโครงการจะเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน 22.50 ตารางเมตร (แปลนสีเขียว) จะมีทั้งด้านที่หันไปทางทิศใต้และหันไปทางทิศตะวันตกค่ะ ส่วนห้องที่หันเข้าโครงการจะได้วิวสระว่ายน้ำและสวนส่วนกลางด้วยนั้นส่วนใหญ่จะเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน 26.00 ตารางเมตร หันไปทิศเหนือและทิศตะวันออกค่ะ  และจะมีห้องแบบ 2 ห้องชุดที่มีขนาด 22.5 ตารางเมตร รวมกัน 2 ห้อง จะได้พื้นที่ห้องรวม 45 ตารางเมตร (แปลนสีชมพู) อยู่ชั้นละ 2 ห้อง เป็นห้องริมสุดหันหน้าไปทางทิศตะวันออก และห้องที่อยู่มุมหันหน้าไปทางทิศเหนือค่ะ ตามแปลนแล้วห้อง Combine จะอยู่ที่อาคาร B เพียงอย่างเดียว แต่ตอนนี้ทางโครงการก็มีปรับมาไว้ที่อาคาร A ด้วยค่ะ

แปลนห้องดีไหม?

แปลนของคอนโด The Privacy ลาดพร้าว-เสนา นั้นจะมีิอยู่ 3 แบบด้วยกันค่ะ เป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 22.5 ตารางเมตร และ 26 ตารางเมตร ส่วนอีกแบบจะเป็นห้องแบบ Combine ระหว่างห้องแบบ 22.5 ตารางเมตร 2 ห้องรวมกัน ได้ขนาดห้อง 45 ตารางเมตร มี 2 ห้องนอนค่ะ ซึ่งห้องขนาด 22.5 ตารางนั้น ถือว่าเป็นห้องขนาดเล็กสุดที่เคยมีมาของแบรนด์เดอะ ไพรเวซี่ค่ะ

แปลนห้องคอนโด The Privacy ลาดพร้าว-เสนา

แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 22.50 ตารางเมตร

แปลนห้องจะเกือบเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส ด้านหน้าที่เป็นทางเข้าห้องจะยาวกว่าด้านลึกอยู่นิดหน่อย เข้ามาภายในห้องจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อน มองตรงไปทางด้านในจะเป็นห้องนอนที่กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก ไม่ได้เป็นห้องทึบ ถ้าเปิดประตูห้องนอนให้เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นจะช่วยให้สเปซของห้องดูโล่งขึ้น หน้าห้องนอนจะเป็นทางเดินเข้าไปพื้นที่ครัวและห้องน้ำ ทางเข้าห้องน้ำจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับพื้นที่รับประทานอาหาร ซึ่งสเปซที่วางโต๊ะทานข้าวนั้นจะเป็นสเปซเข้ามุมที่เป็นผนังยุบไปที่ห้องนอน ส่วนตรงด้านนอนจะมีสเปซยุบเข้าไปสำหรับฟังก์ชั่นการวางตู้เสื้อผ้า ส่วนระเบียงห้องจะอยู่ตรงครัวค่ะ  การวางเตียงนอนนั้นจะต้องวางชิดผนังเลยทำให้เหลือที่รอบๆ ไม่มากนักค่ะ  อาจจะลำบากเวลาปูเตียงหน่อย  รวมถึงในเรื่องพื้นที่สำหรับเก็บของใช้ต่างๆ ด้วย

แปลนห้องคอนโด The Privacy ลาดพร้าว-เสนา

แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 26.00 ตารางเมตร

แปลนแบบ 1 ห้องนอน 26 ตารางเมตรจะให้ความรู้สึกถึงความเป็น 1 ห้องนอนมากกว่าแปลนแบบ 22.5 ตารางเมตร เพราะห้องนอนจะถูกแยกไว้เป็นห้องนึงเดี่ยวๆ เลย ไม่ได้สามารถเลื่อนเปิดพื้นที่ได้แบบขนาด 22.5 ตารางเมตร สเปซภายในห้องจะแบ่งหลักๆ ออกเป็น 2 ส่วน คือ พื้นที่ของห้องนอนรวมกับห้องน้ำและพื้นที่ครัว พื้นที่นั่งเล่น และระเบียงรวมกัน ซึ่งขนาดของทั้ง 2 ส่วนนี้จะใหญ่พอกันค่ะ  เข้ามาภายในห้องจะเจอกับสเปซนั่งเล่นพักผ่อน เชื่อมต่อกับพื้นที่ครัว, พื้นที่รับประทานอาหาร และระเบียงห้องค่ะ ระหว่างพื้นที่นั่งเล่นกับครัวจะมีประตูเข้าห้องนอน เข้ามาภายในห้องสเปซก็จะโล่งๆ ทางเข้าห้องน้ำจะอยู่ภายในห้องนอนค่ะ ปลายเตียงจะมีสเปซที่ยุบเข้าไปไว้วางโต๊ะทำงาน หรือโต๊ะเครื่องแป้งค่ะ

