สวัสดีค่ะ  รีวิวนี้พามาชมคอนโด Ideo Thaphra Interchange ของเป็นคอนโด High Rise 22 ชั้น ของ Ananda Development อยู่บนถนนเพชรเกษม ห่างจากแยกท่าพระไปทางวงเวียนใหญ่ประมาณ 150 เมตร อนาคตสามารถเดินไปใช้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินสถานีท่าพระ ได้ในระยะ 100 เมตรจากหน้าโครงการค่ะ

คอนโดไอดีโอ ท่าพระอินเตอร์เชนจ์ นี้เป็นคอนโด high rise  ตัวแรกของทางอนันดาฯ ที่ส่งมาลุยตลาดในปีนี้  โดยยังคงคอนเซ็ปห่างสถานีรถไฟฟ้าไม่เกิน 300 เมตร ไว้ได้อย่างเหนียวแน่น   Ideo Thaphra Intechange  จะเปิดพรีเซลวันแรก 13-14 กุมภาพันธ์ นี้แล้วค่ะ  ทางเราแวะไปเก็บข้อมูลรีวิวในแง่มุมต่างๆ ของคอนโด ไอดีโอ ท่าพระ อินเตอร์เชนจ์  มาให้ชมกันอย่างละเอียดเช่นเคยเหมือนทุกรีวิวที่ผ่านมาค่ะ

เริ่มจากข้อมูลเบื้องต้นของโครงการกันก่อน

IDEO Thaphra Interchange 

ไอดีโอ ท่าพระ อินเตอร์เชนจ์

• เจ้าของโครงการ >>> บริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย ท่าพระ จำกัด
• ที่ตั้งโครงการ >>> ถนนเพชรเกษม ติดซอยเพชรเกษม ซอย 9 ใกล้แยกท่าพระ
• ขนาดที่ดิน >>> 4-1-96.6 ไร่
• จำนวนชั้น >>> 22 ชั้น
• จำนวนอาคาร >>> 1 อาคาร
• ประเภทห้องและขนาดห้อง >>>
  • Studio ขนาด 27.50 – 28.00 ตารางเมตร
  • 1 Bedroom ขนาด 34.50 – 35.50 ตารางเมตร
  • 2 Bedroom ขนาด 63.00 – 71.00 ตารางเมตร
• จำนวนยูนิต >>> 844  ยูนิต
• ที่จอดรถ >>> 344 รวมจอดซ้อนคัน
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> 2.69 ล้านบาท (ราคา ณ วันที่ 29/01/2559)
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> ราคาเฉลี่ยเริ่มต้นประมาณ 98,xxx บาท/ตารางเมตร
• พิกัด GPS >>> 13.728779, 100.475885
• เว็ปไซต์โครงการ >>> คลิกที่นี่
• ติดต่อโครงการ >>> 02-316-2222

.

โครงการ ไอดีโอ ท่าพระ อินเตอร์เชนจ์ นั้นตั้งอยู่บนถนนเพชรเกษม ซอย 9 ซึ่งอยู่ใกล้กับแยกท่าพระ 150 เมตร มีโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินผ่าน โดยตัวสถานีที่อยู่ใกล้ที่สุดคือสถานีท่าพระ โครงการอยู่ห่างจากทางขึ้นสถานีประมาณ 100 เมตร โดยสถานีท่าพระจะเป็นสถานี Interchange ระหว่างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงบางซื่อ-ท่าพระ และช่วงหัวลำโพง-บางแค คาดว่าแล้วเสร็จในปี 2560 ค่ะ

เริ่มเดินทาง ดูทำเล

วันนี้เราเดินทางบนถนนรัชดาภิเษก จาก The Mall ท่าพระมุ่งหน้าไปทางแยกท่าพระ ผ่านจุดตัดถนนราชพฤกษ์และ BTS ตรงไปเรื่อยๆ ผ่านธนบุรี พลาซ่า ผ่านจุดตัดกับถนนเทอดไท ข้ามคลองบางกอกใหญ่ไปแล้ว ให้ชิดซ้ายเอาไว้ไม่ต้องลงอุโมงค์ ถึงสี่แยกท่าพระให้อยู่ชิดขวาเพื่อเลี้้ยวขวาเข้าถนนเพชรเกษม พอเลี้ยวเข้าถนนเพชรเกษมแล้วตรงไปเรื่อยๆ ผ่านปั๊มน้ำมัน ESSO แล้วก็ชิดซ้ายเพื่อกลับรถใต้สะพาน ขับกลับมาทางแยกท่าพระ จนผ่านคอนโด The Parkland เพชรเกษม-ท่าพระ ก็ให้ชิดซ้าย โครงการคอนโด Ideo Thaphra Interchange จะอยู่ทางซ้ายมือค่ะ

มาดูตำแหน่งรอบๆตัวคอนโดก่อนว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนกันบ้าง

เริ่มจากตำแหน่งที่ตั้งโครงการ Ideo Thaphra Interchange นั้นตั้งอยู่บนเพชรเกษม บริเวณซอย 9 โดยในอนาคตจะมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินมาผ่านบริเวณแยกท่าพระ ซึ่งสถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีท่าพระ ที่เป็นสถานี Interchange ระหว่างสายสีน้ำเงินช่วงบางซื่อ-ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค ตัวสถานีจะคล่อมอยู่เหนือแยกท่าพระพอดี คาดว่าทางขึ้นสถานีท่าพระจะอยู่ห่างจากคอนโด ไอดีโอ ท่าพระ อินเตอร์เชนจ์ ประมาณ 100 เมตร รถไฟฟ้าคาดว่าแล้วเสร็จปี 2560 ซึ่งน่าจะเสร็จก่อนคอนโดค่ะ การเดินทางโดยรถไฟฟ้านั้นนับว่าสะดวกทีเดียวค่ะ

โครงการจะอยู่ติดถนนใหญ่อย่างถนนเพชรเกษม และใกล้กับสี่แยกหลักของถนนใหญ่ทำให้เดินทางสะดวก สามารถไปได้หลายเส้นทาง เส้นเพชรเกษมเองหากไปทางวงเวียนใหญ่สามารถเข้าถนนประชาธิปกไปเยาวราชได้ หรือในทางกลับกันไปบางแคได้ และจากแยกท่าพระสามารถใช้ถนนจรัญสนิทวงศ์ไปแยกไฟฉาย, หรือใช้ถนนรัชดาภิเษกไปออกถนนพระราม 3 , ถนนกรุงธนบุรี เพื่อวิ่งยาวๆ เข้าไปทางพระราม 3 ได้ค่ะ ส่วนเรื่องศูนย์การค้าใหญ่ๆ บนถนนเพชรเกษมนั้นจะต้องไปไกลหน่อยที่เดอะมอลล์ บางแค  ซึ่งจากโครงการไปเดินเล่นที่ The Mall ท่าพระ สะดวกกว่าค่ะ เพราะอยู่ห่างจากตัวโครงการไปประมาณ 2 กิโลเมตร โรงพยาบาลมี 2 แห่งที่อยู่ใกล้ๆ คือโรงพยาบาลบางไผ่ กับโรงพยาบาลพญาไท 3 ด้านสถาบันการศึกษาส่วนใหญ่จะเป็นโรงเรียนพาณิชย์ซะเป็นส่วนมาก จะมีวิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม, วิบูลย์บริหารธุรกิจ ส่วนถ้าใครชอบทำบุญก็สบายใจหายห่วงเพราะมีวัดท่าพระอยู่ใกล้

ย่านนี้ส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัย และอาคารพาณิชย์ แทบจะไม่มีอาคารสูงเท่าไหร่  อาคารสูงในย่านนี้ส่วนใหญ่ก็จะเป็นคอนโดมิเนียมตามแนวถนนเพชรเกษม  คอนโดที่ดูจะเป็นคู่แข่งกันกับ Ideo Thapra Interchange คงจะเป็น The Parkland เพชรเกษม-ท่าพระ จาก Narai Property ที่ได้เปิดตัวไปก่อนปีกว่าแล้ว และกำลังดำเนินการก่อสร้างอยู่ค่ะ  คอนโด The Parkland เพชรเกษม-ท่าพระ ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรจะถูกกว่าทาง Ideo Thapra Interchange แต่ก็ต้องเดินจากรถไฟฟ้าไกลกว่าพอควร

