สวัสดีค่ะ รีวิวนี้พามาชม คอนโด Notting Hill สุขุมวิท 105 เป็นแบรนด์คอนโดกลิ่นไออังกฤษ จาก ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ โครงการนี้เป็นคอนโด Low-rise 8 ชั้น 6 อาคาร ตั้งอยู่ในซอยลาซาลช่วงต้น ใกล้กับถนนสุขุมวิทค่ะ โซนลาซาล-แบริ่งนั้นเรียกได้ว่าเป็นโซนของคอนโด Origin เลยก็ว่าได้ ตัวโครงการ น็อตติ้ง ฮิลล์ สุขุมวิท 105 ห่างจาก BTS แบริ่ง ไปประมาณ 500 เมตร โครงการจะเป็นยังไงนั้น วันนี้อยู่สบายแวะเข้าไปเก็บรีวิวมาให้ชมกันอย่างละเอียดเช่นเคยค่ะ
รีวิว Notting Hill Sukhumvit 105 (Notting Hill สุขุมวิท 105) กลุ่มคอนโด Low Rise 6 อาคาร 500 เมตร จากปากซอยลาซาล
· 37 min readเริ่มจากข้อมูลเบื้องต้นของโครงการกันก่อน
Notting Hill Sukhumvit 105
(นอตติ้ง ฮิลล์ สุขุมวิท 105)
- เจ้าของโครงการ >>> บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)
- ที่ตั้งโครงการ >>> ปากซอยลาซาล 9 ซอยสุขุมวิท 105
- ขนาดที่ดิน >>> 8-0-40 ไร่
- จำนวนชั้น >>> 8 ชั้น
- จำนวนอาคาร >>> 6 อาคาร
- ประเภทห้องและขนาดห้อง >>>
- Type A ขนาด 25.50 ตารางเมตร
- Type B ขนาด 25.50 ตารางเมตร
- Type C ขนาด 29.50 ตารางเมตร
- Type D2 ขนาด 33 ตารางเมตร
- Type E ขนาด 34 ตารางเมตร
- Type F ขนาด 40.50 ตารางเมตร
- Type G ขนาด 43.50 ตารางเมตร
- จำนวนยูนิต >>> ห้องพักอาศัย 1,113 ยูนิต
- ที่จอดรถ >>> 35 % (รวมจอดซ้อนคัน)
- ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> 1.69 ล้านบาท (ราคา ณ วันที่เปิดตัว)
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> ประมาณ 70,000-75,000 บาท/ตารางเมตร
- พิกัด GPS >>> 13.661311, 100.606889
- เว็บไซต์โครงการ >>> คลิกที่นี่
- โทร >>> 061-408-0033 , 02-030-0000
คอนโด Notting Hill Sukhumvit 105 อยู่ในโซนแบริ่ง-ลาซาล โซนถนัดของ Origin เค้าแหละค่ะ ตัวคอนโดอยู่ติดกับซอยลาซาล 9 เป็นลาซาลช่วงต้นที่อยู่ใกล้กับถนนสุขุมวิท ไม่ไกลจากแนวรถไฟฟ้า ตัวถนนลาซาลหรือถนนสุขุมวิท 105 นั้นก็เป็นถนนที่เชื่อมระหว่างถนนสุขุมวิทและถนนศรีนครินทร์ นอกจากนี้ซอยย่อยบางซอย ถ้าเป็นซอยฝั่งเลขคู่จะสามารถใช้เป็นทางลัดไปออกถนนสุขุมวิท 107 หรือซอยแบริ่งได้ ส่วนถ้าเป็นฝั่งเลขคี่บางซอยจะไปออกถนนบางนา-ตราดได้ค่ะ ซึ่งบริเวณเส้นบางนานั้นก็จะมีทางด่วนตั้งอยู่ รวมไปถึงแหล่งช็อปปิ่งใหญ่โซนนี้อย่างเซ็นทรัล บางนา ด้วยค่ะ
(คลิกที่รูปเพื่อดูแผนที่ขยายได้นะคะ)
จากตัวสถานี BTS แบริ่ง ให้เราลงมายังทางออก 1 แล้วเดินย้อนมาหน่อยค่ะ ส่วนถ้าจะขึ้นไป BTS นั้นก็ง่ายๆ เลยค่ะ บันไดเลื่อนจะอยู่ปากซอยลาซาลเลย
ซอยสุขุมวิท 105 หรือซอยลาซาล เป็นถนน 2 เลนสวนกัน ตัวโครงการจะอยู่ฝั่งตรงข้าม จะข้ามถนนตั้งแต่ปากซอยเลย หรือจะข้ามด้านหน้าโครงการก็ได้ค่ะ
ข้ามถนนมาแล้วก็เดินตามทางเท้าเข้ามาเลยค่ะ ซอยค่อนข้างจะคึกคัก มีคนเดินเข้าออกซอยอยู่ตลอด หรือถ้าไม่อยากเดิน ปากซอยจะมีพี่วินมอไซค์อยู่ นั่งไปโครงการ 10 บาท
ทางเท้าในซอยลาซาลจะมียาวตลอดแนว บางช่วงก็จะเป็นตึกแถว อาคารพาณิชย์แดดก็จะร่มหน่อย ไม่เปลี่ยวด้วย
เดินมาจนถึงปากซอยลาซาล 7 พ้นตึกแถวช่วงนี้ไปก็ถึงที่ตั้งโครงการแล้วค่ะ
ถึงด้านหน้าสำนักงานขายและที่ตั้งของโครงการ Notting Hill สุขุมวิท 105 แล้วค่ะ
ตัวโครงการ Notting Hill – Sukhumvit 105 จะอยู่ใกล้ BTS แบริ่ง ซึ่งเป็นสถานีปลายทางของรถไฟฟ้าสายสีเขียวในปัจจุบัน คอนโดราคาไม่สูงมากก็เลยมากระจุกตัวอยู่บริเวณนี้ค่อนข้างเยอะ ทั้งในซอยแบริ่งและซอยลาซาลค่ะ สะดวกสำหรับคนที่ทำงานอยู่ในเมือง ย่าน CBD อย่างอโศก แต่ไม่ได้มีงงบประมาณซื้อคอนโดแพงๆ กลางเมือง ใช้วิธีนั่ง BTS ตรงไปต่อเดียวก็ถึงแล้วค่ะ ส่วนฝั่งที่เลยไปจากสถานีแบริ่ง กำลังจะมีส่วนต่อขยายของรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ที่ก็เห็นเป็นรูปเป็นร่างแล้ว อนาคตคอนโดก็เริ่มจะมีการขยับขยายไปตามแนวรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายมากขึ้น
ซอยสุขุมวิท 105 หรือซอยลาซาล เป็นซอยลัดที่เชื่อมระหว่างถนนสุขุมวิทและถนนศรีนครินทร์ ตัวโครงการจะอยู่ด้านหน้าซอยลาซาล 9 เลยค่ะ ที่ดินด้านหน้าจะอยู่ติดกับ Tesco Lotus Express (หมายเลข 1) และ ลาซาลอพาร์ทเม้นท์ สูง 7 ชั้น ที่ด้านล่างจะมี 7-Eleven ติดกันเป็นซอยลาซาล 11 ค่ะ ปากซอยลาซาล 11 อีกด้านก็จะมีเซเว่น (หมายเลข 4) อีกแห่งอยู่ด้วย ด้านหลังที่ดินโครงการไปจะมองเห็นสนามกีฬาและสนามกอล์ฟราชนาวี บางนา (หมายเลข 6) เข้าจากถนนสุขุมวิทค่ะ
ส่วนฝั่งตรงข้ามกับโครงการบนถนนสุขุมวิท 105 นั้นจะเป็นตลาดปากซอยลาซาลซอย 10 ส่วนใหญ่จะขายอาหาร มีทั้งกลางวันและเย็น แต่จะเปิดเยอะช่วงเย็น ด้านข้างและด้านหลังของตลาดจะเป็นกลุ่มคอนโดเก่า ชื่อ ลาซาลพาร์ค คอนโดมิเนียม (หมายเลข 3) ซึ่งอย่างที่บอกไปว่าซอยลาซาลจะมีคอนโดตั้งอยู่ค่อนข้างเยอะ ส่วนใหญ่จะเป็น Low-rise สูงไม่เกิน 8 ชั้น ด้วยข้อจำกัดของความกว้างถนน ทำให้ขึ้นคอนโดสูงไม่ได้ อย่างในซอยลาซาล 11 ก็มีคอนโดของ The Excel (หมายเลข 5) ตั้งอยู่ ส่วนบนถนนสุขุมวิท 105 ด้านในก็มีอีกหลายตัวค่ะ อย่างของออริจิ้นเองก็มี คอนโด Villa Lasalle (หมายเลข 7) สูง 8 ชั้น 2 อาคาร ตั้งอยู่ก่อนถึงทางเลี้ยวตามถนนสุขุมวิท 105 ค่ะ ซึ่งทางนี้ตรงไปเรื่อยๆ ตามถนนก็จะไปออกถนนศรีนครินทร์ และบางซอยก็สามารถลัดไปออกบางนา-ตราดได้อย่างที่เล่าไปแล้ว
