บริษัท AP Thailand แถลงความสำเร็จครบรอบ 3 ปี ความร่วมมือระหว่าง “เอพี ไทยแลนด์” และ “มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป” (หรือ MEC) พร้อยเผยแนวทางในปี 60 ที่ดำเนินงานร่วมกันภายใต้กลยุทธ์ ‘AP Think Different’
แผนการดำเนินงาน ปี 2560
- ร่วมทุนกับบริษัทมิตซูบิชิ เอสเตท เป็นปีที่ 4 และจัดตั้งบริษัทแม่ร่วมกัน ทุนจดทะเบียน 6,100 ล้าน
- เติบโตต่อเนื่อง คาด 4 ปีพัฒนาโครงการร่วมกันมูลค่ากว่า 47,000 ล้านบาท
- ครึ่งปีแรกนี้ เตรียมเปิดตัว 2 โครงการใหญ่ – ไลฟ์ วัน ไวร์เลส (Life one wireless) และ ไลฟ์ ลาดพร้าว (Life Ladprao)
- ยกระดับความร่วมมือภายใต้แนวคิด ‘AP Think Different’ สร้างความแตกต่างทั้งด้าน “นวัตกรรมสเปซและเทคโนโลยี” “องค์ความรู้และที่อยู่อาศัยคุณภาพ” รวมถึง “คุณภาพชีวิต สังคมและชุมชน”
- แนวคิด AP Digital Community เข้ากับการออกแบบสเปซ ตอบชีวิตดิจิตอลของคนเมือง พร้อมพัฒนา ‘AP Checklist’ เครื่องมือตรวจสอบคุณภาพทุกขั้นตอน
โครงสร้างการดำเนินธุรกิจที่เอพีและมิตซูบิชิ เอสเตท เป็นโมเดลการร่วมทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย ซึ่งต่างจากรายอื่น คือ การจัดตั้งบริษัทแม่ในไทย ด้วยทุนจดทะเบียน 6,100 ล้านบาท ภายใต้ชื่อ “บริษัท พรีเมียม เรสซิเดนท์ จำกัด” เพื่อทำหน้าที่บริหารจัดการโครงการภายใต้การร่วมทุน โดยทางมิตซูบิชิ เอสเตทได้ส่งทีมงานจากญี่ปุ่นที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน มานั่งทำงานประจำร่วมกับทีมงานเอพีอีกด้วย
ทั้งนี้ ในปี 2560 ซึ่งก้าวสู่ปีที่ 4 ของการร่วมทุน ทั้งเอพีและ MEC เรายังคงวางแผนพัฒนาคอนโดมิเนียมร่วมกันอย่างต่อเนื่อง โดยในครึ่งปีแรกเราพร้อมเปิดตัว 2 โครงการใหญ่แห่งปี ได้แก่ Life One Wireless ( ไลฟ์ วัน ไวร์เลส ) และ Life Ladprao ( ไลฟ์ ลาดพร้าว ) และบริษัทฯ ยังมีแผนเปิดตัวโครงการอื่นๆ อีกซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาร่วมกัน ซึ่งจากการร่วมทุนครั้งแรกเมื่อปี 2557 จนถึงวันนี้เอพีและมิตซูบิชิ เอสเตท พัฒนาโครงการร่วมกันมูลค่าสูงถึง 47,000 ล้านบาท
คุณอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) กล่าวว่ามีความยินดีที่ AP ได้ร่วมทำงานกับ ‘มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป’ ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ได้พัฒนาความรู้และเทคโนโลยีอย่างเข้มข้นและจริงจัง จนถึงการร่วมยกระดับมาตรฐานวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยอีกด้วย ซึ่งแต่ละฝ่ายต่างมีจุดแข็งที่ส่งเสริมกัน คือ MEC ได้ถ่ายทอดความเชี่ยวชาญในด้านดีไซน์และการออกแบบสเปซ รวมถึงกระบวนการควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอน ส่วน AP ก็ได้แบ่งปันและให้คำแนะนำการทำธุรกิจอสังหาฯ ในประเทศไทยให้
มร. โชจิโร โคจิมา กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท เอเชีย ในนามของมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่ได้ร่วมงานกับ AP เช่นกัน ผลจากการร่วมมือกันถือเป็นที่น่าพอใจทั้งในส่วนของยอดขายและการโอนกรรมสิทธิ์ แนวทางการดำเนินงานจากวันนี้ไป ประเทศไทยยังคงเป็นหนึ่งในเป้าหมายในการลงทุนสำคัญของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะมีแผนพัฒนารถไฟฟ้า อันจะส่งผลต่อ การเติบโต โอกาสในการลงทุน และอัตราการขยายตัวของชุมชมเมืองใหม่ๆ โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ ติดแนวรถไฟฟ้า ปี 2560 นี้เราตั้งเป้าจะพัฒนาโครงการร่วมกับเอพีมูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ AP ยังคงเน้นการดำเนินกลยุทธ์ “AP Think Different” ซึ่งเป็นแนวทางหลักในการทำธุรกิจของเอพี และยังได้นำมาใช้กับความร่วมมือระหว่าง เอพีและ MEC ใน 3 ด้านสำคัญ ได้แก่
- นวัตกรรมสเปซและเทคโนโลยี : เพื่อให้ AP แตกต่างเรื่องพื้นที่ใช้สอยและความสะดวกสบาย โดยจะนำเทคโนโลยี IOT (Internet of Things) มาร่วมในการออกแบบทั้งภายในห้องและพื้นที่ส่วนกลาง
- องค์ความรู้และผลิตภัณฑ์ที่อยู่อาศัยคุณภาพ : AP จะแลกเปลี่ยนเทคนิคต่างๆ กับ MEC เพื่อให้แต่ละโครงการมีคุณภาพมากขึ้น เช่น AP Check List ที่ร่วมกับทีมดีไซน์เนอร์และทีมตรวจสอบคุณภาพงานจากทาง MEC ซึ่ง AP Check List จะช่วยควบคุมมาตรฐานในการพัฒนาโครงการ ตั้งแต่กระบวนการออกแบบไปจนถึงการตรวจสอบคุณภาพงาน รวมถึงการให้ความร่วมมือในการพัฒนาหลักสูตรการอบรมร่วมกับสถาบัน AP Acadamy และโปรแกรม ‘AP Open House’ ที่ส่งเสริมให้นักศึกษาฝึกงานของ AP ได้มีโอกาสเรียนรู้และได้ลงสนามจริงกับพันธมิตรชาวญี่ปุ่นด้วย ณ ประเทศญี่ปุ่น
- คุณภาพชีวิต สังคมและชุมชน : การทำงานร่วมกันระหว่าง AP และ MEC ใน ‘AP Design Lab’ ไม่ใช่แค่การพัฒนาสินค้าให้ดีเท่ากัน แต่ยังร่วมไปถึงส่งเสริมสังคมและชุมชนด้วย เช่น โครงการสนามฟุตบอล
ผลการดำเนินงานปี 2559
ตลอดระยะเวลา 3 ปี ผลงานของ เอพีและ MEC พัฒนาคอนโดมิเนียมมาแล้วทั้งสิ้น 8 โครงการ มูลค่ารวม 27,000 ล้านบาท ทั้ง 8 โครงการมีสัดส่วนการโอนกรรมสิทธิ์เกินกว่าเป้าหมายและมียอดขายรวมเฉลี่ย 85% โดยในไตรมาส 4 ของปี 2559 มีคอนโดสร้างแล้วเสร็จพร้อมเข้าอยู่ 4 โครงการ คือ