ศุภาลัย เตรียมเปิดโครงการใหม่ 29 โครงการ ตั้งเป้ายอดขาย 27,000 ล้านบาท มั่นใจตลาดอสังหาฯ ปี 2560
· ~ 1 min readศุภาลัย เผยแผนธุรกิจปี 2560 เตรียมเปิดโครงการใหม่ 29 โครงการ ตั้งเป้ายอดขาย 27,000 ล้านบาท พร้อมเน้น “การพัฒนาตนเอง ด้านความสามารถ และคุณภาพชีวิต เพื่อความก้าวหน้าและความสุข” เป็นแนวสร้างสรรค์ “บ้านที่ดี” ที่มาจากผลิตภัณฑ์แห่งความสุข+นวัตกรรม
ดร.ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 2559 ยังคงอยู่ในสภาวะทรงตัว ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคยังอยู่ในสภาวะรีรอ แต่อย่างไรก็ตามการลงทุนภาครัฐและภาคเอกชนนั้นจะชะลอตัวในระยะสั้นเท่านั้น คาดว่าในปี 2560 จะปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น เนื่องจากรัฐบาลมีแผนที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง เชื่อมั่นว่าผู้ประกอบการ ทั้งรายเล็กและรายใหญ่ที่ชะลอการเปิดโครงการใหม่ไว้ในปีที่แล้ว มาปีนี้จะมีการแข่งขันที่ดุเดือด
ในปีที่ผ่านมา ภาคธุรกิจอสังหาฯ ได้ปรับตัวเตรียมความพร้อมสู่การเปลี่ยนแปลงใหม่ เพื่อรับมือกับเทรนด์ความต้องการของผู้บริโภคที่เริ่มเปลี่ยนไปสู่ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Friendly Design) และบริษัทฯ พร้อมที่จะเติบโตอย่างยั่งยืนโดยยึดหลักธรรมาภิบาล ทำให้ปี 2559 ทางศุภาลัยได้รับรางวัลจากองค์กรชั้นนำต่างๆ จำนวนมาก เช่น รางวัลหุ้นยั่งยืน ประจำปี 2559 จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, รางวัลด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดี (CGR) จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย, รางวัล EIT-CSR Awards 2016 จากสภาวิศวกรรม-สถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์, รางวัลสถานประกอบการดีเด่น จากสำนักงานประกันสังคม และรางวัล Investors’ Choice Award จากสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย เป็นต้น
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงผลงานปี 2559 ที่ผ่านมา ซึ่งศุภาลัยสามารถทำยอดขายได้ 24,500 ล้านบาท โดยมีการเปิดตัวโครงการทั้งหมด 21 โครงการ เป็นแนวราบ 16 โครงการ และคอนโดมิเนียม 5 โครงการ มูลค่ารวม 24,120 ล้านบาท
สำหรับแผนธุรกิจปี 2560 ศุภาลัยตั้งเป้ายอดขาย 27,000 ล้านบาท เติบโตประมาณ 10% และเป้าหมายรายได้ 24,500ล้านบาท โดยจะเปิดตัว 29 โครงการ แบ่งเป็นแนวราบ 24 โครงการ และคอนโดมิเนียม 5 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวม 37,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันทางศุภาลัยได้มีที่ดินในมือเอาไว้สำหรับพัฒนาทั้ง 29 โครงการหมดแล้ว และยังได้วางงบประมาณซื้อที่ดินในปีนี้อีกประมาณ 8,000 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่มาจากเงินทุนหมุนเวียนภายในบริษัทฯ เอง ในปัจจุบันทางศุภาลัยมี Cost of Funds ประมาณ 3.1% ซึ่งถือว่าต่ำเมื่อเทียบกับการเติบโตของราคาที่ดิน จึงสามารถซื้อที่ดินและถือครองกรรมสิทธิ์เอาไว้ล่วงหน้าได้นาน
ในปี 2560 นี้ ทางศุภาลัยยังเน้นเปิดตัวโครงการแนวราบเป็นหลัก แต่จะมีโครงการคอนโดที่เป็นไฮไลท์ของปีนี้ คือ Supalai Oriental Sukhumvit 39 ซึ่งเป็นหนึ่งในทำเลดีที่สุดที่ทางศุภาลัยพัฒนาคอนโดมา โดยมีมูลค่าโครงการกว่า 10,000 ล้านบาท ทำให้ในปี 2560 นี้ ศุภาลัยจะมีมูลค่าโครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดตัวสูงเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา และหากแบ่งแยกตามทำเล ตั้งเป้ายอดขายในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ประมาณ 72% หัวเมืองต่างจังหวัดที่เหลืออีก 28%
สำหรับโครงการที่จะสร้างเสร็จในปี 2560 นี้ จะมีการทยอยรับรู้รายได้ตลอดทั้งปี โดยเริ่มจากไตรมาสแรก 4 โครงการ โดยมีโครงการใหญ่ที่รอโอนกรรมสิทธิ์ในไตรมาส 4 อย่างศุภาลัย เวลลิงตัน 2 ด้วย โดย ณ ปัจจุบันทางศุภาลัยมียอดสัญญาที่รอโอนกรรมสิทธิ์ปี 2560 ประมาณ 15,000 ล้านบาท และมียอดสัญญารอโอนกรรมสิทธิ์ในอนาคตรวมทั้งหมด 36,000 ล้านบาท
ทั้งนี้จากการเปิดตัวโครงการที่เพิ่มขึ้นรวมทั้งการเปิดตัวโครงการที่เลื่อนจากปีก่อน ทำให้ในปีนี้เป็นปีแห่งการปรับสมดุลของตลาด โดยตลาดคอนโดมิเนียมรวมทั้งตลาดแนวราบทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดจะได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐที่มีความชัดเจนขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางรถไฟฟ้าสายต่างๆ การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว การขยายสนามบิน และพัฒนาเป็นสนามบินนานาชาติในหัวเมืองต่างๆ เพิ่มขึ้น และนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐผ่านธุรกิจอสังหาฯ ทั้งการลดค่าธรรมเนียมการโอนและการจดจำนอง อีกทั้งแผนการประกาศใช้ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่มีการเลื่อนออกไป ทำให้คาดว่าทิศทางของตลาดอสังหาฯ ปี 60 สดใสมากขึ้น ทั้งนี้มีมุมมองว่าในปี 2560 จะเป็นการแข่งขันกันของผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีประสบการณ์และเงินทุนสูง โดยผู้ประกอบการรายย่อยน่าจะชลอการพัฒนาโครงการใหม่ลงไปส่วนหนึ่ง
สำหรับในตลาดต่างจังหวัด ในปีนี้ทางศุภาลัยจะเปิดเฉพาะโครงการแนวราบ ตามยังหัวเมืองใหญ่ต่างๆ ซึ่งปัจจุบันจังหวัดที่มีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี สงขลา ภูเก็ต นครศรีธรรมราช อุดรธานี ขอนแก่น ชลบุรี ระยอง อุบลราชธานี นครราชสีมา และจะมีแผนพัฒนาโครงการพัฒนาโครงการที่จังหวัดเชียงรายในปีนี้ ซึ่งมีที่ดินอยู่ในมือแล้วเช่นกัน