วนกลับมาที่ฝั่งที่จะไปถนนสุขุมวิทกันบ้าง ฝั่งเลขคู่อย่างซอยลาซาล 12 ก็จะเชื่อมกับซอยแบริ่ง 1 ซอยนั้นก็มีคอนโดของ Origin อยู่อีกหลายตัวค่ะ ส่วนบริเวณปากซอยลาซาล 8 ก็มีคอนโดเพื่อนบ้านอีกหนึ่งโครงการ คือ คอนโดศุภาลัย ซิตี้ รีสอร์ท (หมายเลข 8) เป็นคอนโดสูง 8 ชั้น 2 อาคาร นอกนั้นบริเวณที่อยู่แนวถนนสุขุมวิท 105 ก็จะเป็นอาคารพาณิชย์เป็นส่วนใหญ่ค่ะ ในซอยก็จะเป็นบ้านพักอาศัยที่เป็นหมู่บ้านเก่า ไม่ก็เป็นอพาร์เม้นท์ หอพัก หรือไม่ก็คอนโดค่ะ
ฝั่งตรงข้ามกับซอยลาซาล 1 จะมีกลุ่มร้านอาหาร ด้านในจะเป็นที่จอดรถสองแถวที่วิ่งในซอยลาซาล ติดกับจะเป็นที่จอดรถของ CenterPoint Entertainment (หมายเลข 10) ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ซึ่งก็เป็นสถานที่จัดคอนเสิร์ต ถ่ายรายการค่ะ ส่วนปากซอยลาซาลเลยก็จะมี 7-Eleven อยู่อีกแห่งมีที่จอดรถให้ด้วย ติดกับเซเว่นบนถนนสขุมวิท จะเป็นปั๊มน้ำมันเชลล์ (หมายเลข 12) ส่วนบริเวณตัวสถานี BTS แบริ่งนั้นก็จะมี St. Andrews International School (หมายเลข 13) และสนามบอลค่ะ ฝั่งตรงข้ามจะเป็นปั๊มน้ำมัน Esso (หมายเลข 14) ด้านในมีเทสโก้โลตัส เอ็กเพรสค่ะ จะเห็นว่าเซเว่น และโลตัวเยอะมาก ซึ่งก็เป็นตัวบ่งบอกถึงความหนาแน่นของการอยู่อาศัยที่เป็นชุมชนนั่นเอง
สภาพแวดล้อมรอบคอนโด
พาไปรอบๆ ที่ตั้งโครงการ ก่อนจะเข้าไปสำนักงานขายคอนโด Notting Hill สุขุมวิท 105 กันค่ะ
เริ่มจากบรรยากาศด้านข้างรั้วโครงการจะติดกับเทสโก้ โลตัส เอ็กเพรสเลยค่ะ
ติดกับโลตัสก็มีเซเว่น ดึกๆ กลับคอนโดมา ถ้าหิวก็มีที่ฝากท้องตอนดึกๆ แน่นนอน
มีวินมอไซค์อยู่บริเวณปากซอยลาซาล 11 ใกล้กับที่ตั้งโครงการ
ลาซาลอพาร์ทเม้นท์ที่ติดกับโครงการค่ะ เป็นอพาร์ทเม้นท์สูง 7 ชั้น
ปากซอยลาซาลอีกฝั่งก็มี 7-Eleven อีกแห่งหนึ่ง
บรรยากาศภายในซอยลาซาล 11 ที่อยู่ใกล้กับที่ตั้งโครงการค่ะ ช่วงต้นซอยมีร้านอาหาร ส่วนด้านในจะเป็นบ้านพักอาศัย มีคอนโด Low-rise อยู่แต่จะเข้าไปในซอยย่อยอีกค่ะ
ซอยสุขุมวิท 105 จะมีรถสองแถววิ่งผ่าน ส่วนที่ดินโครงการเดิมจะเป็นที่ของซอยลาซาล 9 ด้วย แต่ตอนนี้จะปิดเป็นที่ดินโครงการทั้งหมดแล้วค่ะ
ฝั่งตรงข้ามโครงการจะมีตลาดอยู่ด้วยค่ะ ขายอาหาร ส่วนใหญ่จะเปิดช่วงเย็น แต่ตอนกลางวันก็มีบางร้านเปิดอยู่
ด้านหลังตลาดจะเป็นกลุ่มคอนโด Lasalle Park
ติดกับทางเข้าคอนโด Lasalle Park จะเป็นอาคารพาณิชย์ สูง 4 ชั้น
ด้านล่างตึกแถวจะมีร้านค้า อย่าง ซีพี เฟรชมาร์ท, แฟมิลี่มาร์ท และร้านขายยา
เลยจากตึกแถวไปจะเป็นซอยลาซาล 12 ค่ะ ซึ่งเชื่อมต่อกับซอยแบริ่ง 1
บรรยากาศบนถนนสุขุมวิท 105 ซอยนี้ค่อนข้างยาว ด้านในก็เป็นชุมชน บ้านพักอาศัย คอนโดบ้าง ถ้าขับตามถนนสุขุมวิท 105 ไปเรื่อยๆ จะไปออกถนนศรีนครินทร์
โรงงานยูแทค ไทยในซอยลาซาลค่ะ
วนกลับมาฝั่งถนนสุขุมวิท 105 ที่จะไปถนนสุขุมวิทและสถานีรถไฟฟ้ากันบ้าง
ติดกับโครงการอีกฝั่งจะเป็นทาวน์โฮม 2 ชั้นค่ะ
ด้านข้างเป็นซอยลาซาล 7 ด้านในส่วนใหญ่ก็เป็นบ้านพักอาศัย สูง 2 ชั้นค่ะ
ฝั่งตรงข้ามกับทาวน์โฮม 2 ชั้นก็เป็นอาคารพาณิชย์สูง 4-5 ชั้น ด้านล่างก็จะเป็นร้านขายของ ร้านขายอาหาร ร้านทำผม เป็นต้นค่ะ
คอนโดศุภาลัย ซิตี้ รีสอร์ท สถานีแบริ่ง-สุขุมวิท 105 ปากซอยลาซาล 8
ภายในซอยลาซาล 8 ก็เป็นบ้านพักอาศัย มีอพาร์ทเม้นท์และคอนโด Low-Rise ตั้งอยู่ในนั้นบ้าง
แฟลตลาซาลการ์เด้นท์โฮม ปากซอยลาซาล 5
ตึกแถวริมถนนสุขุมวิท 105 ส่วนใหญ่จะเป็นร้านค้า มีร้านอาหารอยู่ค่อนข้างเยอะ
ติดกันเป็นสะพานลอยข้ามถนนสุขุมวิท ข้ามไปก็เป็นซอยสุขุมวิท 107 หรือซอยแบริ่ง
อาคารพาณิชย์ระหว่างซอยลาซาล 1 และ 3 บางห้องทำเป็นหอพักค่ะ
ซอยลาซาล 1 ด้านในก็เป็นบ้านพักอาศัย
บรรยากาศถนนสุขุมวิท 105 มุ่งหน้าไปถนนสุขุมวิท
กลุ่มร้านค้า มีร้านอาหารและร้านกาแฟอยู่ บริเวณฝั่งตรงข้ามซอยลาซาล 1
ร้านสเต็กอยู่ติดกับที่จอดรถ ตรงข้าม CenterPoint Entertainment
ลานจอดรถขนาดใหญ่ที่ช่วงต้นซอยลาซาลค่ะ
อาคาร เซ็นเตอร์พ้อยท์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์
วินมอไซค์ด้านหน้าปากซอยสุขุมวิท 105
เซเว่นปากซอยสุขุมวิท 105 (ลาซาล)
บรรยากาศด้านหน้าทางเข้าซอยลาซาลค่ะ ตัวสถานีอยู่ใกล้กับปากซอยเลย
ออกมาดูสภาพแวดล้อมบริเวณถนนสุขุมวิท ส่วน BTS แบริ่งกันบ้าง
เริ่มจากบริเวณถนนสุขุมวิท ใกล้กัทางเข้าถนนสุขุมวิท 105 หรือซอยลาซาล ถ้ามาจากบางนาจะมีป้ายบอกทางเป็นทางลัดไปถนนศรีนครินทร์
ปั๊มน้ำมัน Shell ใกล้ปากซอยลาซาล
สามแยกทางเข้าซอยลาซาลค่ะ
บรรยากาศของถนนสุขุมวิท จาก BTS แบริ่ง
ป้ายรถประจำทางทั้งฝั่งจะอยู่บริเวณใต้สถานีรถไฟฟ้า BTS แบริ่ง
โรงเรียนนานาชาติเซนต์แอนดรูว์ส ติดตัวสถานีค่ะ
บรรยากาศของซอยสุขุมวิทฝั่งเลขคี่ค่ะ มุมนี้จะเป็นฝั่งที่มองไปทางซอยแบริ่ง ซึ่งด้านในจะเป็นคอนโดที่เป็นอาคารสูงอยู่ด้วย
ส่วนฝั่งนี้จะหันไปทางซอยลาซาล หรือซอยสุขุมวิท 105 ซึ่งเป็นที่ตั้งโครงการค่ะ
เริ่มเปิดประตู ไปดูในโครงการ
เข้ามาที่ดูสำนักงานขายของ Notting Hill Sukhumvit 105 กันต่อเลย ^^