ส่วนคอนโดอื่นๆ มี City Home สี่แยกท่าพระ เป็นคอนโดเก่าที่อยู่ริมสี่แยกท่าพระพอดีแต่สร้างไว้นานแล้วค่ะ นอกจากนั้นจะเป็นคอนโด Low rise เน้นราคาที่ถูกกว่า เช่น Unio จรัญ 3 จาก อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ เช่นกัน ตัว Unio จรัญฯ 3 จะอยู่ในซอยจรัญสนิทวงศ์ 3 ห่างจากสถานีท่าพระ 1 กิโลเมตร ค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบคอนโด

เริ่มจากหน้าโครงการ Ideo ท่าพระ อินเตอร์เชนจ์ ไปทางแยกท่าพระค่ะ แล้วเลี้ยวกลับมาเดินเล่นรอบๆ หน้าโครงการ หลังจากนั้นจะไปส่องบรรยากาศบนถนนเพชรเกษมทิศที่ไปบางแค ถนนรัชดาภิเษก และถนนจรัญสนิทวงศ์กันต่อค่ะ

ถนนเพชรเกษมบริเวณด้านหน้าโครงการ จะเห็นว่าเลยทางขึ้นสะพานข้ามแยกท่าพระมาไม่ไกลค่ะ

มองไปทางแยกท่าพระ ตรงไปอีก 150 เมตรก็จะถึงแยกท่าพระ

จากโครงการมองไปทางขวามือ เป็นอาคารพาณิชย์ มีทางเท้ายาวไปตลอดแนวค่ะ  บางช่วงมีแนวกันสาดของตึกแถวมาบังแดดให้ด้วย

ทางเท้าไม่กว้างเท่าไหร่ค่ะ แต่อยู่ในสภาพดีใช้ได้

ออกจากโครงการมาทางซ้ายก็เป็นอาคารพาณิชย์เช่นกันค่ะ เป็นร้านขายกรอบพระ, สอนขับรถยนต์

ถัดมาก็เป็นร้านขายของชำ สภาพค่อนข้างเก่าค่ะ

บรรยากาศในซอยเพชรเกษม 11 ด้านในเป็นบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น และอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้นค่ะ ด้านขวาเป็นด้านข้างของอาคารเรียน โรงเรียนสายประสิทธิ์วิทยา

โรงเรียนสายประสิทธิ์วิทยา เป็นโรงเรียนสำหรับเด็กประถมค่ะ

โรงเรียนสายประสิทธิ์วิทยา อีกซักรูปจากเกาะกลางถนนค่ะ

พอเดินมาถึงแยกท่าพระ มองไปฝั่งตรงข้ามจะเห็นคอนโด City Home สี่แยกท่าพระ

เกาะกลางถนนจะใหญ่ เพราะอยู่ใต้สะพานข้ามแยกท่าพระพอดี ภาพนี้หันหน้าเข้าแยกท่าพระค่ะ

หันหน้ากลับเข้าถนนเพชรเกษม

ส่วนฝั่งตรงข้ามโครงการก็เป็นอาคารพาณิชย์สูง 2 ชั้น เป็นร้านค้าทั่วไปส่วนใหญ่ เช่น ขายมอเตอร์ไซต์

ที่กลับรถใต้สะพานก็อยู่ไม่ไกลจากคอนโดไอดีโอ ท่าพระ อินเตอร์เชนจ์ มากนัก สามารถกลับรถได้ แต่ต้องรีบขับชิดขวาหน่อย

ข้ามถนนกลับมาที่ซอยเพชรเกษม 7/1 ซอยนี้เป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น จนสุดซอยค่ะ

มีร้านอาหารอยู่ที่ปากซอยด้วย

คานา แมนชั่น อยู่ซอยเพชรเกษม 7/2 ซึ่งจะอยู่ติดกับโครงการ ด้านทิศเหนือ

ซอยเพชรเกษม 7/2 เป็นซอยตันค่ะ ด้านในเป็นโกดัง

แถวๆ โครงการก็พอมีร้านอาหารอยู่บ้างค่ะ

ร้านนี้ขายของกงเต๊ก

คอนโด The Parkland เพชรเกษม-ท่าพระ จะอยู่ระหว่างเพชรเกษมซอย 5/2 กับซอย 7 ค่ะ

ส่วนฝั่งตรงข้ามคอนโด The Parkland เป็นอาคารสำนักงาน อยู่ถัดจากอาคารพาณิชย์ลึกเข้าไป

ทีนี้ขับไปดูถนนเพชรเกษมฝั่งไปทางบางแคบ้างค่ะ

เส้นนี้มีโรงพยาบาล 2 แห่งที่ไม่ไกลจากโครงการมาก คือโรงพยาบาลพญาไท 3 อยู่ระหว่างซอยเพชรเกษม 19, 21

และโรงพยาบาลบางไผ่ อยู่ที่ซอยเพชรเกษม 22 ค่ะ

วิทยาลัยเทคโนโลยีวิบูลย์บริหารธุรกิจ ในซอยเพชรเกษม 18 ค่ะ

ไปดูถนนรัชดาภิเษกกันบ้างค่ะ นอกจากเป็นเส้นที่มีสถานีรถไฟตลาดพลูบริเวณจุดตัดกับถนนเทอดไทแล้ว ยังเป็นเส้นที่ตัดกับถนนราชพฤกษ์ที่เป็นแนวของรถไฟฟ้า BTS ด้วยค่ะ

The Mall ท่าพระ อยู่ห่างจากตัวโครงการประมาณ 2 กิโลเมตร

ฝั่งตรงข้ามมีโครงการคอนโด Whizdom Ratchada-Thapra ตอนนี้ล้อมรั้วที่ดินเอาไว้ ยังไม่ได้เปิดขายแต่มีข้อมูลเบื้องต้นออกมานิดหน่อยค่ะ  ซึ่งคอนโดนี้เน้นใกล้ BTS สถานีตลาดพลู และ The Mall ท่าพระค่ะ

สุดท้ายมาดูบรรยากาศถนนจรัญสนิทวงศ์ กันบ้างค่ะ

บรรยากาศบริเวณแยกท่าพระค่ะ กำลังก่อสร้างสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินกันอยู่

ถนนจรัญสนิทวงศ์ค่ะ คานของรถไฟฟ้าใหญ่และสูงมากทีเดียว  เพราะต้องวางคานข้ามถนนทั้ง 6 เลน  ไม่สามารถลงเสาโครงสร้างตรงกลางถนนได้เนื่องจากมีอุโมงค์ลอดใต้สี่แยกท่าพระอยู่นั่นเองค่ะ

ซุ้มทางเข้าวัดท่าพระ  รูปนี้ถ่ายจากปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 3 ซึ่งเป็นซอยที่มีคอนโด Unio จรัญ 3 นั่นเองค่ะ

วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม (สยามเทค)

เริ่มเปิดประตู  ไปดูในโครงการ

ดูรอบๆ กันไปพอสมควร  เข้ามาที่สำนักงานขายกันเลยค่ะ

สำนักงานขายจะอยู่ลึกเข้ามาจากถนนใหญ่หน่อยนึง เผื่อจะได้จอดรถด้านหน้าได้ ภายนอกหน้าตาดูโฉบเฉี่ยว

จำนวนที่จอดรถไม่เยอะเท่าไหร่ เข้า-ออกลำบากหน่อยค่ะ

ภายในตกแต่งด้วยผนังลายหินอ่อนสีขาวค่ะ ดูหรูหรา มีโมเดลอยู่ตรงกลาง และมีภาพถ่ายทางอากาศให้ดูวิวที่จะมองเห็นจากทิศต่างๆ

เคาน์เตอร์สำนักงานขาย ดูหรูหราทันสมัย สวยดีจังค่ะ ชอบๆ ใช้ระแนงไม้มาเบรคให้ดูไม่เลี่ยนจนเกินไป

ลึกเข้ามาด้านในเป็นโต๊ะและเก้าอี้สตูลบาร์จัดไว้ให้ลูกค้า รูปทรงเข้ากับเคาน์เตอร์ค่ะ

บรรยากาศในสำนักงานขายอีกรูป

และด้านหลังผนังที่ติดทีวี มีห้องตัวอย่างแบบ Studio และแบบ 1 ห้องนอนให้ดูเป็นตัวอย่างค่ะ