ครัวแบบนี้จะเป็นครัวเปิด  ถ้าเป็นคนชอบทำอาหารจริงจังก็จะต้องกั้นห้องเพิ่มเอง โดยที่อาจจะต้องสลับตำแหน่งตู้เย็นกับตำแหน่งโต๊ะรับประทานอาหาร แล้วเอาโต๊ะรับประทานอาหารออกมาไว้ด้านนอกข้างโซฟาแทน  เนื่องจากถ้ากั้นผนังเลยจากแปลนที่ให้มา  จะเห็นว่าตำแหน่งของแนวผนังนั้นจะไปชนกับตำแหน่งวางตู้เย็นพอดี  แต่ถ้าไม่ใช้คนที่ชอบทำอาหารมาก  ก็จะเหลือพื้นที่ข้างโซฟาเอาไว้ตั้งโต๊ะทำงานเล็กๆ  หรือจะทำเป็นตู้เก็บของเพิ่มก็ได้ เวลาอยู่ห้องจะได้ไม่รกค่ะ

แปลนห้องคอนโด The Privacy ลาดพร้าว-เสนา

แบบ 2 ห้องนอน (Combine) ขนาด 45.00 ตารางเมตร

ส่วนแบบสุดท้ายจะเป็นแบบ 2 ห้องชุดรวมกันขนาด 45 ตารางเมตร หลักๆแล้วจะมีเพียง 2 ห้องต่อชั้นในอาคาร B ถ้ามองจากแปลนจะเห็นห้องแบ่งออกเป็น 2 ส่วนตามแปลน ห้องแบบ 22.5 ตารางเมตร แปลนฝั่งนึงจะเป็นสเปซส่วนกลาง พวกพื้นที่นั่งเล่น ครัว ห้องน้ำ ส่วนแปลนอีกฝั่งจะเป็นห้องนอน 2 ห้องค่ะ เข้ามาด้านในมองตรงไปจะเห็นโต๊ะรับประทานอาหาร และจะมีทางเดินไปห้องนอนอยู่ใกล้กับประตูทางเข้าห้องค่ะ ต่อจากพื้นที่รับประทานอาหารจะเป็นสเปซนั่งเล่น พักผ่อน ดูทีวีค่ะ ส่วนครัวและระเบียงจะอยู่ด้านหลังของพื้นที่วางทีวี กั้นเป็นห้องไว้แต่ไม่มีประตูปิดค่ะ  อยากได้ครัวปิดก็ทำประตูเพิ่มเอง  ห้องน้ำก็จะอยู่บริเวณทางเข้าครัว อีกด้านบริเวณที่ติดกับโต๊ะรับประทานอาหาร จะเป็นทางเข้าห้องนอนทั้ง 2 ห้องค่ะ ห้องที่ถึงก่อนจะเป็นห้องนอนเล็ก วางเตียงขนาด 3 ฟุตครึ่งกับตู้เสื้อผ้าได้ ระหว่างพื้นที่ทางด้านตรงข้ามกับห้องนอนเล็กจะมีสเปซวางสามารถ Built-in ตู้ได้ ส่วนในสุดจะเป็นห้องนอนใหญ่ วางเตียง 5 ฟุต จะมีสเปซที่ยุบเข้าไว้สำหรับฟังก์ชั่นการใช้งานเป็นตู้เสื้อผ้าและโต๊ะทำงาน ทำให้ไม่ไปรบกวนกับพื้นที่ทางเดินภายในห้องค่ะ ห้องนอนใหญ่แบบนี้จะไม่มีห้องน้ำภายในตัวห้อง ต้องออกมาใช้ด้านนอกเหมือนกันห้องนอนเล็กค่ะ ซึ่งห้องน้ำของห้องแบบนี้ก็จะมีห้องเดียว  โดยภาพรวมนั้นจัดแปลนมาได้เคลียร์  แปลนสวยมากทีเดียว