สำนักงานจะอยู่ด้านหน้าติดถนนสุขุมวิท 105 อาคารที่พักอาศัยจริงจะอยู่เข้าไปด้านในประมาณ 20 เมตร ส่วนด้านหน้านั้นจะทำเป็นอาคารพื้นที่ส่วนกลางค่ะ (ตอนแวะเข้าไปรีวิว ด้านหน้าสำนักงานขายยังสร้างไม่เสร็จดีนะคะ บางส่วนในรูปเลยยังดูไม่เรียบร้อยอยู่)
ป้ายโครงการชัดๆ
ทางเข้าที่จอดรถค่ะ
เดินเข้าดูด้านในสำนักงานขายกันดีกว่าค่ะ
บรรยากาศด้านในสำนักงานขายค่ะ ซึ่งอาคารพื้นที่ส่วนกลางด้านหน้าก็จะตกแต่งบรรยากาศด้านในคล้ายๆ กับสำนักงานขาย เป็นโทนสีเทาดำ-อิฐ
ที่นั่งด้านในค่ะ
อีกมุมที่ใช้ผนังเป็นสีอิฐเปลือย
ที่นั่งรับแขกอีกมุมค่ะ
ทางเข้าห้องตัวอย่างค่ะ มีด้วยกัน 3 แบบ
ดูผังโครงการ ตำแหน่งการเข้าถึง
ตัวที่ดินของคอนโดน็อตติ้ง ฮิลล์สุขุมวิท 105 ด้านหน้าที่ติดถนนในซอยสุขุมวิท 105 (ลาซาล) จะแคบและยาวเข้าไปด้านใน ตัวที่ดินจะเว้าด้านหน้าเป็น Tesco Lotus Express ส่วนด้านหลังที่ติดกับโลตัสก็จะเป็นที่ดินของโครงการไปเลย ซึ่งทางทิศตะวันออกจะติดกับอพาร์ทเม้นท์ สูง 7 ชั้นที่ด้านล่างมีเซเว่น ซึ่งทางเข้าอพาร์ทเม้นท์จะอยู่ในซอยลาซาล 11 ด้านในซอยส่วนใหญ่ก็จะเป็นบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น และที่โล่งค่ะ ปากซอยลาซาล 11 อีกฝั่งก็จะมีเซเว่นอีกแห่งด้วย
ส่วนฝั่งตรงข้ามกับทางเข้าออกโครงการที่เป็นถนนสุขุมวิท 105 จะเป็นตลาดขายอาหารค่ะ ติดกับเป็นตึกแถว สูง 4-5 ชั้นที่ด้านล่างมี CP Fresh Mart และ FamilyMart ระหว่างตลาดและตึกแถวจะมีทางเข้ากลุ่มคอนโด Lasalle Park อยู่ค่ะ
ฝั่งทิศตะวันตกที่เป็นด้านที่เข้ามาจากถนนสุขุมวิท ด้านหน้าจะติดกับทาวน์โฮมสูง 2 ชั้น ส่วนด้านในจะเป็นบ้านพักอาศัยภายในซอยลาซาล 7 ฝั่งตรงข้ามกับซอยลาซาล 7 เป็นซอยลาซาล 8 ปากซอยมีคอนโดของศุภาลัย สูง 8 ชั้น 2 อาคารค่ะ รอบๆ ช่วงลาซาลตอนต้น ส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์ ด้านในซอยจะเป็นบ้านพักอาศัย หอพัก อพาร์ทเม้นท์ ไม่ก็คอนโดที่ส่วนใหญ่จะเป็น Low-rise
จากด้านในโครงการมองออกมาถนนในซอยสุขุมวิท 105 ค่ะ ติดกับโครงการจะเป็นทาวน์โฮมสูง 2 ชั้น ส่วนฝั่งตรงข้ามจะเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4-5 ชั้น
ทางเข้าด้านหน้าโครงการค่ะ เดินสวนกันได้พอดีๆ ไม่แคบจนเกินไป
ฝั่งตรงข้ามที่เป็นตลาดขายอาหาร มองไปด้านหลังเป็นคอนโด Low-Rise
ติดกับโครงการอีกด้านจะเป็นเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส และอพาร์ทเม้นท์สูง 7 ชั้น
ติดที่ดินโครงการที่ติดกับโลตัสค่ะ เดิมที่เป็นซอยลาซาล 9 แต่ตอนนี้เป็นที่ดินของโครงการไปแล้ว (ลาซาล 9 เดิม เป็นซอยของเอกชนค่ะ)
ทิศทางแดด ฝั่งไหนร้อน? ฝั่งไหนร่ม?
ภายในที่ดินของโครงการ Notting Hill สุขุมวิท 105 จะมีด้วยกัน 6 อาคาร แบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งละ 3 อาคาร ตรงกลางจะเป็นพื้นที่ส่วนกลางที่เป็นสวนค่ะ ถ้าเข้ามายังด้านในโครงการจะเจอกับอาคาร A และ B ก่อน ตรงกลางจะเป็นอาคาร C และ D และ ด้านในสุดจะเป็นอาคาร E และ F ซึ่งทั้ง 6 อาคารจะแบ่งห้องออกเป็นฝั่งที่หันเข้าด้านในโครงการ และห้องฝั่งที่หันออกด้านนอกโครงการ
อาคาร A, C และ E ที่อยู่ด้านเดียวกันนั้น ฝั่งห้องที่หันเข้าด้านในโครงการจะเป็นทิศตะวันออก ส่วนห้องฝั่งที่หันออกด้านนอกโครงการจะเป็นทิศตะวันตกค่ะ ซึ่งด้านข้างจะเป็นบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น ฝั่งนี้จะได้แดดบ่ายร้อนกว่าอีกฝั่ง
ส่วนอาคาร B, D และ F ถ้าเป็นฝั่งห้องที่หันเข้าด้านในทางทิศตะวันตกก็จะได้อาคารฝั่งตรงข้ามช่วยบังแดดให้บ้าง ระยะห่างระหว่างอาคารทั้ง 2 ฝั่งจะอยู่ที่ประมาณ 12-16 เมตร แล้วแต่ช่วง ส่วนห้องฝั่งที่หันออกนอกโครงการที่เป็นทิศตะวันออก ถ้าเป็นอาคาร B ก็หันไปเจอกับอพาร์ทเม้นท์สูง 7 ชั้นค่ะ ส่วนอาคาร D และ F จะเป็นวิวโล่งๆ ไป
โมเดลอาคาร
มาดูโมเดลจำลองโครงการ Notting Hill สุขุมวิท 105 กัน โครงการจะแคบและยาวเข้าในด้านใน มีทางเข้าออกติดกับถนนสุขุมวิท 105
ด้านหน้าติดทางเข้าออกโครงการจะมีอาคาร Club House สูง 3 ชั้นอยู่
อาคาร 105 Club House ชั้นล่างจะเป็น Lobby , ชั้น 2 เป็นฟิตเนส และชั้นบนสุดเป็นสระว่ายน้ำค่ะ ส่วน Drop-off จะอยู่ด้านหลังของคลับเฮ้าส์
ด้านหลังคลับเฮ้าส์จะเป็นอาคารพักอาศัย จากถนสุขุมวิท 105 เข้ามาถึงอาคาร A ระยะทางประมาณ 20 เมตร ส่วนอาคารด้านในสุดจะอยู่ที่ประมาณ 200 เมตร
มาดูกันที่อาคาร A กันก่อน ด้านหน้าของอาคาร A และ B ที่ชั้นล่างจะมี Co-working space อยู่
อาคาร A ฝั่งทิศตะวันตกที่หันออกด้านหน้าอาคาร ตัวอาคารทั้งหมดจะเป็นสีขาว-เทา
ชั้นบนของทุกอาคารจะเป็นสวนดาดฟ้าค่ะ
มาดูหน้าตาของอาคาร B กันต่อ
พื้นที่ Co-Working Space ของอาคาร B
อาคาร B ด้านข้างฝั่งทิศตะวันออกที่หันหน้ามาเจออพาร์ทเม้นท์สูง 7 ชั้น
ซูมให้ดูหน้าตา Facade อาคารชัดๆ ค่ะ ชั้น 2-6 จะเป็นสีขาว ส่วนชั้น 7-8 จะทาสีเทา
สวนที่ชั้นดาดฟ้าของอาคาร B
พื้นที่ตรงกลางระหว่างอาคาร A และ B จะเป็นพื้นที่สวนค่ะ
ระหว่างอาคาร A และ C กับ อาคาร B และ D จะเป็นสวนเชื่อมกันไปเลย บริเวณนี้รถยนต์จะผ่านไม่ได้ค่ะ
ด้านข้างฝั่งทิศตะวันออกของอาคาร D
สวนตรงกลางของอาคาร C และ D ค่ะ
ด้านข้างของอาคาร C หน้าตาเหมือนอาคาร D
