สวัสดีค่ะ วันนี้อยู่สบายจะพาไปรีวิวคอนโด Ashton Asoke แบรนด์คอนโดที่เป็น Segment บนสุดของ อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ ที่เปิดตัวไปตั้งแต่ปี 2014 ตอนนี้งานก่อสร้างก็คืบหน้าไปมาก ใกล้จะแล้วเสร็จในช่วงปลายปีนี้ คอนโด แอชตัน อโศก เป็นคอนโดสูง 50 ชั้น สไตล์โมเดิร์น มีจุดเด่นที่มุมอาคารจะจะมีความโค้งทุกด้าน และตัวคอนโดตั้งอยู่ใจกลางเมืองแบบสุดๆ ใกล้แยกอโศก ติดสถานี MRT สุขุมวิท ที่เชื่อมต่อเป็น Interchange Station กับ BTS อโศก ทำให้โครงการสามารถขายหมดตั้งแต่เปิดตัววันแรก ด้วยราคาเริ่มต้น 210,000 บาท/ตร.ม. ปัจจุบันถ้าจะหาซื้อ Ashton Asoke ก็ต้องเป็นยูนิตรีเซลอย่างเดียวค่ะ ทั้งนี้คนที่สนใจก็สามารถไปซื้อผ่าน The Agent ได้นะคะ ซึ่งราคาก็จะขยับขึ้นไปอีก พอดีมีโอกาสทางทีมงานเลยได้แวะเข้าไปทำรีวิวฉบับเต็มมาฝากเป็นข้อมูลให้เพื่อนๆ กันก่อนที่จะเปิดตึกเสร็จในช่วงปลายปีค่ะ ตามไปอ่านรีวิวคอนโด Ashton อโศก กันได้เลยค่ะ
รีวิว ASHTON ASOKE (แอชตัน อโศก) คอนโด Super Luxury ใจกลางแยกอโศก ติด MRT สุขุมวิท และ BTS อโศก พร้อมอยู่ตุลาคม 2560
· 24 min readเริ่มจากข้อมูลเบื้องต้นของโครงการกันก่อน
ASHTON ASOKE (แอชตัน อโศก)
- เจ้าของโครงการ >> อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์
- ที่ตั้งโครงการ >>> ถนนอโศก ติดประตู MRT ประตู 1
- ขนาดที่ดิน >>> 2-3-47.60 ไร่
- จำนวนชั้นและจำนวนอาคาร >>> อาคารชุดพักอาศัย สูง 50 ชั้น 1 อาคาร
- ประเภทห้องและขนาดห้อง >>> ได้ห้องแบบ Partly Fitted
- 1 ห้องนอน 30 ตารางเมตร
- 1 ห้องนอน 34 ตารางเมตร
- 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 46 ตารางเมตร
- 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 64 ตารางเมตร
- จำนวนยูนิต >>> ห้องพักอาศัย 783 ยูนิต
- ที่จอดรถ >>> 371 คัน (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
- ราคาขายเริ่มต้น Pre-sale >>> 6.9 ล้านบาท (ปี 2014)
- ราคาต่อตารางเมตร เริ่มต้น Pre-sale >>> 210,000 บาท/ตร.ม. (ปี 2014)
- ราคาขายเริ่มต้น Resale>>> 7.xx ล้านบาท (ณ เมษายน 2017)
- ราคาต่อตารางเมตร เริ่มต้น Re-sale >>> 230,000 บาท/ตร.ม. (ณ เมษายน 2017)
- พิกัด GPS >>> 13.738759, 100.561598
- เว็บไซต์โครงการ >>> Ashton Asoke
- เบอร์ติดต่อ >>> 02 316 2222
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ >>> ตุลาคม 2017
ตอนนี้เราอยู่ MRT สถานีสุขุมวิทแล้ว กำลังเดินผ่าน Metro Mall เพื่อไปทางออกหมายเลข 1 ร้านค้าในโมโทลมอลล์ยังถือว่าน้อยค่ะ ไม่คึกคักเท่าไหร่
ออกประตูทางออก 1 ขึ้นบันไดเลื่อนไปเลย
ออกมาก็เจอเลยค่ะ ASHTON ASOKE ! ป้ายโฆษณาสีแดง ประกาศขายในราคา Re-Sale แล้ว ป้ายจะแปะอยู่ข้างทางเข้าโครงการ
ทางซ้ายมือของประตูทางออก เป็นสำนักงานขาย Ashton ค่ะ ซึ่งเช่าที่ของ MRT ทำชั่วคราว ตอนนี้ภายในมีห้องตัวอย่างและโมเดล โครงการ แอชตัน อโศก กับบางส่วนของ แอชตัน เรสซิเดนซ์ 41 ค่ะ
ด้านหลังสำนักงานขายเป็นศูนย์การค้า Terminal 21
ทางเข้าโครงการแอชตัน อโศกจริงๆ จะอยู่ทางซ้ายมือ (หลังป้าย) ค่ะ เข้าได้จากถนนอโศกมนตรี
เดินออกมาตรงทางเดินเท้าริมถนน ทางเข้าโครงการจะอยู่ทางซ้ายมือค่ะ กำลังก่อสร้าง
รั้วกั้นด้วยแผ่นสังกะสีอยู่ตอนนี้
ก่อสร้างโดยบริษัท สี่พระยาก่อสร้าง
ส่วนถ้าใครจะขับรถมาสำนักงานขายก็สามารถขับรถมาจอดได้ด้านใต้ค่ะ
มาดูตำแหน่งรอบๆตัวคอนโดก่อนว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนกันบ้าง
ที่ตั้งของคอนโด Ashton Asoke จัดว่าอยู่เป็นไข่แดงตรงกลางเมืองสุดๆ ใกล้ทั้ง MRT สุขุมวิท และ BTS อโศก เหมาะที่จะใช้เดินทางในเมือง เพราะถนนอโศก, ถนนสุขุมวิท ยามเร่งด่วนรถติดมาก บางทีแทบไม่ขยับไปไหน อยู่ติดสถานีอโศกด้วยแล้วสบายๆ ค่ะ สามารถไปย่านใจกลางเมืองต่างๆ ได้ทั่ว ภายใน 3 – 4 สถานี ไม่ว่าจะเป็น Central Embassy, Central ชิดลม, สยาม, สยามพารากอน, The EmQuartier, Emporium, Gateway, ถนนทองหล่อ, ถนนเอกมัย ส่วนรถไฟฟ้าใต้ดิน นั่งต่อไปอีก 1 สถานี ก็ถึงแยกเพชรบุรี ซึ่งเป็นจุดเชื่อมกับ Airport Rail Link สามารถนั่งไปสนามบินสุวรรณภูมิได้เลย และอีกไม่นานก็จะมี Singha Complex กลุ่มตึก Mix Used ตรงแยกเพชรบุรีค่ะ เป็นทั้งคอนโด สำนักงาน โรงแรมและส่วนร้านค้า ทำให้อสังหาฯ ในย่านนี้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นไปอีก
