บมจ.ไดอิ กรุ๊ปประกาศแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2560 เน้น Living Solution หลังรวมกับ Nirvana  เน้นการสร้างนวัตกรรมในการอยู่อาศัย โดยเป็นครั้งแรกที่นำจุดเด่นด้านเทคโนโลยีการก่อสร้างของไดอิ มาช่วยในการพัฒนาการก่อสร้างของเนอวานา ในขณะเดียวกันนำดีไซน์ที่โดดเด่นของเนอวานามาช่วยพัฒนาสินค้าของไดอิให้น่าสะดุดตามากยิ่งขึ้น พร้อมประกาศเป็นเจ้าแรกเจ้าเดียวในไทยที่มีธุรกิจครบไลน์เรื่องบ้านในวงการอสังหาฯ โดยปัจจุบันผู้บริหารของเนอวานาได้ขึ้นรับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Daii แล้วอย่างเป็นทางการ

การร่วมกันของ Daii และ Nirvana

บมจ.ไดอิ กรุ๊ป เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจรับสร้างบ้านในแบรนด์ ดีจิ (Deeji) , ธุรกิจบ้านสำเร็จรูปในแบรนด์ กินซ่า (Ginza) , ธุรกิจรั้วบ้าน ในแบรนด์ Fenzer และ ธุรกิจกรอบประตู หน้าต่างอลูมิเนียมแบรนด์ ATECH ซึ่งจุดเด่นในการดำเนินธุรกิจของไดอิ คือ ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีการก่อสร้างที่ดี  ส่วนธุรกิจของ Nirvana นั้น เป็นผู้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย ที่มีดีไซน์โดดเด่น เช่น โครงการภายใต้แบรนด์ BEYOND, ICON, INTRO, @WORK, DEFINE, COVER  เป็นต้น

เมื่อ 2 บริษัทมารวมกัน คือ เทคโนโลยี + Design จะทำให้การก่อสร้างรวดเร็วและสวยงามไปพร้อมๆ กัน  นับเป็นครั้งแรกในวงการอสังหาฯ ไทย ที่หนึ่งบริษัทจะมีทั้งธุรกิจพัฒนาโครงการ ธุรกิจรับสร้างบ้าน ธุรกิจบ้านสำเร็จรูป และธุรกิจขายวัสดุเกี่ยวกับบ้าน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่ต้องการจะมีบ้านอย่างตรงจุด ทั้งบ้านบนที่ดินตัวเอง หรือการซื้อบ้านในโครงการจากผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์  โดยเป้าหมายที่เราวางไว้ คือ Living Solution เพียงนึกถึงการมีบ้าน เมื่อเดินทางมาที่ไดอิ จะมีทุกอย่างให้เลือก เป็น Beyond Synergy หรือขั้นกว่าของการผสานธุรกิจ เพราะเราไม่ได้มองแค่การรวมเพื่อเติบโตทางธุรกิจเพียงอย่างเดียว แต่เราต้องการรวมเพื่อนำจุดเด่นในทุกด้านของทั้งคู่มาใช้ ทั้งการรวมด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม วิธีคิด ช่องทางการตลาดใหม่ๆ และการพัฒนาสินค้าเพื่อยังประโยชน์สูงสุดแก่ผู้บริโภคด้วย

แผนการดำเนินธุรกิจปี 2017

แผนการดำเนินธุรกิจของ บมจ.ไดอิ กรุ๊ป ณ ปัจจุบันจึงมี 3 ประเภทธุรกิจหลัก ได้แก่

1. ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้แบรนด์ Nirvana
2. ธุรกิจรับสร้างบ้าน ภายใต้แบรนด์ DEEJI , บ้านสำเร็จรูปแบรนด์ GINZA HOME
3. ธุรกิจวัสดุเกี่ยวกับบ้าน คือ รั้ว แบรนด์ Fenzer  และกรอบประตูหน้าต่าง แบรนด์ ATECH

แผนกลยุทธปี 2017

1. ต้องการเปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าได้มากขึ้น และง่ายขึ้น จึงมีมีแผนดันสินค้าด้านวัสดุก่อสร้างเข้าสู่ Modern Trade , การสร้างบ้านจริงเป็น Show Unit ให้ลูกค้าที่สนใจได้สัมผัสบ้านสำเร็จรูป และแบบบ้านใหม่ๆ จากธุรกิจรับสร้างบ้านของเราได้อย่างเต็มที่
2. เตรียมรุกธุรกิจใหม่เพื่อต่อยอดธุรกิจเดิม ได้แก่
   1. ธุรกิจรับสร้างบ้าน เช่น ลูกค้ามีที่ดินและต้องการแบบบ้าน Nirvana ไปสร้าง ก็สามารถทำได้
   2. การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายแก่นักลงทุนที่สนใจ (Investment property development) เช่น อพาร์ตเมนต์ หรือ ที่จอดรถในเมือง แบ่งขายแก่นักลงทุน โดยมี Nirvana คอยบริหารงานให้
   3. การร่วมทำธุรกิจกับเจ้าของที่ดิน (Joint venture Model) เพื่อได้ทำเลที่ดีหายากแก่ลูกบ้าน ส่วนเจ้าของที่ดินก็ได้ผลประโยชน์ไปด้วย
3. เปิดตัวโครงการใหม่ มูลค่า  8,500 ล้าน
   1. River Front Condo คอนโดที่ทุกห้องมองเห็นแม่น้ำทุกห้อง หน้าคอนโดติดแม่น้ำ ด้านหลังติดรถไฟฟ้า มูลค่าโครงการรวมประมาณ 6,000 ล้านบาท
      2. โครงการบ้านติดถนนกรุงเทพกรีฑา ซึ่งเป็นถนนใหญ่ 6 – 8 เลน และใกล้แนวรถไฟฟ้าสายสีเหลือง

ผลงานปี 2016

ในปีที่ผ่านมายอดขายของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้แบรนด์ Nirvana เติบโตขึ้นจาก 1,364 ลบ. ในปี 2558  เป็น 2,247 ลบ. ในปี 2559 หรือโตขึ้ประมาณ 40% โดยยอดขายส่วนใหญ่มาจากบ้านราคาสูงกว่า 15 ล้านบาท และสำหรับปี 2560 ได้วางเป้ายอดขายไว้ที่ 3,900 ลบ. เติบโตขึ้นจากปี 59 อีก 43 เปอร์เซ็นต์