ระหว่างอาคาร C และ E กับ D และ F จะเป็นถนนค่ะ วนรถออกไปได้
จบด้วยอาคาร E และ F เป็นสวนไว้นั่งเล่นพักผ่อน เน้นไปที่ความเป็นส่วนตัว
ที่ชั้น 2 ของอาคาร F จะมีสระว่ายน้ำอยู่อีกจุด พื้นที่ส่วนกลางด้านหลังนี้จะเป็น Relax Zone ต่างจากพื้นที่ส่วนกลางที่ติดถนนใหญ่จะเป็น Active Zone ค่ะ
พื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งานเป็นอย่างไร
พื้นที่ส่วนกลางของ Notting Hill Sukhumvit 105 จะแบ่งออกเป็น 2 โซนหลักๆ คือ โซนด้านหน้าโครงการ กับโซนด้านหลัง ซึ่ง Concept ก็จะแตกต่างกันค่ะ โซนด้านหน้าเป็นอาคาร 105 Club House จะเป็นโซนที่เน้นกิจกรรมสนุกสนาน เรียกเป็น Active Zone ภายในคลับเฮ้าส์จะมี Double Volume Lobby มี Bar , พื้นที่นั่งทำงาน สามารถซื้ออาหารหรือเครื่องดื่มมานั่งทำงานบริเวณนี้ได้ นอกจากนี้ก็ยังมีส่วนที่เรียกว่า Irish sports Club มี Pool table และ Football table, ห้องฟิตเนสที่มี Trainer ประจำอยู่ในโครงการด้วยค่ะ ส่วนชั้นบนสุดจะเป็น Lap Pool ระบบเกลือขนาด 20×6 เมตร
ส่วนที่ชั้นล่างของอาคาร A และ B จะมี Co-Working Space มี Free Wi-Fi ให้ ส่วนพื้นที่ส่วนกลางด้านหลังบริเวณอาคาร F จะเป็น Relax Zone มีลานหินปุ่ม สวนไม้หอม สระว่ายน้ำไว้แช่ชิลล์ๆ มีสระเด็กให้ ห้องสตรีม ซาวน่าค่ะ นอกจากนี้พื้นที่ตรงกลางระหว่างอาคารทั้ง 2 ฝั่งจะเป็นพื้นที่สวน รวมๆ แล้วพื้นที่สวนในโครงการจะมีพื้นที่ประมาณ 2,000 ตร.ม. หรือประมาณ ไร่กว่าๆ
สำหรับสัดส่วนการใช้งานของคอนโดน็อตติ้ง ฮิลล์ สุขุมวิท 105 นั้น สัดส่วนลิฟต์โดยสาร 2 ตัว ต่อ 1 อาคาร รวม 12 ตัว ทั้งโครงการมี 1,113 ยูนิต เฉลี่ยในภาพรวมออกมาได้ 93 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว ซึ่งก็ถือว่าเป็นเกณฑ์ดีค่ะ สัดส่วนที่จอดรถ 35% รวมจอดซ้อนคัน ถือว่าน้อยไปสำหรับการใช้งานจริง แต่เมื่อมองเทียบกับราคาขายก็พอเข้าใจได้ ถ้าใครไม่อยากเป็นภาระกับการวนหาที่จอดรถ การใช้รถไฟฟ้าก็เป็นตัวเลือกแทนที่สะดวกดี เพราะระยะห่างจากรถไฟฟ้า 500 เมตร กับราคานี้ก็ถือว่าไม่ไกลมาก
ภาพบรรยากาศจำบองบริเวณด้านหน้าทางเข้าออกโครงการ และอาคาร 105 Club House ที่เป็นพื้นที่ส่วนกลาง สูง 3 ชั้น
Lobby ด้านในของ 105 คลับเฮ้าส์ เป็น Double Volume จะสังเกตรูปแบบการดีไซน์ที่ใช้โทนสีดำและใช้ผนังแพทเทิร์นลายอิฐ ทำให้ดูดิบๆ ได้บรรยากาศดี
ฟิตเนสที่อยู่ชั้น 2 ของคลับเฮ้าส์
ภาพบรรยากาศจำลองของพื้นที่ Co-working Space ที่ชั้นล่างของอาคาร B ค่ะ
เปิดผังคอนโด Typical Floor Plan
Master Plan คอนโด Notting Hill สุขุมวิท 105
มาดูแผนผังภาพรวมของโครงการ Notting Hill สุขุมวิท 105 ทั้งหมดกันก่อน โครงการมีด้วยกันทั้งหมด 6 อาคาร เริ่มจากอาคาร A และ B ที่อยู่ติดกับด้านหน้าทางเข้าออกโครงการ วางอาคารเรียงยาวไปตามแนวที่ดิน จากทางเข้าโครงการถึงอาคาร A จะมีระยะทางประมาณ 20 เมตร ส่วนอาคาร E ที่อยู่ด้านในสุดจะอยู่เข้าไปประมาณ 200 เมตรค่ะ
มี Drop-Off ด้านหลังคลับเฮ้าส์ เป็นพื้นที่โครงการระหว่างอาคาร A และ B ส่วนถนนภายในโครงการจะอยู่ใต้อาคาร เป็นการเดินรถทางเดียววิ่งรอบโครงการตามลูกศรในแปลนเลย จุดวนรถมีอยู่ 2 จุดคือ ด้านหลังอาคาร C และ พื้นที่ในสุดด้านหลังอาคาร E ค่ะ
Floor Plan คอนโด Notting Hill สุขุมวิท 105
อาคาร A และ B
แปลนอาคาร A และ B เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าหน้าตาเหมือนกัน Mirror เข้าหากันค่ะ ส่วนห้องพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 2-8 ความหนาแน่น 30 ยูนิตต่ออาคาร มีโถงลิฟต์อยู่ค่อนมาทางด้านหน้าใกล้กับฝั่งที่ติดกับถนนทางเข้าออกโครงการค่ะ ห้องส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดจะเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน Type A ขนาด 25.50 ตารางเมตร ส่วนห้องมุมเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน Plus ที่ขนาดใหญ่ขึ้นมาค่ะ
Floor Plan คอนโด Notting Hill สุขุมวิท 105
อาคาร C และ D
ส่วนแปลนของอาคาร C และ D ห้องพักอาศัยก็จะเริ่มที่ชั้น 2-8 เช่นกัน มีด้วยชั้น 22 ห้องต่อชั้น หนาแน่นน้อยกว่าอาคาร A และ B … ตำแหน่งของโถงลิฟต์ก็จะอยู่ค่อนมาด้านหน้าอีกเช่นกัน ห้องพักอาศัยใน 2 อาคารนี้ จะแบ่งเป็นฝั่งที่หันเข้าหาสวน ส่วนใหญ่จะเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน Plus ทั้งหมด ส่วนห้องฝั่งที่หันออกด้านนอกอาคารนั้นจะเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน Type B ขนาด 25.50 ตารางเมตรทั้งหมดค่ะ
Floor Plan คอนโด Notting Hill สุขุมวิท 105
อาคาร E และ F
ส่วนแปลนห้องอาคาร E และ F ก็จะคล้ายๆ กับอาคาร A และ B ค่ะ มี 28 ห้องต่อชั้นค่ะ ส่วนใหญ่ก็เป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน Type A ขนาด 25.50 ตารางเมตร ซึ่งเป็น Type หลักในโครงการค่ะ ที่อาคาร F นั้นจะพิเศษกว่าอาคารอื่นอยู่หน่อย ตรงที่ชั้น 2 ของอาคารจะมีสระว่ายน้ำเพิ่มเข้ามาด้วย การวางสระว่ายน้ำตรงนี้ก็ช่วยทำให้ตึก E และ F ซึ่งอยู่ในสุด มีจุดขายเพิ่มมากขึ้น เพราะถ้าลำพังมีแต่ห้องพักอาศัยเพียงอย่างเดียว คงจะสู้ตึกอื่นไม่ได้ เพราะว่าต้องเดินเข้าออกไกลกว่า
แปลนห้องดีไหม?
