พฤกษาคาดว่าปีนี้ตลาดอสังหาฯ จะเติบโตกว่าปี 2559 ประมาณ 5% เนื่องจากมีการลงทุนด้านคมนาคมของภาครัฐบาล โดยปีนี้พฤกษายังจะคงเน้นที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้กลาง – ล่าง เหมือนเดิมเพราะยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่จะขยายไปยังลูกค้าระดับบน (ระดับ Premium) มากขึ้น เนื่องจากมีมูลค่าเพิ่มขึ้นทุกปี และต้องการให้ครบคลุมทุกเซ็กเมนต์ โดยปีนี้บริษัทฯ มีแผนเปิดโครงการใหม่ 72 โครงการ ทั้งโครงการแนบราบและแนวดิ่ง
เป้าหมายปี 60
ปี 60 นี้พฤกษาตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 52,900 ล้านบาท ยอดโอน 50,200 ล้านบาท เติบโตจากปี 2559 อยู่ที่ 19% และ 9% ตามลำดับ พร้อมเตรียมเงินลงทุนรวมประมาณ 1.8 หมื่นล้านบาท
โครงสร้างองค์กรใหม่
และเนื่องจากตั้งเป้าหมายยอดขายที่มากขึ้น พฤกษาจึงปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ภายใต้ชื่อ บมจ.พฤกษาโฮลดิ้ง (PSH) ตั้งแต่ธันวาคมปี 2559 เพื่อความคล่องตัวในการทำธุรกิจ โดยตั้งไว้ 3 กลุ่มธุรกิจ ดังนี้
- กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท คิดเป็นสัดส่วน 60%
- กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท-พรีเมี่ยม คิดเป็นสัดส่วน 30%
- กลุ่มธุรกิจใหม่ (New Business) คิดเป็นสัดส่วน 10% ( จะเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมในวันที่ 17 ก.พ. 60 นี้ โดยธุรกิจที่พฤกษาสนใจ คือ ธุรกิจโรงพยาบาล )
กลยุทธ์และแผนงาน
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในปีนี้ มี 3 แนวทาง คือ
1. การบริหารรอบธุรกิจให้สั้น ซึ่งปัจจุบันระยะเวลาจาก ลูกค้าจองถึงโอนกรรมสิทธิ์ มีระยะเวลาในกลุ่มทาวน์เฮาส์ 49 วัน บ้านเดี่ยว 91 วัน คอนโดมิเนียมไม่เกิน 8 ชั้น ใช้ระยะเวลา 425 วัน และ คอนโดมิเนียมอาคารสูง ใช้ระยะเวลา 754 วัน
2. แผนการเปิดโครงการใหม่จำนวน 72 โครงการ มูลค่ารวม 60,800 ล้านบาท แบ่งเป็นทาวน์เฮาส์ 39 โครงการ บ้านเดี่ยว 20 โครงการ คอนโดมิเนียม 7 โครงการ และโครงการพรีเมียม 6 โครงการ นอกจากนี้ยัง มีโครงการที่อยู่ระหว่างการขายอีก 176 โครงการ
3. ใช้กลยุทธ์บ้านพร้อมอยู่ ในการบริหารจัดการโครงการทาวน์เฮาส์ และบ้านเดี่ยว ซึ่งมั่นใจด้วยกลยุทธ์ 3 แนวทางนี้ จะทำให้บริษัทฯ บรรลุเป้าหมายตามที่ตั้งไว้
โครงการเปิดใหม่ 72 โครงการ
1 ในกลยุทธิที่จะให้บรรลุเป้าในปีนี้คือ เปิดโครงการใหม่จำนวน 72 โครงการ ทั้งระดับล่าง – กลาง และระดับ Premium ซึ่งมีมูลค่ารวมกันทั้งสิ้น 60,800 ล้านบาท แบ่งเป็น
- กลุ่ม Value (บ้านแนวราบราคาไม่เกิน 10 ล้านบาท) : จำนวน 66 โครงการ มูลค่า 50,900 ล้านบาท ทาวน์เฮ้าส์ 39 โครงการ, บ้านเดี่ยว 20 โครงการ, คอนโดมิเนียม 7 โครงการ
- กลุ่ม Premium : จำนวน 6 โครงการ มูลค่า 9,900 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวสูง 5 โครงการ มูลค่า 8,800 ล้านบาท และแนวราบ 1 โครงการ มูลค่า 1,100 ล้านบาท
ตัวอย่างโครงการแนวราบ The Plam (เดอะ ปาล์ม) และคอนโด High Rise เดอะรีเซิร์ฟ ทองหล่อ ( The Reserve Thonglor) โครงการระดับ Premium ที่พฤกษา อยากจะปรับสัดส่วนให้มีส่วนแบ่งการตลาดมากขึ้น จากเดิมที่มีเพียง 10% ของพอร์ตเป็น 30% ของพอร์ตภายใน 3 – 5 ปี ส่วนกลุ่มธุรกิจ Value พฤกษาถือครองส่วนแบ่งการตลาดเซ็กเมนต์มากกว่า 15% ของตลาดรวมทั้งหมด ซึ่งเป็นตลาดที่มีฐานใหญ่ 70-80% ของมูลค่าตลาดโดยรวม