การเคหะแห่งชาติชี้แนวโน้มประชากรสูงวัยของไทยพุ่ง ถึงเวลาต้องออกแบบบ้านเพื่อผู้สูงอายุ ด้วยการเฟ้นหาสุดยอดนักออกแบบรุ่นใหม่ไฟแรง ที่มีความคิดสร้างสรรค์เข้าร่วมแข่งขันโครงการส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมการออกแบบ “บ้านผู้สูงอายุ ที่ไม่ใช่ผู้สูงอายุ” ตั้งแต่บัดนี้ ถึงวันที่ 8 พฤษภาคม 2559 ชิงทุนการศึกษารวมมูลค่ากว่า 300,000 บาท พร้อมศึกษาดูงานนวัตกรรมด้านผู้สูงอายุ
นางสาวอุบลวรรณ สืบยุบล รองผู้ว่าการ รักษาการแทนผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) กล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ จะก่อให้เกิดผลต่อสังคมไทยเป็นอย่างมากนั่นคือ ประเทศไทยกำลังจะก้าวเข้าสู่ “สังคมผู้สูงอายุ” กล่าวคือ จะมีจำนวนผู้สูงอายุมากกว่าเด็ก การเคหะแห่งชาติในฐานะรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) มีภารกิจหลักในการพัฒนาที่อยู่อาศัยควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน และสังคม โดยเฉพาะ ผู้มีรายได้น้อยและรายได้ปานกลางมาตลอดนับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 43 ปี ได้เล็งเห็นความสำคัญในการออกแบบบ้านหรือที่อยู่อาศัยเพื่อรองรับผู้สูงอายุ จึงได้นำร่องจัดทำโครงการส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมการออกแบบ “บ้านผู้สูงอายุ ที่ไม่ใช่บ้านผู้สูงอายุ” ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นให้เกิดการตื่นตัวและเห็นความสำคัญของการออกแบบบ้านเพื่อผู้สูงอายุ ซึ่งไม่ได้มีแค่เรื่องของฟังก์ชั่นการใช้งานอย่างที่มีอยู่ในปัจจุบันเท่านั้น แต่ต้องมีการออกแบบที่สวยงาม น่าอยู่ ตอบโจทย์การใช้งาน และไม่ให้ผู้สูงอายุรู้สึกว่าอยู่ในที่ของคนชราหรือคล้ายสถานพยาบาล
นอกจากนี้ ยังต้องการส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่ได้คิดและวางแผนเพื่อการอยู่อาศัยในอนาคต ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังความคิดสร้างสรรค์และจะเป็นพลังขับเคลื่อนนวัตกรรมการออกแบบบ้าน หรือผลิตภัณฑ์ใหม่ๆต่อไปในอนาคตสำหรับการอยู่อาศัยทุกช่วงวัย ดังนั้น การเคหะแห่งชาติในฐานะหน่วยงานหลักทางด้านที่อยู่อาศัยของประเทศไทย จึงได้จัดทำโครงการดังกล่าวขึ้น พร้อมกับเชิญชวนให้นิสิต-นักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับอุดมศึกษา คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์หรือสาขาอื่นที่เกี่ยวข้อง ให้ส่งผลงานนวัตกรรมการออกแบบ “บ้านผู้สูงอายุ ที่ไม่ใช่บ้านผู้สูงอายุ” เข้าร่วมในโครงการดังกล่าวพร้อมเปิดรับสมัครส่งผลงานตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 8 พฤษภาคม 2559 ชิงทุนการศึกษารวมมูลค่า 360,000 บาทพร้อมศึกษาดูงานนวัตกรรมด้านผู้สูงอายุ
พร้อมกันนี้รักษาการแทนผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า การพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับประชาชนทุกช่วงวัยให้อยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน ซึ่งก็รวมถึงการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุหรือผู้สูงวัยเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ของการเคหะแห่งชาติ และที่ผ่านมาได้ดำเนินการผ่านโครงการต่างๆ อาทิเช่นโครงการปรับปรุงที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุซึ่งเป็นผู้มีรายได้น้อยและผู้ยากไร้ หรือโครงการ “บ้านสบาย เพื่อยายตา” ซึ่งต่อยอดมาจากงานวิจัยของฝ่ายวิชาการพัฒนาที่อยู่อาศัย การเคหะแห่งชาติ ซึ่งเริ่มนำร่องที่ ตำบลบางตะบูน จังหวัดเพชรบุรี เมื่อปี 2553 ปัจจุบันได้เข้าไปช่วยเหลือผู้สูงอายุ ในการซ่อมแซม, ปรับปรุง และสร้างบ้านใหม่มาแล้วกว่า 100 หลังซึ่งถือว่าเป็นความภูมิใจของการเคหะแห่งชาติที่ได้คืนสิ่งดีๆให้กับสังคมมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น