คอนโด Notting Hill Sukhumvit 105 มีห้องอยู่ด้วยกันประมาณ 7 แบบค่ะ ซึ่งห้องหลักๆ ก็จะเป็นแบบ 1 ห้องนอน Type A ขนาด 25.50 ตารางเมตร และ B 25.50 ตารางเมตร รวมๆ แล้วประมาณ 80% ของทั้งหมดในโครงการเลยค่ะ แล้วก็มีแบบ Type C ที่เป็น 1 ห้องนอน Plus ที่มีอยู่เยอะพอสมควรอีกแบบค่ะ
แปลนห้องคอนโด Notting Hill Sukhumvit 105
แบบ 1 ห้องนอน Type A ขนาด 25.50 ตารางเมตร
แปลน 1 ห้องนอน Type หลักในโครงการ จะเป็นแปลนห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้า แคบและยาวเข้าไปค่ะ แบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วน คือ พื้นที่ด้านหน้าห้องจะเป็นพื้นที่นั่งเล่น พื้นที่รับประทานอาหาร และห้องน้ำ ส่วนด้านในเป็นห้องนอนและห้องครัว ซึ่งทั้ง 2 ห้องจะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ด้านหน้าห้องครัวจะมีสเปซสำหรับวางของ ส่วนด้านห้องครัวนั้นจะเป็นครัวแบบปิด อยู่ติดระเบียง สามารถทำอาหารภายในห้องได้สบายๆ ค่ะ
แปลนห้องคอนโด Notting Hill Sukhumvit 105
แบบ 1 ห้องนอน Type B ขนาด 25.50 ตารางเมตร
แปลนแบบ 1 ห้องนอนอีกแบบจะรูปร่างต่างกันค่ะ Type B แปลนจะออกมากึ่งๆ สี่เหลี่ยมจัตุรัส หน้าห้องกว้างกว่าแบบ Type A ในสัส่วนพื้นที่เท่ากัน แบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วนเช่นกัน ฝั่งทางเข้าออกห้องจะเป็นพื้นที่ครัว เชื่อมต่อกับพื้นที่นั่งเล่น แล้วก็มีระเบียงอยู่บริเวณพื้นที่นั่งเล่น ส่วนอีกฝั่งด้านหลังโซฟานั้นจะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนเป็นพื้นที่นอนและห้องน้ำค่ะ ซึ่งการแบ่งพื้นที่ด้วยประตูกระจกบานเลื่อนจะช่วยให้พื้นที่ห้องดูกว้างขึ้น ข้อดีของแปลนนี้คือ พื้นที่ในห้องจะดูโล่งกว้าง แต่สำหรับคนชอบทำอาหารจริงจัง ก็เป็นข้อเสียตรงที่ทำอาหารหนักๆ ไม่ได้ เนื่องจากเป็นครัวเปิด กลิ่นจะติดพื้นที่นั่งเล่นเอาได้
แปลนห้องคอนโด Notting Hill Sukhumvit 105
แบบ 1 ห้องนอน Plus Type C ขนาด 29.50 ตารางเมตร
แบบ 1 ห้องนอน Plus 1 ขนาด 29.50 ตารางเมตร ส่วนใหญ่จะอยู่ที่อาคาร C และ D ฝั่งที่หันเข้าหาสวน แปลนจะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าหน้ากว้างกว่าความลึกอยู่นิดหน่อย เป็น 1 ห้องนอน กับอีก 1 ห้องอเนกประสงค์ เปิดประตูเข้ามาจะเป็นพื้นที่นั่งเล่น และพื้นที่รับประทานอาหารค่ะ ในสุดจะเป็นห้องนอนที่กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก จะมีพื้นที่ทางเดินเข้าห้องอเนกประสงค์ที่อยู่ติดกับห้องนอน ซึ่งห้องนี้จะทำเป็นห้องนอนเล็กก็ได้ ส่วนของระเบียงจะอยู่ในห้องนี้ด้วย ด้านหน้าห้องอเนกประสงค์จะเป็น Pantry ครัว และทางเข้าห้องน้ำค่ะ
ลักษณะการวางแปลนของแบบนี้จะซอยเป็นพื้นที่ส่วนย่อยๆ หลายฟังก์ชั่น ซึ่งแง่ดีคือสามารถใช้งานได้หลากหลาย มถ้าอยู่ด้วยกัน 2 คน ก็แบ่งพื้นที่ทำกิจกรรมต่างๆ พร้อมกันได้ เพียงแต่ด้วยข้อจำกัดของขนาดห้อง การซอยฟังก์ชั่นเยอะๆ ก็จะทำให้ห้องดูไม่โปร่งนัก อันนี้ก็เป็นทั้งจุดดีและจุดด้อยที่มาพร้อมกันค่ะ
ห้องตัวอย่างของคอนโด Notting Hill สุขุมวิท 105 มีให้ดูแบบ 3 แบบ คือ 1 ห้องนอน Type A และ B แล้วก็แบบ 1 ห้องนอน Plus Type C ค่ะ ห้องที่ได้จะเป็น Fully Fitted มี Built-in พวกตู้ให้ มีสุขภัณฑ์ห้องน้ำ มีเคาท์เตอร์ครัวและแอร์ให้ ความสูงของสเปซระยะฝ้าเพดานในห้องทั่วไปสูง 2.60 เมตร ถือว่าค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับคอนโด Low-rise ระดับราคานี้ โครงการอื่นๆ ทีมักจะทำกันอยู่ที่ประมาณ 2.5 เมตร แต่จะมีบางส่วนที่จะสูง 2.40 เมตร เนื่องจากติดเรื่องของงานระบบค่ะ
ห้องตัวอย่าง คอนโด Notting Hill สุขุมวิท 105
แบบ 1 ห้องนอน Type A ขนาด 25.50 ตารางเมตร
เปิดประตูห้องเข้ามาจะเป็นพื้นที่นั่งเล่น ดูทีวี ด้านในจะเป็นห้องนอนที่กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก
ระยะดูทีวีค่ะ โครงการจะ Built-in ชั้นวางทีวีและตู้ด้านข้างไวให้ด้วย
จากด้านหน้าห้องนอนมองกลับไปยังทางเข้าห้องค่ะ ฝั่งด้านหน้าห้องจะเป็นพื้นที่เป็นพื้นที่นั่งเล่นและห้องน้ำ
ส่วนด้านในจะแบ่งห้องนอนเป็นห้องนอนและห้องครัว กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอนทั้งคู่
ด้านในห้องนอน มี Built-in ตู้เสื้อผ้าและฐานเตียงขนาด 5 ฟุตให้
ปลายเตียงจะยังพอมีทางเดินได้ แต่จะวางชั้นวางทีวีไม่ได้ค่ะ
เตียงนอนจะมีระยะห่างจากหน้าต่างห้องอยู่ สามารถเปลี่ยนผ้าปูที่นอนได้สบายๆ
จากในห้องมองออกมาทางเข้าออกห้องนอน
พื้นที่ระหว่างครัวและห้องน้ำ จะ Built-in ชั้นเก็บของให้ แล้วก็มีพื้นที่ไว้สำหรับวางตู้เย็นค่ะ
หน้าตาห้องน้ำจะได้เหมือนให้ตัวอย่างทั้งหมด มีฉากกั้นอาบน้ำให้ด้วย
มาดูที่ห้องครัวแบบปิดกันต่อค่ะ ตัวเคาท์เตอร์ครัวจะวางขนานไปกับพื้นที่ครัว ด้านในสุดจะเป็นระเบียง
จบด้วยจากพื้นที่ตรงบริเวณระเบียงมองออกไปยังห้องน้ำ
ห้องตัวอย่าง คอนโด Notting Hill สุขุมวิท 105
แบบ 1 ห้องนอน Type B ขนาด 25.50 ตารางเมตร
แบบ 1 ห้องนอน Type B นั้นเปิดประตูเข้ามาจะเป็นพื้นที่ครัว เชื่อมต่อกับพื้นที่นั่งเล่น จะเห็นว่าสเปซดูกว้างกว่าแบบ Type A อยู่
สเปซส่วนของพื้นที่นั่งเล่นที่อยู่ติดกับระเบียง
ระยะดูทีวีของพื้นที่นั่งเล่น
จากพื้นที่นั่งเล่นมองออกไปยังทางเข้าออกห้อง
ด้านหลังที่วางโซฟาจะเป็นประตูบานเลื่อนกระจกกั้นระหว่างพื้นที่นั่งเล่นกับห้องนอนค่ะ ถ้าต้องการพื้นที่ห้องที่ดูโล่งๆ ก็เลื่อนบานประตูเก็บไป