ส่วนถนนอโศกมนตรีเอง ก็เป็นถนนที่มีอาคารสำนักงานสำคัญๆ หลายแห่ง ช่วงวันจันทร์-ศุกร์ จะมีคนมาทำงานกันอย่างคึกคัก พอเสาร์-อาทิตย์ จะเงียบกว่าวันธรรมดา นอกจากอาคารสำนักงานก็มีคอนโดสูงหลายแห่ง, โรงแรม, โรงพยาบาลจักษุรัตนิน, มหาวิทยาลัย ม.ศ.ว.ประสานมิตร, ร้านค้า, ตลาดสำหรับพนักงานเงินเดือน และแน่นอนร้านอาหารเด็ดๆ ให้ไปลองชิมกันอีกเพียบ ไม่ต้องห่วงเรื่องอาหารการกิน ส่วนโรงพยาบาลมี รพ.สมิติเวช, และ รพ.บำรุงราษฎร์ อยู่ไม่ไกล
เราคงไม่ไล่ให้ครบทุกตึก เพราะย่านอโศกน่าจะรู้จักกันดี เรามาซูมดูเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ แอชตัน อโศก กันเลยดีกว่า แอชตัน อโศก ไฮไลท์ด้วยกราฟิกสีแดง มีทางเข้าทางเดียวจากถนนอโศกมนตรี ทางออกรองเฉพาะคนเดิน จะอยู่หลังโครงการ เดินไปออกซอยสุขุมวิท 19 ได้ ฝั่งทิศเหนือติดกับสยามสมาคม, พิพิธภัณฑ์บ้านคำเที่ยง (หมายเลข 2) ถัดขึ้นไปเป็นสมาคมวิชาชีพการบัญชี (หมายเลข 3) ติดๆ กันเป็นโรงแรม Furama Xclusive Asoke สูง 11 ชั้น (หมายเลข 4) ด้านหลังโรงแรมจะติดกับคอนโดวัฒนา ไฮทส์ ในซอยสุขุมวิท 21 ซอย 1 (หมายเลข 5) ซึ่งจะสูง 39 ชั้น อาจจะ Block วิวของฝั่งทิศเหนือไปบางส่วน และมีอพาร์ทเมนท์ Govind Tower สูง 19 ชั้น (หมายเลข 6) ระยะห่างจากตัวแอชตัน อโศก ถึงคอนโดวัฒนา ไฮทส์ ประมาณ 55 เมตร เมื่อวัดจากใน google ซึ่งระยะก็ไม่ติดกันจนอึดอัด เรื่องบังวิวหรือไม่ต้องไปพิจารณาที่ห้องพักอาศัยแต่ละยูนิตกันอีกที
ส่วนฝั่งตรงข้ามสยามสมาคมเป็น ตึก FICO PLACE (หมายเลข 7) และโรงแรม Pullman (หมายเลข 8) ถัดลงมาเป็นตึกแถวสูง 4 ชั้น (หมายเลข 9) ซึ่งจะอยู่ตรงกับทางเข้าโครงการแอชตัน อโศกพอดี
ทิศใต้จะติดกับ สมาคมนามธารี สังกัดแห่งประเทศไทย (หมายเลข 10) ซึ่งจะมีตึกแถวขายของเรียงรายด้านหน้า ฝั่งตรงข้ามเป็นคอนโด Las Colinas (หมายเลข 11) ใกล้ซอยคาวบอย ที่ทะลุไปออกสุขุมวิท 23 ได้ แต่ตรงช่วงหน้าโครงการจะข้ามถนนยากหน่อย เดินลอดใต้ดินมาโผล่อาคารสำนักงาน Interchange 21 Tower (หมายเลข 17) แล้วเดินทะลุไปจะสะดวกกว่าค่ะ … บริเวณแยกอโศกที่เชื่อมถนนสุขุมวิท, ถนนรัชดาภิเษก และถนนอโศกมนตรี ฝั่งเดียวกับโครงการแอชตันจะเป็นจุด Interchange ระหว่าง MRT สุขุมวิทและ BTS อโศก อยู่ด้านหน้าศูนย์การค้า Terminal 21 สูง 9 ชั้น (หมายเลข 12) และมีโรงแรม Grande Centre Point Hotel Terminal 21 สูง 20 ชั้นอยู่ด้านบน ถัดไปทางสุขุมวิท 19 เป็นโรงแรม The Westin Grande Sukhumvit Bangkok Hotel (หมายเลข 13) อยู่เยื้องกับ Korea Town (หมายเลข 14) ที่มีร้านอาหาร และร้านตัดผม สัญชาติเกาหลีหลายร้าน และตึกสูงอีกสองแห่งคือ Times Square Building Mall (หมายเลข 15) และโรงแรมสุดหรู Sheraton Grande Sukhumvit ค่ะ (หมายเลข 16)
สภาพแวดล้อมรอบคอนโด
ก่อนเข้าไปที่โครงการ Aston อโศก เราจะพาไปสำรวจสภาพแวดล้อมรอบกันเล็กน้อย จะได้เห็นภาพกันมากขึ้น
เริ่มเปิดประตู ไปดูในโครงการ
เดินไปสำรวจสภาพแวดล้อมกับแล้ว ทีนี้กลับมายังคอนโด Ashton Asoke และสำนักงานขายกันดีกว่า
สภาพคอนโด ณ วันที่เข้าไปรีวิว ก่อสร้างไปได้เยอะแล้ว
อีกมุมนึงจากที่จอดรถสำนักงานขาย เห็นขอบอาคารโค้งๆ
เดินขึ้นสำนักงานขายมายังชั้นสองค่ะ ภายในตกแต่งหรู ใช้สีดำเป็นหลัก มีเฟอร์นิเจอร์ไม้เป็นตัวแซม
มุมโต๊ะรับรองลูกค้าด้านใน ส่วน Ashton Asoke ทั้งโมเดล และห้องตัวอย่างจะอยู่ที่ชั้นสามค่ะ
ดูผังโครงการ ตำแหน่งการเข้าถึง
คอนโด Ashton Asoke จะวางตัวทิศเหนือ-ใต้ ห้องส่วนใหญ่จึงอยู่ทิศตะวันออกและทิศตะวันตก และเริ่มมีห้องพักตั้งแต่ชั้น 11 เป็นต้นไป ถ้าดูจากแผนที่ ทิศตะวันออกของตัวคอนโดพักอาศัย จะติดกับสยามสมาคม ภายในมีแต่อาคารสูง 1 – 2 ชั้น ไม่มีปัญหาบังวิวอะไรเหมือนทิศตะวันตก ที่จะได้วิวไปทางกลุ่มบ้านพักอาศัยในซอยสุขุมวิท แต่ทิศเหนือจะเจอคอนโดวัฒนา ไฮทส์ สูง 39 ชั้นและอพาร์ทเมนท์ Govind Tower สูง 19 ชั้น ในซอยสุขุมวิท 21 ซอย 1 ทำให้ห้องที่อยู่ฝั่งนี้ชั้น 11 – 39 โดนบล็อกวิวฝั่งทิศเหนือไปบ้าง แต่ถ้าดูที่แปลนห้องชัดๆ ห้องขนาด 46 ตร.ม. ที่อยู่ทิศนี้จะได้หน้าต่างเข้ามุม ซึ่งทำให้กวาดได้วิวทางทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตกมากกว่าด้วย เลยไม่เป็นประเด็นเท่าไหร่ อยากให้โล่งๆ เอาให้ชัวร์ก็ชั้น 40 ขึ้นไปค่ะ
ฝั่งทิศใต้เป็นห้องแบบ 64 ตร.ม. ที่เปิดวิว 270 องศา ได้วิวตั้งแต่ถนนอโศกไปถึงซอยสุขุมวิท 19 มีบางส่วนที่โดยศูนย์การค้า Terminal 21 และ โรงแรม Grande Centre Point Hotel Terminal 21 สูง 20 ชั้น บังวิวไปบ้าง แต่ก็ถือเป็นห้อง Top สุดของโครงการเช่นกัน ถ้าอยากจะได้วิวเคลียร์ๆ แบบไม่มีอะไรบัง 270 องศา คงต้องเลือกชั้นสูงๆ ขึ้นไป คิดว่าประมาณชั้น 35+ ก็น่าจะเห็นเคลียร์หมดนะคะ
ทิศทางแดด ฝั่งไหนร้อน? ฝั่งไหนร่ม?