ดูผังโครงการ  ตำแหน่งการเข้าถึง

ที่ดินของโครงการเป็นรูป 3 แฉก แปลนอาคารจึงมีรูปเป็น 3 แฉกไปด้วย มีทางเข้าออกติดกับถนนเพชรเกษม รอบๆ จะติดกับบ้านพักอาศัยเป็นส่วนใหญ่ ด้านหน้าที่อยู่ติดถนนใหญ่จะอยู่ระหว่างอาคารพาณิชย์สูง 2-3 ชั้น ลึกจากถนนเข้ามาจะเป็นบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น ติดกับอาคารพาณิชย์ในซอยบ้างเล็กน้อยสูงประมาณ 4 ชั้น มีอยู่ฝั่งนึงที่จะเจอกับ Cana Mansion สูง 8 ชั้นที่อยู่ในซอยเพชรเกษม 7/2 ดังนั้นห้องที่อยู่ทิศนี้ชั้น 6 – 8 จะเห็นแมนชั่นนี้ด้วยค่ะ แต่ก็ไม่ถึงกับอยู่ติดกันเกินไปนัก

ในภาพรวมแล้วคงจะยากที่จะมีโครงการสูงพอๆ กันมาอยู่ด้านข้างค่ะ เพราะเท่าที่ดูจากแผนที่ไม่มีที่ดินเปล่ารอการพัฒนาอยู่ใกล้ ให้ตื่นเต้นว่าจะเป็นตึกสูงหรือไม่เลยค่ะ

.

หากมองจากเกาะกลางถนนเข้าไปหาโครงการ จะเห็นว่าอยู่ตรงกลางระหว่างอาคารพาณิชย์ 2 ข้าง

ด้านนึงติดกับอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น

ฝั่งที่อยู่ติดกับซอยเพชรเกษม 9 เป็นอาคารพาณิชย์เก่าสูง 2 ชั้น

ส่วนถ้ามองออกจากตัวโครงการจะมองเห็นสะพานข้ามแยกตัดผ่านหน้าโครงการพอดีค่ะ

ส่วนฝั่งตรงข้ามนั้นก็เป็นอาคารพาณิชย์เก่าเช่นกัน

ซอยเพชรเกษม 9 ที่ติดกับโครงการค่ะ

ซอยเพชรเกษม 9 เข้าไปด้านในจะเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการไอดีโอ ท่าพระ อินเตอร์เชนจ์ ซึ่งกำลังเคลียร์พื้นที่ก่อสร้างอยู่ค่ะ

ทิศทางแดด  ฝั่งไหนร้อน?  ฝั่งไหนร่ม?

แปลนอาคารวางเป็นรูป 3 แฉกตามรูปที่ดิน ตัวอาคารหลักจะยาวลึกเข้าไปในที่ดิน แล้วมีขาสั้นๆ ต่อแยกออกมา ทิศเหนือที่ไม่ค่อยร้อนจะหันหน้าเข้าหาถนนเพชรเกษมค่ะ มีจำนวนอยู่ไม่มากและมีแต่ห้อง Studio กับห้องขนาด 2 ห้องนอนขนาด 71 ตารางเมตรไปเลย ซึ่งห้องแบบ Studio ที่อยู่ทางทิศเหนือตั้งแต่ชั้น 6-8 อาจจะเจอ Casa Mansion บังวิวบ้างค่ะ ด้านทิศใต้ก็มีจำนวนห้องไม่มากเช่นกัน ห้องขนาด C1 ขนาด 63 ตารางเมตรจะมีแต่ด้านทิศใต้ให้เลือก ห้อง Studio ส่วนมากจะอยู่ทางทิศตะวันตกค่ะ เป็นด้านที่จะได้วิวถนนรัชดาภิเษก ส่วนห้องที่อยู่ทิศตะวันออกจะเป็นวิวที่มองเข้าไปทางแม่น้ำเจ้าพระยาและในเมืองค่ะ วิวน่าจะสวยที่สุด

ส่องโมเดล

หน้าตาคอนโดจะคล้ายๆ กับ Ideo โครงการอื่นๆ ค่ะ เอาเส้นสายมาตกแต่งให้ดูหวือหวาขึ้น จอดรถได้ชั้นแต่ชั้น 1 ถึงชั้น 5 ส่วนชั้นพักอาศัยก็เริ่มตั้งแต่จากชั้น 5 ถึงชั้น 22 ค่ะ

บรรยากาศทางเข้าด้านหน้าโครงการ ทำผนังสูงโค้งๆ เพื่อนำทางเข้าสู่ตัวโครงการ สวนพักผ่อนชั้นล่าง จะอยู่ชั้น 1 ทางขวามือติดกับโถงต้อนรับพอดี

มีที่จอดรับส่งที่ด้านหน้าอาคาร ถนน 2 เลนสวนกัน รวบทางรถเข้า-ออกให้เลี้ยวไปที่ด้านข้างอาคารด้านนึง เพื่อจะได้ไม่ต้องทำถนนรอบโครงการ ทำให้มีพื้นที่ด้านข้างเหลือทำเป็นสวนพักผ่อนด้านข้างอาคารได้ค่ะ

สวนพักผ่อนพร้อมทางวิ่งออกกำลังกายด้านข้างอาคารชั้น 1 ที่เกิดจากการรวบถนนไปฝั่งเดียว  พื้นที่ตรงนี้ก็จะต้องปูหญ้าทำเรียบๆ มีสเต็ปหรือเล่นระดับไม่ได้ค่ะ  เพราะต้องให้รถดับเพลิงวิ่งผ่านได้กรณีเกิดเหตุฉุกเฉินตามกฎหมาย

ตัวอาคารใช้สีเทาอ่อน ตกแต่งขอบอาคารด้วยเส้นสายโค้งมน เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ Ideo ในยุคนี้ค่ะ

ชั้น 6 บริเวณเหนือที่จอดรถ จะจัดเป็นสวนพักผ่อนค่ะ มีอยู่ 2 ฝั่งของอาคาร ทางทิศเหนือและทิศใต้

ดังนั้นห้องชั้น 6 ก็จะได้สวนไปโดยปริยาย มีข้อดีที่ช่วยลดความร้อนไปได้บ้างแม้จะอยู่ทิศใต้ แต่ก็อาจจะต้องแลกกับความไม่เป็นสวนตัวเท่าไหร่ค่ะ

ส่วนชั้นดาดฟ้า จะเป็นพื้นที่ส่วนกลาง มีสวนขนาดใหญ่และสระว่ายน้ำ

สระว่ายน้ำและสวนให้มาได้เต็มที่มาก ทางขึ้นมาชั้นดาดฟ้าจะมีบันไดหลักเดินขึ้นมาโผล่ตรงกลางสระว่ายน้ำ แล้วค่อยเดินข้ามสะพานไปยังสวนค่ะ

สระว่ายน้ำดูมีดีไซน์ค่ะ เก๋มาก รูปตรงนี้เป็นภาพที่ทางไอดีโอใช้โฆษณาโครงการลงโบชัวร์ด้วย  (รูปนี้เอื้อมมือแทบจะปีนถ่ายกันอยู่แล้ว 555)  ส่วนสะพานจากสระไปที่สวนนั้น  ระเบียงกระจกตรงสะพานเชื่อมของจริงคงต้องสูงกว่าในโมเดลนะคะ ถ้าระดับแบบในโมเดลจะหวาดเสียวไปหน่อย ><”

ใต้ชั้นสระว่ายน้ำลงมาที่ชั้นที่ 21 จะเป็นห้องฟิตเนส, ห้องประชุม, ห้องโซเชียลคลับ ที่ผนังเป็นกระจกล้อมรอบ มองเห็นวิวเมืองได้ทั่ว

สวนชั้นดาดฟ้า วิ่งออกกำลังกายกันได้ยาวๆ เลยค่ะ ทางเดินยาวตลอดตัวอาคารเลย

พื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งานเป็นอย่างไร

Facilities จะเริ่มจากล็อบบี้เข้ามาเป็น double space อยู่ติดกับสวนพักผ่อนข้างอาคาร ขึ้นไปชั้นที่ 6 เหนืออาคารจอดรถก็จะจัดเป็นสวนพักผ่อน ซึ่งมีอยู่ 2 ฝั่งของอาคาร ชั้น 21 มีห้องฟิตเนส, Social Club, Meeting Room, Sky Lounge ตามแบบฉบับของอนันดา และชั้นดาดฟ้าเป็นสระว่ายน้ำกับสวนพักผ่อนเต็มชั้นดาดฟ้าค่ะ ซึ่งทางหลักที่พาไปชั้นดาดฟ้านั้นมีอยู่บันไดเดียวจากชั้น 21 ไปโผล่กลางสระว่ายน้ำพอดี แล้วถึงจะเดินไปที่สวนดาดฟ้าต่อได้ค่ะ