เข้ามาดูพื้นที่ห้องนอนกันชัดๆ
จากในห้องนอนมองออกไปยังทางเข้าออกห้อง กั้นประตูบานกระจกเอาไว้ เผื่อเวลานอนก็ประหยัดแอร์ดีค่ะ
หน้าตาห้องน้ำของแบบ Type B
จากห้องนอนมองออกห้องนอนค่ะ ปลายเตียงจะมีระยะพอเดินได้ที่อยู่ติดกับโซฟาของพื้นที่นั่งเล่น แต่ก็ไม่ได้กว้างมากนัก
จบด้วยสเปซตรงพื้นที่นั่งเล่นที่เชื่อมกับพื้นที่ครัวค่ะ ตรงกลางจะมีโต๊ะทำงานที่เอาไว้เป็นโต๊ะทานข้าวด้วย
ห้องตัวอย่าง คอนโด Notting Hill สุขุมวิท 105
แบบ 1 ห้องนอน Plus Type C ขนาด 29.5 ตารางเมตร
มาดูที่ห้องตัวอย่างแบบสุดท้ายค่ะ เป็น 1 ห้องนอน 1 ห้องอเนกประสงค์ เปิดประตูเข้ามาก็เป็นพื้นที่นั่งเล่น ด้านในจะเป็นห้องนอนที่กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก
ระยะดูทีวีก็ขนาดกำลังดี
ภายในห้องนอน มีเตียงและตู้เสื้อผ้าให้เหมือนแบบอื่น
ระยะปลายเตียงก็ยังพอเดินได้
มีสเปซเว้นไว้สำหรับเปลี่ยนผ้าปูเล็กน้อย
จากในห้องนอนมองออกมายังพื้นที่นั่งเล่นด้านหน้า
ระหว่างพื้นที่นั่งเล่นกับห้องนอน จะมีทางเดินเข้าไปด้านในที่เป็นห้องน้ำ Pantry ครัว และห้องอเนกประสงค์
ห้องอเนกประสงค์ที่อยู่ติดกับห้องนอน วางเตียง 3 ฟุตครึ่งได้ แบบชิดผนัง หรือจะเอาไว้เป็นห้องเก็บของหรือห้องทำงานก็ได้ค่ะ มีระเบียงอยู่ที่ห้องนี้ด้วย
จากในห้องอเนกประสงค์มองออกไปทางเข้าออกห้องที่เป็นสเปซสำหรับวางตู้เย็นด้านหน้าห้องน้ำ
ห้องน้ำจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับห้องอเนกประสงค์
เปิดห้อง ส่องวัสดุ : Focus on “MATERIALS”
วัสดุในภาพรวมของคอนโด Notting Hill สุขุมวิท 105 ห้องที่ได้เป็นแบบ Fully Fitted มี Built-in ตู้เก็บของ ตู้เสื้อผ้า ฐานเตียง ชั้นเก็บของให้ มีเคาท์เตอร์ครัว อ่างล้างจาน เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันให้ รวมไปถึงห้องน้ำ และแอร์ให้ค่ะ
อยู่สบายแบ่งรีวิววัสดุออกเป็น 3 ส่วน คือ วัสดุครัวและส่วนเตรียมอาหาร(pantry) , วัสดุห้องน้ำ , วัสดุทั่วไปและวัสดุปิดผิวภายในห้อง (Finishing Material) เพื่อให้ส่องกันง่ายๆเช่นเคยค่ะ
วัสดุห้องครัว / ส่วนเตรียมอาหาร (pantry)
หน้าตาชุดครัวที่ได้ เริ่มจากแบบ 1 ห้องนอน Type A ที่ได้เป็นครัวปิด มีเคาท์เตอร์และตู้ชั้นลอยด้านบน
พื้นห้องครัวแบบ 1 ห้องนอน Type A จะปูกระเบื้องให้ มีพื้นที่เหลือหลังจากวางเคาท์เตอร์ไปแล้วประมาณเกือบ 70 cm
ส่วนเคาท์เตอร์ครัวของแบบ 1 ห้องนอน Type B จะอยู่ติดกับทางเข้าออกห้องค่ะ
ครัวของแบบ 1 ห้องนอน Plus Type C หน้าตาเหมือนแบบ Type B เลยค่ะ เป็นครัวเปิด
เคาท์เตอร์ครัวด้านล่างของแบบ 1 ห้องนอน Type A ขนาดจะยาวกว่าแบบที่เหลือ มีช่องสำหรับใส่ไมโครเวฟให้ด้วย
เคาท์เตอร์ครัวด้านล่างของแบบ 1 ห้องนอน Type B และ 1 ห้องนอน Plus (Type C) จะมีช่องสำหรับใส่เครื่องซักผ้า ส่วนตู้เก็บของจะอยู่ใต้อ่างล้างจานค่ะ
Top เคาท์เตอร์ลามิเนตสีดำ
ลิ้นชักใส่อุปกรณ์ของเคาท์เตอร์ Type A
ด้านล่างมีลิ้นชักเก็บของอีกจุด
อ่างล้างจานของ Teka มีก๊อกน้ำทรงโค้งสูง
เตาไฟฟ้า 2 หัวของ Teka
เครื่องดูดควันของ Teka เช่นกัน
ถ้าเป็นชั้นลอยเหนือเคาท์เตอร์ครัวของแบบ 1 ห้องนอน Type A จะมีตู้เก็บของให้ข้างๆ Hood
ส่วนแบบ 1 ห้องนอน Type B และ 1 ห้องนอน Plus จะมีแต่ชั้นวางของค่ะ
วัสดุห้องน้ำ
ห้องน้ำของแบบ 1 ห้องนอน Type A เปิดมาจะเจอพื้นที่อาบน้ำตรงๆ มีฉากกั้นอาบน้ำให้ด้วยนะคะ
ห้องน้ำของแบบ 1 ห้องนอน Type B เปิดมาเจออ่างล้างหน้าตรงๆ
เช่นเดียวกับแบบ 1 ห้องนอน Plus
โถสุขภัณฑ์ของแบบ 1 ห้องนอน Plus จะอยู่ด้านข้างค่ะ มีช่องเว้าเข้าไป
โถสุขภัณฑ์ของ American Standard
อ่างล้างหน้าของ Mogen ทรงเหลี่ยม ด้านล่างมีช่องเก็บของ
ก๊อกน้ำก็ของ Mogen
ที่แขวนผ้าของ American Standard
ฝักบัวของ American Standard ถ้าเป็นแบบ 1 ห้องนอน Type B จะมีช่องไว้สำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำให้ แต่อีก 2 แบบจะไม่มีให้ค่ะ ต้องซื้อชั้นวางของมาติดเอง
หน้าตาฝักบัวชัดๆ ของ American Standard
ระหว่างส่วนเปียกกับส่วนแห้ง พื้นจะระดับเท่ากันค่ะ มีขอบยกสูงขึ้นมาเล็กน้อยประมาณ 5 cm
พื้นระหว่างห้องด้านนอกกับห้องน้ำค่ะ มีธรณีประตูยกสูงขึ้น ประมาณ 10 cm ปิดด้วยพื้นกระเบื้องสีขาว
พื้นจากห้องด้านนอกค่ะ
บานกรอบประตูห้องน้ำทาสีขาว
วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (finishing)
ชั้นวางทีวีและตู้เก็บของด้านหน้าทางเข้าออกห้องค่ะ ส่วนชั้นวางของเหนือทีวีนั้นจะไม่ได้นะคะ
ตู้เก็บของด้านหน้าทางเข้าออกห้อง Built-in สูงจรดเพดานห้องเลย
ตู้ล่างสุดเป็นที่วางรองเท้า ใส่ได้ 4 คู่ค่ะ
แผงควบคุมไฟอยู่ด้านในตู้บนสุด
พื้นที่เก็บของตรงชั้นวางทีวี
แบบ 1 ห้องนอน Type B จะได้โต๊ะอเนกประสงค์เพิ่มขึ้นมาค่ะ
ภายในห้องจะได้แอร์ Daikin ถ้าเป็นแบบ 1 ห้องนอน ให้ 2 ตัว ส่วนแบบ 1 ห้องนอน Plus ได้ 3 ตัวค่ะ
ปลั๊กไฟของ SYLVANIA
สวิตซ์ไฟแบบทั่วไปของ SYLVANIA
ไฟห้องจะเป็นดาวน์ไลท์ติดลอยทรงกลมค่ะ
ตู้เสื้อผ้าในห้องนอนเป็นบานเปิดลามิเนตลายไม้
ด้านในจะมีลิ้นชักใส่ของพร้อมชั้นวางให้ด้วย
ลิ้กชักด้านในตู้เก็บของสีเทาดำ
ฐานเตียงขนาด 5 ฟุต
ชั้นวางของที่ได้เพิ่มมากของ Type A
หน้าต่างบานเลื่อนอะลูมิเนียมทำสีดำในห้องนอน
ที่จับหน้าต่างบานเลื่อน