มาดูทิศแดดกันต่อ รูปนี้จะหมุนแปลนให้ทิศเหนืออยู่ทางขวามือนะคะ จะได้เห็นแปลนชัดมากขึ้น คอนโด Ashton Asoke วางตัวทิศเหนือ-ใต้ แต่ทำองศากับแกนทิศเล็กน้อย ห้องส่วนใหญ่จึงมีให้เลือกทิศตะวันออกหรือทิศตะวันตกเท่านั้น โดยห้องฝั่งทิศตะวันออกจะมีภาษีดีกว่า ทั้งได้วิวถนนอโศกและเย็นสบายในเรื่องทิศแดด หากเป็นทิศตะวันตกจะร้อนช่วงบ่าย-เย็น ใครไม่ใช้ห้องตอนบ่ายก็โอเค หรือ ติดม่านทึบก็ช่วยลดความร้อนได้ค่ะ
ห้องทิศเหนือจะเป็นด้านที่เย็นสบายสุด แต่มีห้องที่หันเข้าด้านนี้เพียงห้องเดียวและไม่ได้เปิดหน้าต่างเข้าทิศนี้เต็มๆ ด้วย เพราะมีผนังรับน้ำหนักของตัวอาคารขวางอยู่ สุดท้ายทิศใต้เป็นด้านที่จัดห้องใหญ่สุดไว้ คือ แบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 64 ตร.ม. ได้วิว Terminal 21 และ BTS อโศก มุมมองเป็นอย่างไรก็เลื่อนกลับขึ้นไปดูภาพด้านบนได้
ส่องโมเดล
ตอนนี้ก็รู้ตำแหน่งที่ตั้งกันไปแบบละเอียดแล้ว มาดูโมเดลคอนโดแอชตัน อโศก กันต่อ
คอนโดรูปร่างผอมบาง แปลนยึกยักตรงกลางเล็กน้อย ดูมีมิติขึ้นขึ้นมาอีกนิด และเล่นระดับความสูงที่ยอดอาคารให้สูงต่างกัน ขอบอาคารเป็นหน้าต่างหรือผนังโค้ง ผนังในโมเดลออกสีดำ แต่สีตัวอาคารจริงออกสีน้ำเงินเข้มกรมท่า ดูเรียบเท่
เมื่อมองจากถนนอโศกฝั่งตรงข้ามไปทาง BTS อโศก ซึ่งจริงๆ BTS จะอยู่ไกลกว่าสเกลในโมเดลนี้หน่อย สวนสีเขียวด้านหน้าเป็นพื้นที่ของสยามสมาคมค่ะ
ส่วนพื้นที่สีเทาข้างทางเข้าเป็นตำแหน่งของ MRT สุขุมวิท
รูปด้านฝั่งทิศตะวันออก หรือมองเข้าจากถนนอโศกจะเห็นตัวอาคารได้ครบถ้วน ชั้น 2 – 9 เป็นชั้นจอดรถ ชั้น 11 เริ่มห้องอาศัยมาจนถึงชั้น 34 แล้วคั่นด้วยพื้นที่ส่วนกลางที่ชั้น 35 และ 35M ชั้นพักอาศัยเริ่มอีกทีที่ชั้น 36 – 46 ชั้น 47 จะลดจำนวนห้องเหลือครั้งชั้นทางฝั่งซ้าย สูงไปจนถึงชั้น 50 ค่ะ
ชั้น 35 และชั้น 35M เป็นชั้นพื้นที่ส่วนกลาง ซ้ายมือที่เห็นเป็นกระจก ชั้นล่างเป็นห้องฟิตเนส ชั้นบนเป็น Library และ Social Club ส่วนทางขวาเป็นพื้นที่สระว่ายน้ำ Semi-Outdoor ฝ้าสูง Double Volume ซึ่งโดยส่วนตัวเราชอบสระแบบ Semi-Outdoor มาก เพราะเหมาะกับสภาพอากาศเมืองไทย กลางวันก็ว่ายน้ำได้ไม่ต้องกลัวดำ 5555
ผนังด้านนอกจะเป็นหน้าต่างทั้งหมด เนื่องจากภายในห้องพักอาศัยตรงระเบียงจะมีหน้าต่างบานเลื่อนให้อีกชั้นนึง (Double Windows แบบที่อนันดาฯ เคยทำมาในโครงการก่อนหน้านี้แล้วมากมาย) ทำให้ลูกบ้านสามารถปรับเปลี่ยนระเบียงเป็น Semi-Outdoor หรือ In-Door ก็ได้ ผนังด้านนอกของอาคารจริงเปลี่ยนไปตามการใช้งานของลูกบ้านไปในแต่ละวัน อนันดาทำแบบนี้บ่อยซึ่งฟังก์ชั่นนี้เราก็ชอบอีกเช่นกัน เพราะค่อนข้าง Flexible เหมาะกับการใช้ชีวิตในพื้นที่ที่จำกัด
และตรงกลางที่เห็นเป็นกระจกยาวๆ จะเป็น Atrium ใกล้โถงลิฟต์ มีการปลูกต้นไม้ทุกๆ 5 ชั้น ขึ้นไปเรื่อยๆ เช่น ชั้น 11 ปลูกต้นไม้ ชั้น 12-15 จะเป็นช่องว่างตรงกับต้นไม้ เพิ่มบรรยากาศให้น่าอยู่มากขึ้น ดีไซน์แบบนี้จะทำให้ช่วงกลางของอาคารดูไม่ทึบตันมาก
ยอดอาคารก็แปะชื่อแบรนด์ ASHTON
จุดเด่นเป็นมุมอาคารทุกด้านเป็นหน้าต่างหรือผนังโค้ง จะแพงก็ตรงกระจกโค้งนี่แหละ
ชั้น 2 – 9 เป็นชั้นจอดรถ มีปลูกต้นไม้ริมผนังเพิ่มความเขียวให้ด้วย
พื้นที่สวนสาธารณะด้านหน้าโครงการ จะมีจุดเด่นที่เก็บรักษาต้นไม้เก่าในที่ดินเอาไว้ แล้วออกแบบงานภูมิสถาปัตยกรรมให้เข้ากับตำแหน่งของต้นไม้ที่มีอยู่เดิม นอกจากจะเป็นการอนุรักษ์แล้วยังทำให้ได้ต้นไม้ใหญ่ที่ให้ร่มเงาจริงๆ ด้วย ^^
ถนนหลักวิ่งรอบโครงการ กว้าง 6 เมตร ตามกฎหมายค่ะ
พื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งานเป็นอย่างไร