เปิดห้อง  มองสเปซ  :  Focus  on  “SPACE”  and  “DIMENSION”

ห้องตัวอย่างมีให้ดูแบบแบบเดียว คือแบบ 1 ห้องนอน 22.50 ตารางเมตร ความสูงของสเปซระยะฝ้าเพดานในห้องทั่วๆไปสูง 2.50 เมตร ห้องที่ได้จะเป็นห้องเปล่า มีห้องน้ำกับชุดครัวได้ตามห้องตัวอย่างค่ะ นอกนั้นก็จะเป็นสเปซโล่งๆ  ต้องบอกว่าโครงการใจถึงทีเดียวที่เลือกทำห้องตัวอย่างแบบเล็ก 22.50 ตารางเมตร แทนที่จะทำแบบใหญ่ 26.00 ตารางเมตร  เพราะเท่าที่ผ่านมา หลายเจ้าก็อยากจะเลือกทำให้ห้องตัวอย่างโดยเลือกห้องใหญ่เอาไว้ก่อน  เวลาลูกค้ามาดูก็จะได้เห็นว่าห้องกว้าง  แต่โครงการนี้เลือกทำห้องเล็กสุดมาให้เห็นเลยว่าได้ขนาดเท่านี้  จะอยู่ได้ไหม

ห้องตัวอย่างคอนโด The Privacy ลาดพร้าว-เสนา

แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 22.50 ตารางเมตร

เข้ามาภายในห้องจะเป็นพื้นที่นั่งเล่น ดูทีวี ด้านในจะกั้นเป็นห้องนอนเอาไว้ ตรงทางเข้าห้องนอนจะเป็นประตูบานเลื่อนกระจก  แต่ไม่ได้เต็มบาน

ระหว่างห้องนอนกับพื้นที่นั่งเล่นจะมีทางเข้าไปครัว ซึ่งจะเชื่อมต่อกัน ไม่มีประตูกั้นค่ะ

ห้องนอนจะเป็นประตูบานเลื่อนกระจก 2 บาน ถ้าต้องการให้ห้องนอนดูมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นก็ติดม่านเพิ่มเอาค่ะ

เข้ามาด้านในห้องนอนจะวางเตียง 5 ฟุตได้ ผนังห้องจริงจะติด Wallpaper ให้เป็นสีครีมค่ะ

เตียงจะวางชิดกับผนังด้านที่ติดกับหน้าต่างห้องด้านนอกค่ะ  ระยะความสูงของขอบหน้าต่างล่างค่อนข้างสูงทีเดียว ทำให้ห้องไม่ได้ดูโปร่งนัก

ปลายเตียงจะมีสเปซที่สามารถใส่ตู้เสื้อผ้าได้ค่ะ ห้องจริงจะเป็นสเปซโล่งๆเข้าไป ไม่มีตู้เสื้อผ้าให้ต้องทำ Built-in เองค่ะ  ถ้าใครจะซื้อตู้ลอยตัวก็อย่าลืมวัดขนาดไปให้แน่นอนด้วยนะคะ  เดี๋ยวจะใส่กันไม่พอดีช่อง

จากห้องนอนมองออกไปด้านนอก เวลาเปิดบานเลื่อนออกจะทำให้ห้องนอนเชื่อมต่อกับพื้นที่นั่งเล่น สเปซห้องก็จะสบายขึ้นค่ะ

ออกจากห้องนอนมาดูที่พื้นที่ครัวกันต่อ จะไม่ได้กั้นห้องไว้ให้ ด้านในจะมีเคาท์เตอร์ครัว พื้นที่สำหรับวางตู้เย็น และพื้นที่รับประทานอาหารที่วางเข้ามุมไว้ค่ะ

สเปซที่วางโต๊ะทานเข้าจัดมาเพื่อวางโต๊ะขนาดเล็ก นั่งได้ 2 ที่นั่ง ติดกับครัวจะเป็นระเบียงค่ะ