ผนังห้องจะได้เป็นฉาบเรียบทาสีขาว มีบัวพื้นเป็นสีขาว ส่วนพื้นเป็นลามิเนตค่ะ
ประตูบานเลื่อนอะลูมิเนียมทำสีดำในห้องนอน เป็นแบบ 3 ตอน
หน้าตามือจับบานประตูห้องค่ะ
ประตูบานเลื่อนแบบ 3 ตอน เวลาเลื่อนเปิด 2 ช่วง จะช่วยให้พื้นที่ห้องดูกว้างขึ้นค่ะ
ตรงระเบียงจะเป็นประตูบานเลื่อน 2 ตอน
ประตูบานเลื่อนออกไประเบียง
พื้นระเบียงห้องของแบบ Type A ค่ะ ขนาดประมาณ 90×130 cm
พื้นที่ระเบียงของ Type B และ C เป็นแบบแคบและยาว ขนาดประมาณ 70×240 cm ออกไปยืนได้แบบพอดีๆ วางเครื่องซักผ้าไม่ได้ แต่ทางโครงการก็เตรียมพื้นที่ไว้สำหรับวางเครื่องซักผ้าตรงครัวให้แล้วค่ะ
คอมเพรสเซอร์ของ Type A จะติดลอยตัว หันข้างเข้ากำแพงห้อง มีแผงบังด้านข้างให้ค่ะ
ส่วน Type B และ C คอมเพรสเซอร์ติดลอยตัว หันออกด้านนอก มีแผงบังด้านบนค่ะ
ระเบียงทำจากเหล็กกล่องทำสีดำ
ตรงระเบียงจะมีโคมไฟให้ค่ะ
เปิดกระเป๋า ดูสตางค์
ราคาเริ่มต้นคอนโด Notting Hill สุขุมวิท 105 ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 1.69 ล้านบาท เป็นแบบ 1 ห้องนอน ขนาดประมาณ 25.50 ตารางเมตร ราคาเฉลี่ยโครงการนี้ก็อยู่ประมาณ 70,000-75,000 บาทต่อตารางเมตรค่ะ แต่ถ้าเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน Plus ราคาจะอยู่ประมาณ 2 ล้านต้นๆ ก็เป็น segment ราคาที่คนวัยทำงานทั่วไปยังสามารถจับต้องได้อยู่ ราคาไม่ได้โหดร้ายมาก แต่ราคารายห้องของโครงการ (ตอนที่เราเข้าไปรีวิว) ยังไม่ได้เคาะออกมานะคะ การวิเคราะห์ในรีวิวนี้เลยยึดตามระดับราคาเฉลี่ยที่บอกเอาไว้แทน
ราคา ณ วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2560
ราคาเริ่มต้น :
1 ห้องนอน ขนาด 25.50 ตร.ม. ราคา 1.69 ล้านบาท
เงื่อนไขการจอง :
- เงินจอง
n/A
- ผ่อนดาวน์
n/A
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :
ค่าส่วนกลาง n/A บาท/ตร.ม.
ค่ากองทุนเริ่มแรก (Sinking Fund) n/A บาท/ตร.ม.
ประมาณอัตราการผ่อน (คิดจากราคาเริ่มต้นด้านบน)
(เพื่อให้เห็นกรอบของค่าใช้จ่ายคร่าวๆและนำไปวางแผนประมาณการของแต่ละคน ถึงไม่ได้ซื้อห้องที่ยกมาเป็นตัวอย่างก็ใช้ตัวเลขได้ ซึ่งผมประมาณการอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าปกติหน่อย เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรองรับความสามาารถในการผ่อน รวมถึงให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆที่เกิดขึ้น เช่น ค่าส่วนกลาง ไปด้วยในตัว) :
บนสมมติฐาน กู้ 95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 30 ปี
1 ห้องนอน พื้นที่ 25.50 ตร.ม. ราคา 1,690,000 บาท ผ่อนประมาณ 10,093 บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 25 ปี
1 ห้องนอน พื้นที่ 25.50 ตร.ม. ราคา 1,690,000 บาท ผ่อนประมาณ 10,783 บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 20 ปี
1 ห้องนอน พื้นที่ 25.50 ตร.ม. ราคา 1,690,000 บาท ผ่อนประมาณ 11,905 บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 15 ปี
1 ห้องนอน พื้นที่ 25.50 ตร.ม. ราคา 1,690,000 บาท ผ่อนประมาณ 13,910บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 10 ปี
1 ห้องนอน พื้นที่ 25.50 ตร.ม. ราคา 1,690,000 บาท ผ่อนประมาณ 18,132 บาท/เดือน
Overview Summary
ด้านการเดินทาง
ซอยลาซาล หรือซอยสุขุมวิท 105 สามารถเข้าออกได้ทั้งจากทางสุขุมวิทและทางศรีนครินทร์ โดยซอยย่อยต่างๆของซอยลาซาลนั้นยังสามารถเชื่อมไปออกสุขุมวิท 107 และถนนบางนา-ตราดได้อีกด้วย ส่วนการใช้ทางด่วนนั้น จากโครงการไปขึ้นทางพิเศษเฉลิมมหานครตรงแยกบางนาก็ไม่ไกลมาก ออกจากปากซอยลาซาลแล้วก็ไปอีกประมาณ 1.5 กิโลเมตรค่ะ
ส่วนการเดินทางด้วยรถไฟฟ้านั้นจากสถานี BTS แบริ่ง ระยะห่างจากโครงการอยู่ที่ประมาณ 500 เมตรค่ะ เดินไปได้ หรือจะใช้บริการพี่วินก็อยู่ที่ 10 บาท มีวินมอไซค์อยู่ปากซอยลาซาล 11 และปากซอยสุขุมวิท 105 เลยค่ะ ส่วนรถสาธารณะที่วิ่งภายในซอยก็จะมีรถสองแถวไปออกศรีนครินทร์ ถ้าเป็นรถประจำทางต้องเดินมาขึ้นป้ายรถเมล์ในสถานีรถไฟฟ้าเอาค่ะ
ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต
โครงสร้างพื้นฐานโซนนี้จะเป็นส่วนต่อขยายของรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว จากแบริ่งไปจนถึงสมุทรปราการ ซึ่งตามแผนจะเปิดใช้บริการประมาณปี 2562 ซึ่งตอนนี้ก็เห็นเป็นรูปเป็นร่างแล้ว โดยช่วงจากแบริ่งไปจนถึงสำโรงนั้นโครงสร้างเสร็จ 100% เหลือพวกงานติดตั้งอาณัติสัญญาณ รวมถึงสัญญาการเดินรถ ซึ่งก็คงรอกันอีกไม่นานมาก พอเปิดใช้งานจริงก็คงจะทำให้คนที่อยู่ไกลออกไปสะดวกมากยิ่งขึ้น แต่คิดว่าบริเวณรอบสถานีแบริ่งเองอาจจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดมากนัก ยังเป็นโซนที่มีปนกันทั้งที่อยู่อาศัย, คอนโด, อพาร์ทเม้นท์ สำนักงานและโรงงานต่างๆ คละๆ กันไป ยังมีพื้นที่โล่งอยู่พอสมควร ราคาของตลาดคอนโดในซอยก็คงเติบโตขึ้นบ้างเรื่อยๆ แต่อาจจะไม่ได้หวือหวาและมีราคาสูงมากนัก ส่วนหนึ่งก็เหมาะสำหรับคนที่ทำงานในเมืองที่ไม่สู้ราคาคอนโดโซนสุขุมวิทตอนกลาง และตอนปลายที่แพงขึ้นมาก หรืออีกกลุ่มหนึ่งก็เป็นคนที่ทำงานอยู่รอบนอกที่เป็นโซนโรงงานอุตสาหกรรมในจังหวัดสมุทรปราการ แต่ต้องการความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตมากขึ้น เพราะแถวนี้อาหารการกินค่อนข้างคึกคัก ด้วยความที่เป็นพื้นที่อยู่อาศัยเดิมอยู่แล้ว เลยมีรองรับอยู่เยอะค่ะ
ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ
แบรนด์ Notting Hill เป็นแบรนด์ที่ออริจิ้นออกแบบมาให้มีกลิ่นไอเป็นสไตล์อังกฤษ แต่โครงการนี้เพิ่มความเป็นโมเดิร์นมากขึ้นกว่าโครงการอื่นๆ ค่ะ ตัวอาคารรวมทั้งโทนสีโดยรวมจะเป็นสีขาว เทา ดำ และสีอิฐ ลักษณะการวางผังของคอนโดนั้นเป็นแบ่งอาคารออกเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งละ 3 อาคาร เรียงยาวกันไปเป็นเส้นก๋วยเตี๋ยวตามรูปที่ดิน อาคารที่อยู่ด้านในสุดจะห่างจากถนนประมาณ 200 เมตร มีพื้นที่คอร์ทตรงกลางทำเป็นพื้นที่สวน ฝั่งที่โดนแดดบ่ายจะเป็นด้านข้างของโครงการที่หันออกด้านนอกโครงการ เป็นอาคาร A,C และ E ส่วนอาคาร B, D และ F ห้องฝั่งที่โดดแดดบ่ายจะหันเข้าสวนด้านในมีอาคารฝั่งตรงข้ามบังแดดให้อยู่
แพทเทิร์นการออกแบบหน้าตาอาคารนั้นจะใช้โทนสีเทา-ขาว เป็นตัวแบ่ง โดย 6 ชั้นล่างจะเป็นสีขาว ส่วนด้านบน 2 ชั้นจะเป็นสีเทา มีตกแต่งลูกเล่นที่ผิวอาคารนิดหน่อย แต่ไม่ได้เยอะมาก รวมๆ ออกมาดูเรียบๆ แต่การให้สัดส่วนของกระจกที่ค่อนข้างเยอะ ก็ทำให้ดูโอเคดี
ภาพรวมของการจัดแปลน เราจะเห็นความพยายามในการวางฟังก์ชั่นต่างๆ เข้าไปในพื้นที่จำกัดให้ได้เยอะที่สุด ออกแนวเน้นความคุ้ม ทำให้ตัวห้องนั้นดูไม่เหลือสเปซโล่งๆ มากนัก บางส่วนอาจจะดูเป็นช่องๆ แต่ก็สามารถใช้งานได้หลากหลาย และมีฟังก์ชั่นที่แตกต่างกันให้เลือกตามการใช้งาน อย่างเช่นแบบ 1 ห้องนอน ก็มี Option ทั้งครัวปิด และครัวเปิด
เริ่มที่แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 25.50 ตารางเมตร มีให้เลือก 2 แบบ ซึ่งฟังก์ชั่นการใช้งานก็จะแตกต่างกันค่ะ แบบ 1 ห้องนอน Type A จะได้ครัวแบบปิด เหมาะสำหรับคนที่ชอบทำอาหาร แบ่งพื้นที่การใช้งานแต่ละห้องออกเป็นสัดเป็นส่วน ซึ่งแปลนแบบนี้จะอยู่ที่อาคาร A, B กับ E,F เท่านั้นค่ะ ส่วนแบบ 1 ห้องนอน Type B นั้นจะเป็นครัวเปิด ไม่เหมาะกับการทำอาหารหนัก แต่เหมาะสำหรับคนที่ชอบพื้นที่การใช้งานรวมๆ ที่กว้างขวาง เพราะพื้นที่นั่งเล่นนั้นสามารถรวมเข้ากับห้องนอนได้ ห้องแบบนี้จะอยู่บริเวณฝั่งที่หันออกด้านนอกของอาคาร C และ D ที่อยู่ตรงกลางของที่ดินค่ะ ส่วนอีกแบบที่เป็น 1 ห้องนอน 1 ห้องอเนกประสงค์นั้น สามารถทำเป็นห้องนอนที่ 2, ห้องทำงานหรือจะใช้เป็นห้องเก็บของสำหรับคนที่มีของในห้องเยอะก็ได้ค่ะ ห้องแบบนี้ขนาดก็จะใหญ่ขึ้นมาหน่อย แต่ไม่ถึงกับเรียกว่า 2 ห้องนอน
ด้านวัสดุนั้นให้มาดีในภาพรวม ดูแข็งแรงทนทาน ส่วนใหญ่จะเป็นหน้าบานลายไม้เข้ากันหมด มีเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหลักๆ มาให้ (บางอย่างบางแบบก็จะมี บางแบบก็ไม่มีให้ค่ะ) แล้วแต่ฟังก์ชั่นการใข้งานของแต่ละห้อง รวมๆ แล้วก็จะมี ฐานเตียง, ชั้นวางทีวี, ตู้เก็บของ, ชั้นวางของ, โต๊ะทำงาน, ตู้เสื้อผ้า, Pantry ครัว รวมอ่างล้างจาน เตาไฟฟ้า, และฮูดดูดควัน ส่วนวัสดุในห้องน้ำก็ให้มาโอเค แต่ไม่มีฉากกั้นอาบน้ำให้ ต้องมาติดเพิ่มเอง ส่วนสัมผัสของวัสดุก็ได้มาตามมาตรฐาน
ในเรื่องของพื้นที่ส่วนกลางของ Notting Hill สุขุวิท 105 นั้น ด้วยความที่ทั้งโครงการมีด้วยกัน 6 อาคาร เป็นพันยูนิต และมีข้อจำกัดด้านความกว้างของหน้าที่ดิน ก็เลยทำให้ต้องแบ่งพื้นที่ส่วนกลางออกเป็น 2 ส่วน โดยส่วนแรกจะอยู่ที่ด้านหน้าโครงการ กับด้านในสุดค่ะ ซึ่งการวางตำแหน่งแบบนี้ในแง่หนึ่งก็จะทำให้ห้องที่อยู่ท้ายโครงการยังคงมีจุดขายอยู่ โดยพื้นที่โซนด้านหน้าจะเรียกเป็น Active Zone จะเน้นกิจกรรมที่ค่อนข้างคึกคัก เป็นอาคารคลับเฮ้าส์ 3 ชั้น มี Lobby, Irish sports Club, ฟิตเนส พร้อมเทรนเนอร์ มีสระว่ายน้ำเป็น Lap Pool อยู่ชั้นบนสุด ส่วนที่อาคาร A และ B จะเพิ่ม Co-Working Space ให้ที่ชั้น 1 ด้วย ส่วนพื้นที่ส่วนกลางอีกแห่งจะอยู่บริเวณด้านหลังที่อาคาร F มี Reflexology Walking, สวนไม้หอม, Relax pool พร้อมสระเด็ก, ห้องสตรีม และซาวน่า นอกจากนี้คอร์ทตรงกลางระหว่างอาคารก็จะเป็นพื้นที่สวนยาวตลอดแนวอาคารเลยค่ะ
ดีไซน์ของส่วนกลางนั้นทำออกมาดูน่าใช้งานดี คุม mood&tone ได้ดี เน้นโทนสีขาว-เทา-ดำ-อิฐ ดูแล้วมีความดิบๆ หน่อย เรื่องความหนาแน่นของการใช้งานนั้นเฉลี่ยที่ 93 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว สัดส่วนถือว่าดี ที่จอดรถที่ 35% ไม่รวมซ้อนคันที่ชั้น 1 ของทุกอาคาร ก็ถือว่าน้อยอยู่ แต่ถ้าเทียบกับระดับราคาก็ถือว่าพอยอมรับได้ ตัวโครงการอยู่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้า น่าจะเหมาะกับคนที่ใช้รถไฟฟ้าไปทำงานเป็นหลักค่ะ
Score Summary
สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยค่ะ (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนคอนโดมิเนียมที่นี่)
และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่ https://www.facebook.com/Yusabuy
ทุกท่านสามารถสนับสนุนให้อยู่สบายสามารถทำรีวิวออกมาได้เรื่อยๆค่ะ เพียงแค่เวลาไปดูโครงการบ้านและคอนโดที่ต่างๆ เพียงช่วยระบุในแบบสอบถามของโครงการว่า ”อยู่สบาย.com” เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ท่านติดตามอ่านอยู่ เวลาทางทีมงานขออนุญาตโครงการต่างๆเข้าไปทำรีวิวจะได้ทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นค่ะ (^_____^)
ถ้าหากว่ารีวิวของเรามีประโยชน์ ช่วยกด Like ด้านล่างสำหรับกำลังใจในการทำรีวิวของทีมงานด้วยนะคะ