พื้นที่ส่วนกลางของ ASHTON ASOKE ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ชั้น 35 และ 35M ค่ะ ประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำ มีที่นั่งพักผ่อนในน้ำ, จากุชชี่, สระเด็กที่แยกออกมาต่างหาก, ห้องฟิตเนส, ห้องสมุด และ Social Club สำหรับมานั่งทำงานหรือประชุมได้ นอกนั้นจะเป็นสวนตามชั้นต่างๆ ตั้งแต่สวนชั้น 1 ที่มีจุดเด่นอยู่ที่เก็บรักษาต้นโพธิ์เก่าในที่ดินเอาไว้, สวนชั้น 47 และสวนชั้นหลังคาค่ะ
ลิฟต์โดยสารมีให้ 6 ตัว ลิฟต์บริการ 1 ตัว แบ่งลิฟต์โดยสาร Low Zone 3 ตัว และ High Zone 3 ตัว คือลิฟต์ High Zone จอดชั้นพักอาศัยตั้งแต่ชั้น 36-50 และชั้นส่วนกลางต่างๆ ส่วน Low Zone จะบริการห้องพักอาศัยตั้งแต่ชั้น 11-34 และจอดชั้นส่วนกลางเช่นกัน ลิฟต์ Low zone จะให้บริการห้องเยอะกว่า คือ 504 ห้อง คิดเป็น 168 ต่อลิฟต์ 1 ตัว ถือว่าหนาแน่นไปสักนิดเมื่อเทียบกับระดับราคา ส่วนชั้น 36-50 มี สัดส่วนลิฟต์ High Zone เป็น 93 ห้องต่อลิฟต์ 1 ตัว อยู่ในเกณฑ์ดีมากทีเดียว ส่วนที่จอดรถทาง Ashton Asoke มีให้ 371 คัน ไม่รวมจอดซ้อนคัน ซึ่งถือว่าน้อยอยู่เมื่อเทียบกับระดับราคานะคะ
ชั้นแรกมีสวนสาธารณะอยู่ด้านหน้าก่อนถึงตัวโครงการ ที่เก็บรักษาต้นไม้เดิมในพื้นที่เอาไว้ ทำให้ต้นไม้ในสวนมีขนาดใหญ่มาก เพราะเป็นต้นไม้เดิมที่มีอายุหลายสิบปี ตรงนี้ถือเป็นมูลค่าที่ต้องเก็บรักษาไว้ค่ะ
ชั้นล่างมีโถงต้องรับ, โถง Semi-Outdoor Lobby ล้อมรอบด้วยบ่อน้ำ โถงล็อบบี้ และห้องจดหมายอยู่ตรงข้ามกับโถงลิฟต์ ทางขวามือเป็นห้องเครื่องต่างๆ สามารถจอดรถใต้อาคารได้รอบประมาณ 24 คัน
ภาพบรรยากาศบริเวณโถง Semi-Outdoor โดยรวมแล้ว mood & tone ของการตกแต่งดูแพงและหรูหราทีเดียว
Facilities ส่วนใหญ่จะอยู่บนตัวคอนโดชั้น 35 ค่ะ มีสระว่ายน้ำระบบเกลือ ยาว 38 เมตร ที่มีที่นั่งในสระ, จากุชชี่ , สระเด็ก ยาว 15 เมตร แยกออกมาต่างหากอยู่ใกล้กับห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ฝั่งห้องน้ำชายมีห้องซาวน่า ห้องน้ำหญิงมีห้องสตรีม ส่วนห้องฟิตเนสจะอยู่มุมอาคารมองเห็นวิวได้โดยรอบค่ะ
ภาพ Perspective บริเวณสระว่ายน้ำ เลือกใช้วัสดุที่มีความมันวาว สะท้อน เกิด Glow effect ระยิบระยับไปมา ดูหรูหราดีนะคะ
เดินขึ้นบันไดจากหน้าฟิตเนสขึ้นมาชั้นลอย 35M ภายในมีห้อง Library และห้อง Social Club สามารถมานั่งทำงาน หรือประชุมกันได้ ปิดล้อมด้วยกระจกทำให้มองเห็นวิวได้โดยรอบเช่นกันค่ะ
ห้องฟิตเนสชั้น 35 และห้อง Libary ชั้น 35M กระจกโค้งนี่เนียนมาก แทบจะเป็น frameless เลย
จากนั้นจะเป็นสวนที่ชั้น 47 ซึ่งเป็นชั้นที่เริ่มลดจำนวนห้องพักอาศัยลงไปเหลือแค่ฝั่งเดียว
สุดท้ายเป็นสวนดาดฟ้า มีพื้นที่นั่งพักผ่อนแทรกอยู่ตามสวนต่างๆ Concept การออกแบบคล้ายกับสวนชั้น 1
เปิดผังคอนโด Typical Floor Plan
Master Plan คอนโด แอชตัน อโศก
กลับมาที่ชั้น 1 กันอีกครั้ง ตัวอาคารเซตเข้ามาจากถนนอโศกมนตรีเข้ามา ประมาณ 70 เมตร มีสวนคอยเป็น Buffer ที่ทำให้วิวที่มองไปทางถนนดูร่มรื่นมากขึ้น ส่วนจะลดเสียงดังจากถนนได้ขนาดไหน เดี๋ยวต้องรอไปชมของจริงปลายปีนี้ค่ะ พื้นที่ดินที่ลึกเข้ามาจากแนวถนนใหญ่ก็น่าจะทำให้ลูกบ้านรู้สึกเป็นส่วนตัวมากขึ้นด้วย ถนนในโครงการเป็น 2 เลนสวนกัน กว้าง 6 เมตร สามารถวิ่งได้รอบโครงการ ทางเข้าอาคารจอดรถจะอยู่ทางด้านหลังค่ะ
Floor Plan ชั้น 2 – 9
คอนโด แอชตัน อโศก
แปลนชั้นจอดรถ ชั้น 2 – 9 เนื่องจากความกว้างของอาคารค่อนข้างแคบ ทำให้ทางซ้ายของภาพจึงเป็นที่จอดรถแบบปลายตันกลับรถลำบากหน่อย ส่วนที่กว้างที่สุดทางขวา ก็ทำเป็น Ramp วนและมีที่จอดรถบริเวณ Ramp ด้วย ประหยัดพื้นที่ให้ใช้งานได้เต็มทุกจุดกันแบบสุดๆ คิดว่าตรงทางวนน่าจะต้องทำ signage บางอย่าง เพื่อบอกรถที่วนขึ้นมาว่าปลายอีกด้านมีที่จอดว่างหรือไม่ เพราะถ้าวนเข้าไปแล้วที่จอดเต็มจะกลับออกยากหน่อยค่ะ