สระว่ายน้ำนั้นการใช้งานจริงคงไม่สะดวกมากนักถ้าจะออกกำลังกายจริงจัง เหมือนรูปแบบของสระดูเป็นสระว่ายน้ำที่เน้นสวยงามมากกว่าค่ะ

สรุปแล้วพื้นที่ส่วนกลางก็มีอยู่ 4 ที่ด้วยกันค่ะ ชั้น 1 เป็นสวนพักผ่อนด้านข้างอาคารและโถงต้อนรับ, ชั้น 6 สวนพักผ่อนเหนือชั้นจอดรถ, ชั้น 21 ห้องฟิตเนส ห้องประชุม ห้องโซเชียลคลับ และชั้น 22 สระว่ายน้ำและส่วนพักผ่อนขนาดใหญ่ค่ะ

สำหรับสัดส่วนการใช้งานนั้น  สัดส่วนลิฟต์โดยสาร 4 ตัวกับ 844 ยูนิต  เฉลี่ยออกมาได้ 211 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว ถือว่าน้อยไปมากค่ะ ที่จอดรถ 344 คัน หรือ 40% ไม่รวมจอดซ้อนคัน นับว่าใช้ได้กับคอนโดที่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าค่ะ จากรูปหน้าตา Facilities ตกแต่งสไตล์ modern หรูหรา ส่วนตัวชอบสระว่ายน้ำที่หวือหวาสะใจดีค่ะ

.

Lobby ชั้น 1 ตกแต่งสไตล์หรูหราค่ะ เหมือนอยู่ในห้องรับแขก

จากโถงต้อนรับจะมองเห็นสวนที่อยู่ด้านหน้าอาคารด้วย บรรยากาศดีทีเดียวค่ะ  การตกแต่งในรูปถือว่าคุมโทนสีของวัสดุและบรรยากาศของสเปซได้ดีทีเดียว

ขึ้นมาชั้น 21 ณ ห้อง Sky Fitness ค่ะ ทำกระจกรอบห้อง ให้ได้เห็นวิวรอบๆ

ห้อง Sky Lounge

ห้อง Social Club

และชั้นดาดฟ้าอาคารค่ะ สระว่ายน้ำดูเหมือนจะใหญ่แต่ก็ถูกทางเดินกินพื้นที่ไปเยอะพอสมควรค่ะ

ทางเดินเชื่อมไปที่สวนพักผ่อน ทำเป็นทางลาดเชื่อมไป

มีที่นั่งพักผ่อนตรงกลางสระว่ายน้ำด้วย เก๋ดีค่ะ

เปิดผังคอนโด  Typical Floor Plan

Floor Plan คอนโด Ideo ท่าพระ อินเตอร์เชนจ์ ชั้น 1 

เริ่มที่ชั้น 1 กัน เข้ามาภายในรั้วโครงการก็จะเจอกับที่จอดรับส่งคนหน้าโถงต้อนรับ รวบทางเข้าออกรถเป็นทางเดียวกัน เหลือฝั่งทิศตะวันตกเป็นพื้นที่สวนพักผ่อนค่ะ รถที่ขับเข้าไปนั้นจะไปอ้อมขึ้นที่จอดรถด้านหลังโครงการ

Floor Plan คอนโด Ideo ท่าพระ อินเตอร์เชนจ์ ชั้น 2

ชั้น 2 – 5 จะเป็นชั้นจอดรถ ซึ่งพื้นที่จอดรถบริเวณที่มีลูกศรสีแดงจะเป็นที่จอดรถแบบปลายตัน ทำให้ถ้าขับรถเข้ามาจอดแล้วชั้นไหนเต็ม จะกลับรถได้ลำบากหน่อยเพราะไม่วนเป็น Loop เหมือนบริเวณลูกศรสีเขียวค่ะ

Floor Plan คอนโด Ideo ท่าพระ อินเตอร์เชนจ์ ชั้น 5

แปลนชั้น 5 จะเริ่มเป็นชั้นพักอาศัย เป็นชั้นมีทั้งที่จอดรถและห้องพัก ห้อง Studio เกือบทั้งหมดจะอยู่ทิศตะวันตกเรียงกันยาวๆ ห้องแบบ 1 ห้องนอน B1, B2 จะอยู่ทางทิศตะวันออก และห้องแบบ 2 ห้องนอน C1, C2 จะอยู่ที่หัวและท้ายของอาคารค่ะ ทั้งชั้นมีจำนวนทั้งหมด 30 ยูนิต

Floor Plan คอนโด Ideo ท่าพระ อินเตอร์เชนจ์ ชั้น 6

แปลนชั้น 6 จะเป็นชั้นที่มีห้องพักอาศัยเต็มชั้น และเป็นชั้นที่อยู่เหนือพื้นที่จอดรถ ทำให้มีพื้นที่ทำเป็นสวนพักผ่อนอยู่ 2 ข้างของอาคาร ทางฝั่งทิศเหนือและทิศใต้ ซึ่งห้องแบบ Studio ส่วนใหญ่จะอยู่ทางทิศเหนือ ส่วนห้อง 1 ห้องนอนขึ้นจะอยู่แต่ฝั่งทิศใต้ค่ะ ห้องพักที่อยู่ชั้นนี้ทางทิศเหนือและทิศใต้จะได้สวนไปเต็มๆ แต่บางคนก็จะไม่ชอบเพราะไม่เป็นส่วนตัวเท่าไหร่ค่ะ

Floor Plan คอนโด Ideo ท่าพระ อินเตอร์เชนจ์ ชั้น 7-20

Typical Floor Plan ช่วงชั้น 7 – 20 จะมีห้องมี 50 ห้องใน 1 ชั้นค่ะ ตำแหน่งห้องจะเหมือนกับชั้น 5 ส่วนที่เพิ่มเข้ามา ห้อง Studio ส่วนใหญ่จะอยู่ทางทิศเหนือค่ะ ห้องแบบ 1 ห้องนอน B1,B2 จะอยู่ทางทิศใต้

Floor Plan คอนโด Ideo ท่าพระ อินเตอร์เชนจ์ ชั้น 21

ชั้น 21 จะมีพื้นที่ส่วนกลางคือห้องฟิตเนส, ห้องโซเชียล คลับ, ห้องประชุม, Sky Lounge จับไว้อยู่รวมกันเป็นกลุ่มก้อนดี ใกล้กับบันไดขึ้นไปชั้นดาดฟ้า ส่วนอีกด้านคอนโดยังคงมีห้องพักอยู่อีก 33 ห้องค่ะ เนื่องจากส่วนกลางถูกแยกออกไปชัดเจนตั้งแต่โถงลิฟต์ ทำให้คนที่อยู่ชั้นนี้ไม่ถูกรบกวนมากเกินไปค่ะ

Floor Plan คอนโด Ideo ท่าพระ อินเตอร์เชนจ์ ชั้น 22

ส่วนชั้น 22 ยังคงเป็นชั้นห้องพักอาศัยอยู่ มีจำนวนทั้งหมด 32 ห้อง เพราะตัดห้อง C2 ทางทิศเหนืออกไป ส่วนที่เห็นเป็นสีขาวๆ เป็นพื้นที่ห้องเครื่องของสระว่ายน้ำที่อยู่ชั้นดาดฟ้าค่ะ

แปลนห้องดีไหม?