ทางเข้าห้องน้ำจะอยู่ตรงครัว

ด้านในของห้องน้ำค่ะ เป็นชุดห้องน้ำสำเร็จรูป

สเปซระหว่างห้องนอนกับพื้นที่นั่งเล่น ถ้าวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งจะมีพื้นที่เหลือพอที่จะวางโต๊ะทำงานเล็กๆได้ค่ะ หรือจะ Built-in ชั้นวางของเพิ่มก็ได้นะคะ

เปิดห้อง  ส่องวัสดุ  :  Focus  on  “MATERIALS”

วัสดุภาพรวมนั้นจะได้ห้องน้ำ และเคาน์เตอร์ครัว นอกนั้นจะเป็นสเปซโล่งๆ จะมีโปรโมชั่นแอร์ให้ในบางห้องค่ะ

อยู่สบายแบ่งรีวิววัสดุออกเป็น 3 ส่วน  คือ  วัสดุครัวและส่วนเตรียมอาหาร (pantry) , วัสดุห้องน้ำ , วัสดุทั่วไปและวัสดุปิดผิวภายในห้อง (Finishing Materials)  เพื่อให้ส่องกันง่ายๆ เช่นเคยค่ะ

วัสดุห้องครัว / ส่วนเตรียมอาหาร (pantry)

หน้าตาของชุดครัวที่ได้ค่ะ จะมีเคาน์เตอร์ด้านล่าง และชั้นวางของด้านบนเคาน์เตอร์

เคาน์เตอร์ครัวที่ได้จะมีช่องสำหรับใส่ไมโครเวฟให้ แต่จะไม่มีเตาไฟฟ้าให้ค่ะ

พื้นที่เก็บของด้านใน ที่ใส่อุปกรณ์พวกช้อนส้อมจะอยู่ด้านล่างที่วางเตาไมโครเวฟ

ให้ดูผิวและสีของวัสดุ  ตัวท็อปเคาน์เตอร์เป็นเมลามีนลายไม้  ส่วนหน้าบานเป็นสีขาว

สเปซสำหรับเตรียมอาหารค่ะ อย่างที่บอกไปจะไม่มีเตาไฟฟ้าให้ ถ้าวางเตาตรงนี้ สเปซที่วางของก็จะไม่มีค่ะ

อ่างล้างจานของ Hafele

ชั้นลอยไว้สำหรับวางของด้านบนค่ะ

วัสดุห้องน้ำ

สเปซห้องน้ำตรงส่วนแห้งค่ะ อ่างล้างหน้าจะอยู่ตรงข้ามกับประตูทางเข้าห้องน้ำ

โถสุขภัณฑ์ของ American Standard

อ่างล้างหน้าของ American Standard เช่นเดียวกัน  ขนาดค่อนข้างเล็กไปหน่อย เวลาก้มล้างหน้าอาจจะไม่ถนัดนัก

ก๊อกน้ำก็ของ American Standard

ไฟโดนัทในห้องน้ำ

มีพื้นที่วางของอยู่ตรงหลังอ่างล้างหน้า

กระจกให้เต็มบานค่ะ  ตรงนี้ช่วยให้ห้องน้ำดูกว้างขึ้นและลดความอึดอัดไปได้มากทีเดียว

พื้นที่ส่วนอาบน้ำค่ะ ไม่มีฉากกั้นอาบน้ำให้

กั้นพื้นที่ระหว้่างส่วนเปียกกับส่วนแห้ง โดยมีธรณีกั้นสูงขึ้นมาแบ่งสเปซ

สเปซส่วนพื้นที่อาบน้ำกว้างประมาณ 90 x 90 cm เวลาอาบน้ำอาจจะต้องระวังเรื่องกระเด็นไปตรงส่วนแห้ง แนะนำให้ติดม่านดีกว่า  ไม่ก็ต้องยอมลงทุนติดฉากกั้นเพิ่มนะคะ  จะได้สะดวกในการทำความสะอาดด้วย

ฝักบัวอาบน้ำค่ะ

มีที่วางสบู่ให้ แต่ไม่มีชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำ ต้องติดเองค่ะ

ที่ระบายน้ำตรงพื้นที่อาบน้ำค่ะ

ระดับพื้นห้องน้ำจะยกสูงขึ้นมาจากพื้นห้องปกติ  เนื่องจากเป็นห้องน้ำสำเร็จรูปค่ะ

วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (finishing)