Floor Plan ชั้น 11, 16, 21, 26, 31
คอนโด แอชตัน อโศก
ห้องพักอาศัยเริ่มที่ชั้น 11 เป็นต้นไป ตำแหน่งของห้องต่างๆ จะเหมือนกันทุกชั้น แต่ชั้น 11, 16, 21, 26, 31 จะมีชั้นที่มีการปลูกต้นไม้ตรง Atrium ใกล้โถงลิฟต์ ชั้นอื่นๆ ที่อยู่สูงขึ้นไปบริเวณ Atrium จะเป็นช่องว่าง มีเป็นชุดๆ ทุกๆ 5 ชั้น ค่ะ เช่น 11-15 จะมี Atrium ร่วมกัน
ห้องส่วนใหญ่ในชั้นจะเป็นแบบ 1 ห้องนอน 34 ตารางเมตร มีอยู่ทั้งหมด 14 ห้อง หันเข้าทั้งทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ส่วนแบบ 1 ห้องนอน ที่มีขนาดเล็กสุด 30 ตร.ม. มีอยู่เพียง 5 ห้อง หันเข้าทิศตะวันตกเท่านั้น ห้องหัวมุมทิศใต้จะเป็น 2 ห้องนอน 2 ห้องนำ 64 ตร.ม. มีเพียงชั้นละ 1 ห้อง และทิศเหนือ แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 46 ตร.ม. มีชั้นละ 1 ห้องเช่นกัน รวมมี 21 ห้องใน 1 ชั้น
Floor Plan ชั้น 36, 41, 46
คอนโด แอชตัน อโศก
ชั้น 36 จะเริ่มเป็นชั้นที่ใช้ลิฟต์ส่วน High zone ทำให้มีห้องแบบ 34 ตร.ม. เพิ่มขึ้นมาอีก 1 ห้อง แทนตำแหน่งลิฟต์ Low Zone (ลูกศรสีเหลือง) กลายเป็นมีห้องแบบ 34 ตร.ม. เป็น 15 ห้อง ส่วนห้องอื่นๆ มีเท่าเดิม รวมแล้วเป็นชั้นที่มีห้องพักอาศัยเยอะที่สุดคือ 22 ห้องต่อ 1 ชั้น
Floor Plan ชั้น 47, 48, 49
คอนโด แอชตัน อโศก
ชั้น 47 จะลดจำนวนห้องพักอาศัยลง เหลือเพียง 9 ห้อง คือมีห้อง 34 ตร.ม.อยู่ 8 ห้อง และห้องแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 64 ตร.ม. อยู่ 1 ห้อง รวม 9 ห้อง อีกครึ่งนึงก็ทำเป็นพื้นที่สวน บันไดหนีไฟตรงกลางกับบันไดทางขวามือจะมีทางเดินเชื่อมถึงกันได้ แต่ตลอดทางเดินที่ผ่านสวนจะเป็นผนังกันไฟนะคะ ไม่ใช่ทางเดินเปิดโล่งในสวน
แปลนห้องดีไหม?
แปลนของคอนโด Ashton อโศก จะมีห้องให้เลือกแบบ 4 แบบ คือ
- 1 ห้องนอน 30 ตร.ม.
- 1 ห้องนอน 34 ตร.ม.
- 2 ห้องนอน 46 ตร.ม.
- 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 64 ตร.ม.
โดยแบบ 34 ตร.ม. จะมีจำนวนมากที่สุดในโครงการ ส่วนแบบ 2 ห้องนอนจะอยู่ตรงหัวมุมซึ่งเป็นตำแหน่ง prime สุด และได้กระจกโค้ง
แปลนห้องคอนโด Ashton Asoke
แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 30 ตร.ม.
ห้องนี้เป็นไซส์เล็กที่สุดในโครงการ อยู่ที่ชั้น 11 – 46 ภายในห้องแบ่งครึ่งเป็นสองส่วน ส่วนแรกเป็นส่วนครัว-ห้องนั่งเล่น ส่วนที่สองเป็นห้องนอน-ห้องน้ำ-ระเบียง เมื่อเปิดประตูเข้าห้องไปจะเจอพื้นที่ pantry ขนาดเล็กๆ ใช้เตรียมอาหารเล็กน้อยได้ ขนาดพื้นที่ไม่ได้เหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารจริงจัง บริเวณนี้ปูพื้นเป็นกระเบื้องเอาไว้ให้ เป็นสัดส่วนดี ทำให้สามารถกั้นห้องเป็นครัวปิดได้ในภายหลัง หากใครกังวลเรื่องกลิ่นอาหาร ถัดเข้าไปเป็นพื้นที่รับประทานอาหารและพื้นที่นั่งเล่นติดหน้าต่าง ได้แสงธรรมชาติเต็มที่ ภายในห้องนอนสามารถวางเตียง ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะทำงานเล็กๆ ได้ พื้นที่รอบเตียงจะฟิตหน่อย พื้นที่ระเบียงเป็น Double Window เพราะมีหน้าต่างอีกชั้นติดกับราวกันตกระเบียง โดยส่วนพื้นที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์จะกั้นผนังทึบเอาไว้ แต่ยังเปิดประตูไปซ่อมแซมได้ค่ะ
ส่วนใหญ่จะเป็น 30 ตร.ม. แปลนห้องสี่เหลี่ยม

จะมีแค่ห้องเดียวที่อยู่หัวมุมทิศเหนือ ที่ผนังส่วนอาบน้ำและระเบียงจะได้ผนังมุมโค้ง ราคาแพงกว่ามั้ยก็คงแพงกว่า แต่ถามว่าฟังก์ชั่นการใช้งานต่างมั้ย ก็ไม่มากนะคะ แค่ได้พื้นที่อาบน้ำใหญ่ขึ้นเท่านั้น แอบคิดว่าถ้าสลับพื้นที่ระเบียงกับตำแหน่งวางคอมเพรสเซอร์แอร์ได้ แปลนก็จะมีความพิเศษมากขึ้นกว่านี้ค่ะ

แปลนห้องคอนโด Ashton Asoke
แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 34 ตร.ม.
