ขอสินเชื่อบ้านและคอนโดอย่างไรให้ผ่านฉลุย
· ~ 1 min readสวัสดีเพื่อนๆ ที่กำลังค้นหาข้อมูลการกู้ซื้อบ้านและคอนโดครับ บทความนี้เรารวบรวมรายละเอียดสรุปขั้นตอนต่างๆ ในการยื่นขอสินเชื่อบ้านและคอนโดให้ผ่านฉลุยมาฝากกันเป็นข้อมูล จะได้เตรียมตัวกันแต่เนินๆ เพื่อไม่ให้ต้องมานั่งเสียเวลาเพราะเอกสารไม่ครบบ้าง Statement ไม่ผ่านบ้าง
เราขอสรุปขั้นตอนการขอสินเชื่อทั้งหมดไว้ดังนี้ครับ
1. เลือกธนาคารที่ต้องการจะกู้ เพื่อเลือกดอกเบี้ยและเงื่อนไขการกู้ที่เหมาะสมกับแต่ละคนมากที่สุด แน่นอนว่าดอกเบี้ยต้องถูก! และมีเงื่อนไขการผ่อนชำระที่ดี ซึ่งดอกเบี้ยของแต่ละธนาคารก็จะมากน้อยต่างกันไป และก็ขึ้นกับเครดิตของผู้กู้แต่ละคนด้วยว่ามีเครดิตดีขนาดไหน ถ้าเครดิตดีมากๆ อัตราดอกเบี้ยที่ได้ก็จะต่ำลงครับ แต่ถ้าประวัติไม่ดี เช่น เคยติดเครดิตบูโรมาก่อน ธนาคารก็อาจจะพิจารณาเรื่องความเสี่ยงโดยให้อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นก็ได้นะครับ
2. จากนั้นก็ไปติดต่อที่ฝ่ายสินเชื่อกับธนาคารนั้นๆ โดยตรง ซึ่งบ่อยครั้งโครงการบ้านและคอนโดหลายโครงการก็มักจะมีธนาคารที่ดีลข้อเสนอพิเศษและอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ขอสินเชื่อซื้อบ้านและคอนโดโครงการนั้นๆ มาเฉพาะอยู่ด้วย ตรงนี้ก็ลองสอบถามจากโครงการได้เลย
3. เตรียมเอกสารเพื่อขอสินเชื่อ ส่วนใหญ่ก็จะใช้หลักฐานคล้ายกัน ดังนี้ครับ
- หลักฐานส่วนบุคคลและหลักฐานรายได้ ได้แก่
– บัตรประจำตัวประชาชน
– ทะเบียนบ้าน
– เอกสารเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้ามี)
– ทะเบียนสมรส หรือทะเบียนหย่า (ถ้ามี)
– หนังสือรับรองเงินเดือน หรือหลักฐานการรับเงินและจ่ายเงินเดือนจากนายจ้าง
– บัญชีเงินฝากธนาคาร พร้อม statement ย้อนหลัง 6 เดือน
– สำเนาทะเบียนการค้า หรือหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล (กรณีเป็นเจ้าของกิจการ)
– หลักฐานรายได้หรือทรัพย์สินอื่นๆ - หลักฐานของบ้านหรือคอนโดที่ต้องการจะขอสินเชื่อ
– สำเนาโฉนดที่ดิน หรือสำเนาหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ห้องชุด
– สำเนาสัญญาจะซื้อจะขาย
– รายละเอียดทรัพย์ส่วนบุคคล และทรัพย์ส่วนกลาง
ตรงนี้แอบกระซิบเทคนิคนิดนึงว่า เราควรจะเตรียม Statement ไว้ให้สวยๆ แต่เนิ่นๆ ครับ ให้มีเงินเข้าออกในบัญชีอย่างสม่ำเสมอ และมีที่มาที่ไปด้วย ธนาคารเห็นก็จะสบายใจ ปล่อยกู้ง่ายๆ
4. หลังจากนั้นก็รอทางธนาคารประเมินทั้งฝั่งสินทรัพย์ที่ต้องการจะขอสินเชื่อ และความสามารถในการผ่อนชำระของผู้ขอสินเชื่อครับ จากนั้นก็รอลุ้นผลว่าธนาคารจะให้กู้กี่บาท ได้ครบตามที่ขอไว้หรือไม่ หรือว่าได้แค่บางส่วน ระหว่างนั้นธนาคารก็อาจจะส่งคนเข้าไปตรวจสอบกับโครงการที่เรายื่นกู้ เพื่อเช็คราคาประเมินและรายละเอียดต่างๆ เพิ่มเติมด้วยครับ ถ้ากรณีที่ไม่ได้ซื้อบ้านและคอนโดกับโครงการ ธนาคารก็จะนัดเราเข้าไปเพื่อประเมินราคาสินทรัพย์ที่ขอสินเชื่อครับ
5. จ่ายค่าธรรมเนียมให้ธนาคารด้วยนะครับ หลายคนลืมคิดตรงนี้เผื่อเอาไว้เวลายื่นกู้ มีค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่าย คือ
- ค่าธรรมเนียมแรกเข้าหรือค่าธรรมเนียมยื่นกู้ อัตราสูงสุดที่ธนาคารคิดกันในขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 0-1% ของวงเงินที่ขอกู้
- ค่าประเมินราคาหลักทรัพย์ อยู่ระหว่าง 0-0.5% ของราคาประเมิน หรือบางธนาคารก็คิดเป็นค่าใช้จ่ายคงที่
- ค่าประกันอัคคีภัย
6. นอกจากค่าธรรมเนียมที่จ่ายให้ธนาคารแล้ว ก็ต้องจ่ายให้กรมที่ดินด้วยนะครับ
- ค่าธรรมเนียมการจดจำนอง 1% ของวงเงินที่ขอกู้
- ค่าธรรมเนียมการโอน 2% ของราคาประเมินของกรมที่ดิน ถ้าซื้อบ้านหรือคอนโดในโครงการต่างๆ ก็มักจะให้ออกกันคนละ 1% ระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย
- ค่าอากร จำนวน 0.05% ของวงเงินกู้ใหม่
- ค่าธรรมเนียมอื่นๆ ตามระเบียบของกรมที่ดิน
** ทั้งนี้ค่าธรรมเนียมต่างๆ ก็อาจจะมีเปลี่ยนแปลงได้ ก่อนจะยื่นขอสินเชื่อก็อย่าลืมสอบถามกับทางธนาคารอีกครั้งนะครับ
7. กู้ได้มาแล้วก็ …… ผ่อนตามกำหนดสิคร้าบ รออะไร !!!
สำหรับใครที่ต้องการจะขอสินเชื่อบ้านและคอนโด ลองแวะเข้าดูข้อมูลของธนาคารกรุงศรีเป็นทางเลือกได้นะครับ https://www.krungsri.com/bank/th/KrungsriGuru/Loans.html
[Advertorial]