พื้นห้องเป็นพื้นลามิเนตค่ะ

ประตูบานเลื่อน 2 บาน ที่กั้นระหว่างห้องนอนกับพื้นที่นั่งเล่น

บานเลื่อนจะไม่ได้เต็มถึงเพดาน เพดานสูง 2.5 เมตร

ประตูบานเลื่อนตรงห้องนอน

สวิตซ์ bticino

ไฟห้องทั่วไปเป็นดาวน์ไลท์

ห้องนอนจะมีหน้าต่างบานอลูมิเนียมเปิดให้ 3 บาน ตัวผ้าม่านและแอร์ไม่ได้ให้มาแต่ทำตำแหน่งวางไว้ให้ หน้าต่างเล็กทีเดียวค่ะ

แผงควบคุมไฟในห้องจะอยู่บริเวณมุมด้านหน้าทางเข้าห้อง

ระหว่างพื้นลามิเนตกับพื้นระเบียงด้านนอก กั้นด้วยประตูบานเลื่อนอลูมิเนียมเช่นกัน

สเปซตรงระเบียง วางเครื่องซักผ้าได้ แต่จะเหลือพื้นที่ไม่มากค่ะ

บานประตูอลูมิเนียมตรงระเบียง พร้อมตัวล็อค

ตำแหน่งที่วางเครื่องซักผ้า ด้านข้างจะเป็นก๊อกซักล้าง แล้วก็มีรางระบายน้ำยุบลงไปให้

ด้านบนไว้วางคอมเพรสเซอร์แอร์  ทำกราฟิกไว้น่ารักดีนะคะ

ราวระเบียงดีไซน์เฉียงๆให้เข้ากับลายอาคาร เป็นเหล็กทำสีดำ  ตรงนี้ถือว่าดีไซน์แปลกตากว่าคอนโดทั่วไปที่มักจะเป็นเหล็กซี่ๆ ตามปกติ  ก็ดูมีลูกเล่นดีค่ะ

ส่วนฝั่งที่วางเครื่องซักผ้า กับ คอมเพรสเซอร์แอร์ จะมีแผงบังไว้ให้ยาวตลอดแนว เพื่อความเรียบร้อยสวยงามค่ะ

เปิดกระเป๋า  ดูสตางค์

ราคาเริ่มต้นวันที่แวะเข้าไปทำรีวิว (15 พฤศจิกายน 2558) ราคา Pre-sale เริ่มต้นที่ 1.09 ล้านบาทค่ะ ห้องที่อยู่ทางทิศตะวันตกจะมีราคาถูกสุดค่ะ

ราคา ณ วันที่ 15 พฤศจิกายน 2558

ราคาเริ่มต้น :

1 bedroom  พื้นที่ 22.5 ตร.ม. ชั้น 2 อาคาร B ราคา 1,433,575 บาท เฉลี่ย 63,714บาท/ตร.ม

1 bedroom  พื้นที่ 26 ตร.ม. ชั้น 4  อาคาร A ราคา 1,760,140 บาท เฉลี่ย 67,698 บาท/ตร.ม

2 bedroom  พื้นที่ 45 ตร.ม. ชั้น 3 อาคาร B ราคา 2,927,548 บาท เฉลี่ย 65,057 บาท/ตร.ม

เงื่อนไขการจอง :

• เงินจอง

1 Bedroom จอง 5,000 บาท / ทำสัญญา 15,000 บาท

2 Bedroom จอง 10,000 บาท / ทำสัญญา 20,000 บาท

• ผ่อนดาวน์

1 bedroom พื้นที่ 22.5 ตร.ม. งวดที่ 1-11 งวด งวดละ 4,600 บาท / งวดที่ 12 30,000 บาท

1 bedroom พื้นที่ 26 ตร.ม. งวดที่ 1-11 งวด งวดละ 5,800 บาท / งวดที่ 12 40,000 บาท

2 bedroom พื้นที่ 45 ตร.ม. งวดที่ 1-11 งวด งวดละ 10,000 บาท / งวดที่ 12 65,000 บาท

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :

ค่าส่วนกลาง  39  บาท/ตร.ม.  (ชำระล่วงหน้า 1  ปี)
ค่ากองทุนเริ่มแรก (Sinking Fund)  500 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)

ประมาณอัตราการผ่อน (คิดจากราคาเริ่มต้นด้านบน) 