แบบ 1 ห้องนอน 34 ตร.ม. ที่มีจำนวนมากที่สุดในโครงการ แปลนห้องเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ฟังก์ชั่นเหมือนกับห้องแบบ 30 ตร.ม. คือแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนพื้นที่เตรียมอาหารกับพื้นที่นั่งเล่น กับส่วนของพื้นที่นอนและห้องน้ำ ต่างกันที่กั้นสองส่วนของห้องด้วยประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่ 2 ตอน ที่สามารถเลื่อนไปเก็บในช่องผนังได้ ทำให้เปิดพื้นที่เชื่อมกันได้เต็มที่ ห้องดูโล่งมากขึ้น , ระเบียงแบบ Semi-Outdoor จะใหญ่มากขึ้นและมาอยู่ข้างพื้นที่นั่งเล่น, ภายในห้องนอนมีพื้นที่เหลือมุมห้องเพิ่ม สามารถทำเป็นโซฟาเข้ามุมสำหรับนั่งอ่านหนังสือได้ค่ะ รวมๆ แล้วแบบ 34 ตร.ม. จัดสรรพื้นที่ได้ลงตัวมากกว่าตามขนาดของห้องที่มากขึ้น ทำออกมาได้โอเคดี
แปลนห้องคอนโด Ashton Asoke
แบบ 2 ห้องนอน 46 ตร.ม.
2 ห้องนอน 46 ตร.ม. ที่จะอยู่มุมอาคารฝั่งทิศเหนือ (ทิศเหนืออยู่ทางซ้ายมือนะคะ) แต่แอบเสียดายเล็กน้อยที่มีผนังรับน้ำหนักของอาคารอยู่ด้วย ซึ่งตรงนี้ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ แต่ถ้ามองอีกแง่นึงก็ไม่ได้เสียประโยชน์อะไรมากนัก เพราะตอนเราวิเคราะห์พื้นที่และตำแหน่งการวางตัวอาคารให้ดู จะเห็นว่าทิศเหนือมีคอนโดสูงบังวิวอยู่ค่ะ ดังนั้นห้องนอนทั้งสองห้องที่ได้กระจกเข้ามุม สามารถรับวิวทิศตะวันออก และตะวันตกแทนได้ และการมีกระจกโค้งก็ช่วยเปิดมุมมองลดความอึดอัดไปได้เยอะ … พื้นที่ส่วนแรกของห้องจะเป็น pantry ครัวแบบเปิด ถัดไปเป็นส่วนรับประทานอาหารและพื้นที่นั่งเล่นอยู่ติดระเบียง วัสดุปูพื้นจะปูด้วย Engineering Wood ทั้งห้อง ไม่มีcpdปูกระเบื้องส่วนครัวไว้ให้ พื้นที่ระเบียงก็ยาวมากขึ้น จุดติมีนิดหน่อยตรงที่ปลายเตียงของห้องนอนเล็กดูจะแคบไปนิดค่ะ
แปลนห้องคอนโด Ashton Asoke
แบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 64 ตร.ม.
สุดท้ายเป็นแบบใหญ่สุด 64 ตร.ม. อยู่มุมอาคารทิศใต้ มีชั้นละ 1 ห้อง ตั้งแต่ชั้น 11 – 50 ค่ะ ห้องนี้ถือว่าเป็นห้อง Top สุดในโครงการ ได้เปิดกระจกเข้ามุมรับวิวแบบเต็มจริงๆ เมื่อเปิดประตูเข้าห้องจะเป็นโถงทางเดินผ่านห้องนอนใหญ่และห้องนอนเล็กก่อน สุดทางถึงจะเป็นพื้นที่นั่งเล่น, พื้นที่ครัวเปิด, พื้นที่รับประทานอาหาร ที่ล้อมรอบด้วยหน้าต่างมุมโค้ง 270 องศา … แม้ห้องจะหันเข้าทิศใต้ที่จะมีแดดบ่ายอยู่ แต่พื้นที่ในห้องกว้างขวางมากเลยทีเดียว จัดแปลนได้สวยงามดีค่ะ
ห้องตัวอย่างคอนโดแอชตัน อโศก
แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 34 ตารางเมตร
เปิดประตูเข้าห้องส่วนแรกจะเจอแพนทรี่ครัว ที่ปูพื้นกระเบื้องแกรนิตโต้เอาไว้ให้ พื้นกระเบื้องทำความสะอาดง่าย จัดออกมาเป็นสัดเป็นส่วนดี
ถัดเข้ามาจะเป็นส่วนรับประทานอาหาร จัดเป็นแบบสองที่นั่งหันเข้ามุมแบบนี้ก็ได้พื้นที่บนโต๊ะมากกว่าแบบที่จัดในแปลนนะคะ
ต่อเนื่องด้วยพื้นที่นั่งเล่นติดระเบียงค่ะ ผนังด้านหลังเป็นผนังบานเลื่อนที่แถมให้ด้วยแต่ไม่ได้แถบสีน้ำตาลเข้มที่ตกแต่งตรงกลาง โดยรวมคุณภาพดีค่ะ แข็งแรงและเปิดเก็บซ่อนในผนังได้หมดบาน
บานประตูห้องนอนสามารถดันเข้าไปเก็บในผนังฝั่งระเบียงได้ ห้องจะโล่งและดูกว้างมากขึ้น
มุมกว้างอีกซักรูปให้เห็นภาพห้องนอน เชื่อมกับห้องนั่งเล่น
ระยะดูทีวีจากโซฟาประมาณนี้ ไม่ไกลไม่ใกล้เกินไป
ประตูออกระเบียง เป็นประตูกระจก บานเลื่อน 3 ตอน ทำให้เปิดได้กว้างกว่าแบบ 2 ตอน
พื้นที่ระเบียงของห้อง 34 ตร.ม. กว้าง 2.5 ลึก 1 เมตร และเนื่องวางเครื่องซักผ้าไว้ใต้แพนทรี่แล้ว บริเวณนี้เลยสามารถเอาเก้าอี้มาวางเพื่อนั่งเล่นได้สบาย และเปิดบานเลื่อนให้แอร์ออกมาได้ด้วย
บริเวณระเบียงกั้นด้วยหน้าต่างกระจกอีกที ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานระเบียงเป็น In-door หรือ Out-door ก็ได้ค่ะ
ผนังด้านข้างระเบียงส่วนที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์จะปิดเป็นผนังทึบ เพื่อให้เรียบร้อยและทำเป็นพื้นที่ In-door ได้ ประตู Service ทาสีขาวเพื่อให้เนียนไปกับผนังเพื่อความสวยงาม
ภายในห้องนอนรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า สามารถวางเตียง Queen Size ตู้เสื้อผ้า โต๊ะทำงานได้ครบ
พื้นที่ระหว่างเตียงและหลังโซฟาเหลือพื้นที่ประมาณ 60 ซม.