แปลนของคอนโด Ideo Thaphra Interchange มีหลักๆ อยู่ 3 แบบค่ะ คือแบบ Studio, 1 ห้องนอน, 2 ห้องนอน โดยห้องแบบ Studio จะมีมากที่สุดในโครงการค่ะ

• แบบสตูดิโอ
  • Type A1 ขนาด 27.50 ตารางเมตร
  • Type A2 ขนาด 28.00 ตารางเมตร
• 1 ห้องนอน
  • Type B1 ขนาด 34.50 – 35.50 ตารางเมตร
  • Type B2 ขนาด 34.00 – 35.50 ตารางเมตร
• 1 ห้องนอน
  • Type C1 ขนาด 63.00 ตารางเมตร
  • Type C2 ขนาด 71.00 ตารางเมตร

แปลนห้องคอนโด Ideo Thaphra Interchange

แบบ สตูดิโอ Type A1 ขนาด 27.50 ตารางเมตร

แปลนห้องแบบสตูดิโอจะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า พื้นที่ห้องนั่งเล่นจะรวมกับพื้นที่ห้องนอน ส่วนห้องครัวและห้องน้ำจะอยู่ติดริมอาคาร มีข้อดีคือทั้งห้องน้ำและห้องครัวระบายอากาศได้ดี  ทำอาหารได้สะดวก  ส่วนห้องน้ำส่วนเปียกก็จะแห้งง่าย แต่ก็กลายเป็นว่าห้องนั่งเล่นและห้องนอนจะไม่ได้แสงธรรมชาติจากหน้าต่างเท่าที่ควรค่ะ ตรงนี้เป็นการ trade-off กันระหว่างการออกแบบพื้นที่ว่าจะจัดวางสเปซอย่างไร  ความกว้างของห้องในส่วนนอนและนั่งเล่นพักผ่อนที่ให้มานั้นไม่แคบมาก พอรวมกับจัดเฟอร์นิเจอร์ Built-in ทุกอย่างชิดผนังแบบในแปลน ทำให้ห้องดูกว้างขึ้นได้และไม่อึดอัดค่ะ ยกเว้นแต่ระเบียงที่จะเล็กไปเสียหน่อยเนื่องจากเอาเครื่องซักผ้าไปวางที่ระเบียง  ควรใช้ราวตากผ้าแบบพับ เพื่อจะได้ไม่ขวางเวลาใช้เครื่องซักผ้าค่ะ

แปลนห้องคอนโด Ideo Thaphra Interchange

แบบ สตูดิโอ Type B1 ขนาด 34.50 ตารางเมตร

1 ห้องนอน มีอยู่ 2 แบบคือ B1 กับ B2 สำหรับแบบ B1 นี้ก็จะจัดห้องน้ำ, ครัว และระเบียง ติดกับด้านนอกของอาคารเหมือนห้องแบบ Studio ค่ะ ช่วยให้ห้องครัวและห้องน้ำได้แสงส่องถึง ระบายอากาศได้ดี ส่วนแรกจะเป็นห้องนั่งเล่นติดกับห้องครัว  ถึงห้องนั่งเล่นจะไม่ติดหน้าต่างแต่ก็พอได้แสงลอดมาจากหน้าต่างห้องครัวได้บ้างค่ะ ห้องน้ำจะอยู่ตรงกลางห้อง ส่วนห้องนอนจะติดกับระเบียง ทำให้ห้องนอนยังพอได้แสงบ้างค่ะ แต่เสียดายที่ตู้เสื้อผ้าบังประตูออกระเบียงไปบานนึง ทำให้ช่องแสงน้อยลงกว่าเดิมค่ะ แอบมีความคิดว่าถ้าสถาปนิกวางตำแหน่งประตูบานเลื่อนมาชิดฝั่งโต๊ะทำงาน  แล้วก็ย้ายคอมเพรสเซอร์แอร์กับผนังทึบไปอยู่ฝั่งตู้เสื้อผ้าแทน  ยอมเดินท่อแอร์เพิ่มอีกนิดหน่อยก็ได้แสงเข้ามาในห้องมากขึ้น

แปลนห้องคอนโด Ideo Thaphra Interchange

แบบ สตูดิโอ Type B2 ขนาด 34.50 ตารางเมตร

ห้องแบบ B2 จะต่างกับแบบ B1 ตรงที่การจัดวางห้อง ห้องนี้จะจัดห้องน้ำห้องครัวและระเบียงอยู่ชิดเรียงกันไปด้านนึง แล้วให้ห้องนอนชิดผนังภายนอก สามารถเปิดประตูกระจกเชื่อมห้องนั่งเล่นเชื่อมกับห้องนอนได้ ห้องนี้จะดูแสงธรรมชาติส่องถึงทั่วห้อง และดูไม่อึดอัดเท่าไหร่เพราะส่วนนอนติดกับหน้าต่าง  แต่ห้องนอนของห้องแบบนี้จะเล็กกว่าแบบ B1 นะคะ  ตู้เสื้อผ้าในห้องก็เล็กลงไปด้วย  ถ้าใครที่ชอบแต่งตัวมีเสื้อผ้าเยอะๆ ห้องแบบ B1 น่าจะตอบโจทย์กว่า  ส่วนห้องครัวที่ได้ยังเป็นครัวปิดเช่นกัน จะเข้าห้องน้ำและใช้งานระเบียงต้องผ่านส่วนที่เป็นครัวก่อนค่ะ

แปลนห้องคอนโด Ideo Thaphra Interchange

แบบ สตูดิโอ Type C1 ขนาด 63.00 ตารางเมตร

ห้องแบบ 2 ห้องนอน Type C1 จะมีขนาด 63 ตารางเมตร แต่ถ้าเป็นห้องแบบ C2 จะมีขนาด 71 ตารางเมตรค่ะ โดยห้องแบบ 2 ห้องนอนหากเป็น C1 จะอยู่ที่ทิศใต้ มีแค่ 2 ห้องในแต่ละชั้น ส่วนห้องแบบ C2 จะอยู่ทางทิศเหนือ มีแค่ชั้นละ 1 ห้องเท่านั้นค่ะ

เปิดประตูเข้าห้องไปแล้วห้องแรกจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นและพื้นที่รับประทานอาหารอยู่รวมกัน ห้องนอนใหญ่ จะติดระเบียงยาวเต็มความกว้างของห้องนอน  ระเบียงขนาดใหญ่ใช้งานได้จริง  ออกไปนั่งเล่นด้านนอกได้ และได้ห้องน้ำในตัว  ตรงหัวเตียงของห้องนอนใหญ่จะมีเสาโครงสร้างอยู่  ตรงนี้ไม่แน่ใจว่าโครงการจะทำ Built-in ดีไซน์ตรงหัวเตียงมาให้ยังไง เพราะไม่มีห้องตัวอย่าง  เลยอาจจะต้องมาตกแต่ง built-in เพิ่มเอาเองอีกนิดหน่อยเพื่อตรงหัวเตียงจะได้ดูสวยงามค่ะ  ในส่วนห้องนอนเล็กจะได้หน้าต่างบานน้อยไป 1 บาน ห้องน้ำและห้องครัวยังอยู่ติดริมอาคาร มีหน้าต่างระบายอากาศได้ดีเหมือนห้องอื่นๆ ในโครงการค่ะ  ครัวนั้นมีพื้นที่เพื่อใช้งานมากทีเดียว  ในภาพรวมแล้วแปลนจัดมาได้โอเคดีนะคะ

เปิดห้อง  มองสเปซ  :  Focus  on  “SPACE”  and  “DIMENSION”

ห้องตัวอย่างมีให้ดูแบบสตูดิโอ Type A 28.00 ตารางเมตร , 1 ห้องนอน Type B1 ขนาด 34.50 ตารางเมตร ซึ่งห้อง Studio เป็นแบบที่มีจำนวนห้องมากที่สุดในโครงการ ความสูงของฝ้าเพดานในห้องทั่วๆไปสูง 2.60 เมตร ห้องที่ได้จะเป็นแบบ Fully Furnished ได้วอลเปเปอร์สีขาวควันบุหรี่, พื้นไม้ลามิเนต, เฟอร์นิเจอร์โซฟา, ตู้เสื้อผ้า, เคาน์เตอร์ครัว และชุดสุขภัณฑ์เหมือนในห้องตัวอย่างเลยค่ะ

แปลนห้องคอนโด Ideo Thaphra Interchange

แบบ สตูดิโอ Type A ขนาด 28.00 ตารางเมตร

ห้องแบบ Studio จะจัดพื้นที่นั่งเล่นต่อกับห้องนอน ห้องครัวและห้องน้ำติดกับด้านนอกอาคารค่ะ  การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ชิดริมผนังทั้งหมดก็ช่วยให้ห้องดูกว้างพอควร

มองกลับไปที่ทางเข้าห้อง รู้สึกกว้างและโล่งกว่าห้องแบบห้องแบบ 1 ห้องนอน B1 เสียอีกคง เพราะไม่มีผนังมากั้นห้องค่ะ

มุมโซฟานั่งเล่นจัดเป็นชั้นวางหนังสือได้ ห้องดูอบอุ่นขึ้น แต่ของจริงจะไม่ได้ฉากสีน้ำเงินหลังเตียงนอนกับชั้นวางหลังสือนะคะ