(เพื่อให้เห็นกรอบของค่าใช้จ่ายคร่าวๆและนำไปวางแผนประมาณการของแต่ละคนค่ะ  ถึงไม่ได้ซื้อห้องที่ยกมาเป็นตัวอย่างก็ใช้ตัวเลขได้ ซึ่งผมประมาณการอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าปกติหน่อย  เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรองรับความสามาารถในการผ่อน  รวมถึงให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆที่เกิดขึ้น  เช่น  ค่าส่วนกลาง ไปด้วยในตัว) :

บนสมมติฐาน กู้  93% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 30 ปี

1 bedroom  พื้นที่ 22.5 ตร.ม. ชั้น 2 อาคาร B ราคา 1,433,575 บาท  ผ่อนประมาณ 9,262 บาท/เดือน

1 bedroom  พื้นที่ 26 ตร.ม. ชั้น 4  อาคาร A ราคา 1,760,140 บาท ผ่อนประมาณ  11,370 บาท/เดือน

2 bedroom  พื้นที่ 45 ตร.ม. ชั้น 3 อาคาร B ราคา 2,927,548 บาท  ผ่อนประมาณ 18,918 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  93% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 25 ปี

1 bedroom  พื้นที่ 22.5 ตร.ม. ชั้น 2 อาคาร B ราคา 1,433,575 บาท  ผ่อนประมาณ 9,789 บาท/เดือน

1 bedroom  พื้นที่ 26 ตร.ม. ชั้น 4  อาคาร A ราคา 1,760,140 บาท ผ่อนประมาณ 12,017 บาท/เดือน

2 bedroom  พื้นที่ 45 ตร.ม. ชั้น 3 อาคาร B ราคา 2,927,548 บาท  ผ่อนประมาณ 19,994 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  93% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 20 ปี

1 bedroom  พื้นที่ 22.5 ตร.ม. ชั้น 2 อาคาร B ราคา 1,433,575 บาท  ผ่อนประมาณ 10,671 บาท/เดือน

1 bedroom  พื้นที่ 26 ตร.ม. ชั้น 4  อาคาร A ราคา 1,760,140 บาท ผ่อนประมาณ  13,100 บาท/เดือน

2 bedroom  พื้นที่ 45 ตร.ม. ชั้น 3 อาคาร B ราคา 2,927,548 บาท  ผ่อนประมาณ 21,796  บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้ 93% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 15 ปี

1 bedroom  พื้นที่ 22.5 ตร.ม. ชั้น 2 อาคาร B ราคา 1,433,575 บาท  ผ่อนประมาณ  12,280 บาท/เดือน

1 bedroom  พื้นที่ 26 ตร.ม. ชั้น 4  อาคาร A ราคา 1,760,140 บาท ผ่อนประมาณ 15,075 บาท/เดือน

2 bedroom  พื้นที่ 45 ตร.ม. ชั้น 3 อาคาร B ราคา 2,927,548 บาท  ผ่อนประมาณ 25,081 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  93% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 10 ปี

1 bedroom  พื้นที่ 22.5 ตร.ม. ชั้น 2 อาคาร B ราคา 1,433,575 บาท  ผ่อนประมาณ 15,724 บาท/เดือน

1 bedroom  พื้นที่ 26 ตร.ม. ชั้น 4  อาคาร A ราคา 1,760,140 บาท ผ่อนประมาณ 19,303 บาท/เดือน

2 bedroom  พื้นที่ 45 ตร.ม. ชั้น 3 อาคาร B ราคา 2,927,548 บาท  ผ่อนประมาณ 32,116 บาท/เดือน

Overview Summary

ด้านการเดินทาง

การเดินทางถ้าขับรถเองก็ค่อนข้างสะดวก เพราะถนนลาดพร้าววังหินนั้นเชื่อมต่อกับถนนหลายสายค่ะ ทั้งถนนเกษตร-นวมินทร์ ถนนโชคชัย 4  ถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา รวมทั้งทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ถนนพหลโยธิน ถนนรัชดาภิเษก และถนนลาดพร้าว  เรียกว่าสามารถทะลุผ่านถนนเส้นหลักได้หลายสาย  แต่จะไม่มีรถประจำผ่านบริเวณนี้ จะมีแค่รถกระป้อเล็กที่วิ่งผ่าน รวมทั้งมอไซค์รับจ้างที่วิ่งผ่านตลอด  ช่วงเวลาเช้าเย็นรถค่อนข้างติด  เพราะนอกจากคนในพื้นที่แล้วถนนลาดพร้าววังหินยังใช้เป็นเส้นเชื่อมต่อกับถนนหลักอื่นๆ ได้ ทำให้คนที่รู้ทางซอกแซกใช้เป็นทางลัดเยอะทีเดียว …  ส่วนเรื่องรถไฟฟ้านั้นตอนนี้สถานีที่ใกล้ที่สุดจะอยู่ที่ MRT ลาดพร้าว ซึ่งก็ค่อนข้างไกลอยู่ที่ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสีเขียว กับสีเหลืองวิ่งผ่านรอบๆ  ก็อาจจะช่วยให้มีทางเลือกมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้อยู่บนถนนลาดพร้าววิงหินโดยตรงอยู่ดีค่ะ

ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต

พื้นที่ตามถนนลาดพร้าววังหินที่เป็นย่านชุมชน ตอนนี้ค่อนข้างที่จะคึกคักมากขึ้นเรื่อยๆ ดูได้จากการมีคอมมูนิตี้มอลล์หลายแห่ง เริ่มที่จะมีคอนโดขึ้น รวมไปทำออฟฟิศขนาดเล็กที่มาอยู่บริเวณเพิ่มมากขึ้น การเติบโตในอนาคตย่านนี้ก็น่าจะยังคงเป็นพื้นที่อยู่อาศัย เป็นแหล่งชุมชนอยู่ ส่วนการพัฒนาเรื่องรถไฟฟ้านั้นอย่างที่บอกไปในเรื่องการเดินทาง ในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ที่จะผ่านถนนลาดพร้าว บริเวณปากซอยภาวนา กับรถไฟฟ้าสายสีเขียว ตรงเส้นพหลโยธิน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่โอบล้อมตรงลาดพร้าววังหินเอาไว้ น่าจะได้อานิสงค์ตามกันไป  แต่ถ้าจะมองในแง่ที่มูลค่าโครงการจะเพิ่มขึ้นพรวดพราดก็คงไม่ได้ถึงขนาดนั้นค่ะ  เป็นแบบเรื่อยๆ มาเรียงๆ มากกว่า

ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ

ลักษณะการวางตัวของคอนโดก็เป็นรูปตัว I และตัว L อาคาร A จะอยู่ด้านหน้าใกล้กับทางเข้าออกโครงการมากกว่าอาคาร B พร้อมวางอาคารให้ไม่ตรงกัน แต่ด้วยพื้นที่จำกัดทำให้บางห้องของอาคาร A จะหันมาชนกับอาคาร B หน้าตาอาคารมีลูกเล่นโดยการใช้เส้นเฉียงมาทำเป็นลวดลาย ไม่ได้เป็นตัวอาคารทาสีเรียบๆอย่างเดียว  ตัวโครงการวางแปลนออกมาแล้วห้องส่วนใหญ่จะอยู่ในแนวทิศเหนือ และทิศใต้  ส่วนห้องที่อยู่ฝั่งตะวันออกที่แดดเช้าจะได้วิวสระว่ายน้ำมาทดแทน ส่วนห้องฝั่งทิศตะวันตกที่โดนแดดบ่ายนั้นจะอยู่ด้านในสุดของโครงการติดกับพื้นที่โล่ง แปลนฝั่งทิศตะวันตกจะมีราคาถูกที่สุด พื้นที่รอบๆจะไม่มีตึกสูงค่ะ อย่างมากที่เห็นก็เป็นอาคารหรือตึกแถว สูงมากสุด 4 ชั้น  มีบางห้องในชั้นล่างๆ ของอาคาร A ที่โดนบล็อกวิวอย่างที่เล่าไปแล้ว