ถ้าเลือกทีวีจอใหญ่ และติดให้สูงหน่อย ก็สามารถนอนดูทีวีจากเตียงนอนได้
หน้าต่างในห้องนอนจะไม่กว้างมาก เพราะผนังอีกครึ่งเป็นส่วนของคอมเพรสเซอร์แอร์ที่ปิดด้วยผนังทึบ ห้องตัวอย่างใช้การติดกระจกเงาสะท้อน ช่วยให้ดูกว้างขึ้น และลดความทึบตันองผนังค่ะ
มุมห้องตรงหน้าต่าง มีพื้นที่ว่างเหลือ สามารถทำเป็นโซฟาเข้ามุมนั่งอ่านหนังสือได้ค่ะ
ในฝั่งกลับกันเป็นทางเข้าห้องน้ำ สามารถวางตู้เสื้อผ้าได้สองฝั่งขนาบด้านข้างได้ และจะได้เครื่องปรับอากาศแบบฝั่งฝ้าเพดาน (Concealed Type) ติดไว้เหนือฝ้าทั้งห้องนั่งเล่นและห้องนอน ทำให้ห้องดูเรียบร้อยมากขึ้น แน่นอนว่าราคาระดับนี้ก็ต้องทำมาให้เสร็จสรรพ
ภายในห้องน้ำ ตรงกลางเป็นส่วนเคาน์เตอร์ล้างหน้า Top เคาน์เตอร์ทำจากหิน Black Maquina จากประเทศตุรกี
ผนังห้องน้ำปูกระเบื้องลายหินอ่อนสีเทา ดูดีค่ะ
พื้นที่อาบน้ำกั้นกระจกให้เรียบร้อย
เปิดห้อง ส่องวัสดุ : Focus on “MATERIALS”
วัสดุในภาพรวมของคอนโด Ashton Asoke ไม่ใช่จุดที่เน้นเท่าไหร่ค่ะ คงกะจะให้มาตกแต่งเองตามความต้องการภายหลัง ห้องที่ได้เป็นแบบ Partly Fitted มีเฟอร์นิเจอร์ Built-in ให้เฉพาะ pantry ตู้เก็บของ 1 จุด และสุขภัณฑ์แบบครบชุด พื้นไม้ Engineering Wood, ผนังฉาบเรียบทาสีขาว ฝ้าฉาบเรียบค่ะ
อยู่สบายแบ่งรีวิววัสดุออกเป็น 3 ส่วน คือ วัสดุครัวและส่วนเตรียมอาหาร (pantry) , วัสดุห้องน้ำ , วัสดุทั่วไปและวัสดุปิดผิวภายในห้อง (Finishing Material) เพื่อให้ส่องกันง่ายๆ เช่นเคยค่ะ
วัสดุห้องครัว / ส่วนเตรียมอาหาร (pantry)
วัสดุห้องน้ำ
วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (finishing)
เปิดกระเป๋า ดูสตางค์
คอนโด Ashton Asoke ปัจจุบัน Sold Out ไปแล้วนะคะ สมัยเปิดตัวราคาเริ่มต้น ห้อง 30 ตร.ม. อยู่ที่ 6.9 ล้านบาท ราคาเฉลี่ย 210,000 บาท/ตร.ม. ตอนนี้ราคา Resale ขึ้นไปเป็น 7,x ล้านบาทแล้ว ราคาเฉลี่ยปรับขึ้นเป็น 230,000 บาท/ตร.ม. ค่ะ ซึ่งเป็นราคาสำหรับคอนโด Super Luxury และโดยปกติใน segment นี้จะมีปัจจัยในเรื่องความพึงพอใจที่เป็น emotional เข้ามาเกี่ยวข้องและมีน้ำหนักในการซื้อมากกว่าการมองความคุ้มค่าในเชิงตัวเลขอย่างเดียวนะคะ
ราคา ณ วันที่ 20 เมษายน 2560
ราคาเริ่มต้น :
1 ห้องนอน 30 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 7,000,000 บาท (ราคา Re-sale)
เงื่อนไขการจอง :
- เงินจอง
ขายหมดแล้ว
- ผ่อนดาวน์
ขายหมดแล้ว
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :
ค่าส่วนกลาง 70 บาท/ตร.ม.
ค่ากองทุนเริ่มแรก (Sinking Fund) 1,000 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)
Overview Summary
ด้านการเดินทาง
Ashton Asoke ตั้งอยู่ทำเลใจกลางเมืองอย่าง Mid-Sukhumvit ใกล้แยกอโศก ติดกับสถานี MRT สุขุมวิท และห่างจาก BTS อโศกเพียง 230 เมตร ซึ่งถือว่าใกล้มาก สามารถเดินเชื่อมกันได้ในลักษณะของ Interchange Station และจาก BTS อโศก สามารถเดินทางไปยังย่านสำคัญของกรุงเทพฯ ใน Mid-Sukhumvit ได้เกือบหมดภายใน 4 สถานี ไม่ว่าจะเป็น สยาม, ชิดลม, เพลินจิต, เอกมัย ส่วน MRT นั่งต่อไปอีกสถานีเดียวก็จะถึงเพชรบุรี มีทางเชื่อมไป Airport Rail Link ไปสนามบินสุวรรณภูมิได้ง่ายค่ะ ในแง่ของทำเล สำหรับการสัญจรโดยการใช้รถไฟฟ้าในแบบคนเมืองนั้นจัดได้ว่าสะดวกสบายขั้นสุดค่ะ
ส่วนการเดินทางด้วยรถยนต์นั้น เป็น fact ที่หลีกเลี่ยงกันไม่ได้อยู่แล้วว่า อโศกเป็นถนนเส้นหนึ่งที่รถติดมากๆ และแอชตัน อโศกมีเข้าออกทางเดียวจากถนนอโศกมนตรีเท่านั้น วันไหนการจราจรติดขัด ไม่อยากขับรถก็แนะนำเดินขึ้นรถไฟฟ้าที่หน้าโครงการเลยดีที่สุดค่ะ
ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต
แยกอโศกเป็นย่าน CBD ใจกลางเมืองอยู่แล้ว สิ่งอำนวยความสะดวกจึงมีครบถ้วน และอุดมสมบูรณ์ และปีหลังๆ มานี้มีคอนโดระดับ Super Luxury มาเปิดใหม่อีกหลายโครงการ ทำให้ตั้งแต่แยกอโศกถึงแยกเพชรบุรีจะกลายเป็นแหล่งคอนโดระดับ Premium แน่นอน และราคาห้องที่นับวันมีแต่จะสูงขึ้นเรื่อยๆ เป็นตลาดที่เล่นได้ทั้งการซื้ออยู่อาศัยจริง และตลาดสำหรับคนที่เก็งกำไรเก็บเป็นสินทรัพย์เอาไว้ อนาคตบริเวณแยกอโศกยังไม่มีข่าวคราวโครงการใหม่ แต่แยกเพชรบุรีจะมี Singha Complex อาคาร Mix Used ซึ่งเป็นทั้งศูนย์การค้า, อาคารสำนักงาน, โรงแรมและคอนโด ซึ่งก็น่าจะช่วยดันให้ย่านนี้ยิ่งมีมูลค่าเพิ่มขึ้นไปอีกค่ะ
ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ
คอนโด Ashton Asoke ออกแบบโดยบริษัท A49 ตัวอาคารดีไซน์ออกมารูปทรงเรียบง่าย ตัวอาคารเป็นสีน้ำเงินเข้ม ดูขรึมๆ เท่ๆ แต่แปลกตาด้วยขอบอาคารที่โค้งมน จนเป็นจุดเด่นของคอนโดแห่งนี้ และทำให้มีจุดขายเป็นห้องพักอาศัยที่จะได้กระจกมุมโค้ง มองเห็นวิวได้เต็มตาค่ะ แปลนห้องพักอาศัยจะตรงกันทุกชั้น รูปด้านจะเป็น pattern เดียวกันทุกชั้นเหมือนกันหมด แต่ได้เอาจัดส่วนกลางชั้น 35, 35M คั่นอยู่ด้านบนอาคาร สเปซตรงจุดนั้นเลยกลายเป็นจุดเด่นของตัวงานสถาปัตยกรรมอีก 1 จุด ช่วยเบรกสายตาเวลามองอาคารไม่ให้เลี่ยนและลายตาจนเกินไป นอกจากนี้และแต่ละห้องพักอาศัยจะได้หน้าต่างบานเลื่อนนอกระเบียงอีกที สามารถเปิดหรือปิดเพื่อให้ระเบียงเป็น Indoor หรือ Out-Door ก็ได้ ทำให้ Facade จะมี Dynamic เปลี่ยนรูปแบบการเปิดปิดตามการใช้งานของคนอยู่อาศัยที่เปิดปิดสลับกันไปทุกวัน ส่วนภายในใกล้โถงลิฟต์ก็จัดกลุ่มทุก 5 ชั้น มี Atrium ปลูกต้นไม้ภายในอาคารด้วย
ตัวคอนโด Ashton Asoke วางอาคารในแนวเหนือ-ใต้ แบบทำองศากับทิศเล็กน้อย ซึ่งถูกบังคับด้วยรูปร่างที่ดิน ห้องส่วนใหญ่จะหันเข้าทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ฝั่งทิศตะวันออกหันเข้าถนนอโศกมนตรีมองเห็นตึกฝั่งตรงข้าม ส่วนทิศตะวันตกจะหันเข้าสุขุมวิทซอย 19 ทิศเหนือจะมีห้องแบบ 2 ห้องนอน ตรงหัวมุม และได้กระจกโค้งเข้ามุม ห้องที่ prime สุดจะเป็น 2 ห้องนอน ขนาด 64 ตร.ม. ที่จะได้หน้าต่างยาวเต็มความกว้างของห้อง รับวิว 270 องศา ซึ่งวิวที่ได้ก็จะเป็นแยกอโศก, BTS อโศก, Terminal 21 และโรงแรม Grand Center Point Termianal 21 ที่อยู่เยื้องๆ กัน ซึ่งก็ถือว่ามีอาคารมาบังวิวน้อยแล้วนะ หากอยากได้วิวเคลียร์ๆ โล่งแบบ 270 องศา ก็ต้องเลือกซื้อที่ความสูงชั้นบนๆ ขึ้นไปหล่ะค่ะ
ห้องพักของ Ashton อโศก มีให้เลือก 4 แบบคือ 1 ห้องนอนขนาด 30 และ 34 ตร.ม., 2 ห้องนอน 46 ตร.ม. และ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 64 ตร.ม. ซึ่งแต่ละห้องก็จัดออกมาได้ลงตัวดี อาจจะมีจุดติในเรื่องของสเปซบางจุดที่แคบไปบ้าง แต่ไม่ถึงกับเป็นสาระสำคัญมาก ส่วนพื้นที่ pantry เป็นเป็นครัวเปิดเหมือนกันทุกห้อง การใช้งานก็เน้นการเตรียมอาหารเล็กๆ น้อยๆ ไม่ได้เน้นทำอาหารจริงจัง ห้องส่วนใหญ่ในโครงการเน้นไปที่แบบ 34 ตร.ม. ประตูกั้นห้องนอนและห้องนั่งเล่นจะเป็นบานเลื่อนขนาดใหญ่สามารถเปิดพื้นที่เชื่อมการใช้งาน และทำให้ห้องโล่งขึ้นได้ ส่วนแบบ 2 ห้องนอน ทั้ง 46, 64 ตร.ม. พอมีขนาดเยอะ ก็จัดพื้นที่ใช้สอยห้องออกมาได้โอเคค่ะ
ด้านวัสดุ Ashton Asoke นั้นได้ห้องแบบ Partly Fitted พื้นห้องปู Engineering Wood คุณภาพดี, ผนังฉาบเรียบทาสีขาว, ฝ้าฉาบเรียบมี Drop รางม่านให้, เครื่องปรับอากาศแบบฝังฝ้า, แถมผ้าม่านโปร่งสีขาว, ชุดสุขภัณฑ์ครบ ยี่ห้อ Kohler, ในห้องน้ำจัดว่าดูหรูหราดี มีเพียงเคาน์เตอร์ pantry ครัวที่วัสดุดูจะเหมือนคอนโดปานกลางไปหน่อยค่ะ
ด้านพื้นที่ส่วนกลางนั้นให้มาเยอะพอสมควร ตกแต่งสวยงามดี ได้บรรยากาศเหมือนกับอยู่ในโรงแรม ส่วนใหญ่อยู่ที่ชั้น 35, 35M ประกอบไปด้วย สระว่ายน้ำระบบเกลือ สระผู้ใหญ่ ยาว 38 เมตร สระเด็กยาว 15 เมตร แยกออกมาต่างหาก, มี Jacuzzi, Sauna Room, Fitness, Social Club, Library ส่วนชั้นอื่นๆ จะเป็นสวนสาธารณะ มีที่ชั้นล่างสุด, สวนชั้น 47 และสวนชั้นหลังคาค่ะ
เรื่องสัดส่วนการใช้ลิฟต์ มี 6 ตัว แบ่งเป็น Low Zone 3 ตัว, High Zone 3 ตัว สัดส่วน 168 และ 93 ห้องต่อลิฟต์ 1 ตัว ตามลำดับ Low Zone ถือว่าหนาแน่นปานกลาง ส่วน High Zone จัดว่าสัดส่วนดีมาก ส่วนที่จอดรถ จอดได้ 371 คัน ไม่รวมจอดซ้อนคันค่ะ
Score Summary
สำหรับคะแนนสรุปสำหรับคอนโด Ashton อโศก นั้น เราไม่ได้สรุปคะแนนในเชิงความคุ้มค่าให้เหมือนกับรีวิวอื่นๆ นะคะ เพราะว่าเป็นคอนโดระดับ Super Luxury ที่มี Emotional เข้ามาเกี่ยวข้องในการตัดสินใจซื้อ ซึ่งวัดเป็นตัวเงินไม่ได้ แต่บอกได้เลยว่าทำเลดีงาม เหมาะกับคนที่มีเงินเหลือ อยากอยู่ใจกลางเมืองจริงๆ หรือซื้อไว้เก็งกำไรในอนาคตก็ได้ค่ะ
ทุกท่านสามารถสนับสนุนให้อยู่สบายสามารถทำรีวิวออกมาได้เรื่อยๆค่ะ เพียงแค่เวลาไปดูโครงการบ้านและคอนโดที่ต่างๆ เพียงช่วยระบุในแบบสอบถามของโครงการว่า ”อยู่สบาย.com” เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ท่านติดตามอ่านอยู่ เวลาทางทีมงานขออนุญาตโครงการต่างๆเข้าไปทำรีวิวจะได้ทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นค่ะ (^_____^)
ถ้าหากว่ารีวิวของเรามีประโยชน์ ช่วยกด Like ด้านล่างสำหรับกำลังใจในการทำรีวิวของทีมงานด้วยนะคะ