ส่วนอีกด้านนึงก็จะทำเป็นชั้นเก็บของยาวไปตลอดแนวผนัง ใครของเยอะก็สามารถทำชั้นเหนือทีวีเพิ่มได้อีก

ห้องครัวค่ะ มีขนาดเล็กกว่าแบบ 1 ห้องนอนหน่อย

ห้องจะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าวางเคาน์เตอร์ด้านนึง ส่วนอีกด้านนึงเป็นตู้เย็นกับเคาน์เตอร์เล็กๆ  มีตู้ด้านบนให้ด้วย

เมื่อวางตู้เย็นแล้ว ความกว้างที่แคบสุดอยู่ที่ 90 เซนติเมตร ขนาดมาตราฐานค่ะ ทำครัวได้สบายๆ

ระเบียงด้านนอกยังคงกว้างเหมือนเดิม ที่ 1.2 เมตร ห้องสตูดิโอนี้ต้องวางเครื่องซักผ้าไว้ด้านนอก

ห้องน้ำโทนสีขาวน้ำตาลอ่อน มีหน้าต่างบานกระทุ้งเพื่อระบายอากาศ

แปลนห้องคอนโด Ideo Thaphra Interchange

แบบ สตูดิโอ Type B1 ขนาด 37.50 ตารางเมตร

พื้นที่ส่วนแรกเป็นห้องนั่งเล่นค่ะ ห้องแบบ Type B1 นี้จะจัดห้องครัวและห้องน้ำติดด้านนอกอาคาร ห้องนั่งเล่นจึงไม่ติดหน้าต่าง อาจจะต้องแก้โดยติดกระจกเพื่อให้ห้องดูโปร่งขึ้น อย่างในห้องตัวอย่างก็จะติดกระจกเงาไว้ด้านหลังโซฟาค่ะ

และห้องตัวอย่างก็ยังเจาะผนังห้องนอนเป็นกระจกใส มองเข้าไปมองเห็นห้องนอนได้ ซึ่งของจริงที่ได้มาจะเป็นผนังทึบนะคะ

อีกมุมให้เห็นหน้าต่างกระจกด้านหลังทีวีค่ะ ช่วยให้ห้องดูกว้างมาขึ้นทีเดียว ตู้เก็บของและชั้นวางรองเท้าอยู่ติดประตูทางเข้า สูงชนฝ้า ต่อด้วยชั้นวางทีวีแบบลอยตัว

ถัดจากห้องนั่งเล่นเข้ามาเป็นห้องครัวแบบปิด ขนาดห้องไม่เล็กจนเกินไปค่ะ ได้เคาน์เตอร์ครัวและตู้เก็บของสูงชนฝ้า ห้องครัวจะมีหน้าต่างระบายอากาศติดกับด้านนอกอาคาร หน้าตาแบบนี้เลยค่ะ

ความกว้างในห้องประมาณ 90 เซนติเมตร ขนาดมาตราฐานค่ะ

ถัดมาเป็นห้องน้ำ แยกส่วนแห้งส่วนเปียกเรียบร้อย มีหน้าต่างระบายอากาศ

เข้ามาในห้องนอนกันบ้าง

เตียงอยู่ติดกับชั้นวางของและตู้เสื้อผ้า

ที่ว่างระหว่างทางปลายเตียงและทีวี เดินผ่านได้สบาย แต่ถ้าใครตัวใหญ่หน่อย คงต้องเลือกติดทีวีไว้ที่ผนังค่ะ

ระยะจากเตียงดูทีวี อยู่ในระยะที่พอใช้

รอบๆ เตียงสามารถเดินได้รอบ วางโต๊ะหัวเตียงตัวเล็กๆ ได้อีกซักตัว

มองจากตรงตู้เสื้อผ้ากลับเข้าไปตรงส่วนนอน

ห้องนอนจะอยู่ติดระเบียง จัดเป็นตู้เสื้อผ้าและโต๊ะทำงานไว้ชิดระเบียงค่ะ ตู้เสื้อผ้าบังประตูกระจกไป 1 บาน  ตรงนี้คิดว่าน่าจะดีไซน์โดยเลื่อนชุดประตูมาติดทางฝั่งโต๊ะทำงาน  แล้วเอาม่านไปเก็บไว้ด้านข้างตู้เสื้อผ้าจะดีกว่าค่ะ  จะได้ได้แสงธรรมชาติเข้ามาในห้องมากขึ้นด้วย

ประตูระเบียงจะเปิดได้ทางเดียว และตู้เสื้อผ้าไปบังประตูกระจกไปแล้วข้างนึง ทำให้ได้แสงและรู้สึกไม่โล่งนัก

ด้านนอกแขวนแอร์คอมเพรสเซอร์ มีพื้นที่เหลือๆ ให้ตากผ้าปลูกต้นไม้ได้ค่ะ

ความกว้างของระเบียงกว้างขวางใช้ได้ค่ะ กว้างประมาณ 1.2 เมตร ไม่แคบเหมือนกับบางโครงการ ที่ระเบียงเล็กจนแทบยืนไม่ได้

เปิดห้อง  ส่องวัสดุ  :  Focus  on  “MATERIALS”

วัสดุในภาพรวมก็ให้มาค่อนข้างดีค่ะ เฟอร์นิเจอร์หลายชิ้นออกแบบมาใหม่ มีฟังก์ชั่นการใช้งาน เพื่อใช้กับโครงการนี้โดยเฉพาะ จากแบรนด์ Starmark ค่ะ

อยู่สบายแบ่งรีวิววัสดุออกเป็น 3 ส่วน  คือ  วัสดุครัวและส่วนเตรียมอาหาร(pantry) , วัสดุห้องน้ำ , วัสดุทั่วไปและวัสดุปิดผิวภายในห้อง (Finishing Material)  เพื่อให้ส่องกันง่ายๆเช่นเคยค่ะ

วัสดุห้องครัว / ส่วนเตรียมอาหาร (pantry)

ครัวแบบห้อง 1 ห้องนอนค่ะ เก็บของได้เยอะพอสมควรเลย

เคาน์เตอร์สีขาว เก็บเครื่องซักผ้าไว้ใต้เคาน์เตอร์ มีกระจกติดผนังเพื่อเช็ดทำความสะอาดง่าย ราวแขวนอุปกรณ์ และปลั๊กไฟ ส่วนตัวแล้วชอบที่ให้กระจกมาค่ะ ดูดีทีเดียว

ตู้เก็บของลอยสูงชนฝ้า

เปิดตู้ให้ดู เก็บของได้เยอะเลยค่ะ

ตู้ล่างด้านซ้าย

ตู้ล่างด้านขวา ใต้อ่างล้างจาน

อ่างล้างจาน 1 หลุม ขนาดนี่กว้างและลึกดีค่ะ ยี่ห้อ MEX

เตาไฟฟ้า 2 หัว จาก MEX

ชั้นวางเฉพาะเตาไมโครเวฟ อยู่เหนืออ่างล้างจาน

ที่ดูดควัน ยี่ห้อ MEX

ส่วนเคาน์เตอร์ครัวในห้อง Studio จะแคบกว่าค่ะ มี 2 ตู้

เปิดตู้ให้ดูค่ะ ก็ยังเก็บของได้เหมือนกันเพราะตู้ลึก ผิวสัมผัสตู้เหมือนในห้องแบบ 1 ห้องนอน แข็งแรงดีค่ะ

ส่วนตู้ครัวด้านล่าง ปิดผิวสีเทา

เปิดตู้เก็บของให้ดู

ลิ้นชักไม่ได้เป็นแบบ Soft Close มีช่องแบ่งเก็บของมาให้เรียบร้อย แบ่งช่องไว้ได้ดี

ทำขอบสีขาวต่อจากเคาน์เตอร์ เก็บรายละเอียดระหว่างผนังค่ะ

วัสดุห้องน้ำ

อ่างล้างหน้าเซรามิค ทรงสี่เหลี่ยม ยี่ห้อ American Standard

ตู้ใต้อ่างเป็นไม้อัดเก็บ เก็บของได้เยอะ

ก๊อกน้ำ American Standard

กระจกบานใหญ่ค่ะ

โถสุขภัณฑ์ ฝาปิดเป็นแบบ Soft Close ด้วย ดูดี จากยี่ห้อ American Standard ค่ะ

ส่วนเปียกอยู่ในสุดติดกับหน้าต่างระบายอากาศค่ะ ขนาดกว้างขวาง หมุนตัวอาบน้ำได้สบายๆ

