นายอมฤต เจริญพันธ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ฮับบ้า จำกัด ผู้นำด้าน Co-working space ของไทยและสากล เปิดเผยว่า จากการที่บริษัทฯ ได้เปิดให้บริการในธุรกิจดังกล่าวมาร่วม 4 ปีที่เอกมัยซอย 4 ตลาดให้การตอบรับที่ดีทั้งจากลูกค้าชาวไทยและต่างชาติ มีลูกค้าเข้าไปใช้บริการพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยมี 4 องค์ประกอบหลักๆดังนี้
- มีผู้ประกอบการในธุรกิจขนาดเล็ก(SMEs)มากขึ้น และรัฐบาลก็ให้การสนับสนุนธุรกิจดังกล่าว เป็นหัวจักรหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
- กลุ่ม Startup ผู้ประกอบการใหม่ด้านเทคโนโลยี ที่เพิ่งเริ่มตั้งธุรกิจแต่อยากมีสถานที่ทำงานเป็นของตัวเองพร้อมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ แต่ยังไม่พร้อมที่จะลงทุนสร้างหรือเช่าพื้นที่สำนักงาน
- กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ปัจจุบันชอบอาชีพอิสระนั้นมากขึ้นและคนกลุ่มนี้จะมีความเป็นคอมมูนิตี้คือ มีความสามารถ มีความคิดที่เหมือนๆกัน ที่ต้องการพื้นที่เล็กๆมานั่งทำงานด้วยกัน มีการพูดคุยกันก็อาจก่อให้เกิดประกายความคิดใหม่
- นักธุรกิจ หรือนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ Work and Travel เข้ามาเมืองไทยมากขึ้น
ทั้งนี้ปัจจุบัน ฮับบ้ามีแผนธุรกิจขยายสาขา ตั้งเป้าเป็นอันดับ 1 ในภูมิภาค South East Asia (SEA) เพื่อรองรับกับกระแสต่างๆดังกล่าว โดยเฉพาะคนทำงานอาชีพอิสระและนักท่องเที่ยวที่มีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ขณะนี้ทางฮับบ้ากำลังมองหาพื้นที่ใหม่ๆเพื่อขยายธุรกิจใน 2 รูปแบบคือ ลงทุนเอง และ เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการเจ้าของอาคารต่างๆที่มีพื้นที่ว่าง “เปลี่ยนพื้นที่ว่าง ให้สร้าง รายได้ ด้วย NODE” ในการขยายโอกาสดังกล่าว ฮับบ้าได้ร่วมกับบริษัท พร็อพทูมอร์โรว์ จำกัด เจ้าของเว็ปไซต์ prop2morrow ในเครือ 2morrow group สื่ออสังหาฯ ในรูปแบบใหม่ ที่ให้บริการด้านการเป็นที่ปรึกษาด้านอสังหาฯแบบครบวงจรเน้นการให้ข้อมูลเชิงและความเห็นจาก Influencer ในรูปแบบที่หลากหลาย “การร่วมกันนี้ถือเป็นรายแรกในประเทศไทยที่อาศัยจุดแข็งที่มีอยู่ ทั้งฮับบ้าและ prop2morrow เพื่อตอบโจทย์ “พื้นที่ว่าง”ในอสังหาริมทรัพย์หรือพื้นที่ว่างตามหัวเมืองใหญ่ที่มีขนาดตั้งแต่ 10 ตร.ม.ขึ้นไป พร้อมเป็นเจ้าของ Passive Incomeให้ผลตอบแทนสูงสุดถึง 15 % ต่อปี”
ด้านนายสุธาทร สุทธิสนธิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท พร๊อพทูมอร์โรว์ จำกัด ผู้ร่วมก่อตั้งเว็ปไซต์ prop2morrow ในเครือ 2morrow group กล่าวว่าการพัฒนาของ Globalization หรือด้วยพลังของเทคโนโลยี จะทำให้โลกถูกลดขนาดลงผู้คนจะเข้าถึงกันได้ง่ายและเร็วขึ้น ผลที่ตามมาจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่างๆ มากมายเศรษฐกิจแบบแบ่งปันหรือ Sharing economy ได้รับการยอมรับและเป็นที่นิยมมากขึ้น เกิดสังคมที่ไม่จำเป็นต้องครอบครองสินทรัพย์ ด้วยเพราะเห็นว่าคนคนเดียวหรือกลุ่มเดียวใช้งานได้ไม่ต็มที่ จึงเกิดกระบวนการแชร์ให้ผู้อื่นหรือผู้ที่ต้องการใช้ได้มาใช้ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นการแชร์ที่พัก ,การแชร์รถยนต์ การแชร์รถจักรยานยนต์ รวมถึงการแชร์พื้นที่การทำงานร่วมกัน เป็นต้น การแชร์กันต่างๆเหล่านี้ จะจ่ายเป็นค่าเช่าหรือค่าบริการ ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่ม ในขณะที่ต้นทุนคงเดิมไม่เพิ่มขึ้น
จากกระแสในธุรกิจร่วมแบ่งปันที่กำลังเป็นเทรนด์ใหม่ในประเทศไทย เป็นอีกจุดประกายที่ก่อให้เกิดการจับมือกันขึ้นเป็นครั้งแรกของประเทศไทยระหว่างบริษัท ฮับบ้า ซึ่งเป็นผู้นำด้าน Co-working space ของไทยและเป็นที่รู้จักของตลาดสากล กับสื่ออสังหาฯ prop2morrow โดยบริษัทฯเชื่อมั่นว่าการร่วมกันครั้งนี้เป็นอีกโอกาสขยายธุรกิจเพื่อเพิ่มช่องทางในการสร้างรายได้ผ่านจุดแข็งที่ทีมีทั้งสองฝ่ายช่วยเสริมซึ่งกันและกัน
“ผมว่าธุรกิจแทบทุกภาคส่วนจะต้องปรับตัวให้ทันกับกระแสที่เปลี่ยนไปของโลก การเปลี่ยนไปของสังคม และ เปลี่ยนพื้นที่ว่าง ให้สร้าง รายได้ ด้วย NODE ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งรูปแบบสำนักงานแนวใหม่ของคนยุค Gen Next” นายนายสุธาทร กล่าวพร้อมกับระบุในตอนท้ายว่า หลังจากที่ได้ทำประชาสัมพันธ์ไปผ่านช่องทางการสื่อสารต่างๆ ปรากฎว่ามีเจ้าของพื้นที่หรือเจ้าของอาคารได้ลงทะเบียนนำพื้นที่มาร่วมเป็นจำนวนมาก ซึ่งบริษัทฯพร้อมให้บริกาครบวงจร ทั้งจะส่งทีมงานลงพื้นที่ไปดูศักยภาพของทำเลพร้อมให้คำปรึกษาทางด้านการตลาด รวมถึงบริการออกแบบตกแต่งให้กับลูกค้าเจ้าของพื้นที่ด้วยเช่นกัน