ด้านการวางแปลนนั้นจัดมาได้โอเคค่ะ  มีแค่ 2 แบบ โดยห้องใหญ่จะหันเข้าในโครงการ และห้องขนาดเล็กก็จะหันออกด้านนอก … แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 22.5 ตารางเมตร ก็ยังพอที่จะได้ฟังก์ชั่นการใช้งานโดยรวมครบ มีการกั้นห้องนอนแยกกับห้องนั่งเล่น หรือการแชร์พื้นที่ของห้องกันระหว่างช่องใส่ตู้เสื้อผ้ากับที่วางโต๊ะรับประทานอาหาร  แต่จะขาดในเรื่องของพื้นที่เก็บของไปหน่อย  ซึ่งก็เป็นข้อจำกัดปกติของคอนโดขนาดไซซ์เล็กมากๆ  ส่วนแบบ 1 ห้องนอน 26 ตารางเมตร ก็จะได้สเปซที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้รวมๆแล้วการใช้งานดูสบายกว่าค่ะ … ส่วนห้อง Combine แบบ 2 ห้องนอน 45 ตารางเมตร  ภาพรวมจัดแปลนออกมาได้ดี  ไม่ได้มีจุดที่แย่แบบเห็นได้ชัด ถ้าต้องการทำครัวแบบจริงจังก็อาจจะใส่ประตูกั้นห้องครัวเพิ่มเอาก็จบค่ะ  ส่วนห้องน้ำที่มีอยู่ห้องเดียวก็อาจจะต้องแชร์กันใช้หน่อย ส่วนระยะเดินจากห้องนอนไปห้องน้ำก็ไม่ได้ถือว่าไกลมาก เพราะสเปซห้องจริงๆก็เพียง 45 ตารางเมตรเองค่ะ

ด้านวัสดุนั้นให้มาหลักๆ เป็นเกรดมาตราฐานใช้งาน  แต่ไม่ได้หรูหรา  รู้สึกว่าหน้าต่างของห้องนอนนั้นดูจะขนาดจิ๋วไปสักนิดทำให้ห้องดูไม่โปร่งนัก  ห้องน้ำที่เป็นห้องน้ำสำเร็จรูป ให้สุขภัณฑ์เป็นของ American Standard กับเคาน์เตอร์ครัว แล้วก็ติด Wallpaper ให้ที่ผนังเป็นสีครีม นอกนั้นต้องซื้อเข้ามาแต่งเองค่ะ  โดยรวมก็ถือว่าได้มาตามราคา ไม่ได้มีปัญหาอะไร

ด้านพื้นที่ส่วนกลางนั้นให้มามีสระว่ายน้ำ ฟิตเนส ซาวน่าและห้องสมุด อยู่กลางแจ้งไม่ได้อยู่ในตัวอาคาร เมื่อเทียบกับระดับราคาแล้วก็จัดว่าโอเคอยู่  สัดส่วนการใช้ลิฟต์ที่ 95 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัวนั้นถือว่าดีค่ะ  ที่จอดรถ 40% กับโครงการที่รถไฟฟ้ายังมาไม่ถึง อาจจะยังมีความจำเป็นต้องใช้รถ  ถือว่าค่อนข้างน้อยไปค่ะ  เวลาเข้าอยู่จริงน่าจะมีปัญหาเรื่องที่จอดรถพอควร

ด้านตัวเลือกอื่นๆ

ตัวเลือกอื่นๆตามแนวถนนลาดพร้าววังหิน ซึ่งปัจจุบันจะมีบ้านพักอาศัยเดิมและอาคารพาณิชย์อยู่ค่อนข้างเยอะ อยู่กันเป็นชุมชน จะมีคอนโดที่เป็น Low rise ที่สร้างเสร็จแล้วเพียงไม่กี่โครงการ อย่างใกล้ๆโครงการก็มี The Niche ID ลาดพร้าว-วังหิน ของ เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ นอกจากนี้บริเวณลาดพร้าววังหิน 66 ก็ยังมีคอนโดที่เพิ่งตัวไปอย่าง Chambers Chaan ลาดพร้าว-วังหิน จาก SC ASSET ซึ่งก็เป็นคอนโด Low-rise อีกเช่นกัน

Score Summary

สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยค่ะ  (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนคอนโดมิเนียมที่นี่)

และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่  https://www.facebook.com/Yusabuy

ทุกท่านสามารถสนับสนุนให้อยู่สบายสามารถทำรีวิวออกมาได้เรื่อยๆค่ะ  เพียงแค่เวลาไปดูโครงการบ้านและคอนโดที่ต่างๆ  เพียงช่วยระบุในแบบสอบถามของโครงการว่า ”อยู่สบาย.com” เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ท่านติดตามอ่านอยู่  เวลาทางทีมงานขออนุญาตโครงการต่างๆเข้าไปทำรีวิวจะได้ทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นค่ะ  (^_____^)

ถ้าหากว่ารีวิวของเรามีประโยชน์  ช่วยกด Like ด้านล่างสำหรับกำลังใจในการทำรีวิวของทีมงานด้วยนะคะ