ผนังบริเวณส่วนอาบน้ำตกแต่งด้วยโมเสกสีเงินๆ ดูหรูหรา

หน้าตาฝักบัว ของยี่ห้อ American Standard อีกเช่นกันค่ะ

หน้าต่างบานกระทุ้ง อยู่สูงขึ้นไปประมาณ 2 เมตร วงกบสีเทาค่ะ

ทำขอบยกระหว่างส่วนเปียกส่วนแห้ง

ประตูกระจกกั้นส่วนอาบน้ำไม่มี stopper เวลาเปิดมาแล้วมือจับจะกระแทกกับผนังค่ะ ต้องระวังหน่อย  ไม่งั้นก็ต้องหา stopper มาติดเพิ่มเข้าไป

ที่แขวนผ้า

วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (finishing)

ประตู Digital Door Lock ค่ะ แต่ไม่มีตัวอย่างให้ดู พื้นห้องไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ระหว่างห้องทำขอบเก็บความเรียบร้อย

ส่วนวงกบเข้าห้องน้ำจะปิดรอยต่อด้วยหินค่ะ

ผนังห้องได้วอลเปเปอร์ แต่จะได้สีขาวควันบุหรี่ มีวงกบรอบห้อง

สวิสซ์ไฟในห้อง

แบบ 1 ห้องนอน ตู้รองเท้าจะอยู่ติดประตูทางเข้าห้องเลยค่ะ เก็บรองเท้าได้ประมาณ 9 คู่

อีกมุมจากในห้องค่ะ

ชั้นวางทีวีแบบติดผนัง เป็นกล่องสี่เหลี่ยมยกลอยจากพื้น

ด้านใต้เป็นลิ้นชักเก็บของ

ชั้นวางของข้างเตียงที่ติดกับตู้เสื้อผ้า

โต๊ะทำงานในห้องนอน เป็นกล่องสี่เหลี่ยมผืนผ้าแบบติดผนัง

ตู้เสื้อผ้าในห้องนอน ของห้องแบบ 1 ห้องนอนค่ะ สีน้ำตาลอ่อน ผิวสัมผัสดีค่ะ

เปิดตู้ให้ดูค่ะ เก็บได้เยอะอยู่เพราะให้ตู้มาสูงชนฝ้า

ในห้องตัวอย่างใช้แอร์ของ Sumsung ที่เป็นรุ่นหน้ายื่นออกมาทรงสามเหลี่ยม เวลาเปิดตู้เสื้อผ้าชั้นบนจะไปชนกับเครื่องปรับอากาศค่ะ แต่ก็ไม่ได้เป็นประเด็นอะไรมากเพราะตู้บนนี่คงไม่ได้เปิดกันบ่อยๆ

ที่จับประตูตู้เสื้อผ้าเป็นครีบออกมาแบบนี้ค่ะ ดีไซน์สวยดี ใช้งานก็ไม่ได้ลำบากมากค่ะ

ประตูบานเลื่อนออกระเบียง เปิดได้ด้านเดียวค่ะ ได้กระจกเขียวตัดแสง วงกบและบานกรอบอลูมิเนียมสีเทาเข้ม

ระเบียงทำจากเหล็กกล่องทาสีเทาเข้มค่ะ และมีระแนงบังแอร์คอมเพรสเซอร์แอร์ให้ภายนอกดูสวยงามค่ะ

หน้าต่างในห้องครัวของห้องแบบ 1 ห้องนอน เป็นบานกระทุ้ง 2 บาน วงกบสีเทา

ตู้วางทีวีในห้องนอน หน้าตาจะคล้ายๆ กับตู้วางทีวีในห้องนั่งเล่นค่ะ

ชั้นวางทีวีและตู้เก็บของในห้องแบบ Studio ใหญ่และเก็บของได้มากกว่าใน 1 ห้องนอนค่ะ

ลิ้นชักลึกกว่าและเก็บรองเท้าได้ตั้ง 15 คู่ค่ะ

ตู้เสื้อผ้าได้บานปิดเป็นกระจกใสขอบดำแบบในห้องตัวอย่างเลย

เก็บของได้เยอะ และสูงชนฝ้า

วัสดุของตู้เสื้อผ้าแข็งแรง และดูดีค่ะ

โต๊ะเครื่องแป้งข้างเตียงนอน เป็นแค่กล่องติดผนังกับเก้าอี้ทรงลูกบาศก์ค่ะ

มีลิ้นชักเก็บของใต้เตียงได้ด้วย

โต๊ะกลางและโซฟา บริเวณพื้นที่นั่งเล่นค่ะ

เปิดกระเป๋า  ดูสตางค์

เราเข้าไปรีวิวกันวันที่ 29 มกราคม ที่ผ่านมาค่ะ  ซึ่งโครงการก็ยังไม่ได้เคาะราคากันออกมา  มีเฉพาะราคาเริ่มต้นที่ 2.69 ล้านบาท  ซึ่งถ้ากดเครื่องคิดเลขดูก็จะอยู่ในระดับเริ่ม 97,xxx บาทต่อตารางเมตร  เพราะฉะนั้นราคาเฉลี่ยของโครงการก็คงจะอยู่ที่แสนต้นๆ ต่อตารางเมตรหล่ะค่ะ  (เดาว่าสักเฉลี่ยสัก 110,xxx บาทต่อตารางเมตร นะคะ)  โดยโครงการก็จะมี pre-sale กันวันที่ 13-14 กุมภาพันธ์นี้  รับวาเลนไทน์กันเลย  ถ้าได้ข้อมู,ราคาอัพเดตแล้วทางเราจะเอามาใส่เพิ่มให้นะคะ

ราคา ณ วันที่  xx/xx/2559

ราคาเริ่มต้น :

เงื่อนไขการจอง :

• เงินจอง

• ผ่อนดาวน์

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :

ค่าส่วนกลาง  45  บาท/ตร.ม.  (ชำระล่วงหน้า 1  ปี)
ค่ากองทุนเริ่มแรก (Sinking Fund)  500 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)

Overview Summary

ด้านการเดินทาง

คอนโด Ideo Thaphra Interchange นั้นอยู่รอบนอกเมืองแต่ไม่ถึงกับอยู่ชานเมืองค่ะ ยังสามารถเข้าเมืองได้สะดวกอยู่  ตัวโครงการตั้งอยู่ห่างจากสี่แยกท่าพระ ประมาณ 150 เมตร สามารถเลือกใช้ถนนได้หลายเส้นทาง ถนนเพชรเกษมเองหน้าโครงการสามารถออกนอกเมืองไปบางแค หรือเข้าไปที่วงเวียนใหญ่ได้ หรือจะใช้ถนนจรัญสนิทวงศ์ และถนนรัชดาภิเษก ก็ได้ทั้งนั้นค่ะ  ภาพรวมของการเดินทางนั้นจัดว่าสะดวกดี  แต่จะขาดในเรื่องโครงสร้างระบบทางด่วน

ถ้าไม่ต้องการใช้รถ ก็สามารถเดินทางได้สะดวก เนื่องจากใกล้ทางขึ้นรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีท่าพระ ที่เป็นสถานีอินเตอร์เชนจ์ของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงหมอชิต-ท่าพระ และช่วงหัวลำโพง-บางซื่อ ในระยะทาง 100 เมตรจากหน้าโครงการค่ะ  ซึ่งคาดว่ารถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินจะสร้างเสร็จในปี 2560 ก่อนที่โครงการจะสร้างเสร็จอีก  ส่วนรถสาธารณะนั้นมีมากพอสมควร เพราะอยู่บนถนนใหญ่เส้นหลักอย่างเพชรเกษมและใกล้กับจรัญสนิทวงศ์ด้วย

ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต

ถ้ามองในภาพรวมของพื้นที่ในโซนนี้ เดิมทีมี Hub ใหญ่ อยู่ที่วงเวียนใหญ่ค่ะ มีร้านค้าคึกคัก มีความเป็นชุมชน แต่เมื่อรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเสร็จ  แยกท่าพระก็คงสถาปนาตัวเองเป็น Hub ในย่านนี้อีกจุดอย่างชัดเจน  ในปัจจุบันแยกท่าพระนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นที่อยู่อาศัย ร้านค้าต่างๆ ยังไม่คึกคักเท่าไหร่ มีแต่อาคารพาณิชย์และบ้านพักอาศัยแนบราบ มีอพาร์ตเมนต์สูง 8 ชั้นบ้าง  อีกหน่อยคาดว่าในอนาคตจะมีคอนโดอื่นๆ ตามมาอีก เพราะตามแนวถนนเพชรเกษมนั้นก็มีคอนโดขึ้นกันเรียงรายพอสมควรแล้ว  เพราะฉะนั้นในเรื่องการเติบโตในอนาคตก็จะมีรถไฟฟ้านี่แหละที่เป็นตัวแปรสำคัญ

ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ

ลักษณะการวางตัวของคอนโด Ideo Thaphra Interchange ก็เป็นไปตามรูปที่ดินที่เป็นรูป 3 แฉก ตัวคอนโดนั้นเป็นสไตล์ไอดีโอชัดเจน  รูปแบบการออกแบบภายนอกนั้นถูกใช้จนเป็นเอกลักษณ์ของคอนโด Ideo ไปแล้ว  ส่วนการออกแบบตกแต่งส่วนกลาง ในล็อบบี้ด้านในจะเน้นหรู  ส่วนพื้นที่อื่นๆ เช่น สระว่ายน้ำ, สวน จะเน้นเส้นสายโค้งๆ ให้ดูหวือหวามากขึ้น  ตัวโครงการวางแปลนออกมาตำแหน่งห้องเหมือนกันทุกชั้น ห้องแบบ Studio ส่วนมากจะอยู่ทางทิศตะวันตกและทิศเหนือ ห้องแบบ 1 ห้องนอนจะอยู่ทางทิศตะวันออกและทิศใต้ ส่วนห้องแบบ 2 ห้องนอนแบบ 63 ตร.ม. จะไม่มีทิศให้เลือกเพราะมีแต่ห้องทางทิศใต้ ต้องเลือก 2 ห้องนอน 71 ตร.ม. ไปเลยถ้าอยากได้ทิศเหนือ

คอนโด ไอดีโอ ท่าพระ อินเตอร์เชนจ์  เริ่มชั้นห้องพักอาศัยที่ชั้น 5 ขึ้นไป แต่โครงการล้อบรอบไปด้วยบ้านพักอาศัยที่สูงประมาณ 2-4 ชั้น มีทิศเหนือบางส่วนที่ติดกับแมนชั่นสูง 8 ชั้น ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องวิวที่จะโดนบังค่ะ  ยกเว้นห้องสตูดิโอทางด้านหน้าชั้น 6-8 ที่น่าจะโดนบล็อกวิว

ด้านการวางแปลนนั้นจัดมาได้โอเคค่ะ ห้องสตูดิโอนั้น จัดให้ห้องครัวและห้องน้ำอยู่ติดด้านนอกอาคาร ทำให้ห้องน้ำและห้องครัวมีหน้าต่างระบายอากาศได้ดี แต่กลายเป็นว่าพื้นที่ห้องที่มีการใช้งานบ่อยไม่ติดหน้าต่าง ไม่ได้วิว และแสงธรรมชาติจากหน้าต่างเต็มที่นัก แต่ความกว้างของห้องดีที่ไม่แคบจนเกินไป ทำให้พื้นที่สเปซในห้องยังดูกว้างไม่อึดอัดแม้จะไม่ติดหน้าต่างค่ะ  ห้องครัวเป็นครัวแบบปิดทุกห้อง แบ่งเป็นสัดส่วนชัดเจนจึงสามารถทำอาหารได้สบายๆ

ส่วนแบบ 1 ห้องนอนนั้น มีการจัดห้อง 2 แบบให้เลือก หากเป็นแบบ B1 ห้องครัวและห้องน้ำจะอยู่ติดด้านนอกอาคาร มีหน้าต่างระบายอากาศดี แต่ได้แสงน้อย แต่ถ้าเป็นห้องแบบ B2 ห้องนอนจะอยู่ติดหน้าต่างสามารถเปิดประตูเชื่อมกับห้องนั่งเล่นได้ ก็จะได้แสงและได้วิว ได้แสงธรรมชาติมากกว่าห้องแบบ B1 ค่ะ อันนี้แล้วแต่ว่าใครสนใจเรื่องติดหน้าต่างหรือไม่  มีจุดสังเกตในห้อง B1 ว่าไม่น่าเอาตู้เสื้อผ้าไปบังประตูกระจก ทำให้เสียพื้นที่ไป 1 บาน  น่าจะเลื่อนประตูกระจกทั้งชุดไปชิดอีกทางมากกว่า  ด้านแบบ 2 ห้องนอนในภาพรวมก็ออกแบบมาดี  ไม่ได้มีปัญหาอะไรค่ะ  ฟังก์ชั่นใช้งานรวมๆ ครบ  โครงการนี้ถือว่าให้พื้นที่ระเบียงห้อง 1 นอนกับ 2 ห้องนอนมากว้างดี  

ด้านวัสดุคอนโด Ideo Thapra Interchange นั้นให้มาดีและน่าประทับใจในภาพรวมค่ะ  เฟอร์นิเจอร์จากแบรนด์ Starmark ผิวสัมผัสดี เฟอร์นิเจอร์ของห้องแบบสตูดิโอกับ 1 ห้องนอน อาจจะแตกต่างกันเล็กน้อยเรื่องการเลือกใช้วัสดุ แต่ก็ไม่ได้เกรดต่ำกว่ากันค่ะ  แบบสตูดิโอนั้นให้ตู้เก็บของและลิ้นชักต่างๆ มาเยอะกว่าแบบ 1 ห้องนอนอีก

สำหรับพื้นที่ส่วนกลางคอนโด Ideo Thapra Interchange นั้นให้มาครบ ชั้น 1 มี Lobby ที่เป็น Double Space ติดสวนพักผ่อนด้านข้างของอาคาร, ชั้น 6 มีสวนพักผ่อนเหนือที่จอดรถ, ชั้น 21 มี Sky Fitness, Meeting Room, Social Club และชั้นดาดฟ้ามีสระว่ายน้ำที่ออกแบบมาได้สวยงามแปลกตา  และมีทางเดินเชื่อมไปยังสวนพักผ่อนขนาดใหญ่ที่ดาดฟ้าอีกฝั่งค่ะ  ดีไซน์ของลำดับการเข้าถึงสวนบนดาดฟ้านั้นน่าสนใจที่พอขึ้นมาจากพื้นที่ส่วนกลางที่ชั้น 21 แล้วจะมาโผล่ตรงกลางสระว่ายน้ำเลย  ดูแล้วเก๋ไม่เบา สัดส่วนการใช้ลิฟต์ที่ 211 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว จัดว่าหนาแน่นพอควร  ชั่วโมงเร่งด่วนต้องมีรอกันนิดหน่อย  ส่วนที่จอดรถ 40% กับโครงการที่ติดรถไฟฟ้า เทียบกับระดับราคาเฉลี่ยแสนต้นๆ ต่อตารางเมตร นับว่าใช้ได้ค่ะ

 Score Summary

สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยค่ะ  (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนคอนโดมิเนียมที่นี่)

และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่  https://www.facebook.com/Yusabuy

**** *ป.ล. เนื่องจากโครงการยังไม่ได้เคาะราคาแน่นอนออกมา  ทางเราเลยละคะแนนในส่วนของวัสดุและสาธารณูปโภคส่วนกลางเอาไว้ก่อนนะคะ  เพราะต้องให้คะแนนโดยเอาไปเทียบกับราคาเป็นหลัก  จึงมีแต่เฉพาะคอมเมนท์สรุปให้ก่อน  ราคาออกมาแล้วจะมาอัพเดตเพิ่มเติมให้อีกทีค่า *****

ทุกท่านสามารถสนับสนุนให้อยู่สบายสามารถทำรีวิวออกมาได้เรื่อยๆค่ะ  เพียงแค่เวลาไปดูโครงการบ้านและคอนโดที่ต่างๆ  เพียงช่วยระบุในแบบสอบถามของโครงการว่า ”อยู่สบาย.com” เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ท่านติดตามอ่านอยู่  เวลาทางทีมงานขออนุญาตโครงการต่างๆเข้าไปทำรีวิวจะได้ทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นค่ะ  (^_____^)

ถ้าหากว่ารีวิวของเรามีประโยชน์  ช่วยกด Like ด้านล่างสำหรับกำลังใจในการทำรีวิวของทีมงานด้วยนะคะ